Monday, 19 May 2025
SPECIAL

ตร. เตือน ‘สายซิ่ง – สายแว้น’ โทษหนัก!! เสี่ยงถูกยึดรถ ส่วนผู้ปกครอง เจ้าของรถและร้านแต่งรถ อาจโดนคดีด้วย!

วันที่ 2 พ.ย. 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) รับผิดชอบการป้องกันและปราบปรามในความความผิดการแข่งรถในทางฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 1,200,000 ราย และยึดรถที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนกว่า 320,000 คัน นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว ให้ทราบถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งท่านอาจจะต้องถูกดำเนินคดี โดยมีฐานความผิดหลักที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้แก่

ส่วนของผู้ขับขี่

- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(8) ประกอบมาตรา 160

- แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 เดือน เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 134 ประกอบมาตรา 160 ทวิ

ส่วนของผู้ปกครอง

- ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26(3) ประกอบมาตรา 78

- สนับสนุน ปล่อยปละละเลย ให้เด็กและเยาวชนรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อแข่งรถในทาง เจ้าหน้าที่สามารถตักเตือน ทำทัณฑ์บน หรือให้วางเงินประกัน และหากเด็กและเยาวชนกระทำความผิดซ้ำอีก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท และให้ริบเงินประกัน ตาม คำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง ข้อ 2

ส่วนของเจ้าของรถ

- ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26(3) ประกอบมาตรา 78

- เป็นเจ้าของรถหรือคนขับรถยินยอมให้ผู้ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือมีใบอนุญาตขับรถประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้ เข้าขับรถของตนหรือรถที่ตนเป็นคนขับ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 56 ประกอบมาตรา 60

ส่วนของร้านรับแต่งรถ

- โฆษณา จำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยรู้อยู่ว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 มาตรา 36 ประกอบมาตรา 55

- ดำเนินกิจการตามประเภทที่มีข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดให้เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมตามมาตรา 32 ในลักษณะที่เป็นการค้า จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ประกอบมาตรา 71

- ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้มีการแข่งรถในทาง โดยการผลิต ครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม คำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง ข้อ 3

 

เยาวชนตัวแทนประเทศไทย ‘ทีมอินเดนเทชัน เออเร่อ’ จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี คว้ารางวัลชนะเลิศระดับเอเชีย เอาชนะคู่แข่งจาก 8 ประเทศ ทำคะแนนเป็นอันดับ 1 แข่งขันเขียนโปรแกรม ควบคุมหุ่นยนต์ Astrobee ของ NASA

องค์กรสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ JAXA ซึ่งจัดการแข่งขันโครงการ The 2nd  Kibo Robot Programming Challenge รอบชิงแชมป์เอเชียทางออนไลน์ แจ้งผลการแข่งขันว่า เยาวชนทีมอินเดนเทชัน เออเร่อ (Indentation Error) จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ประกอบด้วย นายธฤต วิทย์วรสกุล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (หัวหน้าทีม) นายกรปภพ สิทธิฤทธิ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และเด็กชายเสฎฐพันธ์ เหล่าอารีย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้รับรางวัลชนะเลิศ 

ทั้งนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรสนับสนุนเยาวชนทีมอินเดนเทชัน เออเร่อ 3 ซึ่งเป็นทีมชนะเลิศจากการแข่งขัน โครงการ The 2nd  Kibo Robot Programming Challenge รอบชิงแชมป์ประเทศไทย เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงแชมป์เอเชียผ่านทางออนไลน์ ถ่ายทอดสดจากศูนย์อวกาศสึกุบะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนักบินอวกาศญี่ปุ่นทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขันอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ เพื่อค้นหาสุดยอดทีมเยาวชนจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ทำคะแนนได้สูงที่สุดในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมหุ่นยนต์ Astrobee ให้ปฏิบัติภารกิจซ่อมแซมสถานีอวกาศ โดยมีตัวแทนเยาวชนจาก 9 ประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย

สำหรับทีมอินเดนเทชัน เออเร่อ จากประเทศไทยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ Best Achievement Onboard Award มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นการแสดงความสามารถในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษา JAVA ควบคุมหุ่นยนต์ Astrobee ผู้ช่วยนักบินอวกาศของ NASA ที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติให้เคลื่อนที่ไปอ่าน QR Code และยิงแสงเลเซอร์เข้าเป้าหมายทำคะแนนได้สูงสุดของการแข่งขัน

HOW TO ออมเงินฉบับวัยเรียน เทคนิคเก็บเงินง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง!!

