Wednesday, 21 May 2025
เพื่อไทย

เห็นคนเยอะแล้วคึก!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ เผยตนคือ 1 ใน 3 เเคนดิเดตนายกฯ ของ ‘เพื่อไทย’ ลั่น! เลิกพูดชื่อ ‘ทักษิณ’ไม่ได้ เพราะ ยังอยู่ในใจประชาชน

คนแน่นเต็มที่เวทีโคราช! ต่างจากเวที ‘รทสช.’ ‘อิ๊งค์’ ลั่นคนท้องไม่เหนื่อย รู้สึกฮึกเหิมเมื่อเห็นคนมาแน่น ขอให้มั่นใจทีมเดิมกลับมาพัฒนาประเทศ บอกไม่พูดถึง ‘ทักษิณ’ ไม่ได้ เพราะอยู่ในใจปชช.

(4 มี.ค.66) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่บริเวณตลาดเมืองคง อ.คง จ.นครราชสีมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และคณะเดินทางขึ้นเวทีปราศรัยจุดที่สอง โดยมีประชาชนรอรับฟังการปราศรัยจนล้นพื้นที่ โดย น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตนเคยมาอ.คง ช่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หาเสียง ขอบคุณสำหรับความต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม 8 ปีที่ผ่านมา ได้ฟังนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยว่าจะพัฒนานครราชสีมาและภาคอีสานอย่างไร แต่กลับถูกรัฐประหารทำให้การพัฒนาชะงัก ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าเพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไป รวมถึงพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เชื่อในความสามารถของเพื่อไทยหรือไม่ นโยบายที่เราพูดแล้วทำได้ทุกครั้ง ขอให้มั่นใจทีมเดิมยังคงอยู่ ประชาชนจะอยู่ดีกินดีอีกครั้ง เราจะจัดสรรให้ประชาชนมีที่ดินทำกินเพิ่มขึ้น ตนขอฝากว่าที่ส.ส.เพื่อไทยทั้ง 16 คน ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์

จากนั้นเวลา 17.30 น. ที่สนามหน้าศาลากลางอ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เดียวกับที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา และมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมมาร่วมปราศรัยด้วย โดยการจัดเวทีปราศรัยครั้งนี้มีประชาชนร่วมรับฟังคำปราศรัยจนเต็มพื้นที่ โดยนพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า การมาโคราชวันนี้เรามา 3 เวที เพราะต้องการแลนด์สไลด์ปักธงให้มั่นคง ณ เมืองย่าโม เพื่อไทยไป 14 เวที ได้ข้อสรุปแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยจะมี 3 รายชื่อ โดยหนึ่งในนั้น ชื่อ น.ส.แพทองธาร

ตะเพิด ‘ชิดชอบ’ ‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพเหยียบถิ่น ‘เนวิน’ พร้อมชูนโยบาย ‘3 ป.’   ฟากลูกพรรคห้าวจัด ประกาศไล่ ‘ตระกูลชิดชอบ’ พ้นเขากระโดง

‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทีมเพื่อไทยบุกถิ่นบุรีรัมย์ ชู นโยบาย ‘3 ป.’ ปราบยาเสพติด-กัญชาเสรี ด้าน ‘ชลน่าน’ พ้อ โดนขวางปราศรัยสถานที่ราชการ ฟาก ‘อดิศร’ ไล่ตะเพิดตระกูลชิดชอบพ้นเขากระโดง

(5 มี.ค. 66) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) เขต 10 อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์​ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค,  นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี, นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับฟังปราศรัยจนล้นพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า เรายกทัพใหญ่มาพบพี่น้อง พร้อมฝากผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ วันนี้มีคนมาฟังปราศรัยหนาแน่นคับคั่งเป็นหมื่นคน แม้สถานที่ถูกจำกัดคับแคบก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้ทำหนังสือใช้สถานที่ราชการที่มีพื้นที่กว้างขวางแต่ไม่มีใครอนุญาตจึงต้องมาใช้สถานที่ตรงนี้ ดังนั้นขอขยายพี่น้องออกไปจาก 1 หมื่นคน เป็น 1 แสนคน และขยายออกไปทั้ง 10 เขต ให้พรรค พท. ได้หรือไม่

