Friday, 4 July 2025
SPECIAL

สตูล - เจ้าหน้าที่ยังเดินหน้าค้นหาร่างเด็กชาย 9 ขวบ พลัดตกน้ำในคลองลำโลน สูญหาย 4 วันยังไม่พบ!!

วันนี้ 6 มกราคม 2565 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.จังหวัดสตูล เขต 2 พร้อมด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะหลีเป๊ะ/สถานีเรือละงู จัดกำลังพลพร้อมเรือยาง ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษ นก.กมต.ศรชล.ภาค 3 และมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรจังหวัดสตูล ร่วมกันทำการค้นหาร่างของ ด.ช.พงศพัศ ขำกิ้ม อายุ 9 ปี ที่ประสบเหตุพลัดลื่นตกน้ำสูญหาย เป็นวันที่ 3 โดยดำเนินการดำน้ำค้นหาบริเวณจุดที่คาดว่าผู้สูญหายอาจจะติดอยู่กับโขดหินหรือรากไม้ที่อยู่ใต้น้ำ และลาดตระเวนทางเรือค้นหาผิวน้ำ บ้านวังใน ต.น้ำผุด อ.ละงู จังหวัดสตูล ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

ทั้งนี้ เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรง และมีความขุ่น มองเห็นได้เพียงระยะใกล้ ประกอบกับใต้น้ำมีรากไม่และโขดหินจำนวนมาก ทำให้เป็นอุปสรรคต่อทีมงานในการค้นหาอย่างมาก อย่างไรก็ตามทีมค้นหาได้ดำเนินการค้นหาจนถึงเวลาประมาณ 17.30 น. ยังไม่พบผู้สูญหาย จึงได้ยุติการค้นหา และจะดำเนินการค้นหาต่อไปในวันนี้

 

"ตำรวจ PCT” แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 จับกุม ผู้ต้องหากว่า 3,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท!!

วันนี้ (6 ม.ค. 65) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.​ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท.,พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั่วประเทศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25 ธ.ค.64  - 3 ม.ค.65 เพราะเป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้าน และมีการสังสรรค์ เกรงจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจากผลการระดมกวาดล้าง สามารถจับกุมการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ทั้งสิ้น จำนวน 3,634 ราย โดยแบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ การหลอกลวงทางออนไลน์ 238 คดี, การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย 335 คดี, การเผยแพร่ข่าวปลอมและคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 878 คดี, การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหรือสตรีทางอินเทอร์เน็ตและค้ามนุษย์ 194 คดี และ การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่น ๆ อีก 1,989 คดี รวม มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 356 ล้านบาท โดยพบเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ถึง 335 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 พร้อมกำลัง สืบสวนปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์  รวมถึงการลักลอบจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าร้านค้าออนไลน์หลายรายได้จำหน่ายสิ่งเทียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบอาวุธปืน ออกไปแล้วจำนวนมาก

หลังจากได้เป้าหมายแล้ว ได้ประสานไปยังตำรวจภูธร ภาค 1-9 ตำรวจนครบาล ตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย โดยเน้นไปยังกลุ่มที่สั่งซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืน(บีบีกัน) ส่วนประกอบอาวุธปืน เช่น ลำกล้อง ชุดอุปกรณ์ลั่นไก เพื่อนำไปดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนจริงออกมาได้ และกลุ่มที่สั่งซื้อเครื่องกระสุนปืนเพื่อนำไปใช้กับอาวุธปืนผิดกฎหมายได้ใช้การประกาศโฆษณาขายสินค้าโดยทำการอำพรางชื่อเพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบ

โดยในวันที่ 3 ม.ค.65 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 60 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 31 ราย พร้อมของกลาง 5 รายการ ดังนี้

1. อาวุธปืนสงคราม จำนวน 1 กระบอก

2. อาวุธปืน จำนวน 49 กระบอก

3. เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,566 นัด

4. ยาบ้า จำนวน 203 เม็ด

5. ยาไอซ์ จำนวน 2.85 กรัม

6. กัญชาอัดแท่ง จำนวน 15 กรัม

ซึ่งการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 ชุดปฏิบัติเดียวกันนี้ ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นไปแล้ว จำนวน 40 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 24 ราย พร้อมของกลาง 6 รายการ คือ

