Sunday, 2 April 2023
PRESS

9 ปีวงโยฯ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย 'ตัน' ไร้วี่แววได้เงินคืน

ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในวันที่ 23 มีนาคม 2557 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ดึงดูดความสนใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนเป็นจำนวนมาก เมื่อสมาชิกกลุ่มดรัมไลน์ ‘Max Percussion Theathre’ จากวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 จำนวน 30 คน พร้อมครูผู้ฝึกสอน บุกยึดพื้นที่สนามฟุตบอลโครงการอารีน่า 10 ใจกลางทองหล่อ พร้อมป้ายแบนเนอร์ขนาดใหญ่ ว่า...

“พวกเรามายืมเงินคุณตัน 3.1 ล้าน เพื่อไปประกวดดรัมไลน์โลก ต้องจ่ายเงินพรุ่งนี้ก่อน 9 โมงเช้า” โดยนักเรียนกลุ่มนี้ได้ชูป้ายขอเงินตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถึงเวลาตี 5 ของวันถัดไป เมื่อนายตัน ภาสกรนที ได้เดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าว และพูดกับเด็ก ๆ ว่า “ขอโทษนะ พี่ไม่ใช่รัฐบาล และก็ไม่ใช่สปอนเซอร์ และพี่ก็ไม่มีปัญญาไปช่วยทุกคน ต่อไปนี้อย่าได้นำใครมาแบบนี้อีกนะ พี่จะไม่ให้อีกเด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องอะไร”  

ทำให้สังคมเห็นใจคุณตัน ที่จำต้องมอบเงินให้เด็กกลุ่มนี้ เพราะถูกกดดันและมัดมือชก 

ต่อมามีการสืบค้นแล้วพบว่า การไปเนเธอร์แลนด์ของ วงโยฯ คือการสมัครไปร่วมประกวด ประเภทที่ไปแข่งก็มีอยู่ทีมเดียว เหมือนไปเล่นโชว์มากกว่าไปประกวด แถมรายการที่ไปก็เป็นรายการเล็กๆ และการที่วงไม่ได้เงินสนับสนุนก็เพราะไม่เคยชนะเลิศ รายการที่กรมพลศึกษาจัดแข่งขันในแต่ละปีเลย จากนั้นได้มีคลิปเสียงหลุดออกมาจาก ผอ.สตรีวิทยา 2 คุยกับสมาชิกวงโยฯ บอกด้วยว่า...

"มีทางเดียวที่จะไปได้ ครูเห็นทางสว่างคือ ยืมเงินเอกชนไป ได้ถ้วยกลับมาเมื่อไหร่นะ ไอ้พวกนี้มันเทให้หมดหน้าตัก แล้วเราจะได้เงินฟรีอีกประมาณ 8-9 ล้าน"

สพฐ. จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ว่าเป็นเสียงของผู้อำนวยการหรือไม่? ที่ให้นักเรียนไปขอเงินสนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้จากภาคเอกชน 

วันที่ 3 เมษายน 2557 เมื่อนักดนตรีที่เดินทางกลับมาจากการแข่งขันฯ ผู้ควบคุมวงได้ยืนยันว่าคลิปเสียงนั้นเป็นของผอ.จริง แต่พวกตนไม่ได้เป็นคนอัดคลิปเสียงนั้น

ประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กรณี 'ซีเซียม-137' หลุด ลั่น!! บริษัทต้นเหตุ ต้องรับผิดชอบ

(23 มี.ค.66) ประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหา จากกรณี ซีเซียม-137 ซึ่งหลุดออกมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อย่างเร่งด่วน โดยมีนายสมภาส นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องแทนนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ข้อความในหนังสือของประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ระบุว่า กรณีวัสดุกัมมันตรังสี 'ซีเซียม-137' สูญหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี มีการแจ้งความเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 และมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนปราจีนเป็นอย่างมาก จากการที่มีข้อมูลมากมาย จากผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย จนไม่รู้จะเชื่อใครดี และหน่วยราชการที่ออกมาแถลงข่าวไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงและเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

ภาคประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี เห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะให้จังหวัดปราจีนบุรีเป็นผู้รับผิดชอบโดยลำพัง ทั้งในเรื่องการสื่อสาร การบริหารจัดการ องค์ความรู้ เทคโนโลยี จึงใคร่ขอเสนอดังนี้...

