Tuesday, 12 November 2024
POLITICS NEWS

วราวุธ ยืนยัน ปม นายกฯแนะ ช่วยพาผู้ ป่วยกลับรักษาภูมิลำเนา ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะ โควิด-19 ไม่เลือกรัฐบาล-ฝ่ายค้าน บอก ส.ส.ชทพ.ช่วย ผวจ.สุพรรณอยู่แล้ว

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ครม. เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา หารือถึงการให้รัฐมนตรีแต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่เพื่อพาประชาชนกลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนา ถูกวิจารณ์เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ว่า เรื่องการให้ช่วยพาประชาชนกลับบ้าน ตรงนี้อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมือง ปัญหาของโควิด-19 ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านต่างโดนเหมือนกันหมด ซึ่งเจตนารมย์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ รัฐมนตรีคนใดช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกัน คนละไม้คนละมือ  ไม่ใช่เฉพาะแค่กระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียว ตัวอย่างของตน ซึ่งเป็นผู้แทนของจังหวัดสุพรรณบุรี และส.ส.ของ พรรคชาติไทยพัฒนาเราทำอะไรได้ ให้กับจังหวัดก็ไปช่วยกันทำ มีเครือข่ายอยู่ที่ใดก็ช่วยกันทำ ซึ่งโรงพยาบาลสนามของสุพรรณ ตอนนี้เต็มไปแล้วทั้ง 2 แห่งแล้ว และโรงพยาบาลหลักก็เต็มเกือบหมดแล้ว จึงเริ่มทำเป็นการกักตัวในชุมชน โดยใช้อาคารเอนกประสงค์ตาม อบต. มีผู้นำท้องถิ่นแต่ละที่ ช่วยเร่งปรับเอาเตียงเข้ามา เราช่วยกันอย่างเต็มที่  พวกเราก็ได้เข้าไปซับพอร์ทการทำงานเป็นระบบช่วยจังหวัด 

"การที่นำคนกลับบ้านไม่ใช่เป็นการกระจายเชื้อแต่เป็นการลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในกรุงเทพ ฉะนั้นใครช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในนาทีนี้คือ อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง นาทีนี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการเมือง ผมก็ทำในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่เราอยู่ตรงไหนเราช่วยไป ในสถานะใดได้ก็ช่วยเต็มที่ อย่างพรรคชาติไทยพัฒนาเรามีส.ส.อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีทุกเขต ก็ช่วยกันประสานงาน เพราะวันนี้เราไม่แบ่งแล้วว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลหรือเรื่องของประชาชน ใครช่วยอะไรตรงไหนได้ช่วยเต็มที่ เพราะถ้าทุกอย่างมองเป็นการเมืองไปหมดเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า คนนั้นเป็นอย่างนี้คนนี้เป็นอย่างนั้น  แต่โควิดมันไม่ได้เลือกที่จะติดเฉพาะรัฐบาลหรือเฉพาะฝ่ายค้าน หรือเฉพาะคนพรรคนั้นพรรคนี้ มันติดกันหมด ฉะนั้นเวลาแก้ปัญหาใครช่วยกันตรงไหนได้ ก็ช่วยกัน คนละไม้คนละมือ” นายวราวุธ กล่าวว่า

โรงพยาบาลสนาม ท่าอากาศยานสุวรณภูมิคืบ ผ่านการอนุมัติแบบเหลือขั้นตอนติดตั้ง เริ่มรับผู้ป่วย 4,500 เตียงได้ ส.ค. นี้  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐ เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขเร่งบริหารจัดการและจัดหาเตียงผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติมในขณะนี้นั้น ล่าสุดที่ประชุมการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) กรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ได้เห็นชอบแบบโรงพยาบาลสนาม ระดับสูง (สนามบินสุวรรณภูมิ) ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลักที่1(SAT1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตามที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะดำเนินการตามขั้นตอนการเสนอของบประมาณสนับสนุนต่อไป  