1. อาวุธปืน จำนวน 23 กระบอก

2. เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1,005 นัด

3. วัตถุระเบิดปิงปอง จำนวน 1 ลูก

4. ยาบ้า จำนวน 9,902 เม็ด

5. ยาไอซ์ จำนวน 0.94 กรัม

6. กัญชาอัดแท่ง จำนวน 6.34 กรัม

ภาพรวมขณะนี้ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมายลักลอบขายอาวุธปืนทางออนไลน์ไปแล้ว 100 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 55 ราย ตรวจยึดของกลางเป็น อาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก , อาวุธปืน 72 กระบอก ,วัตถุระเบิดปิงปอง  จำนวน 1 ลูก , เครื่องกระสุนปืน จำนวน 2,571 นัด และยาบ้าอีกจำนวน 10,105 เม็ด ยาไอซ์ 3.79 กรัม, กัญชาอัดแท่ง จำนวน 21.34 กรัม โดยหลังจากนี้ จะได้ขยายผลไปยังร้านค้าที่ลักลอบขายปืนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่อไป

ลำปาง - กองทัพบกเดินหน้า ร่วมปกป้องพี่น้องชาวลำปางให้ปลอดภัยจากโควิด-19 โดยจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 32 อำนวยความสะดวกและแจกจ่ายเจลแอลกอฮอล์พระราชทาน

พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 จัดวิทยากรจิตอาสา 904 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 32 อำนวยความสะดวก และแจกจ่ายเจลแอลกอฮอล์พระราชทานให้กับประชาชนชาวลำปาง ที่เข้ารับบริการการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นการฉีดวัคแอสตราเซนิก้า เข็มที่ 2 ตามใบนัดหมาย  

โดยมียอดผู้มารับบริการ จำนวน 3,000 คน นับเป็นความห่วงใยประชาชนที่ในพื้นที่ให้ได้รับฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุม เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและเพื่อให้ทุกส่วนร่วมกันป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ให้เกิดประสิทธิภาพ

 

สมุทรสาคร - ศรชล. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการตามนโยบายการยกระดับการปฏิบัติงาน ในการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในพื้นที่สมุทรสาคร

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ รอง ผอ.ศรชล มอบหมายให้ พลเรือเอก เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินการตามนโยบาย การยกระดับการปฏิบัติงานของ ศรชล. ในการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในจังหวัดสมุทรสาคร ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย กรรมการบริหารจากหน่วยงานหลักของ ศรชล. และหน่วยงานด้านความมั่นคงต่าง ๆ ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกองบังคับการตำรวจน้ำ รวมถึง นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมประชุมหารือ

พล.ร.ต.อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษก ศรชล. กล่าวว่า การติดตามการดำเนินการตามนโยบายฯ ในครั้งนี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามประกอบด้วย การดำเนินการตามนโยบายการปฏิบัติงานของ ศรชล. ประจำปี งป.65 ที่สำคัญ คือการดำรงความต่อเนื่องในการกำกับดูแลหน่วยงานที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และการแก้ไขการทำการประมงผิดกฎหมาย รวมถึงการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อยกระดับการรายงานสถานการณ์ ด้านการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในส่วนของประเทศไทย จากปีที่ผ่านมาให้ปรับระดับขึ้น จากระดับบัญชี 2 กลุ่มประเทศเฝ้าระวัง (TIER2 WATCH LIST) ต่อไป

โดยทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ นอกจากนี้จะมี ตัวแทนมูลนิธิความยุติธรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation: EJF) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน (NGO) โดยมีพันธกิจหลัก คือ การรักษาสิ่งแวดล้อมและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดสิทธิแรงงาน การค้ามนุษย์ การทำลายสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรม ตลอดจนการต่อต้านการทำประมง IUU ร่วมสังเกตการณ์การติดตามการดำเนินการตามนโยบายฯ ของ ศรชล. ในครั้งนี้ด้วย

 

