Sunday, 18 May 2025
SPECIAL

ฉะเชิงเทรา - นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานมอบป้ายโครงการบ้านพอเพียง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกอบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานมอบป้ายงบประมาณบ้านพอเพียงซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)


โดยมีนางสาวสุมล ยางสูง ผู้อำนวยการภาคกรุงเทพ ปริมณฑล และตะวันออก สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) นายธนวัฒน์ เกตุงาม ผู้ประสานขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา นายเอกชัย สุวรรณงาม ประธานสภาองค์กรชุมชนโซนเศรษฐกิจ นายกฤษณะ ศรีมณฑา ประธานสภาองค์กรชุมชนโซนเมือง / ผู้ประสานงานโครงการบ้านพอเพียงจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับและร่วมเป็นวิทยากร ตามที่ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินการเปิดรับให้พื้นที่สภาองค์กรชุมชนตำบลต่างๆในจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดทำแผนพัฒนาพื้นที่ตำบล และจัดทำโครงการเพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเสริมหนุนการสร้างความเข้มแข็งขององค์กรชุมชนในพื้นที่ระดับตำบล

วิสัยโลกจะต้องมีรัก แต่ให้มีสติควบคุมใจ มิให้ความรักมีอำนาจเหนือสติ

วิสัยโลกจะต้องมีรัก

แต่ให้มีสติควบคุมใจ

มิให้ความรักมีอำนาจเหนือสติ

- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก -
 

ตำรวจ PCT ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ “ไพลิน” พบเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท!!

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.​ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ , พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. และ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมการพนันออนไลน์เครือข่าย “ไพลิน” การพนันกำถั่วออนไลน์ มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25 ธ.ค.64  - 3 ม.ค.65 เพราะเป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้าน และมีการสังสรรค์ เกรงจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจากผลการระดมกวาดล้าง สามารถจับกุมการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทั้งสิ้น จำนวน 3,634 ราย

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้มอบให้ พล.ต.ต.สันติฯ รอง ผบช.ก. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 ทำการสืบสวนจนทราบว่า  เครือข่าย”ไพลิน” ได้ลักลอบเปิด ให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปรวมทั้งเด็กและเยาวชนเข้าเล่นพนันอย่างเปิดเผย ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ชนิดต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT จึงได้ขอหมายค้นจากศาลเข้าทําการตรวจค้นสถานที่ซึ่ง เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดจํานวน 1 จุด ณ บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหา จํานวน 8 คน ดังต่อไปนี้
1. นายพัชรพงษ์ สงวนนามสกุล

2. นางสาววีนา สงวนนามสกุล

3. นางสาวภัสสราณัฐ สงวนนามสกุล

4. นางสาววิไลพร สงวนนามสกุล

5. นางสาวสุภัคกรณ์ สงวนนามสกุล

6. นางสาวสุชาวรรณ สงวนนามสกุล

7. นางสาวสุรภา สงวนนามสกุล

8. นางสาวรัญชนา สงวนนามสกุล

ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีที่ จ.331-338/2564 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 64 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทําอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเลน่ซึ่ง มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”

จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเครือข่ายการพนันนี้ได้มีการจัดให้เล่นพนันผ่านแอปพลิเคชั่น ไลน์ ( LINE ) โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ประเภท “กําถั่ว” โดย Line Official ชื่อ ไพลิน ( @pailin100 ) มีสมาชิกกว่า 3,000 คน โดยลักลอบเปิดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์มาตั้งแต่เมื่อประมาณเดือน พ.ค.64 โดยมียอดเงินหมุนเวียนกว่าเดือนละ 300 ล้านบาท ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจาก การกระทําความผิดจากการจัดให้มีการเล่นพนันดังกล่าวและอายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
1.จอคอมพิวเตอร์ จํานวน 5 จอ

2. ซีพียูคอมพิวเตอร์ จํานวน 5 เครื่อง

3. โทรศัพท์มือถือและแทปเล็ต จํานวน 9 เครื่อง

4.กล้องถ่ายและอุปกรณไ์ลฟ์สดขณะนําเล่น(WEBCAM)จํานวน 2 ตัว

5. กล้องไอพี จํานวน 1 ตัว

6. อินเตอร์เน็ตเราท์เตอร์ จํานวน 2 เครื่อง

7.อุปกรณ์และเครื่องประกอบในการเล่นการพนันประเภท“กําถั่ว”จํานวน 154 รายการ

8. เอกสารบัญชีรายรับ - รายจ่ายในการเล่น จํานวน 57 ชุด

9. บัญชีธนาคารกสิกรไทย จํานวน 8 บัญชี

‘อ้วน’ ไม่หนักหัวใคร…แต่เสี่ยงภัยโควิด!!

