เทศกาลปีใหม่ สนุกอย่างสร้างสรรค์ “ไม่พกอาวุธปืน ไม่ยิงขึ้นฟ้า!!” ตำรวจพร้อม! จัดเต็มกำลัง ดูแลทั่วประเทศ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ พี่น้องประชาชนหลาย ๆ ท่านออกเดินทางไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนในห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ โดยขอให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำสิ่งใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆแม้ว่าจะสนุกสนานสักเพียงใด แต่ก็ไม่ควรเลยเถิด จนกลายเป็นความคึกคะนอง "พาอาวุธปืน" ไปในสถานที่ต่าง ๆรวมถึงการ "ยิงปืนขึ้นฟ้า" เพราะการกระทำดังที่กล่าวมานั้น มีความผิดตาม "พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490"

>> มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจําเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ 

ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด 

>> มาตรา 72 ทวิ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 2 ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท

นอกจากนี้กระสุนปืนที่ยิงออกจากกระบอกปืน มีโอกาสที่จะไปตกลงไปโดนหลังคาบ้าน "ทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย" หรือแม้กระทั่งกระสุนปืนถูกผู้อื่นจนเป็นอันตราย "ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต" จะมีความผิดตาม"ประมวลกฎหมายอาญา"

>> มาตรา 291  ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

>> มาตรา 300  ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน และขอให้มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ 2565 ไม่กระทำผิดกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และหากท่านใดพบการกระทำความผิด ขอให้แจ้งไปยังสายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง