Wednesday, 2 July 2025
SPECIAL

‘อลงกรณ์’ หนุนประมงพื้นบ้านเพชรบุรีพัฒนาท่าเทียบเรือ ตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น รวมกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม

(29 ม.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้าน คลองบางอินทร์ ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายสมบุญ ธัญญาผล ประมงจังหวัดเพชรบุรี, นายสมพงษ์ เพชรนาค ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเพชรบุรี, นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อรับฟังปัญหาของชาวประมงในพื้นที่และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้านคลองบางอินทร์ พื้นที่หมู่ที่ 8

ส่อง! ‘การกินถิ่นภารตะ’ หมดยุค ‘เน้นฟิน’ หันกินเพื่อ ‘สุขภาพ’!!

พูดถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนอินเดีย ต้องขอบอกว่าสุดยอดมาก ๆ !!! เพราะรับประทานกันหนักทั้งปริมาณ หนักทั้งสิ่งที่ดูแล้วไม่ค่อยเป็นมิตรต่อสุขภาพสักเท่าไหร่ คือ หนักทั้งแป้ง น้ำตาล และไขมัน แถมยังรับประทานกันค่อนข้างดึกอีกต่างหาก จนทำให้สงสัยว่าชาวอินเดียไม่สนใจเรื่องสุขภาพกันเลยหรือไร ? ทั้ง ๆ ที่คนอินเดียมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคต่าง ๆ ที่เป็นผลมาจากการรับประทานหลายโรคเลยทีเดียว…

แต่ว่าล่าสุดได้มีโอกาสอ่านรายงานของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดียก็พบข้อมูลที่น่าสนใจที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนอินเดียไปอย่างมากหลังจากมีการแพร่ระบาดขนานใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งปรากฏว่าคนอินเดียใน พ.ศ. นี้ได้เริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตและรสนิยมการเลือกสรรอาหารกันใหม่แล้ว โดยผู้บริโภคอินเดียในปัจจุบันจะคำนึงถึงสิ่งที่รับประทานมากขึ้น และตระหนักว่าอาหารก็เป็นเสมือนยา 

โดยเชฟส่วนใหญ่และบล็อกเกอร์ด้านอาหาร มองว่าแนวโน้มน่าจะกลับไปสู่รากเหง้าของบรรพบุรุษเมื่อต้องเลือกบริโภคอาหาร ซึ่งหมายถึงการรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการขัดสี ไม่แปรรูป และเป็นออร์แกนิก นอกจากนี้ คนอินเดียก็ยังมีแนวโน้มที่จะดื่มด่ำกับศิลปะการทำอาหารและการลิ้มลองอาหารต้นตำรับ ในขณะที่ให้ความสำคัญกับสารอาหารและแคลอรี รวมทั้งยังหันมาใส่ใจการทำอาหารเพื่อสุขภาพให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น โดยเชฟชื่อดัง บล็อกเกอร์ด้านอาหาร และภัตตาคารชื่อดังได้อธิบายว่าทำไมอาหารอย่างเช่น ข้าวฟ่าง ถั่วเลนทิล คีนัว เมล็ดพืชและถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง จึงมีแนวโน้มที่มีการเพิ่มขึ้นในปีนี้ และยังกล่าวถึงการฟื้นคืนสูตรอาหารต้นตำรับในร้านอาหารท้องถิ่นและเทรนด์อาหารอื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับแนวโน้มพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนอินเดียในปี 2565 เว็บไซต์ newindianexpress.com ได้นำเสนอไว้น่าสนใจมาก โดยเปิดเผยแนวโน้มใหม่ไว้ ดังนี้

>> อาหารโมเลกุล (Molecular Gastronomy)  
ที่ผ่านมา การทำอาหารของคนอินเดียล้วนแต่ใช้วิธีการหมักดอง หมัก รมควัน และแช่แข็ง แต่ปัจจุบันร้านอาหารและเชฟรุ่นใหม่ในอินเดียกำลังทดลองทำอาหารโมเลกุล (Molecular Gastronomy) ซึ่งคือ การนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาหาร โดยมีเทคนิคการปรุงหรือการประกอบอาหารหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างอาหารรูปแบบแปลกใหม่ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น การทำให้เกิดอิมัลชัน (การทำให้ของเหลวตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปซึ่งปกติจะไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกันมารวมเป็นเนื้อเดียวกันได้โดยไม่แยกชั้น) การทำให้เป็นทรงกลม การทำให้เกิดเจล การแยกโครงสร้าง และเทคนิคซูวี (sous vide แปลตรงตัวว่า “ภายใต้สุญญากาศ” เป็นวิธีการปรุงอาหารแบบหนึ่งที่มีการนำวัตถุดิบใส่ถุงสุญญากาศแล้วนำไปผ่านความร้อนในอ่างน้ำหรืออุปกรณ์ไอน้ำที่อุณหภูมิคงที่จนกว่าจะสุก: Wikipedia) เพื่อให้อาหารมีรสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ Zubair Ali บล็อกเกอร์ด้านอาหารชื่อดังได้เสนอความเห็นว่า “การทดลองส่วนใหญ่กำลังดำเนินการในร้านอาหารใหม่ ๆ ที่พยายามสรรค์สร้างเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน นอกจากนี้ ร้านอาหารที่มีการปรับปรุงเมนูอยู่เสมอก็กำลังทดลองเทคนิคเหล่านี้ด้วยเช่นกัน”

>> วิถีมังสวิรัติ (The Vegan Way)     
จริง ๆ อินเดียเป็นดินแดนแห่งมังสวิรัติอยู่แล้ว โดยประชากรอินเดียประมาณ 35% จะรับประทานอาหารมังสวิรัติแบบถาวร แต่จะมีผู้บริโภคที่รับประทานอาหารมังสวิรัติแบบเป็นครั้งคราวอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะรับประทานอาหารมังสวิรัติตามความเชื่อทางศาสนา อย่างเช่น ผู้ที่นับถือพระพิฆเนศจะรับประทานอาหารมังสวิรัติทุกวันอังคารซี่งเป็นวันเกิดของพระพิฆเนศ เป็นต้น เพราะฉะนั้นในทุก ๆ วันก็จะมีผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติแบบเป็นครั้งคราวรวมอยู่ด้วย เลยทำให้สัดส่วนของผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติในอินเดียในแต่ละวันอาจจะสูงถึง 40-50% ของจำนวนประชากรรวมก็ได้ 

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วอาหารมังสวิรัติในประเทศอินเดียจะเป็น Lacto Vegetarian หรือการบริโภคอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์และไข่ แต่สามารถบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมได้ ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ส่งผลทำให้คนอินเดียหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและหันมารับประทานอาหารมังสวิรัติมากขึ้นอีก

>> กินเหมือนบรรพบุรุษของเรา (Eating like our ancestors) 
การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ไม่สิ้นสุด ทำให้ต้องมองกลับไปยังจุดเริ่มต้น นั่นคือการกลับไปสู่รากฐานของบรรพบุรุษนั่นเอง เมื่อมองไปที่ตลาดอาหารตอนนี้ก็จะเห็นว่าร้านอาหารต่าง ๆ มีความพยายามจะเป็นผู้นำทางด้านวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี โดยผู้บริโภคในปัจจุบันนิยมที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สด และอร่อย 

โดยล่าสุดเชฟชื่อดังอย่าง Chef Chalapathi ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “ข้าวฟ่างจะได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างแน่นอน โดยรัฐบาลอินเดียได้ประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งข้าวฟ่าง ซึ่งบรรพบุรุษของเรารู้ดีถึงประโยชน์ของธัญพืชเหล่านี้ เราสูญเสียความตระหนักรู้นี้ไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เราจะฟื้นฟูมันกลับขึ้นมาอีกครั้ง และตอนนี้เทรนด์นี้ได้เข้าสู่เมืองไฮเดอราบัดแล้ว และกระแสนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่อง” 

แค่กลั้นหายใจก็ถึงแล้ว!! ‘Loganair LM711’ เที่ยวบินพาณิชย์ที่สั้นที่สุดในโลก!!!

หมู่เกาะ Orkney ของสกอตแลนด์ มีเที่ยวบินประจำที่ใช้เวลาน้อยกว่าการถอดเข็มขัดและรองเท้าสำหรับวางบนถาดเพื่อรับการตรวจตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบินด้วยซ้ำ!! เที่ยวบิน Loganair LM711 อยู่ระหว่างเกาะ Westray และ Papa Westray เส้นทาง 1.7 ไมล์ และใช้เวลาเพียง 53 วินาทีในวันที่อากาศดี นี่คือ...เที่ยวบินโดยสารที่สั้นที่สุดในโลก!!! 

