Saturday, 17 May 2025
SPECIAL

5 สิ่ง พ่อแม่ผู้ปกครองควรปฏิบัติ "บล็อกภัยออนไลน์" ด้วยความห่วงใยจาก โฆษก ตร.

16 ม.ค. 65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด เด็ก ๆ ยังต้องเรียนหนังสือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียนผ่านทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน ทำให้เวลาที่เด็ก ๆ เหล่านั้นจะต้องอยู่กับหน้าจออุปกรณ์สื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าช่องทางออนไลน์ จะเป็นช่องทางที่ดี ในการแสวงหาความรู้ การเข้าถึงข่าวสาร สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ หรือสร้างความบันเทิง แต่ก็ยังแฝงมาด้วยภัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้ผู้ปกครองต้องเอาใจใส่การใช้งานอินเทอร์เน็ตของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า แม้ว่าเด็ก ๆ จะต้องเรียนหนังสือ ผ่านทางออนไลน์อยู่ที่บ้าน ผู้ปกครองก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย ควรดูแลเอาใจใส่การใช้อินเทอร์เน็ตของบุตรหลานให้ดี เพราะอาจจะมีภัยร้ายต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ พบเจอในโลกออนไลน์ อาทิเช่น การล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์  การระรานทางไซเบอร์ (Cyberbullying) พฤติกรรมเสี่ยงที่เด็ก ๆ อาจทำในโลกออนไลน์ เนื้อหาที่อาจเกิดอันตราย การรับหรือส่งต่อข่าวสารหรือข้อมูลที่ผิดหรือบิดเบือนไปจากความจริง และความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวจากการเข้าสู่ระบบใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ 

ทั้งนี้ คู่มือผู้ปกครองและผู้ดูแลปกป้องเด็กให้ปลอดภัยบนโลกออนไลน์ ในช่วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยองค์การยูนิเซฟ ได้นำเสนอสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรปฏิบัติ เพื่อที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมสร้างทักษะการใช้สื่อ หรือรับรู้การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ของบุตรหลาน โดยการเข้าไปช่วยดูแลในโลกออนไลน์ เพื่อบล็อกภัยออนไลน์ ด้วย 5 สิ่งที่ต้องทำ ดังต่อไปนี้

4ส. รุ่น 12 กลุ่มดอกพุดซ้อน สถาบันพระปกเกล้า ลงพื้นที่แม่กลอง ศึกษาโบสถ์ปรกโพธิ์-พระอุโบสถไม้สัก

วันที่ 15 มกราคม นางกชนัฑ พัฒนะวิชัย นายอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ให้การต้อนรับ คณะนักศึกษาหลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข (สสสส.) รุ่น 12 กลุ่มดอกพุดซ้อน สถาบันพระปกเกล้า ศึกษาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 

จุดแรก เข้าเยี่ยมชม วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีจุดเด่นที่พระอุโบสถ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ ถูกปกคลุมทั้งอาคารด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นกร่าง ต้นไกร 

ภายในโบสถ์เป็นที่สถิตของ "หลวงพ่อนิลมณี" หรือ "หลวงพ่อดำ" ตามที่ชาวบ้านเรียกกัน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สมัยอยุธยาตอนปลาย นอกจากนี้ภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ

INTERLINK จัดงาน 'INTERLINK THANK YOU VIP 2022' เพื่อตอบแทนลูกค้าที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์เสมอมา

#INTERLINK (15 ม.ค. 2565)

แทนคำขอบคุณลูกค้าคนพิเศษ

คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ พร้อมด้วยดร.ชลิดา อนันตรัมพร ประธานมูลนิธิ อินเตอร์ลิ้งค์ให้ใจ กล่าวต้อนรับกลุ่มลูกค้าคนพิเศษ เพื่อแทนคำขอบคุณที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ INTERLINK ด้วยดีเสมอมา ด้วยการมอบที่พักติดชายหาด บรรยากาศผ่อนคลาย แบบ Exclusive ในงาน "INTERLINK THANK YOU VIP 2022" โดยในงานมีกิจกรรมความบันเทิง อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังมาแรง รวมถึงมอบของที่ระลึกให้ผู้เข้าร่วมงานมากมาย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2565 ณ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน 

ได้ใจแล้ว คือ ได้ธรรม เห็นใจแล้ว คือ เห็นธรรม รู้ใจตนแล้ว คือ รู้ธรรมทั้งมวล ถึงใจตนแล้ว คือ ถึงพระนิพพาน

ได้ใจแล้ว คือ ได้ธรรม 
เห็นใจแล้ว คือ เห็นธรรม 
รู้ใจตนแล้ว คือ รู้ธรรมทั้งมวล 
ถึงใจตนแล้ว คือ ถึงพระนิพพาน

- หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต -
 

‘Christmas Market’ ตลาดคริสต์มาส บรรยากาศที่น่าหลงใหลแห่งปี

เดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้ ถ้าจะไม่พูดถึงเทศกาลคริสต์มาสก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เราจะได้กลิ่นอายของเทศกาลนี้ที่เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนมา ในดินแดนสวิสทุก ๆ ที่ก็จะมีตลาดคริสต์มาส ขนาดเล็กหรือใหญ่แตกต่างกันไปตามแต่ละหมู่บ้านหรือตามแต่เมืองจะรังสรรค์ วันที่จัดก็จะกระจายแตกต่างกันออกไป วี่อาจไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวตลาดคริสต์มาสที่อื่น ๆ มากเท่าไหร่ เพราะส่วนมากจะทำงานและสิบปีหลังมานี่วี่ขายของเองในตลาดคริสต์มาสของหมู่บ้าน เลยอยากมาเล่าจากประสบการณ์ของตัวเองให้เพื่อน ๆ ฟัง

Concept ของตลาดคริสต์มาสก็น่าจะเป็นร้านรวงต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกงานแฮนด์เมด ขนมอบ หรือเป็นของขึ้นชื่อของพื้นที่นั้น หรือจะเป็นเครื่องดื่มร้อน ๆ ทั้งหลาย ทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนเครื่องดื่มที่ขึ้นชื่อที่สุดก็น่าจะเป็นไวน์ร้อนนี่แหละ 

ในออสเตรีย กรุงเวียนนา เริ่มมีตลาดคริสต์มาสมาตั้งแต่ปี 1296 และที่เยอรมัน เมืองมิวนิก เกิดขึ้นในปี 1310 ส่วนที่สวิสวี่หาข้อมูลไม่เจอว่าเริ่มมีตั้งแต่เมื่อไหร่ ถามชาวนาอินดี้ (สามีของวี่) ได้ความว่า “ผมจำไม่ได้ว่ามีตั้งแต่เมื่อไหร่แต่น่าจะหลังจากปี 1990 ตอนผมเป็นเด็ก ๆ ที่หมู่บ้านเรายังไม่มี” (ชาวนาอินดี้เกิดปี 1961) แต่ตลาดคริสต์มาสที่สถานีรถไฟซูริค ได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 1994 ซึ่งมีต้นคริสต์มาสสูง 15 เมตรที่ประดับตกแต่งด้วยคริสตัล Swarovski มากถึง 7,000 ชิ้น ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์และเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมถึงมีร้านค้ามากมายถึง 150 ร้านเลยทีเดียว เรียกว่าเดิน ดื่ม กิน ช็อปกันให้มันสุด ๆ ไปเลย

ส่วนตลาดคริสต์มาสแถวบ้านวี่เป็นงานเล็ก ๆ มีร้านรวงเพียง 25 - 35 ร้านเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกของ Hand Made ประเภทงานไม้ งานถัก เครื่องประดับ มีอาหารประจำท้องถิ่น เช่น ไส้กรอก แฮม แยมผลไม้ ซอสสำหรับสปาเกตตี้ต่าง ๆ และนอกเหนือจากนี้ยังมีอาหารขายหลากหลาย เช่น Raclette (รัคเรท) ชีสร้อน ๆ ยืด ๆ และไส้กรอกย่าง

ตัววี่เองเริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2011 ตอนแรกใจเพียงแค่นึกสนุก ในปีแรกเลยเริ่มต้นขายแค่ข้าวแกง พะแนง ปอเปี๊ยะทอด กาแฟ และเหล้าร้อนอย่างที่เขาฮิต แต่ในปีถัด ๆ มาไม่ได้แค่นึกสนุกอย่างเดียวสิ เพราะรายได้โอเคมาก (ฮ่า ๆ ๆ ๆ) เลยเริ่มจริงจังมาขายเป็นอาหาร 4 อย่าง ปอเปี๊ยะ เหล้าร้อน และไวน์ร้อน โดยหมู่บ้านวี่ตลาดนี้จะมีแค่วันเดียว ตั้งแต่เวลา 12:00 - 19:00 น. แต่หกโมงเย็นคนก็เริ่มเก็บร้านกันแล้ว เรียกว่าขายหมดเกลี้ยงทุก ๆ ปี ที่สำคัญเลยคือคนที่นี่ชอบกินอาหารไทยกันมาก

สมุทรปราการ - ‘ภาครัฐ-เอกชน’ จับมือ พัฒนาคลองไร่อ้อย ตามโครงการ “คลองสวย น้ำใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

