ประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กรณี 'ซีเซียม-137' หลุด ลั่น!! บริษัทต้นเหตุ ต้องรับผิดชอบ

(23 มี.ค.66) ประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหา จากกรณี ซีเซียม-137 ซึ่งหลุดออกมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อย่างเร่งด่วน โดยมีนายสมภาส นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องแทนนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ข้อความในหนังสือของประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ระบุว่า กรณีวัสดุกัมมันตรังสี 'ซีเซียม-137' สูญหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี มีการแจ้งความเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 และมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนปราจีนเป็นอย่างมาก จากการที่มีข้อมูลมากมาย จากผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย จนไม่รู้จะเชื่อใครดี และหน่วยราชการที่ออกมาแถลงข่าวไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงและเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

ภาคประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี เห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะให้จังหวัดปราจีนบุรีเป็นผู้รับผิดชอบโดยลำพัง ทั้งในเรื่องการสื่อสาร การบริหารจัดการ องค์ความรู้ เทคโนโลยี จึงใคร่ขอเสนอดังนี้...

1. มีกรรมการในระดับชาติ โดยมีภาคประชาสังคมร่วมเป็นกรรมการ ภายใน 1 อาทิตย์ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น ต้องเร่งตรวจสอบการปนเปื้อน หาปริมาณรังสีและการกระจายตัว ระดมเครื่องมือและผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ มาช่วยและสรุปผลให้เร็วที่สุด เพื่อลดความสับสนของสังคม พร้อมมาตรการการดูแลผลกระทบที่เกิดขึ้น มีมาตรการจัดการ ฝุ่นเหล็กและวัสดุต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนรังสีซีเซียม-137 ให้ปลอดภัยอย่างชัดเจน ว่าไปอยู่ไหน จนขั้นตอนสุดท้าย มีการติดตาม มีการรายงานอย่างโปร่งใส ทำให้ประชาชนมั่นใจ และต้องมีการสื่อสาร การให้ข้อมูลที่เป็นมืออาชีพ สร้างความมั่นใจให้ประชาชน บนพื้นฐานของความจริง ทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นและสาเหตุของการสูญหายโดย มีการระบุเวลาและเหตุการณ์ตลอดเส้นทางที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ส่วนในระยะยาว ต้องมีการติดตามผลกระทบในระยะยาว ทั้งทางด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟู มีการเปิดเผยรายงานต่อสาธารณะ ตลอดจนมีการเปิดเผยข้อมูล ชนิด จำนวน ความรุนแรง มาตรการการรับมือของวัสดุกัมมันตรังสี ที่มีในพื้นที่ทั้งหมดและมีมาตรการ โดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการกำกับดูแลและการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกินขึ้นซ้ำ 

2. มีมาตรการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เช่น การยกเลิกการรับซื้อสินค้าทางการเกษตร รายได้ที่หายไปของภาคการบริการและท่องเที่ยว โดยผู้ก่อปัญหาต้องรับผิดชอบกับความเสียหายนี้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา

และ 3. เพื่อลดผลกระทบในการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร ขอให้หน่วยงานออกหนังสือรับรองความปลอดภัยจากกัมมันตภาพรังสีฟรี

นอกจากนี้ ประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี จะเดินทางต่อไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบธรรมาภิบาลของโรงงานผลิตไฟฟ้า ที่เป็นต้นเหตุ โดยขอให้เปิดเผยข้อมูลการถือครองวัสดุกัมมันตรังสี 'ซีเซียม-137' ตลอดถึงมาตรการการเก็บรักษา และแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งทางด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อมและ ทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าวซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงจังหวัดปราจีนบุรีจนเศรษฐกิจพังพินาศไปหมด

สำหรับประชาสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ประกอบด้วย สมัชชาสุขภาพ จังหวัดปราจีนบุรี, สหกรณ์เกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรีจำกัด, สมาคมพลเมืองอาสาพัฒนาปราจีนบุรี, เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน, อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน, สมาคมจิตอาสาพัฒนาปราจีนบุรี, เครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำพระปรง, และเครือข่ายอนุรักษ์ยางนา

เรื่อง: นิลพัท คอนขำ Content Editor