เส้นทาง Loganair Westray ไปยัง Papa Westray เป็นเที่ยวบินโดยสารที่สั้นที่สุดในโลก เที่ยวบินในเส้นทางมีกำหนดเวลาบินอยู่ที่หนึ่งนาทีครึ่งถึงสองนาที และใช้เวลาบินจริงราวหนึ่งนาที บันทึกสำหรับเที่ยวบินที่เร็วที่สุดคือ 53 วินาที เส้นทางนี้ให้บริการโดย Loganair ซึ่งเป็นสายการบินระดับภูมิภาคของสกอตแลนด์ที่ให้บริการในเขตที่ราบสูงและหมู่เกาะของสกอตแลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเที่ยวบินเชื่อมต่อที่เชื่อมระหว่างเกาะ Westray และเมือง Kirkwall ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางและมีประชากรมากที่สุดของหมู่เกาะ Orkney

Loganair เป็นสายการบินระดับภูมิภาคของอังกฤษ ฐานปฏิบัติการบินหลักตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยาน Glasgow ใกล้เมือง Paisley ประเทศสกอตแลนด์ เป็นสายการบินระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรตามจำนวนผู้โดยสารและขนาดฝูงบิน (45 ลำ)

เส้นทางระหว่าง Westray และ Papa Westray ของหมู่เกาะ Orkney ในสกอตแลนด์ตอนเหนือเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการสาธารณะซึ่งได้รับเงินอุดหนุนจาก สภาหมู่เกาะ Orkney โดยอุดหนุนการเงินให้กับเส้นทางบินนี้ พร้อมด้วยเส้นทางบินอื่น ๆ อีกหลายเส้นทางทั่วเกาะ ผ่านกระบวนการประกวดราคา เที่ยวบินเริ่มบินในปี พ.ศ. 2510 เริ่มแรกก็สร้างสถิติเป็นเที่ยวบินที่บินตามกำหนดการที่สั้นที่สุดในโลก และให้บริการโดย Loganair อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน

เที่ยวบินจาก Papa Westray ไปยัง Westray ระยะทางทั้งหมดที่เที่ยวบินให้บริการคือ 1.7 ไมล์ (2.7 กม.)

เที่ยวบินระหว่างสนามบิน Westray และสนามบิน Papa Westray ให้บริการทุกวันในทั้งไปและกลับ ยกเว้นในวันเสาร์ที่มีเฉพาะเที่ยวบินจาก Westray ไปยัง Papa Westray และในวันอาทิตย์จะมีเฉพาะเที่ยวบินจาก Papa Westray ไปยัง Westray ระยะทางทั้งหมดที่เที่ยวบินให้บริการคือ 1.7 ไมล์ (2.7 กม.) ซึ่งมีความยาวเท่ากับรันเวย์ของสนามบินเอดินบะระ เที่ยวบินนี้เริ่มและบินกลับไปยังสนามบิน Kirkwall (ระยะทาง 43 กม.) เสมอ โดยบินเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมแคบ

กัปตัน Stuart Linklater เป็นนักบินผู้บินเส้นทางบินนี้มากกว่า 12,000 เที่ยว

กัปตัน Stuart Linklater เป็นนักบินผู้บินเส้นทางบินนี้มากกว่า 12,000 เที่ยว มากกว่านักบินคนอื่น ๆ ก่อนเขาจะเกษียณในปี พ.ศ. 2556 โดย Linklater สร้างสถิติในการบินที่เร็วที่สุดระหว่างเกาะด้วยเวลา 53 วินาที

Knap of Howar แหล่งโบราณคดีในเมือง Papa Westray ซึ่งอาจเป็นบ้านที่สร้างด้วยหินที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปเหนือ

นักเรียนและครูของพวกเขาใช้เที่ยวบินเหล่านี้เพื่อศึกษาแหล่งโบราณคดี 60 แห่งบนเกาะ Papa Westray ซึ่งเป็นผู้โดยสารส่วนใหญ่ ในบางครั้งจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อช่วยเหลือสมาชิกหนึ่งในเก้าสิบคนบนเกาะ และผู้ป่วยจะต้องบินจาก Papa Westray ไปยังสถานพยาบาลเมื่อจำเป็น เที่ยวบินนี้ยังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

Loganair LM711 ให้บริการเที่ยวบินนี้ด้วยเครื่องบิน Britten-Norman BN2B-26 Islander บรรทุกผู้โดยสารได้ 8 ที่นั่ง

Loganair ให้บริการเที่ยวบินนี้ด้วยเครื่องบิน Britten-Norman BN2B-26 Islander หนึ่งในสองลำที่มี The Islander เป็นเครื่องบินปีกสูง เครื่องยนต์ลูกสูบแบบใบพัด มันบินโดยนักบินคนเดียว และมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารแปดคนในห้องโดยสาร ที่นั่งเพิ่มเติมหนึ่งที่นั่งมักจะว่างถัดจากนักบิน

กัปตัน Rebecca Simpson เป็นนักบินหญิงคนแรกของเส้นทางบินนี้ต่อจากกัปตัน Stuart Linklater

เชียงใหม่ - บ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก เปิดให้บริการแล้ว ผู้ป่วยและญาติสองรายแรก จาก จ.น่าน!

ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  กล่าวว่า“จากนโยบายของคณะแพทยศาสตร์ มช. ในการเปิดให้บริการอาคารบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างอำเภอ ในจังหวัดเชียงใหม่ และต่างจังหวัด ที่ประสบปัญหาเรื่องที่พักอาศัยในระหว่างเข้ามารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยและญาติที่ฐานะยากจนไม่มีกำลังทรัพย์ในการชำระค่าที่พักอาศัยได้

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลักคณะแพทยศาสตร์ มช. ที่จะรองรับนโยบายด้านการดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มรูปแบบ จากเดิมทางคณะฯได้กำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไป กระทั้งวันนี้ 25 มกราคม 2565 บ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอก ได้รับผู้ป่วยและญาติสูงอายุสองรายแรกที่ เดินทางมาจากจังหวัดน่าน เพื่อมารักษาโรคตาในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และไม่สามารถเดินทางกลับจ.น่านและหาที่พักได้ในเชียงใหม่ อาคารบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอกจึงได้รับผู้ป่วยและญาติ 2 ท่านนี้เข้าพักอาศัยเป็นกลุ่มแรก”

อาคารพักญาติผู้ป่วยสวนดอกฯ จะเปิดให้บริการ 200 เตียง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ห่างจากโรงพยาบาลระยะทาง 300 เมตร มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน ให้บริการที่พักพร้อมเครื่องนอน บริการน้ำ – ไฟฟ้า พัดลม และห้องน้ำสะอาด แยกชาย-หญิง มีห้องพักผ่อน ห้องสมุด ห้องรับประทานอาหาร เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ในด้านการดูแลความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง มีการประสานงานกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่กรณีฉุกเฉิน

นายเสวียน เสนนะ อายุ 84 ปี ผู้ป่วยของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเดินทางโดยรถโดยสารมาจาก อ.นาน้อย จ.น่าน กับภรรยา อายุ 76 ปี เพื่อมารับการรักษาโรคตาอักเสบตามใบนัดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมอได้แจ้งว่าวันนี้รักษาเรียบร้อยแล้วและสามารถกลับบ้านได้ แต่ผมยังไม่สามารถกลับจ.น่านได้ เพราะไม่มีตั๋วรถโดยสารและเย็นมากแล้ว จึงพยายามหาที่พักใกล้ ๆ โรงพยาบาลเพื่อรอกลับบ้านวันพรุ่งนี้ แต่ราคาที่พักรอบๆโรงพยาบาลสูงมากทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ น้องสาวภรรยาทราบข่าวว่ารพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้มีอาคารพักญาติผู้ป่วยสวนดอกฯ จึงได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและได้แนะนำให้สอบถาม ผมดีใจมากที่ได้เข้ามาพักเป็นคนแรก ที่พักที่นี้สะอาดมากตั้งแต่ประตูทางเข้า มาตรฐานเทียบเท่าระดับโรงแรม เงียบสงบ เย็นสบาย ขอขอบคุณทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ผู้สร้าง ผู้ดูแลทุกท่าน ถือเป็นกุศลบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ทางโรงพยาบาลฯได้ดูแลผู้ป่วยทุก ๆ คนโดยเฉพาะ คนรากหญ้าคนยากคนจน”

คณบดีคณะแพทยศาสตร์  กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันมีการเก็บค่าบริการเพียงวันละ 50 บาท ซึ่งผู้ที่จะเข้าพักได้ต้องเป็นผู้ป่วยและญาติของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และมีใบนัดของทางโรงพยาบาลฯ โดยติดต่อผ่านงานสังคมสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทั้งนี้อยากให้ทุกท่านมั่นใจในการบริหารจัดการบ้านพักญาติผู้ป่วยสวนดอกฯ และพักที่บ้านพักอย่างมีความสุข ตามคำขวัญที่ว่าเราจะเป็น “โรงพยาบาลในดวงใจ”

จันทบุรี - สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า ป้องปราม!ไม่ให้มีการฉวยโอกาส ขึ้นราคาสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน!!