เอาแหละจ้า ใครเคยรู้สึกว่าอยากมีเงินเก็บกันบ้างไหมคะ ‘เวลาไปไหนมาไหนรู้สึกไม่สบายใจเลย ทำไมเงินฉันน้อยนิด เงินเก็บไม่มีติดบัญชีเลยเนี่ย’ ปัญหานี้จะหมดไปค่ะ ถ้าเรารู้จักเก็บเงินให้พอดีกับรายรับที่ได้ในแต่ละวัน มาเริ่มกันตั้งแต่ตอนนี้เลยค้า

1.) เก็บเหรียญ

วิธีนี้ง่ายนิดเดียวจ้า ให้เพื่อนๆ ทุกคนดูรายรับของแต่ละวัน แล้วลองแจกแจงเป็นส่วนๆ ดูนะคะ เช่น วันนี้ได้เงินมา 100 บาท ค่าขนมถ้าเราใช้จ่ายไปแล้วเหลือเหรียญกลับไปที่บ้าน ไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตาม หยอดกระปุกทันทีเลยจ้า 

หรือใครอยากเก็บเยอะกว่านั้น แนะนำให้เก็บตามวันที่ไปเลยจ้า เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท ไปเรื่อยๆ ให้ครบ 30 วัน แล้วค่อยเริ่มใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ ไม่ต้องเอาออกมานับเด้อ เต็มกระปุกค่อยนับนะจ๊ะ

2.) เก็บแบงค์ยี่สิบ

เราไปโรงเรียน 5 วันแล้ว ไหนลองเก็บวันละ 20 บาทดูซิ เท่ากับเราจะมีตังค์เก็บอาทิตย์ละ 100 เลยน้า ถ้าใครงบไม่ถึง ได้ตังค์ไปโรงเรียนน้อย ลองอีกวิธีจ้า เก็บ 20 บาทตามวันเลขคู่ ใส่ไปในกระปุก อย่าได้เปิดดูอีก จนกว่าจะครบปี ลองดูค้า

'รมว.แรงงาน' มอบ ผู้ช่วยฯ ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือการปฏิรูประบบสาธารณสุข Big Rock 1 อำนวยความสะดวกผู้ประกันตน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ร่วมงานแถลงข่าวความร่วมมือการปฏิรูประบบสาธารณสุข Big Rock 1 จัดการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขรวมถึงโรคระบาดระดับชาติและโรคอุบัติใหม่ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ร่วมงานแถลงข่าวความร่วมมือการขับเคลื่อน แผนการปฏิรูประบบสาธารณสุข Big Rock 1  “ยุติโรคระบาดด้วยนวัตกรรม โดยการเชื่อมต่อ ฐานข้อมูลสาธารณสุขแบบบูรณาการ” ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ณ โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซต์ นนทบุรี

โดย นายสุรชัย กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ที่ผ่านมา ทำให้กระทรวงแรงงานพบว่าระบบการบริหารจัดการด้านฐานข้อมูลผู้ประกันตน และฐานข้อมูลนายจ้างนั้นยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องปรับปรุง แก้ไข รวมถึงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านนโยบาย ด้านการบริการ รวมถึงด้านการเบิกจ่ายต่างๆ การมีฐานข้อมูลและระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการให้บริการประชาชน ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว เกิดความพึงพอใจ และท่านต่อการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น 

นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิรูประบบประเทศด้านสาธารณสุข Big Rock 1 ภายใต้โครงการ “ยุติโรคระบาดด้วยนวัตกรรม โดยการเชื่อมต่อฐานข้อมูลสาธารณสุขแบบบูรณาการ (Ending Pandemics through Innovation Program)” ถือได้ว่าเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากสามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานที่ทุกท่านร่วมหารือกันในวันนี้ จนสามารถพัฒนาและขับเคลื่อนได้สำเร็จ หากฐานข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมจะได้รับประโยชน์และการอำนวยความสะดวกต่างๆ สามารถใช้สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลข้ามสถานพยาบาลได้  การเบิกจ่ายก็จะเป็นไปได้อย่างง่ายดาย มีประสิทธิภาพ สามารถนำฐานข้อมูลต่างๆ มาช่วยปรับปรุงการบริการและสิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาลได้ในอนาคตตามนโยบายการปฏิรูปและการบูรณาความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน 

ไล่ออกนักสืบปทุมธานี พัวพันค้ายานรกกว่า 7 แสนเม็ด หลังแก๊งยาซัดทอด ด้านตำรวจภูธรภาค 1 เร่งกวาดบ้านตามนโยบาย 'บิ๊กปั๊ด'​ คนดีต้องเลี้ยงไว้ ส่วนคนชั่วต้องลงโทษ

(30 ต.ค.64)​ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงษ์ วงศ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พรเทพ เพชรรัตน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ร่วมแถลงข่าวจับกุม ด.ต.พสิษฐ์ แซนพิมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ชุดปราบปรามยาเสพติด ร่วมค้ายาบ้า 740,000 เม็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ 539/64

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน จ.นนทบุรี ได้ร่วมกันจับกุม นายทวีชัย หรือห้อย มั่นศักดิ์ อายุ 39 ปี ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 740,000 เม็ด เหตุเกิดหมู่บ้าน ช.รุ่งเรือง 6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

หลังจับกุมได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 ร่วมกับตำรวจสืบสวนจังหวัดนนทบุรี สืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการจนทราบว่า ด.ต.พสิษฐ์ แซนพิมาย ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ขอหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ ข้อหา ร่วมกันมียาเสพติด ให้โทษประเภท 1 มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไปไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

ต่อมาตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 225/23 หมู่ 6 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ ลำลูกกา คลอง 2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นไม่พบตัว ด.ต.พสิษฐ์ ได้ตรวจยึดเอกสารบัญชีธนาคารหลายรายการ และเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 43/7 ม.6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตรวจยึดรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ขพ 2643 กทม. ของผู้ต้องหา

ต่อมาชุดติดตามได้แกะรอย ทราบว่า ด.ต.พสิษฐ์ หลบหนีอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. หมู่ 7 ต.คลองสาม เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 9กณ 1033 กทม. มาจอดอยู่ จึงแสดงตัวและหมายจับเข้าทำการจับกุม

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

‘ธุรกิจบันเทิง’ เหยื่อโควิด กับความหวัง...หลังเปิดประเทศ | LOCK LENS GURU EP.52

LOCK LENS GURU รายการที่จะพาทุกคนมาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจ ไปกับ 'กูรู' ตัวจริง 

???? พบกับ กูรู ‘พิม ยศวดี เปรมเจริญ’ The Voice Thailand 2019 

???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES

“บิ๊กโอ๋” แถลงจับแก๊งเด็กเพชร ยกพวกยิงถล่มคู่อริบาดเจ็บ

วันที่ 30 ต.ค. ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส.) พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกุล ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี และชุดสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวจับกุม 4 ผู้ต้องหา มี นายภานุวัฒน์ หรือเกมส์ น้อยคง อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นายชินาธิปหรือใส ศักดิ์ปรีชา อายุ 22 ปี อยู่หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด นายธนกฤต หรือปอน โชคพินอุดม อายุ 23 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี และนายณธภณ หรือกาย โพธิ์ศิริ อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี 

ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 27 ตุลาคม 64 ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ตรงข้ามนาซ่าผับ บ้านนาแค ม.5 ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด.38 ขนาด.380 ขนาด .45 ตกอยู่เกลื่อนหลายปลอกและพบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม๊ก หมายเลขทะเบียน 6 กฐ 4972 กทม. จอดทิ้งไว้จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุแยกย้ายหลบหนี ผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ เพชรบุรี และโรงพยาบาลกรุงเทพ-ธนบุรี จึงเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บทราบว่าผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุมีด้วยกัน 2 กลุ่ม 

‘เพลงรักชาติ’ น้ำมนต์ หรือ อาหารใจ ?

เพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” เป็นกระแสดนตรี ที่มีการรับรู้เป็นกระแสการเมือง จากเนื้อหาที่ปลุกสำนึกรักชาติ โดยนำเพลงซึ่งคนรุ่นกลางและรุ่นใหญ่ รู้จักกันในฐานะ “เพลงสุนทราภรณ์” ที่เผยแพร่ครั้งแรก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 ผู้ที่มีส่วนตั้งแต่ครั้งที่เพลงนี้ชนะการประกวด “การแต่งเพลงปลุกใจ” ครั้งนั้น ได้แก่ มัณฑนา โมรากุล, ชวลีย์ ช่วงวิทย์, สุปาณี พุกสมบุญ และเพ็ญศรี พุ่มชูศรี แต่ยังไม่ได้มีการบันทึกเสียงไว้ ต่อมาเมื่อได้มีการบันทึกเสียง มีนักร้องซึ่งเป็นดาวเด่นของวงสุนทราภรณ์ เป็นผู้ขับร้องได้แก่ ศรีสุดา รัชชตวรรณ, มาริษา อมาตยกุล, บุษยา รังสี และวรนุช อารีย์

แม้ว่าจะเป็นเพลงปลุกใจผู้คนในอดีตส่วนใหญ่ ไม่ได้โยงเพลงเข้ากับการเมืองอย่างจริงจัง เพราะโดยสภาพทั่วไป แม้ว่าจะมีอิทธิพลของลัทธิการเมืองแทรกแซงอยู่ในสังคม แต่ภาพโดยรวมคือ คนไทยย่อมรักชาติ เกิดเมืองไทย โตเมืองไทย ไม่รักชาติแล้วจะไปอยู่ที่ไหน เพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” ในอดีตที่ผ่านมา จึงเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกที่ดี เป็นเพลงที่มีทำนองไพเราะ ชวนให้ร้องตาม

แต่เมื่อเพลงถูกนำกลับมาเสนอใหม่ โดยสร้างสรรค์ในสไตล์ดนตรีแตกต่างกัน รวม 4 เวอร์ชัน เพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” ไม่ได้เป็นแค่เพลง ไว้ฟังให้ Feel Good เท่านั้น แต่ทำหน้าที่เหมือนเป็น “น้ำมนต์” หรือเป็น “กระบอง” ไว้ฟาดฝ่ายตรงข้าม

ฝ่ายตรงข้าม คือ กระแสการด้อยค่าประเทศไทย อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน มีการเปิดเพจเฟซบุ๊ก เชิญชวนให้คนทุกรุ่น ย้ายภูมิลำเนาไปแสวงหาอนาคตในประเทศอื่น และเสนอข้อมูลที่เกลี้ยกล่อม ถึงสังคมที่ขาดความเท่าเทียม ขาดความยุติธรรมในกลไกต่าง ๆ เช่น ด้านกฎหมาย ระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการที่รัฐพึงจัดให้แก่ประชาชน แต่เนื่องจากข้อมูลที่นำเสนอนั้น ไม่ตรงกับสภาพที่ผู้คนในสังคมไทยได้สัมผัสเสมอไป วาทกรรมที่ปรากฏทั้งในลักษณะคำพูด และตัวอักษร จึงถูกมองเห็นว่าเป็นลักษณะ “ชังชาติ” และการรับมือกับพฤติกรรม “ชังชาติ” คือ การแสดงความรักชาติ รักแผ่นดินไทย

