Saturday, 30 September 2023
WORLD

‘ไรเดอร์หัวร้อน’ ลูกค้าไม่รับสาย-ปล่อยให้รอนาน แต่พอเห็นเจ้าตัวออกมารับอาหาร รู้สึกผิดทันที!!

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า โลกออนไลน์ได้การแชร์คลิปสุดพีค หลังจากไรเดอร์หนุ่มชาวมาเลเซียโพสต์คลิปไปส่งอาหารให้ลูกค้า แต่ด้วยความที่ลูกค้าไม่ยอมรับสาย และต้องยืนรอนานท่ามกลางอากาศร้อน ทำให้เขาทั้งโมโหและหงุดหงิดอย่างมาก ก่อนเห็นลูกค้าออกมารับอาหาร ถึงกับรู้สึกผิดเลยทีเดียว

โดยผู้โพสต์เล่าว่า ในวันดังกล่าวเขาส่งอาหารไปยังที่อยู่ที่ระบุ แต่ไม่มีใครรับสาย เขาต้องยืนรอหน้าประตูรั้วบ้าน ท่ามกลางอากาศร้อน ๆ และมีแดดจัด ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจและโกรธ จนกระทั่งมีเสียงในบ้านบอกให้เดินเข้าไปภายในบริเวณบ้าน และเมื่อประตูบ้านเปิดจึงทำให้เขาเห็นว่าลูกค้าที่เขาต้องมาส่งอาหารให้นั้น เป็น ‘ชายพิการนั่งรถเข็น’ ความโกรธของเขาก็กลายเป็นความรู้สึกผิดทันที

ทั้งนี้ แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะระบุว่า ‘เป็นคำสั่งสำหรับคนพิการ’ แต่เขาไม่ทันได้สังเกตเห็น เขายังบอกด้วยว่า “คุณลุงดูมีความสุขเมื่อได้รับอาหาร เพราะมีคนสั่งอาหารให้เขา” ซึ่งท้ายที่สุดเขาก็กลั้นน้ำตาไม่ไหว ถึงปล่อยโฮออกมาเลยทีเดียว

‘อุรุกวัย’ ผงะ!! พบ ‘แมวน้ำ-สิงโตทะเล’ ตายเกลื่อนหาดร่วม 400 ตัว คาด ‘ไข้หวัดนก’ ระบาด เตือน นทท.เลี่ยงการสัมผัสสัตว์รอบชายหาด

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 ทางการของประเทศอุรุกวัย เปิดเผยว่า พบแมวน้ำและสิงโตทะเลขึ้นมาตายตามแนวชายฝั่งของประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ รวมกันแล้วราว 400 ตัว คาดว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนก

ขณะนี้หลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องของอุรุกวัย กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากตรวจพบเชื้อไวรัส ‘ไข้หวัดนก H5’ ในสิงโตทะเลตัวหนึ่งเป็นครั้งแรก บนชายหาดของกรุงมอนเตวิเดโอ ซึ่งมีแม่น้ำเพลตไหลผ่านลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก

โดยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เสียชีวิตเหล่านี้ ถูกพบบนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกและริมแม่น้ำ ซึ่งจนถึงตอนนี้ได้มีการฝังซากสิงโตทะเลและแมวน้ำที่พบตายบนหาดไปแล้ว 350 ตัว

‘คาร์เมน เลซาโกเยน’ หัวหน้ากรมสัตว์ประจำถิ่น กระทรวงสิ่งแวดล้อมของอุรุกวัย กล่าวว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่มีพัฒนาการอยู่ในขณะนี้ และเราเชื่อมาจากเชื้อไข้หวัดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ และเราต้องรอจนกว่าสัตว์เหล่านั้นจะมีภูมิคุ้มกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม ‘อุรุกวัย’ ถือเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิงโตทะเลและแมวน้ำ กว่าประมาณ 315,000 ตัว หลังเกิดสถานการณ์ข้างต้นขึ้น ทางการอุรุกวัยก็ได้ร้องขอให้ผู้ที่มาเที่ยวชมหาดอยู่ให้ห่างสัตว์เหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ขณะที่การติดเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์ยังเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้

‘ชายวัย 32 ปี’ บุกกราดยิง รพ.มหาวิทยาลัยแพทย์ใน ‘เนเธอร์แลนด์’ ทำ ‘หมอ-พยาบาล-คนไข้’ วิ่งหนีตายระทึก พบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

(29 ก.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า มีชายวัย 32 ปีได้สวมชุดนักรบและเสื้อเกราะกันกระสุนบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ที่อยู่ติดกับบ้านของตัวเอง ก่อเหตุกราดยิง 2 ครั้งในเมืองรอตเตอร์ดัม ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย โดยเป็นหญิงวัย 39 ปี และลูกสาว วัย 14 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังจากนั้น มือปืนได้บุกเข้าไปที่ห้องเรียนในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอีราสมุส เอ็มซี และยิงอาจารย์วัย 46 ปีเสียชีวิตเป็นรายต่อไป

ก่อนจะเปิดฉากยิงขึ้นอีกครั้งภายในอาคารโรงพยาบาลดังกล่าว ทำให้แพทย์ พยาบาล และคนไข้แตกตื่น จนต้องหนีมาอยู่นอกอาคาร ก่อนที่ตำรวจจะเข้าควบคุมสถานการณ์ และคุมตัวมือปืนไปสอบสวน เพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า มือปืนรายนี้ชอบทรมานสัตว์ และเคยทรมานกระต่ายที่เขาเลี้ยงเอาไว้

