Wednesday, 21 May 2025
เพื่อไทย

ความตั้งใจแน่วแน่!! ‘เศรษฐา’ แจ้ง ‘ลางาน’ แสนสิริชั่วคราว ขอมุ่งลุยงานที่ปรึกษาฯ ให้เพื่อไทยเต็มที่

จากกรณี ครอบครัวเพื่อไทย ได้เปิดตัว ‘กุนซือ’ ประจำพรรค แต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็น ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยให้มีอำนาจหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คณะทำงานของพรรคที่รับผิดชอบโครงการดังกล่าว และดำเนินการอื่นใดตามที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมอบหมาย

(9 มี.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนพนักงานในเครือแสนสิริ ลงวันที่ 8 มีนาคม 2566 ระบุว่า…

“เพื่อแสดงความตั้งใจจริง วันนี้ผมได้ลางานชั่วคราวโดยไม่รับค่าตอบแทน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้เต็มที่”

ทั้งนี้ จดหมายฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า…
“ในฐานะพนักงานแสนสิริคนหนึ่ง ผมได้แสดงจุดยืนในประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคม และการบริหารประเทศมาโดยตลอดผ่านแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า ‘แสนสิริ’ ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคม ทั้งในบทบาทของภาคเอกชน และในฐานะประชาชนคนหนึ่ง จุดยืนดังกล่าว ได้หล่อหลอมความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างแน่วแน่ และก่อให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะลงมือขยายผลให้ขอบเขตกว้างยิ่งขึ้นไปอีก

ในวันนี้ ผมได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่ผมจะได้ช่วยผลักดันประเทศไทยให้ดีขึ้นในเชิงโครงสร้างและนโยบาย ผมมีความตั้งใจที่จะนำประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ มาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยให้มุ่งไปข้างหน้า เร่งพัฒนาให้ประเทศไทยกลับมายิ่งใหญ่ในสายตาประชาคมโลก และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และโอกาส ซึ่งปรากฎมากขึ้นเหลือเกินในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เพื่อไทยคึก!! ‘ชลน่าน’ ตั้งเป้าคว้าเก้าอี้ ส.ส. ‘310 เสียง’  ลั่น!! พร้อมจัดตั้ง รบ.เพื่อไทย กำจัดระบบประยุทธ์ให้สิ้น

พท.ประชุมใหญ่คึกคัก “ชลน่าน” ประกาศเป้าหมาย 310 เสียง กำจัดระบอบ “ประยุทธ์” ให้สิ้นซาก ลั่นขอเข้าทำเนียบในนามรัฐบาลเพื่อไทย 

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรค พท.จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566  โดยมีแกนนำ กรรมการบริหารพรรค อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

นพ.ชลน่าน กล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า วันนี้เป็นการประชุมใหญ่ของพรรคพท. และเราจะมีโอกาสดีที่พวกเราชาวพรรคพท.มาร่วมผนึกกำลังกัน ณ เวทีแห่งนี้  เพื่อทำกิจกรรมสำคัญของพรรคพท. ตนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ แต่ขอกล่าวด้วยความเสียใจว่าอาจเป็นผู้นำฝ่ายค้านครั้งสุดท้ายก็ได้ ทั้งนี้ สิ่งที่ตนอยากประกาศก็คือเราจะชูธง ปักชัย แลนด์สไลด์สู่เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่งประเทศไทยในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นจุดต่ำสุด และตนในฐานะหัวหน้าพรรคมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพรรคพท.เราเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ได้ เราเคยประกาศยุทธศาสตร์และเป้าหมายของการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายคือแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ต้องได้ ส.ส.มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป แต่ในเวลานี้สิ่งที่เรามุ่งหวังตรงนั้น และสิ่งที่เราวางแนวทางเอาไว้ว่าจะต้องชนะ ส.ว. 250 ที่นั่งที่มีอยู่ในวุฒิสภา

ขอแข่งกันทำความดี ‘ลุงหนู’ ไม่สนดรามา ‘ภท.-พท.’ ก๊อบปี้นโยบาย พร้อมอวยพร ‘อุ๊งค์’ คลอดลูกปลอดภัย-แข็งแรง

จากกรณีการตอบโต้กันระหว่างพรรคการเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยสมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้ออกตัวว่ามีพรรคการเมืองใหญ่ ลักไก่ก๊อบปี้นโยบายพักหนี้ ซึ่งต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ตอบกลับพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวหาว่า พรรคเพื่อไทยลอกนโยบายหาเสียง ว่า ไม่สามารถก๊อบปี้นโยบายที่ริเริ่มได้ และให้ผู้กล่าวหาไปหาข้อมูลเพิ่มเติม