ชลบุรี - จับคู่เจรจายอดขาย 13 ล้านบาท!! พาณิชย์ชลบุรี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดภาคตะวันออก นำสินค้าปศุสัตว์และเกษตรปลอดภัย บุกตลาดจัดเจรจาธุรกิจ และจัดมหกรรมสินค้าคุณภาพช่วยเหลือเกษตรกรและปชช.ในช่วงโควิด

ที่ห้องศรีรัตน โรงแรมรัตนชล อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และว่าที่ร้อยโท สุธรรม ลครรำ(ละ-คอน-รำ) พาณิชย์จังหวัดชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน มหกรรมสินค้าปศุสัตว์ และเกษตรปลอดภัย ภายใต้โครงการส่งเสริมการบริโภคสินค้าปศุสัตว์และสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานปลอดภัย

ว่าที่ร้อยโท สุธรรม ละครรำ(ละ-คอน-รำ) พาณิชย์จังหวัดชลบุรี ได้กล่าวแถลงถึงผลการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ ภายใต้โครงการนี้ว่า ได้มีการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ คู่ซื้อขาย ได้จำนวนถึง 12 คู่เจรจา ผลการจับคู่เจรจา ได้ยอดขาย 13 ล้านบาท ซึ่งการจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการทำการตลาดเชิงรุก และยังมีการจัดงานมหกรรมสินค้าปศุสัตว์ และเกษตรปลอดภัย ระหว่างวันที่ 7-11 มกราคม 2565 ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดชลบุรี โดยนำสินค้าจากผู้ค้า 8 จังหวัดภาคตะวันออก นำสินค้าปศุสัตว์ ปศุสัตว์แปรรูป และสินค้าเกษตรปลอดภัยมา จำหน่ายในราคาพิเศษ ถึง 100 ร้านค้า

 

กาฬสินธุ์ - สหกรณ์มอบเงินชดเชยดอกเบี้ยสมาชิก แก่ปชช.ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และประสบภัยพิบัติกว่า 4 ล้านบาท เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ นำไปฟื้นฟูประกอบอาชีพ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา วัฒนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันมอบเช็คเงินสด ซึ่งเป็นเงินชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สหกรณ์ร่วมโครงการจำนวน 14 สหกรณ์ มีสมาชิกที่ได้รับเงินชดเชยดอกเบี้ยจำนวน 8,076 ราย มูลหนี้ต้นเงินรวม จำนวน 1,190,866,211.64 บาท เงินชดเชยดอกเบี้ย จำนวน 4,357,459.92 บาท

นายวิทยา วัฒนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะจ่ายเป็น 2 งวด งวดที่ 1 คือวันนี้ จำนวน 2,178,729.94 บาท และงวดที่ 2 จะจ่ายประมาณเดือนเมษายน จำนวน 2,178,729.98 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ตามวัตถุประสงค์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย และลดต้นทุนในการประกอบอาชีพการเกษตรแก่สมาชิก  และเพื่อให้สมาชิกที่ประกอบอาชีพการเกษตร มีโอกาสนำเงินส่วนที่ได้รับการช่วยเหลือไปฟื้นฟูประกอบอาชีพ ตลอดจนมีเงินทุนไว้ใช้จ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ด้วย

นายวิทยากล่าวอีกว่า สำหรับการมอบเงินชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ทางสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดมอบแล้ว 3 ครั้ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ครั้งแรกในปี 2562 จัดมอบไป 6 สหกรณ์ 1.สหกรณ์การเกษตรถาวรพัฒนากาฬสินธุ์ จำกัด 2.สหกรณ์การเกษตรท่าคันโท จำกัด 3.สหกรณ์การเกษตรนามน จำกัด 4.สหกรณ์การเกษตรเมืองกาฬสินธุ์ จำกัด 5.สหกรณ์การเกษตรร่องคำ จำกัด และ6. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนตำบลโคกสะอาด จำกัด จำนวนเงิน 3,246,202.12 บาท โดยจ่ายครบ 100%

 

มหาสารคาม - เรตติ้งพุ่ง!! มมส.สร้างพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “เปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรก

กลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เชิญชวนศิษย์เก่า ประชาชน สั่งจองพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “รุ่นเปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรก สมทบงบประมาณสร้างป้ายคณะและพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอีสาน ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ 31 กรกฎาคม 2565 เปิดตัววันแรกคึกคัก ยอดสั่งจองคนหลายองค์

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ ร่วมกับ ดร.เชวงศักดิ์ พลลาภ ศิษย์เก่าสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานกลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ และตัวแทนศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ร่วมประชุมแนวทางการจัดสร้างป้ายคณะ และพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไป สั่งจองพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “รุ่นเปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการที่คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ควบรวมเป็นคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 เป็นต้นมา  โดยมีอาคารวัฒนธรรมศาสตร์เป็นอาคารหลักเขตพื้นที่ในเมือง และมีพระพุทธประติมากรรมยืนปางเปิดโลก พุทธลักษณ์อีสานล้านช้างอย่างถูกต้องงดงามเป็นศูนย์รวมใจ ทั้งนี้ได้รับการอนุมัติแบบก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ และพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้างเมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ที่ผ่านมานั้น

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัยกล่าวอีกว่า ในการออกแบบก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ดังกล่าว กลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ เห็นว่าจะเป็นศูนย์ปูชนียสถานสำคัญ ในการร้อยความสัมพันธ์ ความผูกพัน และสร้างพื้นที่ส่วนนี้เป็นแลนด์มาร์ก หรือเป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมสำคัญของภาคอีสานด้วย จึงได้มีมติจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกจำลอง รุ่นเปิดโลกรับทรัพย์ รุ่นแรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำคณะ ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ 31 ก.ค.65 ทั้งนี้ เพื่อหางบประมาณสมทบการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงได้ประชุมแนวทางการก่อสร้างและเชิญชวนสั่งจอง โดยมีความเชื่อว่าจะมีพุทธคุณต่อผู้ที่เคารพบูชา มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง หน้าที่การงานก้าวไกล และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เหมาะสำหรับการบูชาและมอบให้กับผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมปัจจุบัน

ด้าน ดร.เชวงศักดิ์ พลลาภ ศิษย์เก่าสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานกลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ กล่าวว่าในการก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ และจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกจำลอง รุ่นเปิดโลกรับทรัพย์ ดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้คณะศิษย์เก่า ทั้งชาว มศว. (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ), มมส.(มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) ตลอดจนบุคคลวงการศึกษา ชาว จ.มหาสารคาม และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมบูชา เพื่อหางบประมาณสมทบการก่อสร้าง   

โดยเปิดเช่าบูชาองค์ยืนขนาดสูง 20 นิ้ว จำนวน 499 องค์ และเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง จำนวน 10,000 เหรียญ ทั้งนี้ ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ และพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม ประกอบพิธีปลุกเสก 

ดร.เชวงกล่าวอีกว่า พระพุทธรูปปางเปิดโลกรุ่น "เปิดโลก รับทรัพย์" เพื่อหารายได้สร้างป้ายคณะและพระแท่นประดิษฐานพระพุทธรูปปางเปิดโลกอีสานล้านช้าง พระพุทธรูปประจำคณะ เป็นฝีมือของ ผศ.สันติสุข แหล่งสนาม และ ศาสตราจารย์ เข็มรัตน์ กองสุข ประติมากรคนสำคัญของประเทศไทย โดยจะประดิษฐานที่บริเวณด้านหน้าอาคารวัฒนธรรมศาสตร์ต่อไป ทั้งนี้ จะมีการประกอบพิธีเปิดป้ายและสักการะอย่างเป็นทางการ วันที่ 31 ก.ค.65 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 ปี ควบรวมคณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

 

 

ชลบุรี - ยืนยัน!! คลัสเตอร์ ทหารเรือสัตหีบ ไม่มีการแพร่ระบาดและสามารถควบคุมได้

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อบางสื่อรายงานข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งระบุว่าเกิด Cluster ในเขตพื้นที่ทหารเรือ โดยมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องไม่สามารถควบคุมได้นั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือมีความไม่สบายใจต่อข่าวดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งผู้ปกครองและครอบครัวของทหารใหม่ในสังกัดกองทัพเรือ มีความกังวลและตื่นตระหนก

ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ สั่งการให้กรมแพทย์ทหารเรือ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ จากรายงานของกรมแพทย์ทหารเรือ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2565 มีรายงานการพบกำลังพลในสังกัดกองทัพเรือที่ติดเชื้อโควิด-19 ดังนี้ วันที่ 26 ธันวาคม 2564 ไม่มีผู้ติดเชื้อ วันที่ 27 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย วันที่ 28 ธันวาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 29 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 10 ราย  วันที่ 30 ธันวาคม 2564  มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย วันที่ 1 มกราคม 2565  มีผู้ติดเชื้อ 9 ราย และ วันที่ 2 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อ 6 ราย 

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า กำลังพลของกองทัพเรือที่ติดเชื้อในพื้นที่สัตหีบ ตามรายงานข้างต้น ไม่ได้อยู่ในสังกัดหน่วยเดียวกัน ไม่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ไม่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) และปัจจุบันสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏที่ระบุว่า ไม่สามารถควบคุมได้ ถือว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อให้กับกำลังพลในทุกระดับ

 

สงขลา - มรภ.สงขลา ผนึกองค์กรท้องถิ่น 3 สถาบันการศึกษาสตูล ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการ สร้างนวัตกรรมจัดการขยะ

มรภ.สงขลา เดินหน้าพัฒนาการศึกษารับศักราชใหม่ นำทีมบริหารสัญจร “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” พร้อมลงนามความร่วมมือ ทต.กำแพง วก.ละงู วท.สตูล วชช.สตูล ยกระดับการศึกษา กำหนดทิศทางพัฒนาหลักสูตรด้านท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ ควบคู่สร้างนวัตกรรมจัดการขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร

รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มรภ.สงขลา นำคณะกรรมการบริหารและบุคลากรร่วมศึกษาฐานการเรียนรู้ “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” พร้อมรับฟังการบรรยายเรื่อง “โคก หนอง นา ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” โดย ผศ.ดร.เกียรติศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้ช่วยอธิการบดี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการประจำสำนักงานวิทยาเขตสตูล ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและด้านนวัตกรรมการจัดการขยะ ร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดสตูล รวม 4 องค์กร ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพละงู (วก.ละงู) วิทยาลัยเทคนิคสตูล (วท.สตูล) วิทยาลัยชุมชนสตูล (วชช.สตูล) และ เทศบาลตำบลกำแพง (ทต.กำแพง) จังหวัดสตูล เพื่อร่วมกันยกระดับการศึกษา การวิจัย บริการวิชาการด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ รวมถึงด้านการจัดการขยะมูลฝอยของชุมชนและศูนย์กำจัดขยะแบบครบวงจร พร้อมเปิดระดมความคิดเห็นจากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาหลักสูตร และสร้างแนวทางความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ในจังหวัดสตูล

รศ.ดร.ทัศนา กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือด้านวิชาการร่วมกับ 3 สถาบันการศึกษาในพื้นที่ จ.สตูล ได้กำหนดเป้าหมายร่วมกันดังนี้

1. ให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวด้านบริหารธุรกิจ/การจัดการธุรกิจในยุคดิจิทัลและอื่น ๆ ผ่านการเรียนการสอนทั้งในระดับรายวิชาและสาขาวิชา

2. มรภ.สงขลา จะจัดส่งอาจารย์สาขาวิชาการท่องเที่ยวนวัตกรรมการจัดการและอื่น ๆ เพื่อร่วมพัฒนาหลักสูตรการท่องเที่ยวและหลักสูตรบริหารธุรกิจ/การจัดการ/ธุรกิจดิจิทัลหรือสาขาที่เกี่ยวข้องกับทางวิทยาลัย เพื่อประโยชน์ในการเข้ารับการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และสามารถเทียบโอนรายวิชาได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด

3. ส่งเสริมให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง (ปวส.) เข้ารับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย

4. สร้างกิจกรรมเพื่อก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาทักษะประสบการณ์วิชาชีพให้แก่กันทั้งกับนักศึกษาและอาจารย์

