Thursday, 12 December 2024
POLITICS NEWS

ดร.สุวินัย ฟันธงม็อบ 7 สิงหาอาละวาดหนัก ชี้มี 'กูรูมืดและองค์กรกูรูมืด' คอยครอบงำปล่อยเฟกนิวส์

5 ส.ค. 64 ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai ในหัวข้อ ’กูรูมืดและองค์กรกูรูมืด’ มีเนื้อหาดังนี้ กูรูมืดและองค์กรกูรูมืดมีลักษณะร่วมกันอยู่ 4 อย่าง คือ ‘หลอกลวง ครอบงำ ควบคุม และครอบครอง’

อย่างแรก คือ ‘โกหก หลอกลวง’ เงื่อนไขนี้มาก่อนเลย ถ้าหลอกลวงด้วยเฟกนิวส์ได้แล้ว ที่ตามมาอย่างที่สอง คือ ‘การครอบงำความคิดของสาวก’ ที่หลงเชื่ออย่างเนียน ๆ แทบไม่รู้ตัว จนถลำลึกมากยิ่งขึ้นทุกที พอครอบงำความคิดจนเกิดอุปทานหมู่ หลงเชื่อตาม ๆ กัน โดยมีกลไกหลอกลวง โฆษณาชวนเชื่อ ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลา ก็จะมาสู่อย่างที่สามคือ ‘การควบคุมพฤติกรรมของสาวก’ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

โดยที่ในขั้นที่สี่หรืออย่างสุดท้ายคือ ‘การครอบครองร่างกายและชีวิตจิตใจ’ รวมทั้งจิตวิญญาณของผู้นั้นอย่างสิ้นเชิง จะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ จะให้ก่อการร้ายทำร้ายผู้บริสุทธิ์ หรือจะให้ฆ่าตัวตายรวมหมู่ก็ยังได้

กูรูมืดและองค์กรกูรูมืดจึงมีหลายระดับก็จริง แต่แค่หลอกลวงด้วยเฟกนิวส์ก็เข้าสู่วิถีของกูรูมืดเต็มตัวแล้ว แปลกแต่จริงที่องค์กรกูรูมืด บางครั้งก็เป็นขบวนการทางการเมืองอย่างขบวนการนปช. องค์กรคนเสื้อแดงในอดีต หรือขบวนการล้มเจ้าชูสามนิ้วในปัจจุบัน...ไม่จำเป็นต้องเป็นองค์กรศาสนาเสมอไป

สังคมที่ปล่อยให้เฟกนิวส์อาละวาด โดยที่ทางการอ่อนแอทำอะไรไม่ได้เลย คือสังคมที่อ่อนแอทางสติ อ่อนแอทางปัญญาความคิดวิเคราะห์ และอ่อนแอทางจิตวิญญาณ คนยุคนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติและไม่ประมาท เพราะกูรูมืดแฝงอยู่ในทุกวงการ

ในทางการเงิน กูรูมืดคือเจ้าพ่อแชร์ลูกโซ่ หรือ เทรดเดอร์โฟโต้ช็อปที่สร้างภาพว่าเป็นเทพ

ในทางการเมือง กูรูมืดคือแกนนำในขบวนการทางการเมืองที่สร้างวาทกรรมปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังประเทศตนเองและสถาบันหลัก ๆ ของประเทศอาฆาตอย่างรุนแรง

7 สิงหาคมนี้ คนพวกนี้จะออกอาละวาดอีกครา จงอย่าให้ชีวิตของตนเองและครอบครัวต้องพังพินาศเพราะหลวมตัวหลงไปเชื่อกูรูมืดและองค์กรกูรูมืดเป็นอันขาด

ถ้าใช้หลักเกณฑ์ 4 ข้อ เรื่อง ‘หลอกลวง ครอบงำ ควบคุม ครอบครอง’ ที่ผมยกมาข้างต้นจะช่วยแยกแยะได้ว่าใครเป็นกูรูมืดและองค์กรกูรูมืด

