Monday, 9 June 2025
NEWS FEED

‘สส.จิรัฏฐ์’ ทวิต!! อย่าสร้างสถานการณ์ ให้ประชาชนแตกตื่น ชี้!! กองทัพฉวยโอกาสสร้างกระแส โหม PR. ถึงขั้นจะเสียเอกราช

(8 มิ.ย. 68) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.พรรคประชาชน ทวิต 

“จากดราม่า ผมยอมรับว่าสวนกระแสสังคมครับ

แต่ยังขอยืนยันข้อความที่โพสต์

ตำรวจ หมอ พยาบาล ทำงานเสี่ยงตายทุกวัน ไม่เคยเห็นต้องมาทำ Pr ขอแรงสนับสนุน นี่เกิดการปะทะตามตะเข็บชายแดนแค่ 10 นาที บนที่พื้นที่ป่า 200 เมตร ซึ่งยังพิพาทกันอยู่

กองทัพเล่นฉวยโอกาสมาสร้างกระแส โหม Pr
ถึงขนาดจะเสียชาติไทย* จะเสียเอกราช *

แบบนี้ไม่ได้เป็นผลดีกับประเทศเลย

กองทัพไม่ควรเล่นการเมือง มันเป็นหน้าที่รัฐบาลตัดสินใจ จะเจรจาอย่างไร จะใช้มาตรการอะไร

ทุกประเทศทั่วโลกมีปัญหาพิพาทเส้นเขตแดนทั้งนั้น เค้าก็แก้ด้วยการทูต ใครละเมิดข้อตกลงก็ว่ากันไป ไม่ได้แก้ด้วยการบอกว่าพร้อมจะทำสงคราม
กองทัพแค่ทำหน้าที่ตัวเอง เตรียมกำลังเตรียมความพร้อมไป ให้รัฐบาลเจรจาหาข้อยุติโดยไม่เกิดการปะทะคือเป้าหมาย 

อย่าสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนแตกตื่น จนถึงขนาดเรียกร้องหาสงคราม!!”

‘พล.ต.วันชนะ’ เผย!! แผนที่เขมร คลาดเคลื่อนสูงกว่าไทย เปรียบ!! ใช้เมจิกหัวใหญ่ กินแดนของไทย ไปโดยอัตโนมัติ

(8 มิ.ย. 68) พลตรี วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

แค่ใช้ 1/2แสนก็ไม่แม่นแล้ว

เขมรยึดถือแผนที่ 1ต่อ 200,000 ไทยใช้แผนที่ 1ต่อ 50,000(L 7018) อธิบายง่ายๆว่า ถ้าขีดเส้น 1เส้นลงไปในแผนที่ 1ต่อ 200,000 จะมีความกว้าง 200 เมตร 

ส่วนใน 1ต่อ 50,000 จะมีความกว้าง 50 เมตร ซึ่งต่างกันถึง 4 เท่า เหมือนเขมรเอาเมจิกหัวใหญ่ ทู่ ส่วนไทยใช้เมจิกหัวเล็กแหลม ขีดเส้นบนแผนที่ หัวใหญ่ทู่จะกินดินแดนของอีกฝ่ายไปโดยอัตโนมัติ เกิดความคลาดเคลื่อนสูงกว่าไทยแน่นอน คาดเดาต่อไปว่า

1 เขมรน่าจะทำแผนที่ 1ต่อ 50,000 ไม่ได้ เพราะการทำจะต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่า แต่อาจมีใช้จากการสนับสนุนจากต่างประเทศ

2 และถ้าใช้แผนที่ 1/200,000 การยิงอาวุธระยะไกล ไม่แม่นแน่นอนครับ 

อธิบายด้วยภาพชัดเจน ว่าช่องบกที่ปะทะ อยู่ในไทยครับ 

‘ป.ป.ช.’ ยอมรับ!! ‘ทวีวัฒน์’ ลืมเงิน 12 ล้าน เป็นสามีขรก.ปปช. เร่งสอบแจง!! บัญชีทรัพย์สิน