5. ให้มีผู้แทนเป็นผู้ดำเนินงาน ประสานงาน และตกลงรายละเอียดในการปฏิบัติงานตามข้อตกลงความร่วมมือนี้ โดยจะได้มีการจัดทำข้อกำหนดและเงื่อนไขในการนำเนื้อหาของวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการท่องเที่ยว และหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการ

6. มหาวิทยาลัยร่วมพัฒนาหลักสูตรความร่วมมืออื่น ๆ ตามความต้องการของท้องถิ่น รวมถึงร่วมจัดทำโครงการ/กิจกรรม และร่วมมือด้านการวิจัย การบริการวิชาการ และการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมร่วมกัน

7. บันทึกข้อตกลงนี้ให้มีผลใช้บังคับระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันทำบันทึกข้อตกลง

  

 

ตชด 436 พบเรือต้องสงสัยจอดทิ้งใกล้ป่าโกงกางริมทะเล ตรวจสอบพบกัญชาอัดแท่งเพียบ!!

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ ตชด.ยังคงทำงานกันอย่างหนักในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดนไทยมาเลเซีย ทางทะเลริมชายฝั่ง ได้มีการออกลาดตระเวนตามแนวชายฝั่ง เฝ้าระวัง การลักลอบทำผิดกฎหมาย ล่าสุดพล.ต.ต.อรรถวุฒิ  อ่อนทรัพย์ ผบก.ตชด.ภาค 4 ,พ.ต.อ.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต  ผกก.ตชด.43,พ.ต.ท.ธีรศักดิ์  ศรีราชยา ผบ.ร้อย ตชด.436, ร.ต.อ.พรเทพ หมื่นแกล้ว รองผบ.ร้อย ตชด.436,ร.ต.อ.ปริวรรต หมาดรา หน.ชปข. ร้อย ตชด.436  นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.436 ,ชฝต.4301 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสตูล,ตำรวจ ตม.สตูล,ทหาร,ได้ออกลาดตระเวนทางน้ำริมชายฝั่งตั้งแต่ท่าเทียบเรือตํามะลังถึงหลักเขตแดนที่ 1 คลองกุ้งเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ระหว่างเรือออกลาดตระเวนตรวจพบเรือที่จอดอยู่บริเวณใกล้ป่าโกงกาง บ้านหัวแหลมหมู่ที่ 3 ตำบลปูยู อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบเรือที่ผูกอยู่กับต้นไม้ปรากฏว่าไม่มีผู้ควบคุมเรือจากนั้นจึงได้ตรวจสอบภายในเรือพบกระสอบสีขาวจำนวน 4 กระสอบห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่งห่อด้วยผ้ายางสีส้มภายในลำเรือดังกล่าวจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการเปิดกระสอบปุ๋ยต้องสงสัยออกดูปรากฏว่าบรรจุวัสดุเป็นแท่งห่อหุ้มด้วยกระดาษฝอยสีทองห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภายในพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา ) จำนวน 71 แท่ง/กิโลกรัม ที่เกิดเหตุไม่พบผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ คาดว่าจะไหวตัวและหลบหนีไปได้ มูลค่าของกลาง  852,000 บาท

 

นราธิวาส - ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้ ลงพื้นที่ประชุมตรวจราชการ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการ

ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (กรมชลประทาน) นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวตอนรับ พลเอกพิเชฐ ตานะเศรษฐ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้ในการประชุมตรวจราชการเพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการของคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้

โดยมีพลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และรับฟังการบรรยายสถานการณ์อุทกภัยและพนังกั้นน้ำที่ทรุดตัวพร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหา และรับฟังความเห็นจากนางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส,นายปรีชา นวลน้อย ปลัดจังหวัดนราธิวาส,นายกิตติพันธ์ วุฒิวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส,นายรุ่งเรื่อง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโกลก,นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ,นายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี,นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ,นายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง,นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอสุคิริน,นายจิริสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอระแงะ,นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง  จากนั้นได้เดินทางไปยังบริเวณหน้า อบต.มูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มอบถุงยังชีพร่วมกับจังหวัดนราธิวาสเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้คณะได้เดินเท้าตรวจสภาพพนังกั้นน้ำที่ทรุดตัวเสียหาย

