Thursday, 23 January 2025
POLITICS NEWS

“สงคราม”อัด“บิ๊กตู่”บริหารแบบโง่ๆไม่มีทางแก้วิกฤตได้ ชี้ ไร้ปัญญาแก้โควิดทำประชาชนติดเชื้อใกล้แตะหลักล้านเสียชีวิตหลักหมื่น

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้อำนาจทุกอย่าง ใช้กฎหมายทุกมาตราอย่างเข้มข้น โดยหวังจะการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19  แต่สุดท้ายไร้ผล เพราะยิ่งแก้ยิ่งเพิ่มจนล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยใกล้แตะ 1 ล้านคนแล้วในขณะที่ผู้เสียชีวิตเกิน 7 พันคน 

ชัดเจนว่ารัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ที่แบบโง่ๆ เพราะแม้ประชาชนอยู่บ้าน ก็ไม่สามารถหยุดเชื้อได้ ในทางกลับกัน บ้านหรือชุมชนหลายแห่งกลับเป็นแหล่งระบาดที่สำคัญที่สุด เพราะหลายชุมชนพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการรักษา ประชาชนยังคงติดเชื้อจนเสียชีวิตคาที่พักอีกหลาย 10 คนต่อวัน   ดังนั้นรัฐบาลควรที่จะหามาตรการในการรักษาเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าการขังเชื้อในชุมชน

นายสงครามกล่าวด้วยว่า รัฐบาลควรเร่งมาตรการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางอย่างได้บ้าง ก่อนที่เศรษฐกิจจะเสียหายมากไปกว่านี้ เพราะจากมาตรการล็อคดาวน์ที่ออกมาส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศ  ได้รับผลกระทบทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2.7 แสนล้านบาท กว่า 100,000 ร้านค้า เตรียมปิดกิจการ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานกว่าล้านคน

“แทนที่รัฐบาลจะเร่งฉีดวัคซีน กลับทำงานช้ารวมทั้งมีขั้นตอนมากมายกว่าที่ประชาชนจะได้รับวัคซีน จนถึงวันนี้พบว่า มีจำนวนประชาชนได้รับวัคซีนเพียง 23,476,869 ราย จากประชากรทั้งประเทศ ทั้งๆที่รัฐบาลบอกว่าประเทศไทยมีวัคซีนพร้อมฉีดให้ประชาชน แต่กลับไร้ความสามารถที่จะเร่งกระจายวัคซีน วิธีเดียวที่จะลดจำนวนผู้ป่วยหนักเข้านอนในรพ.และลดจำนวนคนเสียชีวิต คือการฉีดวัคซีน และต้องเร่งฉีดให้เร็วที่สุด ไม่ใช่รอถึงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ถึงเวลานั้นจำนวนผู้ติดเชื้อคงเกินล้านคนและเสียชีวิตเกิน 10,000 คนแน่ ยิ่งพลเอกประยุทธ์ยังคงใช้วิธีการบริหารแบบโง่ๆไม่มีทางแก้โควิดได้อย่างแน่นอน”นายสงครามกล่าว

กลุ่มทะลุฟ้านัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 15.00 น. พร้อมประกาศเดินไปบ้านประยุทธ์ ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน เข้าซอยพหลโยธิน 2 ทะลุวิภาวดี

กลุ่มทะลุฟ้า ได้ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 16 ส.ค. 64 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท ในเวลา 15.00 น. และจะทำกิจกรรมเดินคล้องแขนไปบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กรมทหารราบที่ 1

กลุ่มทะลุฟ้าได้ประกาศเส้นทางการเคลื่อนขบวนโดยใช้ ถนนพหลโยธิน จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยพหลโยธิน 2 และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนวิภาวดีไปยังหน้ากรมทหารราบที่ 1 โดยยืนยันว่าแนวทางของกลุ่มไม่เน้นการปะทะกับเจ้าหน้าที่

กลุ่มทะลุฟ้าอ้างว่า "เปลี่ยนเส้นทางเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงได้ขอเจรจากับทีมทะลุฟ้าไว้ว่าถ้าหากไปทางไปเส้นทางนี้ ตำรวจจะให้เราผ่านไปถึงหน้าบ้านประยุทธ์"


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ชวน" ยัน ถกงบ 65 แค่ 3 วัน เลิกเที่ยงคืน บอกแจ้ง ศบค. แล้ว เผย เปิดศึกซักฟอก ปลายส.ค.- ต้น ก.ย.