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย จะเห็นได้ว่าผู้ที่มีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อและเสียชีวิตนั้น ส่วนใหญ่มักจะมี “โรคอ้วน” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยมีรายงานว่า คนอ้วนมีโอกาสเข้าโรงพยาบาลจากการติดเชื้อได้มากกว่าคนผอมถึงร้อยละ 113 นอกจากนี้คนอ้วนยังมีอัตราการเข้ารับการรักษาใน ICU สูงกว่าคนผอมถึงร้อยละ 74 และคนอ้วนพบอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มากกว่าคนผอมถึงร้อยละ 48

ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสถิติชี้ว่าประเทศไทยมีประชากรที่เป็น “โรคอ้วน” เป็นอันดับสอง รองจากประเทศมาเลเซีย โดยในปี พ.ศ. 2559 มีจำนวนประชากรคนอ้วนสูงถึงร้อยละ 35 คิดเป็นเพศหญิงร้อยละ 38 และเพศชายร้อยละ 31 แต่สิ่งที่น่ากังวลคือในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเด็กและวัยรุ่นไทยเป็นโรคอ้วน เพิ่มมากขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดโรคอ้วนมีหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม อายุ ฮอร์โมน โรคประจำตัวและยาที่รับประทาน พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การ work from home เป็นระยะเวลานาน พฤติกรรม การรับประทานอาหาร การทำกิจกรรมทางกายต่าง ๆ ความเครียด การนอนหลับ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้ ประสบการณ์ และสื่อต่าง ๆ เป็นต้น

>> โรคอ้วน หรือ ภาวะน้ำหนักเกิน คืออะไร?
ภาวะที่มีน้ำหนักตัวเกินกว่ากำหนดเมื่อเปรียบเทียบกับความสูง โดยการคำนวณ ดัชนีมวลกาย (Body mass index หรือ BMI) โดยนำน้ำหนัก (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วยความสูงยกกำลังสอง (หน่วยเป็นเมตร2) เช่น น้ำหนัก 65 กิโลกรัม ความสูง 165 เซนติเมตร จะได้ BMI = 65 / (1.65 x 1.65) = 23.9 kg/m2 

โดยค่า BMI ปกติอยู่ระหว่าง 18.5-24.9 kg/m2 หาก BMI น้อยกว่า 18.5 kg/m2 ถือว่าน้อยกว่าเกณฑ์ หาก BMI ระหว่าง 25-29.9 kg/m2 ถือว่าน้ำหนักเกิน แต่หาก BMI มากกว่า 30 kg/m2 ขึ้นไปถือว่าเป็นโรคอ้วน

นอกจากนี้การวัดเส้นรอบเอว (ระดับสะดือ) สามารถประเมินภาวะอ้วนลงพุงหรือความเสี่ยงต่อไขมันในช่องท้องมากเกินไป โดยเพศชายควรมีเส้นรอบเอวน้อยกว่า 90 เซนติเมตร และเพศหญิงน้อยกว่า 80 เซนติเมตร หากเส้นรอบเอวมากเกินกว่าค่าดังกล่าวทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ สูงขึ้นเช่นกัน

>> โรคอ้วนกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 
ผู้ที่เป็นโรคอ้วนลงพุง ไขมันภายในช่องท้องจะดันกล้ามเนื้อกะบังลมขึ้นไปในทรวงอกมากขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อกะบังลมทำงานได้ไม่เต็มที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ปริมาตรของอากาศเข้าสู่ปอดน้อยลง กล้ามเนื้อหายใจต้องออกแรงเพิ่มมากขึ้น การแลกเปลี่ยนของออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง หลอดลมตีบแคบ ถุงลมของปอดส่วนล่างอาจแฟบ เกิดภาวะออกซิเจนต่ำโดยเฉพาะเวลานอนหงาย

นอกจากนี้ไขมันยังส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลงและมีการอักเสบเรื้อรังเพิ่มขึ้น เมื่อคนอ้วนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เชื้อไวรัสจะแบ่งตัวในระบบทางเดินหายใจมากกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ เกิดการอักเสบของปอดมากขึ้น พบการทำลายของเนื้อปอดมากกว่าคนที่มีน้ำหนักปกติ เนื่องจากความจุของปอดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจลดลง เกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอด ทำให้ระบบหายใจล้มเหลวจนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติ 

ติวเข้ม!! ชุดปฏิบัติการต้าน IUU ลุยทันที แยกน้ำดี - น้ำเสีย ไร้ Double Standard ไม่เว้นเจ้าหน้าที่รัฐ

หลังจากสหภาพยุโรปประกาศปลดใบเหลือง IUU ให้กับประเทศไทย รัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย

ในการยกระดับให้ประเทศไทยเป็นผู้นำต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU) ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเป็นประเทศปลอดการประมง IUU ทั้งระบบ(IUU-Free) ซึ่งสอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานบังคับ รวมถึงการค้ามนุษย์ในภาคประมง ตามที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว นั้น

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำประมงไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อขับเคลื่อนนโยบายข้างต้นให้บรรลุเป้าหมาย โดยบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร และกระทรวงแรงงาน

