Saturday, 17 May 2025
SPECIAL

“ตัดวงจรร้าย - วางสายทันที” รู้ทัน! คอลเซ็นเตอร์หลอกขอข้อมูลส่วนตัว ด้วยความห่วงใยจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงปัจจุบันได้มีมิจฉาชีพในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ เช่น หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกว่าเป็นพนักงานส่งสินค้า หลอกว่าพัสดุของท่านไม่สามารถส่งได้ หรือใช้คำถามลวงขอทราบเลขพัสดุทำให้ผู้รับสายเกิดความสับสน และทำให้เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงเพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัว เลขบัญชีธนาคาร หรือเลขบัตรประชาชน จนกระทั่งนำไปสู่การโน้มน้าวให้โอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ นั้น 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากมิจฉาชีพในรูปแบบคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง จึงได้ตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อปฏิบัติภารกิจกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือภัยร้ายทางโลกออนไลน์อย่างเข้มงวด เพื่อลดความสูญเสียทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฯ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ประชาสัมพันธ์เตือนภัย และให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพเสมือนเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันภัยร้ายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Vaccinated) และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างมิจฉาชีพอย่างเข้มข้น รวดเร็ว เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกต่อไป จึงอยากขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่า หากท่านรับสายโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พยายามขอให้บอกข้อมูลส่วนตัว หรือขอให้โอนเงินทางโทรศัพท์ "ขอให้ท่านสันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพ และวางสายโดยทันที" เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ ขอแสดงความเสียใจ รองสารวัตรสืบสวน สภ.หนองปลิง พลีชีพ! ระงับเหตุคนร้ายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น เตรียมปูนบำเหน็จ ดูแลสวัสดิการอย่างดีที่สุด!!

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.65 ได้เกิดเหตุการณ์อันน่าสลดใจเกิดขึ้น มีข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น ชุดสืบสวน สภ.หนองปลิง ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ จึงได้ออกติดตามคนร้ายผู้ก่อเหตุ แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุแล้วคนร้ายได้คลุ้มคลั่งยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้ายไว้แล้ว และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอสดุดีวีรกรรมของ ร.ต.อ.ชัยปติณญา แสงปาน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองปลิง ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ด้วยความตั้งใจ เสียสละ จนวาระสุดท้ายของชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ของ ร.ต.อ.ชัยปติณญาฯ ให้ดูแลสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วและดีที่สุด

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาการปูนบำเหน็จความชอบและดูแลในเรื่องของเงินสวัสดิการอย่างเต็มที่ รวมถึงเงินสวัสดิการของต้นสังกัด และสวัสดิการอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละ และให้กำลังใจครอบครัวที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวนี้ โดยในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และผู้ได้รับเงินเยียวยาสามารถตรวจสอบข้อมูลสวัสดิการเพิ่มเติมได้ที่ แอปพลิเคชันแทนใจ 

ตร.แนะนำ แนวทาง “3 ไม่ 1 ควร” และชวนประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายให้ข้อมูล ช่วยกำจัด ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’!!

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะขึ้นแก่ประชาชน โดยเฉพาะการสูญเสียทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวง โดยให้มีการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดและหากพบผู้กระทำความผิดจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ถึงแนวทาง “3 ไม่ 1 ควร” ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันการถูกหลอกลวง และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากร เพื่อกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ดังนี้

1. “ไม่ตกใจ” หากมีแจ้งว่าท่านหรือบุคคลในครอบครัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเกี่ยวกับการฟอกเงิน และท่านอาจถูกดำเนินคดี อย่าเพิ่งตกใจ ให้ตั้งสติให้ดี และระมัดระวังในการสนทนากับบุคคลดังกล่าว เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐจริง

2“ไม่เชื่อ” หากได้รับสายจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือองค์กรต่าง ๆ ให้สอบถามก่อนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด มี ยศ ชื่อ-สกุล และตำแหน่งใด ถ้าหากมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยควรสอบถามไปที่หน่วยงานดังกล่าวโดยตรง