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 68) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากที่มีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน กรณีการพบเงินสด 12 ล้านบาทถูกทิ้ง ที่คอนโดย่านเมืองทองธานี โดยมี นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนว่าเป็นเจ้าของเงิน และพบว่าชายคนดังกล่าวมีสถานะเป็นสามีของข้าราชการ ป.ป.ช.ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้งยังเป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของกรรมการ ป.ป.ช.ด้วยนั้น

สำนักงาน ป.ป.ช.ขอชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เป็นสามีของข้าราชการท่านหนึ่งระดับผู้อำนวยการของสำนักงาน ป.ป.ช.จริง และเงินสด จำนวน 12 ล้านบาท ดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นส่วนหนึ่งของรายการในบัญชีทรัพย์สินที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ ในประเด็นการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการของคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะแต่งตั้งตามความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และคุณวุฒิของบุคคลนั้นๆ ทั้งนี้หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมสำนักงาน ป.ป.ช.จะชี้แจงในขั้นตอนต่อไป

รมว.ศธ. เปิดอบรมจิตตปัญญาศึกษา พัฒนาศักยภาพผู้นำทางการศึกษา Mini GTO แก่ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา นนทบุรี กว่า 1,900 คน

วันที่ (8 มิ.ย.68) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดนนทบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “จิตตปัญญาศึกษา” Mini GTO ณ อาคารโรงยิมเนเซียม อบจ.นนทบุรี ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยมีผู้บริหาร คณะครู และบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมกว่า 1,900 คน

โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา และคณะเข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด

พันตำรวจเอกธงชัย เย็นประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “คุณลักษณะผู้นำ 5 ประการ” ได้แก่ ความเข้มแข็ง ความรวดเร็ว ความจริงจัง ความมั่นคง และคุณธรรม ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดสำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้นำทางการศึกษา ในปัจจุบัน

จากนั้น ผู้เข้าร่วมอบรมได้ร่วมกิจกรรมกลุ่ม “รู้จัก รู้จริง รู้แจ้ง” ที่ออกแบบโดย GTO Academy เพื่อเสริมสร้างพลังภายในและพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างสมดุลทั้งด้านจิตใจ ความคิด และการปฏิบัติจริงในบริบทของการทำงาน
การอบรมครั้งนี้ ถือเป็นต้นแบบในการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทาง วิถีจิตตปัญญาศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นการเรียนรู้จากภายในสู่ความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

เชียงใหม่-หอการค้าฯ สถาปนาคณะกรรมสมัยที่ 25 "ผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยี"

หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “พิธีสถาปนาและการแถลงนโยบายคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 25 ประจำปีบริหาร พ.ศ. 2568 – 2569”

วันเสาร์ที่ (7 มิ.ย. 68) เวลา 13.00 – 17.00 น. ณ ห้องทองกวาว 1 ศูนย์บริการวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (UNISERV CMU) หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่จัดงาน “พิธีสถาปนาและการแถลงนโยบายคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 25 ประจำปีบริหาร พ.ศ. 2568 – 2569”  โดยมี ดร.กอบกิจ อิสรชีววัฒน์ ประธานกรรมการ กล่าวต้อนรับ และนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวแสดงความยินดี

หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 25 นำโดย ดร.กอบกิจ อิสรชีววัฒน์ ประธานกรรมการ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ (Vision)  "เป็นองค์กรผู้นำ เพื่อร่วมพัฒนาเชียงใหม่สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจนวัตกรรม เทคโนโลยี และความยั่งยืน ส่งเสริมผู้ประกอบการ พัฒนาศักยภาพแรงงาน ขยายโอกาสการค้า และยกระดับเมืองสู่อนาคต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความสามารถแข่งขันระดับโลก" ภายใต้แนวคิด "Chiangmai Forward: Empowering for smart and sustainable future" ผ่านพันธกิจหลัก 6 ด้าน ได้แก่

ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม "ผลักดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยี" สนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียวและความยั่งยืน "ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนในธุรกิจ" ขยายการค้าและการเชื่อมโยงสู่ระดับโลก "สร้างโอกาสทางการค้าสู่ตลาดสากล" พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และแรงงาน "ส่งเสริมการเรียนรู้และเพิ่มขีดความสามารถของแรงงาน" การขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่เมืองแห่งอนาคต (Smart & Creative City) พัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี ส่งเสริม "Chiang Mai Wellness & Cultural Tourism" และผลักดันธุรกิจด้านศิลปะ วัฒนธรรม และ Digital Content ให้สามารถขยายไปสู่ตลาดโลก เสริมสร้างความเข้มแข็งของหอการค้า "เพิ่มศักยภาพองค์กรและสร้างมูลค่าให้กับสมาชิก"

การจัดงานครั้งนี้ เพื่อแนะนำ คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการ YEC ตลอดจนการแถลงวิสัยทัศน์ พันธกิจ และแผนการดำเนินงาน อีกทั้งรูปแบบการจัดงานจะคำนึงถึง “Carbon Neutrality” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 120 ท่าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่าย อันได้แก่ สมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานราชการ ผู้บริหารจากองค์กรภาคเอกชน ผู้บริหารสถาบันการศึกษา เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบและร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป 

ทั้งนี้ ภายในการจัดงานยังได้รับเกียรติจาก ดร.กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มาร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ESG ไม่ใช่ภาระ แต่คือโอกาสของ SME ไทยในยุคใหม่” และปิดท้ายด้วยจากสรุปผลการจัดงานฯ ภายใต้แนวคิด “Carbon Neutrality” โดย รศ.ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาทิ การใช้ทรัพยากรตลอดการจัดงาน ที่ก่อให้เกิดค่าคาร์บอนไดออกไซด์และแนวทางการชดเชยค่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นต่อไป

ด่านชายแดนจันทบุรีงดนักท่องเที่ยวชั่วคราว เปิดทางเฉพาะแรงงาน หวั่นสถานการณ์ไม่ปลอดภัย

(7 มิ.ย. 68) หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรีออกหนังสือแจ้งไปยังตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ขอให้ระงับการเดินทางเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชาผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมและบ้านผักกาดชั่วคราว โดยอนุโลมให้เฉพาะแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทยสามารถผ่านเข้าออกได้ตามปกติ

คำสั่งดังกล่าวอ้างอิงจากประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่บางอำเภอของจันทบุรี และอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ มาตรา 5 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หลังมีสถานการณ์ที่อาจเป็นภัยคุกคามจากประเทศเพื่อนบ้าน และเพื่อป้องกันผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

พลเรือเอก นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยฯ ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ได้มีการ “ปิดด่าน” อย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นการประกาศเพื่อเตือนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางมาเล่นกาสิโนหรือท่องเที่ยวในแนวชายแดน ให้เพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากอาจไม่ทราบสถานการณ์พื้นที่

ขณะที่การค้าแรงงานและรถขนส่งสินค้ายังคงดำเนินการได้ตามปกติ ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนในเขตจังหวัดจันทบุรียังเปิดบริการตามปกติ พร้อมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจอย่างถูกต้อง และไม่ตื่นตระหนกจากข่าวที่อาจสื่อสารไม่ครบถ้วน

‘พิชัย’ ขอบคุณทูตจีนหนุนสินค้าเกษตรต่อเนื่อง ช่วยไทยส่งออกข้าวไปจีน 4 เดือน 2 แสนตัน พุ่ง 77.6%

(7 มิ.ย. 68) กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกข้าวไปจีนกว่า 2 แสนตัน เพิ่มขึ้น 77.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 3,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.3% พร้อมกับส่งออกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แสดงให้เห็นความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบวาระการดำรงตำแหน่ง โดยขอบคุณทูตจีนที่ให้การสนับสนุนและร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรของไทย เช่น ข้าว ทุเรียน และมันสำปะหลัง

นายพิชัยเน้นย้ำว่าความร่วมมือระหว่างไทย-จีนไม่เพียงแต่ช่วยเปิดตลาดสินค้าเกษตร แต่ยังรวมถึงการอำนวยความสะดวกทางพิธีการศุลกากร และผลักดันการลงทุน พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2569 เพื่อยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง กล่าวแสดงความตั้งใจสนับสนุนการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงการเปิดตลาดโคมีชีวิตในจีนในเร็วๆ นี้ และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในหมู่นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมยืนยันการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ในการส่งออกผลไม้ไทยโดยเฉพาะทุเรียนให้เป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับข้อมูลการค้าระหว่างไทยและจีนในปี 2567 แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย มูลค่าการค้ารวมเพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด ยางพารา และมันสำปะหลัง ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเหล็ก เหล็กกล้า ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่องระหว่างสองประเทศ.

