Friday, 19 April 2024
NEWS

‘สคบ.’ โพสต์เตือน!! ‘พัดลมคล้องคอ’ อันตราย อย่าหาใช้ เสี่ยงเจอสารก่อมะเร็ง ด้าน ‘สวีเดน’ นำออกจากตลาดแล้ว

(19 เม.ย.67) เพจ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ. โพสต์ภาพพร้อมข้อความแจ้งเตือนผู้บริโภค ความว่า พัดลมคล้องคอ อันตราย อย่าหาใช้

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ในประเทศสวีเดน แจ้งเตือนภัยพัดลมคล้องคอ สำหรับการคลายร้อน โดยได้นำผลิตภัณฑ์นี้ออกจากตลาด รวมถึงในตลาดบนโลกออนไลน์แล้ว เนื่องจากตัวประสานบนแผงวงจรที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่ และในสาย USB มีตะกั่วเข้มข้นมากเกินไป และวัสดุพลาสติกสายเคเบิล มีความเข้มข้นของ สารเสริมสภาพพลาสติก (DEHP) , (DBP) และ (SCCPs) มากเกินไป

ซึ่งหากได้รับสารเหล่านี้ทางผิวหนังเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้

'อ.ต่อตระกูล' ยก!! 1,200 โดรนแปรขบวนสุดอลังในวันมหาสงกรานต์ ฝีมือคนหนุ่มสาวที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ควรต้องสนับสนุน

(19 เม.ย.67) รองศาสตราจารย์ ต่อตระกูล ยมนาค นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กระบุว่า..

เรื่องดี ๆ วันศุกร์ 
คนไทยทำได้เอง !
บังคับโดรนพร้อม ๆ กัน 1,200 ลำ 
ให้บินแปรขบวนไปแสดงบนท้องฟ้าเป็นรูปต่าง ๆ ได้ อย่างสวยงาม ในวันมหาสงกรานต์

ใครคือผู้จัดการบินแสดง? ตอนแรกผมเดาผิดว่าน่าจะเป็นบริษัท ARV (AI & Robotics Venture) บริษัทไทยผู้พัฒนาโดรนแปรอักษรรายแรกของอาเซียน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของปตท.สผ  ที่ได้ให้ความสนับสนุนมาหลายปีแล้ว

แต่กลุ่มผู้จัดทำตัวจริง เขาแจ้งผมมาว่ากลุ่มเขาเป็นคนทำ กลุ่มนี้ชื่อ ไทยโดรนโชว์ เป็นแผนกหนึ่งของ บ.อัลติเมท เทคโนโลยี จำกัด

เป็นคนหนุ่มสาว ที่จะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยต่อไป เราต้องสนับสนุนเขากันหน่อย          

ติดต่อเขาได้ที่ Line ชื่อ @thaidroneshow เขารับงานจัดแสดง

ขอนแก่น - วันคล้ายวันสถาปนา "คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข." ครบรอบ 32 ปี

คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มีวิสัยทัศน์ในการเป็น "สถาบันการศึกษาชั้นนำและเป็นเลิศด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี ที่ได้มาตรฐานสากล" โดยมีเป้าหมายของวิสัยทัศน์คือ อันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ และ 1 ใน 20 ของอาเชียน ภายในปี พ.ศ.2567

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ ห้องวังเลิศ Smart Classroom คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธีทำบุญถวายปานะ ถวายจตุปัจจัย ถวายสังฆทาน แด่พระสงฆ์ 9 รูป เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ครบรอบ 32 ปี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี พระมหาบุญตา ชาตปุญโณ เจ้าอาวาสวัดเกาะทองบ้านหนองเต่า และพระเถรานุเถระ พระมหาบุญตา ตลอดจน รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ,ผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ผู้บริหารจากส่วนงาน หน่วยงาน และศูนย์ต่างๆ ผู้บริหารและผู้แทน 8 องค์กรเศรษฐกิจขอนแก่น เครือข่ายชมรมศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี คณาจารย์และบุคลากร นักศึกษา สื่อมวลชน และผู้มีเกียรติ ร่วมงาน

รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ในนามคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีทำบุญวันคล้ายวันสถาปนาคณะในวันนี้ ตามที่คณะวิทยาการจัดการ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2535 และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ตามราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 21 เมษายน 2559 ดังนั้น วันที่ 21 เมษายนของทุกปีจึงถือได้ว่าเป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 32 ปี ด้วยวันที่ 21 เมษายน 2567 ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ แต่เพื่อให้บุคลากรและนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการระลึกถึงวันสถาปนาคณะ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาขึ้นในวันนี้ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 

รศ.ดร.เพ็ญศรี กล่าวอีกว่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อให้บุคลากร นักศึกษา และศิษย์ก่าของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีเข้าร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและสถาบัน 2. เพื่อร่วมรำลึกถึงความสำคัญของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี และเป็นการรวมพลังให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะและความภาคภูมิใจในสถาบันร่วมกัน3. เพื่อเป็นการสีบสานและถ่ายทอดวัฒนธรรมให้เป็นประเพณีที่ดีงามต่อไป