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วาระที่ 2-3 ว่า ได้มีการตกลงกันว่าจะพิจารณา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-20 ส.ค. โดยจะพิจารณาจนถึงเวลา 24.00 น. ของแต่ละวัน เพื่อให้การประชุมงบประมาณเสร็จภายในเวลาที่กำหนด 3 วัน หากให้เลิกประชุมก่อน 24.00 น.ในแต่ละวัน การพิจารณางบประมาณฯ ก็จะยืดเวลาออกไป ซึ่งไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แม้การประชุมจะเลยเวลา 21.00 น. ที่เป็นช่วงเคอร์ฟิว แต่ได้ประสานขออนุญาตเรื่องการเดินทางจาก ศบค. ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ให้ ส.ส.ที่จะมาร่วมประชุมนั้น จะไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความประสงค์แต่ละคน

นายชวน กล่าวต่อว่า สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีนั้น หลังจากที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว สภาฯ จะใช้เวลาตรวจสอบความถูกต้องของญัตติ 7 วัน ถ้าไม่มีความผิดพลาดจะบรรจุเป็นญัตติด่วน แล้วเรียกฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาหารือกัน เพื่อกำหนดวันเวลาที่เหมาะสมร่วมกัน โดยคาดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอยู่ในช่วงปลายเดือนส.ค. หรือต้นเดือน ก.ย.

“ธนกร”ซัด “จาตุรนต์” เปิดตาจนท.ถูกทำร้าย ย้อน เหตุรุนแรงจงใจทำให้เกิดโดยจนท.รัฐ ลั่นรัฐใช้กม.เป็นธรรม ชี้ คนทำร้ายจนท.-ทำลายทรัพย์สินราชการ-บิดเบือนข้อมูล ทำแตกแยกต้องได้รับโทษ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.ศึกษาธิการ เตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมว่า เลิกคิดรักษาอำนาจด้วยการอ้างความวุ่นวายที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก่อ และหยุดใช้ความรุนแรงต่อประชาชนว่า นายจาตุรนต์ ไปอยู่ที่ไหนมา หรือว่าพยายามจะปิดหูปิดตา ถึงไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไปกี่นายแล้ว และถ้าหากนายจาตุรนต์คิดว่าเจ้าหน้าที่ก่อเหตุทำร้ายตัวเองนั้น ความคิดเช่นนี้ยุติธรรมดีแล้วหรือ กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องออกมารักษาความสงบของบ้านเมือง ทั้งที่ช่วงนี้กำลังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ต้องมาทำหน้าที่เพราะฝีมือของคนบางกลุ่ม

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ระบุว่า ประเทศกำลังจมดิ่งสู่ห้วงแห่งหายนะ ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วไปหมด เพราะความล้มเหลวในการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จะอาศัยตรรกะเหตุผลว่า จำเป็นต้องบริหารประเทศต่อไปเพื่อไม่ให้บ้านเมืองวุ่นวาย คงจะไม่มีใครเชื่อฟังอีกต่อไปแล้วนั้น นายจาตุรนต์นอกจากจะต้องเปิดใจให้กว้างแล้ว ยังต้องเปิดหูเปิดตาให้กว้างตามไปด้วย ที่ประเทศและประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่วไม่ใช่เพราะการบริหารประเทศ แต่เป็นเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์ต่างระดมสรรพกำลังช่วยกันแก้ปัญหาจนสำเร็จและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาแล้ว และสถานการณ์แบบนี้ก็เป็นไปทั่วโลก ทุกประเทศประกาศมาตรการงดออกจากบ้านเพื่อหยุดเชื้อ ประชาชนต่างให้ความร่วมมืออย่างดี รวมถึงพี่น้องคนไทยด้วย จะมีก็เพียงคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่สนความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ ยังคงจัดกิจกรรมรวมกลุ่มอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนว่าบุคลากรทางการแพทย์จะต้องเหนื่อยยากลำยากเพิ่มมากขึ้นอีกขนาดไหนเท่านั้น

“การบอกว่าความรุนแรงวุ่นวายส่วนใหญ่เกิดจากการจงใจทำให้เกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่รัฐเองนั้น ไม่อยากคิดว่าคนที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีจะคิดแบบนี้ได้ หรือว่าคิดจากมาตรฐานของตัวเองในสมัยที่เป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ ยืนยันว่าท่านนายกฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนสากลทุกอย่าง ส่วนการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมนั้นนายจาตุรนต์ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคนที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำลายทรัพย์สินราชการ พยายามบิดเบือนข้อมูลต่างๆ เพื่อสร้างความแตกแยกต้องได้รับการลงโทษอย่างแน่นอน”นายธนกร กล่าว
 

เตือนในฐานะหมอด้วยกัน “ชลน่าน” เตือน อภ.-อย.อย่ายื้อซื้อชุดตรวจเอทีเค ระวังโดน ม.157