ด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวขอบคุณพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยในความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และได้กรุณามอบหมายท่านที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รายภาคในพื้นที่ภาคใต้ และประธานอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้มารับทราบสภาพเหตุการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่จากเหตุอุทกภัยในห้วงที่ผ่านมา และให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพ ให้แนวทางคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้ชี้แจงถึงปัญหาอุทกภัยจังหวัดนราธิวาสมี 13 อำเภอซึ่งในห้วงปลายเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคมของทุกปีจะมีฝนตกหนัก ส่งผลให้แม่น้ำ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำโก-ลก และแม่น้ำบางนรา ซึ่งไหลผ่านพื้นที่ 9 อำเภอ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนประจำทุกปี

 

ลำปาง - ผบ.มทบ.32 ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล - รด.จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ฯ จุดบริการประชาชนหน้าค่ายฯ

พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 32,รด.จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ  จุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2565  โดยฝากความห่วงใยพร้อมให้ช่วยกันดูแลและอำนวยความสะดวกกับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่ช่วงนี้เป็นการเดินทางกลับให้มีความประทับใจและเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ซึ่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้ขอบคุณกำลังพล/จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ตั้งใจและร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างดี   

กระบี่ - นทท.ทะยอย กลับจากเกาะพีพี หลังหมดเทศกาลปีใหม่ พบอ่าวมาหยา นทท.ยังแห่เที่ยวแน่น

ที่ท่าเรือท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พากันทยอยเดินทางออกจากเกาะพีพี ด้วยเรือโดยสารประจำทาง เพื่อกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกหลังจากพาครอบครัวมาพักผ่อนในพื้นที่เกาะพีพี ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้เรือโดยสารเต็มความจุทุกเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.กระบี่และ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขากระบี่ คอยดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยประจำท่าเรือ

ขณะอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง หลังจากที่เปิดมาตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 3 ม.ค.พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่จองคิวเข้าเที่ยวผ่านแอปพลิเคชันคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติฯยังคงเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเต็มทุกเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานฯต้องดูแลความเรียบร้อยและห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ปะการังที่กำลังฟื้นฟูเกิดความเสียหายและไปรบกวนฝูงปลาฉลามครีบดำ นับ 100 ตัว ที่ใช้อ่าวมาหยาเป็นที่หากินและผสมพันธุ์

 

รองโฆษก ตร. ชี้!แนวโน้ม’อาชญากรรมทางเทคโนโลยี’ ใน ปี พ.ศ.2565

วันที่ 3 ม.ค.2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งขาติ กล่าวถึงแนวโน้มอาชญากรรมทางเทคโนโลยีใน ปี พ.ศ.2565 ว่า เมื่อพิจารณาข้อมูลจากสถิติการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ศูนย์บริการประชาชน บก.ปอท. ปี พ.ศ. 2561-2564   พบว่า รูปแบบของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือใช้เทคโนโลยีในการกระทำความผิดที่มีประชาชนมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท 

โดยในปี 2564 มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์จำนวน 698 ราย สาเหตุที่การด่าทอ ให้ร้ายกันในสื่อสังคมออนไลน์ ครองความเป็นอันดับ 1 มาตลอดหลายปี อาจเนื่องมาจาก ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น การโพสต์ การแสดงความคิดเห็น การส่งต่อข้อมูลที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายจึงมีมากขึ้น  

แต่ที่น่าสนใจจากสถิติดังกล่าวพบว่า มีผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกแฮก เพื่อปรับเปลี่ยน/ขโมย/ทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ พบเป็นอันดับที่ 2 โดยมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์จำนวน 585 ราย ความเสียหายรวมประมาณ 67 ล้านบาทแสดงให้เห็นถึง ประชาชนอาจขาดการระวังป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์/ข้อมูลคอมพิวเตอร์จากแฮกเกอร์  