สหรัฐฯ ชี้!! จีนพยายามก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก หวังครอบงำโลกในด้านการทหาร-เศรษฐกิจ-การทูต

(29 ก.ย. 66) นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกมาระบุว่า จีนกำลังพยายามที่จะแซงหน้าสหรัฐเพื่อก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจโลก หลังถูกตามในเวทีที่จัดขึ้นโดยนิตยสารแอตแลนติก เมื่อวันที่ 28 กันยายน

เมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขามองว่าเป็นความมุ่งหมายของจีน บลิงเกนกล่าวว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่จีนต้องการคือการเป็นมหาอำนาจที่ครอบงำโลก ทั้งด้านการทหาร เศรษฐกิจ และการทูต นั่นคือสิ่งที่สี จิ้นผิง กำลังพยายามทำ

อย่างไรก็ดี บลิงเกนรับว่า ในแง่หนึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะจีนมีประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดา ถ้าคุณมองและฟังผู้นำจีน พวกเขากำลังพยายามกอบกู้สิ่งที่พวกเขาเชื่อว่า เป็นที่ทางอันถูกต้องของพวกเขาบนโลกนี้

บลิงเกนยังกล่าวด้วยว่า เดิมพันในเรื่องไต้หวันนั้นสูงเป็นพิเศษ เพราะไต้หวันมีบทบาทในเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางของเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง หากมีวิกฤตที่ไต้หวันซึ่งมาจากการกระทำของจีน ก็จะทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก

“ผมคิดว่าสิ่งที่จีนได้ยินเพิ่มขึ้นจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกคืออย่ากวนน้ำให้ขุ่น เราต้องการ และทุกคนก็ต้องการ สันติภาพและความมั่นคง ทุกคนต้องการให้มีการรักษาสถานะที่ดำรงอยู่ในขณะนี้ต่อไป” บลิงเกนกล่าว

ก่อนหน้านี้บลิงเกนเคยพูดอ้อมๆ ถึงความปรารถนาของจีนที่จะปรับเปลี่ยนระเบียบโลก และฝ่ายบริหารของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่แม้จะกดดันจีนอย่างชัดเจน แต่ก็ยังพยายามที่จะเจรจาด้วยความหวังว่าจะจัดการกับความตึงเครียดระหว่างกัน ซึ่งนำไปสู่การเยือนจีนของบลิงเกนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเท่าใดนัก

‘ญี่ปุ่น’ เตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีอีกครั้ง 5 ต.ค.นี้ ท่ามกลางเสียงค้านจากนานาประเทศที่ยังคงกึกก้อง

(29 ก.ย. 66) สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่า ‘บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค’ (เทปโก้) ผู้บริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะทำการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีครั้งใหม่ ในวันที่ 5 ต.ค.นี้

‘เทปโก้’ เปิดเผยว่า การปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีที่ผ่านการบำบัดในรอบนี้จะใช้เวลา 17 วัน โดยจะมีการปล่อยน้ำจำนวน 7,800 ตัน ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับการปล่อยน้ำในรอบแรก ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 24 ส.ค. และเสร็จสิ้นในวันที่ 11 ก.ย.

เทปโก้จะเริ่มเตรียมการในวันที่ 3 ต.ค.เพื่อยืนยันระดับสารทริเทียม ก่อนที่จะมีการปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีครั้งใหม่

‘ไมเคิล แกมบอน’ เจ้าของบท ‘ศ.อัลบัส ดัมเบิลดอร์’ เสียชีวิตแล้วในวัย 82 ปี หลังจากป่วยโรคปอดบวม

(29 ก.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เซอร์ไมเคิล แกมบอน นักแสดงชาวอังกฤษเชื้อสายไอร์แลนด์ ผู้รับบทศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนฮอว์กวอตส์ ในภาพยนตร์แฟรนไชส์ดังอย่าง ‘แฮร์รี พอตเตอร์’ ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบในวัย 82 ปี ที่โรงพยาบาล

จากการแถลงการณ์ของเลดี้แกมบอน (ภรรยา) และเฟอร์กัส (ลูกชาย) ระบุว่า "เราเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องประกาศการสูญเสียเซอร์ไมเคิล แกมบอนที่เป็นทั้งสามีและพ่ออันเป็นที่รัก เขาเสียชีวิตอย่างสงบในโรงพยาบาล โดยมีแอนน์ ภรรยาของเขาและเฟอร์กัส ลูกชายอยู่ข้างเตียง หลังจากป่วยด้วยโรคปอดบวม"

เซอร์ไมเคิล แกมบอน เกิดที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์เมื่อปี 1940 แต่ย้ายไปอยู่ลอนดอนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาเติบโตขึ้นมาในชุมชนผู้อพยพชาวไอริชในแคมเดน และงานแรกของเขาคือช่างทำเครื่องมือฝึกหัด เขาเริ่มมีความหลงใหลในปืนโบราณ นาฬิกา และรถคลาสสิก