ทั้งนี้  โรงพยาบาลสนาม ระดับสูง(สนามบินสุวรรณภูมิ) จะรองรับผู้ป่วย 4,500 เตียง โดยชั้นที่ 2 ของอาคาร SAT1 จะเป็นที่ทำการแพทย์และเตียงผู้ป่วย ICU รวม 940 เตียง  ส่วนชั้นที่ 3 และ 4  เป็นเตียงผู้ป่วยอาการน้อยหรือไม่มีอาการ หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีเขียว 3,560 เตียง ซึ่งเมื่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดำเนินการจัดตั้งแล้วจะมีสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลดำเนินการ โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน ส.ค. เป็นต้นไป

“รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขได้เร่งจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมในการจัดหาพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งนอกจากพื้นที่อาคาร SAT1ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ขณะนี้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ยังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมพื้นที่อาคารคลังสินค้า4 ของทาอากาศยานดอนเมืองเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอีก ซึ่งจะรองรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงได้อีกประมาณ2,000 เตียง รวมทั้ง 2 พื้นที่ของ ทอท.จะรองรับผู้ป่วยได้เกือบ7,000 เตียง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

“เสกสกล” จวก “หญิงหน่อย” โพสต์รูปผู้ป่วยโชว์โซเชียล เหน็บ อยากช่วยให้ทำเลย อย่าเอาหน้า ป้อง “นายกฯ”ทุกหน่วยไม่เคยนอนหลับ เร่งแก้ปัญหาปชช.

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ภาพผู้ป่วยโควิด-19 รอโรงพยาบาล ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่านายกฯเห็นภาพนี้นอนหลับหรือไม่ ว่า ขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์ ที่มีน้ำใจจะช่วยผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังรอการรักษา เป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ แต่สิ่งที่ไม่สมควรทำคือนำภาพผู้ป่วยมาเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เพราะจะทำให้เห็นว่าที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่จริงใจ แต่อยากให้คนเห็นการทำงานแบบสร้างภาพของตัวเอง หรือเพื่อหาคะแนนเสียงให้ตัวเองดูดี

นายเสกสกล กล่าวว่า ภาพผู้ป่วยไม่ใช่แค่นายกฯ รัฐมนตรี บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่มีใครนอนหลับลง และทุกคนทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตลอดแทบไม่มีเวลาพักผ่อน และถามว่าในสถานการณ์วิกฤต คุณหญิงสุดารัตน์ คงนอนหลับฝันดีอย่างใช่หรือไม่ และหากจะทำตัวเป็นประโยชน์ เป็นผู้ใหญ่ที่คิดเป็น ไม่มีอคติ ให้พาทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทันที ไม่ต้องรอใครสั่ง ลงมือเสียสละช่วยกันได้เลย

"ประชาชนมองออกว่าไม่ได้เกิดจากความจริงใจ ที่อยากจะช่วยคนป่วย ทั้งที่ในภาวะเกิดการระบาดแพร่กระจายของเชื้อโควิด แทนที่ทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือประชาชนจับมือกัน แต่นี่กลับสร้างภาพ เพื่อให้ฝ่ายตัวเองด่าทอนายกฯและรัฐบาลในโซเชียล เสมือนปลุกระดมทำลายกัน ขอให้คุณหญิงช่วยลุยลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านในยามทุกข์เช่นนี้ดีกว่าไหม ทำไมต้องมาโพสต์เพื่อประจาน หวังทำลายด้อยค่าคนอื่น สุดท้ายประจานตัวเองหรือว่าคุณหญิงหน่อย คิดว่าประเทศชาติประชาชนเป็นของนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบ มีปัญหาอะไรก็โยนใส่นายกฯต้องรับผิดชอบคนเดียว ถ้าคิดเช่นนั้นคงต้องคืนบัตรประชาชนจะดีกว่า เพราะคงไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนไทย จึงไม่มีจิตสำนึก ไม่เห็นใจประชาชนยามทุกข์ และเอาภาพประชาชนที่เจ็บป่วยมาโพสต์ หวังผลทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน"นายเสกสกล กล่าว

ครม.เพิ่มงบประมาณปี 65 อีก 1.24 แสนล. สู้โควิด-จ่ายหนี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมครม. ได้เห็นชอบการเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 65 แยกเป็น การขอเพิ่มงบประมาณ ตามแนวทางและขั้นตอนที่ครม.เห็นชอบเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.64 จำนวน 124,291 ล้านบาท และ การเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ตามที่ได้มีพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2564 จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติภายในสำนักนายกรัฐมนตรี  เพื่อเพิ่มงบประมาณให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ 38 ล้านบาท 

