Wednesday, 21 May 2025
เพื่อไทย

นักกฎหมาย ชี้ ‘ณัฐวุฒิ’ ไม่เข้าลักษณะ ‘ผู้ช่วยหาเสียง’ ส่อ!! เข้าข่ายครอบงำพรรค หวั่นเข้าเงื่อนไขยุบพรรค

(10 มี.ค. 66) สืบเนื่องจากกรณีนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยปราศรัยบนเวทีพรรคเพื่อไทย แม้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและร้องขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ‘ดร.ณัฎฐ์’ นักกฎหมายมหาชน ได้แสดงความเห็นทางกฎหมายว่า…

“โครงสร้างพรรคการเมือง ตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ไม่ได้บัญญัติกำหนดตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ตำแหน่งดังกล่าวไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นเพียงตั้งกลุ่มขึ้นมาทำกิจกรรมทางการเมืองโดยใช้เทคนิคเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หากพรรคเพื่อไทยถูกยุบพรรค หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ให้ตั้งข้อสังเกตว่า ตามริมถนนสาธารณะทั่วไป แผ่นป้ายนโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นรูปภาพ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่กลับไม่มีภาพการนำเสนอนโยบายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาเสนอต่อประชาชน จึงตั้งข้อสังเกตว่า ค่าใช้จ่ายของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยจะนำมารวมเป็นค่าใช้จ่ายเป็นเกณฑ์ชี้แจงค่าใช้จ่ายต่อ กกต.หรือไม่” ดร.ณัฐวุฒิ กล่าว

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าปัญหาเกี่ยวกับระเบียบ กกต.ว่า ด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ. 2561 ได้ให้คำนิยามคำว่า ‘ผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง’ หมายถึง ‘ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตามกฎหมาย’ ซึ่งบุคคลที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองถูกจำกัดสิทธิ์ ใช้สิทธิ์เลือกตั้งจนกว่าที่จะพ้นระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ถึงจะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ. 2561 ดังนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยและถูกตัดสิทธิ์การเลือกตั้ง จึงไม่อาจเป็นผู้ช่วยหาเสียง ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ. 2561 ได้

ส่วนรัฐธรรมนูญ หมวด 3 ให้สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 34 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามที่บัญญัติแห่งกฎหมาย เมื่อพิจารณาถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองและไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียง เพราะขาดหลักเกณฑ์ในการเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงมีลักษณะเป็นการควบคุมครอบงำหรือชี้นำกิจการของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกพรรคขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ตามความในมาตรา 29 แห่ง พรป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รับจ้างเป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย สามารถกระทำได้หรือไม่ ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่าหากเป็นสัญญาจ้างทำของ มุ่งถึงความสำเร็จของงานเป็นหลัก สามารถกระทำได้ แม้ไม่ได้มีสัญญาว่าจ้าง แต่ต้องแจ้ง กกต.ประจำจังหวัดในพื้นที่ในวันที่หาเสียงหรือปราศรัย แต่เงื่อนไขสำคัญหลัก ต้องพิจารณาถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่พรรคเพื่อไทย ชี้แจงต่อ กกต.เป็นการจ้างทำของหรือไม่

นอกจากนี้ จะต้องพิจารณาถึงคำปราศรัยจ้างในการหาเสียง เป็นผู้กำกับ ควบคุมเองหรือไม่อย่างไร เท่าที่ติดตามข่าว เห็น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย จ้างหลักร้อย เล่นหลักล้าน ต้องมาถอดคำปราศรัยว่า การปราศรัยหรือหาเสียง ครอบงำพรรคหรือไม่ แม้ไม่ผิดระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 โดยอาศัยช่องจ้างทำของ แต่ติดเงื่อนไขห้ามมิให้ผู้ใดมิใช่สมาชิกกระทำการใดควบคุม ครอบงำพรรค