ส่วนการหลอกขายสินค้า/บริการ พบว่ามาเป็นอันดับ 3 โดยมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์จำนวน 445 ราย ความเสียหายรวมประมาณ 45 ล้านบาท 

ซึ่งจากสถิติดังกล่าวข้างต้นทำให้สังเกตได้ว่า รูปแบบของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน หากไม่นับความผิดฐานหมิ่นประมาทแล้ว พบว่าจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ การแฮกข้อมูล และการฉ้อโกงออนไลน์ เป็นหลัก ซึ่งพบว่าอาชญากรรมใน 2 รูปแบบนี้ คนร้ายมักอาศัยโอกาสจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดหรือปกปิดตัวตนไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนหาตัวคนร้ายได้โดยง่าย โดยใช้ช่องทางต่างๆ เช่น การปกปิดตัวตนโดยนำภาพหรือชื่อบุคคลอื่นมาสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอม หรือใช้บัญชีอวตา (Avatar) , การปกปิดที่อยู่ไอพี (ip address) , การใช้ช่องทางสกุลเงินดิจิทัล ในการรับทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือ การซื้อบัญชีธนาคารจากผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับเจ้าหน้าที่ ในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ดังนั้นความเห็นส่วนตัวยังเห็นว่า แนวโน้มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในปี 2565 ยังไม่น่าจะแตกต่างไปจากเดิม แต่คนร้ายอาจนำเทคโนโลยีสมัยใหม่หรือเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การให้ร้ายหรือระรานทางไซเบอร์(Cyber Bullying) , การหลอกลวงผ่านอีเมล (email scam) , การแฮกเพื่อเอาข้อมูลหรือเงินผ่านการลวงให้กดล่อให้กรอก (Phishing) , มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware), การหลอกลวงขายสินค้า , การหลอกรักออนไลน์(Romance Scam) , การหลอกรักลวงลงทุน (Hybrid Scam) , การหลอกลวงด้วยการโทรศัพท์โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ , การหลอกให้ลงทุนในลักษณะแชร์ออนไลน์และแชร์ลูกโซ่ , การขูดรีดดอกเบี้ยเงินกู้และการทวงหนี้ในลักษณะผิดกฎหมายจากแก๊งแอพพลิเคชั่นเงินกู้ , การปล่อยข่าวปลอมในโลกออนไลน์เพื่อหวังผลด้านต่าง ๆ (Fake News) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ประโยคที่ว่า “อาชญากรรมมักทิ้งร่องรอย” ยังคงใช้ได้กับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย ที่อาจพัฒนาตัวเองจากอาชญากรภาคพื้นดิน (On Ground) มาเป็นอาชญากรบนอากาศ (Online) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการพัฒนาทักษะ ความรู้ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทั้งนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการด้านต่างๆ ในการสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบข้อมูลในการสืบสวนสอบสวน  

เทศกาลปีใหม่ สนุกอย่างสร้างสรรค์ “ไม่พกอาวุธปืน ไม่ยิงขึ้นฟ้า!!” ตำรวจพร้อม! จัดเต็มกำลัง ดูแลทั่วประเทศ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ พี่น้องประชาชนหลาย ๆ ท่านออกเดินทางไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนในห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ โดยขอให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำสิ่งใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆแม้ว่าจะสนุกสนานสักเพียงใด แต่ก็ไม่ควรเลยเถิด จนกลายเป็นความคึกคะนอง "พาอาวุธปืน" ไปในสถานที่ต่าง ๆรวมถึงการ "ยิงปืนขึ้นฟ้า" เพราะการกระทำดังที่กล่าวมานั้น มีความผิดตาม "พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490"

>> มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจําเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ 

ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด 

>> มาตรา 72 ทวิ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 2 ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท

นอกจากนี้กระสุนปืนที่ยิงออกจากกระบอกปืน มีโอกาสที่จะไปตกลงไปโดนหลังคาบ้าน "ทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย" หรือแม้กระทั่งกระสุนปืนถูกผู้อื่นจนเป็นอันตราย "ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต" จะมีความผิดตาม"ประมวลกฎหมายอาญา"

>> มาตรา 291  ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

>> มาตรา 300  ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top