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องตัดสินใจด่วนเลยว่าจะเลิกหรือจะซื้อ ATK ต้องรีบด่วน ช้าไปเสียหายใหญ่หลวง ควบคุมโรคโควิดไม่ได้ ติดเชื้อ ป่วย ตาย เพิ่มขึ้นมหาศาล บุคลากรแพทย์สาธารณสุขรับภาระไม่ไหว ระบบสาธารณสุขล้มเหลว สังคมแตกสลาย พ่อ-แม่ ตาย ลูกถูกพรากเป็นกำพร้า เด็กๆ ไม่ได้เรียนหรือเรียนออนไลน์อย่างไร้คุณภาพ เศรษฐกิจพังทลาย เสียหาย 4 แสนล้านต่อเดือน อ้างประหยัด 400 ล้าน คุ้มหรือ รอพบความผิดปกติทำไม ไม่เฉพาะอเมริกา ประเทศฟิลิปปินส์ข้างบ้านก็สั่งเก็บระงับใช้ไปแล้ว "อนุทิน ประยุทธ์" อยู่ไหน ตัดสินใจช้า หายนะแน่สงสัยจริงๆ ทำไมถึงดื้อบอกว่าประมูลเป็นธรรม ไม่มีล็อกสเปก อ้าปากเห็นลิ้นไก่ วิธีการประมูลโดยการคัดเลือก ใช้ราคาประมูลเป็นตัวกำหนด สามารถเลือกบริษัทผู้ประมูลตามต้องการได้ โดยการทำให้ถูกต้องตามระเบียบ เป็นการล็อคสเปกที่ถูกกฎหมาย เพราะรู้ว่าของดี คุณภาพดี สู้ราคาไม่ได้

นพ.ชลน่าน ระบุว่า ถ้าต้องการ ATK ของดี มีคุณภาพระดับ WHO รับรอง คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชตีพิมพ์เผยแพร่ แต่ราคาสูงหน่อย จัดซื้อในสถานการณ์ฉุกเฉินจำเป็น โรคติดต่ออันตรายร้ายแรงระบาด ระเบียบพร้อมหนังสือเวียนของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างฯ ก็เปิดให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ได้โดยไม่จำกัดวงเงิน ทำไมไม่ทำ โดยเฉพาะการใช้วิธีคัดเลือกอาจล่าช้า ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง (ตาม ม.56 (2)(ง) พรบ.จัดชื้อจัดจ้างบริหารพัสดุภาครัฐ 2560) ก็ระบุไว้อย่างชัดเจน การสั่งให้ชะลอ รอผลทดสอบความผิดปกติที่ อภ.และ อย.กำลังยื้อดำเนินการอยู่ อาจเข้าข่ายผิด ม.157 ปฏิบัตหรือละเว้นปฏิบัติ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงได้ ที่สำคัญเจ้าของเงิน สปสช. เจ้าของภาษีอากรที่ใช้ในการจัดซื้อคือประชาชนต้องการของดี มาตรฐานสูงมาใช้ เพราะเกี่ยวกับความเป็นความตาย ความเสียหายของประเทศชาติ ถึงกำหนดราคาใว้ ไม่เกิน 120บาท/ชุด ทำไมไม่ซื้อ แล้วจะยื้อไปทำไม มีแรงจูงใจอะไร ยิ่งยื้อยิ่งส่อทุจริต ไม่คิดระงับยับยั้ง ระวังจะทำให้รัฐบาลพัง ไม่เชื่อเชิญฟังการอภิปรายไม่ใว้วางใจในสภาฯ ได้ เพราะรักจึงเตือนท่านปลัด สธ. ท่าน ผอ.อภ.และท่าน เลขา อย.ในฐานะเป็นแพทย์ด้วยกัน

“รมว.แรงงาน” ยืดอก พร้อมแจงศึกซักฟอก ลั่น ถือโอกาสแจงผลงานในรอบ1 ปี ชี้ บุคลิกอาจเข้าตา ทำให้มีชื่อติดโผด้วย 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวกรณีที่มีชื่อถูกพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นความสวยงามของประชาธิปไตย และนับตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรมว.แรงงาน ได้ทำงานตามนโยบาย และคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี มาตลอด จึงต้องขอบคุณฝ่ายค้าน และดีใจที่มีชื่อตนในครั้งนี้ 
เพราะจะได้พูดชี้แจงและแถลงผลการทำงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาว่ากระทรวงแรงงาน ทำงานตลอด และยังได้ร่วมสู้ศึกการอภิปรายเคียงข้างนายกรัฐมนตรี  และได้ช่วยชี้แจงเสริมนายกฯรัฐมนตรี ในส่วนที่รับผิดชอบในโอกาสนี้ไปด้วย 