นายชวลิต คำสอน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลองสวย น้ำใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งทาง บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด และเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ จัดโครงการนี้ขึ้น โดยมีนาย สมรัก ลิขิตเจริญพันธ์ ผู้จัดการบริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) นาย บุญชัย ก่อเกียรติพิทักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด(มหาชน) นางสาว อังคณา สถิตเสถียร ผู้จัดการแผนกบุคคลและธุรการ บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัด และนายเสริมศักดิ์ อยู่เป็นสุข ผู้จัดการแผนกความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท ไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ จำกัดให้การต้อนรับ

 

สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการปรับปรุงสภาพแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำสาธารณะโดยเฉพาะคลองไร่อ้อย หมู่ที่ 1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกฤดูกาลและไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำจำพวกขยะ สิ่งปฏิกูล รวมทั้งวัชพืชต่าง ๆ นอกจากนั้นเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาครัฐภาคเอกชนและประชาชนในชุมชนในการร่วมกันอนุรักษ์บำรุงรักษาใช้ประโยชน์ และปลูกฝังจิตสำนึกในการรักษาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อให้การจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้รับการป้องกันดูแลและแก้ไขให้เกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ 

นายสมรัก ลิขิตเจริญพันธ์ ผู้จัดการบริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโครงการคลองสวย น้ำใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะและวัชพืชที่มีอยู่เป็นจำนวนมากจนทำให้ชุมชนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแม่น้ำลำคลองได้ อีกทั้งทำให้สูญเสียความสวยงามของทัศนียภาพตามลำน้ำ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอดจนคูคลองบางสายเกิดการตื้นเขิน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชุมชนอีกด้วย 

พลิกโฉมครั้งใหญ่ !!! กรกอ.มีมติ สนับสนุนโครงการประกันราคาสินค้าเกษตร มอบ ”อลงกรณ์” นำทีมยกระดับ พร้อมเห็นชอบโครงการนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร 9 กลุ่มจ.แรก หวังสร้างฐาน สู่หมุดหมายเกษตรมูลค่าสูง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กร.กอ.) เปิดเผยวันนี้(15ม.ค.)ภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/ 2565 ผ่านการประชุมทางไกล zoom cloud meeting โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิชัย ไตรสุรัตน์ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทั้ง5ภาค นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายวินิต อิทธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และนายพงศ์ไท ไทโยธิน ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นฝ่ายเลขานุการ 

โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า กรกอ.มีมติสนับสนุนโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรโมเดลใหม่โดยภาคเอกชนและให้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการมีเป้าหมายประกันราคาสินค้าเกษตรสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกษตรอาหารเพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพและเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้แนวคิดความเป็นหุ้นส่วนระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่และจะเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ของภาคเกษตรของเรา ภายใต้5ยุทธศาสตร์ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ

โดยการสนับสนุนของรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีพาณิชย์

“ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมกุ้งตลอดห่วงโซ่ธุรกิจร่วมกับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งและกรมประมงโดยกระทรวงเกษตรฯ.เริ่มทดลองโครงการประกันราคากุ้งเฟสแรกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังขยายผลโครงการไปกลุ่มผลไม้เศรษฐกิจภายใต้ฟรุ้ทบอร์ด ในอดีตที่ผ่านมาภาครัฐใช้เงินงบประมาณอุดหนุนสินค้าเกษตรกว่าแสนล้านต่อปีขณะที่ผลิตภาพการผลิตภาคเกษตรยังเป็นปัญหาเช่นเดียวกับราคาสินค้าเกษตรก็ไม่มีความแน่นอน การเอาเปรียบทางการค้ากับเกษตรกรยังมีอยู่ ถ้าโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรโดยภาคเอกชนสำเร็จ ต่อไปภาครัฐจะได้ใช้งบประมาณไปทุ่มเทกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเมดอินไทยแลนด์ การพัฒนาผลิตภาพ(Productivity)ทั้งระบบ การพัฒนาการศึกษาด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม การเพิ่มทักษะ(Reskill&Upskill)บุคลากรภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการภาคเกษตรกร และการโปรโมทสินค้าเกษตรอาหารของไทยในต่างประเทศ

โครงการนี้ไม่ง่ายเลยแต่มีความเป็นไปได้ขึ้นกับความร่วมมือแบบหุ้นส่วนของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและความกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ เราต้องช่วยกันปลดกระดุมแล้วกลัดใหม่ สร้างคานงัดใหม่ ๆในการอัปเกรดประเทศไทยของเรา” นายอลงกรณ์กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร 9 กลุ่มจังหวัดแรกหวังสร้างฐานอุตสาหกรรมเกษตรสู่หมุดหมายเกษตรมูลค่าสูงและ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่(S-Curve) รวมทั้งรับทราบวาระต่าง ๆ เช่น 