เริ่มต้นเส้นทางการแสดงจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกของโรงละครรอยัล เนชันแนล เธียเตอร์ ในกรุงลอนดอน และได้แสดงในบทประพันธ์ของเชกสเปียร์หลายเรื่อง ทั้งยังได้รับพระราชทานเครื่องราชชั้นอัศวินจากการทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิงในปี 1998 แต่ที่เป็นที่โด่งดังที่สุดกับการรับบทศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนฮอว์กวอตส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครดังในภาพยนตร์เรื่องดัง ‘แฮร์รี พอตเตอร์’ ผลงานเขียนของ เจ.เค. โรว์ลิง นักเขียนนวนิยายคนดัง
 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ชื่นชมไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนอบอุ่น ย้ำชัด!! ‘จีน-ไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน’

นายวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า จีนยินดีที่ประเทศไทยใช้นโยบายยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยเป็นระยะสั้น ทั้งชื่นชมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นมิตรกับพลเมืองจีนที่เดินหน้าเข้าประเทศไทย

หลังวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ประเทศไทยใช้นโยบายยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีน ระยะเวลา 5 เดือน โฆษกจีนแถลงว่า จีน-ไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านฉันมิตรและประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน การเพิ่มการไปมาหาสู่กันทางบุคลากรเป็นสิ่งอันพึงมีในการสานสัมพันธ์ ‘จีน-ไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน’ และเป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของจีน-ไทยในสมัยใหม่ ทั้งนี้จีนยินดีร่วมกับประเทศไทย ขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรมและแวดวงอื่น ๆ มากขึ้น ให้ประชาชนจีน-ไทยเป็นมิตรกันมากขึ้น

รู้จักแอปฯ อัจฉริยะ ‘DingTalk for Asian Games’ เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ ‘เอเชียนเกมส์หางโจว’

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 เผยโฉมโซลูชัน ‘DingTalk for Asian Games’ หัวใจของการจัดงาน ‘เอเชียนเกมส์หางโจว’ เป็น ‘DingTalk’ เวอร์ชันที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดงานเอเชียนเกมส์ครั้งนี้

เบื้องหน้าของมหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ มีเบื้องหลังที่แสนอัจฉริยะ ‘DingTalk for Asian Games’ เป็นดิจิทัลโซลูชันคลาวด์-เนทีฟที่ทำงานและบริหารจัดการบนคลาวด์ที่เสถียร ปรับขนาดได้ และปลอดภัย เป็นเครื่องมือทำงานร่วมกันแบบ one-stop ที่เชื่อมโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในทุกขั้นตอนของการจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์หางโจว ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้จัดงาน ซัพพลายเออร์ ไปจนถึงอาสาสมัคร และผู้ดำเนินงานที่ประจำอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ครอบคลุมทุกรูปแบบการทำงาน เช่น การอนุมัติด้านการบริหาร การประชุม การฝึกซ้อม การสนับสนุนของสปอนเซอร์ การตรวจสอบสภาพอากาศ การสนับสนุนทางการแพทย์ รวมถึงระบบพิเศษสำหรับการแพร่ภาพวิดีโอ การบริหารจัดการด้านไอที และการบริหารจัดการด้านอาสาสมัคร

‘อเล็กซ์ ลี’ รองประธานของ DingTalk กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่จะได้มอบโซลูชันนี้ที่จะช่วยให้ผู้จัดงานและการดำเนินงานของหางโจวเอเชียนเกมส์มีประสิทธิภาพมากขึ้น DingTalk มีบทบาทสำคัญมากต่อเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ และเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีช่วยให้การจัดงานที่มีขนาดใหญ่ระดับนี้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้อย่างไร

DingTalk for Asian Games ไม่เพียงเชื่อมต่อผู้คนให้ทำงานร่วมกันได้เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวมผู้ใช้ที่มีจุดประสงค์และความสนใจร่วมกันไว้ด้วยกัน เราเชื่อว่าเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนสำหรับการจัดงานกีฬาขนาดใหญ่ในอนาคต คือ จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่ชาญฉลาดเอาไว้ทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการด้านการสื่อสารของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย”

นั่นหมายความว่า ในแง่ของการแข่งขัน DingTalk for Asian Games มีบทบาทช่วยให้การแข่งขันมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น มีความสะดวก ถูกต้องแม่นยำ สมกับความเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ

ในแง่ของการประสานงาน เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วย ‘DingTalk for Asian Games’ มีลักษณะเป็นโครงสร้างองค์กรแบบแนวราบ (flat organizational structure) ที่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครนับหมื่นคนแสดงตัวและสื่อสารซึ่งกันและกัน สื่อสารกับพันธมิตรภายนอก ตลอดจนแบ่งปันข้อมูลและจัดประชุมต่างๆ ได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ DingTalk for Asian Games ใช้ความสามารถของบริการ Alibaba Cloud Machine Translation ที่ใช้เทคโนโลยี deep learning และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) ที่มีประสิทธิภาพระดับแนวหน้าของบริษัทฯ จึงแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้อย่างอัจฉริยะถึง 14 ภาษา รวมถึงภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และไทย นับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างพนักงานและผู้เข้าร่วมงานจากนานาประเทศ

ในการใช้งาน ‘DingTalk for Asian Games’ ก็นับว่าค่อนข้างเข้าถึงง่าย เพราะได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานกับสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อภาพและเสียงระหว่างผู้ใช้และศูนย์ปฏิบัติการหลักของการแข่งขัน (main operation center : MOC) ได้ทันที จะช่วยให้ MOC ติดต่อกับพนักงานและสถานที่จัดงานทั้งหมด เพื่อทำการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงแค่นั้น DingTalk for Asian Games ยังมีคุณสมบัติอีกหลายอย่างที่จะเป็นตัวช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องกับเอเชียนเกมส์ประสานงานและทำงานสะดวกมากๆ ดังนี้