สุวินัย ภรณวลัย


ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/112261

https://www.facebook.com/suvinaip/posts/4152940241409752


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สุวัจน์' หนุนปลูก ฟ้าทะลายโจร แจก 1.2 หมื่นกล้า สู้โควิด-19  จี้ รัฐ เร่งหา-กระจายวัคซีน โดยเร็ว ให้สอดรับสถานการณ์

ที่บ้านราชวิถี 20 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม นี้ ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันจะได้แจกจ่ายต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จํานวน 12,000 ต้น ให้กับพี่น้องชาวโคราช เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยในการสู้ภัยโควิด ที่ที่ทําการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน พรรคชาติพัฒนา  

นายสุวัจน์ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดนครราชสีมา ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เทศบาลนคร นครราชสีมา ได้จัดตั้งสถานที่กักตัว (State Quarantine) สําหรับกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อใช้เป็นที่พักคอยก่อนตรวจหาเชื้อโควิด หากพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อก็จะส่งตัวเข้ารักษา ที่โรงพยาบาลต่อไป โดยใช้สถานที่โรงแรมฟอร์จูน อําเภอเมืองนครราชสีมา สามารถรองรับได้ 120 คน  โรงพยาบาลมหาราช ตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง โดยใช้หอพักพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราช สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้อีก 240 คน ซึ่งศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ได้ช่วยกันสนับสนุนอุปกรณ์จําเป็นต่างๆ อาทิ เช่น ตู้เย็น พัดลม และ อ่างล้างมือ ให้กับโรงพยาบาลสนาม เพิ่มประสิทธิภาพในการให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเร่งด่วนคือ การจัดหาวัคซีนให้เร็วที่สุด และมีจำนวนเพียงพอกับประชากร และสถานการณ์การแพร่ระบาด จะต้องจัดลําดับการฉีดและกระจายจัดวัคซีนไปยังกลุ่มต่างๆ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร และให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่างๆ เกี่ยวกับวัคซีน สถานการณ์ของโรค ไปยังพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความวิตกกังวล และสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปได้ เพื่อจะได้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่าย 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การส่งเสริมให้ใช้สมุนไพรไทยที่ประเทศเรามีอยู่ ไม่ต้องพึ่งพาการนําเข้าจากต่างชาติ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19ได้ ตามที่ได้มีการประกาศให้ฟ้าทะลายโจร อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร และมีการส่งเสริมให้มีการนํามาใช้ เพราะมีสารสกัดแอนโดรกราโพไลด์ ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและสามารถรักษาผู้ป่วย โควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย โดยได้มีการทดลองนํามาใช้กับผู้ป่วย และ เกิดผลสำเร็จในการรักษา ทำให้ขณะนี้ สมุนไพรไทย ฟ้าทะลายโจรจึงมีความต้องการสูงมาก เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยให้เกิดประโยชน์ในการต่อสู้กับโควิด-19 ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน จึงได้จัดหาต้นกล้าฟ้าทะลายโจรไว้จํานวน 12,000 ต้น โดยได้รับการ สนับสนุนจากมูลนิธิเก้ายั่งยืน มูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ และออฟฟิศชาวนา ช่วยกันจัดหาเพิ่มเติมอีกด้วย  เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 5,600 ต้น และหน่วยงานราชการ เทศบาล อบต. ตําบล ชุมชนต่างๆ อีกจำนวน 6,400 ต้น เพื่อนําไปปลูกและใช้ประโยชน์ และเป็น ส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และสร้างขวัญกําลังใจให้กับพี่น้องประชาชน 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และพรรคชาติพัฒนา ได้ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชนทางโคราชมานับแต่เริ่มต้นของสถานการณ์ COVID-19 เมื่อต้นปี 2563 ด้วยการแจกจ่าย อาหาร  หน้ากากอนามัย  แอลกอฮอล์สเปรย์ฆ่าเชื้อ  ถุงน้ำใจ ข้าวกล่อง  อุปกรณ์ทางการแพทย์  และอื่นๆ เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และ ขอส่งกําลังใจมายังพี่น้องประชาชนทุกคน ขณะที่รอการฉีดวัคซีนนั้น ขอให้พวกเรามีกําลังใจ ร่วมกันฝ่าฟันโควิดไปด้วยกัน ให้ความร่วมมือ กับมาตรการต่างๆ ด้านสาธารณสุข และ ดูแลตนเองให้ดีที่สุด ในสถานการณ์ที่การฉีดวัคซีนยังไม่ทั่วถึง  ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ มีระยะห่าง อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมตลอดเวลา ก็สามารถที่จะสร้างความปลอดภัยจากโควิด-19 ได้

