Monday, 29 April 2024
ในหลวงรัชกาลที่9

กาแฟ ‘ดอยช้าง’ ดังไกลระดับโลก ความภูมิใจแห่งสยาม มรดกตกทอดจาก ‘ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9’

นายพงศ์พรหม ยามะรัต ได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับกาแฟสัญชาติไทยดังไกลระดับโลก ที่คนไทยต้องภูมิใจผ่านเฟซบุ๊ก ‘Ponprom Yamarat’ ว่า…

ทราบมั้ยครับว่าเดี๋ยวนี้เมืองไทยมี Coffee Master เก่งระดับโลกอยู่มากมาย

แถมมีกาแฟถิ่น ที่ส่งออกไปขายตาม New York, London ได้ในระดับ Signature Series

คนไทยใน 5-8 ปีนี้ ก็สามารถหากาแฟเทพๆ ดื่มกันได้ง่ายขึ้น

ทว่า ความน่าสนใจตามการระบุของ พงศ์พรหม คือ…

1 ในกาแฟ Signature Series ระดับโลกนี้ ก็มีกาแฟ ‘ดอยช้าง’ รวมอยู่ด้วย

๑๓ ตุลาคม ร่วมน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระนามเดิมว่า “พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช” ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ทรงเสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (MOUNT AUBURN) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ๒ พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก" 

ด้านการศึกษา
เมื่อพระชนมายุได้ ๕ พรรษา ทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี จากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซานน์ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่ CEDE NOUBELLE DE LA SUES ROMANCE CHILLY ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่รับนักเรียนนานาชาติ ในระดับอุดมศึกษาทรงเข้าศึกษาในแผนกวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมืองโลซานน์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้เสด็จนิวัตกลับประเทศไทยพร้อมด้วยพระบรมเชษฐาธิราช พระบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ

ด้านการครองราชย์
พระองค์ได้เสด็จกลับเถลิงถวัลยราชสมบัติต่อจากพระบรมเชษฐาเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะมีพระชันษา ๑๙ ปี ก่อนครองราชย์ได้ทรงศึกษาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และได้เสด็จกลับไปศึกษาวิชานิติศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ต่ออีกภายหลังที่ได้ครองราชย์แล้ว

ด้านพระบรมราชาภิเษก
วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติยราชประเพณี ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระมหาราชวัง ในการนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสีเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรสและพระราชธิดา ๔ พระองค์ ดังนี้
๑. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
๒. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ
๓. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลนโสภาคย์
๔. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

ด้านพระราชกรณียกิจ
พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอด ๗๐ ปี โดยพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ คือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารต่าง ๆ ในประเทศ ซึ่งพระราชกรณียกิจอันโดดเด่น มีดังต่อไปนี้

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศรฯ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในวันพุธ ที่ 13 ต.ค. 2564 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำหรับในปี 2564 หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพสกนิกรชาวไทย ร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลพร้อมกันทั่วประเทศ

พลตำรวจเอก สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้มีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีวางพวงมาลา เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในวันพุธ ที่ 13 ต.ค. 64 ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป  ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธี

กรุงเทพฯ - “นิพนธ์” ร่วมวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่ 9 พร้อมร่วมทอดผ้าป่าทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2564 ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2564 โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เข้าร่วมพิธี

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ร่วมพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรแล้ว วางพวงมาลาหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น ร่วมยืนสงบนิ่ง เป็นเวลา 89 วินาที เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

 

สตูล - วางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะน้อมรำลึก “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2564

ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายทศพล สวัสดิสุข ปลัดจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะและกล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2564 โดยมีนางปิยรัตน์ ลัภกิตโร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล พร้อมด้วยข้าราชการ และหน่วยงานส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

โอกาสนี้ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล นำประธานในพิธีและผู้เข้าร่วม เดินชมนิทรรศการโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” ที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงค้นคว้าวิจัยร่วมกับคณะ จนสามารถนำฝนจากบนฟากฟ้าให้ตกลงสู่ผืนแผ่นดินให้พ้นจากภัยแล้ง แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ เปรียบดั่งสายฝนแห่งน้ำพระราชหฤทัยที่พระองค์ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎร และจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เห็นชอบการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง

ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายทศพล สวัสดิสุข ปลัดจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะและกล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2564 โดยมีนางปิยรัตน์ ลัภกิตโร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล พร้อมด้วยข้าราชการ และหน่วยงานส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

โอกาสนี้ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสตูล นำประธานในพิธีและผู้เข้าร่วม เดินชมนิทรรศการโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” ที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงค้นคว้าวิจัยร่วมกับคณะ จนสามารถนำฝนจากบนฟากฟ้าให้ตกลงสู่ผืนแผ่นดินให้พ้นจากภัยแล้ง แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ เปรียบดั่งสายฝนแห่งน้ำพระราชหฤทัยที่พระองค์ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎร และจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เห็นชอบการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็นพระบิดาแห่งฝนหลวง

 

สำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ - ถ้ำบาตร จัดพิธีบวงสรวงหล่อพระพุทธรูป องค์ที่ 99 ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวง ร.9

พระครูปลัดกุศล เขมวีโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ ประธานฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีบวงสรวงหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ที่ 99 หน้าตัก 2.5 เมตร สูง 4 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ และเพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการบูชาแด่เทพเทวาและมนุษย์ได้มากราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคลชัย ประดิษฐานไว้ ณ สำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ ตำบลสิงห์  อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา

นายชิษณุพงศ์ - นางธัญญารัตน์  ปัญจไชยโรจน์ และครอบครัว เจ้าภาพฯ พร้อมด้วยคณะศิษย์พระครูปลัดกุศลฯ สาธุทุกหมู่เหล่าที่เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเข้าร่วมพิธีบวงสรวงและรวมพลังศรัทธาหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ที่ 99 อย่างล้นหลาม ภายใต้การจัดพิธีบวงสรวงมีการวางมาตรการการป้องกันควบคุมโควิด-19 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ตั้งจุดตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิประชาชนก่อนเข้าร่วมพิธีอย่างทั่วถึงกัน

สำหรับพิธีบวงสรวงหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ที่ 100 และ 101 กำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 เวลา 09.00 น. จึงขอเชิญชวนสาธุชนทั้งหลายรวมกำลังร่วมพลังศรัทธาสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ฝากไว้ในแผ่นดินโดยทั่วกัน

และขอเชิญสาธุชนทุกหมู่เหล่ารวมพลังศรัทธาร่วมสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย จำนวน 500 พระองค์ ประดิษฐานไว้ ณ สำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธ ตำบลสิงห์  อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาเป็นพุทธานุสสติ แก่พุทธศาสนิกชน และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

 

‘วัชระ’ พิมพ์สมุด ‘ในหลวง ร.9’ แจกนักเรียนวันเด็ก ปลูกฝังความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มอบสมุดวันเด็ก 2565 จำนวน 260 เล่ม ให้นักเรียนโรงเรียนบ้านซอย 2 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยนางสาวจาริยา มินทการ ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นผู้รับมอบผ่านการประสานงานโดยคุณครูมนพัทธ์ สินธนามราพันธ์ เพื่อให้เด็ก ๆ มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตาม พระราโชบายด้านการศึกษา ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งการศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน

1.มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง

2.มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง

3.มีงานทำมีอาชีพ

4.เป็นพลเมืองดี

 

‘วัชระ’ ลุย!แจกสมุด - กระเป๋าให้นักเรียนเป็นของขวัญวันเด็ก พร้อมขอผู้ใหญ่ช่วยกันปลูกฝังเด็ก รู้จักประวัติศาสตร์และวันสำคัญของชาติ อย่าให้ใครมาบิดเบือน!!

เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2565 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มอบสมุด กระเป๋าให้กับนางวาสนาวิเศษ ผอ.โรงเรียนวัดธารน้ำไหล ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนนักเรียน 67 คน 

นางภัทรภร พุทธรัตน์ ผอ.โรงเรียนวัดรัตนาราม ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี 741 คน 

นางสาวชนากานต์ หมื่นพันธ์ชู ผอ.โรงเรียนไชยาวิทยา ต.ตลาดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนนักเรียน 1,712 คน 

นางสุภาพร วันนิยม ผอ.โรงเรียนวัดพระบรมธาตุไชยา ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนนักเรียน 216 คน 

และนายบรรชา ช่อสุวรรณ ผอ.โรงเรียนท่าชนะ ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนนักเรียน 1,250 คน 

แล้วยังบริจาคปัจจัยให้โรงเรียนแต่ละแห่งอีก2-3 พันบาทตามที่กกต.กำหนด เพื่อให้คุณครูนำไปซื้อขนมหรือไอศรีมแจกในวันเด็กแห่งชาติ 8 ม.ค.2565 ด้วย 

“วันแห่งการประดิษฐ์” โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ‘กังหันน้ำชัยพัฒนา’ และได้รับการยกย่องเป็น “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย”!! 

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เสนอ โดยกำหนดให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันนักประดิษฐ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระเกียรติคุณ และเพื่อให้ประชาชนเจริญรอยตามเบื้องยุคลบาท รวมทั้งปลูกฝัง เสริมสร้าง และส่งเสริม ให้เยาวชนไทยให้มีทุนทางสังคมของความเป็นนักประดิษฐ์คิดค้น พัฒนา และส่งเสริมนักประดิษฐ์ ให้ร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ความเจริญและความมั่นคงของประเทศชาติ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย ด้วยทรงสนพระราชหฤทัย ในเรื่องการประดิษฐ์เครื่องจักรกลเพื่อใช้ในการพัฒนาการเกษตรรูปแบบต่างๆ โดยอยู่บนพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีแบบง่ายๆ ใช้ภูมิปัญญาของเราเอง ใช้วัสดุภายในประเทศ เน้นความง่ายต่อการใช้งาน การซ่อมบำรุงและราคาถูก เช่น เครื่องสีข้าว กังหันน้ำ และทรงออกแบบเรือใบมด ซึ่งในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 เครื่องกลเติมอากาศ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” ได้รับการพิจารณาและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ 9 ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตร และเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรับจดทะเบียน และออกสิทธิบัตรให้แก่พระบรมราชวงศ์ด้วย จึงนับได้ว่าเป็น “สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย ของพระมหากษัตริย์ พระองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นครั้งแรกของโลก”

‘อ่างเก็บน้ำใต้ดิน’ ใครไม่ทำ ‘ในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ทำ!! | MEET THE STATES TIMES EP.60

📌 ‘อ่างเก็บน้ำใต้ดิน’ ใครไม่ทำ... ‘ในหลวงรัชกาลที่ ๙’ ทำ!!
📌 กษัตริย์นักพัฒนา!! ผู้ทรงสรรค์สร้าง ‘ชลประทาน’

👄 ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

💻 ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

.

.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top