สร้างการทำงานแบบไร้ขีดจำกัด
‘DingTalk for Asian Games’ ช่วยให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคนทำงานใกล้ชิดกันโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ทำงานโดยเฉพาะ ทุกคนทำงานร่วมกัน ผ่านการพรีวิวและรีวิวออนไลน์ แก้ไขได้แบบเรียลไทม์ และจัดการกับระบบจัดเก็บการเปลี่ยนแปลง (version control) ที่เกิดขึ้นกับเอกสารนั้นๆ ได้

ประสิทธิภาพของ DingTalk for Asian Games ช่วยให้ประมวลผลคำขออนุมัติ ครอบคลุมบริการด้านการบริหารต่างๆ การใช้สินทรัพย์ การยื่นใบรับรองของซัพพลายเออร์ กิจกรรมทางการตลาด และอื่นๆ อีกมากมาย โดยที่ไม่ต้องใช้กระดาษแม้แต่แผ่นเดียว

ทำงานโดย AI สุดอัจฉริยะ
‘DingTalk for Asian Games’ ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)  ทำให้เข้าใจ ตอบสนอง และสร้างคอนเทนต์ เพื่อรองรับความต้องการหลากหลายระหว่างการเตรียมงาน เช่น เมื่อนำแชตบอท ที่ built-in อยู่ใน DingTalk มาใช้ในกรุ๊ปแชตของเอเชียนเกมส์ จะตอบคำถามที่เกี่ยวกับการแข่งขันต่างๆ ได้อัตโนมัติอย่างรวดเร็ว โดยการวิเคราะห์และดึงข้อมูลจากเนื้อหาและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการแข่งขัน รวมถึงกติกาการแข่งขัน และเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำถาม ผู้ใช้จะย่อยเนื้อหาเพื่อดึงประเด็นสำคัญ หรือใช้เพื่อทำข่าวประชาสัมพันธ์ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ใช้งานง่าย
‘DingTalk for Asian Games’ ออกแบบมาให้มีฟีเจอร์ low-code ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้พัฒนาแอปพลิเคชันของตนเองและปรับให้เหมาะและเจาะจงกับสถานการณ์ใหม่ๆ เช่น แอปพลิเคชันนัดหมายที่เป็นแบบ low-code ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อให้นักกีฬานัดหมายการฝึกซ้อมได้สะดวกและได้ผลดีมากขึ้น นักกีฬาตรวจสอบความพร้อมของสถานที่ฝึกซ้อมในสนามกีฬาเอเชียนเกมส์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของเมืองหางโจวและเมืองใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย และจองสถานที่สำหรับฝึกซ้อมล่วงหน้าผ่าน mini app บน DingTalk for Asian Games

‘เกอ จาง’ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิทยุ โทรทัศน์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะกรรมการจัดงานเอเชียนเกมส์หางโจว ให้ข้อมูลว่า…

“ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังระหว่างคณะกรรมการจัดงานเอเชียนเกมส์หางโจว และ DingTalk ช่วยให้ DingTalk for Asian Games ประสบความสำเร็จในการประสานความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ขององค์กรออนไลน์ การสื่อสารออนไลน์ และธุรกิจออนไลน์ ให้ผู้เข้าร่วมงานทุกระดับ ทุกแผนก และทุกภูมิภาค DingTalk for Asian Games ไม่เพียงทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลของหางโจวเป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นทรัพย์สินและประสบการณ์อันมีค่าที่หางโจวต้องการมอบให้การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติต่างๆ ในอนาคตด้วย”

สละตั๋ว 11 ใบ ของขวัญพิเศษจาก ‘คนจีน’ แก่ ‘เทนนิส พาณิภัค’ หลัง ‘ครอบครัววงศ์พัฒนกิจ’ ตามมาเชียร์ แต่บัตรหมดเกลี้ยง

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, หางโจว รายงานข่าวนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยชื่อดังอย่าง ‘พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ’ หรือ ‘เทนนิส’ ชัยชนะของเธอจากการแข่งขันเทควันโดหญิง รุ่น 49 กิโลกรัม ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 หรือ ‘หางโจว เอเชียนเกมส์’ ณ นครหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน มีความหมายมากกว่าเหรียญทอง โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวของเธอได้รับบัตรเข้าชมการแข่งขันฟรีจากคนท้องถิ่นถึง 11 ใบ

โดยก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศกับ ‘กัวชิง’ นักกีฬาของจีน ครอบครัวของเทนนิสวนเวียนอยู่ใกล้สำนักงานจำหน่ายบัตรเข้าชมอย่างกังวลใจ รวมถึงทารกน้อยที่เดินทางไกลจากไทยมาให้กำลังใจเธอ โดยพี่สาวของเทนนิสเล่าว่า เธอกับพ่อมักมาให้กำลังใจน้องสาวเสมอ และการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ครอบครัวทั้ง 12 คน ได้เดินทางมาถึงหางโจวเพื่อเชียร์เธอ ซึ่งตอนมาถึงสนามแข่งขัน พวกเขามุ่งหน้าไปซื้อบัตรเข้าชมทันทีแต่พบว่าบัตรได้ขายหมดแล้ว