“พูดภาษาชาวบ้านง่าย ๆ ว่า ระหว่างคุณเต้น ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สถานะทางกฎหมายพรรคการเมืองไม่ต่างกัน เมื่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงไม่ได้ ออกช่องรับจ้างทำของ แต่ติดกับดัก มาตรา 28 มาตรา 29 แห่งกฎหมายพรรคการเมือง เป็นอันตรายแก่พรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 28 ห้ามไว้โดยชัดแจ้งห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคครอบงำพรรค ซึ่งเข้าหลักเกณฑ์ยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ตรงนี้ ผมพูดตามหลักกฎหมาย เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” ดร.ณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่า กระแสวันประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยวานนี้ (9 มี.ค. 66) กระแสปั่น 310 ที่นั่ง จะเป็นพรรคการเมืองตั้งรัฐบาลพรรคการเมืองเดียว มีความเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า กระดานการเมืองของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่อยู่ที่ได้จำนวนเท่าไหร่ แต่จำนวนที่คาดหมายเป็นการปั่นกระแส หากเป็นรัฐธรรมนูญ 2540 และรัฐธรรมนูญ 2550 อาจเป็นไปได้ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ออกแบบ สว.จำนวน 250 เสียงและลงมติเห็นชอบร่วมตามมาตรา 272 โอกาสจัดตั้งรัฐบาลพรรคการเมืองเดียว ยืนยันว่าโอกาสน้อย หรือว่า แทบไม่มีโอกาสเลย

เล่นการเมืองแบบเก่า ‘ลิณธิภรณ์’ ซัดคนยื่นยุบพรรค พท. หวังสกัดแลนด์สไลด์ ชี้!! เป็นการทำลายความหวัง เริ่มต้นชีวิตใหม่ของปชช.

‘ลิณธิภรณ์’ สับพวกยื่นยุบพรรคพท. ไร้เหตุผล เล่นการเมืองแบบเก่า หวังสกัดแลนด์สไลด์

(11 มี.ค.66 ) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีความพยายามจากหลายฝ่ายในการยื่นยุบพรรคพท. ทั้งที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนที่จะแสดงออกถึงเจตจำนงในการใช้สิทธิที่พึงมี เลือกผู้แทนราษฎรและเลือกพรรคการเมือง 

ซึ่งเป็นที่พึ่งที่หวังในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ปรากฏว่าผู้ไม่หวังดีกำลังใช้อำนาจของกระบวนการยุติธรรมไปในทางที่ผิด เล่นการเมืองแบบเก่าโดยใช้ข้อกฎหมายที่ไม่มีเหตุหรือมูลความจริงมาสกัดกั้น นำมาเป็นเหตุอ้างในการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่เหตุของการยุบพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มี 4 ประเด็นหลัก คือ 

1. กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
2. กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 
3. กระทําการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74 ซึ่งว่าด้วยการดำเนินการของพรรค ว่าจะต้องไม่แสวงหากำไร ไม่ถูกครอบงำ ต้องยึดหลักประชาธิปไตย และปฏิบัติตามข้อบังคับเรื่องการเงิน 
4. มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนด

'เศรษฐา' น้อมรับ 'วันชัย' เตือนต้องสลัดภาพนักธุรกิจ ชี้!! ดูกันยาวๆ เชื่อ!! ไม่ซ้ำรอยอดีตสองนายกฯ

(11 มี.ค. 66) ที่วัดท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท. พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตส.ส.พิจิตร พรรคพท. พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค ทั้งนายภูดิท อินสุวรรณ์, นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร และนายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ เข้าสักการะหลวงพ่อเพชรเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ จ.พิจิตรที่เวทีปราศรัยวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร มีประชาชนจำนวนหนึ่งสวมเสื้อแดงรอมอบดอกไม้ให้กำลังใจ 

โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จะแนะนำนายเศรษฐาให้ประชาชนได้เห็น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาปราศรัยร่วมกันกับทีมพรรคพท.โดยมาในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และอยู่ในทีมเศรษฐกิจด้วย 

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพื้นที่ จ.พิจิตร เป็นของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 เขต จะทำให้แลนด์สไลด์ได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "เรามั่นใจอย่างมากด้วยนโยบายของเรา และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ที่ทำงานกันอย่างหนัก ฉะนั้นเรามั่นใจและต้องได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนด้วย ขอทั้ง 3 เขตเลย"