3. “ไม่โอน” หากมีการอ้างว่า ต้องให้ท่านโอนเงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ห้ามโอนเงินให้เด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีทางที่จะขอให้ท่านโอนเงินมาให้ตรวจสอบแน่นอน

4. “ควรแจ้งเจ้าหน้าที่” หากท่านได้รับสายที่น่าเชื่อว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชน ควรแจ้งเบาะแสของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์มาหาท่านให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ โดยเฉพาะเบาะแสเกี่ยวกับช่องทางการติดต่อ เช่นหมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขบัญชีธนาคาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระงับหรืออายัดบัญชีธนาคารของคนร้ายและสามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์  กล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้มิจฉาชีพเหล่านี้ได้สร้างเดือดร้อน และความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยเป็นจำนวนมาก และมีการพัฒนาการหลอกลวงไปในหลายรูปแบบ สำหรับแนวทาง “3 ไม่ 1 ควร” เป็นเน้นและย้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ  

ชลบุรี - ทัพเรือภาคที่1 นำกองทัพไอโอดีนจากพี่น้องประมงชลบุรี มุ่งหน้าส่งมอบ ‘จากทะเล-สู่ดอย’ ตามโครงการพระราชดำริฯ ‘ต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน’

เคลื่อนทัพแล้ว...ทัพเรือภาคที่1 นำกองทัพไอโอดีน จาก พี่ น้อง ประมง พื้นที่ จ.ชลบุรี สมทบ กับพื้นที่อื่น ๆ มุ่งหน้าขึ้นเหนือทันที และส่งมอบให้เด็ก ๆ ตามโครงการพระราชดำริฯ ต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน

ที่เทศบาลตำบลบางเสร่ กลุ่มเกษตรกรประมง ต.บางเสร่ สมาคมการประมงแสมสาร และสมาคมประมงชลบุรี ร่วมกับ เทศบาลตำบลบางเสร่ ได้ส่งมอบ ปลากระตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน ให้แก่ กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่1

ภายหลังการส่งมอบเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ได้นำปลากระตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน ขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ ของทัพเรือภาคที่1 ที่ได้จัดเตรียมไว้และ ได้ออกเดินทางทันที เพื่อไปสมทบกับขบวนรถของ ทัพเรือภาคที่1 ที่ได้รับมอบ ปลากระตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน จาก สมาคมการประมง องค์การสะพานปลาอื่น ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่1 (อ่าวไทยตอนบน )

ปทุมธานี - วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี รับโล่รางวัลและเกียรติบัตรผู้ทำคุณประโยชน์ แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัย และบุคลากรดีเด่น ประจำปี 2564

โดย นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี เข้ารับโล่และประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยประจำปี 2564 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ทั้งนี้ นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นกลไกหลักในการส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งการคัดเลือกผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ประเภทกิตติมศักดิ์ และประเภทบุคคลทั่วไป โครงการยกย่องผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2560 - ปัจจุบัน และให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลทางวัฒนธรรมในการดำเนินงานของฝ่ายทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม กองพัฒนานักศึกษา มาอย่างต่อเนื่อง

 

 

นราธิวาส - ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส นำ 'ตำรวจจิตอาสา' มอบรถเข็นวิลแชร์ 4 คัน พร้อมน้ำดื่มให้ผู้ป่วยติดบ้าน

ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างความปลาบปลื้ม ยินดีกับผู้ป่วยดังกล่าวเป็นอย่างมาก พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจจิตอาสา สภ.เมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข  ร่วมกิจกรรมจิตอาสา มอบรถเข็นวิลแชร์ 4 คัน พร้อมน้ำดื่ม ให้ผู้ป่วยติดบ้าน จำนวน 4 คน ได้แก่ นางชุนกุ๋ย พับสิทธิ์ อายุ 77 ที่อยู่ 15/2 ถ.ประชาพัฒนา ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส , นางบุญ สุขเลี้ยง อายุ 87 ที่อยู่ 31 ซ.วัชรีบำรุง ถ.ณ นคร ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส , นางซีตี เปาะจิ อายุ 90 ปี บ้านเลขที่ 149/1 ม.10 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส และนางแมะเยาะ สาและ อายุ 83 ปี บ้านเลขที่ 148/7 ม.10 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเป็นการการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และการส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส  กล่าวว่า ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ที่จะปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ และทำความดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน โดยบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน

 

พิจิตร - ผู้ว่าฯพิจิตร จัดพบสื่อแถลงข่าววันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดแค่ 2 ราย ยืนยัน! พร้อมหาวัคซีนเข็ม 3 ฉีดครูและประชาชน

วันที่ 19 มกราคม 2565 นายไพบูลย์  ณะบุตรจอม  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้จัดกิจกรรมพบสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวที่ห้องประชุมโรงแรมมีพรสวรรค์ ซึ่งจัดขึ้นโดย นางสาวอัชณัฐ  ปราถนารักษ์  ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร รวมถึงมีผู้สื่อข่าว-นักจัดรายการวิทยุ-เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์รวมแล้วกว่า 50 คน  ที่เข้าร่วมรับฟังผู้ว่าฯพิจิตร , ดร.ปัญญา หาแก้ว  ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร , ดร.มานิตย์  นาคเมือง  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 , นายจันทบูรณ์  เขตการ  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ที่ร่วมกันแถลงข่าวในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องสำคัญคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยผู้ว่าฯพิจิตร แจ้งว่า วันนี้พิจิตรพบผู้ป่วยรายใหม่เพียงแค่ 2 ราย และต่อจากนี้ก็จะเร่งเชิญชวนให้ชาวพิจิตรฉีดวัคซีนเข็ม 2 และ เข็ม 3  ให้ได้ครบ 100% โดยมีแผนให้ อสม. และหมออนามัยเดินเคาะประตูบ้านไปฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน นอกจากนี้ก็จะจัดหาวัคซีนให้บุคลากรครูของจังหวัดพิจิตรใน 12 อำเภอ ประมาณ 2 หมื่นคนเศษ ให้ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 รวมทั้งนักเรียนที่อายุเกิน 12 ปี  ด้วยเช่นกัน ส่วนเด็กนักเรียนที่อายุ 5 ปีขึ้นไป เร็วๆนี้ก็จะมีวัคซีนฉีดให้อีกด้วย

โดย  ดร.มานิตย์  นาคเมือง  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต1 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 131 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ On Site จำนวน 129 แห่ง หรือ 97 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3

นายจันทบูรณ์  เขตการ  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 122 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ  On Site จำนวน 101 แห่ง หรือ 82 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ด้วยเช่นกัน

ดร.ปัญญา หาแก้ว ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร แถลงว่าระดับมัธยมมีโรงเรียน 30 แห่ง ครู 1,300 คนเศษ เด็กนักเรียนรวม 17,662 คน  ครูฉีดวัคซีนแล้ว 99 % ส่วน 1% ที่ขาดไปคือมีปัญหาด้านสุขภาพจึงไม่ขอรับการฉีดวัคซีนแต่ขอใช้วิธีดูแลตนเองด้วยมาตรการเข้มข้น ส่วนเด็กนักเรียนระดับมัธยมฉีดวัคซีนแล้ว 96% แต่จาก 12 อำเภอยังมีไม่ขอฉีดวัคซีนประมาณ 600 คน เนื่องจาก ผู้ปกครองไม่ยินยอมด้วยเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ แต่ก็มาโรงเรียนต้องถูกตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ

รวมถึงการจัดการเรียนการสอนห้องหนึ่งก็ให้นั่งเรียนได้ไม่เกิน 25 คน โดยสรุปผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 3 ท่านแถลงว่าเด็กส่วนใหญ่อยากมาโรงเรียน ส่วนเด็กเล็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ไม่น่าห่วงเพราะเด็กเล็กไม่ได้เที่ยวไกลและอยู่ในสายตาของพ่อแม่- ครู –ผู้ปกครอง ที่น่าห่วงคือเด็กระดับมัธยมและอาชีวะเพราะเป็นวัยรุ่นรัศมีการท่องเที่ยวและการพบเพื่อนมากกว่าเด็กเล็ก แต่ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อีกทั้งสถิติของผู้ติดเชื้อโควิดในพิจิตรส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านหรือผู้ที่เดินทางมาจากเมืองใหญ่แล้วเอาเชื้อโควิดมาแพร่กระจายให้กับคนในครอบครัวเสียมากกว่า ส่วนการแพร่ระบาดภายในโรงเรียนมีสถิติพบน้อยมากจึงไม่น่าห่วง

 

ประจวบคีรีขันธ์ - จ.ประจวบฯ น้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องใน ‘วันกองทัพไทย’

เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานต่างๆ ร่วมประกอบพิธีถวายราชสักการะและถวายพานพุ่มดอกไม้สด พร้อมกล่าวถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันกองทัพไทย เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช องค์วีรกษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพบุรุษของไทยที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้เป็นมรดกมาจนถึงทุกวันนี้

วันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย เป็นวันที่ระลึกในวาระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาของพม่า โดยถือเอาวันที่ 18 มกราคม ตามการคำนวณจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ระบุว่า พระองค์กระทำยุทธหัตถีในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จ.ศ.954 คำนวณได้ ตรงกับวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2135 (บางตำรา พ.ศ.2136) เดิมกระทรวงกลาโหมได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายน ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย ต่อมาในปี พ.ศ.2523 ได้เปลี่ยนโดยให้ถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันกองทัพไทยและวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ลง 13 มิ.ย.2523 ต่อมาภายหลังได้มีนักประวัติศาสตร์หลายท่านได้ตรวจสอบและพบว่าวันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม แต่น่าจะตรงกับวันที่ 18 มกราคมปีดังกล่าว ทางราชการยังคงถือเอาวันที่ 25 มกราคมเป็นวันกองทัพไทยต่อไป

 

เพชรบุรี - “ยุทธพล” ลงหาดชะอำ หาแนวทางแก้ไขปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง

วันที่ 19 มกราคม นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายปรานต์ ดิลกคุณากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง นายสืบสกุล หนูไชยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมกับนายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผอ.สำนักงาน ทสจ.เพชรบุรี สื่อมวลชนและตัวแทนภาคประชาชนลงพื้นที่บริเวณชายหาดชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อติดตามพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงกันคลื่นกัดเซาะชายหาดบริเวณชายหาดชะอำ ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ตามที่มีประเด็นข่าวทางสื่อมวลชน ซึ่งบริเวณดังกล่าวขณะนี้ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยการจัดทำโครงการกำแพงกันคลื่นซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอยู่

สำหรับพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีมีความยาวชายฝั่ง 89.71 กิโลเมตร มีพื้นที่ประสบปัญหากัดเซาะชายฝั่งระยะทาง 50,42 กิโลเมตร ดำเนินการแก้ไขแล้ว 45.40 กิโลเมตร พื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่ง 5.02 กิโลเมตร และพื้นที่ที่ไม่ประสบปัญหากัดเซาะ 39.29 กิโลเมตร สำหรับในส่วนที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ดำเนินการแก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งโดยการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นในจังหวัดเพชรบุรี ระยะทาง 6,760 เมตร

 

‘INTERPOL’ ประสานสืบ ตม.รวบ!แก๊งลักรถฟิลิปปินส์ หลังก่อคดีบินซุกไทย - กบดานเป็นครูสอนภาษา