วันนี้ ( 28 ม.ค.65 ) นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตลาดสดสวนมะม่วง และตลาดน้ำพุ อำเภอเมืองจันทบุรี เพื่อติดตาม ตรวจสอบราคาสินค้าและบริการให้เกิดความเป็นธรรม ป้องกันมิให้ผู้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบ ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน

โดยจะต้องมีการติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายทุกชนิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจน สามารถเลือกซื้อ เปรียบเทียบคุณภาพ ชนิด ปริมาณและราคาสินค้าได้สะดวก เครื่องชั่ง วัด ตวง ต้องมีมาตรฐาน ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ปฏิบัติตามประกาศที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด ไม่พบการเอารัดเอาเปรียบประชาชนแต่อย่างใด

นราธิวาส - ผู้ว่าฯนราธิวาส เปิดกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 12 พร้อมมอบรางวัลผู้ผ่านการประกวด 8 ราย เพื่อเป็นตัวแทนจ.นราธิวาส เข้าประกวดในระดับภาคใต้ ณ จังหวัดภูเก็ต

ณ ลานรวมพล อาคาร 5 โรงเรียนจังหวัดนราธิวาส นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 12 โดยมีนายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส / นายนิรัตน์ นราฤทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนราธิวาส ตลอดจนน้อง ๆ เยาวชนที่เข้าประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL จำนวน 31 คน จากพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมประกวดฯ

จังหวัดนราธิวาส ได้น้อมนำโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด : TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาดำเนินการด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แนวคิด "เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด" ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ตอบสนองยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ การรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตแก่เยาวชน การสร้างและพัฒนาเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

สำหรับกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 12 จังหวัดนราธิวาสประจำปี 2565 เพื่อดำเนินการ คัดเลือกเยาวชนชาย หญิง อายุ 15-18 ปี เป็นตัวแทนจังหวัดฯ เข้าสู่การประกวดฯ ระดับภาคใต้ ณ จังหวัดภูเก็ต จำนวน 8 คน และมุ่งหวังสู่ระดับประเทศ รับรางวัลพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ โดยกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นภายในเดือน มกราคม 2565 นี้

ตำรวจคมนาคม กทม. ปภ. จับมือลุย!สำรวจทางม้าลาย เตรียมปรับปรุงทั่วประเทศ พร้อมมอบรางวัลให้ประชาชนส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎหมายไม่จอดให้คนข้าม

วันนี้ (28 ม.ค.65) เวลา 09.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.โสภณ  พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่า กทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. นายประพาส เหลืองศิรินภา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ศ.ดร.พิชัย ธานีรณานนท์ ประธานอนุกรรมการความปลอดภัยทางถนนและจราจร สภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย นายสุจิณ มั่งนิมิต ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติความปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม นายวิทยา จันทน์เสนะ ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน  ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองถิ่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมการขนส่งทางบก ร่วมประชุมหารือแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณทางม้าลาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า ได้นำ “มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 มอบหมายให้ ตร.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความตระหนัก มีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม”

ในที่ประชุมวันนี้ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ ตรวจสอบทางม้าลายร่วมกับ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แขวงการทาง หรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของถนน เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเส้นทางข้ามให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการทาสี ตีเส้น ทำแถบชะลอความเร็ว ทำป้ายเตือน  ปรับทัศนวิสัย  ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมทางข้าม การติดตั้งกล้อง CCTV

นอกจากนี้ ตำรวจจะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ พิจารณากำหนดอัตราความเร็วในเขตชุมชนที่มีประชาชนหนาแน่น หรือบริเวณสถานศึกษาหรือโรงพยาบาลตั้งอยู่ รวมถึงความเร็วขั้นต่ำก่อนถึงทางม้าลาย จัดทำป้ายจำกัดความเร็ว ซึ่งในเขตชุมชนอาจจำกัดความเร็ว 30 – 40 กม./ชม.  นอกเขตชุมชน จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ฝ่าฝืน

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า แต่ละสถานีตำรวจจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และอาสาจราจรดูแลความปลอดภัยบริเวณทางม้าลาย โดยเฉพาะทางข้ามที่ไม่มีการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมในช่วงที่มีประชาชนเดินสัญจรไปมาจำนวนมาก และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง กับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับทางม้าลาย เช่น ไม่จอดให้คนข้าม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท แซงบริเวณทางข้าม ปรับ 400- 1,000 บาท  จอดรถในทางม้าลายปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก เช่น ฝ่าไฟแดง ย้อนศร ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ อย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่ - ‘นิพนธ์’ กำชับทุกหน่วยงาน! บูรณาการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างใกล้ชิด พร้อมแนะ! ให้ทำความเข้าใจ กับประชาชน ในการเลิกพฤติกรรมการเผา เชื่อว่าจะทำให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยมีนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นอย่างมาก โดยได้ออกข้อกำหนด มาตรการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา และกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ก็จะต้องบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่ในการแก้ปัญหา สั่งการ ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ และให้กำหนดรายละเอียดการแบ่งพื้นที่ ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะบูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