เมื่อถามถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ออกมากล่าวเตือนนายเศรษฐา ระวังจะเป็นเหมือนอดีตนายกฯ พรรค พท. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “สิ่งที่อิ๊งค์เห็นคือคุณพ่อ คุณอาทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมากมาย การที่เราขึ้นเวทีและพูดถึงนโยบายเมื่อ 20 ปีที่แล้วยังใช้ได้อยู่ เพียงแต่เพิ่มเรื่องเทคโนโลยีเข้ามา นั่นคือบทพิสูจน์ว่าประชาชนได้รับประโยชน์อะไรบ้างจาก คุณพ่อ คุณอา ที่เป็นนักธุรกิจมาก่อน แต่เมื่อเป็นมุมมองของคนก็ต้องรับฟัง”

‘ชูศักดิ์’ ยกระเบียบ กกต. โต้นักกฎหมาย หลังชี้ช่องยุบ 'เพื่อไทย' ยัน!! ‘ณัฐวุฒิ’ ช่วยหาเสียงได้

(11 มี.ค. 66) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชนให้ความเห็นถึงกรณีที่พรรค พท.แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ช่วยหาเสียงไม่อาจทำได้ และการติดป้ายหาเสียงของพรรค พท.มีแต่รูปน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยไม่มีนโยบายของพรรค พท.จึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองและระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอาจเข้าข่ายถูกยุบพรรคนั้น ว่าการให้ความเห็นในทางวิชาการนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้และต้องเคารพทุกความเห็น แต่ผู้ให้ความเห็นดังกล่าวควรศึกษาข้อกฎหมายให้ชัดเจนและต้องอยู่บนพื้นฐานของความไม่มีอคติด้วย กรณีการให้ความเห็นนั้นเห็นชัดเจนว่ามีความคลาดเคลื่อนจากข้อกฎหมายมาก โดยเฉพาะประเด็นดังนี้

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า 1.) กรณีที่อ้างว่า นายณัฐวุฒิ ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองและถูกจำกัดสิทธิเลือกตั้งไม่อาจเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะการเป็นผู้ช่วยหาเสียงตามระเบียบ กกต. กำหนดไว้เพียงว่าเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น สำหรับนายณัฐวุฒิ แม้จะถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ห้ามสมัครสมาชิกพรรคและห้ามสมัคร ส.ส. แต่ก็ยังคงเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรค พท.ได้ และพรรคก็ได้แจ้งรายชื่อนายณัฐวุฒิ เป็นผู้ช่วยหาเสียงไว้แล้ว

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายณัฐวุฒิ ทำกิจกรรมทางการเมืองในนามของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยก็ถือเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแพร่นโยบายและกิจกรรมหาเสียงของพรรคอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่มีการกระทำใดของนายณัฐวุฒิ ที่จะถือเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรค จนทำให้พรรคและสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเลย นอกจากนี้ คนทั่วไปก็รู้ว่านายณัฐวุฒิ เคยเป็นสมาชิกพรรค พท.มาก่อน การที่นายณัฐวุฒิ จะมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคย่อมเป็นเรื่องปกติ

“ในประเด็นนี้เข้าใจว่าผู้ที่ออกมาให้ความเห็นยังไม่เข้าใจถ้อยคำและความหมายของคำว่าถูกตัดสิทธิทางการเมือง ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง กับถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงได้ใช้ถ้อยคำปนเปกันไปหมด ซึ่งแม้นายณัฐวุฒิ เคยถูกจำคุกมาก่อนและยังไม่พ้น 10 ปี ตามรัฐธรรมนูญจึงถือว่าเป็นบุคคลที่ต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งรวมถึงห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมืองด้วย แต่เขามิได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแต่อย่างใด จึงไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้และเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ จึงขอให้ผู้ที่ออกมาให้ความเห็นศึกษากฎหมายให้ดีเสียก่อน” นายชูศักดิ์ กล่าว

'อิ๊งค์' อ้อน 'คนพิจิตร' ขอแลนด์สไลด์ 310 เสียง ฟาก 'ชลน่าน' ย้ำไม่จับมือ 'ลุงป้อม' หลังเลือกตั้ง

