Wednesday, 21 May 2025
เพื่อไทย

‘บิ๊กตู่' ย้อนสื่อ 'เศรษฐา' เป็นใคร? ลั่น!! ประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ ของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง

(1 มี.ค. 66) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร รสทช.ว่า เป็นบรรยากาศแห่งมิตรไมตรี และในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค ได้มีโอกาสพบปะสมาชิกหลายคนหลายภาคและเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาสวมเสื้อให้ ถือเป็นเกียรติให้กันและกัน ตนมีความเชื่อมั่นในบรรดาสมาชิกของพรรคที่มีหลากหลาย หลายกลุ่ม หลายวัย เพราะเราต้องการเดินหน้าทำงานให้คนทุกช่วงวัย รวมถึงกลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่มีปัญหาต่าง ๆ เราต้องทำให้ทุกคนได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานในอนาคต ขอขอบคุณบรรดาสมาชิก ส.ส.และขอบคุณหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค และผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำให้มีวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ตนมีความสุข

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคบอกแล้วว่ามีความพร้อม ทันเวลาอย่างแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และ กกต.พรรครวมไทยสร้างชาติส่งให้ครบ

‘เศรษฐา’ กั๊กตอบนั่งแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย แต่พร้อมช่วย ‘อุ๊งอิ๊ง’ เดินหน้าหาเสียงเต็มที่

(1 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าพรรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังได้รับแต่งตั้ง โดยมี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ให้การต้อนรับ

โดย นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษา และพูดคุยกับผู้ใหญ่ภายในพรรคมาโดยตลอด วันนี้เป็นฤกษ์ดีที่ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาทำงานการเมืองให้มากขึ้น ส่วนการเดินหน้าทำการเมืองเพื่อรณรงค์ไปสู่การเลือกตั้ง ขอให้เป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งตลอดการหาเสียงช่วงที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ทำได้ด้วยดีมาโดยตลอด แต่คนที่ตั้งครรภ์ 7 เดือนก็มีขีดจำกัด ส่วนตัวก็พร้อมที่จะมาช่วยในลักษณะที่ตนถนัด

เมื่อถามว่า นี่คือก้าวแรกของการเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปถึงขั้นนั้น ขอให้เป็นขั้นตอน เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง ต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะมีหลายท่านที่มีความเหมาะสม

เมื่อถามย้ำว่า หลายฝ่ายฟันธงไปแล้วว่า นายเศรษฐา คือ แคนดิเดตนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ตนมาเป็นที่ปรึกษาให้ น.ส.แพทองธาร มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่คิดว่าจะช่วยประเทศชาติได้ หลังจากนี้ จะไปช่วยหาเสียง ที่ผ่านมาเราทำธุรกิจก็อยู่แค่เมืองหลวงอย่างเดียว ซึ่งการลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การลงพื้นที่ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ตนไปทำ แต่ก็ต้องมีความเป็นตัวตนของตนด้วย และทำในสิ่งที่ตนเองถนัด

เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการรบริหารเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพร้อมจะรับหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ถึงวันนั้นก่อนดีกว่า ต้องให้เกียรติ หากไปพูดก่อนจะเป็นการกดดันคนอื่นที่มีศักยภาพ ตนเป็นน้องใหม่ ยังมีผู้ใหญ่หลายท่านที่มีคุณภาพ

เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้พร้อมแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จะพร้อมหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่ตนต้องพูด เป็นระบอบพรรคการเมือง เราไม่ใช่คนตัดสิน ต้องให้เกียรติผู้บริหารพรรคด้วย ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่ยุบสภาฯ ขอทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก่อน ในฐานะที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจมากว่า 30 ปี ตนจะขอทำให้เต็มที่จนถึงที่สุด หวังว่าขอเสนอแนะของตนจะเป็นประโยชน์พรรคการเมือง

พลังประชารัฐไม่น้อยหน้า ‘บิ๊กป้อม’ เมินเพื่อไทย เปิดตัว ‘เศรษฐา’ นั่งปธ. ที่ปรึกษา ลั่น! "ใครมาก็ช่างเถอะนะ เรามีของเรา"