ทั้งนี้ในรายละเอียดของการขอเพิ่มงบประมาณ จำนวน 124,291 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นรายจ่ายที่ต้องดำเนินการตามข้อผูกพันที่เกิดจากกฎหมาย สัญญา ข้อตกลงระหว่างประเทศ และค่าใช้จ่ายเพื่อการชำระหนี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายตามสิทธิจำนวน 36,771 ล้านบาท และรายจ่ายเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รายจ่ายเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หรือค่าบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือเป็นรายจ่ายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิดหรือรายจ่ายที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง และรายจ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของหน่วยรับงบประมาณ 87,520 ล้านบาท 

ส่วนการเปลี่ยนแปลงงบประมาณเป็นการปรับลดงบประมาณรายจ่ายเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับภารกิจที่จะต้องโอนจากสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 14 ล้านบาท และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 23 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 38 ล้านบาท อีกทั้ง ครม. ยังรับทราบการเสนอขอเพิ่มงบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายฯ 1,484 ล้านบาทด้วย

พท.แชร์คลิปภารกิจว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ลงพื้นที่ช่วยปชช. พร้อมสะท้อนวิกฤตโควิดในกทม. 

เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยโพสต์คลิปวิดีโอการทำงานของว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนตลอดการระบาดของโควิด-19 สะท้อนเสียงและภาพความเดือดร้องของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชุมชนแออัดอย่างชัดเจน โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นการสัมภาษณ์ตัวแทนจากทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทย 3 ท่าน ได้แก่ นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา เขตบางกะปิ น.ส.ทิพจุฑา บุนนาค เขตบางพลัด และ น.ส.ทัดดาว ตั้งตรงเจริญ เขตราชเทวี ซึ่งเป็นหนึ่งในว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ที่ติดเชื้อโควิดจากการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยทั้ง 3 คนระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การระบาดใหญ่ในปี 2563 กระทั่งเกิดการระบาดในระลอก 3 และ 4 ที่รุนแรงมากขึ้น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ทีมงานได้รับแจ้งให้เข้าไปช่วยเหลือมากที่สุด คือ บริเวณชุมชนแออัด ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของกลุ่มผู้ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ประกอบกับมาตรการควบคุมโรคระบาดและการจัดการวิกฤตที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทยจึงเข้าไปประสานงานและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในทุกด้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ตั้งแต่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัส ประสานเตียงผู้ป่วย ประสานโรงพยาบาลและขนส่งผู้ป่วยไปรับการรักษา ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งทีมได้ร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไปแล้วนับ 1,000 เคส

ที่มา : https://fb.watch/v/17kwkcXV_/ https://youtu.be/j61XXfhhBCY

“องอาจ” ขานรับ ครม. ส่งต่อผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนา พร้อมเสนอ 4 แนวทางเคลื่อนย้ายให้สำเร็จ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ครม. มีแนวคิดให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิดกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนาว่า นับเป็นแนวคิดที่ดีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องเตียงรับผู้ป่วยใน กทม. ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดที่สูงต่อเนื่องขึ้นทุกวัน ถึงแม้จะมีองค์กรภาคเอกชน สื่อมวลชน รวมถึง ส.ส. ของแต่ละพื้นที่จะจัดทำโครงการรับผู้ป่วยกลับไปรักษาที่บ้านเกิดกันหลายจังหวัด แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรองรับความต้องการของผู้ป่วยที่หาเตียงไม่ได้ใน กทม. ดังนั้นการดำเนินงานโดยรัฐบาลและภาครัฐโดยตรงน่าจะช่วยทำให้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดได้มากขึ้น