(1) บันทึกความร่วมมือการสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรด้วยการผลิตไฟฟ้าและพลังความร้อนจากพืชพลังงานเพื่อชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 

(2) ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระดับภาค (กร.กอ.ระดับภาค) 

(2.1) ความก้าวหน้าภายใต้คณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออก ได้เสนอกรอบแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารภาคตะวันออก ปี 2566 -2570  มีเป้าหมายสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตการเกษตรและเชื่อมโยงตลาดในระดับภาคตะวันออกให้เป็นรูปธรรมตามนโยบายตลาดนำการผลิต 

(2.2) ผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าเกษตรที่สำคัญตามศักยภาพแบบครบวงจร ในพื้นที่ 5 กลุ่มจังหวัด ซึ่งได้กำหนดสินค้าแบ่งออกเป็น (1) สินค้าหลัก ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย ผัก โค และแพะ และ (2) สินค้ากลุ่มใหม่ อาทิ แมลงเศรษฐกิจ(จิ้งหรีด) สมุนไพร กัญชาและใบกระท่อม

ที่ประชุมได้พิจารณา “แนวทางการดำเนินการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของกลุ่มจังหวัดนำร่อง” และมีมติ ดังนี้ 

>> (1) เห็นชอบให้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อหารือแนวทางการจัดทำมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ของกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อม 9 กลุ่มจังหวัด  

>> (2) มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯระดับภาค และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับปรุงและเพิ่มเติมรายละเอียดแนวทางการพัฒนาเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อมบางส่วน และกลุ่มที่ไม่มีความพร้อมให้มีสอดคล้องกันในแนวทางการส่งเสริม

‘แผนการ Z’ จุดจบ! ‘กองทัพเรือเยอรมัน’ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 (Plan Z : The End of the Kriegsmarine in WWII)

Kriegsmarine คือ กองทัพเรือเยอรมัน ระหว่างปี ค.ศ. 1935-1945 อันเป็นปีที่สงครามโลกครั้งที่สองยุติ เป็นเหล่าทัพที่สืบทอดมาจากกองทัพเรือจักรวรรดิเยอรมัน และ Reichsmarine ของสาธารณรัฐไวมาร์ (Weimar Republic) Kriegsmarine เป็นหนึ่งในสามเหล่าทัพเยอรมันควบคู่กับ The Heer (กองทัพบก) และ The Luftwaffe (กองทัพอากาศ) ซึ่งประกอบกันเป็นกองทัพแห่งชาติที่เรียกว่า “แวร์มัคท์” (Wehrmacht) 

ในปี ค.ศ. 1939 “Hitler” ได้สั่งจัดทำแผนการพัฒนาแผนการที่จะจัดหากองเรือผิวน้ำให้กับกองทัพเรือเยอรมันเพื่อแข่งขันกับกองทัพเรือสหราชอาณาจักร เป็นที่รู้จักในชื่อว่า “แผนการ Z” โดยคาดว่า กองทัพเรือเยอรมันจะแข็งแกร่งเต็มที่ในปี ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นปีที่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง

แผนการ Z กองทัพเรือเยอรมันเห็นว่า ภารกิจหลักของกองทัพฯ คือ การควบคุมทะเลบอลติก และเอาชนะกองทัพเรือฝรั่งเศสในสงคราม เพราะฝรั่งเศสถูกมองว่า เป็นศัตรูที่มีศักยภาพมากที่สุดหากเกิดสงครามขึ้น แต่ในปี ค.ศ. 1938 Hitler ต้องการที่จะชนะกองทัพเรือสหราชอาณาจักรในสงครามทางทะเลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้นเขาจึงสั่งให้จัดทำแผนการพัฒนาสำหรับกองทัพเรือเยอรมัน จากแผนการที่เสนอทั้งสาม (X, Y และ Z) 

“Hitler” ได้อนุมัติแผนการ Z ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1939 แผนการ Z จะเป็นโครงการสร้างกองทัพเรือของเยอรมันใหม่ คาดว่าจะสร้างเรือรบประมาณ 800 ลำในช่วงปี ค.ศ. 1939-1947 ซึ่ง Hitler ต้องการให้โครงการตามแผนการนี้แล้วเสร็จภายในปี ค.ศ. 1945 

กำลังหลักของแผน Z คือเรือประจัญบาน ชั้น H จำนวน 6 ลำ ตามแผนการ Z ที่ร่างขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 กองเรือเยอรมันได้รับการวางแผนภายในปี ค.ศ. 1945 ให้มีเรือรบประเภทและจำนวนต่อไปนี้