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ ระบุ ม็อบ 7 สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง จบไม่สวย!!

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ม็อบ 7 สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง

ได้ทำลายการเคลื่อนคาร์ม็อบพินาศสิ้น!!!!

ทำลายโดยมีแผน หรือโดยมั่ว?

แต่ผลคือทั้งแกนนำและม็อบ 7 สิงหา จบไม่สวย!!


ที่มา : https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/photos/a.481669931931684/4134871973278110/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โฆษกรัฐฯ วอนผู้ชุมนุมนึกถึงบ้านเมือง  หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ฯ ห้ามร่วมชุมนุม มีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท “ลั่น” ปชช.ยังคงมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง อย่างสุจริต

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าววิงวอนผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรือชุมนุมทางการเมืองว่า ขอให้ห่วงใยความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว ชุมชนและบุคคลอื่นทั่วไป รวมทั้งยังมีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง  เรื่อง การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  ฉบับที่ 9 ได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564   

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ขณะนี้ยังอยู่ในข้อกำหนดของการบริหารสถานการณ์ในฉุกเฉิน ห้ามการรวมกลุ่มและจำกัดการเคลื่อนที่ของบุคคล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนตลอดว่า การที่มีบุคคลจำนวนมากมารวมตัว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพร่ และรับเชื้อไวรัส โควิด-19 และอาจจะนำปสู่การแพร่ระบาดในครอบครัวหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น ทำให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น   

“อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอยืนยันว่า ประชาชนยังคงมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง อย่างสุจริต และยังสามารถแจ้งข้อร้องเรียนเบาแสะการกระทำผิดถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรงผ่านช่องทาง 1111  ด้วย จึงอยากขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุมรวมทั้งผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมอีกครั้ง ให้คำนึงถึงประเทศชาติและความพยายามของทุกฝ่ายในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  เพราะทุกคนคือคนไทย และขอขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการต่าง ๆ ที่ทางศบค.ประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

กระทรวงแรงงาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่มูลนิธิแอลพีเอ็น ช่วยแรงงานไทยและต่างด้าวสู้ภัยโควิด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  มอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เพื่อนำไปช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว ทางภาคตะวันออก และอำเภออรัญประเทศ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งกระทรวงแรงงานได้รับบริจาคจากภาคเอกชน เพื่อส่งมอบให้มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) นำไปช่วยเหลือคนไทยและแรงงานต่างด้าวที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19 ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และไข่ไก่ จำนวน 2,700 ฟอง 

นายสุชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้สนับสนุนค่าอาหาร โดยนำงบจากกองทุนเพื่อการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวมาบรรเทาความเดือดร้อนแก่แรงงานภายในแคมป์  โดยสั่งข้าวกล่องจากชมรมหาบเร่แผงลอยส่วนหนึ่ง สมาคมภัตตาคารไทยส่วนหนึ่ง และร้านอาหารบริเวณแคมป์ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์ โดยมอบข้าวกล่องในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลแล้วมากกว่า 1 ล้านกล่อง ซึ่งนอกจากสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ร้านค้ามีรายได้และสามารถช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว พร้อมกันทั้ง 2 ฝ่ายได้แล้ว ยังทำให้เกิดการกระจายรายได้ มีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานรากต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญมาโดยตลอด นอกจากนี้เรายังเป็นช่องทางหนึ่งที่นำเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชนและประชาชนผู้มีธารน้ำใจ ไปมอบให้แก่ลูกจ้างในแคมป์คนงาน และแรงงานต่างด้าวที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