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการ              ตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร./รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการตรวจสอบและปราบปรามกรณีดังกล่าว รวมทั้งจัดให้มีการฝึกอบรมความรู้ทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาการประมง สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในวันที่ 7 มกราคม 2565 นี้ จึงได้ร่วมกับนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง จัดให้มีการประชุมเพื่อชี้แจงกฎหมายเกี่ยวกับการประมง และการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม(IUU) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการด้านการประมงฯ และเจ้าหน้าที่สืบสวน ศพดส.ตร. ได้มีความรู้ความเข้าใจถึงตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเป็นมาของปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม(IUU) ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขปัญหา เพื่อยกระดับการต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย

การทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) เป็นปัญหาระดับโลกซึ่งรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยออกพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ประเทศไทยในฐานะส่วนหนึ่งของประชาคมโลกจึงมีความรับผิดชอบ 4 ด้าน ประกอบด้วย

1) ความรับผิดชอบในฐานะรัฐเจ้าของธงเรือ (Flag State)

2) ความรับผิดชอบในฐานะรัฐเจ้าของท่าเทียบเรือ (Port State)

3) ความรับผิดชอบในฐานะรัฐชายฝั่ง (Coastal State)

4) ความรับผิดชอบในฐานะรัฐเจ้าของตลาด (Market State)

ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการประชุมเพิ่มความเชี่ยวชาญให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ เช่น ที่มาและเนื้อหาของกฎหมาย กระบวนการทำงานควบคุมตรวจสอบเรือประมง ขนถ่ายสัตว์น้ำ และการนำเข้าส่งออกสินค้าประมงตลอดจนกระบวนการดำเนินคดีต่าง ๆ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “การทำงานครั้งนี้เป็นการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานด้านการตรวจติดตาม ควบคุม เฝ้าระวัง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการต่อต้านประมง IUU ในภูมิภาคและปลอดการทำประมง IUU ทั้งระบบ นอกจากนั้นยังมีความเชื่อมโยงกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่มีความสลับซับซ้อน มีเครือข่ายข้ามชาติ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจึงต้องมีความรอบรู้ในกฎหมายต่าง ๆ อย่างสัมพันธ์กัน เพราะการกระทำความผิดในปัจจุบันไม่อาจบังคับใช้ได้โดยกฎหมายใดกฎหมายหนึ่ง และเพื่อให้เห็นผลการทำงานเป็นรูปธรรมในระยะเวลาอันรวดเร็ว จึงได้แบ่งการทำงานเป็น 4 ชุดปฏิบัติการ ประกอบด้วย

1) ชุดปฏิบัติการด้านการตรวจสอบเพิ่มประสิทธิภาพด่านตรวจประมง มี รศ.ธนพร ศรียากูล กรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ และมีพล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.อธ. เป็นรองหัวหน้าชุด ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมาย และเสนอแนะแนวทางปฏิบัติต่อหน่วยงานต่าง ๆ ในการตรวจติดตาม ควบคุมเฝ้าระวัง ของด่านตรวจประมงทุกแห่ง

2) ชุดปฏิบัติการด้านการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์แจ้งเข้าออกเรือประมง (PIPO) มี พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภาค ๑ เป็นหัวหน้าชุด ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมาย และเสนอแนะแนวทางปฏิบัติต่อหน่วยงานต่าง ๆ ในการตรวจติดตาม ควบคุม เฝ้าระวัง ของศูนย์แจ้งเข้าออกเรือประมง (PIPO) ทุกแห่ง

3) ชุดปฏิบัติการด้านการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจกลางทะเล มี ผู้แทนศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นหัวหน้าชุด และ พ.ต.อ.ชณพล วันขวัญ รอง ผบก.รน. เป็นรองหัวหน้าชุด ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมายในพื้นที่ทะเลทั้งเขตชายฝั่งและนอกเขตชายฝั่ง

4) ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว มี พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. เป็นหัวหน้าชุด และ พล.ต.ต.สุทธิพงษ์เพชรรัตน์ ผบก.บ.ตร. เป็นรองหัวหน้าชุด ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดตามกฎหมายกรณีเร่งด่วน และสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับชุดปฏิบัติการที่ 1 - 3

‘Project Bojinka’ แผนสังหาร! ‘พระสันตะปาปา’ และระเบิดเครื่องบินโดยสาร 11 ลำ

6 มกราคม พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นำไปสู่การค้นพบแผนการก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า “Project Bojinka” ซึ่งถือเป็นแผนการที่ทดลองซ้อมการก่อเหตุ ก่อนเหตุวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544

Project Bojinka เป็นแผนสังหารพระสันตะปาปา John Pal ที่ 2 พร้อมกับสร้างความตื่นกลัวให้ธุรกิจการบินทั่วโลกด้วยการระเบิดเครื่องบินโดยสารที่เดินทางระหว่างเอเชียและสหรัฐฯ พร้อมกันถึง 11 ลำ และขั้นตอนสุดท้ายของแผนนี้คือ การส่งเครื่องบินเล็กพร้อมระเบิดเต็มลำถล่มสำนักงานใหญ่ CIA โดยกลุ่ม Al Qaeda ที่ Bin Laden เป็นผู้นำ