พร้อมเน้นย้ำนายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ให้มีการเฝ้าระวัง ออกลาดตระเวน และเตรียมความพร้อมในการเข้าไปดับไฟ หากเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นในพื้นที่ เพื่อลดจุดความร้อน และแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และที่สำคัญจะต้องทำความเข้าใจและขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ในการ งด หรือ เลิก การเผา ถ้าพี่น้องประชาชนเข้าใจและเลิกพฤติกรรมดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้การการแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จ

 

กรุงเทพฯ - ‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ สนับสนุน 2 หน่วยงาน! อบรมสร้างอาชีพ ตามพันธกิจพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน!!

มูลนิธิมาดามแป้ง โดย “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ สนับสนุนกิจกรรมฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพแก่ 2 หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ การอบรมงานช่างพื้นฐาน และการผลิตรถเข็นครัวมาดาม โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และการอบรมงานฝีมือแก่กลุ่มสตรีและแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยมี นางพัชราภรณ์  อินทรียงค์ รองประธานกรรมการ นางสาวทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ และคณะกรรมการมูลนิธิฯ พร้อมด้วยผู้แทนจาก 2 หน่วยงาน เข้าร่วมรับมอบเงินสนับสนุน เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงแล้ว ยังส่งผลต่อสภาวะทางเศรษฐกิจ เกิดผู้ว่างงานจำนวนมาก โดยจากการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากร สำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบตัวเลขน่าหดหู่ใจที่มีผู้ว่างงานทั้งสิ้น 8.7 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 2.25 ซึ่งสูงสุดในช่วงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผนวกกับมูลนิธิฯ ของเรา พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังตามพันธกิจหลักที่มีไว้ในการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านการสร้างอาชีพ ซึ่งสอดคล้องและต่อเนื่อง”

“ความร่วมมือกับทั้งสองหน่วยงานรัฐ นอกจากจะช่วยให้มูลนิธิฯ เดินหน้าสานต่องานที่ตั้งใจได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยประสบการณ์ในการทำงานเพื่อพัฒนาอาชีพโดยตรงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเข้าถึงความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ มากยิ่งขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการให้อาชีพจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยความสามารถในการดูแลตัวเองและครอบครัวในระยะยาว”

นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า “เราได้ร่วมงานกับมูลนิธิมาดามแป้งมาแล้ว ในการสนับสนุนทุนประกอบอาชีพแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา จึงมองว่าจะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ดีต่อเนื่อง ในการเปลี่ยนชีวิตของแม่เลี้ยงเดี่ยวหลาย ๆ คน ที่ประสบความยากลำบาก ในการครองชีพ การดูแลตนเองและครอบครัว ซึ่งการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุนอย่างเดียว แต่การให้ในทุกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่เสริมสร้างกำลังใจ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ด้วยการส่งต่อความปรารถนาดี ให้แก่ครอบครัวของแม่เลี้ยงเดี่ยว สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวของเขาเอง”

นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า “ขอบคุณมูลนิธิมาดามแป้ง ที่เห็นความสำคัญของการให้ การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาส ซึ่งจะมีคุณค่ายิ่งกว่าถ้าเราให้แก่คนที่ขาดโอกาส การส่งเสริมฝึกฝนอาชีพแก่เด็กนักเรียน นักศึกษา ให้มีประสบการณ์ ทักษะทางปัญญา พร้อมกับปลูกฝังความมีจิตอาสานั้นสำคัญมาก โดยทุกคนยังจะนำเอาความรู้ ความสามารถที่ได้รับมาปรับใช้ และให้บริการกับสังคมได้อย่างยั่งยืน และเขาจะเป็นพลเมืองที่ดีต่อไปอีกด้วย”

