รับฟังทุกข์อย่างใกล้ชิด ‘อ๋อม สกาวใจ’ โผล่ ‘เพื่อไทย กทม.’ ลุยบางคอแหลม ลั่น!! พร้อมดันคนรายได้น้อย ให้ลืมตาอ้าปาก

‘เพื่อไทย กทม.’ ลงพื้นที่บางคอแหลม ‘อ๋อม สกาวใจ’ โผล่ร่วมด้วย รับเรื่องร้องทุกข์ปัญหาศก. ‘พวงเพ็ชร’ ลั่นเตรียมพา ‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่


เมื่อเวลา 16.00 น. (3 มี.ค.66) ที่เขตบางคอแหลม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายวราวุธ ยันต์เจริญ รองประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล

นายประภัสร์ จงสงวน นายอุเมส ปานเดย์ แกนนำภาค กทม. นายพชร ธรรมมล หรือฟลุ๊ก เดอะสตาร์ นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ว่าที่ผู้สมัครเขตบางพระโขนงพร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตสะพานสูง และ น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร เขตบางคอแหลม-ยานนาวา ลงพื้นที่ชมพื้นที่ผลิตสินค้าแบรนด์แก้วกัลยาเดโคพาทซึ่งเป็นโอทอปขึ้นชื่อ

จากนั้น คณะได้ขึ้นรถสองเเถวเพื่อมาเดินรับฟังปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าตลาดชุมชนสุดประเสริฐ โดยตัวแทนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดชุมชนสุดประเสริฐได้มายื่นหนังสือถึงพรรค พท. เพื่อเสนอให้มีนโยบายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้า ต้นทุนการผลิต และกำลังการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน

ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เราเห็นพรรค พท. ได้คนที่มีความสามารถด้านเศรษฐกิจอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาเป็นประธานที่ปรึกษาของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พวกตนก็รู้สึกดีใจ เพราะนายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจ ซึ่งจะเข้าใจพ่อค้าแม่ค้าว่าทำมาค้าขายอย่างไร ก็ขอให้นึกถึงพ่อค้าแม่ค้ารายเล็กรายน้อยด้วย

ด้าน น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจในชุมชนเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการผลักดัน เนื่องจากผู้ที่อาศัยในชุมชนมีรายได้น้อย เงินทุนไม่มาก และปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดในชุมชนเยอะ หากมีการสนับสนุนในเรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับชาวบ้าน จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น ลืมตาอ้าปากได้ และเยาวชนสามารถใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ จึงอยากจะเป็นอีกหนึ่งเสียงในการผลักดัน ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ชุมชน เพื่อกระจายรายได้สู่ทุกครัวเรือนต่อไป
.
ขณะที่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านในชุมชนมีศักยภาพที่ซ้อนเร้นในตัวเอง หากพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาล จะผลักดันส่งเสริมให้แต่ละครอบครัวมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกได้ 1 ครอบครัวต่อ 1 ศักยภาพเพื่อเป็นการต่อยอดโครงการโอทอป นโยบายไทยรักไทยเดิม ให้ออกไปสู่ตลาดโลก เปลี่ยนจุดแข็งเป็นจุดขาย สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสร้างงาน20ล้านตำแหน่ง ให้มีรายได้ 200,000 บาท/ปี ต่อหนึ่งครอบครัว
.
เมื่อถามว่า หลังจากเปิดตัวนายเศรษฐาเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัว พท. แต่นายเศรษฐาระบุว่าไม่ถนัดในการลงพื้นที่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า สำหรับนายเศรษฐามีความพร้อมในการลงพื้นที่แน่นอน และเราจะจัดตารางในการลงพื้นที่พบปะประชาชนพร้อมกันในโอกาสต่อไป
.
หลังจากรับฟังปัญหาเสร็จแล้ว แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นรถแห่จากตลาดไปมัสยิดบางอุทิศเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้นำศาสนา โดยระหว่างทางมีแฟนคลับโบกมือทักทายทางคณะด้วย


ที่มา : https://www.matichon.co.th/politics/news_3854930