นพ.ชลน่าน ปราศรัยต่อว่า ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ถูกครอบงำมานาน ย้ำว่าถ้าไม่ได้แลนด์สไลด์ 250 ที่นั่งขึ้นไปเราไม่สามารถเปลี่ยนบุรีรัมย์ได้ และต้องปิดสวิตช์ ส.ว. เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมออกไป ส่วนนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ให้เงิน 700 บาท 1,000 บาท หรือ 3,000  บาท ใครก็พูดได้ แต่เรายืนยันว่านโยบายทำได้จริง และทำเป็น อีกทั้งประกาศว่าถ้าพรรค พท. เข้ามา ปัญหายาเสพติดจะต้องหมดไป

ด้านนายอดิศร ปราศรัยประกาศไล่ตระกูลชิดชอบออกจากเขากระโดง และให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมนายเนวิน ชิดชอบ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ​และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ได้แล้ว หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีให้นอมินีถือหุ้นแทน รวมทั้งขอให้เอากัญชาออกไปจากพื้นที่ เพราะคนขอนแก่นคนอุดรธานี ไม่เลือกพรรคกัญชาอยู่แล้ว คนบุรีรัมย์ยังจะเลือกอยู่หรือไม่ และขอให้ จ.บุรีรัมย์ อย่าเป็นขี้ปากของใคร

สงขลาเทใจ!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ปลื้ม!! ผลโพลสำรวจความนิยมในสงขลาขยับขึ้น เผย ดีใจ ‘เพื่อไทย’ ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้

(5 มี.ค. 66) ที่จังหวัดบุรีรัมย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความนิยมในพื้นที่จังหวัดสงขลา เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนความนิยมพรรคเป็นรอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า รู้สึกดีใจมาก ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้ ย้ำว่าการลงพื้นที่ทุกครั้ง ทุกพื้นที่สำคัญกับพรรค พท. และเมื่อมีโพลผลสำรวจที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น และเกิดขึ้นเกี่ยวกับความนิยมของพรรค พท. แน่นอนว่า ทำให้พรรค พท.มีกำลังใจมากขึ้นเยอะ

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสไปลงพื้นที่เพื่อย้ำฐานเสียงความนิยมของพรรค พท.ในภาคใต้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกว่า ตารางการลงพื้นที่หาเสียงอยู่ไหน

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวเสริมว่า มีอยู่ภาคใต้ก็มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่อยู่

‘สมคิด’ เผย พท. ตั้งผู้สังเกตการณ์ทุกหน่วยเลือกตั้ง ลั่น!! หาก กกต. ตุกติก-ไม่โปร่งใส อาจติดคุกได้

(7 มี.ค. 66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลรราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่าในบางจังหวัดมีการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ในหลายพื้นที่สร้างความสับสนให้ประชาชน เพราะแบ่งเขตเลือกตั้งแบบไม่เห็นหัวประชาชน ไม่เป็นไปตาม หลักรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่าผู้มีอำนาจและอิทธิพลบางกลุ่มบางคน สั่งการให้แบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.ตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองบางพรรค อยากฝากไปยัง กกต.ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน อย่าให้เป็นเหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ใช้อำนาจมาตรา 44 จัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปตามใจของผู้มีอำนาจ และความได้เปรียบทางการเมือง นอกจากนี้การคิดคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ควรที่จะโปร่งใสสามารถอธิบายกับสังคมได้ 

นายสมคิด กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การนับคะแนนบัญชีรายชื่อ ควรนำคะแนนบัญชีรายชื่อรวมกันทั้งประเทศมาหารด้วย 100 ก็จะได้ ส.ส.1 คน ส่วนที่เกินสามารถปัดเศษให้กับพรรคการเมืองขนาดเล็กอาจจะได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หากมีการนับคะแนนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งนี้ ประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้มาก ประชาชนจะจับตาดูการทำงานของ กกต.และกรรมการประจำหน่วยอย่างใกล้ชิด หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่โปร่งใส เชื่อว่าประชาชนไม่ยอมแน่ เจ้าหน้าที่ กกต.ต้องระมัดระวังและกรรมการประจำหน่วยต้องซื่อสัตย์ และเข้าใจบทบาทการทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เปิดโอกาสให้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งก่อนและหลังการปิดหีบเลือกตั้ง ขอโอกาสให้ทุกฝ่ายร่วมสังเกตการณ์เพื่อความโปร่งใส

‘ตรีชฎา’ ตอก ‘ศุภชัย’ หยุดเพ้อพักหนี้เกษตรกร 3 ปีเป็นของ ภท. โว!! ตั้งไข่ตั้งแต่ ‘ไทยรักไทย’ สมัย ภท. ยังไม่เป็นวุ้น