เรือบรรทุกเครื่องบิน 4 ลำ
เรือประจัญบาน 10 ลำ
เรือลาดตระเวนหุ้มเกราะ 15 ลำ (Panzerschiffe)
เรือลาดตระเวน 3 ลำ
เรือลาดตระเวนหนัก 5 ลำ
เรือลาดตระเวนเบา 44 ลำ
เรือพิฆาตและเรือตอร์ปิโด 158 ลำ
เรือดำน้ำ 249 ลำ
เรือรบขนาดเล็กอีกจำนวนมาก
แผนการเพิ่มกำลังพลอีกกว่า 200,000 นาย

เรือประจัญบาน Tirpitz คุ้มกันโดยเรือพิฆาตหลายลำ ใน Bogenfjord ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1942

โครงการสร้างกองทัพเรือของเยอรมันใหม่ที่วางแผนไว้กลับไม่ก้าวหน้ามากนัก เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1939 ความแข็งแกร่งของกองเรือเยอรมันในช่วงเริ่มต้นของสงครามนั้นไม่ถึง 20% ที่ได้กำหนดไว้ตามแผนการ Z เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1939 กองทัพเรือเยอรมันยังคงมีกำลังพลรวมเพียง 78,000 นาย และไม่พร้อมสำหรับบทบาทสำคัญในสงคราม 

เนื่องจากต้องใช้เวลานานในการทำให้กองเรือรบตามแผนการ Z พร้อมสำหรับการดำเนินการ ทั้งยังขาดแคลนแรงงานและวัสดุในยามสงคราม แผนการ Z ถูกระงับในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 และทรัพยากรที่จัดสรรสำหรับการแผนการนี้ส่วนใหญ่ถูกเปลี่ยนไปสร้าง เรือดำน้ำ U-Boat ซึ่งพร้อมสำหรับการทำสงครามทางเรือกับสหราชอาณาจักรได้รวดเร็วกว่า เยอรมนีเข้าสู่สงครามด้วยเรือลาดตระเวนและเรือประจัญบานสมัยใหม่ประมาณ 16 ลำ และเรือพิฆาตอีก 20 ลำ เมื่อเยอรมนีบุกนอร์เวย์ในต้นปี ค.ศ.1940 กองทัพเรือเยอรมันเสียเรือลาดตระเวนเบาสองลำ และเรือพิฆาตอีกสิบลำ เรือรบอีกสองลำทำการโจมตีเรือลำเลียงแบบยิงแล้วหนี แต่กลับถูกตามล่า และทำลายโดยกองเรือสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีความเสียหายกับเรือรบลำอื่น ๆ อีกด้วย

เรือดำน้ำของกองทัพเรือเยอรมัน

กองทัพเรือเยอรมัน กลับมุ่งความสนใจไปที่เรือดำน้ำแทนเนื่องจากการผลิตเรือดำน้ำเหล่านี้ถูกและเร็วกว่า ทั้งสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับได้ ดังนั้นจึงมีความได้เปรียบในการรบ ในขณะที่เรือดำน้ำสามารถตัดการลำเลียงขนส่งทางทะเลของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างได้ผล แต่เรือประจัญบานและเรือลาดตระเวนของเยอรมันส่วนใหญ่ถูกทิ้งให้จอดอยู่ตามท่าเรือต่าง ๆ 

วันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1942 เรือดำน้ำของเยอรมันตรวจพบขบวนเรือลำเลียงขนาดใหญ่ของสัมพันธมิตร ที่ลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงที่จำเป็นอย่างยิ่งให้กับกองทัพโซเวียต ฝ่ายเยอรมันวางแผนที่จะโจมตีขบวนเรือดังกล่าวโดยใช้ส่วนหนึ่งของกองเรือดำน้ำเพื่อล่อให้เรือคุ้มกันเข้าสู่การรบ ในขณะที่ขบวนเรือลำเลียงจะมุ่งตรงไปยังกองเรือดำน้ำที่เหลือของเยอรมัน

U-459 เรือดำน้ำสนับสนุนแบบ XIV (รู้จักกันในชื่อ “Milch cow (วัวนม)”) จมลงหลังจากถูกโจมตีโดยเรือหลวง Vickers Wellington

แม้ว่าแผนการดังกล่าวจะประสบความสำเร็จในการแยกขบวนเรือของอังกฤษ แต่ด้วยทัศนวิสัยไม่ดีและคำสั่งจาก Hitler ให้หลบหนีเมื่อฝ่ายศัตรูมีจำนวนที่มากกว่านั้นนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของเยอรมัน กองเรือลำเลียงของฝ่ายสัมพันธมิตรทั้งหมดไปถึงรัสเซียโดยที่อาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงที่จำเป็นไม่เสียหาย เนื่องจากการสื่อสารที่ผิดพลาด Hitler จึงได้รับแจ้งว่ากองทัพเรือเยอรมันประสบความสำเร็จในการโจมตีขบวนเรือดังกล่าว Hitler จึงได้ปราศรัยในโอกาสวันปีใหม่ทางวิทยุโดยประกาศว่า ขบวนเรือลำเลียงของอังกฤษถูกทำลายอย่างเสร็จสมบูรณ์ 