พระสันตะปาปา John Pal ที่ 2 ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ครั้งแรก เมื่อ ค.ศ.1981 ซึ่งขณะนั้นอดีตประธานาธิบดี Ferdinand Marcos ยังอยู่ในอำนาจ

พระสันตะปาปา John Pal ที่ 2 ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ครั้งที่สอง เมื่อ ค.ศ.1995 อดีตประธานาธิบดี Fidel V. Ramos (ประธานาธิบดีในขณะนั้น) เชิญเสด็จตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ

>> 1.) แผนสังหารพระสันตะปาปา John Pal ที่ 2 ซึ่งผู้ก่อการวางแผนจะสังหารพระสันตะปาปา ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2538 (ค.ศ.1995)

>> 2.) ระเบิดเครื่องบินโดยสารที่เดินทางระหว่างเอเชียและสหรัฐฯ พร้อมกัน 11 ลำ เพื่อสร้างความตื่นกลัวและผลกระทบทางลบอย่างรุนแรงแก่ธุรกิจการบินทั่วโลก (ประมาณการว่า หากทำการสำเร็จยอดผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่ราว 4,000 คน) ประกอบด้วย

- เที่ยวบินจากกรุงโตเกียวไปสหรัฐฯ จำนวน 4 เที่ยวบิน 
- เที่ยวบินจากกรุงโซลไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน 
- เที่ยวบินจากกรุงไทเปไปสหรัฐฯ จำนวน 3 เที่ยวบิน 
- เที่ยวบินจากกรุงไทเปไปกรุงเทพฯ และต่อไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน 
- เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน
- เที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน

** สำนักงานใหญ่ CIA Fairfax County มลรัฐ Verginia

>> 3.) ส่งเครื่องบินพร้อมระเบิดเต็มลำถล่มสำนักงานใหญ่ CIA

Project Bojinka เป็นแผนที่ผู้ช่วยคนสำคัญของ บิน ลาเดน คือ รัมซี ยูเซฟ และคาลิก ชีค โมฮัมเหม็ด ร่วมกันคิดและก่อการ แต่ผลของแผนการนี้คือ การทดสอบโดย รัมซี ยูเซฟ เอง ซึ่งทำให้เกิดไฟไหม้ในเที่ยวบิน 434 ของ Philippine Airlines ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 10 ราย โดย รัมซี ยูเซฟ เดินทางโดยเที่ยวบินในประเทศจาก มะนิลา ไป เซบู ซ่อนระเบิดในกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัว แบตเตอรี่ และตัวจุดชนวนในส้นรองเท้า และใช้นาฬิกาข้อมือดิจิทัลซึ่งตั้งเวลาไว้ 4 ชั่วโมง เป็นตัวจุดชนวน ก่อนจะซ่อนไว้ในเสื้อชูชีพใต้ที่นั่งหมายเลข 26K หลังจากเครื่องลงจอดที่สนามบินเซบู และ รัมซี ยูเซฟ ออกจากเครื่องบินแล้ว นักธุรกิจเกี่ยวกับจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมชาวญี่ปุ่น ฮารุกิ อาเมกามิ (Haruki Ikegami) อายุ 24 ปีก็เข้ามานั่งแทนที่ ซึ่งเครื่องบินเกิดความล่าช้าราว 38 นาที แล้วจึงออกบินไปยังกรุงโตเกียว 

การระเบิดทำให้ ฮารุกิ บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้โดยสารในที่นั่งใกล้เคียงบาดเจ็บ 10 คน แต่กัปตัน Eduardo "Ed" Reyes นักบินสามารถนำเครื่องลงฉุกเฉินที่สนามบินนาฮา เกาะโอกินาวา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดระเบิดไปทางตะวันตกราว 74 กิโลเมตรได้อย่างปลอดภัย

สภาพห้องโดยสารหลังเกิดเหตุระเบิดในเหตุการณ์ดังกล่าว

เครื่องบิน Boeing 747-200 ลำดังกล่าวของ Philippine Airlines

กัปตัน Eduardo "Ed" Reyes นักบินผู้สามารถนำเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย

แผนการของยูซุฟคือ ทำระเบิดด้วยการบรรจุ Nitroglycerin ลงในขวดน้ำยาล้าง Contact Len จำนวน 14 ขวด (ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทุกสายการบินห้ามนำขวดบรรจุน้ำหรือของเหลวขึ้นเครื่องจนทุกวันนี้) ส่วนผสมอื่น ๆ ได้แก่ nitrate, sulfuric acid, และ nitrobenzene, silver azide (silver trinitride), และ acetone เหลว 9-volt batteries 2 ก้อนในระเบิดแต่ละลูกเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน ใช้นาฬิกาดิจิทัลเป็นตัวตั้งเวลาจุดระเบิด

สำหรับการลอบสังหารพระสันตะปาปา John Pal ที่ 2 ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ครั้งที่สอง แผนคือ ให้มือระเบิดฆ่าตัวตายแต่งตัวเป็นพระคาทอลิก เมื่อสบโอกาสอยู่ใกล้พระสันตะปาปาก็กดระเบิดทันที โดยยูซุฟฝึกมือระเบิดไว้ราว 20 คน

ส่วนการส่งเครื่องบินเล็กพร้อมระเบิดเต็มลำถล่มสำนักงานใหญ่ CIA นั้น มีแผนที่จะซื้อหรือจี้เครื่องบินเล็กโดยเฉพาะแบบ Cessna เพื่อบรรทุกระเบิดเต็มลำเพื่อใช้บินโจมตีสำนักงานใหญ่ CIA ด้วยนักบินพลีชีพที่ได้รับการฝึกในมลรัฐ North Carolina 
 

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เปิดยุทธการ!สู้ศึกโอไมครอน ฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามสถานศึกษา เพื่อรับการเปิดเรียน

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่โรงเรียนปทุมวิไล ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายณเรศ คุชิตา ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเขตอำเภอเมืองปทุมธานี ร่วมเปิดยุทธการฉีดพ่นฆ่าเชื้อสู่ศึกโอไมครอน ปล่อยรถฉีดพ่นและเจ้าหน้าที่ชุดฉีดพ่นในอาคาร เพื่อฉีดพ่นฆ่าเชื้อสร้างความมั่นใจให้นักเรียนและผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนภายในสถานศึกษา ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ประสาน ผอ.โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีอยู่ตลอดเวลา ในการเตรียมเปิดเรียนของโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว

โดยทาง อบจ.ปทุมธานีได้นำทีมฉีดพ่นฆ่าเชื้อเข้ามาฉีดพ่นภายในอาคารและภายนอกอาคาร รวมถึงใครที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็มีการฉีดวัคซีนให้สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีด เราอยากให้นักเรียนลูกหลานเราได้กลับมาเรียนตามปกติให้เร็วที่สุด เราก็เชื่อว่าที่เราทำมาทั้งหมดจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี ขอให้ทาง ผอ.โรงเรียนดูระเบียบกฎต่าง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข เราอย่าทำให้ผิดกฎของกระทรวงฯ ที่ได้กำหนดไว้ หากมีการแพร่ระบาดจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่ก็จะเป็นเกิดการเสียหายในภาพรวม จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันระมัดระวังต่อไป

ในส่วนของชุดตรวจ ATK ทาง อบจ.ได้พยายามจัดหามาให้ ซึ่งเป็นชุดตรวจที่มีคุณภาพมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยต้องป้องกันตัวเองตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ใส่แมสก์ ล้างมือ เว้นระยะห่าง ระมัดระวังทั้งที่อยู่ที่โรงเรียนและอยู่บ้าน ทาง อบจ.ได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวปทุมธานีระมัดระวังกันทั้งจังหวัด โดยผมหวังอย่างยิ่งต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ และต่อสู้ผ่านสงครามครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัยทั้งจังหวัด

 

ตราด - ‘กองทัพเรือ’ โดยทัพเรือภาคที่ 1 เลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน - อุปกรณ์กีฬา และของขวัญวันเด็ก

กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียนเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ตามโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ภายใต้แนวคิดคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2565 “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”

โดยวันที่ 5 มกราคม 2565 ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 นำโดยนาวาเอก ปฏิรูป  อยู่พรหม ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียนบ้านเนินดินแดง อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด โดยมี ครู และ นักเรียนโรงเรียนบ้านเนินดินแดงให้การต้อนรับ

และวันเดียวกัน ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง นำโดย นาวาโท พงษ์กาญจน์  กฤตินันท์ หัวหน้าศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง ร่วมกับชุมชนสลักคอก จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียน วัดวัชคามคชทวีป อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยมี ครู และ นักเรียนโรงเรียนวัดวัชคามชคทวีป ให้การต้อนรับ

และในวันที่ 6 มกราคม 2565 ทัพเรือภาคที่ 1 นำโดย นาวาเอก วีระชัย บุญมาก ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญ ให้แก่เด็กนักเรียน และทำความสะอาดโรงเรียนเกล็ดแก้ว ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี ครู และ นักเรียนโรงเรียนวัดวัชคามชคทวีป ให้การต้อนรับ

ถึงแม้ในปีนี้ จะไม่มีการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ในรูปแบบของการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ การแสดงทางทหารของหน่วยงานในพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ งดการรวมตัวกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่การจัดกิจกรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ในรูปแบบของการเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และของขวัญนั้น เป็นการจัดกิจกรรมที่มีรูปแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กนักเรียน คุณครู และกำลังพลในสังกัดเป็นหลัก มีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส COVI-19 อย่างเคร่งครัด  เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19

 