เมื่อเวลา 16.45 น.วันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์หลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ถึงความมั่นใจหลังเปิดตัวผู้สมัครของพรรค ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นก็เปิดตัว สามารถเอาชนะได้หรือไม่ ว่า "ก็ต้องถามพรรคอื่นด้วย ถามทุกพรรค"

‘เพื่อไทย’ ประกาศนโยบาย ‘ฟื้นชีพประมงไทย’ ปลดล็อกประมงพื้นบ้าน-ทวงคืนตำแหน่ง ‘เจ้าสมุทร’

(2 มี.ค. 66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานนโยบายด้านการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย มงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ อดีตประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย และอดีตนายกสมาคมนอกน่านน้ำไทย และ ไตรฤกษ์ มือสันทัด คณะทำงานนโยบายประมง และผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ชุมพร เขต 2 พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดนโยบายประมง ในงานเสวนา ‘ประมงไทยจะกลับมาเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง’

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ให้ความสำคัญกับการประมง จึงเริ่มพูดคุยพบปะผู้ประสบปัญหาโดยตรง จนได้เห็นสภาพปัญหา ซึ่งในมุมของฝ่ายค้านเราทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมง ที่เกิดจากกลไก IUU Fishing มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ยื่นเสนอ พ.ร.บ.การประมงฉบับเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 และเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา สภารับหลักการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกที่จะช่วยเหลือพี่น้องประมงไทย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจึงร่วมมือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากสมาคมประมงทั้ง 22 จังหวัด รวมทั้งการลงพื้นที่ภูเก็ต พังงา นครศรีธรรมราช มีเสียงสะท้อนของพี่น้องประมงที่ส่งผ่านมายังพรรคเพื่อไทย จึงขอประกาศนโยบาย ด้านประมงทะเลอย่างเป็นทางการ 3 ด้าน ที่จะทำทันทีคือ

1. จะยกเลิก พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 ที่เป็นผลพวงรัฐประหารโดยทันที และจะบังคับใช้ พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.ประมงฉบับใหม่ ที่ร่วมเขียนโดยพี่น้องชาวประมงและสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย

2. จะเร่งเจรจาข้อตกลง IUU Fishing ใหม่ โดยตรงกับสหภาพยุโรป(EU) เพื่อแก้ไขและปรับปรุงข้อตกลงโดยเคารพบทบัญญัติของกฎหมายทะเลและแผนปฏิบัติการของ FAOอย่างเคร่งครัด เป็นธรรมและโปร่งใส

3. จะปลดล็อกประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก ไม่ต้องขออนุญาต ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนใด ๆ ให้พี่น้องได้ทำมาหากินอย่างเท่าเทียม

ทั้งนี้ การประมงไทยต้องพัฒนา มีทิศทางที่ชัดเจน มีเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพ สร้างชาวประมงรุ่นใหม่ และมีนโยบายต่างประเทศเพื่อเพิ่มการส่งออกผลผลิตอาหารทะเล ไปพร้อมกับการฟื้นฟูทรัพยากรประมงทะเลไทยให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อย่างสูงสุด ให้ชาวประมงทุกประเภทได้เข้าถึงอย่างเสมอภาค และจะต้องอนุรักษ์วัฒนธรรมการประมงแบบดั้งเดิมให้อยู่คู่คนไทยอย่างยั่งยืน

ทำงานไม่คุ้มภาษี!! ‘ตรีชฎา’ จี้ กกต. ตรวจสอบ ‘บิ๊กตู่’  หลังลาราชการไปร่วมงาน รทสช.