นายองอาจ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนาทำได้อย่างราบรื่น เป็นไปตามความประสงค์ของ ครม. จึงขอเสนอแนวทางการดำเนินการดังนี้ 1.ควรดูความพร้อมของโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่จะรองรับผู้ป่วยว่ามีขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร 2.ควรสร้างความเข้าใจในชุมชนให้ความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจและเห็นใจผู้ป่วยที่จำเป็นต้องกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด 3.การบริหารจัดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจาก กทม. ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดต้องบูรณาการประสานงานกันให้เกิดประสิทธิภาพ และ 4.ครม. ควรสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอต่อการทำงาน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จึงขอฝากแนวทางทั้ ง4 ข้อต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ศบค. กำกับดูแลการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างจริงจังต่อไป

“อัครเดช” ร้อง “บิ๊กตู่”ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนใน จ.ราชบุรี ไม่เป็นธรรม แฉมีเล่นพรรค เล่นพวก จี้หากพบให้ย้ายออกจากจังหวัด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการจัดหาวัคซีน ว่า ขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงไปตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนที่ไม่เป็นธรรมในจังหวัดราชบุรี ที่ผ่านมามีการฉีดวัคซีนให้กับทุกอำเภอแต่สิ่งที่เกิดปัญหาคือการจัดสสรวัคซีนที่ไม่เป็นธรรม จึงขอให้พิจารณาจัดสรรวัคซีนตามสัดส่วนประชากรและตามพื้นที่ระบาด โดยเฉพาะในอำเภอใหญ่ในจังหวัด เช่น ที่อำเภอบ้านโปร่งที่ได้รับการจัดสรรน้อยที่สุด เพียง 5.63% เมื่อเทียบกับอำเภอเมือง อำเภอดำเนินสะดวก บางแพ และโพธาราม ทั้งที่มีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้น 
         
“สิ่งที่ต้องเรียกร้องความเท่าเทียมและเป็นธรรม เพราะทราบว่ามีการเล่นพรรคเล่นพวกในการจัดสรรวัคซีนเกิดขึ้นในจังหวัดราชบุรี จึงขอให้นายกรัฐมนตรีได้ฟังเสียงของประชาชนบ้าง ขอให้ส่งคนลงไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนไม่ใช่จัดสรรวัคซีนแบบนี้ หากพบใครที่ทำผิด เล่นพรรคเล่นพวก ขอให้ดำเนินการย้ายออกจากจังหวัดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับจังหวัดอื่น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบความเชื่อมั่นจากประชาชน เขาไม่ได้ด่าจังหวัด เขาด่ารัฐบาล จึงขอให้ทำจังหวัดราชบุรีเป็นตัวอย่างในการจัดสรรวัคซีนที่เป็นธรรม”นายอัครเดช กล่าว

“บิ๊กตู่”เข้าทำเนียบรัฐบาล หารือมาตรการช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาช่วงสถานการณ์โควิด 19 “จับตา” ช่วงบ่ายเตรียมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ประชุมร่วมภาคเอกชน 40 บริษัท  ร่วมแก้ปัญหาโควิด 19   

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาลอีก 1 วัน เนื่องจากมีภารกิจสำคัญช่วงเช้า อีกทั้งต้องประชุมหารือเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด - 19  ภายหลังสัปดาห์ที่ผ่านมา ครม. ให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการไปกำหนดแนวทางการลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เช่น พิจารณาให้ส่วนลดเงินบำรุงการศึกษา ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าธรรมเนียมการเรียน และค่าธรรมเนียมอื่นในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นกรณีพิเศษ โดยให้คลอบคลุมทั้งสถานศึกษารัฐและเอกชน  

ทั้งนี้ มีรายงานว่าที่ประชุม ยังจะหารือถึงรูปแบบว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายเป็นการ จ่ายตรงให้ผู้ปกครอง โดยใช้ฐานข้อมูลเรียนฟรี 15 ปี  และจะยกเว้นค่าใช้จ่ายในทุกกลุ่ม หรือมีการยกเว้นกลุ่มใดบ้าง เป็นต้น  รวมถึงจะหารือถึงข้อเสนอโครงการในลักษณะที่กำหนดให้รัฐร่วมสมทบภาระส่วนลดให้แก่สถานศึกษาบางส่วน  รวมถึงรับฟังรายงานสรุปในกรณีที่สถานศึกษาภาคเอกชนประสบปัญหาทางการเงิน  ข้อมูลปัญหาและความต้องการต่างๆเพื่อให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ในการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาทางการเงินให้แก่สถานศึกษาภาคเอกชนที่มีความเหมาะสมต่อไป