กาฬสินธุ์ - ชาวนาพอใจ เงินประกันรายได้ภาพรวมถึงมือแล้ว 3,600 ล้าน

ชาวนาจังหวัดกาฬสินธุ์ พอใจเงินประกันรายได้ทำนา และเงินค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตข้าว ฤดูกาลผลิต 2564/65 ที่รัฐบาลจัดให้ ช่วยลดต้นทุนการผลิต มีเงินใช้จ่ายในการครองชีพช่วงสถานการณ์โควิด และมีเงินทุนทำนาปรัง อยากให้มีโครงการนี้ตลอดไป ในขณะที่เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยภาพรวม รัฐโอนถึงมือชาวนาแล้ว 9 งวดเม็ดเงิน 3,678,654,188 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงฤดูแล้งและสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่าในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว เริ่มลงมือเพาะปลูกข้าวนาปรังกันแล้ว หลังทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ได้ระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้ราคาขายข้าวเปลือกนาปีที่ผ่านมาจะตกต่ำ โดยเริ่มต้นเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ชาวนาหลายคนถอดใจไม่อยากทำนา เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน  แต่วันนี้ชาวนากลับมาทำนาด้วยความหวังใหม่อีกครั้ง  ทั้งนี้เป็นผลพวงจากการได้รับเงินส่วนต่าง หรือเงินประกันรายได้ รวมทั้งยังได้รับเงินค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 1,000 บาท เป็นรายได้ 2 ต่อหลังจากขายข้าวเปลือกขาดทุนอีกด้วย

นายพงษ์ศักดิ์ ชินคีรี เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนโครงการที่รัฐบาลมอบให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฤดูกาลผลิต 2564/65 มี 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องปีที่ 3 คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเงินส่วนต่าง และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเงินค่าเก็บเกี่ยว  ซึ่งเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวไว้และผ่านการรับรอง จำนวน 153,884 ครัวเรือน 265,859 แปลง เนื้อที่ 1,558,244.46 ไร่ ผ่านการรับรองและได้รับการช่วยเหลือ ตัดยอดล่าสุด 9 งวด (4 ม.ค.65) จำนวน 153,544 ครัวเรือน 264,997 แปลง เนื้อที่ 1,553,351.34 ไร่

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ผลการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2,272,155,530 บาท ขณะที่ผลการโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวน 1,406,498,618 บาท รวมจำนวน 3,678,654,188 ล้านบาท โดยยังเหลือที่จะโอนให้อีก 2 งวด รวมที่รัฐบาลจะจัดโอนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้ง 2 โครงการทั้งหมด 11 งวด ทั้งนี้ เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในการลดต้นทุนการผลิต มีเงินใช้จ่ายในการอุปโภค บริโภคในครัวเรือน ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับความพึงพอใจ 100%

ด้านนายประเสริฐ ภูสิงหา อายุ 55 ปี ชาวนาบ้านหนองบัวหน่วย อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 16 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ตนที่พื้นที่ทำนา 19 ไร่ ขายผลผลิตข้าวนาปีได้กิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งขาดทุน เนื่องจากค่าปุ๋ยเคมี ค่าเก็บเกี่ยวสูงมาก จนคิดว่าในฤดูแล้งนี้ไม่อยากจะทำนาปรัง เพราะทำไปก็ขาดทุนซ้ำซาก แต่พอทางรัฐบาลจัดเงินส่วนต่างและค่าเก็บเกี่ยวให้ โดยโอนผ่าน ธ.ก.ส.ครอบครัวตนได้เกือบ  30,000 บาท ทำให้พอมีเงินใช้หนี้ปุ๋ยเคมี และชดเชยค่ารถเกี่ยวข้าว ทั้งมีเหลือพอใช้จ่ายในครัวเรือนบ้างจึงมีกำลังใจที่จะทำนาต่อไป ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลมีโครงการดี ๆ นี้ต่อเนื่องตลอดไป

 

ตรัง - ‘รมว.พิพัฒน์’ มอบบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกุล) และคณะลงพื้นที่บ้านโคกทราย หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เพื่อเป็นประธานในพิธีมอบบ้านให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก ทั้งยังได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 40 ทุน ผ้าห่มจำนวน 250 ชุด และ เครื่องครัว เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจให้แก่ชาวบ้านผู้ประสบภัย โดยมีนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ

รมว.พิพัฒน์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาบรรทัด เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ช่วงเวลา 02.30 น. ที่ผ่านมานั้น สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนในตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จำนวน 254 ครัวเรือน ในพื้นที่หมู่ที่ 1,4,5,6,7 พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายรวม 74 ไร่ โดยเฉพาะหมู่ที่ 4 บ้านโคกทราย มีผู้เสียชีวิต 1 คน ทรัพย์สิน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยงานต่าง ๆ เช่น จังหวัดตรัง กองทัพภาคที่ 4 ส่วนราชการต่างๆ รวมถึงภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ได้ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา อาทิ ขนย้ายสิ่งของ ทำความสะอาด ประกอบอาหาร นำเครื่องจักรมาปรับพื้นที่ กิจกรรมจิตอาสา ซ่อมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย โดยมีการก่อสร้างบ้านใหม่ให้ประชาชน จำนวน 5 หลัง และปรับปรุง 7 หลัง โดยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างจำนวน 20 วัน สร้างความปลื้มปิติแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

 

สตูล - เจ้าหน้าที่ยังเดินหน้าค้นหาร่างเด็กชาย 9 ขวบ พลัดตกน้ำในคลองลำโลน สูญหาย 4 วันยังไม่พบ!!