(2 มี.ค.66) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้ปี่กลองของการเลือกตั้งดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกพรรคการเมืองต่างเร่งหาเสียง นำเสนอนโยบายสู่พี่น้องประชาชน แต่รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังไม่ยอมยุบสภา กอดอำนาจเอาไว้และยังทำงานไม่คุ้มค่ากับภาษีของพี่น้องประชาชน กลับลาราชการมาร่วมพิธีทำบุญใหญ่ ณ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลาราชการมาสวมเสื้อแจ๊กเก็ตให้ผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยที่ยังได้ทั้งเงินเดือน และสวัสดิการเพรียบพร้อมที่มากกว่าผู้สมัครอื่นๆ

“การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ในฐานะผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่สังกัดพรรคการเมือง ถือเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่งในช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้งหรือไม่ แม้การลาเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่ในฐานะของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ย่อมถูกคาดหวังถึงความผิดชอบ ความมีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ และมารยาททางการเมืองที่คนเป็นนักการเมืองพึงมี จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบด้วย การกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ เอื้อต่อการหาคะแนนเสียง หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่จะทำให้นายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี ได้เปรียบคู่แข่ง ซึ่งไม่ได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ และหากยุบสภา การหาเสียงของบุคคลเหล่านี้จะต้องไม่ขัดต่อระเบียบ กกต. อันจะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกับพรรคอื่นๆในการเลือกตั้งด้วย”

ปราศรัยจุดเดียวกัน!! 'เพื่อไทย' เตรียมปราศรัยใหญ่ 'โคราช-บุรีรัมย์-สุรินทร์' จัดเต็ม 2 วัน 5 เวที ประเดิมเมืองย่าโม หวังเกทับ 'รทสช.'

(2 มี.ค.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 4-5 มี.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่หาเสียงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใน 3 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 10.00 น. จะเริ่มเวทีแรก ที่อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

จากนั้นจะไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ก่อนไปเปิดเวทีที่ 2 เวลา 14.00 น. ณ ลานข้างสถานีรถไฟ อ.คง จ.นครราชสีมา และช่วงเย็นเวลา 17.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ สนามหน้าศาลากลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งสนามนี้เคยมีเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อสัปดาห์ก่อนเชื่อว่าพรรค พท.จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เก้าอี้จะเต็มทุกที่นั่ง

เข้าตัวทุกอย่าง!! ‘สมคิด’ ไล่ส่ง ‘บิ๊กตู่’ เอาเวลาไปหาเสียง ซัด!! วิจารณ์พรรคอื่น แต่เข้าตัวเองทุกดอก

(2 มี.ค.66) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่มีต่อการเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าการพูดทำนองนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงว่ายังไม่เข้าใจบริบทของประเทศนี้ ประเทศที่บริหารโดยทหารก็เป็นแบบนี้แหละ ในทางกลับกันหากนักบริหารในภาคเอกชน ซึ่งเขาบอกโลกกว้างกว่า เขาก็สามารถที่จะทำงานได้มากกว่า ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่าใครก็ตามที่เขาเสนอตัวจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่จะตัดสินคือประชาชนไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์มาตัดสิน เรื่องนี้ต้องเปิดใจกว้างๆ ไว้ เขาเข้ามาตามกระบวนการ พล.อ.ประยุทธ์แรกๆ ก็ไม่ได้เข้ามาตามกระบวนการ ฉะนั้น ต้องเคารพในกระบวนการเราต้องเคารพเขา ส่วนท่านจะวิจารณ์อย่างไร ทุกอย่างก็เข้าตัวท่าน

อุ๊งอิ๊งยืนหนึ่ง!! ‘อีสานโพล’ เผย คนอีสานเทใจให้ ‘อุ๊งอิ๊ง’  เชียร์นั่งตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30

อีสานโพลเผยคนอีสาน ต้องการเลือก ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ ขณะที่ ‘ลุงตู่’ มาอันดับ 4  ‘ลุงป้อม’ มาอันดับ 6  และต้องการให้ทุกพรรคดำเนินการตาม 5 นโยบายหลักเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ตรงจุด หลังพบทุกพรรคอัดแคมเปญหาเสียงคึกคักแต่ก็ยังไม่โดนใจ 