(11 มี.ค.66) ที่เวทีปราศรัยวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ โดย น.ส.แพทองธาร แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย ร่วมเวที มีประชาชนรอรับฟังคำปราศรัยจนเต็มหน้าลานวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า วันนี้เราต้องชูธง ปักชัย เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียง ถ้าเราไม่ได้ 310 พี่น้องชาวพิจิตรจะต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไปอีก 4 ปี ตอนแรกเราต้องการ 250 เสียงเพื่อชนะ ส.ว.ก่อน แต่จากการลงพื้นที่ประชาชนให้มาเกิน 250 เสียงแล้ว เมื่อมีคนออกมาบอกว่าพรรค พท.ได้ส.ส. 270 เสียงก็จะดันพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ถ้าเราไม่ได้คะแนนจากพี่น้องชาวพิจิตร เสียง 310 อาจเป็นไปไม่ได้เลยต้องมาขอคำมั่นสัญญาจากพี่น้องชาวพิจิตรจะเลือกพท.ทั้ง 2 ใบ มีคนออกมาตั้งข้อสังเกตหลังเลือกตั้งพรรคพท.จะจับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ ยืนยันหลังการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ) พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถ้าเราได้ 310 เสียงจะได้นายกฯจากประชาชนและเราจะได้ผลักดันนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้ 

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ดีใจได้มาเจอคนพิจิตรด้วยตัวเอง คนที่พรรคพูดกันว่าตนจะเดินทางได้ถึงเมื่อไหร่ แต่พอบอกมาพิจิตรจึงต้องมา ถ้าพิจิตรแลนด์สไลด์นายกฯ มาจากพท.แน่นอน ทั้งนี้ จ.พิจิตรมีปัญหามากมาย การเกษตร เราจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรดียกแผง ข่าวราคาดี ปุ๋ยต้องถูกลง พรรคพท.จะมีนโยบายใช้เทคโนโลยีมาช่วยประชาชน พรรคพท.จะทำให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างเท่าเทียมกัน ตนขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตของจ.พิจิตร ให้แลนด์สไลด์ เลือกพท.ทั้งคนทั้งพรรค และพิเศษที่สุดที่ จ.พิจิตร ตนขอแนะนำนายเศรษฐาที่เป็นประธานที่ปรึกษาของพรรค และอยู่ในทีมเศรษฐกิจ มั่นใจได้เลยว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแน่นอน

อวยกันหนัก!! ‘เศรษฐา’ โพสต์รูปภาพคู่ ‘อุ๊งอิ๊ง’ พร้อมอวย "เธอสง่างาม ออร่าพุ่ง"

12 มี.ค.2566 - นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย โพสต์รูปภาพคู่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า "เธอสง่างาม ออร่าพุ่ง…"

สำหรับนายเศรษฐา และนางสาวแพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย


ที่มา : https://www.thaipost.net/x-cite-news/339985/ 

เยือนถิ่นพิษณุโลก ‘อุ๊งอิ๊ง’ ชี้!! รัฐประหารพรากโอกาสพัฒนาชีวิตปชช. ลั่น!! สานต่อ ‘อาปู’ เดินหน้าดัน ‘บางระกำโมเดล’

‘อุ๊งอิ๊ง’ ลุยพิษณุโลก โวยรัฐประหารพรากโอกาส ลั่นสานต่อ ‘อาปู’ ดันบางระกำโมเดล

(12 มี.ค. 66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย ณ อาคารเป็ดร่วมใจ วัดวังเป็ด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อมาถึงพิษณุโลกก็อดกล่าวถึงคุณอา (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ไม่ได้ เพราะครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เคยคิดไว้ว่าจะพัฒนา ‘บางระกำ โมเดล’ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม-น้ำแล้งให้พี่น้องประชาชน แต่ถูกรัฐประหารไปก่อน พี่น้องประชาชนจึงถูกพรากโอกาสได้พัฒนาชีวิตไป

“ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง พรรคเพื่อไทยจึงจะนำ ‘บางระกำ โมเดล’ กลับให้พี่น้องชาวพิษณุโลกอีกครั้ง เพื่อคืนชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชนอีกครั้งโดย อย่างแรกคือ การขยายคลอง เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำน่านลงสู่แม่น้ำยม ไม่ให้น้ำค้างอยู่ในที่นาของประชาชนนานเกินไป อย่างที่สองคือการทำแก้มลิงขนาดใหญ่ เพื่อดักน้ำที่ไหลหลากให้พี่น้อง และอย่างที่สามคือ การปรับปรุงอ่างเก็บน้ำชุมชนให้พี่น้องได้มีใช้ในหน้าแล้ง” น.ส.แพทองธาร กล่าว