วันนี้ 6 มกราคม 2565 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.จังหวัดสตูล เขต 2 พร้อมด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะหลีเป๊ะ/สถานีเรือละงู จัดกำลังพลพร้อมเรือยาง ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษ นก.กมต.ศรชล.ภาค 3 และมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรจังหวัดสตูล ร่วมกันทำการค้นหาร่างของ ด.ช.พงศพัศ ขำกิ้ม อายุ 9 ปี ที่ประสบเหตุพลัดลื่นตกน้ำสูญหาย เป็นวันที่ 3 โดยดำเนินการดำน้ำค้นหาบริเวณจุดที่คาดว่าผู้สูญหายอาจจะติดอยู่กับโขดหินหรือรากไม้ที่อยู่ใต้น้ำ และลาดตระเวนทางเรือค้นหาผิวน้ำ บ้านวังใน ต.น้ำผุด อ.ละงู จังหวัดสตูล ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง และมีความขุ่น มองเห็นได้เพียงระยะใกล้ ประกอบกับใต้น้ำมีรากไม่และโขดหินจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อทีมงานในการค้นหาอย่างมาก อย่างไรก็ตามทีมค้นหาได้ดำเนินการค้นหาจนถึงเวลาประมาณ 17.30 น. ยังไม่พบผู้สูญหาย จึงได้ยุติการค้นหา และจะดำเนินการค้นหาต่อไปในวันนี้

 

"ตำรวจ PCT” แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 จับกุม ผู้ต้องหากว่า 3,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท!!

วันนี้ (6 ม.ค. 65) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.​ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท.,พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั่วประเทศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25 ธ.ค.64  - 3 ม.ค.65 เพราะเป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้าน และมีการสังสรรค์ เกรงจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจากผลการระดมกวาดล้าง สามารถจับกุมการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทั้งสิ้น จำนวน 3,634 ราย โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ การหลอกลวงทางออนไลน์ 238 คดี, การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย 335 คดี, การเผยแพร่ข่าวปลอมและคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 878 คดี, การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหรือสตรีทางอินเทอร์เน็ตและค้ามนุษย์ 194 คดี และ การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่น ๆ อีก 1,989 คดี รวม มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 356 ล้านบาท โดยพบเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ถึง 335 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 พร้อมกำลัง สืบสวนปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์  รวมถึงการลักลอบจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าร้านค้าออนไลน์หลายรายได้จำหน่ายสิ่งเทียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบอาวุธปืน ออกไปแล้วจำนวนมาก

หลังจากได้เป้าหมายแล้ว ได้ประสานไปยังตำรวจภูธร ภาค 1-9 ตำรวจนครบาล ตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย โดยเน้นไปยังกลุ่มที่สั่งซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืน(บีบีกัน) ส่วนประกอบอาวุธปืน เช่น ลำกล้อง ชุดอุปกรณ์ลั่นไก เพื่อนำไปดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนจริงออกมาได้ และกลุ่มที่สั่งซื้อเครื่องกระสุนปืนเพื่อนำไปใช้กับอาวุธปืนผิดกฎหมายได้ใช้การประกาศโฆษณาขายสินค้าโดยทำการอำพรางชื่อเพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบ

โดยในวันที่ 3 ม.ค.65 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 60 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 31 ราย พร้อมของกลาง 5 รายการ ดังนี้

1. อาวุธปืนสงคราม จำนวน 1 กระบอก

2. อาวุธปืน จำนวน 49 กระบอก

3. เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,566 นัด

4. ยาบ้า จำนวน 203 เม็ด

5. ยาไอซ์ จำนวน 2.85 กรัม

6. กัญชาอัดแท่ง จำนวน 15 กรัม

ซึ่งการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 ชุดปฏิบัติเดียวกันนี้ ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นไปแล้ว จำนวน 40 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 24 ราย พร้อมของกลาง 6 รายการ คือ

1. อาวุธปืน จำนวน 23 กระบอก

2. เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,005 นัด

3. วัตถุระเบิดปิงปอง จำนวน 1 ลูก

4. ยาบ้า จำนวน 9,902 เม็ด

5. ยาไอซ์ จำนวน 0.94 กรัม

6. กัญชาอัดแท่ง จำนวน 6.34 กรัม

ภาพรวมขณะนี้ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมายลักลอบขายอาวุธปืนทางออนไลน์ไปแล้ว 100 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 55 ราย ตรวจยึดของกลางเป็น อาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก , อาวุธปืน 72 กระบอก ,วัตถุระเบิดปิงปอง  จำนวน 1 ลูก , เครื่องกระสุนปืน จำนวน 2,571 นัด และยาบ้าอีกจำนวน 10,105 เม็ด ยาไอซ์ 3.79 กรัม, กัญชาอัดแท่ง จำนวน 21.34 กรัม โดยหลังจากนี้ จะได้ขยายผลไปยังร้านค้าที่ลักลอบขายปืนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่อไป