รศ.ดร.เพ็ญศรี กล่าวต่อไปว่า  คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มีวิสัยทัศน์ ในการเป็น "สถาบันการศึกษาชั้นนำและเป็นเลิศด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี ที่ได้มาตรฐานสากล" โดยมีเป้าหมายของวิสัยทัศน์คือ อันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ และ 1 ใน 20 ของอาเชียน ภายในปี พ.ศ. 2567 ซึ่งคณะฯได้ดำเนินการพัฒนาคณะฯ ตามพันธกิจที่กำหนดไว้คือ 1. สร้างและพัฒนานักบริหารธุรกิจ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้ประกอบการให้มีความรู้ความสามารถในการแข่งขันทั้งในยุคปัจจุบันและอนาคต 2. สร้างสรรค์ผลงานวิจัยที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ 3. บริการวิชาการแก่สังคมอย่างมีคุณภาพ และ 4. การบริการโรงแรมและร้านอาหารภายใต้คุณภาพมาตรฐาน

รศ.ดร.เพ็ญศรี  กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 31 ปี คณะฯ ได้ทุ่มเทในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้คณะผ่านการประเมินคุณภาพระดับ 300 คะแนน ซึ่งนับเป็นคณะแรกของกลุ่มคณะวิชาทางด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ ในประเทศไทย และจากการจัดอันดับของสถาบัน SCIMAGO  ประเภทสาขาวิชาด้าน BUSINESS, MANAGEMENT AND ACCOUNTING อยู่ในอันดับ 3 ของประเทศ นอกจากนี้คณะฯ ยังมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อตอบสนองนโยบายและการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าตามที่ท่านคณบดี คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ได้กล่าวรายงานไปแล้วนั้น ตนมีความชื่นชมและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความสำเร็จและการเติบโตของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี และในวันที่ 21 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนาของคณะ และในปีนี้ครบรอบ 32 ปี เป็นที่ทราบกันว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี เป็นอีกหนึ่งคณะในมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่มีความโดดเด่น และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านวิชาการ และการบริหารจัดการ ในวันอันเป็นมงคลนี้ กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดช่วยดลบันดาล ปกปักรักษา ให้ท่านคณบดี พร้อมด้วยบุคลากรคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีทุกท่านจงประสบแต่ความสุขความเจริญ พบแต่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป และก้าวไปพร้อมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ.ชาญชัย  กล่าวอีกว่า คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีเป็นคณะที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันนี้คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี นั้นมีหลักสูตร ที่น่าสนใจ และทันสมัยเป็นทั้งหลักสูตร มาตรฐานระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ซึ่งคณะเองก็อยู่บนเส้นทาง และในปีหน้าก็จะผ่านมาตรฐานสากล ซึ่งมีไม่กี่แห่งในเมืองไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา ในหลักสูตรที่ได้มาตรฐาน นานาชาติให้การรับรอง ดังนั้นคิดว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีเอง เป็นคณะที่มีอายุถึง 32 ปี และสร้างผลงานที่โดดเด่น และมีผลงานเชิงประจักษ์มากมาย และเป็นอีกหนึ่งคณะที่สร้างผลงานให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น

รศ.นพ.ชาญชัย  กล่าวด้วยว่าในโอกาสนี้จึงขอแสดงความยินดีและความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าของคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี เนื่องในวันเฉลิมฉลองวันสถาปนาครบรอบ 32 ปี และหลังจากนี้ไปคิดว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ก็ได้มีรากฐานที่แข็งแรง มีความเข้มแข็ง ก็ยังเป็นคณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความเจริญเติบโตก้าวหน้า โดยที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีอายุ 60 ปี ในปีนี้ กำลังเข้าก้าวข้าสู่ปีที่ 61 ในขณะเดียวกันคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีก็จะเข้าสู่ปีที่ 33 ก็คิดว่าคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี เป็นคณะหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความเจริญก้าวหน้าสืบต่อไป

มุกดาหาร -ทหารกกล.สุรศักดิ์มนตรี ตรวจยึดบุหรี่เถื่อนขณะลักลอบข้ามโขงส่งมุกดาหาร

เมื่อวันที่ 19 เมษายน ร.ท.ภานุพงษ์ คงรัตน์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยทหารราบ กองกำลัง(กกล.)สุรนารี ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีจากแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว บรรทุกใส่เรือข้ามแม่น้ำโขงมาส่งในเขตพื้นที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จึงได้ใช้กล้องส่องทางไกลเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเรือที่แล่นในลำแม่น้ำโขง กระทั่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบเรือเหล็กขนาดใหญ่บรรทุกสินค้าแล่นจากแขวงสะหวันนะเขต ข้ามแม่น้ำโขงมายังฝั่ง จ.มุกดาหาร จึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณที่เรือแล่นเข้ามาจอด พบว่าเป็นท่าเรือประมงบ้านบางทรายใหญ่  เมื่อไปถึงพบกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังขนกระสอบบรรจุสิ่งของขึ้นจากเรือมาทิ้งไว้บริเวณใต้กอไผ่ริมตลิ่ง  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบ แต่เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไป จากการตรวจสอบภายในกระสอบป่านพบว่าเป็นถุงดำบรรจุกล่องบุหรี่จำนวน 2 กล่องใหญ่ เมื่อเปิดกล่องออกดูพบเป็นบุหรี่ยี่ห้อ JN RED และ JN GREEN กล่องละ 50 แท่ง รวมทั้งหมดเป็น 100 แท่งจึงได้ทำการตรวจยึดบุหรี่ดังกล่าวไว้เป็นของกลางเพื่อนำส่งสรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย มุกดาหาร 092-5259777

“มูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม” ทำบุญครบรอบ 22 ปี ศิษย์ นพม. ร่วมมุทิตาจิตรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ สืบสานสงกรานต์วิถีไทย

วันที่ 19 เมษายน ที่อาคารเอนกประสงค์ วปอ. ห้อง 321 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคลังสมองอาวุโส วปอ. เพื่อสังคม ปวิธายุวัฒน์ เป็นประธานพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสก่อตั้งมูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม ครบ 22 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างขวัญกำลังใจ และสร้างความรัก ความสามัคคี ระหว่างผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา โดยนิมนต์พระภิกษุ จากวัดพระราม 9 เจริญพระพุทธมนต์

ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พลเอก นรินทร์ แทบประสิทธิ์ ประธานมูลนิธิคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม พลโท มนัส แถบทอง ผู้อำนวยการหลักสูตรฯ กรรมการมูลนิธิฯ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ อาจารย์ และศิษย์เก่าหลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง (นพม.) ร่วมพิธี

นอกจากจะจัดพิธีทำบุญในโอกาสครบ 22 ปีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดพิธีทรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำขอพร อดีตประธานมูลนิธิคลังสมอง วปอ. และผู้อาวุโส เนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย เพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียม และสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย

พลเอก นรินทร์ แทบประสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่มวลหมู่กัลยาณมิตรของคลังสมองได้มาพบปะบำเพ็ญกุศล กิจกรรมวันนี้นอกจากบำเพ็ญกุศลประจำปีวันสถาปนาของคลังสมองแล้ว ยังเป็นวันครบรอบของการจัดตั้งคลังสมอง อาวุโส วปอ. เพื่อสังคม ปวิธายุสัฒน์ ขึ้น ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ตามวัตถุประสงค์ ของมูลนิธิฯ ตลอดมา

“สิ่งหนึ่งที่เป็นอนุสรณ์สำคัญของคลังสมอง วอป. เพื่อสังคม ในการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชการที่ 9 คือ การนำโครงการร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อสืบสานรักษามรดก ทรัพย์สินทางปัญญาอันล้ำค่า ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ การเปิดหลักสูตร ผู้นำพอเพียง เพื่อสร้างความมั่นคง (นพม.) ขึ้น โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการเสริมบทบาท ของการสร้างผู้นำในอนาคต

'รมว.ปุ้ย' เร่งย้ายกากแคดเมียมกลับตาก ปลายเม.ย.นี้ พร้อมปรับบ่อฝังกลบใหม่ ให้ประชาชนเชื่อมั่น

เมื่อวานนี้ (18 เม.ย. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า  คณะทำงานแก้ไขปัญหาและการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ได้รายงานผลการประชุมคณะทำงานฯ โดยสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับกากตะกอนแคดเมียมทั้งหมด ตั้งแต่ความเป็นมาของเหมืองแร่และโรงถลุง ข้อมูลการพบกากตะกอนแคดเมียม ข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในส่วนของแผนการบริหารจัดการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมกลับโรงงานตาก และปิดบ่อฝังกลบกากแคดเมียมนั้น โดยภาพรวมมีความครอบคลุมขั้นตอนต่าง ๆ ครบถ้วน ซึ่งที่ประชุมมีมติในประเด็นสำคัญ คือ การปรับปรุงบ่อกักเก็บกากแคดเมียมเพื่อเตรียมนำกากกลับไปฝังกลบ กำหนดให้ใช้การฉาบพื้นผิวบ่อใหม่ทั้งหมดซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนในพื้นที่  

อย่างไรก็ดี จะเร่งขนกากตะกอนแคดเมียมที่กระจายอยู่ที่พื้นที่ต่าง ๆ ทั้งสมุทรสาคร, ชลบุรี และ กรุงเทพมหานคร มาเก็บที่โรงเก็บแร่ที่จังหวัดตากก่อน โดยต้องปรับปรุงโรงเก็บแร่ไม่ให้มีน้ำเข้ามาได้ และทำการปูวัสดุรองพื้นเพื่อป้องกันการรั่วซึม ก่อนจะขนกากตะกอนแคดเมียมมารอเพื่อนำลงในบ่อกักเก็บกากแร่ต่อไป

สำหรับรถที่จะใช้ในการขนส่งและวิธีการขนกากตะกอนแคดเมียมนั้น ที่ประชุมเสนอว่าให้ใช้แบบ hybrid คือ ทั้งการใช้รถบรรทุกที่มีการขนกากโดยการใช้วัสดุห่อปิดปกคลุมมา กับการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ร่วมกันในการขน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและสามารถเริ่มขนกากได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน  

“ดิฉันได้ย้ำด้วยว่า ในการดำเนินการต่าง ๆ ให้คำนึงถึงความรวดเร็วในการขนกากตะกอนออกจากพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยความปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รวมถึงเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย” รมว.ปุ้ย กล่าวย้ำ 