งานนี้เกือบเจ็บ!! ‘ประเสริฐ’ วืดตกเวทีปราศรัย ต่อหน้าประชาชน 3,000 คน ทีมงานเข้าช่วยเหลือ โชคดีไร้บาดเจ็บ

จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำทีม ครอบครัวเพื่อไทย ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และผู้เกี่ยวข้องเดินทางไปปราศัยที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น

ระหว่างที่มีการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 เขต คือ น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท ว่าที่เขต 1, นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.เพื่อไทยพิษณุโลก, นาย จเด็ศ จันทรา ว่าที่เขต 3 , น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุกกิจเจริญ ว่าที่เขต 4และ นาย ธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ ว่าที่เขต 5 ขึ้นโชว์ตัวบนเวที พร้อมกับคณะโดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล เป็นพิธีกร ซึ่งการกล่าวแนะนำตัวขึ้นเวทีนั้นเกิดการผิดพลาด เมื่อแนะนำตัว นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขึ้นไปหน้าเวที กลับก้าวขาเดินหน้า เหยียบผ้าสีแดง ซึ่งปิดบังไว้ แต่บังเอิญปลิวขึ้นมาเสมือนผืนเวที ทำให้เลขาฯ ก้าวพลาดท่า พลัดตกลงเวทีต่อหน้าประชาชนทั้ง 3,000 คน แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆมากนัก สามารถกลับขึ้นเวทีได้

เพื่อไทยร่วมสาดสี!! ‘เพื่อไทย’ ร่วมเทศกาล ‘โฮลีอินเดีย’ บรรยากาศคึกคัก ยัน!! หากเป็น รบ. พร้อมผลักดัน Soft Power กระตุ้นการท่องเที่ยว

(12 มี.ค. 66) ที่สยามอะเมซิ่งพาร์ค เขตคันนายาว กทม. แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นางนลินี ทวีสิน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พร้อมด้วย ส.ส. ส.ก. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมงาน “โฮลี เฟสติวัล” ครั้งที่ 1 จัดขึ้นโดย สยามอะเมซิ่งพาร์ค ร่วมกับสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย สมาคมวิศวะฮินดูปาริชาดประเทศไทย (VHP)  และภารตะช้อยส์ โดยคณะพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันบูชาองค์พระพิฆเนศ เยี่ยมชมบูธอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า อินเดียน-ไทยต่างๆ ภายในงาน ก่อนรับชมการแสดง แสง สี เสียง สไตล์บอลลีวู้ด และร่วมเล่นกิจกรรมสาดสีกับผู้มาร่วมงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายสมชาย กล่าวถึงการร่วมงานวันนี้ว่า รู้สึกตื่นเต้น เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยสัมผัส จากการพูดคุยกับผู้จัดงาน เห็นว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวไทยได้รู้จักเทศกาลนี้ แล้วก็กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เสมือนการมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ของไทย มองว่างานที่จัดขึ้น นอกจากจะเป็นการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่สวยงามของชาวอินเดียแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน ซึ่งหากพรรคพท.ได้เป็นรัฐบาลก็อยากจะสนับสนุนงานเช่นนี้ เหมือนเป็น soft power รูปแบบหนึ่ง

ความเห็นส่วนตัว ‘จาตุรนต์’ แจงปม ‘ไม่จับมือพลังประชารัฐ’ รับ!! เป็นความเห็นส่วนตัวที่ตรงตามแนวทางพรรค

สืบเนื่องกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการปราศรัยที่บางระกำ พิษณุโลกเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในตอนท้ายระบุว่า ตนพูดยืนยันคำประกาศของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ซึ่งระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐในการตั้งรัฐบาล

ล่าสุด เมื่อวันนี้ (13 มี.ค.66) นายจาตุรนต์ทวีตข้อความว่า จากประเด็นดังกล่าว มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งมีส่วนจริง แต่เป็นไปตามแนวทางของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่เคยกล่าวไว้ก่อนแล้ว ความดังนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top