ล่าสุด (9 มี.ค.66) ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ยังไม่ได้ข่าว และขอหาข้อมูลก่อน แต่เรื่องนี้ใครจะก๊อบปี้ใคร ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ก็ไม่เป็นไร ขอแข่งทำความดีดีกว่า และหากประชาชนได้ประโยชน์ก็ควรสนับสนุนกัน แทนที่จะมาแย่งกันว่าเป็นผลงานของใคร

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ใกล้จะคลอดในช่วงวันเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า ตนขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรง คลอดง่าย ๆ เดินทางปลอดภัย ส่วนการเลือกตั้งต่างก็เป็นไปตามบริบทของแต่ละพรรค

ถามถึงแผนการหาเสียง นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้มีการปราศรัยย่อยทั่วประเทศทุกวันอยู่แล้ว ตนเองก็หมดเวลาราชการ ก็ลงพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นส่วนใหญ่ ก็จะมีการจัดปราศรัยย่อยในพื้นที่ต่าง ๆ ในชุมชนในเขตเลือกตั้ง

คิดการใหญ่!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตั้งเป้าจัดตั้ง รบ.พรรคเดียว มุ่งแก้ปัญหาปากท้อง ปชช. บอก ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศจับมือทางการเมืองกับพรรคอื่น

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ของเป้าหมายแลนด์สไลด์ 310 เสียงของพรรค พท.ว่า เป็นการตั้งเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ที่เราต้องมุ่งมั่น เพราะ 310 เสียงจะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง แข็งแรง สามารถที่จะกำจัดระบอบประยุทธ์ให้ออกไปได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่วางไว้และต้องไปถึงเป้าหมายให้ได้

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท.และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศเป็นรัฐบาลพรรคเดียวของพรรค พท.ว่า จริง ๆ อยากเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง เป็นรัฐบาลที่ไม่ถูกล้มด้วย ส.ว. ไม่สามารถถูกแต่งตั้งนายกฯ ได้ด้วย ส.ว. เราอยากเป็นรัฐบาลที่จัดตั้งนายกฯ ได้โดยประชาชน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างที่เคยพูดไว้ทุกเวที

“จริง ๆ เราต้องช่วยกัน ที่หัวหน้าพรรค พท.ประกาศเรื่อง 310 เสียงเป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องมีทุกคน ทั้งหัวหน้า เลขาพรรค นายเศรษฐาและทุกคนที่ต้องช่วยกันทุกจุด เราไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว เพราะนี่คือการใหญ่มาก ๆ เราต้องเดินหน้าเต็มที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

‘เพื่อไทย’ เผย ‘เศรษฐา’ เตรียมขึ้นปราศรัยแรก ‘พิจิตร-พิษณุโลก’ โว!! แม้เป็นหน้าใหม่ แต่ประชาชนให้ความสนใจล้นหลาม

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยที่ จ.พิจิตร และพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคมนี้ นอกจากการนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้ว ไฮไลต์สำคัญในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรก

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรค พท.เข้าร่วม นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรค และตน ร่วมปราศรัยบนเวที โดยในวันที่ 11 มีนาคม คณะของพรรค พท.จะเดินทางไปที่ จ.พิจิตร เพื่อสักการะหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง อ.เมือง ก่อนเดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

‘นครพนม’ เดือด!! ‘ณพจน์ศกร’ ร้องทุกข์!! ‘เพื่อไทย’ โดน ‘ไอ้โม่ง’ ตระเวนกรีดป้าย ชี้!! เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาอย่าง เร่งตามตัวดำเนินคดี

‘นครพนม’ ส่อเดือด! ‘เพื่อไทย’ โดนแล้ว ‘ไอ้โม่ง’ ตระเวนกรีดทำลายป้ายนับสิบจุด

(10 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่า นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม พร้อมทีมงานเดินทางไปยัง สภ.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยนำหลักฐานภาพถ่ายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.กังวาน โคตรตะวงศ์ สว. (สอบสวน) หลังถูกผู้ไม่หวังดีป่วนทำลายป้ายแนะนำตัว และป้ายของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ได้รับความเสียหายหลายจุด