ส่วนในช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. คณะผู้บริหารบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบสิ่งของและเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19 ) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล และ เวลา 14.20 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ 40 ซีอีโอ เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า

คกก.สรรหาเลขาธิการป.ป.ช. เปิด 3 รายชื่อผู้สมัคร "ประหยัด-นิวัติไชย-อุทิศ"

รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) แจ้งว่า นายนนทิกร กาญจนะจิตรา ประธานคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหา จำนวน 3 ราย ดังนี้ นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายอุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งนี้ หากปรากฎภายหลังว่า ผู้สมัครเข้ารับการสรรหารายใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศรับสมัคร หรือผู้สมัครเข้ารับการสรรหารายใดแสดงคุณสมบัติอย่างใดเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบจะถือว่าผู้สมัครรายนั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการสรรหาจะตรวจสอบบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ประวัติ ความประพฤติตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศรับสมัคร ก่อนที่จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสรรหาพร้อมกัน ทั้งกำหนด วัน เวลา และสถานที่เข้ารับการสรรหาทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อไป

“ธนกร” ซัด “สุดารัตน์” ดิสเครดิตรัฐบาล สร้างความสับสน จี้ ให้เลิกเอาชีวิต ปชช.มาเป็นเกมส์การเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่ระบุ เพราะ sunshine law หรือเปล่า ทำให้รัฐบาลไม่ยอมสั่งวัคซีน mRNA ที่สามารถปกป้องชีวิตคนไทยได้ ว่า หลายครั้งที่ตนรู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่มักจะอาศัยจังหวะโจมตีรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมืองต่อการตั้งพรรคใหม่เพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประขาชน เป็นการใส่ร้ายรัฐบาลแบบไร้เหตุผลรองรับ เหมือนจินตนาการไร้ขอบเขต วันนี้รัฐบาลสั่งวัคซีน mRNA มาแล้ว มีการเซ็นสัญญากับไฟเซอร์ 20 ล้านโดส จะเข้ามาไตรมาส 4 ของปี 64 รวมไปถึงการสั่งโมเดอร์น่าด้วย คุณหญิงสุดารัตน์พยายามโยงเสมือนกับรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในการจัดหาวัคซีน หากคุณหญิงสุดารัตน์จะกล่าวหาใครก็ควรมีหลักฐาน ไม่ใช่พูดขึ้นมาลอยๆ เพื่อให้รัฐบาลเสียหาย ตนขอบอกคุณหญิงสุดารัตน์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ยอมให้ใครมาหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่เหมือนรัฐบาลในอดีตที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นจนมีรัฐมนตรีต้องติดคุก

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนการที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวหารัฐบาลว่ามีสัดส่วนการซื้อวัคซีนจากประเทศในกลุ่มที่มี sunshine law น้อย หรือแทบไม่มีนั้นก็ไม่เป็นความจริง อย่าพยายามดิสเครดิตรัฐบาล ไม่มีใครเอาชีวิตของประชาชนมาเป็นเกมส์การเมืองแบบคุณหญิงสุดารัตน์ ประชาชนทราบดีว่าพรรคไทยสร้างไทยเป็นแค่พรรคสาขาของคนแดนไกลใช่หรือไม่ วันนี้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ปัญหาโควิด ไม่ว่าจะเป็นการเร่งจัดหาวัคซีน การรักษาผู้ที่ติดเชื้อ การเยียวยา ฯลฯ แต่ฝ่ายค้านทำเสมือนไม่ต้องการให้รัฐบาลทำงานสำเร็จ ออกมาโจมตีรัฐบาลทุกเรื่อง ขนาดสนับสนุนม็อบให้ชุมนุมประท้วงโดยไม่กลัวจะแพร่โควิด-19 ด้วยซ้ำไป อยากให้เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์บ้าง ทุกคนทำงานหนักมาก พล.อ.ประยุทธ์ทำเต็มที่ ไม่มีท้อ แม้จะถูกตำหนิ ด่าทอ นายกฯก็ไม่เคยท้อ จะทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะโควิด-19ให้ได้ เพื่อพี่น้องคนไทยทุกคน

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top