1. มีกรรมการในระดับชาติ โดยมีภาคประชาสังคมร่วมเป็นกรรมการ ภายใน 1 อาทิตย์ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น ต้องเร่งตรวจสอบการปนเปื้อน หาปริมาณรังสีและการกระจายตัว ระดมเครื่องมือและผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ มาช่วยและสรุปผลให้เร็วที่สุด เพื่อลดความสับสนของสังคม พร้อมมาตรการการดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้น มีมาตรการจัดการ ฝุ่นเหล็กและวัสดุต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนรังสีซีเซียม-137 ให้ปลอดภัยอย่างชัดเจน ว่าไปอยู่ไหน จนขั้นตอนสุดท้าย มีการติดตาม มีการรายงานอย่างโปร่งใส ทำให้ประชาชนมั่นใจ และต้องมีการสื่อสาร การให้ข้อมูลที่เป็นมืออาชีพ สร้างความมั่นใจให้ประชาชน บนพื้นฐานของความจริง ทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นและสาเหตุของการสูญหายโดย มีการระบุเวลาและเหตุการณ์ตลอดเส้นทางที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ส่วนในระยะยาว ต้องมีการติดตามผลกระทบในระยะยาว ทั้งทางด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟู มีการเปิดเผยรายงานต่อสาธารณะ ตลอดจนมีการเปิดเผยข้อมูล ชนิด จำนวน ความรุนแรง มาตรการการรับมือของวัสดุกัมมันตรังสี ที่มีในพื้นที่ทั้งหมดและมีมาตรการ โดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการกำกับดูแลและการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกินขึ้นซ้ำ 

2. มีมาตรการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เช่น การยกเลิกการรับซื้อสินค้าทางการเกษตร รายได้ที่หายไปของภาคการบริการและท่องเที่ยว โดยผู้ก่อปัญหาต้องรับผิดชอบกับความเสียหายนี้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา

และ 3. เพื่อลดผลกระทบในการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร ขอให้หน่วยงานออกหนังสือรับรองความปลอดภัยจากกัมมันตภาพรังสีฟรี

‘แพทย์’ ห่วง ปชช. กังวล เหตุซีเซียม-137 แนะใช้สมุนไพรไทย สร้างเกราะป้องกันสารพิษ

หลังจากมีข่าวว่าซีเซียม-137 หายจากโรงไฟฟ้าไอน้ำ ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และมีรายงานจากภาครัฐว่า วัตถุดังกล่าวถูกหลอมจนกลายเป็นฝุ่นเล็กปนเปื้อนกัมมันตรังสีไปแล้ว สร้างความกังวลให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และหลายคนเกรงว่าอาจมีผลกระทบต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม

ทางทีมข่าว THE STATES TIMES ได้เข้าสัมภาษณ์ ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยระบุว่า…ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะอุบัติเหตุในลักษณะนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยก่อนหน้านี้ประเทศไทย เคยเกิดเหตุเครื่องฉายรังสีโคบอลต์-60 ที่ไม่ใช้แล้วถูกแยกชิ้นส่วนออกมา ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ และการดูแลสุขภาพเมื่อมีความจำเป็น

ดังนั้นการสัมผัสสารอันตราย จำเป็นต้องรู้ว่าเราสัมผัสที่ตัวสารกัมมันตรังสี หรือสัมผัสรังสี ซึ่งผลจะต่างกัน หากสัมผัสสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 อาการที่พบ อาจมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ถ่ายเหลว  ส่วนผิวหนังบริเวณที่โดนรังสีจะเกิดแผลไหม้พุพอง กรณีได้รับในปริมาณมาก จะส่งผลกระทบต่อระบบเลือด กดไขกระดูก ระบบประสาท ชักเกร็ง และอาจเสียชีวิตได้ 

ย้อนไทม์ไลน์ความสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุดีอาระเบีย’ รอยร้าวฉานที่กำลังถูกผสานให้เชื่อมต่อกันอีกครั้ง

หากย้อนอดีตกลับไป จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาน กรณีความสัมพันธ์ไทย – ซาอุดีอาระเบีย คือ การที่เจ้าหน้าที่ทูตซาอุดีอาระเบียถูกลอบสังหารกลางเมืองกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2532 โดยที่ตำรวจไทยไม่สามารถสืบสวนจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้