สระบุรี - ‘ผบ.มทบ.18’ พร้อม ‘แม่บ้านทหารบก’ มอบรถจักรยานให้เด็ก ๆ ในวันเด็กแห่งชาติ

พล.ต. คณธัช มากท้วม ผบ.มทบ.18 และ คุณ ธนัญญา มากท้วม ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มทบ.18 เป็นประธานการจับสลากรางวัลพิเศษ กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ระบบออนไลน์ ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยมอบของขวัญให้กับ ผบ.หน่วย เพื่อนำไปมอบให้กับกำลังพลและนำไปมอบให้กับบุตรต่อไป(บุตรฯ จำนวน 249 คน) จัดหาจักรยานเพื่อมอบให้กับบุตรกำลังพล จำนวน 96 คัน และรางวัลพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ณ อาคารอดิศร มทบ.18

สตูล - ศูนย์การศึกษาเด็กพิเศษประจำจังหวัดสตูล จัดโครงการ “วันเด็กพิการจังหวัดสตูล ปีการศึกษา 2564” ส่งมอบของขวัญให้เด็กพิการในจังหวัดสตูล

วันนี้ 14 ม.ค.2565 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดโครงการวันเด็กพิการจังหวัดสตูล ปีการศึกษา 2564 ส่งมอบของขวัญให้เด็กพิการในจังหวัดสตูล โดยมีนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสตูล และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล มีเด็กพิการ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กพิการเข้าร่วมกิจกรรม โดยดำเนินการตามมามาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ณ อาคารศูนย์การศึกษาเด็กพิเศษประจำจังหวัดสตูล ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า เราทุกคนคงตระหนักถึงความสำคัญของเด็กพิการและเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ว่าเขาเหล่านั้น เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่ง ซึ่งต้องได้รับการพัฒนา ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และเชื่อว่ากิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในวันนี้ จะทำให้เด็กพิการและเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ บุคคลในครอบครัว ชุมชน และสังคมที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ และขอให้เด็กทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหมั่นฝึกฝนตนเอง ตลอดจนปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ให้เกิดทักษะและมีประสบการณ์ เพื่อที่จะนำไปใช้ในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุขและเพื่อความเจริญมั่นคงของชาติไทย และในโอกาสนี้ ได้มอบเกียรติบัตรแก่คุณครูผู้สอนเด็ก ๆ ในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสตูล เพื่อเป็นกำลังใจให้ครูได้สอนเด็ก ๆ ต่อไป

นางสาวพนารัตน์ มาลีลัย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสตูล กล่าวว่า ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสตูล ได้กำหนดจัดกิจกรรมงานวันเด็กพิการจังหวัดสตูล ประจำปี 2564 แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทางศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสตูล จึงกำหนดจัดกิจกรรมวันเด็กพิการแห่งชาติที่ศูนย์เด็กพิการประจำอำเภอทั้ง 7 อำเภอ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เด็กพิการในการพัฒนาศักยภาพ และมีพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ในสังคม และเปิดโอกาสให้เด็กพิการและครอบครัวได้รับโอกาสทางสังคม

 

กาฬสินธุ์ - รณรงค์หยุด!! ‘การเผาพื้นที่เกษตร’ ร่วมทำแนวกันไฟ เดินหน้านำร่องหนุนเกษตรกร ใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนของเสียให้มีประโยชน์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง องค์กรภาคเอกชน และเครือข่ายเกษตรกร รณรงค์หยุดการเผาในพื้นที่เกษตร เดินหน้านำร่องหนุนเกษตรกรใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนของเสียให้มีประโยชน์ ลดต้นทุนการผลิต เกิดความสมบูรณ์ของดินและอินทรียวัตถุในดิน ได้ผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มกราคม 2565 ที่แปลงเกษตรกร นายสุนัน มิทะรา บ้านโนนตูม หมู่ที่ 4 ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผา ในพื้นที่การเกษตร ปี 2565 โดยมีนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายชานุวัฒน์ วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ และหัวหน้าส่วนราชการร่วมงาน

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่างานนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาดังกล่าว จัดโดยสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับอำเภอยางตลาด สำนักงานเกษตรอำเภอยางตลาด องค์การบริหารส่วนตำบลหนองตอกแป้น องค์กรภาคเอกชน และเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเครือข่ายเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการทำเกษตรปลอดการเผา รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรนำเอาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการสร้างมูลค่าและเพิ่มผลผลิต