จุดแรกเป็นป้ายนายณพจน์ศกร ถ่ายคู่กับ น.ส.แพรทองธาร ติดตั้งไว้ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033 สายหนองญาติ-นาแก ป้ายนี้คาดว่าคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์หรืออาจเป็นสปาร์ตากรีดทำลายตรงภาพจนเสียหาย , จุดที่สองอยู่ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2276 สายหนองฮี-ปลาปาก , จุดที่สามอยู่หน้าตลาดชุมชน ต.หนองฮี โดนทำลายถึง 2 ป้าย และจุดที่สี่อยู่ปากทางเข้าวัดป่าเมธาวิเวก รวม  6 ป้าย

จากนั้นนายณพจน์ศกร เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.บรรจบ แสนศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระซอง อ.นาแก แจ้งความเอาผิดกับผู้ทำลายป้ายที่ปักไว้ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2031 สายพระซอง-เรณูนคร จุดแรกหน้าโรงสี ส.อำนวยค้าข้าว , จุดที่สองหน้าโรงเรียนมัธยมพระซองสามัคคี และจุดที่สามบริเวณสามแยกบ้านนาเหนือหน้าวัดศรีสว่าง ป้ายตรงจุดนี้ถูกมือดียกป้ายแนะนำตัวอันตรธานหายไป 3 ป้าย และเป็นที่น่าสงสัยคือมีป้ายแนะนำตัวของนายณพจน์ศกร ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้ๆกับเทศบาลตำบลพระซอง ก่อนหน้านี้ได้ถูกคนร้ายยกหายไปแล้ว พอวันนี้ป้ายดังกล่าวถูกนำมาปักไว้คืนที่เดิม

จากนั้นนายณพจน์ศกรได้เข้าพบ พ.ต.ท.สังเวียน ศรียศ สว.(สอบสวน) สภ.นาแก หลังป้ายแนะนำตัวถูกทำลาย 1 จุด บริเวณริมถนนบ้านต้นผึ้ง ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 223 สายนาแก-ธาตุพนม รวมเสียหายทั้งหมด 10 ป้าย มูลค่าความเสียหายรวมค่าติดตั้งป้ายละ 700 บาท รวมเป็นเงิน 7,000 บาท  เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

สำหรับป้ายแนะนำตัวของนายณพจน์ศกร ที่ถ่ายคู่กับ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตรวจสอบพบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยใช้คัตเตอร์ หรือมีดสปาต้า กรีดสับที่ใบหน้าของ น.ส.แพทองธาร และนายณพจน์ศกร จนไม่เห็นโครงป้าย โดยที่หน้าโรงเรียนมัธยมพระซองสามัคคี คนร้ายถึงขนาดถอดป้ายไวนิลไป เหลือแต่โครงไม้ให้ดูต่างหน้า ส่วนที่พบว่าหนักสุดคือจุดหน้าตลาดชุมชนหนองฮี เสียหายถึง 6 ป้าย

ขออากาศสะอาด ‘นพดล’ จี้ รบ. แก้ไขพิษฝุ่น PM 2.5 อย่างเข้มงวด ลั่น!! “อย่าปล่อยปัญหาฝุ่น กัดกร่อนสุขภาพคนไทย”

พท.กระทุ้ง รบ.แก้ปัญหาฝุ่นพิษจริงจัง อย่าปล่อยลูกหลานอยู่ตามยถากรรม 

(10 มี.ค. 66) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องแบบแผ่นเสียงตกร่องแทนพี่น้องคนไทยในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ ที่ทุกข์ยากแสนสาหัสจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่อยู่ในระดับที่เป็นอันตราย เลวร้ายลงทุกวัน 

ซึ่งข้อมูลทางวิชาการชี้ว่าฝุ่นพิษนี้อาจนำไปสู่โรคร้าย กระทบต่อปอด หัวใจ สมอง และอาจมีผลกระทบในระยะยาว และไม่ปรากฏอาการในขณะนี้ ตนเรียกร้องให้รัฐบาลตื่นขึ้นมาแก้ปัญหาให้เป็นระบบและจริงจังกว่านี้ ได้เรียกร้องไปหลายครั้งแต่ยังไม่เห็นความตั้งใจจริงในการออกมาตรการ และระดมสรรพกำลังเพื่อแก้วิกฤต ถ้าไม่เร่งแก้คนไทยนับแสนนับล้านจะได้รับผลกระทบ ประเทศจะสูญเสียทั้งต้นทุนทางสุขภาพ สังคมและการท่องเที่ยว 