สมุทรปราการ- “พระครูแจ้” ทำบุญใหญ่!! เนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคลครบ 62 ปี เดินหน้าช่วยเหลือผู้ยากไร้ “รถโรงฟรี”

ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ คณะศิษย์ยานุศิษย์ ข้าราชการทุกหมู่เหล่าตลอดจนประชาชนจำนวนมากร่วมเดินทางมาแสดงมุทิตาสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด อายุวัฒนมงคลครบรอบ 62 ปี พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จัดพิธีทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่างๆ ตลอดจนคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ต่างร่วมแสดงมุทิตาสักการะ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอายุวัฒนมงคลครบ 62 ปี

โดยมีท่าน พระครูวิทูรกิจจาทร  (พระครูจาบ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา โดยมีคณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  คณะผู้บริหาร คณะแพทย์พยาบาล คณะครู ข้าราชการตำรวจ ตลอดจนคณะศิษย์ยานุศิษย์และพี่น้องประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธีแสดงมุทิตาสักการะท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

โดยท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เปิดเผยว่า วันนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ อายุวัฒนมงคลครบ 62 ปี ถือโอกาสนี้ทำการเปิดที่พักตำรวจจราจร (ป้อมตำรวจ) จำนวน 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ สภ.บางแก้ว โดยทางวัดบางพลีใหญ่กลางดำเนินการช่วยเหลือในการปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่พักตำรวจจราจร หรือป้อมตำรวจให้ใหม่เพื่อให้ข้าราชการตำรวจจราจรปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในการดูแลรับใช้พี่น้องประชาชน

อีกทั้ง ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ที่ไม่มีเงินเผาศพ ศพไร้ญาติ ซึ่งทางวัดจะดำเนินการเผาให้ฟรีทุกกรณีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด พร้อมทั้ง ทางวัดจัดเตรียมรถตู้ไว้คอยบริการรับศพฟรี ภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้โครงการ แบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือสังคม (รถโรงฟรี) โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ผู้ริเริ่มโครงการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ ประกอบกับ ที่ผ่านมาทางวัดบางพลีใหญ่กลางก็ดำเนินการช่วยเหลือเผาศพโควิด-19 ให้ฟรี โดยไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดมาจำนวนหลายร้อยศพแล้ว และในวันนี้ก็จะดำเนินการช่วยเผาศพผู้เสียชีวิตด้วยโรค โควิด -19 จำนวน 2 ราย ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิดเช่นเดียวกัน

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดการประชุมประจำปี “สพฐ. โปร่งใส ร่วมใจต้านทุจริต” ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (NICE)

วันนี้สวนนงนุชพัทยาโดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ  และบุคลากรที่เข้ามาจัดประชุมอบรม บุคลากร สังกัด สพฐ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โครงการ “สพฐ. โปร่งใส ร่วมใจต้านทุจริต” จำนวน 1,050 ท่าน ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา(NICE)   สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี  

หลังพิธีเปิดการอบรม ทางคณะร่วมปลูกต้นไม้ ที่สวนรุกขชาติ บริเวณเขาบันไดกฤษ ซึ่งเป็นโครงการรวบรวมพันธุ์ไม้และปลูกไม้ยืนต้นชนิดต่างๆที่มีมูลค่าและหายากจากทั่วทุกมุมโลกมาปลูกไว้ ต้นไม้ที่นำมาปลูกในวันนี้คือต้นไทรนิโครธ และการอนุรักษ์พันธุ์ไม้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทางสวนนงนุชพัทยาดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นได้นำท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะเยี่ยมชมสวนสวยมากกว่า 50 สวน บนพื้นที่ 1,700 ไร่ โดยเฉพาะศูนย์เรียนรู้ในสวนนงนุชพัทยาเด็กจะได้สัมผัสแหล่งเรียนรู้ในเรื่องต้นไม้ เรื่องสัตว์ วัฒนธรรม ศาสนา และอาหารไทย จะทำให้ในอนาคตเด็กๆจะรู้สึกชอบสิ่งต่าง ๆเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว จึงเป็นสถานที่เหมาะกับเด็ก นักเรียน และนักท่องเที่ยวทั่วไป

สุนัข ‘ซาร่า’ ขาดใจอย่างทรมาน เพราะเทศบาลจับผิดวิธี แต่ปิดบังความจริง แล้วบอกว่า “หมาหลุด หนีหายไป”

(19 เม.ย. 67) กรณีโซเชียลประกาศตามหาหมาไทยเพศผู้ วัย 4 ปี ชื่อ 'ซาร่า' หลังเจ้าของบ้านติดต่อให้เทศบาลมาจับตัวไป ด้วยเหตุผลที่ว่าซาร่ากัดเจ้าของ ต่อมาหมาซาร่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในขณะขนย้าย กลุ่มคนรักสัตว์จึงประกาศตามหา พร้อมตั้งเงินรางวัลหลักแสน

ล่าสุด มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT รายงานว่า นายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรี ต.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เปิดเผยแล้วว่า สุนัชชื่อ 'ซาร่า' ตายแล้ว เพราะการจับผิดวิธีของเจ้าหน้าที่เทศบาล ซึ่งมีทีมจับ 5 ราย