“เรื่องการทำงาน ไม่น่าจะเป็นประเด็นหลักที่ทำให้มีชื่อถูกอภิปราย แต่น่าจะเป็นเรื่องบุคลิก ท่าทางโผงผาง เสียงดังมากกว่า เพราะหากจะยกเรื่องปิดแคมป์คนงาน ที่ผ่านมาในช่วงของระบาดของโควิด 19 มาอภิปราย ก็ดำเนินเป็นไปตามคำสั่งของ ศบค.รวมถึงการดูแลเยียวยาแรงงาน ก็ดำเนินการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว” นายสุชาติ กล่าว

"ศักดิ์สยาม" ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม ทดสอบระบบ M-Flow คาดเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เดือนตุลาคมนี้ 

ณ ด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางธัญบุรี 2 (ขาออก) และอาคารชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ศูนย์ควบคุมกลาง (CCB ลาดกระบัง) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์  จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง นายจิรุตม์  วิศาลจิตร  อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พลตำรวจตรีเอกราช ลิ้มสังกาศ  ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง นายกาจผจญ  อุดมธรรมภักดี  รองผู้ว่าฝ่ายกลยุทธ์และแผนงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นายวิรัช  พิมพะนิตย์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายองอาจ  ฉัตรชัยพลรัตน์ โฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เดินทางไปตรวจเยี่ยมการทดสอบระบบ M-Flow เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการโดยมีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow ในวันนี้ เป็นการตรวจความพร้อมทั้งในส่วนของตัวอุปกรณ์และการเชื่อมต่อกับระบบควบคุมรายการผ่านทางในระดับช่องทาง รวมไปถึงการส่งข้อมูลรถที่ผ่านทางเข้าไปยังระบบ Single Platform ที่อาคารศูนย์ควบคุมฯ ด้วย ซึ่งพบว่าโดยรวมของระบบมีความพร้อมสำหรับการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการแล้ว โดยกรมทางหลวงมีกำหนดที่จะทดสอบระบบเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 นี้ โดยคาดว่าระบบ M-Flow จะพร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2565  โดยเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ครบทั้ง 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2565 ทางพิเศษฉลองรัช ระยะแรก จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ส่วนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กรุงเทพฯ-บ้านฉาง และทางพิเศษฉลองรัช ระยะที่ 2 บูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก คาดว่าจะสามารถเปิดทดสอบระบบได้ในช่วงปี 2566 

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำหรับการทดสอบแบบเสมือนจริงนั้น จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อทดลองใช้บริการและมีส่วนร่วมในการทดสอบเสมือนจริง นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้เตรียมที่จะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ (Promotion) เพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้ทางเข้ามาใช้ระบบ M-Flow ให้มากที่สุด 

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ออกแบบระบบ M-Flow ในรูปแบบของ Single Platform System เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการทางพิเศษทั่วประเทศได้บน Platform เดียวกัน โดยบูรณาการเทคโนโลยีและการให้บริการอย่างเป็นระบบ และมีมาตรฐานทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับสากล รวมไปถึงการพัฒนาระบบให้รองรับความต้องการใช้งาน และตอบโจทย์ Lifestyle ของประชาชนในยุคดิจิทัลซึ่งเป็นสังคมไร้เงินสด ไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าผ่านทางแบบอัตโนมัติด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การหักบัญชีธนาคารแบบอัตโนมัติ การตัดชำระผ่านระบบ Pre-Paid เช่น M-Pass  Easy-Pass และ Wallet อื่นๆ ในอนาคต แต่ในขณะเดียวกันก็จะยังคงมีบริการรับชำระเงินผ่านช่องของทางธนาคาร และ Counter Service ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่าน QR Code ด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง

ผู้สนใจสมัครใช้บริการในช่วงทดสอบระบบเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) ระบบ  M-Flow ในเดือนตุลาคม 2564  โดยสามารถลงทะเบียนผ่านทางช่องทาง ดังนี้ WebSite : www.mflowthai.com Mobile Application : Mflow จุดบริการที่กรมทางหลวงกำหนด ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดการลงทะเบียนเพิ่มเติม ผ่านทาง Facebook : https://www.facebook.co/mflowthailand

"ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบกรมการแพทย์ทหารอากาศ ปมพิรุธวัคซีนเข็ม 3​ พรุ่งนี้