ด้าน นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LABOUR RIGHT PROMOTION NETWORK : LPN) กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เรา ทางมูลนิธิจะนำสิ่งที่ได้รับในวันนี้ไปประกอบเป็นชุดยังชีพ เพื่อช่วยเหลือคนไทยและคนต่างด้าวที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด ทางภาคตะวันออก ซึ่งอาสาสมัครได้แจ้งมาว่าส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาที่ติดอยู่ที่อำเภออรัญประเทศ ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดได้ และกำลังขาดแคลนข้าวสาร อาหารแห้ง ซึ่งหลังจากนี้มูลนิธิจะยังคงร่วมมือกับกระทรวงแรงงานต่อไป

“เลขาฯปชป.”นำมูลนิธิเสนียฯ มอบสิ่งของจำเป็น ตั้งศูนย์พักคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ที่ร.ร.สุวรรณารามฯบางกอกน้อย

ที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในเลขานุการมูลนิธิ ม.ร.ว. เสนีย์ปราโมช พร้อมด้วยนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและมอบสิ่งของจำเป็น และมอบอุปกรณ์ต่างๆ เบื้องต้น  ผ่าน รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชเพื่อใช้ดำเนินการในศูนย์พักคอย เพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม เขตบางกอกน้อย

ทั้งนี้นายชนินทร์  กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายให้ความสำคัญในการดูแลเยียวยา ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ฯ  ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่บางกอกน้อย และบางพลัดมีปัญหาผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนแออัด และไม่สามารถที่จะแยกส่วนออกมากักตัวได้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยและลดการติดเชื้อจึงควรสนับสนุนให้มีศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จึงได้ประสานงานกับโรงพยาบาลศิริราช โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม และชุมชนวัดสุวรรณาราม เพื่อที่จะจัดตั้งศูนย์พักคอย ดูแล ช่วยเหลือ ผู้ป่วยก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม

'นายเทพมนตรี ลิมปพยอม' นักประวัติศาสตร์ ชี้ ถ้าม็อบบุกวังจะเจอประหารชีวิตลูกเดียว ถาม 'ปิยบุตร' จะรับผิดชอบหรือไม่

5 ส.ค. 64 นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ว่า...

กบฎวังหลวง 2 สองเขาสามกีบ ปิยบุตรนี่แหละตัวการยุยงปลุกปั่น ให้พวกกบฎสองเขาสามกีบบุกวังอย่างไร้เหตุผล หาเรื่องพาคนไปตาย น่ารังเกียจในการกระทำเช่นนี้ ใช้ประวัติศาสตร์ปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 มาเป็นต้นแบบกับพระบรมมหาราชวังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยที่ตนเองกกเมียจิบไวน์อยู่ปารีส มันคนละเวลากัน มันคนละสถานที่กัน ความรู้ประวัติศาสตร์แบบท่องจำมันก็เลยได้เท่านี้คิดเท่านี้ นี่มัน ค.ศ. 2021 แล้ว

เราไม่ต้องสงสัยเลยว่าม็อบสองเขาสามกีบเป็นม็อบรับจ้างมาอย่างแน่นอน ช่วงนี้คนตกงานรายได้หดหายการหาคนมารับเงินค่าจ้างจึงทำง่าย เจ้าหน้าที่บ้านเมืองคงต้องทำหน้าที่หนักหน่อย ที่หนักเพราะต้องจัดการอย่างเบา ๆ ถ้าจะไม่ให้งานหนักต้องจัดการอย่างรุนแรง ถ้ามันบุกเข้าวังได้ ม็อบตายห่าทั้งก๊ก เพราะมีกฎมณเทียรบาลควบคุม เป็นกฏหมายเก่ามาตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 5-6

อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ เคยก่อการกบฎบุกยึดวังหลวง ถูกข้อหาหนัก คนพวกนี้ถูกครูบาอาจารย์พร่ำสอนจะทำลายศูนย์รวมจิตใจของชาติอย่างพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว ถ้าได้ผ่านประตูวังเข้าไปเมื่อไหร่ จะไม่เหลือเล็ดลอดออกมา มันเป็นหน้าที่เหล่าบรรดาราชองค์รักษ์ ไม่ใช่ตำรวจปราบม็อบถือโล่ กระบอง กระสุนยาง แก๊สน้ำตา

มันจะเป็นกบฎวังหลวง 2 สองเขาสามกีบจะเจอของจริงก็คราวนี้ และจะไม่มีใครสงสาร มีแต่คนสมน้ำหน้า เวทนากับการกระทำของมัน ข้อหาสารพัด บุกรุก จาบจ้วง กบฏ ไม่นับที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาล่าสุด แต่ถ้าอุกอาจเผ่าวัดพระแก้วก็ตายตรงนั้นแหละ อย่าหวังว่าประชาชนผู้จงรักภักดีเขาจะออกไป ดีเสียอีกมันเล่นพระบรมมหาราชวังก็เหมือนมาพบจุดจบวาระสุดท้าย เพราะมันไม่ใช่การออกมาเรียกร้องเสรีภาพ หรือห่าอะไร มันเป็นกบฎที่จะล้มล้างการปกครอง ล้มล้างสถาบันเป็นภัยคุกคามประเทศ

ประหารชีวิตลูกเดียว แล้วปิยบุตรมันจะรับผิดชอบไหม!


ที่มา : https://www.facebook.com/thepmontri.limpaphayom/posts/5971866959522048


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“เว้นค่าปรับ” ช่วยคู่สัญญางานรัฐช่วงโควิด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังหาแนวทางให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญาของรัฐ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม และในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ 0 โดยเมื่ออัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ 0 ผู้ประกอบการก็จะไม่มีค่าปรับ 

สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข  สัญญาที่ได้ลงนามหลังวันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งยังมีนิติสัมพันธ์อยู่และยังมิได้ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงทั่วราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ยังมิได้มีการตรวจรับพัสดุ ให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0  โดยให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 จนถึงก่อนวันที่มีประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯ และกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้พิจารณางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ก็ให้นำจำนวนวันดังกล่าวมาหักออกจากจำนวนวันตามมาตรการนี้ และจำนวนวันที่เหลือ ให้คิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 0  ในส่วนค่าปรับส่วนที่เกินจำนวนวันตามมาตรการนี้ ให้คิดในอัตราที่กำหนดในสัญญาหรือข้อตกลงตามปกติ โดยให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 183 ต่อไป 

สำปรับการกำหนดอัตราค่าปรับเป็นอัตราร้อยละ 0 เป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการใช้ดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานรัฐตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ซึ่งรัฐจะไม่มีการคืนเป็นเงิน แต่จะเป็นการหักกลบแทน  รัฐบาลจึงไม่มีภาระทางการคลัง และยังสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา 29 วรรคหนึ่ง (4) ซึ่งจะการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับภาครัฐ ที่ได้รับผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส

“ธนกร” ตอก “พิธา” เก่งเกินหมอ สวน ล็อกดาวน์ไม่สูญเปล่า มั่นใจ “บิ๊กตู่-บุคลากรทางการแพทย์” มาถูกทาง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าการล็อกดาวน์กำลังจะสูญเปล่า เจ็บแล้วไม่จบ ว่า ไม่แปลกใจเลยที่พรรคก้าวไกล มักขัดแย้งกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน 

เพราะนายพิธา ชอบอวดรู้ เก่งทุกเรื่องยกเว้นเรื่องตัวเอง ทำตัวเก่งกว่าหมอ การล็อกดาวน์เป็นมาตรการที่ทั่วโลกใช้ และประเทศไทยเคยใช้ได้ผลมาแล้ว โดยการล็อกดาวน์ จะคู่กับมาตรการเยียวยาที่รัฐบาลดำเนินการให้ความช่วยเหลือ กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจำนวนทั้งสิ้น 29 จังหวัด ทั้งที่อยู่ระบบประกันสังคม และไม่อยู่ในระบบ ผู้ประกอบการในระบบถุงเงิน ภายใต้โครงการคนละครึ่ง เราชนะ จึงมั่นใจว่า มาตรการล็อกดาวน์จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19สูงขึ้น เพราะตรวจเชิงรุกมากโดยใช้ATKมากขึ้น และผู้หายป่วยหายเพิ่มวันละเกือบ2 หมื่นคน ทำไมไม่พูดถึงบ้าง 