“สุนัขตกใจดิ้นสะบัด ทีมจับกดหัวลงพื้นเพื่อจับสุนัข อีกคนช่วยกดปากกดตัวเพื่อให้สุนัขนิ่ง ระหว่างนั้นหมาช็อกหยุดหายใจ ทีมเทศบาลต่างกลัวความผิดที่ทำหมาตายจึงนำร่างไปฝัง แล้วปิดบังความจริงด้วยการบอกว่า หมาหลุด หนีหายไป”

ทั้งนี้เพจรักสัตว์ ‘มะลิ กะปิ’ ได้โพสต์แสดงความเสียใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ นายกเทศบาลรับสารภาพแล้วว่า ซาร่าตายตั้งแต่วันแรกที่ถึงเทศบาล

จากการจับผิดวิธี นั่นคือจุดเริ่มต้นของการโกหกปิดบัง ประชาชนคนรักสัตว์ทั้งประเทศ นี่ไงความจริง ความจริงตามที่เราบอก อยู่ที่ว่าจะยอมรับเมื่อไหร่ สุดท้ายก็ต้องยอมรับ  

'พลโทนันทเดช' หยัน!! ซื้อบ้านเก่าของปรีดีที่ฝรั่งเศส แค่ละครฉากหนึ่ง ชี้!! เป็นการลงทุนแค่สลึงเดียว แต่คิดจะเอากลับคืนมาเป็นล้าน

(19 เม.ย. 67) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

บ้านเก่าของอาจารย์ปรีดี ที่ฝรั่งเศส หรือจะเป็นร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งแค่นั้น

การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เท่ากับเป็นการมองย้อนหลังไปหารากเหง้าของตัวเอง เพราะประวัติศาสตร์ คือ ต้นธารของสังคม และชีวิตผู้คนไม่ว่าจะเป็นไพร่ ผู้ดี หรือชนชั้นปกครอง โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิวัติ 24 มิถุนา 2475 ซึ่งในปัจจุบันมีผู้เขียนถึงกันมากมายหลายแง่มุม หลายทัศนะ แล้วแต่ความใกล้ชิดกับผู้คนในประวัติศาสตร์ หรือความเชื่อที่ได้รับมา หรือผลประโยชน์ที่ผูกพันกับตัวเอง จนกล่าวได้ว่า ไม่มีใครเป็นกลางได้จริงในเหตุการณ์ 24 มิถุนา 2475 แค่ดูหนังสือที่ขายในท้องตลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า มีแต่ผู้เขียนที่แข่งขันกันชื่นชมต่อคณะราษฎรเกือบ 80%

ดังนั้นเหตุการณ์ 24 มิถุนา 2475 จึงถูกนำมาผลิตเป็นหนังสือ ขายแล้วขายเล่า ไม่รู้จักจบสิ้น โดยไม่มีใครสนใจว่าข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์จะเป็นอย่างไร แค่ขอให้ตัวเองเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากชื่อ คณะราษฎร เท่านั้นก็พอ 

การซื้อบ้านเก่าของอาจารย์ ปรีดี ที่ฝรั่งเศส ก็คล้ายคลึงกัน มันเป็นแค่ละครฉากหนึ่งของพรรคการเมือง พรรคหนึ่ง ที่พิมพ์หนังสือออกมาขายเด็ก แล้วไม่มีคนอ่าน จึงลงทุนซื้อบ้านของ อาจารย์ปรีดี ซึ่งอุปมาเหมือนเป็นการลงทุนแค่สลึงเดียว แต่จะเอากลับคืนมาเป็นล้าน ยิ่งกว่าซื้อทองเก็งกำไร เห็นแล้วก็น่าสงสาร คณะราษฎร ที่วันเวลาผ่านมากว่า 90 ปีแล้ว ก็ยังถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลเพียงบางกลุ่ม ..ก็แค่นั้นเอง

ทหารใหม่ยุคเศรษฐา มาแล้วเน้นคุณภาพชีวิตหลังกองทัพขานรับปรับปรุงสถานที่รับพลัดหนึ่ง

บิ๊กทินสั่ง กองทัพเร่งปรับปรุงอาคารสถานที่รับทหารใหม่ผลัดหนึ่ง ทบ.ขานรับ สั่งยกเลิกนอนมุ้งจัดมุ้งลวดพร้อมเพิ่มสปริงเกอร์ลดร้อน มั่นใจเน้นคุณภาพทหารใหม่ไทยยุคใหม่ต้องไม่แพ้ชาติใดในโลก 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หลังการจบห้วงวาระการเกณฑ์ทหาร ตั้งแต่ วันที่ 2 ถึง 12 เมษายน ที่ผ่านมาพบว่านโยบายของรัฐบาลโดยกระทรวงกลาโหมในการจูงใจให้มีผู้มาสมัครการเกณฑ์ทหารนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยปีนี้มีผู้มาคัดเลือกทหารแบบสมัครใจกว่า สี่หมื่นนายสูงกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ซึ่งนโยบายนี้เป็นนโยบายที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่าจะต้องนำไปสู่การยกเลิกการเกณฑ์ทหารในอนาคตอันใกล้นี้  โดยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ให้นโยบายต่อเหล่าทัพที่จะต้องรับทหารใหม่ผลัด 1 เข้ากองทัพในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยให้แต่ละเหล่าทัพไปสำรวจและเร่งดำเนินการพัฒนาปรับปรุงสถานที่ต่างๆ ที่ทหารใหม่จะต้องเข้ามาประจำการใช้ อาทิ สถานที่ฝึก โรงนอน เป็นต้น         

ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพทหารบกได้รายงานว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้สำรวจและพัฒนาปรับปรุงสถานที่ต่างๆ ของกองทัพบกทั่วประเทศที่จะต้องรับทหารใหม่โดยให้ดำเนินการปรับปรุงโรงนอนทหารใหม่จำนวน 366 แห่ง ทั่วประเทศแล้วโดยล่าสุดได้เพิ่มระบบการระบายอากาศให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้น้อง ๆ ทหารใหม่พักผ่อนได้สบายมากขึ้น เพื่อคุณภาพในการพัฒนากำลังพลโดยยึดหลักการพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ ของประเทศ ให้ดีขึ้น       

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า กองทัพบก ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยล่าสุด กองทัพบกได้ให้หน่วยทหารช่างเร่งดำเนินการปรับปรุงโรงนอน ทหารใหม่แล้วอาทิ ติดมุ้งลวดโรงนอน และทยอยยกเลิกการนอนกางมุ้ง นอกจากนี้ยังเพิ่มระบบระบายอากาศด้วยการเพิ่มพัดลมขนาดใหญ่เพื่อทำให้อากาศหมุนเวียน นอกจากนั้นดำเนินการจัดทำระบบสปริงเกอร์ รดน้ำหลังคาไล่ความร้อนสะสมออกจากหลังคาและเพดาน ทำให้โรงนอนอากาศดีขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้กระทรวงทางกลาโหม ได้รับรายงานจากกรมการทหารช่างของกองทัพบก ว่าจะดำเนินให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคมนี้เพื่อพร้อม ต้อนรับทหารใหม่ผลัด1 ที่จะ มารายงานตัวในช่วง เดือนพฤษภาคนี้ ส่วนกองทัพอื่นๆอยู่ระหว่างการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเช่นเดียวกัน

อุทยานฯสิมิลัน ดักซุ่มวางแผนจับกุมคนแอบวางลอบดักจับสัตว์น้ำตามที่ได้รับแจ้งแล้ว คาดไหวตัวทันจึงเตรียมเข้าเก็บกู้

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตามที่เพจ Thon Thamrongnawawawat ซึ่งโพสต์ข้อความระบุว่าเกาะตาชัย เป็นเกาะที่เราพยายามเก็บไว้เพื่อรักษาธรรมชาติในยุคที่โลกกำลังย่ำแย่ การลักลอบจับสัตว์น้ำในพื้นที่ไม่ควรเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เพื่อนธรณ์ที่ไปดำน้ำแถวนั้นกรุณาแจ้งมาว่าพบลอบ จึงได้ประสานอธิบดีกรมทะเล ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาอุทยานทางทะเลเรียบร้อยแล้ว คงมีการจัดการอย่างรวดเร็ว

สำหรับกรณีดังกล่าว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับรายงานจากนายโดม จันทร์สุวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ว่าได้รับข้อมูลและรูปภาพจากนักดำน้ำ ซึ่งส่งข้อมูลและรูปภาพ ให้กับเพจของอาจารย์ธรณ์ฯเช่นกัน ซึ่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการ ใช้มีดกรีดทำลายลอบดักสัตว์น้ำดังกล่าวในทันที พร้อมทั้งได้วางแผนดักรอเพื่อจับกุมผู้กระทำผิด  โดยมีความจำเป็นที่ยังไม่อาจกู้ลอบดักสัตว์น้ำที่มีผู้ลักลอบวางไว้ขึ้นมาก่อนได้  เนื่องจากต้องการซุ่มจับกุมตัวผู้กระทำผิดให้ได้ พร้อมกับลอบดักสัตว์น้ำของกลาง แต่คาดว่าผู้กระทำผิด อาจรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจค้นพบลอบดังกล่าวแล้ว จึงไม่กลับมากู้ลอบ  อย่างไรก็ตาม อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน ได้เน้นย้ำการเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบเข้าไปกระทำผิดอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนสอดส่องบริเวณโดยรอบเกาะตาชัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาทรัพยากรใต้ท้องทะเลให้คงอยู่อย่างปลอดภัย ทั้งนี้อุทยานหมู่เกาะสิมิลัน จะเข้าดำเนินการเก็บกู้ลอบดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ (19 เมษายน 2567)

ส่งมอบพลังใจผ่านรถเข็นวีลแชร์ให้ผู้พิการที่ยากไร้ โดย ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์

วันที่ 19 เมษายน 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ และนางสาวนภสร ลำธารทอง รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสารแบรนด์และสื่อสารองค์กร พร้อมด้วยทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ณ ห้องรับรองชั้น 1 ตำรวจภูธร ภาค 1 โดยมี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้รับมอบ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ  นำรถเข็นวีลแชร์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 10 คัน โดยรับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) มามอบผ่านตำรวจภูธรภาค 1 เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับประชาชนทั่วไป ผู้พิการที่มาทำกิจธุระ รวมถึงแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจต่างๆ การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบผ่านตำรวจภูธรภาค 1 ในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ที่มาติดต่อธุระทางราชการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อสังคม และชุมชน