นายศรีสุวรรณ​ จรรยา​เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย​ เปิดเผยว่า ตามที่มีพยาบาลด่านหน้ารายหนึ่งได้โพสต์ระบายว่าชื่อตกหล่น ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 ได้ พร้อมกับปรากฎบัญชีรายชื่อบุคคลต่างๆที่มีรายชื่อซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนมาก แต่ทว่าโฆษกกองทัพอากาศออกมาแถลงว่าเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ ยืนยันว่าไม่มีการสวมสิทธิ์หรือ แย่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แต่อย่างใด เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น​ กรณีดังกล่าวมีข่าวแพร่งพรายออกมาว่า มีการเร่งสอบสวนคนปล่อยรายชื่อหลุด และมีการเรียกผู้ที่โพสต์ระบายดังกล่าวไปพบเจ้ากรมการแพทย์ฯ ซึ่งอาจจะถูกเตือน/ภาคทัณฑ์ หรือใด ๆ ทั้งๆที่ควรตรวจสอบว่าใครทำให้มีชื่อซ้ำซ้อน ด่านหน้าคนไหนชื่อตกหล่นและยังไม่ได้วัคซีน อันควรต้องเร่งจัดหามาให้เป็นการเร่งด่วน ซึ่ง ผบ.ทอ.ควรจะตั้งกรรมการสอบเจ้ากรมการแพทย์ฯมากกว่า
 
นอกจากนี้​ ยังมีข้อพิรุธของการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ของโรงพยาบาลแห่งนี้หลายอย่าง ทั้งที่ได้รับการจัดสรรมากว่า 1,860 โดส ซึ่งมากกว่าจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ 700-800 คน แต่ก็ยังมีบุคลากรที่เป็นแพทย์ และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรงประมาณ 100-200 คน ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนในครั้งนี้ แต่กลับมีการแถลงข่าวว่าจะขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้าอีก 400 โดส จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ที่มิอาจปล่อยผ่านไปได้​ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความดังกล่าวไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ในวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.64 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี เพื่อขอให้ไต่สวนและเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อกระชากหน้ากาก VVIP หน้าด้านทั้งหลายออกมาให้ประชาชนได้รับรู้ต่อไป 

“รองโฆษก ปชป.”เย้ยญัตติซักฟอกฝ่ายค้านไม่มีน้ำหนัก หลังมีชื่อ “เฉลิมชัย”ด้วย ชี้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แนะไม่ไว้วางใจทุจริตดีกว่าประเด็นการเมือง

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี  และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของฝ่ายค้าน ที่มีกระแสข่าวว่ามีรายชื่อของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พรรคประชาธิปัตย์เคารพในกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายค้าน แต่ที่มีข่าวว่ามีชื่อของ รมว.เกษตรฯที่จะถูกอภิปรายในประเด็นราคาสินค้าเกษตรนั้น หากเป็นจริงตามข่าวก็จะทำให้น้ำหนักของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ลดไปมาก เพราะที่ผ่านมาผลงานของรรมว.เกษตรฯ เป็นที่ประจักษ์และรับรู้ของประชาชนอย่างยิ่ง 

โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ และที่ผ่านมาผลสำรวจต่างๆก็เป็นที่พอใจของประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคามังคุดในปัจจุบันที่ได้มีการนำเข้าคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ หรือ Fruit Board ซึ่งมีรมว.เกษตรฯเป็นประธานก็สามารถแก้ไขปัญหาจนเป็นที่พอใจของเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงยังได้มีการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน ทั้งส.ส.ของพรรค และกลไกภาครัฐต่างๆเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
       
“การทำงานของรมว.เกษตรฯ ตลอด2ปีกว่าที่ผ่านมา ก็มีผลเป็นที่พอใจของพี่น้องเกษตรกร ถ้ามีชื่อในการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงและเป็นประเด็นในเรื่องของสินค้าราคาเกษตรก็จะทำให้ญัตติของฝ่ายค้านลดน้ำหนักลงไปมาก ซึ่งเราก็เคารพในการทำงาน แต่อยากให้ฝ่ายค้านดูในประเด็นไม่ไว้วางใจที่เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นจริงๆ ไม่ใช่เป็นประเด็นทางการเมือง” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

เสกสกล ลั่น จันทร์นี้ จูงทนาย แจ้งความกองปราบฯ ดำเนินคดี เต้น กับพวก ฝ่าพรก.ฉุกเฉิน - จี้ ปปง. สอบเส้นทางการเงิน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนพร้อมทนายความ จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และพวก ในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และความผิดหลายคดีตามประมวลกฎหมายอาญาอีกหลายมาตรา ในวันจันทร์16 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราบฯ 

และในวันเดียวกัน เวลา 11.30 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสื่อที่สำนักงาน ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงินของนายณัฐวุฒิและพวกในการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top