ตะเพิด ‘ชิดชอบ’ ‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทัพเหยียบถิ่น ‘เนวิน’ พร้อมชูนโยบาย ‘3 ป.’   ฟากลูกพรรคห้าวจัด ประกาศไล่ ‘ตระกูลชิดชอบ’ พ้นเขากระโดง

‘อุ๊งอิ๊ง’ นำทีมเพื่อไทยบุกถิ่นบุรีรัมย์ ชู นโยบาย ‘3 ป.’ ปราบยาเสพติด-กัญชาเสรี ด้าน ‘ชลน่าน’ พ้อ โดนขวางปราศรัยสถานที่ราชการ ฟาก ‘อดิศร’ ไล่ตะเพิดตระกูลชิดชอบพ้นเขากระโดง

(5 มี.ค. 66) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย (พท.) เขต 10 อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์​ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย พร้อมด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค, นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค,  นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี, นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาร่วมรับฟังปราศรัยจนล้นพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า เรายกทัพใหญ่มาพบพี่น้อง พร้อมฝากผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 เขต ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ วันนี้มีคนมาฟังปราศรัยหนาแน่นคับคั่งเป็นหมื่นคน แม้สถานที่ถูกจำกัดคับแคบก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้ทำหนังสือใช้สถานที่ราชการที่มีพื้นที่กว้างขวางแต่ไม่มีใครอนุญาตจึงต้องมาใช้สถานที่ตรงนี้ ดังนั้นขอขยายพี่น้องออกไปจาก 1 หมื่นคน เป็น 1 แสนคน และขยายออกไปทั้ง 10 เขต ให้พรรค พท. ได้หรือไม่

นพ.ชลน่าน ปราศรัยต่อว่า ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ถูกครอบงำมานาน ย้ำว่าถ้าไม่ได้แลนด์สไลด์ 250 ที่นั่งขึ้นไปเราไม่สามารถเปลี่ยนบุรีรัมย์ได้ และต้องปิดสวิตช์ ส.ว. เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมออกไป ส่วนนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ให้เงิน 700 บาท 1,000 บาท หรือ 3,000  บาท ใครก็พูดได้ แต่เรายืนยันว่านโยบายทำได้จริง และทำเป็น อีกทั้งประกาศว่าถ้าพรรค พท. เข้ามา ปัญหายาเสพติดจะต้องหมดไป

ด้านนายอดิศร ปราศรัยประกาศไล่ตระกูลชิดชอบออกจากเขากระโดง และให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมนายเนวิน ชิดชอบ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ​และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ได้แล้ว หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีให้นอมินีถือหุ้นแทน รวมทั้งขอให้เอากัญชาออกไปจากพื้นที่ เพราะคนขอนแก่นคนอุดรธานี ไม่เลือกพรรคกัญชาอยู่แล้ว คนบุรีรัมย์ยังจะเลือกอยู่หรือไม่ และขอให้ จ.บุรีรัมย์ อย่าเป็นขี้ปากของใคร

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า ไหนใครบอกว่ามาบุรีรัมย์คนจะน้อย ตนเองไม่ได้คาดอะไร แต่วันนี้คนมาจนล้นขอบเวที ตนเองดีใจที่พี่น้องบุรีรัมย์มาต้อนรับแน่น รู้สึกใจชื้นจริง ๆ ตอนนี้ตนเองมีลูกและกำลังท้องอยู่ ไม่อยากให้ลูกโตขึ้นมาในประเทศที่มองไปทางไหนก็มีแค่ยาเสพติด แถมยังมีกัญชาเสรีมาอีก

“จึงไม่อยากให้กัญชาหาง่าย มองไปทางไหนก็เจอแต่กัญชา เราต้องปราบปรามด้วยการใช้ 3 ป. คือ ‘ป. 1’ ปราบยาเสพติด ใครที่ผลิตหรือขาย เจอเมื่อไรจับเมื่อนั้น ‘ป. 2’ เปิดการคุยเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน และคุยการค้าเสรี เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋า และ ‘ป. 3’ เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย รักษาให้หาย กลับมาเป็นลูกหลานของเราได้เหมือนเดิม คนบุรีรัมย์กล้าเลือกพรรค พท. หรือไม่ กล้าเปลี่ยนแปลงอนาคตตัวเองหรือไม่ ฝากเลือกพรรค พท. ทั้งจังหวัด” น.ส.แพทองธาร ระบุ

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า มาวันนี้ไม่รุกรานเปิดศึกกับใคร ซึ่งพรรค พท. เคยเป็นเจ้าของพื้นที่นี้มาก่อน เรารับพี่น้องกลับบ้านหลังใหญ่หัวใจดวงเดิม บางคนบอกอยู่ที่นี่เกรงใจครูใหญ่ เพราะบางพรรคการเมืองเขามีครูใหญ่อยู่ ก็ขอบอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะพรรคเรามี ผอ. และครูใหญ่ ต่อไปก็ต้องเป็นอาจารย์ใหญ่ เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ผ่าดู ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ตัดหน้ามาโดยตลอด จะไปจังหวัดไหน พล.อ.ประวิตร ก็ต้องไปก่อน แต่พล.อ.ประยุทธ์ มาแก้แค้นพรรคเรา รู้ว่าอีก 2-3 เดือน น.ส.แพทองธาร ต้องคลอดและนอนรพ. แต่พล.อ.ประยุทธ์ ตัดหน้าไปนอนรพ.ก่อน อย่างไรก็ตาม ในอดีตลูกหลานถือแท็บเล็ตไป รร. เดี๋ยวนี้เด็กนักเรียนถือบ้องกัญชาไป รร. ที่ผ่านเด็กนักเรียนตั้งวงกินเหล้าใน รร. แต่วันนี้เด็กวัย 12 นั่งยำกัญชาออกโซเชียลลงติ๊กต๊อก


ที่มา : https://www.thaipost.net/vote-news-2566/335985/