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนี้ได้รับความสนใจจากบรรดาผู้ชมอย่างมาก เนื่องด้วยชื่อเสียงของกัวชิงในฐานะตัวเต็ง ครั้นเจ้าหน้าที่ประจำสนามแข่งขันเทควันโดรับทราบสถานการณ์ข้างต้นของครอบครัววงศ์พัฒนกิจแล้ว มีการแจ้งข่าวถึงสื่อท้องถิ่นมารายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเพียง 2 ชั่วโมงหลังจากนั้น คนท้องถิ่นผู้มีน้ำใจ 11 คน ได้เข้ามาบริจาคบัตรเข้าชม เพื่อเป็นกำลังใจให้ครอบครัววงศ์พัฒนกิจ

‘เหยียนเยี่ยน’ หนึ่งในผู้บริจาคบัตรเข้าชม เผยว่า เธอสามารถหาโอกาสชมการแข่งขันในอนาคตได้ และอยากให้ความสำคัญกับแขกจากต่างบ้านต่างเมืองก่อน ซึ่งนี่เป็นอีกวิธีแสดงการสนับสนุนการแข่งขันเอเชียนเกมส์ด้วย โดยเหยียนเสริมว่า สำหรับสมาชิกครอบครัววงศ์พัฒนกิจที่เดินทางมาไกลมาก หากพลาดชมการแข่งขันคงจะเสียใจไม่น้อย ดังนั้น ทุกคนที่เข้าใจความรู้สึกนี้ดีจึงเต็มใจมอบความช่วยเหลือ

ด้านพี่สาวของเทนนิสถึงกับน้ำตารื้นหลังจากรับบัตรเข้าชม เผยว่าเธอซาบซึ้งใจอย่างมากกับความช่วยเหลือทั้งหมด ทำให้ครอบครัววงศ์พัฒนกิจมีความสุขมาก

โดยท้ายที่สุด ครอบครัววงศ์พัฒนกิจได้ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นรับเหรียญรางวัลของนักกีฬาสาวชาวไทย ขณะเทนนิสขอบคุณผู้มอบโอกาสให้ครอบครัวของเธอได้เข้ามาเป็นกำลังใจระหว่างการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่มีความหมายกับเธอมาก พร้อมย้ำว่า ขอบคุณจากใจจริงสำหรับความอบอุ่นและน้ำใจจากเพื่อนๆ ชาวจีน

‘วัยรุ่นมะกัน’ นับร้อย ปลอมตัวบุกห้าง-ร้านค้า ในฟิลาเดลเฟีย ขโมยสินค้า-ทำลายข้าวของ-ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ รปภ.

(28 ก.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ของสหรัฐฯ เกิดเหตุที่กลุ่มคนจำนวนมากกรูกันเข้าไปขโมยหยิบฉวยสิ่งของ และรีบสลายตัวไปอย่างรวดเร็วโดยร้านค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย ส่วนใหญ่เป็นร้านสาขาภายในห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ริมถนน ซึ่งมีทั้งช็อปของ Lululemon แบรนด์ชุดออกกำลังกายดัง และร้าน Foot Locker ร้านค้าปลีกสินค้ากีฬา

หลังเกิดเหตุพบว่าสภาพภายในช็อป เสียหายยับเยิน กระจกแตก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำช็อปหลายคนถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระดมกำลังออกระงับเหตุ ระบุว่า มีแก๊งวัยรุ่นเข้าร่วมปล้นสะดม 100-200 คน หลายคนเลือกที่จะสวมหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าเบื้องต้น มีรายงานผู้ก่อเหตุถูกจับกุมไปจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

‘จีน’ ออกหนังสือปกขาว เปิดวิสัยทัศน์มุ่งหน้าพัฒนาประชาคมโลก นำเสนอแนวทางจัดระเบียบโลกใหม่ เพื่อแบ่งปันอนาคตร่วมกัน

(27 ก.ย. 66) หลังจากที่ ‘สี จิ้นผิง’ ผู้นำสูงสุดของจีน เคยออกมาสร้างความฮือฮา ด้วยการประกาศเป้าหมายในการสร้างทางสายใหม่แห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยโครงการยักษ์ใหญ่ ‘Belt and Road Initiative’ (ฺBRI) เมื่อปี 2013 มาแล้ว

ผ่านมา 10 ปี วันนี้ รัฐบาลจีนได้ออกหนังสือปกขาว ที่เป็นเหมือนพิมพ์เขียวฉบับใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า ‘A Global Community of Shared Future : China's Proposals and Actions.’ หรือ ประชาคมโลกแห่งอนาคตร่วมกัน : ข้อเสนอและแผนการดำเนินการของจีน

โดยได้นำเสนอพื้นฐานทฤษฎี, หลักปฏิบัติ และแผนพัฒนาประชาคมโลกในมุมมองวิสัยทัศน์ของรัฐบาลจีน ซึ่งต่อต้านความคิดของบางประเทศ ที่พยายามแสวงหาอำนาจสูงสุดในการครอบงำโลก ในขณะที่จีนนำเสนอวิธีในการแบ่งปันอนาคตร่วมกันระหว่างประชาคมโลก ผ่านพันธมิตรในเขตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์ BRI ของจีน

การออกสมุดปกขาวแสดงเจตจำนง และ วิสัยทัศน์ฉบับล่าสุดของจีน ที่เป็นเหมือนการปักหมุดครบรอบ 10 ปี ของการเปิดโครงการ BRI เป็นเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายสำหรับจีนยิ่งกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วอย่างแน่นอน