ต่อมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 คนร้ายได้ลงมือฆ่าเจ้าหน้าที่การทูตซาอุดีอาระเบียอีก 3 ศพรวดในเวลาเดียวกัน และในเดือนเดียวกัน ‘นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี’ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียและเป็นสมาชิกราชวงศ์ของตระกูลอัล-ซะอูด ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ จนทำให้มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลชุดหนึ่ง ข้อหา ‘อุ้ม’ นายอัลรูไวลีไปเค้นข้อมูล เพราะเชื่อเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของเจ้าหน้าที่การทูตของซาอุดีอาระเบียที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

กรณีนี้ ทำให้ทางการซาอุดีอาระเบียไม่พอใจอย่างยิ่ง จนถึงขั้นลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ออกข้อจำกัดเกี่ยวกับแรงงานไทย ห้ามประชาชนของซาอุดีอาระเบียเดินทางมาประเทศไทย และลดระดับความร่วมมือระดับสูงในทุกด้านลงมาอยู่ระดับต่ำสุด

ความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ซาอุดีอาระเบียไม่ได้เลวร้ายลงเพียงเพราะคดีฆาตกรรมเท่านั้น แต่ยังเกิดจากกรณีที่คนงานไทย ‘นายเกรียงไกร เตชะโม่ง’ ซึ่งไปทำงานในวังของเจ้าชายแห่งซาอุดีอาระเบีย แล้วได้ลักลอบโจรกรรมเพชรกลับประเทศไทย แต่ตำรวจไทยก็ยังไม่สามารถติดตามเพชรของกลางหลายรายการส่งกลับคืนให้ซาอุดีอาระเบียได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเพชร ‘บลูไดมอนด์’ ซึ่งเป็นเพชรเม็ดใหญ่ที่สุด

ความสัมพันธ์กลับเลวร้ายลงไปอีก เมื่อของกลางส่วนหนึ่งที่ติดตามกลับมาได้ มีการเอาไปปลอมแปลงก่อนนำกลับไปคืนให้ซาอุดีอาระเบีย ทั้งหมดจึงเป็นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุดีอาระเบียสะบั้นลงทันที

และในสมัยรัฐบาลของ ‘นายกทักษิณ ชินวัตร’ จะหมดอำนาจ เขาได้เสนอเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ให้แก่รัฐบาลซาอุฯ เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และเพื่อให้แรงงานไทยกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่ยังไม่ทันได้รับการตอบรับหรือปฏิเสธก็มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจในประเทศไทยเสียก่อน

และเมื่อปี 2563 ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ‘นายดอน ปรมัตถ์วินัย’ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ณ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 11-13 มกราคม 2563 ว่าตนเองได้เดินทางเยือนประเทศบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และโอมาน พร้อมทั้งกล่าวว่า การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียนั้น เป็นการเดินทางเยือนตามคำเชิญของฝ่ายซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้าและยังถือเป็นการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียครั้งแรกของรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยในรอบ 30 ปี

ระหว่างการเยือนได้มีการหารือกับ ‘เจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด’ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กับ ‘นายอาดิล บิน อะหมัด อัล-นูบีร’ รัฐมนตรีแห่งรัฐด้านกิจการต่างประเทศและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย  โดยประเด็นหลักที่ได้มีการพูดคุยกันคือ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ รัฐมนตรีดอน ปรมัตถ์วินัย ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเยือนครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างดี และถือเป็นพัฒนาการในทางบวกที่จะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศต่อไป”

และในปี 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไป เยือนซาอุฯ ตามคำเชิญของ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมานฯ มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย การฟื้นความสัมพันธ์ครั้งนี้ ถือเป็นความสัมพันธ์ทางการทูตที่พัฒนาขึ้นสู่ระดับสูงสุด หลังจาก 32 ปี ไทยมีตัวแทนซาอุฯ แค่ระดับอุปทูต ซึ่งจะส่งผลให้ความสัมพันธ์ทุกด้านยกระดับตามไปด้วย เช่น ด้านแรงงาน, การท่องเที่ยว, วัฒนธรรม, การลงทุน, การส่งออกอาหารฮาลาล การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวมุสลิมในไทย การสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ความสัมพันธ์กับองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ ‘โอไอซี’ แม้การส่งแรงงานไปซาอุฯ อาจไม่ได้มากเท่าเดิม แต่ก็รับทราบว่า ซาอุฯ ยืนยันจะใช้แรงงานไทย