การดำเนินงานของ ‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ ภายใต้กิจกรรมการสนับสนุนการสร้างอาชีพแก่ 2 หน่วยงาน ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้แก่ การฝึกอบรมอาชีพงานช่างขั้นพื้นฐานวิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี จำนวน 500,000 บาท, กิจกรรมผลิตรถเข็นครัวมาดาม เพื่อมอบให้แก่ประชาชนที่ต้องการประกอบอาชีพ จำนวน 1,000,000 บาท และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่ออบรมงานฝีมือให้แก่กลุ่มสตรีและแม่เลี้ยงเดี่ยว ในศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 500,000 บาท โดยจะเริ่มต้นในระยะที่ 1 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงเดือนมีนาคม โดยวางแผนระยะยาวด้วยการขยายผลความช่วยเหลือ เพื่อส่งเสริมอาชีพไปทั่วประเทศ ตลอดทั้งปี 2565 นี้ ตามพันธกิจของมูลนิธิมาดามแป้ง

สมุทรปราการ - ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือเป็นประธานในพิธีเปิด ‘ร้านค้าสวัสดิการโรงเรียนนายเรือ’ พร้อมให้กำลังพลและครอบครัวมีความสะดวก สุขใจ และปลอดภัย!!

พลเรือโทชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือเป็นประธานในพิธี เปิดร้านค้าสวัสดิการโรงเรียนนายเรือ โดยมี รศ.​ ดร.วัชรีวรรณ​ ทองสะอาด ภริยา พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรือ ร่วมพิธีฯ ณ สโมสรโรงเรียนนายเรือ บริเวณบ้านพักข้าราชการ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

สำหรับร้านค้าสวัสดิการ โรงเรียนนายเรือ เป็นหนึ่งในนโยบายของผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ประจำปีงบประมาณ 2565 ด้านสวัสดิการและสุขภาพ โดยกำหนดให้มีการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดในพื้นที่ของโรงเรียน เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมและสินค้าเพื่อสุขภาพ 

 

สตูล - ศรชล.สตูล สนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน เปิดปฏิบัติการ!! เข้ารื้อถอนทำลายล้าง ‘เครื่องมือ และอุปกรณ์ทำการประมง’ผิดกฎหมาย!!

วันนี้ 28 มกราคม 2565 พล.ร.ท.สมพงษ์ นาคทอง ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 และผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค3(ผบ.ทรภ.ภาค3/ผอ.ศรชล.ภาค3), น.อ.ธนฤกษ์ วรชาตินักรบ ผู้บังคับการ หน่วยเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้ ศรชล.ภาค3 และรองอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดสตูล ศรชล.ภาค3 (ผบ.นก.กมต.ศรชล.ภาค 3/รอง ผอ.ศรชล.สต.ศรชล.ภาค3) บูรณาการกำลังร่วมกับนายโชคชัย เมืองสง หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ สตูล, น.ต.ปรัชญ์ ขำเจริญ หัวหน้าสถานีเรือละงู/รองผู้บังคับหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ,และเจ้าหน้าที่ทหารเรือ,เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ สตูล, ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดสตูล ,ตำรวจน้ำสตูล,ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24, ด่านศุลกากรสตูล,สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล, ชปพ.นสร. เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามที่ได้แจ้งมาบริเวณ เกาะฮันดู ร่องน้ำเจ๊ะบิลัง และร่องน้ำปากคลองตะเคียน

จนกระทั่งได้ตรวจพบว่ามีการลักลอบวางเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมงผิดกฎหมายชนิดลอบพับได้หรือไอ้โง่ ซึ่งมีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำสลับซ้ายขวาอยู่ทางด้านข้างใช้สําหรับดักสัตว์น้ำ อยู่ในบริเวณดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก ในพิกัดที่ แลติจูด 6 องศา 39.0374 ลิปดา เหนือ ลองจิจูด 99 องศา 57.3989 ลิปดา ตะวันออก ห่างจากฝั่งประมาณ 419.69 เมตร จึงได้ทำการลรื้อถอนลอบพับได้หรือไอ้โง่ออกจากบริเวณดังกล่าวขึ้นมาได้ทั้งหมดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 117 ลูก 

 

เพชรบูรณ์ - จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่แก่ข้าราชการ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ที่ห้องรับรองชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง เป็นประธานในพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่ ให้แก่ข้าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมพิธี 

ทั้งนี้ สำนักพระราชวัง ได้จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงพุทธศักราช 2565 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่ ให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยให้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการมอบปฏิทินหลวงฯ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 1 เล่ม และข้าราชการในจังหวัด ตามที่จังหวัดพิจารณาเห็นว่าเหมาะสม จำนวน 2 เล่ม โดยครั้งนี้จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดพิธีมอบปฏิทินหลวงให้แก่ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายสมศักดิ์ คณาคำ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์

ชลบุรี - เมืองพัทยาพร้อมรับ! นทท. หลังเปิดลงทะเบียนเข้าไทยแบบ Test&Go และ Sandbox จะทำให้ยอดท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น!!