เนื่องจากโลกเพิ่งผ่านวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ อาทิ การระบาดของ Covid-19, การหดตัวทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในหลายประเทศ รวมถึงสงครามทางเศรษฐกิจ และภูมิศาสตร์การเมืองที่ยังคงเข้มข้น และจีนก็ถูกจับตามองมากขึ้นกว่าเมื่อ10 ปีก่อน ในฐานะที่เป็นทั้งชาติมหาอำนาจ และภัยคุกคาม

นักวิเคราะห์จีนมองว่า รัฐบาลปักกิ่งก็ตระหนักถึงความท้าทายนี้ ที่จีนมักถูกโจมตีจากสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ด้วยวาทกรรม เช่น ‘ประชาธิปไตย vs เผด็จการ’ การเผชิญหน้ากับจีนด้วยรูปแบบการใช้พันธมิตรกดดัน การกล่าวหาจีนในเรื่องการจารกรรมเทคโนโลยี ล้วนแต่เป็นวิธีในการรักษาระเบียบโลกเก่าที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นใหญ่

ซึ่งจีนมองว่าทั้งแนวคิด และพฤติกรรมของชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ทำให้เกิดความตึงเครียด และความขัดแย้งไปทั่วโลก อย่างไม่จบ ไม่สิ้น จนนำไปสู่สงครามเย็นรูปแบบใหม่ ดังนั้น จีนและอีกหลายประเทศจึงเกิดความคิดเหมือนกันว่า ควรหาหนทางจัดระเบียบโลกใหม่ ที่ให้ประชาคมโลกทั้งหมดสามารถสร้างและแบ่งปันอนาคตร่วมกันได้

ด้าน ‘ศาสตราจารย์ อู่ ซินปั๋ว’ ผู้อำนวยการสถาบันอเมริกันศึกษาของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น ได้กล่าวถึงสมุดปกขาวฉบับใหม่ว่า รัฐบาลจีนต้องการก้าวขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจที่มีบทบาทสังคมโลกอย่างเปิดเผย และต้องการให้ชาติอื่นๆ ในประชาคมโลกสนับสนุน ดังนั้น รัฐบาลจีนจำเป็นต้องสื่อสารให้ชัดเจนถึงทิศทาง และเป้าหมายที่จีนกำลังจะมุ่งหน้าไปว่าไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของจีนชาติเดียว แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในสังคมโลกด้วย

ซึ่งชัดเจนว่า สมุดปกขาวของจีน นำเสนอแนวคิดเชิงการทูตสไตล์จีน ที่ต้องการสร้างระเบียบโลกทางเลือก จากที่เคยนำโดยชาติพันธมิตรตะวันตก และเป็นการต่อยอดจากโครงการ BRI ของจีน ซึ่งจากการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 มีประเทศกว่า 3 ใน 4 ของโลก และ องค์กรนานาชาติกว่า 30 แห่ง ได้เซ็นข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ BRI ของจีนแล้ว ซึ่งน่าจะมีพลังมากพอที่จีนจะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนประชาคมโลกที่เกิดจากความร่วมมือ และแบ่งปัน แทนการชี้นำโดยชาติมหาอำนาจเพียงชาติเดียว

และนี่ก็เป็นภาพรวมของยุทธศาสตร์โลกของจีน ที่หวังสร้างประชาคมโลกในอุดมคติใหม่ ท่ามกลางวิกฤติปัญหาเศรษฐกิจ และ สังคมที่รุมเร้าจีน และอุปสรรคใหญ่ที่สุดของจีน ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา ที่มีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง สามารถชี้นำไปในทิศทางเดียวกันได้

ซึ่งจีนต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการสร้างความมั่นใจให้ชาวประชาคมโลก ‘ซื้อ’ ไอเดียของสมุดปกขาวนี้ และมองเห็นอนาคตในมุมมองเดียวกันกับที่จีนมอง ที่อาจต้องใช้เวลา 10 ปี หรือนานกว่านั้น 

เรื่อง : ยีนส์ อรุณรัตน์

เกม ‘Candy Crush Saga’ โกยรายได้สะสม 2 หมื่นล้านดอลฯ ผู้พัฒนาเกมเตรียมเพิ่มเลเวลเป็น 1.5 หมื่นด่าน เอาใจขาประจำ

(27 ก.ย. 66) บริษัทคิง (King) บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเกม Candy Crush Saga Farm Heroes Saga และอื่น ๆ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เกมแคนดี้ ครัช ซาก้า (Candy Crush Saga) เกมจับคู่ของหวานที่มีผู้เล่นหลายล้านคนระหว่างการเดินทาง มีรายได้แตะ 2 หมื่นล้านดอลลาร์แล้วนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2555 และเตรียมจะเพิ่มเลเวลถึง 15,000 ด่านสำหรับผู้เล่นที่ทุ่มเทให้กับเกมนี้มากที่สุด

เกม Candy Crush Saga เริ่มแรกเป็นเกมบนเว็บไซต์ จากนั้นก็มาอยู่ในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก และพัฒนามาเป็นเกมในโทรศัพท์มือถือ โดยมียอดดาวน์โหลดถึง 5 พันล้านครั้ง

นอกจากนี้ Candy Crush Saga ยังเป็นหนึ่งในเกมที่บุกเบิกฟรีเมียม โมเดล (Freemium Model) หมายความว่า เกมนี้เล่นได้ฟรี แต่ผู้เล่นสามารถใช้เงินจริง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมของตน หรือสามารถดูโฆษณาเพื่อให้สามารถเล่นเกมต่อได้

