Wednesday, 21 May 2025
เพื่อไทย

กล้าพูดได้เต็มปาก! ‘เศรษฐา’ เลี่ยงตอบ “เก่งอย่างไร ให้มองที่ผลงาน” ย้ำ! “ตนเป็นคนตั้งใจ-พยายาม-ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค”

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาเพื่อไทย ได้ตอบคำถาม ว่าถ้าหากคนที่เป็นนายกฯ ได้ตั้งคำถามถึงความเก่งของตน จะตอบว่าอย่างไร โดย นายเศรษฐา ได้ตอบคำถามนี้ว่า ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ให้คนมองดูที่ผลงานของตนแทน 

ตนได้เข้ามาทำบทบาทในฐานะนักการเมืองได้ไม่นาน ยังไม่ได้ทำอะไรมากมายนัก ทำให้ยังไม่มีผลงาน แต่ขอให้จับตามองต่อไปว่าจะมีผลงานอะไรบ้าง

ครอบคลุมทุกมิติ ‘บิ๊กป้อม’ ยินดี ‘เศรษฐา’ นั่งประธานที่ปรึกษา ‘เพื่อไทย’ ชี้! “มีคนเก่งมาช่วยเยอะๆ ย่อมจะเป็นผลดีต่อบ้านเมือง”

‘บิ๊กป้อม’ ยินดี เพื่อไทย ตั้ง ‘เศรษฐา’ กุนซืออิ๊ง ชี้มีคนเก่งเข้ามาช่วยกันเยอะๆ เป็นผลดีต่อประเทศ
เมื่อเวลา 19.15 น. (2 มี.ค.66) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ ผ่านทางโทรศัพท์ถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมีการระบุว่าเศรษฐกิจประเทศไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวว่า

‘พรรคเพื่อไทย’ รวมพลมือฉมัง ตั้ง ‘ทีมเศรษฐกิจ’ ชู ‘หมอพรหมินทร์’ นั่งประธาน ‘เศรษฐา’ ที่ปรึกษา

(3 มี.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นประธาน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นรองประธาน พร้อมผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้แก่ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3 นายกรัฐมนตรี, นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ, นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้า และที่ปรึกษานายกด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศมาร่วมเป็นที่ปรึกษา

ด้าน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนสงครามเศรษฐกิจจีน-สหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ประชาชนไทยทุกข์ยากต่อเนื่องมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงถือเป็นความท้าทายของพรรคการเมืองที่จะนำพาประเทศและประชาชนฝ่าพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้จงได้ พรรคเพื่อไทย จึงได้เชิญบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศในด้านต่างๆ มาให้คำปรึกษา และร่วมเป็นกรรมการ โดยคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคจะเป็นแกนกลางในการระดมความรู้ ความสามารถและความร่วมมือในการกอบกู้เศรษฐกิจของเราต่อไป เราจะบริหารให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น

‘เศรษฐา’ นำทีมหารือ 'สมาคมหอการค้าไทย-จีน' ชี้!! รบ.เพื่อไทย พร้อมหนุนการค้าไทย-จีน ทุกมิติ

(3 มี.ค. 66) ที่อาคารหอการค้าไทย-จีน พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม., นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค และนายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค เข้าพบปะนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานสมาคมไทยจีน และคณะ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจ การค้า

โดยนายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรมีมาตรการด้านเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ และมาตรการแก้ไขเรื่องแรงงานดึงคนไทยกลับเข้าสู่ตลาดแรงงาน รวมถึงมีมาตรการส่งเสริมธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี มาตรการควบคุมราคาสินค้าเพื่อดูแลค่าครองชีพ อีกทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นงานแรกที่ตนมาในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ครั้งนี้ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน มีความผูกพันในเชิงพาณิชย์ เรามีการนำเข้าส่งออกเยอะมาก คนไทยส่วนมากก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าจีนมีความผูกพันเป็นคู่ค้าไทยมาอย่างนาน อีกไม่นานก็จะถึงการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ซึ่งพรรค เพื่อไทยเป็นสถาบันที่ผูกพันกับสมาคมนี้มาอย่างนาน นโยบายที่ออกมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทยโดนใจประชาชนมาตลอด ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศสูงสุด

เจ๊งไม่ต่างกัน!! 'จตุพร' ซัด 'เศรษฐา' พา 'ปู' เจ๊งไม่เป็นท่า เชื่อ 'อิ๊งค์' ก็คงไม่ต่าง พร้อมเตือน!! เปิดตัวแล้ว ก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบเข้มข้น

