นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศว่า 8 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศล้มเหลว สร้างวิกฤตการเมือง นำพาแต่หายนะทางเศรษฐกิจ จนประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า พร้อมตั้งคำถาม ‘ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่พลเอกประยุทธ์จะลาออก-ยุบสภาคืนอำนาจให้แก่ประชาชน?’
>> เศรษฐกิจพัง ประชาธิปไตยหาย: ขโมยอำนาจไป แต่บริหารบ้านเมืองไม่เป็น
จากการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารบ้านเมืองด้วยอำนาจจากปลายกระบอกปืน ก่อนจะประกอบร่างสร้างอำนาจตนเองด้วยการออกแบบรัฐธรรมนูญ 2560 จนนำมาสู่การสั่งสมอำนาจ ผ่านสมาชิกวุฒิสภาและองค์กรอิสระได้สำเร็จนั้น สะท้อนได้ว่ารัฐธรรมนูญไทยปัจจุบันนั้นกำลังขัดแย้งกับประชาธิปไตยสากลอย่างชัดเจน
นั่นจึงหมายความว่า ประชาชนคนไทยต้องทุกข์ทนกับวิกฤตการเมืองมาตลอดตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศบ้านเมือง โดยประเสริฐระบุว่า “ในยุครัฐธรรมนูญ 2560 ของพลเอกประยุทธ์ถือเป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองทำสัญญากับประชาชนผ่านนโยบายหาเสียง แต่เมื่อได้อำนาจแล้วกลับไม่ทำตามสัญญา ไม่ว่าจะเป็น สัญญาให้ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท, เด็กจบใหม่ ป.ตรี ขั้นต่ำ 20,000 บาท อาชีวะ ขั้นต่ำ 18,000 บาท หรือ ลดภาษีให้กับบุคคลธรรมดา 10%”
8 ปีที่ผ่านมา การบริหารเศรษฐกิจของประเทศก็มีแต่ตกต่ำและถดถอยลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ขณะที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์มุ่งทำคือ มีแต่ก่อหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหนี้สาธารณะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ยอดหนี้สาธารณะก็ใกล้ชนกับเพดานที่กำหนดไว้ ดังนั้น วิธีแก้ของพลเอกประยุทธ์จึงเป็นการขยายสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีให้สูงขึ้นแทน ซึ่งผลที่ตามมาคือ หนี้ครัวเรือนและหนี้ต่อหัวของประชากรสูงขึ้นตามไปด้วย
โดยเฉพาะสัดส่วนความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน โดยตัวเลขจากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งสูงที่สุดในโลก กล่าวคือคนรวยเพียง 10% ถือครองทรัพย์สินมากถึง 77%
“ตั้งแต่ที่ท่านเข้ามาบริหารประเทศเศรษฐกิจของประเทศก็ทรุดต่ำลงเรื่อยๆ ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนคนรวยสูงขึ้นโดยลำดับ กลุ่มทุนขนาดใหญ่นับวันจะรวยขึ้น แต่ประชาชนระดับฐานรากกลับจนลงทุกวัน เมื่อมาเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้เศรษฐกิจดิ่งเหวลงไปอีก ท่านไม่มีมาตรการหรือวิธีการใด ที่จะกอบกู้ระบบเศรษฐกิจให้กลับคืนมาได้เลย เพราะต้นตอของปัญหาของเรื่องนี้คือ การเอาผู้นำทหารที่ไม่มีความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ประเสริฐกล่าว