‘หมอหม่อง’ ชวนรัก ‘ชาติ’ แบบมีสติไม่สุดโต่ง สะกิดสังคมใช้พลังให้ถูกจุด ชี้ปัญหาแท้จริงคือทุนผูกขาด

(7 มิ.ย. 68) ‘หมอหม่อง’ นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงกระแสรักชาติในตอนนี้

ที่จะพูดต่อไปนี้ เสี่ยงโดนด่ามากเลย เพราะคนจะเข้าใจผิด

ในกระแส รักชาติ ตอนนี้ ผมรักประเทศไทย ภูมิใจหลายๆ อย่างความเป็นไทย (แบบที่ไม่ perfect แบบนี้) เชียร์ทีมวอลเลย์บอลไทย ฯลฯ และพยายามทำให้ประเทศดีขึ้นในมุมเล็กๆของผม

แต่เอาจริงๆ เรื่องชาตินิยม นี่ ถ้าอ่านหนังสือ Sapiens ของ Yuval Noah ผมเห็นด้วยกับที่เขาอธิบายว่า ทำไม

Homo sapiens มันทำอะไร หลายอย่างที่ ลิงอื่นทำไม่ได้ นั่นคือ การสร้าง ความจริงสมมติ หรือ Imaginary truth

ชาติ มันคือ นิทาน ความจริงสมมติ ที่สังคมกำหนดขึ้นเพื่อ สร้างความร่วมมือของกลุ่ม ของเผ่า
เพื่อความอยู่รอด และ ช่วยปกป้อง ผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน มันไม่ใช่ความจริงที่แท้

หากเรากลัวเสียดินแดน เพราะกลัวคนอื่นมาแย่งทรัพยากร มาตักตวงผลประโยชน์ไปจากเรา

ผมว่าเรามารบกับทุนผูกขาด รบกับโครงสร้างสังคมที่เหลื่อมล้ำ ผลประโยชน์เส้นสายกันดีกว่านะครับ

กัมพูชาโต้ชัด ปัดละเมิดอธิปไตยไทย ย้ำแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี

(7 มิ.ย. 68) นายชุม สอนทรีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ากองกำลังชายแดนกัมพูชาได้ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย โดยยืนยันว่ากองกำลังของตนปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตแดนของกัมพูชาเอง

โฆษกกระทรวงฯ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลาประมาณ 05.30 น. นั้น เกิดขึ้นเมื่อกองกำลังไทยเปิดฉากยิงใส่ฐานทัพของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชโมโรโกต อำเภอโจมคสัน จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กัมพูชาควบคุมมาโดยตลอด ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายไทยถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และฝ่าฝืนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน

กัมพูชาย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และตั้งใจที่จะเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา โดยยืนยันว่าพร้อมที่จะแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธีและตามกฎหมายระหว่างประเทศ

สำหรับการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นหน้าสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นั้น เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นายฮุน ซาโรอุน ได้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตทุกคนปลอดภัยดีและยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ การประท้วงดำเนินไปอย่างสงบและเป็นระเบียบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด 

กระทรวงการต่างประเทศย้ำใช้กลไก JBC แก้ปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ

(7 มิ.ย. 68) กระทรวงการต่างประเทศแถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในการประชุมวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ควบคู่กับกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าที่ประชุมได้หารือการเตรียมการในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายหลักในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เช่น การประชุม JBC, GBC และ RBC ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแลสถานการณ์ชายแดนให้มีความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยมีความพร้อมในการประชุม JBC ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ณ ประเทศกัมพูชา และหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top