วันนี้ (22 มี.ค. 66) ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยินดีกับความสำเร็จหลังการฟื้นความสัมพันธ์ประเทศไทยและราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ช่วงต้นปี 2565 เป็นผลสำเร็จ เปิดโอกาสความร่วมมือระหว่างกัน 9 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว, ด้านแรงงาน, ด้านอาหาร รวมถึงความร่วมมือใน ด้านสุขภาพ, ด้านพลังงาน, ด้านการศึกษาและศาสนา, ด้านความมั่นคง, ด้านกีฬา และด้านการค้าและการลงทุน ทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้ง 2 ฝ่าย โดยภาคเอกชนไทยสนใจลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าตกแต่งภายใน

'ผู้เชี่ยวชาญ' ชี้!! 'ซีเซียม-137' ที่หายไม่อันตรายอย่างที่คิด พบมีค่าปริมาณกัมมันตรังสีที่ต่ำ ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

(20 มี.ค.66) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงการติดตามผลกระทบต่อสุขภาพหลังมีท่อบรรจุสารซีเซียม-137 หายออกจากโรงงานผลิตไฟฟ้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และพบว่ามีการหลอมไปตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.แล้วนั้น ในขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการระบุพื้นที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้น ต้องมีการตรวจสุขภาพทั่วไปของพนักงานโรงงานหลอมเหล็กดังกล่าว และตรวจหาสารตกค้างในปัสสาวะ 

ทั้งนี้เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นสารอันตรายพิเศษ ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถตรวจได้ ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งมีห้องปฏิบัติการพิเศษจึงเป็นผู้ตรวจสอบ โดยมีการตรวจพื้นที่รอบ ๆ โรงงาน ประชาชนในอำเภอนั้น ๆ และใน จ.ปราจีนบุรี

ขณะที่ด้าน นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า ขณะนี้ เราพบว่าวัตถุบรรจุซีเซียม-137 หายไป และพบเบาะแสที่โรงหลอมเหล็กว่า มีการหลอมเหลว ต้องเรียนว่าของต้นทางหายไปโดยมนุษย์ ที่เราจะต้องติดตามต่อว่าหายไปได้อย่างไร เหตุการนี้เป็นอุบัติการ ที่ยังไม่กระทบต่อชีวิตมนุษย์ ยังไม่ใช่อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์แบบเชอร์โนบิล หรือ ฟุกุชิมะ โดยกฎหมายฉบับใหม่ หากรู้ว่าอุปกรณ์รังสีสูญหายต้องแจ้งโดยพลัน แต่เมื่อไม่แจ้งโดยพลันจึงเกิดเหตุการณ์นี้ เราจึงติดตามได้โดยเครื่องมือของปรมาณูเพื่อสันติ หลังรับแจ้งทีมเข้าตรวจสอบโรงงานในวันรุ่งขึ้น แต่ตอนนี้ทางโรงงานยังไม่รู้ว่าหายเพราะอะไร 

มัดรวม ‘ศิลปิน-ดารา’ ตบเท้าเข้าเวทีการเมือง ขันอาสาขอเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน

เลือกตั้งใกล้เข้ามา ผู้สมัครมากหน้าในวงการเมืองก็เริ่มเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่องในนามพรรคต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่แค่คนในวงการเมืองเท่านั้น แวดวงคนบันเทิง 'ดารานักแสดง-นักร้อง-นางแบบ' ต่างก็ตบเท้าเข้าเวทีการเมือง กันอย่างคึกคักด้วยเช่นกัน 

ว่าแต่...ใครเป็นใคร? สังกัดพรรคไหนกันบ้างนั้น? ทาง THE STATES TIMES ได้รวบรวมมาให้พิจารณากันโดยพลัน...