(3 มี.ค.66) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "เปิดตัวจริงหรือ?" โดยกล่าวถึงการเปิดตัวของนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่แบ่งรับแบ่งสู้กับงานการเมืองในอนาคตจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยหรือไม่ พร้อมตำหนิไม่กล้าแสดงภาวะผู้นำตอบโต้ข้อกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีของนายเศรษฐา เปิดตัวก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบเข้มข้น ซึ่งไม่ยกเว้นกระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จาก พลังประชารัฐ (พปชร.) นายอนุทิน ชาญวีระกูล จากภูมิใจไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จากรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ต้องตรวจสอบภาวะผู้นำที่จะนำพาความหวังประชาชนเช่นกัน และความเป็นผู้นำต้องอดทนในการชี้แจง

อย่างไรก็ตาม เมื่อนายเศรษฐา เปิดตัว ถูก พล.อ.ประยุทธ์ วิจารณ์หนักในด้านความเก่ง ทำอะไรมา กลับไม่ตอบให้ตรงและชัดเจนเพื่อแสดงถึงภาวะผู้นำ แต่ไปยกย่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีวุฒิภาวะที่เหนือกว่า แล้วหลีกเลี่ยงข้อครหาอันเป็นสาระสำคัญที่ว่า เศรษฐกิจประเทศไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง

สิ่งน่าสนใจ นายจตุพร เห็นว่า เมื่อนายเศรษฐา ถูกคาดหมายจะมาเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องตอบข้อครหาเชิงกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาแสดงมารยาททางสังคมต้องเชื่อฟังคนแก่กว่า ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับความคาดหวังในภาวะผู้นำของประเทศเช่นนี้

"นายเศรษฐา ไม่ได้เป็นคนใหม่เลย สมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แม้ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่ปรึกษาที่ไม่เป็นทางการคนหนึ่งในจำนวนสามคน รวมถึงทักษิณและ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย จนนำไปสู่การล่มสลายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่สำคัญตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ และ รมต.สาธารณสุข ก็เป็นคนของนายเศรษฐา ซึ่งทั้งสองจุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพินาศย่อยยับของรัฐบาลยิ่งลักษณ์”

ผิดที่ไว้ใจ!! ‘รัตนพันธ์’ แฉพฤติกรรม 'SC-หญิงอ้อ-ลูกเขย' แค่ผู้ดีลวงโลก พร้อมฝากถึง 'อุ๊งอิ๊ง' อย่าอาสาดูแลชาติ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังดูแลไม่ได้

ครอบครัว ‘รัตนพันธ์’ ร้องสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูก บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ASSET  โดยคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้เป็นลูกเขย หลอกลวง ฉ้อฉล โดยหลอกเอาเปรียบว่าจะช่วยเหลือ มอบเงินให้ 20 ล้าน สุดท้ายเป็นหลุมพราง กลายเป็นสัญญาเงินกู้ ที่หลอกให้เด็กแค่ 23 ปี เซ็น ด้วยคำพูดที่หวาน อ่อนโยน เห็นอกเห็นใจ และท่าทีที่ดูเป็นมิตร น่าเชื่อถือ กับคำพูดที่ว่า “คนไทยด้วยกัน” จึงทำให้ ทางครอบครัว 'รัตนพันธ์' หลงเชื่ออย่างสนิทใจ 

ซึ่งต่อมาก็ต้องประสบเคราะห์กรรม มีทั้งการสูญเสียบ้านและที่ดินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ตามบันทึกข้อตกลงที่ SC ASSET ทำร่วมกับ ดร.ศรายุทธ ฉบับลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 โดยหลังจากเสียบ้านและที่ดินไป ครอบครัวรัตนพันธ์ก็บ้านแตกสาแหรกขาด ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันหาที่เช่าอยู่ ขาดรายได้ และไม่มีแม้กระทั่งเงินจะส่งลูกชายเรียนต่อระดับชั้นมหาวิทยาลัย ครอบครัวได้ติดตามให้ SC ASSET รับผิดชอบโดยการชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด จากการทำหนังสือลงทะเบียนตอบรับเป็นทางการ ถึงผู้บริหารและผู้ถือหุ้นกว่า 100 ฉบับ แต่ SC ASSET เลือกให้ผู้บริหารฝ่ายกฎหมายมาเจรจา โดยไม่แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจังต่อครอบครัว น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง

ด้านนางสาวฐานิตา รัตนพันธ์, ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ และ นายลัดฟ้า รัตนพันธ์ จึงต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากสังคม ผ่านสื่อมวลชน โดยหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือ 

ซึ่งประเด็นสำคัญ คือ ซีอีโอ SC ASSET หรือ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ เป็นผู้รับปากในที่ประชุม เองว่าไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเองจนจบ ครอบครัวก็โล่งใจเพราะปัญหาได้คลี่คลาย แต่ปรากฏว่าภายหลังออกจากห้องประชุม เนื้อความในสัญญาที่ SC ASSET ทำขึ้นกลับไม่ตรงกับสิ่งที่ตกลงร่วมกันในที่ประชุมหลายข้อ และเมื่อติดต่อให้แก้ไข ทางนายอรรถพล ยืนยันว่าแก้ไขไม่ได้ แต่อ้างกับเราว่านี่คือวิธีการที่ดีที่สุดในแก้ปัญหา เพราะต้องทำตามแบบบริษัทมหาชน แต่จะยึดตามเจตนารมณ์ที่คุยร่วมกันในที่ประชุม และต้องเซ็นในบันทึกที่ SC ASSET ทำขึ้นเท่านั้น และด้วยความรู้ไม่เท่าทัน รวมถึงครอบครัวรัตนพันธ์ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากการเซ็นเพื่อให้ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดตามตกลง เราเลยลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวไป

รับฟังทุกข์อย่างใกล้ชิด ‘อ๋อม สกาวใจ’ โผล่ ‘เพื่อไทย กทม.’ ลุยบางคอแหลม ลั่น!! พร้อมดันคนรายได้น้อย ให้ลืมตาอ้าปาก

‘เพื่อไทย กทม.’ ลงพื้นที่บางคอแหลม ‘อ๋อม สกาวใจ’ โผล่ร่วมด้วย รับเรื่องร้องทุกข์ปัญหาศก. ‘พวงเพ็ชร’ ลั่นเตรียมพา ‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่


เมื่อเวลา 16.00 น. (3 มี.ค.66) ที่เขตบางคอแหลม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล

นายประภัสร์ จงสงวน นายอุเมส ปานเดย์ แกนนำภาค กทม. นายพชร ธรรมมล หรือฟลุ๊ก เดอะสตาร์ นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัครเขตบางพระโขนงพร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตสะพานสูง และ น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร เขตบางคอแหลม-ยานนาวา ลงพื้นที่ชมพื้นที่ผลิตสินค้าแบรนด์แก้วกัลยาเดโคพาทซึ่งเป็นโอทอปขึ้นชื่อ

จากนั้น คณะได้ขึ้นรถสองเเถวเพื่อมาเดินรับฟังปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าตลาดชุมชนสุดประเสริฐ โดยตัวแทนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดชุมชนสุดประเสริฐได้มายื่นหนังสือถึงพรรค พท. เพื่อเสนอให้มีนโยบายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า ต้นทุนการผลิต และกำลังการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน

ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เราเห็นพรรค พท. ได้คนที่มีความสามารถด้านเศรษฐกิจอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พวกตนก็รู้สึกดีใจ เพราะนายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจ ซึ่งจะเข้าใจพ่อค้าแม่ค้าว่าทำมาค้าขายอย่างไร ก็ขอให้นึกถึงพ่อค้าแม่ค้ารายเล็กรายน้อยด้วย

แคลงใจภาวะผู้นำ!! 'จตุพร' ตอก 'เศรษฐา' หลังเลี่ยงตอบคำถาม 'ประยุทธ์' สังคมไม่คาดหวังกับผู้นำ ที่แสดงความเชื่อฟังคนแก่กว่าในมิตินี้

(3 มี.ค.66) ‘นายจตุพร พรหมพันธุ์’ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ ได้เข้าร่วมเป็นที่ประธานปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า...