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี    เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ/ผอ.ศปชก.ตร. มอบหมายให้ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.)   ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด 

ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) โดย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. และ ว่าที่ พ.ต.อ.พิสิษฐ์  ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าว

โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ได้รับการประสานจากตำรวจสากลฟิลิปปินส์ (INTERPOL) ขอความร่วมมือให้ช่วยติดตาม นายหลุยส์ และ นางออเรีย สัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบุคคลต้องการตัวตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) โดยเป็นผู้ต้องหาหลบหนีตามหมายจับศาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ในข้อหาโจรกรรมรถยนต์ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. สืบสวนหาตัวบุคคลตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ทั้งสองรายซึ่งได้หลบหนีหมายจับจากสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. จึงได้ทำการสืบสวนพบว่า คนต่างด้าวทั้งสองรายได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 และ 27 ธ.ค.2562 ตามลำดับ โดยได้พักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่าน ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. และได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเพื่อประกอบอาชีพเป็นครูสอนภาษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม.

จึงได้เสนอ ผบก.สส.สตม. ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12(7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กล่าวคือเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. ได้ไปตรวจสอบที่คอนโดมิเนียมย่าน ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. พบคนต่างด้าวทั้งสองราย จึงได้แจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

 

นครพนม - กอ.รมน.มุกดาหาร ร่วมประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องใน "วันกองทัพไทย" ประจำปี 2565 ณ มณฑลทหารบกที่ 210

พ.อ.วรพรต แก้ววิจิตร รอง ผอ.รมน.จังหวัด ม.ห.(ท)/รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.210 ร่วมประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2565  โดยมี พล.ต.สถาพร บุญชู ผบ.มทบ.210 เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2565 โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มทบ. 210 กำลังพล มทบ.210 , ร.3 พัน.3 , ส่วนราชการภาครัฐ, ภาคเอกชน, เข้าร่วมพิธี ณ สนามหน้า บก.มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม

โดย ผบ.มทบ.210 ได้อ่านโอวาทผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนำกล่าวสดุดีวันกองทัพไทย พร้อมนำกำลังพลสวนสนาม และนายทหารสัญญาบัตรและนายทหารประทวนที่เข้ารับราชการใหม่ กล่าวปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล

 

เพชรบูรณ์ - ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 พร้อมด้วยประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก นำกำลังพลพร้อมครอบครัว ร่วมกิจกรรมวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เนื่องในวันยุทธหัตถี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ณ พุทธสถานกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 พลตรีสามารถ  มโนรถมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 พร้อมด้วย คุณกชพร มโนรถมงคล ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 36 นำกำลังพลพร้อมครอบครัว ร่วมกิจกรรมวางพานพุ่มถวายราชสักการะและกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องใน วันยุทธหัตถี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  18 มกราคม 2565”

 

ตร.รวบ!หนุ่มฮังการี อยู่เกินกว่า 10 ปี หนีคดีฉ้อโกงเงินประกันกว่า 42 ล้านบาท!!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้

สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม.  พร้อมด้วย  พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ โดยมีรายละเอียดดังนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายลาจอส อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี โดยกล่าวหาว่า  “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมคอนโดมิเนียมย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ   

พฤติการณ์การกระทำผิด กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้พบเห็นชายชาวต่างชาติมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับผู้ต้องหาตามประกาศทางเว็บไซต์ของตำรวจประเทศฮังการี ชื่อนายลาจอส กระทำความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย โดยสายลับได้พบเห็นนายลาจอส ในย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ประสานงานสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตฮังการี ประจำประเทศไทย

โดยรับแจ้งว่า นายลาจอส เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ทางการประเทศฮังการีต้องการตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ตรวจสอบในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายลาจอสเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 วีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดรวม จำนวน 4,254 วัน และยังพบว่า กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือ ที่ 0002.4/4127 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2554 แจ้งว่า นายลาจอส เป็นผู้ต้องหาที่ทางการฮังการีต้องการตัวตามหมายจับของศาลฮังการีในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย เป็นเงินจำนวน 401,394,145 โฟรินต์ฮังการี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 42 ล้านบาท