นายทรงพลกล่าวอีกว่า ปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศ มีสาเหตุหนึ่งมาจากการเผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร ซึ่งการเผาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อการทำอาชีพการเกษตรโดยตรง คือทำให้ดินเสื่อมโทรม ขาดความอุดมสมบูรณ์และส่งผลให้สูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

ศพดส.ตร. พบเรือประมงสองจังหวัด สวมทะเบียนลอบทำประมงผิดกฎหมาย สั่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้อง เชื่อ!!เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็น

จากกรณีที่ประเทศไทยได้ถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) โดยมีข้อสังเกตในเรื่องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจังในทุกภาคส่วน ปัญหาการบังคับใช้แรงงานและแรงงานข้ามชาติซึ่งเกิดขึ้นในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงภาคการประมง รวมทั้งปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ตามที่ทราบแล้ว นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และการบังคับใช้แรงงานในภาคการประมง โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการประมง เพื่อการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวและประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร./รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) โดยเร่งด่วน

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ได้เดินทางมาตรวจสอบเรือประมงต้องสงสัยในการสวมซาก ปลอมเปลี่ยนแปลงชื่อเรือ ที่คานเรือ ต.โกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 

หลังได้รับรายงานจาก สภ.สัตหีบว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2565 เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจประมงชลบุรีเข้าตรวจสอบเรือประมงชื่อโนรีนาวา ณ ท่าเทียบเรือสะพานปลาป้าแคลง ซึ่งเรือลำดังกล่าวยื่นคำร้องขอปิดสัญญาณอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือชั่วคราว เนื่องจากกรณีตัวเรือเกิดชำรุดเสียหายต้องซ่อมแชม โดยนำเรือเข้าอู่เรือคานเรือ หรือท่าเทียบเรือประมงไว้กับด่านตรวจประมงชลบุรี แต่เมื่อไปตรวจสอบ ไม่พบเรือลำดังกล่าวที่ท่าเทียบเรือสะพานปลาป้าแคลง จึงขยายผลตรวจสอบ จนพบเรือดังกล่าว ถูกนำไปจอดไว้ห่างออกไป ซึ่งคาดว่าจะนำเรือไปจม เพื่อนำหมายเลขเรือดังกล่าวไปสวมซากเรือ 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1/หน.ชป.2 พ.ต.อ.น้ำเพขร ทรัพย์อุดม รอง ผบก.คด./รอง หน.ชป.ที่ 2 พร้อมพวกตำรวจสืบสวนขยายผลจนได้ข้อมูลว่า มีเรือที่เกี่ยวข้องกัน อยู่ที่ จ.สมุทรสาคร จึงเดินทางมาตรวจสอบพบเรือต้องสงสัยอีก 1 ลำ จึงร่วมกับพิสูจน์หลักฐาน กรมเจ้าท่า กรมประมง ศรชล. ตำรวจน้ำ ทำการตรวจพิสูจน์

เบื้องต้นพบว่า นายสนั่น แซ่ลี้ เป็นเจ้าของเรือ โดยให้การว่า ซื้อเรือ ศุภประภานำโชค   มาจาก น.ส.สุธีรา มุกดา อยู่ที่ ต.แสมสาร  ชลบุรี  เมื่อวันที่ 16 พ.ย.64  ในราคาสามแสนบาท   โดยจดทะเบียนที่ กรมเจ้าท่าถูกต้อง ก่อนผู้ขายจะขับเรือมาส่งให้ ที่ท่าหน้าบ้าน เลขที่ 82/6 ม.2 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร  โดยผู้ซื้อเดินทางด้วยรถยนต์ มาจดทะเบียนโอนเรือให้ที่ จท.สมุทรสาคร  และจอดเรือไว้ที่ท่าหน้าบ้านประมาณ 20 วัน จึงนำเรือมาขึ้นคานซ่อมแซม ที่คานเรือ เนื่องจากเรือมีสภาพทรุดโทรมมาก จากนั้นตน ก็ไปขอโอนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ และได้รับแล้ว  มีเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง  

จากการตรวจสอบกายภาพของเรือ พบมีชื่อ เลขทะเบียน เลขเครื่องหมายประจำเรือประมง  มีการตอกเลขอัตลักษณ์2 แห่ง จึงได้แจ้งจท. Pipo ศรชล. พฐ. ร่วมตรวจสอบเรือ โดยตรวจวัดขนาด และตรวจเลขอัตลักษณ์ พฐ.ตรวจพิสูจน์ ชื่อเรือ  เลขทะเบียน โดยจะลอกสี  เพื่อดูชื่อเรือที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งตรวจ การตอก ร่องรอยลักษณะ 