ลำปาง - กองทัพบกเดินหน้า ร่วมปกป้องพี่น้องชาวลำปางให้ปลอดภัยจากโควิด-19 โดยจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 32 อำนวยความสะดวกและแจกจ่ายเจลแอลกอฮอล์พระราชทาน

พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 จัดวิทยากรจิตอาสา 904 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 32 อำนวยความสะดวก และแจกจ่ายเจลแอลกอฮอล์พระราชทานให้กับประชาชนชาวลำปาง ที่เข้ารับบริการการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นการฉีดวัคแอสตราเซนิก้า เข็มที่ 2 ตามใบนัดหมาย  

โดยมียอดผู้มารับบริการ จำนวน 3,000 คน นับเป็นความห่วงใยประชาชนที่ในพื้นที่ให้ได้รับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุม เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและเพื่อให้ทุกส่วนร่วมกันป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ให้เกิดประสิทธิภาพ

 

สมุทรสาคร - ศรชล. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการตามนโยบายการยกระดับการปฏิบัติงาน ในการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในพื้นที่สมุทรสาคร

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ รอง ผอ.ศรชล มอบหมายให้ พลเรือเอก เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินการตามนโยบาย การยกระดับการปฏิบัติงานของ ศรชล. ในการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในจังหวัดสมุทรสาคร ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย กรรมการบริหารจากหน่วยงานหลักของ ศรชล. และหน่วยงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกองบังคับการตำรวจน้ำ รวมถึง นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมประชุมหารือ

พล.ร.ต.อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษก ศรชล. กล่าวว่า การติดตามการดำเนินการตามนโยบายฯ ในครั้งนี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามประกอบด้วย การดำเนินการตามนโยบายการปฏิบัติงานของ ศรชล. ประจำปี งป.65 ที่สำคัญ คือการดำรงความต่อเนื่องในการกำกับดูแลหน่วยงานที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และการแก้ไขการทำการประมงผิดกฎหมาย รวมถึงการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อยกระดับการรายงานสถานการณ์ ด้านการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในส่วนของประเทศไทย จากปีที่ผ่านมาให้ปรับระดับขึ้น จากระดับบัญชี 2 กลุ่มประเทศเฝ้าระวัง (TIER2 WATCH LIST) ต่อไป

โดยทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ นอกจากนี้จะมี ตัวแทนมูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation: EJF) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน (NGO) โดยมีพันธกิจหลัก คือ การรักษาสิ่งแวดล้อมและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดสิทธิแรงงาน การค้ามนุษย์ การทำลายสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรม ตลอดจนการต่อต้านการทำประมง IUU ร่วมสังเกตการณ์การติดตามการดำเนินการตามนโยบายฯ ของ ศรชล. ในครั้งนี้ด้วย

 

ชลบุรี - จับคู่เจรจายอดขาย 13 ล้านบาท!! พาณิชย์ชลบุรี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดภาคตะวันออก นำสินค้าปศุสัตว์และเกษตรปลอดภัย บุกตลาดจัดเจรจาธุรกิจ และจัดมหกรรมสินค้าคุณภาพช่วยเหลือเกษตรกรและปชช.ในช่วงโควิด

ที่ห้องศรีรัตน โรงแรมรัตนชล อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และว่าที่ร้อยโท สุธรรม ลครรำ(ละ-คอน-รำ) พาณิชย์จังหวัดชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน มหกรรมสินค้าปศุสัตว์ และเกษตรปลอดภัย ภายใต้โครงการส่งเสริมการบริโภคสินค้าปศุสัตว์และสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานปลอดภัย

ว่าที่ร้อยโท สุธรรม ละครรำ(ละ-คอน-รำ) พาณิชย์จังหวัดชลบุรี ได้กล่าวแถลงถึงผลการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ ภายใต้โครงการนี้ว่า ได้มีการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ คู่ซื้อขาย ได้จำนวนถึง 12 คู่เจรจา ผลการจับคู่เจรจา ได้ยอดขาย 13 ล้านบาท ซึ่งการจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการทำการตลาดเชิงรุก และยังมีการจัดงานมหกรรมสินค้าปศุสัตว์ และเกษตรปลอดภัย ระหว่างวันที่ 7-11 มกราคม 2565 ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยนำสินค้าจากผู้ค้า 8 จังหวัดภาคตะวันออก นำสินค้าปศุสัตว์ ปศุสัตว์แปรรูป และสินค้าเกษตรปลอดภัยมา จำหน่ายในราคาพิเศษ ถึง 100 ร้านค้า

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top