นายโชดอล์ฟ ซอมเมสตัด ประธานบริษัทคิงกล่าวว่า เกม Candy Crush Saga และเกมอื่น ๆ เช่น ฟาร์ม ฮีโร่ ซาก้า (Farm Heroes Saga) เป็นข้อพิสูจน์ว่าเกมบนมือถือสามารถดึงดูดใจได้อย่างยั่งยืน

นายซอมเมสตัดให้สัมภาษณ์ว่า “เราได้พิสูจน์แล้วว่า เราสามารถสร้างเกมที่อยู่ได้ยาวนานหลายปี และรักษาให้อยู่รอดได้เป็นเวลา 10 ปี หรือนานกว่านั้น และทำลายสถิติแม้กระทั่งในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Candy Crush เป็นแฟรนไชส์เกมที่ทำรายได้สูงสุดในแอปสโตร์ของสหรัฐฯ ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยความจริงที่นายซอมเมสตัดกล่าวนั้นได้ตอกย้ำถึงทั้งความสำเร็จในกลยุทธ์ของคิง และความท้าทายสำหรับผู้พัฒนาเกมหน้าใหม่

‘รัสเซีย’ เล็งแบนนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่น ปมปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีสู่ทะเล

สำนักงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางอาหารของรัสเซีย (Rosselkhoznadzor) ระบุในวันอังคาร (26 ก.ย.) ว่า รัสเซียกำลังพิจารณาที่จะดำเนินการตามจีนในการสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเล หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค. และวางแผนที่จะหารือเรื่องดังกล่าวกับญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากจีน หลังปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีลงสู่ทะเลในเดือนที่ผ่านมา โดยจีนได้ตอบโต้การดำเนินการดังกล่าวด้วยการสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจากญี่ปุ่น

สำนักงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางอาหารของรัสเซียระบุว่า รัสเซียได้หารือเรื่องการส่งออกอาหารญี่ปุ่นกับจีน โดยรัสเซียเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์อาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดของจีน และกำลังพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

“เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงเรื่องการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในอาหารแล้ว สำนักงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางอาหารของรัสเซียจึงพิจารณาที่จะจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากปลาของญี่ปุ่นเช่นเดียวกับจีน” สำนักงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางอาหารของรัสเซียระบุในแถลงการณ์ พร้อมกล่าวเสริมว่า “รัสเซียจะสรุปการตัดสินใจหลังเจรจากับทางญี่ปุ่นแล้ว”

สำนักงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางอาหารของรัสเซียระบุว่า ได้ส่งจดหมายถึงญี่ปุ่นแล้ว เพื่อขอนัดหมายการประชุม พร้อมขอให้ญี่ปุ่นส่งข้อมูลการทดสอบรังสีในผลิตภัณฑ์ปลาส่งออกของญี่ปุ่นภายในวันที่ 16 ต.ค ซึ่งรวมถึงสารทริเทียม

สำนักงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางอาหารของรัสเซียระบุว่า รัสเซียนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น 118 ตันในปีนี้

ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นระบุว่า น้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีนั้นปลอดภัยดี เนื่องจากได้รับการบำบัดเพื่อขจัดสารรังสีออกไปเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงแค่สารทริเทียมเท่านั้น เนื่องจากเป็นสารที่ยากที่จะแยกออกจากน้ำได้ และการปล่อยน้ำปนเปื้อนดังกล่าวสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ญี่ปุ่นระบุว่า ข้อครหาจากรัสเซียและจีนนั้นไม่เป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

‘เยอรมนี’ แจงปม ‘ยูเครน’ ปฏิเสธรับรถถังรุ่นเก่าล้าสมัยที่ส่งไปให้ เหตุเพราะขาดช่างซ่อมชำนาญ เนื่องจากประเทศไม่มีสงครามมานาน

(27 ก.ย. 66) สำนักข่าวอาร์ทีนิวส์/ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า อาวุธบางส่วนที่เบอร์ลินมอบให้แก่เคียฟ ส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือยูเครนสู้รบกับรัสเซีย อยู่ในสภาพที่แย่ๆ หรือไม่ก็เก่าเก็บล้าสมัย จากการยอมรับของ ‘อันนาเลนา แบร์บ็อค’ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (25 ก.ย.) แบร์บ็อค ยอมรับว่าอาวุธที่ส่งมอบแก่ยูเครนนั้นมีประเด็นปัญหาทางเทคนิคสำคัญๆ และบอกด้วยว่าความพยายามจัดหาอาวุธป้อนแก่เคียฟนั้นยังประสบปัญหาล่าช้าต่างๆ อีกต่างหาก

แบร์บ็อค ยอมรับว่ายูเครนจะไม่ได้รับประโยชน์จากคำสัญญาจัดหาอาวุธ เนื่องจากยังคงดำเนินการไม่ลุล่วง หรือไม่ก็ยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ส่งมอบไปนั้นไม่สามารถใช้งานได้ “ระบบของเราบางส่วนเป็นรุ่นที่เก่ามากๆ และเราเคยบอกตั้งแต่ตอนแรกว่าบางส่วนใช้งานไม่ได้” เธอกล่าว พร้อมอธิบายว่าประเด็นปัญหาดังกล่าวมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เยอรมนีไม่ได้สู้รบในสงครามหลักๆ หนึ่งใดมานานหลายทศวรรษแล้ว