การโต้ตอบระหว่างฝ่ายด้อยค่าประเทศไทย และฝ่ายรักประเทศ มีมากมายทั้งทางโซเชียลมีเดีย และสื่ออื่น ๆ เช่น รายการทีวี อินโฟกราฟิก และคลิปยูทูบ และเครื่องมือที่เชื่อว่าจะใช้ตอบโต้ได้ดี คือ ดนตรี ดังนั้นจึงเกิดโปรเจกต์ “บ้านเกิดเมืองนอน 2564” ที่ดึงคนดนตรีมาร่วมงานกันมากมายถึง 22 คน โดยนำเสนอในสไตล์ Rock, Pop, Jazz และ Piano 

สไตล์ดนตรีหลากแนว สนองต่อรสนิยมดนตรีของคนฟัง ค่อย ๆ ทยอยปล่อยแต่ละเวอร์ชันออกมาตาม ๆ กันเกิดเป็นกระแส เกิดเป็นข่าว เกิดเป็นพลังในการโต้ตอบกับการด้อยค่าประเทศชาติ แต่คำถามคือ เป็นกลยุทธ์ตอบโต้ ที่มีความยั่งยืน หรือเป็นเพียงการแลกหมัดเฉพาะเหตุการณ์ ?

ยุทธการกวาดให้เรียบ!! ‘Operation All Clear’ ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของ ‘กองทัพภูฏาน’

เรื่องราวที่ดูน่าเหลือเชื่อที่ประเทศเล็ก ๆ ที่ดูสงบสุขอย่าง “ภูฏาน” ซึ่งมีกองทัพขนาดเล็ก มีกำลังพลจำนวนไม่ถึงหนึ่งหมื่นนาย ได้เปิดยุทธการทางทหารที่ต้องใช้กำลังพลเกือบหมดทั้งกองทัพในการปราบปรามกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอินเดียซึ่งมีที่มั่นในดินแดนภูฏาน

สมเด็จพระราชาธิบดี Jigme Khesar Namgyel Wangchuck กับนายทหารระดับสูงของกองทัพภูฏาน

Operation All Clear เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ดำเนินการโดยกองกำลังของกองทัพภูฏาน เพื่อต่อสู้กับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนอัสสัมของอินเดียในภาคใต้ของภูฏาน ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ถึง 3 มกราคม พ.ศ. 2547 ถือเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งแรก ครั้งเดียว และเป็นครั้งใหญ่ที่สุดที่กองทัพภูฏานยุคใหม่ได้ปฏิบัติการ!! 

ด้วยในปี พ.ศ. 2533 กองทัพอินเดียได้เปิดยุทธการ Rhino และ Bajrang เพื่อปราบปรามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนติดอาวุธอัสสัมกลุ่มต่าง ๆ เมื่อเผชิญกับการกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง กลุ่มติดอาวุธอัสสัมหลายกลุ่มก็ได้ย้ายที่มั่นไปเข้ายังดินแดนของภูฏาน

ชาว Lhotshampa ในค่ายผู้อพยพ

ในปี พ.ศ. 2533 กลุ่ม United Liberation Front of Assam (ULFA) และ National Democratic Front of Bodoland (NDFB) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธอัสสัมถูกกล่าวหาว่ามีส่วนช่วยเหลือรัฐบาลภูฏานในการขับไล่ชาว Lhotshampa ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งในภูฏาน 

ปัจจุบันเฉพาะมลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกามีผู้อพยพชาว Lhotshampa ราว 20,000 คน

ชาว Lhotshampa เป็นชาวภูฏานเชื้อสายเนปาล มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของภูฏาน จึงถูกเรียกขานกันว่า ‘ชาวใต้’ ในปี พ.ศ. 2550 ชาว Lhotshampas ซึ่งผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ได้รับการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และประเทศในยุโรปอื่น ๆ ปี พ.ศ. 2564 ปรากฏว่า จำนวนชาว Lhotshampa ในเนปาลนั้นต่ำกว่าในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ที่ได้ตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างมีนัยสำคัญ ชาว Lhotshampa เริ่มตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของภูฏานในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ถูกต่อต้านและผลักดันออกจากดินแดนภูฏาน จนปัจจุบันเฉพาะมลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา มีผู้อพยพชาว Lhotshampa มากกว่า 20,000 คน