(7 มี.ค. 66) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิไทยโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่ามีพรรคใหญ่พรรคหนึ่ง เอานโยบายเรื่องการพักหนี้ 3 ปีไม่เกิน 1 ล้านบาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย ใช้หาเสียง เคลมนโยบายไปใช้แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ นั้น หากนายศุภชัยหมายถึงพรรค พท. ต้องชี้แจงว่า คนไทยทั้งประเทศรวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล สมาชิกพรรคในขณะนั้นและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยในปัจจุบัน ย่อมรู้ดีว่านโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ต้นตำรับผู้ดำเนินนโยบายนี้คือ พรรคไทยรักไทยในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาตั้งแต่ปี 2544 และประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาหนี้สิน

จากนั้นมาเมื่อพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ เมื่อปี 2554 ก็ต่อยอดนโยบายพักหนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น และการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2562 พรรค พท.ก็ประกาศนโยบายพักหนี้ แต่พรรค พท.ไม่ได้เป็นรัฐบาล นโยบายจึงไม่มีโอกาสได้นำมาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

‘เพื่อไทย’ ระดมสมอง ประชุมทีม ศก.นัดแรก หารือนโยบาย กำหนดทิศทางประเทศ ลุยงานเชิงรุก

(7 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. ฐานะกรรมการเลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรค พท. กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมคณะกรรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรค พท. นำโดย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ พร้อมด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน, นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา

โดยที่ประชุมได้หารือถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรค พท.ที่ใช้สำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, นโยบายด้านการบริหารจัดการหนี้ของประชาชน, นโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล, นโยบายเขตธุรกิจใหม่, นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ ซอฟท์ พาวเวอร์ และนโยบายด้านการเกษตรแบบครบวงจร เป็นต้น

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือกรอบสำคัญในการกำหนดทิศทางประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทิศทางการสร้างงาน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงจุดยืนด้านข้อตกลงทางการค้า ภาคการเกษตรเพื่อความมั่งคั่งของเกษตรกร ภาคบริการด้านสุขภาพเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ ความมั่นคงทางการคลัง การดึงดูดแรงงานทักษะสูง และการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ เป็นต้น

พลิกโฉมสุพรรณ!! ‘เพื่อไทย’ หวังชิงเก้าอี้ ส.ส. ‘สุพรรณฯ’ ชูนโยบายพัฒนาเกษตร มั่นใจ!! ปชช.ได้ประโยชน์

(7 มี.ค. 66) ดร.กุลธิดา เหมาเพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.สุพรรณบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่มีความมั่นใจ เนื่องจากกระแสและนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ว่านโยบายทำได้ทำเป็น ที่จะนำสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี ตนจึงถือว่าเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ที่จะนำนโยบายมาถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี

 

ดร.กุลธิดา กล่าวว่า ในส่วนของผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ทั้ง 5 เขต เราทราบบริบททางการเมืองของความเป็นชาติไทยพัฒนาในสุพรรณบุรีอยู่แล้ว แต่ข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่มานั้น ทำให้ทราบข้อมูลจากพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนาก็คงจะปฏิเสธข้อมูลจากพี่น้องประชาชนไม่ได้ว่า ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นบริบททางการเมืองสุพรรณบุรี ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน กับวันเวลาที่ผ่านไปด้วย

 

“ข้อมูลตรงนี้ทำให้เราทราบว่าความเป็นเพื่อไทย และนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ลงสู่พี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรี จะนำพามาได้อย่างไร ในระหว่างที่กระแสความรุนแรงในสุพรรณบุรีมีเกิดขึ้น กระแสเปลี่ยนมีเกิดขึ้นแน่นอนแต่ว่าจะเปลี่ยนไปได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงต้องใช้ระยะเวลาจนกระทั่งเลือกตั้งเสร็จ ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นว่ามีกระแสเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งภาพรวมของความเป็นพรรคเพื่อไทยพรรคใหญ่ จะส่งผลต่อจังหวัดสุพรรณบุรีแน่นอน โดยเฉพาะนโยบายทางด้านการเกษตรที่เป็นนโยบายเบอร์ต้นๆของพรรคเพื่อไทย ที่ชาวสุพรรณบุรี จะได้รับประโยชน์จากนโยบายด้านนี้แน่นอน” ดร.กุลธิดา กล่าว

 

ประธานฝ่ายกฎหมาย 'เพื่อไทย' ออกโรงเตือน 'สนธิญา' แจ้งเท็จ 'ยุบพรรค' ส่อคุก 5 ปี เชื่อมีบางพรรคอยู่เบื้องหลัง