“ครั้งที่เราส่งมอบบางอย่าง มันจำเป็นต้องใช้งานได้ในภาคสนาม” เธอเน้นย้ำ พร้อมระบุว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมเยอรมนีถึงไม่มอบขีปนาวุธพิสัยไกล Taurus แก่ยูเครน อาวุธที่เธอให้คำจำกัดความว่าล้ำสมัยอย่างที่สุด “มันคืออาวุธใหม่ที่สุดที่เรามี ดังนั้น เราจำเป็นต้องชัดเจนทุกรายละเอียด วิธีการทำงานของมัน ใครที่สามารถใช้งานมันได้ ใช่ มันต้องใช้เวลาสักพัก แต่ครั้งที่เราส่งมอบมัน มันจำเป็นต้องทำงานอย่างได้ผล” เธอกล่าว พร้อมบอกว่าจะใช้การพิจารณาแบบเดียวกันกับอาวุธอื่นๆ ที่ผลิตโดยเยอรมนี

ยูเครนร้องขอขีปนาวุธ Taurus นานหลายเดือนแล้ว ในขณะที่มันมีพิสัยทำการ 500 กิโลเมตรและบรรทุกหัวรบหนัก 500 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม แม้สื่อมวลชนรายงานว่า เยอรมนีกำลังวางรอบการทำงานสำหรับการส่งมอบ แต่แบร์บ็อคแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวังเมื่อช่วงกลางเดือน ว่า การส่งมอบคงจะยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะว่า “จำเป็นต้องทำงานในทุกรายละเอียดก่อนหน้านั้นเสียก่อน”

เยอรมนีลังเลที่จะจัดหาขีปนาวุธแก่ยูเครน เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย หากว่าเคียฟใช้มันโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ Der Spiege รายงานอ้างแหล่งข่าววงในระบุว่า ยูเครน ปฏิเสธที่จะรับรถถังรุ่นเก่าล้าสมัย เลพเพิร์ด 1 จำนวน 10 คัน เนื่องจากพวกมันอยู่ในสภาพขาดการบำรุงรักษา ในรายงานข่าวบอกด้วยว่า พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนแจ้งกับฝ่ายเยอรมนี ว่ารถถังเหล่านั้น ซึ่งเดินทางถึงโปแลนด์แล้ว จำเป็นต้องผ่านการซ่อมบำรุงเสียก่อน แล้วถึงจะสามารถส่งเข้าประจำการในแนวหน้า ทว่าพวกเขาไม่มีทั้งบุคลากรซ่อมบำรุงและอะไหล่ที่จะทำเช่นนั้น

รัสเซียกล่าวเตือนตะวันตกซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อการจัดหาอาวุธป้อนแก่ยูเครน โดยชี้ว่ามันรังแต่จะทำให้ความขัดแย้งลากยาว โดยไม่เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในท้ายที่สุดใดๆ

‘ปชช.เชื้อสายอาร์เมเนีย’ เร่งอพยพออกจากเมืองนากอร์โน-คาราบัค ผู้ลี้ภัยกว่า 6,500 ราย หวั่น ถูก ‘รบ.อาเซอร์ไบจาน’ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

(27 ก.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนในเมืองนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายอาร์เมเนีย ต่างหวาดกลัวว่าหากรัฐบาลของประเทศอาเซอร์ไบจาน เข้ามาควบคุมพื้นที่ส่วนนี้ได้ จะทำให้พวกเขาไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจลี้ภัยไปที่ประเทศอาร์เมเนีย

โดยประชาชนที่มีเชื้อสายอาร์เมเนีย ประมาณ 6,500 คน ที่อาศัยอยู่ในนากอร์โน-คาราบัค ได้เดินทางออกจากเมืองและข้ามชายแดนลี้ภัยไปที่อาร์เมเนียแล้ว เหตุที่ทั้งหมดนั้นจะต้องลี้ภัยกันเป็นการเร่งด่วน เพราะพื้นที่ตรงนี้กำลังถูกอาเซอร์ไบจานยึดครอ งพวกเขากลัวว่าจะมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น

ต่อมาทางด้านรัฐบาลของอาเซอร์ไบจาน ได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะมีการรวมคนเชื้อสายอาร์เมเนียในพื้นที่ส่วนนี้เข้ากับประชาชนคนอื่นๆ อย่างเท่าเทียม แต่ก็ยังไม่สามารถคลายความวิตกกังวลลงได้ เพราะเคยมีการกล่าวหาว่า อาเซอร์ไบจานพยายามกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวอาร์เมเนียมาแล้วในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งอาเซอร์ไบจานปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

ทางด้านรัฐบาลอาเซอร์ไบจานเองก็เผชิญกับเสียงวิพาษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากชาติตะวันตก ซึ่งมองว่าการใช้กำลังทหารโจมตีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอย่างหนักหน่วง ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ซึ่งควรจะมีการเจรจาเพื่อหาทางออกกันมากกว่า และยิ่งทำให้วิกฤตด้านผู้ลี้ภัยและมนุษยธรรมที่เป็นปัญหาใหญ่ของโลกต้องเลวร้ายลง โดยมีรายงานว่า วันนี้คณะผู้แทนจากอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน เตรียมพบปะกันที่กรุงบรัสเซลส์เพื่อหาทางออก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top