 

"บทบาทครั้งนี้ของคุณเศรษฐา ไม่ได้มีผลกับทางการเมืองมาก เพราะเรายังไม่เห็นอะไรชัดเจนจากตัวของ นายเศรษฐากันเท่าไร"

 

นายจตุพร ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่ พลเอกประยุทธ์ ได้เอ่ยปากถามถึงนายเศรษฐาด้วยว่า “แล้วเขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ” ตรงนี้นายเศรษฐานั้น เลี่ยงที่จะตอบถึงเรื่องนี้ ซึ่งอันที่จริงเขาควรจะตอบเพื่อแสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่ใช่เลี่ยงตอบคำถามเช่นนี้

 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า เมื่อนายเศรษฐา ถูกคาดหมายจะมาเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องตอบข้อครหาเชิงกล่าวหาของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่มาแสดงมารยาททางสังคมต้องเชื่อฟังคนแก่กว่า ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรกับความคาดหวังในภาวะผู้นำของประเทศเช่นนี้

 

 

 

ปักธงแลนด์สไลด์!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ บุกเมืองย่าโม อ้อนคนโคราช ขอชนะทั้ง 16 เขต ลั่น!! พร้อมนำโอกาส-อนาคตประเทศกลับคืนมา

(4 มี.ค. 66) ที่อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมือง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายของน.ส.แพทองธาร และแกนนำพรรค พท. อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต โดยมีประชาชนร่วมเวทีปราศรัยจนเต็มพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า เรามีความตั้งใจยกทัพใหญ่มาโคราช ซึ่งโคราชเป็นเมืองที่มีโอกาสมากที่สุดในประเทศ เพราะมี ส.ส.มาถึง 16 เขตเลือกตั้ง ฉะนั้น ต้องปักธงแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น เริ่มต้นจากปักธงชัย ปักธงมั่งคงที่ อำเภอคง และปักธงให้ยกจังหวัดที่เมืองย่าโม เสียงสะท้อนประชาชนทุกเวที เมื่อพูดถึงว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ทุกเสียงบอกว่า น.ส.แพทองธาร โคราชเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น ถ้าเราไม่คิดใหญ่พอ โอกาสของทุกคนที่สูญเสียไป 8 ปีจะสูญหาย เพื่อเอาโอกาสอนาคตประเทศกลับคืนมา ขอสัญญาใจพี่น้องชาวโคราชว่า จะคิดใหญ่ได้ต้องชนะทั้ง 16 เขต ถล่มทลายยกโคราช อย่างน้อยต้องได้ 250 ที่นั่งขึ้นไป

นพ.ชลน่าน ปราศรัยต่อว่า เมื่อเดือนที่แล้วโพลที่ทำโดยหน่วยงานลับออกมาบอกว่า เพื่อไทยทั่วประเทศ จะได้ 270 ที่นั่ง ดังนั้น หากต้องการเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องกาเพื่อไทยทั้งสองใบทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป ถ้าเราไม่ได้ 250 เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตั้งแต่นโยบายที่ทำได้ คือเพื่อไทย ซึ่งเป็นประชาธิปไตยกินได้และเราทำเป็น จากผลสำรวจโพลทุกสำนักเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง เราไม่มีพลังใหม่ ไม่มีพลังเก่า แต่เอาทุกมาผสมผสานเพื่อทำหน้าที่ให้ประชาชน

ต่อมา นายประเสริฐ ปราศรัยว่า ตนเป็นคนโคราชตัวจริงเสียงจริง ไม่เหมือนนักการเมืองบางคน บอกว่าเป็นคนโคราช แต่ไม่มีบ้านอยู่โคราช แอบใช้บ้านหลวงใช้ไฟฟรี ซึ่งโคราชเป็นเมืองหญิงกล้า และวันนี้นางสาวแพทองธาร เป็นอีกหนึ่งหญิงกล้า ที่เปรียบเป็นนารีขี่ม้าขาวมาอาสาทำงานกอบกู้วิกฤติประเทศ วันนี้ถึงเวลาของสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของโคราชแล้ว 8 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรดีขึ้นเลย บอกว่าจะปฏิรูปหลายอย่าง เอา ส.ว.ที่ตัวเองแต่งตั้งเลือกนายกฯ อย่างหน้าด้าน คนไทยตัวเล็กลงแต่ระบบราชการใหญ่ขึ้น จาก 8 ปีที่ผ่านมา โดย 4 ปี แรกไปพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อสืบทอดอำนาจ และไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็สืบทอดอำนาจ ถ้าเลือกอีก 4 ปี ก็เลือกเผด็จการ และ 8 ปีที่ผ่านมาโคราชไม่ได้อะไรเลย

“ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลราคาสินค้าเกษตร ทั้งอ้อย ข้าว ข้าวโพด จะราคาสูงขึ้น ราคาปุ๋ยลดลง รวมทั้งจะฟื้นฟูโครงการสินค้าโอทอปที่เกิดในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดังนั้นเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ถ้าไม่แลนด์สไลด์ คนที่เราไม่อยากให้เป็นนายกฯจะกลับคืนมา” นายประเสริฐ กล่าว