ด้าน พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า ต้องขอบคุณทางมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ที่ได้มามอบรถเข็นวีลแชร์ให้แก่ตำรวจภูธรภาค 1 ในครั้งนี้ สำหรับรถเข็นวีลแชร์ที่ทางมูลนิธิฯมอบให้ จะถูกจัดสรรไปยังสถานีตำรวจที่อยู่ในความดูแลของเราทั้ง 9 จังหวัด 134 สถานี (ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ อยุธยา สระบุรี อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท) ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

‘กีรติ รัชโน’ ปลัดพาณิชย์ เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 56 ปี หลังเข้ารับการรักษาตัวจากอาการป่วยวูบ-ล้มในบ้านพัก

(19 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีอาการป่วยวูบและล้มที่บ้านพัก เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น

ล่าสุดทางครอบครัวรัชโน แจ้งให้ทราบว่า “พ่อจั่น ได้จากไปแล้วอย่างสงบ ในวันที่ 19 เม.ย. 2567 เวลา 03.28 น. ก่อนที่พ่อจั่นจะจากไป พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ได้เทศน์นำทางก่อนลมหายใจสุดท้ายผ่านทางโทรศัพท์”

“ร่างกายเสมือนเป็นบ้าน บ้านของคุณกีรติตอนนี้กำลังจะผุพัง เราจึงไม่ควรไปห่วงหาอาลัยในบ้านที่กำลังจะพังทลายหลังนี้ เมื่อถึงเวลาที่บ้านพังลงมาแล้วก็ขอให้สละบ้านหลังนี้ เพื่อไปยังบ้านหลังใหม่ที่ดีกว่า บ้านที่สร้างจากคุณงามความดีตลอดชีวิตที่คุณกีรติได้สั่งสมมา”

“คุณกีรติไม่ต้องเป็นห่วงคนในครอบครัว ทั้งคุณแม่ ภรรยา และลูกทั้งสองคน ทุกคนจะสามารถอยู่ได้อย่างดีด้วยคุณงามความดีที่คุณกีรติได้ทำไว้ แม้ว่าคุณกีรติจะไม่อยู่แล้ว”

“ตอนนี้คุณกีรติกำลังจะต้องเดินทางไกล สัมภาระอะไรต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาไป ความห่วงใยกังวลใจทั้งหลายก็ทิ้งเอาไว้ ขอให้เอาพระรัตนตรัยเป็นสิ่งนำทางในการเดินทางไกลครั้งนี้ สิ่งที่ติดตัวไปคือความดีและบุญกุศลที่สร้างสมมา”

“พ่อจั่นได้อยู่ท่ามกลางครอบครัวอย่างใกล้ชิดจนลมหายใจสุดท้าย และพ่อจั่นได้เดินทางไปสู่สุคติแล้ว หมายกำหนดงานศพจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้สมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายกีรติ ได้ขอย้ายออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ พบว่า เส้นเลือดในสมองมีปัญหา แต่ต่อมาได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้ง เมื่อปี 2564 ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ก่อนจะขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ แทนปลัดกระทรวงคนเก่าที่เกษียณอายุ 30 ก.ย. 2565

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.67 บุตรสาวของนายกีรติ โพสต์ข้อความว่า “ขออนุญาตรายงานอาการปัจจุบันของคุณพ่อค่ะ วันนี้คุณพ่อมี ชีพจรเร็ว ความดันต่ำ สาเหตุจากการติดเชื้อในกระแสเลือดค่ะ ซึ่งอาการอยู่ช่วงที่วิกฤต ทางครอบครัวอยากใช้เวลากับคุณพ่อให้ได้มากที่สุด จึงขออนุญาตงดเยี่ยมคุณพ่อในช่วงนี้ค่ะ ทางครอบครัวขอขอบคุณความห่วงใยและกำลังใจจากทุกท่าน และขออภัยในความไม่สะดวกค่ะขอบพระคุณค่ะ”

สำหรับประวัติ นายกีรติ รัชโน เกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2510 ปัจจุบันอายุ 56 ปี มีชื่อเลนว่า ‘จั่น’ จบชั้นประถมจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล, ชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย , ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาสังคมวิทยา, จบปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการคลัง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และระดับปริญญาเอก บริหารธุรกิจ ยูไนเต็ด สเตตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยูนิเวอร์ซิตี้ สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ และการตลาดระหว่างประเทศ

>> ประสบการณ์การทำงาน

ปัจจุบัน - ปลัดกระทรวงพาณิชย์
พ.ศ. 2564 - 2565 รองปลัดกระทรวงพาณิชย์
พ.ศ. 2562 - 2563 อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
พ.ศ. 2561 - 2562 ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
พ.ศ. 2559 - 2562 รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
พ.ศ. 2556 - 2559 ผู้อำนวยการกองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ
พ.ศ. 2554 - 2556 ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสินค้าข้อตกลง กรมการค้าต่างประเทศ
พ.ศ. 2553 - 2554 ผู้อำนวยการกองนโยบายการค้าและพัฒนาระบบบริหาร