นายธนกร กล่าวว่า นายพิธา ระบุว่าปัญหาอยู่ที่ความสามารถในการบริหารของผู้นำ ตนมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บุคลากรทางการแพทย์ มีความสามารถที่จะแก้ปัญหาได้ไม่เหมือนนายพิธา ที่เอาแต่พูดโชว์หล่อไปวันๆ ไม่เคยลงมือทำ ดังนั้นตนมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย จะสามารถเอาชนะโควิด-19 ได้ แม้ติดขัดบ้างแต่ถ้าหากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกัน เราจะสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ 

ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบ เสรีพิศุทธ์ ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ยก คดีเอ๋ ปารีณา เทียบ พร้อมยื่นสอบ ปม บริษัทเอกชน ไม่ให้รังวัดที่ดินกว่า 22 ไร่ ในเขตอุตสาหกรรมระยอง ทั้งที่ ศาลสั่งเป็นของปชช.แล้ว ชี้ หน่วยงานรัฐ ส่อ ผิด157-ขัดจริยธรรม

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีนายสุทธิ  บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็น กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมเจ้าท่าที่ให้รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในแม่น้ำแควน้อย เป็นการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2551 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปัจจุบันเป็น หน.พรรคเสรีรวมไทย ได้กระทำการทิ้งหิน ดิน ล่วงล้ำลำน้ำแควน้อยเกินกว่าแนวเขตที่ดินของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ตาม ม.119 แห่ง พรบ.เดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 พร้อมกับมีการปลูกต้นไม้ทำเป็นสวนหย่อม และทำทางเท้าปูด้วยแผ่นหิน อันเป็นการปลูกสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในน้ำ ซึ่งเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน ซึ่งกรมเจ้าท่าได้สั่งให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำในแม่น้ำแควน้อยออกไปภายใน 30 วันแล้วตาม ม.118 ทวิ ของกฎหมายข้างต้น แต่กลับฝ่าฝืนและนำความไปฟ้องศาล จนบัดนี้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

การกระทำของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งเป็น ส.ส.และ หัวหน้าพรรคการเมือง จึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลายข้อ อาทิ ข้อ 7 ข้อ 11 และข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง ซึ่งคล้ายกับกรณีของ ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงนำความมาร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และมีมติส่งเรื่องไปยังอัยการสั่งฟ้องไปยังศาลฎีกา และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกันต่อไปด้วย

นอกจากนี้นายศรีสุวรรณยังยื่น ป.ป.ช.ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีนายสุทธิ  บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็น กรณีของบริษัท IRPC ที่ได้ยึดถือ ครอบครองที่ดินของประชาชนกว่า 22 ไร่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมของตนในจังหวัดระยองทั้งๆที่สภาตำบลบ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีมติแล้วว่าที่ดินดังกล่าวไม่ใช่ที่สาธารณะและเป็นของชาวบ้านจริง จะต้องรังวัดแบ่งแยกออกมาแต่ IRPC กลับอ้างการครอบครองและอ้างโควิด-19 ไม่ยินยอมให้กรมที่ดินเข้าไปตรวจสอบเพื่อรังวัดสอบแนวเขต ตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายโดยเร็ว แต่หน่วยงานต่างๆดังกล่าวกลับเพิกเฉย จึงอาจถือได้ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ปอ.157 และหรือการทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฯและจริยธรรม จึงจำเป็นต้องร้องเรียนให้ ป.ป.ช.ได้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามครรลองของกฎหมายต่อไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top