ลุยถิ่นย่าโม!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ อุ้มท้อง 7 เดือน นำ ‘เพื่อไทย’ สักการะย่าโม ลั่น! การบริหารประเทศ ต้องใช้องค์ความรู้หลายด้าน

"อุ๊งอิ๊ง" นำทีมสักการะย่าโม ชักดาบประกาศ ชัยชนะแลนด์สไลด์ยกโคราช ป้อง"เศรษฐา" ไม่ได้ประกาศต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น วางคิวหาเสียงถึงสิ้นมีนา เตรียมคลอด

(4 มี.ค.66) เวลา 13.30 น. ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรค พท. อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค รวมทั้งว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้ง 16 เขต เข้าสักการะย่าโมเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้ทำพิธีชักดาบเพื่อประกาศชัยชนะ และห่มสไบให้กับย่าโม เพื่อให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ทั้งจังหวัดซึ่งมีประชาชนมารอต้อนรับและให้กำลังใจจำนวนมาก 

จากนั้นน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราหวังว่าที่โคราชจะต้องแลนด์สไลด์ ส่วนคำอธิฐานนั้นตนขอไว้ในใจแล้ว 

เมื่อถามว่าวันนี้พกความมั่นใจมาให้ชาวโคราชอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เรามาเสนอนโยบายให้คนโคราชฟังว่า เมื่อเลือกพรรคเพื่อไทยคนโคราชจะได้อะไรบ้าง เราจะทำอะไรให้คนโคราชบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วในการปราศรัยทุกพื้นที่เราจะมีนโยบายในแต่ละพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาไม่เหมือนกัน วันนี้เราได้เสนอเรื่องของที่ดินทำกิน น้ำท่วม และการเกษตร

เมื่อถามว่าการที่ได้ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจ เข้ามาร่วมงานด้านเศรษฐกิจ จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจให้กับชาวโคราชได้อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าจากการที่พรรคเพื่อไทยได้เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ และรวมถึง นายเศรษฐาด้วย ก็รู้สึกมีกำลังใจว่าเราได้คนที่มีความสามารถจริง ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ มาช่วยเหลือประชาชนได้ เป็นความหวังที่ทีมเศรษฐกิจเราแข็งแรง มีแต่คนเก่งๆ และหลายคนตอนที่ตนอยู่ในธุรกิจโรงแรม ตนก็ได้มีการขอคำปรึกษาอยู่บ่อยครั้ง 

ต้องขอถามว่า นายเศรษฐา คือหนึ่งในคนที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนคิดว่าเหมาะสมแน่นอน เพราะท่านเป็นคนเก่ง มีความสามารถ และอิงค์คิดว่าจากการที่ท่านบริหารธุรกิจประสบความสำเร็จมาก ไม่ใช่ใคร ๆ ก็ทำได้ ส่วนการจะประกาศชื่ออย่างเป็นทางการก็ต้องรอกรรมการบริหารพรรค 

เมื่อถามอีกว่า นายเศรษฐา ชัดเจนว่าตำแหน่งที่ต้องการคือนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนคิดว่า นายเศรษฐาต้องการจะพูดว่า ต้องการจะขับเคลื่อนนโยบาย เพราะก่อนที่จะมีการเปิดตัว เป็นทีมเศรษฐกิจท่านก็เข้ามาช่วยงานด้านนโยบายอยู่แล้ว ซึ่งท่านก็พูดว่าตำแหน่งนายกฯ จะเป็นตำแหน่งที่ผลักดันนโยบายได้มากที่สุด และก่อนหน้านี้ นายเศรษฐาก็ไม่ได้สนใจจะเป็นนักการเมือง ท่านคงพูดในภาพรวมว่า ถ้าจะเป็นจริง ๆ นายกฯ จะสามารถผลักดันนโยบายได้แต่ตำแหน่งอื่น ๆ ท่านไม่ได้มีความรู้และความสนใจ 

เมื่อถามต่อว่าท่าทีของ นายเศรษฐา จะเป็นการกดดันพรรคเพื่อไทยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่เลย ท่านก็พูดเองว่าหากไม่เสนอท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านก็ทำเรื่องนโยบายอย่างนี้ นายเศรษฐา ไม่ได้พูดว่า ต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น ไม่งั้นไม่ช่วย ไม่ใช่เลย นายเศรษฐา ช่วยมาตลอด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top