นายนพดล กล่าวต่อว่า จิตใจผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทำด้วยอะไร คิดถึงหัวใจ ปอด สมอง สุขภาพของเด็กแรกเกิดจนถึงคนชราที่ต้องเผชิญฝุ่นพิษตามยถากรรมวันแล้ววันเล่าบ้างไหม เรื่องนี้เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ เป็นโศกนาฏกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่รัฐบาลต้องแก้ไข ต้องระดมหน่วยงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นเร่งแก้ปัญหาการเผาไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย แก้ปัญหาการเผาป่าหน้าแล้ง ร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคุมไซต์ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม รถควันดำ โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เข้มงวดผู้ปล่อยมลภาวะ นอกจากนั้นรัฐบาลได้เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นข้ามแดนไปอย่างไรบ้าง

‘เศรษฐา’ นั่งรถอีแต๊ก ลุย จ.พระนครศรีอยุธยา จับเข่าคุย - รับฟังสารพัดปัญหาของเกษตรกร

(10 มี.ค. 66) ที่อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และนายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ ฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรค พท. ทั้ง 5 เขต ประกอบไปด้วย 

1. นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล 
2. นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล 
3. นายองอาจ วชิรพงศ์ 
4. นายจิรทัศ ไกรเดชา 
และ 5. นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ 

ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกรชาวนา โดยพี่น้องชาวนาได้สะท้อนปัญหาอยากให้ชีวิตคือกินดีอยู่ดีขึ้น ทั้งเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร และปุ๋ยที่ราคาแพง รวมถึงให้ข้าวมีราคาสูงขึ้นกว่านี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อกิโลกรัม และปัญหาหนี้สินของเกษตรกรด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ลงพื้นที่นี้เป็นจังหวัดแรก เพื่อรับฟังความอัดอันตันใจของชาวนาในการทำไร่ทำนา ตนทราบว่าปัญหาเยอะเหลือเกิน แต่ 8 ปีที่ผ่านมาเราเชื่อว่าเราอยู่ในหลุมดำของกลับดักรายได้ต่ำ ราคา

ข้าวไม่ดีผลผลิตไม่ดี และมีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งมาโดยตลอด ยืนยันว่าปัญหาน้ำท่วมเรามีแผนงานทำฟลัดเวย์หรือพื้นที่กักน้ำเพื่อแบ่งเบาภาระในช่วงน้ำหลาก เรื่องน้ำแล้งนั้นจะต้องมีการขุดบ่อและนำปั๊มน้ำเข้ามาในพื้นที่ ส่วนปัญหาหนี้สินก็เป็นปัญหาใหญ่ที่พรรค พท. ตระหนักดีอยู่ เนื่องจากราคาข้าวที่ผ่านมารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญหรือเปิดตลาดใหม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ทำหน้าที่เซลล์แมนขายของเลย ถ้าพรรค พท. ได้รับความไว้วางใจกรุยทางถนนเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาล เพื่อช่วยกันค้าขายยกระดับราคาสินค้าเกษตร รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องระบบสาธารณสุข ในการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคด้วย

“เป็นครั้งแรกที่ผมลงพื้นที่รับฟังปัญหาและความอัดอันตันใจของพี่น้องทุกคน ผมก็หนักใจ แต่เรามีความจริงใจเรามีความตั้งใจจริงในการที่จะหาทางแก้และช่วยเหลือพี่น้องอย่างเต็มที่” นายเศรษฐา กล่าว

หลังรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวนา นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นที่ชาวนาสะท้อนคือเรื่องราคาปุ๋ยแพงและ ราคาข้าวตกต่ำ ว่า ราคาเป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง หากราคาแพงต้นทุนก็จะสูง เงินเข้ากระเป๋าก็จะน้อย หน้าที่ของพรรค พท. คือจะต้องเพิ่มเงินสุทธิเข้ากระเป๋าเข้ากระเป๋าให้มากขึ้นอย่างน้อย 3 เท่า ทั้งการลดราคาสินค้าและค่าใช้จ่าย ส่วนปัญหาราคาปุ๋ยแพงนั้นสามารถยอมรับว่าเป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลกที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นจึงมี นโยบายสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในท้องถิ่นเพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งจะทำให้เราสามารถควบคุมราคาปุ๋ยลงได้

เมื่อถามว่า 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ยังไม่ สามารถแก้ไขปัญหาราคาข้าวได้มั่นใจหรือไม่ว่าพรรค พท. จะทำได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่สามารถพูดถึง 8 ปีที่ผ่านมาได้ แต่ทราบถึงความอึดอัดตันใจ ไม่มีความสุข ที่ราคาพืชผลตกต่ำ แต่ตนมั่นใจว่าพรรค พท. สามารถทำได้ในหลายมิติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