(2 มี.ค. 66) ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน หรือ ECBER  คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดเผยผลสำรวจเรื่องนโยบายเศรษฐกิจที่ใช่ของคนอีสาน จากการลงพื้นที่สำรวจกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยพบว่าผลสำรวจพบว่า 5 นโยบายเศรษฐกิจเด่น ที่คนอีสานให้ความสำคัญช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง คือ นโยบายขึ้นค่าแรงและเงินเดือนขั้นต่ำ,นโยบายแก้หนี้,พักหนี้,เติมทุน นโยบายบำนาญหรือเบี้ยผู้สูงอายุ นโยบายเพิ่มเงินบัตรประชารัฐ,คนละครึ่ง และนโยบายการลดค่าน้ำมัน,ค่าแก๊ส,ค่าไฟ,หนุนโซล่าเซลล์    

รศ. ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล กล่าวว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานเกี่ยวกับนโยบายหาเสียงด้านเศรษฐกิจที่คนอีสานให้ความสำคัญ และความนิยมของพรรคการเมือง   จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,200 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยเริ่มจากคำถามที่ว่าท่านให้ความสำคัญกับนโยบายหาเสียงด้านเศรษฐกิจในประเด็นใดมากที่สุด ซึ่งส่งผลต่อการเลือก ส.ส. หรือสนับสนุนพรรคการเมือง (เลือกได้เพียงข้อเดียว) และสอบถามต่อว่า นโยบายเศรษฐกิจที่ท่านให้ความสำคัญ ของพรรคการเมืองใด จะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวท่านมากที่สุด และทำการประมวลผลว่านโยบายใดถูกให้ความสำคัญมากที่สุดและนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองใดสามารถดึงฐานเสียงหรือสร้างการตอบรับได้มากน้อยเพียงใด   

สะเทือนแลนด์สไลด์!! อดีต ส.ส.เพื่อไทย เปิดใจเหตุย้ายพรรคร่วมงาน 'ลุงป้อม' เชื่อ!! เป็นผู้นำเชื่อมทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง

(2 มี.ค. 66) นายบัลลังก์ อรรณนพพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ และอดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐว่า เหตุผลที่ตนตัดสินใจมาร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากนโยบายของพรรค ที่เข้าถึงประชาชน อย่างเช่น บัตรประชารัฐ ที่จะนำเงิน 700 บาทต่อเดือนสู่ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงไปนโยบายการปฏิรูประบบที่ดิน คืนที่ทำกินให้ประชาชน โดย เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทุกประเภท เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ก็เป็นประโยชน์อย่างมากกับชาวอีสาน เพราะส่วนใหญ่มักจะถือครองที่ดิน ส.ป.ก. และอีกนโยบายหลักที่สำคัญมาก ๆ คือ การก้าวข้าวความขัดแย้ง

นายบัลลังก์ กล่าวว่า การบริหารประเทศของพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพล.อ.ประวิตร ถือว่าได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนด้านปากท้องของประชาชนซึ่งตนในฐานะ ส.ส.เขต ทำงานกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิดเชื่อว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้จะสามารถเข้าถึงประชาชนได้แน่นอน

"ผมจะนำนโยบายไปประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ให้ประชาชนทุกคนเข้าใจในนโยบายของพรรค ในพื้นที่ภาคอีสาน ต้องยอมรับความการประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคการเมืองอื่น ที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ยังไม่สามารถเข้าถึงชาวอีสานได้ ผมก็จะเป็นตัวกลางประสานงานกับชาวบ้าน เพื่อทำความเข้าใจกัน หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า"จับเข่าคุยกัน"นายบัลลังก์ กล่าว

โบกมือลา ‘ธีราภา’ ลาออก กรรมการบริหาร ‘เพื่อไทย’ เหลือคณะกรรมการบริหารพรรค 13 คน

(2 มี.ค.66) - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมืองเรื่อง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

ตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย จํานวน ๑๔ คน นั้น

บัดนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ กรณี นางสาวธีราภา ไพโรหกุลลาออกจากตําแหน่งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ตามหนังสือลาออกลงวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ โดยพรรคเพื่อไทยได้รับทราบการลาออกดังกล่าวในวันเดียวกัน ทําให้ความเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๕๒ (๒)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top