>> ผ่านการอบรม

- หลักสูตรนักบริหารระดับสูง : ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และคุณธรรม (นบส.) รุ่น 79
- หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ (TEPCoT) รุ่นที่ 11
- หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 63 (วปอ.63)

>> เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับ

- มหาวชิรมงกุฎ
- ประถมาภรณ์ช้างเผือก

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งชุดพญาเสือล่านายทุนสั่งเต่าปูลู ส่งนอกหลังจับผู้กระทำผิดได้ที่อุทยานผาแดง เกรงลุกลามไปในพื้นที่ป่าอื่นๆล่าสุดพบหลักฐานทั้งคนกลางและชาวต่างชาติคนสั่งซื้อ

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ โดยเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ที่ผ่านมานายประกาศิต  ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดง ร่วมกับชุดทหารชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพ บก.ผาดง ร่วมกันตั้งจุดสกัดเพื่อคัดกรองคนเข้าป่า ตามยุทธการเสือเฝ้าป่าบริเวณบ้านรินหลวง หมู่ 3 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันดังกล่าว พบชายขับรถจักรยานยนต์เพื่อจะผ่านด่านตรวจ มีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น พบ เต่าปูลู ในกระสอบปุ๋ยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ที่สะพายอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 17 ตัว (16 ตัวยังมีชีวิตอยู่ 1 ตัว ได้ตายไปแล้ว) น้ำหนักรวม 7.8 ก.ก. เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมชายดังกล่าวไว้เนื่องจากเต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พร้อมทำการสอบสวนขยายผล ทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลัง ชื่อนาย ยูดะ อายุ 50 ปี ราษฎรบ้านแกน้อย (หย่อมบ้านนาศิริ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

จากคำให้การของนายยูดะ ฯ ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายแดง ไม่ทราบนามสกุล คนอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรู้จักตอนไปทำงานด้วยกันที่ในเมืองเชียงใหม่เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ซึ่งได้ติดต่อกันผ่านช่องทาง messager โดยนายแดงใช้ชื่อดาเนียล  ซึ่งจากการตรวจสอบพบข้อความการสนทนาซื้อขายเต่าปูลูและการนัดหมายส่งของ โดยนายแดงได้ว่าจ้างให้หาเต่าปูลู โดยจะให้ค่าจ้างหลังส่งเต่าเสร็จ ในราคากิโลกรัมละ 2,400 บาท ซึ่งนายยูดะ ฯ ได้ทำการล่าตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.67 เป็นต้นมาใช้เวลาล่าอยู่ประมาณ 10 วัน และได้นัดหมายส่งเต่าปูลูกันที่บ้านห้วยป่าฮ่อม หมู่ 5 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่มาโดนเจ้าหน้าที่จับเสียก่อน เจ้าหน้าที่ได้ขอเพื่อตรวจสารเสพติด โดยการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดเบื้องต้น ผลตรวจเป็นบวก คือ พบสารเสพติดหรือพิษในร่างกาย ซึ่งรับสารภาพว่าเสพยาบ้า 1เม็ดครึ่ง เมื่อ4วันที่แล้ว ในระหว่างการล่าเต่าปูลู 

โดยเมื่อวันที่ 17เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ให้นายยูดะ ฯ พาไปชี้จุดเกิดเหตุว่าจับเต่าปูลูมาจากที่ใด ครั้นจนมาถึงจุดที่นายยูดะฯ พามา คือป่าต้นน้ำบ้านนาศิริ บริวณลำห้วยน้ำเฮื้อง หรือลำห้วยผาแดง พิกัด 485753E 2176440 N ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง โดยเต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ห้ามผู้ใดล่า ค้า หรือครอบครอง รวมทั้งซากของสัตว์ป่าดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและแจ้งข้อกล่าว ดังนี้ 

1. ฐาน ร่วมกัน นำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (3) และ มาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 2. ฐาน เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 และ มาตรา 47 ตามประกาศอุทยานแห่งชาติผาแดง ฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2567 เรื่องห้ามเข้าไปในเขตป่าอุทยานแห่งชาติผาแดง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

 3. ฐาน ร่วมกัน ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 และ มาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4. ฐาน ร่วมกัน มีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 และมาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5.ฐาน ร่วมกัน ค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าวตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 29 และมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ นายอรรถพลฯ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้กำชับสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกแห่ง เข้มงวดสอดส่องดูแลการล่าสัตว์ในพื้นที่โดยเฉพาะเต่าปูลู ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก เพื่อป้องกันขบวนการลักลอบจับเต่าปูลู โดยหากพบการกระทำผิด ให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทุกราย ล่าสุดได้สั่งชุดพญาเสือดำเนินการสืบสวนหาตัวกลุ่มนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังที่สั่งเต่าปูลูส่งนอก หลังจับกุมผู้กระทำผิดได้ที่อุทยานแห่งชาติผาแดง เกรงลุกลามไปในพื้นที่ป่าอื่นๆ เนื่องจากพบหลักฐานทั้งคนกลางและชาวต่างชาติซึ่งเป็นคนสั่งซื้อ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top