จากที่ ศบค. มีมติขยาย Sandbox ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่ และเกาะช้าง จังหวัดตราด และเห็นชอบให้เปิดลงทะเบียนเข้าไทยแบบ Test&Go โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.65 นี้เป็นต้นไป

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า หลังจากที่ ศบค. มีมติให้ขยาย Sandbox ในพื้นที่ อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะ ต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่ จะส่งผลให้พื้นที่ธุรกิจการท่องเที่ยวเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถกำหนดพื้นที่ที่เป็น Sandbox และมีมาตรการที่ได้เสนอต่อ ศบค. ไปแล้วนั้น ทั้งในเรื่องการติดตามนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อที่จะทำให้การดำเนินการตามโครงการ Sandbox  เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้พื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นพื้นที่ธุรกิจท่องเที่ยว รวมไปถึงเศรษฐกิจของประเทศได้กระเตื้องขึ้น ทำให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวฟื้นตัว โดยใช้  Sandbox เข้ามา หลังจากที่มีการเปิดลงทะเบียนเข้าไทยแบบ Test&Go และโครงการอื่นไว้แล้ว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

สุดเศร้า! "คุณปู่ป่าละอู" ช้างป่าแก่งกระจาน ล้มแล้วจากพิษกระสุนปืน หลัง 'หมอล็อต' ระดมทีมสัตวแพทย์ช่วยยื้อชีวิตนาน 2 สัปดาห์ พร้อมเร่งหาตัวคนใจโหดยิงช้างนับร้อยนัด!!

พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายอำเภอแก่งกระจาน ทีมสัตวแพทย์ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดกรณีช้างพลายงาด้วนชื่อ “คุณปู่ป่าละอู” อายุ 60 ปี หนักกว่า 5 ตัน ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุดจากการต่อสู้และถูกยิงหลายแห่ง หลังจากทีมสัตวแพทย์ได้เข้าช่วยเหลือรักษาอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ “คุณปู่ป่าละอู”ได้เสียชีวิตลงบริเวณอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจบาดแผลนอกเหนือบาดแผลจากการต่อสู้กับช้างด้วยกันแล้ว พบบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซอง ปืนขนาด .38 และปืนขนาด.22 ถึง 186 นัด ฝังอยู่บริเวณผิวหนังก่อนทางอุทยานฯได้แจ้งความไว้เพื่อหาตัวคนยิง

“ช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างที่มีอายุมากแล้วไม่สามารถเข้าฝูงกับช้างหนุ่มได้ จึงถูกช้างงาไล่แทงขับออกจากฝูงและออกมาหากินพืชผลของชาวบ้านในชุมชน ก่อนถูกชาวไร่ใช้ปืนยิงขับไล่ ซึ่งบาดแผลจากถูกกระสุนปืนบางนัดทำให้เกิดอักเสบ บวกกับบาดแผลที่ชนกันเองติดเชื้อเป็นหนองรุนแรงจนเสียชีวิต จากการตรวจสอบกระสุนปืนฝังที่ตัวช้างมาหลายปีแล้วอีกทั้งแก่งกระจานก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมหลายอำเภอทั้งเพชรบุรี-ประจวบฯ ขณะนี้ได้มอบกระสุนทั้งหมดให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด(พฐ.)เพชรบุรี นำไปตรวจเปรียบเทียบหาอาวุธปืนว่าใครเป็นผู้ครอบครองเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” 

กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ ลุย!ตรวจตลาด ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาช่วงตรุษจีน!!

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงสำรวจตลาดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าในช่วงตรุษจีน ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคา และกำชับให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มกราคม 2565 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์ จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตลาดสดทุ่งนาทอง ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจติดตามการจำหน่ายราคาสินค้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะถึง โดยได้สำรวจการจำหน่ายไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้งก้ามกราม ปลา ผัก ผลไม้

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่สำรวจตลาดในครั้งนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์เนื้อหมูที่มีราคาแพงขึ้น ทางหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะสำนักงานพาณิชย์ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีมาตรการช่วยเหลือด้วยการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูกกิโลกรัมละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 และได้กำชับ พ่อค้า แม่ค้า ให้จำหน่ายในราคาที่เป็นไปตามกลไกการตลาด ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ ได้ขอพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการแสดงป้ายราคาให้เห็นเป็นที่ชัดเจน และตรวจดูในเรื่องของเครื่องชั่งให้เป็นไปตามมาตรฐาน

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top