ในปี พ.ศ. 2539 รัฐบาลภูฏานตระหนักถึงค่ายที่มั่นจำนวนมากบริเวณชายแดนทางใต้ที่ติดกับอินเดีย ค่ายเหล่านี้จัดตั้งขึ้นโดยขบวนการแบ่งแยกดินแดนอัสสัม 4 กลุ่ม ได้แก่ ULFA (United Liberation Front of Asom), NDFB (National Democratic Front of Boroland), BLTF (Bodo Liberation Tigers Force) และ KLO (Kamtapur Liberation Organisation) และยังมีค่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนของสภาสังคมนิยมแห่งชาตินาคาแลนด์ (NSCN) และกองกำลังพยัคฆ์ตริปุระทั้งหมด (ATTF) ค่ายต่าง ๆ ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อฝึกอบรมนักรบ และจัดเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในขณะที่ป่าทึบในภูมิภาคนี้ทำให้กลุ่มติดอาวุธสามารถลักลอบเข้าสู่ดินแดนของอินเดียเพื่อปฏิบัติการทางทหารได้อย่างง่ายดาย

สมาชิกของกลุ่มกบฏ NDFB

อินเดียจึงได้ใช้ความพยายามกดดันทางการทูตต่อภูฏาน โดยให้การสนับสนุนในการกำจัดองค์กรกบฏกลุ่มต่าง ๆ ที่เป็นภัยต่ออินเดียให้ออกจากดินแดนของภูฏาน รัฐบาลภูฏานจึงได้เริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ โดยเปิดการเจรจากับกลุ่มติดอาวุธในปี พ.ศ. 2541 มีการเจรจากับกลุ่มกบฏ ULFA 5 ครั้ง กับกลุ่มกบฏ NDFB อีก 3 ครั้ง แต่กลุ่มกบฏ  KLO เพิกเฉยต่อคำเชิญทั้งหมดที่ส่งมาจากรัฐบาลภูฏาน ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2544 กลุ่มกบฏ ULFA ตกลงที่จะปิดค่ายสี่แห่ง อย่างไรก็ตามรัฐบาลภูฏานก็ตระหนักดีว่า ค่ายทั้ง 4 นั้ที่ถูกปิดนั้นพึ่งถูกโยกย้ายถ่ายเทคนและอาวุธยุทโธปกรณ์ออกไป

สมาชิกของกลุ่มกบฏ KLO ในปัจจุบัน (ต้นปี พ.ศ. 2564)

นอกจากนี้กลุ่มกบฏ KLO ยังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มเหมาของเนปาลกับกองกำลังพยัคฆ์ภูฏาน ซึ่งเป็นองค์กรติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลภูฏาน สิ่งนี้ช่วยเสริมเหตุผลให้กับรัฐบาลภูฏานในการเริ่มปฏิบัติการทางทหาร

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 สมาชิกรัฐสภาภูฏานได้เสนอให้เพิ่มจำนวนกองทหารอาสาสมัครของกองทัพภูฏาน โดยแนะนำการฝึกทหารอาสาสมัครแบบสวิสสำหรับพลเมืองทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 50 ปี แต่ถูก ‘จิ๊กมี ทินลีย์’ รัฐมนตรีต่างประเทศ และนาย ‘พลโท บาตู เชอริง’ ผู้บัญชาการกองทัพปฏิเสธ 