คนแรกที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ดีกรีนางร้ายตัวแม่แถวหน้าของเมืองไทย 'อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์' ดาราสาวนักแสดงชื่อดัง หลังจากที่ได้ออกมา Call out แสดงความเห็นกับเรื่องต่างๆ อย่างชัดเจน  ตอนนี้อ๋อมได้เปิดตัวเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสะพานสูง พรรคเพื่อไทย มาพร้อมกับสโลแกนที่ว่า “มาเพื่อชนะ ไม่ได้มาเพื่อแพ้”

คนต่อมา ขวัญใจสาวๆ จากย่านลาดพร้าว 'ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์' อดีตนักแสดง-นักร้องชื่อดัง ที่ตัดสินใจเข้าสู่บทบาททางการเมือง อย่างเป็นทางการโดยการเป็นรองโฆษกพรรค พลังท้องถิ่นไทย เมื่อปี 2561 และได้ลาออกไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จากนั้นได้ลาออกตามคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็นรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และวันนี้ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้มาทำหน้าที่เป็นโฆษกของพรรคพลังประชารัฐ ของบิ๊กป้อม เพื่อร่วมเสริมทีมสื่อสารนโยบายพรรคสู่สังคม

อีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหม่ ที่ออกมา Call Out ในหลายประเด็น อย่าง 'หมิว-สิริลภัส กองตระการ' นักแสดงคนรุ่นใหม่ ก็ได้เข้ามาร่วมงานกับกับพรรคก้าวไกล เตรียมเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางกะปิ 

ด้าน 'นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง' อยากทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน จึงหันมาเล่นการเมืองอย่างจริงจัง ในนามของ 'พรรคไทยภักดี'

ตามรุ่นพี่ปราปต์ปฎลมาติดๆ กับ 'เค-ภัทรพล แก้วสกุณี' ดารานักแสดงสังกัดช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ ประกาศลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ส. ปทุมธานี ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ 

'จอนนี่ แอนโฟเน่' สามีของนก จริยา ก็ขออาสาเข้ามาทำงานแก้ปัญหาความทุกข์ยากที่ประชาชนได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยอาสาเป็น ส.ส.กทม. ดูแลประชาชนในเขตมีนบุรี คันนายาว คลองสามวา ในนามของพรรคไทยสร้างไทย

ด้าน 'กุ้งพลอย-กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ' หรือ 'ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์' ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ลั่นว่าจะนำประสบการณ์เรื่องการพนันออนไลน์ เข้ามาแก้ไขในสภา เตรียมลงสมัคร ส.ส.อ่างทอง

มองพรรคการเมืองไทย ผ่านเลนส์ ‘ดร.ธีรภัทร์’ หมั่นรับฟัง ปชช. มุ่งทิ้งปมขัดแย้งในพรรค

แม้หมอกควันความขัดแย้งระหว่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะจางลงพร้อมกับหน้าฉากที่หลายคนมองว่า ‘จบสวย’ แต่นั่นก็กำลังสะท้อนภาพความเป็นจริงของเบื้องหลังพรรคการเมือง ที่หากคิดต่างอย่างไม่ลดละ อคติแบบไม่ยอมความ ก็อาจจะนำมาสู่ความเสียหายต่อภาพรวมของพรรคนั้นๆ ทั้งๆ ที่ในโลกแห่งการเมือง ความร้านฉานชั่วขณะ มักมิใช่สิ่งแปลกใหม่อันใด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์’ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นักวิชาการประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้มองปมประเด็นดังกล่าวพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวของบรรดาพรรคการเมืองในห้วงเวลานี้กับ THE STATES TIMES ไว้อย่างน่าสนใจว่า... 

ในเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะในองค์กรหรือสถาบันใด ย่อมต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้เสมอ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของพรรคการเมือง ที่มักมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ก็มีสิ่งที่หลายคนอาจจะวิตกก็คือ เรื่องของความเห็นที่แตกต่างกันบางครั้ง มันควรจะเป็นเรื่องที่พูดคุยกันในพรรค ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน 

กรณีของคุณ ‘พิธา-ปิยบุตร’ สะท้อนให้เห็นว่า พรรคการเมืองควรจะต้องมีกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นกันมากขึ้น แน่นอนว่าเรื่องนี้ยังดีที่พรรคก้าวไกลนั้นมีผู้นำอย่าง คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ที่แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์ในการลงสมัครต่างๆ ก็ตาม แต่ตนคิดว่าความคิดเห็นของบุคคลเหล่านี้ ก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะผสานความเข้าใจและนำพาพรรคให้เดินหน้าต่อไปได้ 

'ชัยวุฒิ' ปลื้ม!! ศูนย์ดิจิทัลฯ เพิ่มทักษะดิจิทัลให้ชุมชน หลังลงพื้นที่ประจวบฯ พบคนไลฟ์ 'ขาย-โปรโมต' สินค้ามากขึ้น