(7 มี.ค.66) ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและประชาชนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่านายสนธิญาได้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย โดยอ้างสาระของข้อร้องเรียนว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวปราศรัยว่านายวีระศักดิ์ฯ อดีต รมช.คมนาคม และทีม อบจ.และพรรคเพื่อไทยเป็นปรากฎการณ์ใหม่ เป็นกลุ่มเดียวกันเพื่อนำไปสู่แลนด์สไลด์ถือเป็นการกระทำที่ขัดมาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 72 และมาตรา 92 (3) ของ พรป.พรรคการเมือง และกรณีการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียง เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (2) เนื่องจากนายณัฐวุฒิ ฯ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปแล้ว ขัดต่อคุณธรรมจริยธรรม

การปราศรัยของหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเพียงพูดว่านายวีรศักดิ์ฯ และทีม อบจ. และพรรคเพื่อไทยเป็นกลุ่มเดียวกัน มีความหมายเพียงว่า บุคคลตามที่กล่าวมาเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพื่อนำไปสู่การแลนด์สไลด์เท่านั้น ไม่ได้มีการกระทำใดที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาควบคุม ครอบงำหรือชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในลักษณะที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใดซึ่งการที่บุคคลใดจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดนั้น ยอมเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลนั้นที่จะพึงกระทำได้ อันถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในทางการเมือง และพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีการกระทำใดที่จะถือเป็นการยินยอมให้บุคคลเหล่านั้นกระทำการในลักษณะเช่นนั้นแต่อย่างใดเช่นกัน

ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่ต่างๆ นั้น พรรคเพื่อไทย ได้แต่งตั้งให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรค และยื่นเอกสารดังกล่าวต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งไปก่อนหน้านั้นแล้ว แม้นายณัฐวุฒิฯ จะมีลักษณะต้องห้ามมิให้สมัคร ส.ส. หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเป็นสมาชิกพรรคก็ตาม แต่นายณัฐวุฒิ ฯ ยังคงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายที่จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคและผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้ ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดคุณสมบัติของผู้ช่วยหาเสียงไว้ว่า เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น กรณีเช่นนี้พรรคได้ดำเนินการทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเลือกตั้งระดับชาติและการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และ กกต.ก็ประกาศรับรองการเลือกตั้งที่ผ่านมา การที่นายสนธิญากล่าวอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (2) ซึ่งเป็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ ไม่ใช่บทบัญญัติที่ห้ามบุคคลกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่เป็นสาระ
 

เรื่องนี้ต้องประกบ ‘ชลน่าน’ ประกบ ‘อิ๊งค์’ อธิบายเรื่องงบประมาณ บรรยากาศเหมือนยุคยิ่งลักษณ์ตอบปมจีทูจี

(8 มี.ค.66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการใช้งบประมาณเป็นวงเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท ว่า งบประมาณที่มีผลผูกพัน ทุกงบที่มีอยู่ก็ต้องจัดการ ซึ่งเรามีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว เราก็ต้องประชุมร่วมกันทั้งหมด เพื่อใช้ภาษีของประชาชนให้คุ้มค่ามากที่สุด

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เรื่องงบประมาณต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1.) งบประมาณผูกพัน ที่ทำให้ก่อหนี้
2.) เป็นงบประมาณผูกพันตามข้อกฎหมาย ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องดำเนินการตามนั้น

บทบาทใหม่!! ‘ก้อง-อายุน้อยร้อยล้าน’ ขอนำความรู้ พัฒนาชีวิตคนไทย เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทย

(8 มี.ค.66) นายอรรฆรัตน์ นิติพน หรือ ‘พี่ก้อง’ ผู้ก่อตั้งและผู้ดำเนินรายการ ‘อายุน้อยร้อยล้าน’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘อายุน้อยร้อยล้าน’ ระบุว่า...
.
“ผมก้อง อรรฆรัตน์ นิติพน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย วันนี้ได้รับโอกาสจากพรรคเพื่อไทย ที่อยากให้พี่ก้องได้นำความรู้ และประสบการณ์ที่มีมาช่วยพัฒนาชีวิตคนไทย จึงขอฝากให้ทุกคนติดตาม และสนับสนุนพี่ก้องในบทบาทการทำงานครั้งใหม่นี้ด้วย
.
ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพบผู้คนทำมาหากิน พบประชาชนคนไทย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ครั้งนี้เป็นโอกาสไม่ใช่แค่เพียงการนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ แต่อาจเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงในระดับที่กว้างขึ้น ที่ผ่านมา ผมอาจจะใหม่ในวงการการเมือง ใหม่ของการที่เข้ามาเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top