โดยเบื้องต้นพบว่า เรือลำดังกล่าวมีการขูดเปลี่ยนแปลงหมายเลขเป็นอีกลำหนึ่ง ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ เรือ ศุภประภานำโชค เรือโนรีนาวา ที่ตรวจพบที่ สัตหับ จ.ชลบุรี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรือต้องสงสัยที่ตรวจพบทั้งหมด มีความเชื่อมโยงกัน มีการขูดลอกเลข เพื่อปลอมแปลงชื่อเรือ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยละเอียดของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบการกระทำความผิด จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี รวมทั้งขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ยืนยันว่าจะทำความจริงให้ปรากฏ แยกน้ำดีออกจากน้ำเสีย เพื่อแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายตามนโยบายรัฐบาล” 

 

สุโขทัย - อบจ.สุโขทัย ร่วมกับเทศบาลศรีสำโรง จัดโครงการคลองสวยน้ำใส กำจัดผักตบชวาและวัชพืชในคลอง เสริมแหล่งพักผ่อนเติมสุขให้ชุมชน

โครงการคลองสวยน้ำใส (กิจกรรมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชคลองตาปาน) พื้นที่แหล่งน้ำสำคัญของอำเภอศรีสำโรง จ.สุโขทัย มีนายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วยคณะผู้บริหารและบุคลากร องค์การบริหารส่วนจังหวัด และเทศบาลตำบลศรีสำโรง

ซึ่งอบจ.สุโขทัย ได้สนับสนุนเครื่องจักรกล พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ที่กีดขวางทางน้ำในคลองตาปาน ที่เป็นคลองน้ำสำคัญในพื้นที่อำเภอศรีสำโรง ที่ใช้ประโยชน์จากคลองน้ำสายนี้ และเพื่อพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณคู คลอง เป็นการส่งเสริมให้ประชาชน ชาวชุมชน ในพื้นที่ได้มีส่วนร่วม และตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรแหล่งน้ำในชุมชน

เพชรบูรณ์ - ‘มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์’ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัย

นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เชิญถุงยังชีพพระราชทานในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ไปมอบให้ นายเพียร โพยนอก  ผู้ประสบอัคคีภัย  ณ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 6 ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โดยมีนายวิชาญ เดชเรืองศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านวังมะขาม ต.พญาวัง  กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะกรรมการ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอำเภอบึงสามพัน หัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา เข้าร่วม พร้อมมอบเงินและสิ่งของเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น

นายวิชาญ เดชเรืองศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านวังมะขาม ต.พญาวัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 เวลา 15.00 น. ได้เกิดเหตุอัคคีภัย ณ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 6 บ้านวังมะขาม ต.พญาวัง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ นายเพียร โพยนอก อายุ 74 ปี ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้อยู่ในตัวบ้าน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ องค์การบริหารส่วนตำบลพญาวัง องค์การบริหารส่วนตำบลซับไม้แดง และที่ทำการปกครองอำเภอบึงสามพัน รวมรถดับเพลิงที่เข้าให้การช่วยเหลือ 3 คัน และเพลิงสงบลงเวลา 16.00 น.

โดยในโอกาสนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้มอบ เงิน  ถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย และองค์การบริหารส่วนตำบลพญาวัง  จะดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบและอำนาจหน้าที่ต่อไป จากนั้นเวลา 15.30 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมคณะ  เชิญผ้าห่มกันหนาวพระราชทานใน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์  และ เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบให้กับ ผู้พิการและผู้ป่วยติดเตียงที่ประสบภัยหนาว พื้นที่อำเภอบึงสามพันจำนวน 4 ราย และอำเภอหนองไผ่ จำนวน 5 ราย

ตั้งสติ!! “ห้ามโอนเงินโดยเด็ดขาด” โฆษก ตร. เตือนภัยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน

13 ม.ค.65 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในห้วงเวลาปัจจุบัน ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชนในหลายรูปแบบ อาทิเช่น หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด หรือปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วให้เพิ่มเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยปลอมเป็นไลน์ของสถานีตำรวจ เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกให้หลงเชื่อว่าทำผิดกฎหมายเพื่อโอนเงินแลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายมิจฉาชีพจะโน้มน้าวให้ “โอนเงิน” ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นั้น  ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินเด็ดขาด

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากภัยร้ายทางโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอย่างจริงจัง จึงได้ตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าว อย่างเข้มงวด เพื่อลดความสูญเสียทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฯ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ประชาสัมพันธ์เตือนภัย และให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพ เสมือนเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันภัยร้ายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Vaccinated) และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างมิจฉาชีพอย่างเข้มข้น รวดเร็ว เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกต่อไป จึงอยากขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่า หากท่านพบว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดำเนินการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพ ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินโดยเด็ดขาด

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top