(4 ก.พ.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ติดตามความคืบหน้าโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน โรงเรียน ตชด.ย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ชัยวุฒิ กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นโรงเรียน ตชด.ที่อยู่ในชายแดน มีประมาณสองร้อยกว่าโรงเรียนทั้งประเทศไทย ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัลฯ ได้สนับสนุนศูนย์ดิจิทัลชุมชน นั่นคือ ห้องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการมาทํางาน รวมถึงอินเทอร์เน็ตและฟรีไวไฟ ซึ่งโรงเรียน ตชด. ทุกแห่งจะต้องมีคอมพิวเตอร์ มีอินเทอร์เน็ตใช้ เพื่อให้เด็กเรียนรู้ อีกทั้งประชาชนจะได้มาใช้งานในการสื่อสารเรียนรู้ต่างๆ รวมถึงขายของออนไลน์ ซึ่งศูนย์ดิจิทัลชุมชนจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ศูนย์ละ 1 คน เพื่อมาช่วยโรงเรียน และช่วยสอนประชาชน

โดยวันนี้ได้มีการฝึกทักษะในการขายของออนไลน์ เช่น ไลฟ์ขายทุเรียน แล้วก็ขายผ่านไปรษณีย์ไทย Thailand post mart ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัลฯ ก็พยายามโปรโมตตรงนี้ด้วย เพราะว่า นอกจากขายแล้วก็ต้องมีการขนส่งซึ่งไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการช่วยขนส่งสินค้าเกษตร หรือสินค้าของชุมชน ไปให้ถึงมือพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศต่อไป

'หัวหิน' ยกระดับสู่เมือง Smart city ติด CCTV รอบเมือง ตั้งเป้าลดอาชญากรรม 50%

(3 ก.พ. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าประชุมหารือเตรียมความพร้อมโครงการ Smart city HuaHin โดยมีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีหัวหิน ให้การต้อนรับ ณ เทศบาลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ชัยวุฒิ กล่าวว่า Smart city เป็นนโยบายสำคัญของท่านนายกฯ ใช้ชื่อโครงการทั้งหมดว่าไทยแลนด์ 4.0 ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาประเทศ ตอนนี้ถือว่าประเทศของเรามาได้ไกลแล้ว ประชาชนมีการเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ต เข้าถึงการใช้สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ในการทำงานทำธุรกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งถือว่าคนไทยคุ้นเคยกับดิจิทัลมาก

Smart city เป็นเรื่องของความสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นประกอบทำให้อาชีพดีขึ้น ตนว่าหัวหินก็เด่นในเรื่องของการท่องเที่ยว การค้าขาย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนคิดว่า ถ้าเราได้นำคอนเซปต์ของ Smart city มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้เมืองหัวหินพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองหัวหินมากขึ้น มีคนมาซื้อที่ดินมากขึ้น

Smart city ยังไม่ได้ให้แค่ความเจริญ แต่ลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ต่างจังหวัด ในพื้นที่ห่างไกล การมีโครงการนี้เข้าไปในพื้นที่ จะทำให้เมืองทันสมัยขึ้น ทำให้ประชาชนอยู่สุขสบายมากขึ้น

จองที่ชาร์จรถ EV ในจุฬาฯ ผ่านแอปฯ แต่ยามไล่ รู้ทีหลัง ผู้ให้บริการแจ้งห้ามใช้ 06.00-17.00 น.

ไม่นานมานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ‘Sira Nakasiri’ ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม ‘EV Club Thailand Group’ ถึงกรณีที่ได้ เข้าไปใช้บริการสถานีชาร์จอีวี หรือรถยนต์ไฟฟ้า ใน MEA หรือสถานีชาร์จของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) โดยสถานีชาร์จนี้ได้ตั้งอยู่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยเรื่องพีกคือผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านนี้ ได้จองการชาร์จผ่านแอปพลิเคชันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงจุดชาร์จ ทาง รปภ. ของจุฬากลับมาไล่ และไม่ให้ชาร์จ โดยอ้างว่าใช้ได้สำหรับผู้บริหารของจุฬาฯ เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ในแอป ก็เปิดให้จองชาร์จได้ปกติ 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top