เมื่อถามถึงพื้นที่อ.ผักไห่ เป็นพื้นที่รับน้ำและที่ผ่านมารับน้ำนานถึง 4 เดือน พรรค พท. มีแนวทางแก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างไรเพื่อให้มีการระบายน้ำในพื้นที่ได้เร็วขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทั้งระบบ ว่าทำไมถึงเป็นพื้นที่รับน้ำและรับน้ำนานถึง 4 เดือน จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดก่อน แต่แน่นอนว่าพื้นที่ที่เดือดร้อนต้องมีวิธีการบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

‘งดออกเสียง’ ไพ่ตายของ 250 ส.ว. สยบ ‘อุ๊งอิ๊ง’ จัดตั้ง รบ. ภายใต้ 310 ส.ส.

เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.66) พรรคเพื่อไทยประสานเสียงกันหนักแน่นในที่ประชุมใหญ่สมัยสามัญของพรรคว่าจะก้าวข้ามจำนวน ส.ส. 250 ที่นั่ง หรือแลนด์สไลด์ได้อย่างแน่นอน…โดยตั้งเป้าหมายปักหมุดไว้ที่ 310 เสียง

วันนี้จะพามาย้อนดูอดีตกันสักนิดว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยในอดีต (พรรคสารตั้งต้น) เคยได้คะแนนเสียงจัดตั้งรัฐบาลกันเท่าไหร่

เริ่มจากเลือกตั้งปี 2548 พรรคไทยรักไทย...สารตั้งต้นพรรคเพื่อไทยเคยกวาดมาแล้ว 377 เสียง (เขต 310 บัญชีรายชื่อ 67) ภายใต้กติกาการเลือกตั้งบัตรสองใบเหมือนปีนี้ (2566) แม้บริบทการเมืองพ.ศ.นี้ยากที่จะไปถึงหมุดหมาย 310 เสียงได้ แต่ก็ลองจินตนาการดูว่าถ้าเป็นไปได้จริงจะเกิดอะไรขึ้น…

ฟันธงแบบไม่ต้องนั่งเทียนได้เลยว่า หากได้มา 310 เสียง (พรรคเดียว) จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว บรรดา ส.ว. ที่ยังมีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจำนวนไม่น้อยที่ยอมรับโดยส่วนลึกว่าต้องเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทย…

แต่คำถามมีอยู่ว่าแล้ว 250 ส.ว. จะพร้อมใจโหวตให้ แพทองธาร ชินวัตร หรือเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีโดยดุษฎีอย่างนั้นหรือ

คำตอบคือไม่น่าใช่...

หากดูจากการข่าว...มีโอกาสสูงยิ่งที่ ส.ว.จะงัดมาตรการ ‘งดออกเสียง’ ไม่ค้านแต่ไม่โหวตสนับสนุน…

‘จาตุรนต์’ ซัด!! สาเหตุที่ ‘บิ๊กตู่’ ไม่รีบยุบสภา เหตุหวัง ‘หาคนเข้าพรรค - หาเสียงให้ รทสช.’

(10 มี.ค. 66) นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังพบหนังสือรายชื่อรัฐมนตรีที่เดินทางไปตรวจราชการพร้อม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่จังหวัดฉะเชิงเทราว่า ใครดูรายชื่อผู้ร่วมคณะนายกฯ ไปตรวจราชการที่จังหวัดฉะเชิงเทราแล้วก็จะเข้าใจทันทีว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ยุบสภาสักที แต่จะรอจนนาทีสุดท้ายก่อนสภาฯ จะครบเทอมโน่นเลย ไม่ทราบว่า นายกฯ และคณะจะไปตรวจราชการเรื่องอะไร

ทั้งนี้ จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพทางการเกษตรหลายอย่างที่เจอปัญหาต่างกัน เช่น ข้าว มะม่วงหมู และกุ้ง เป็นต้น มีอุตสาหกรรมอยู่พอสมควรและยังเป็นส่วนหนึ่งของอีอีซีด้วย แต่ไม่เห็นมีรัฐมนตรีหรือข้าราชการประจำของกระทรวงเกษตรฯ อุตสาหกรรมหรือสภาพัฒน์ไปด้วยเลย มีแต่รัฐมนตรีในโควตา พล.อ.ประยุทธ์และข้าราชการการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งตั้งก่อนที่คนเหล่านี้จะมาเป็นกำลังสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เท่านั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top