 

ตร.บุกทลายฐานที่ตั้ง ‘เว็บพนันออนไลน์ ROYAL CLUB และ BET MOVE’ สัญชาติเกาหลี เงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 100 ล้านบาท!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง การควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวใน   ประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัทร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ปิยะ  อุทาโย รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่เพื่อก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ  นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม, พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. แถลงข่าวผลการจับกุมดังนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ ศปอส.ตร.เข้าตรวจค้น อาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามหมายค้นศาลแขวงพัทยา ที่ 2/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.65 และ   ทำการตรวจค้น ห้องเลขที่ 290/54  Northshore Condominium หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ตามหมายค้นศาลแขวงพัทยา ที่ 1/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.

จับกุม ชาวเกาหลีใต้ จำนวน 11 คน ดังนี้

1. MR.KYOUNGMIN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 36 ปี

2. MR.HOYEON สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 27 ปี

3. MR.GANGTO สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 27 ปี

4. MR.GYEONGSU สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 32 ปี

5. MR.JEONG สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

6. MR.SEUNGWOOK สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

7. MR.KYEONGKYU สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 20 ปี

8. MR.SUNGHYUN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 37 ปี

9. MR.WOOKJIN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 36  ปี

10. MR.YOUNGJUN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 32 ปี

11. MR.DOHYEON สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี

ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้เล่นพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมายและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต,เป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมยึดของกลาง รวมทั้งหมดจำนวน 60 รายการ แบ่งเป็น คอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 19 จอ คอมพิวเตอร์แบบพกพา จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 18 เครื่อง และ บัตรส่งรหัส otp จำนวน 11 ใบ โดยได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คนพร้อมของกลางในคดีส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง พัทยาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่าได้มีบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้เข้ามาอาศัยประเทศไทยเป็นฐานในการทำพนันออนไลน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าได้มีการตั้งจุดทำการพนันที่กรุงเทพมหานครและย้ายไปที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายค้นต่อศาลแขวงพัทยา     

ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่า MR.DOHYEON  ได้ร่วมกับคนไทยในการจัดตั้งฐานในการกระทำครั้งนี้ โดย MR.DOHYEON  จะเป็นผู้จัดตั้งระบบและนำคนเกาหลีใต้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยเพื่อทำงานและ  ไทยผู้ร่วมขบวนการเป็นคนจัดหาสถานที่ในการทำงาน ที่พัก รวมถึงการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีกลุ่มแก๊งชาวเกาหลีใต้ อยู่เบื้องหลังการกระทำความผิดในครั้งนี้ และยังมีผู้ร่วมกระทำความผิด ที่ยังสามารถสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนได้อีก โดย กก.ปอพ.บก.สส.สตม.และ ศปอส.ตร. จะดำเนินการสืบสวนขยายผลและติดตามจับกุมหัวหน้าขบวนการและเครือข่าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

สุรินทร์ - มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ผู้ก่อตั้งค่ายวีรวัฒน์โยธิน และพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย

ที่ ค่ายวีระวัฒน์โยธิน พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาสักการะ พร้อมกล่าวคำสดุดีต่อหน้าอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ผู้ก่อตั้งค่ายวีรวัฒน์โยธิน เนื่องในวันกองทัพไทย โดยมีกำลังพลหน่วยขึ้นตรง ข้าราชการบำนาญ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กองกำลังสุรนารี ร้อย.23 พัน 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่ 54 หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมใจกันร่วมนำพวงมาลาวางสักการะ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงดวงวิญญาณ อันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าทหารกล้า ในฐานะวีรชนผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย โดยช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธี ทางพุทธศาสนา และ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำปี 2565 เนื่องในวันกองทัพไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top