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2546 กลุ่มติดอาวุธมากกว่า 15 คน ได้เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ ULFA ในเมืองคินโซ ส่งผลให้สมาชิกของกลุ่มกบฏ ULFA เสียชีวิต 2 คน ผู้โจมตีหลบหนีไปหลังจากที่กองกำลังของกลุ่มกบฏ ULFA ยิงตอบโต้กลับ วันรุ่งขึ้นกลุ่มติดอาวุธราว 10 ถึง 12 คน โจมตีสมาชิกของกลุ่มกบฏ ULFA ที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างในเมืองบาบัง กลุ่มติดอาวุธ 4 คน และนักรบของกลุ่มกบฏ ULFA หนึ่งนายเสียชีวิตระหว่างการปะทะ โฆษกหญิงของกลุ่มกบฏ ULFA กล่าวว่า การโจมตีมาจากทหารรับจ้างและนักรบของกลุ่ม SULFA ที่ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลอินเดีย เจ้าหน้าที่อินเดียอ้างว่าการปะทะดังกล่าวเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างกลุ่มกบฏด้วยกันเอง

ปฏิบัติการทางทหารใน ภูฏาน อินเดีย และเมียนมาร์ ในห้วงเวลาดังกล่าว

ในช่วงปี พ.ศ. 2546 ภูฏานได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาใหม่ วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2546 กองทหารอาสาสมัครภูฏานประกอบด้วยอาสาสมัคร 634 นาย ถูกส่งไปประจำการยังภาคใต้ของประเทศ หลังจากผ่านการฝึกฝนอบรมเป็นระยะเวลา 2 เดือน กองทหารอาสาสมัครของภูฏานมีบทบาทสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในช่วงความขัดแย้งในปี 2546 นั่นเอง หลังจากการเจรจาล้มเหลวไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่สำคัญใด ๆ วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 การแทรกแซงทางทหารได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา และวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2546 รัฐบาลภูฏานได้ยื่นคำขาดแก่กลุ่มกบฏออกจากดินแดนภูฏานภายในเวลาสองวัน วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2546 หลังจากคำขาดสิ้นสุดลง จึงเกิด Operation All Clear ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกของกองทัพภูฏานยุคใหม่

วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ตามคำให้การของผู้บัญชาการของกลุ่มกบฏ ULFA นายทหารระดับสูงแห่งกองทัพภูฏานได้ไปเยือนค่ายที่มั่นของกลุ่มกบฏ ULFA โดยอ้างว่า กษัตริย์ของภูฏานกำลังวางแผนที่จะเสด็จเยือนอย่างเป็นมิตรในวันรุ่งขึ้น แต่ปฏิบัติการที่ตามมาก็สร้างความประหลาดใจให้กับกลุ่มติดอาวุธโดยสิ้นเชิง

สมาชิกของกลุ่มกบฏ ULFA
 

กรุงเทพฯ - "ลุงป้อม" ห่วงน้ำท่วมขังเสีย สั่งเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ เร่งวางแผนแก้น้ำเค็ม - น้ำท่วม - น้ำแล้งซ้ำซาก

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุม คณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/64 ณ ห้องประชุม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ รวมทั้งติดตามบริหารจัดการสถานการณ์ท่วมและน้ำแล้งในภาพรวม

ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์สภาพอากาศ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำปัจจุบัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ - กลาง และเขื่อนระบายน้ำ ซึ่งในภาพรวมยังสามารถควบคุม โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่งที่ต้องเฝ้าระวัง สำหรับการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ระหว่าง ต.ค.- ธ.ค.64 มีแนวโน้มลดลง เว้นภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากฤดูฝนที่กำลังมาถึง โดยมีโอกาสสูงในการเกิดพายุเคลื่อนผ่านภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยง 725 ตำบล 43,495 หมู่บ้านใน 16 จว. ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัย โดยได้ขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ทำพนังกั้นน้ำและก่อสร้างทางระบายน้ำไปยังพื้นที่รับน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

สำหรับการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ได้พิจารณาวางแผนจากการคาดการณ์น้ำต้นทุน ปริมาณการใช้น้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำแล้ง พบความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคใน 5 จว. 9 อำเภอ 25 ตำบล มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำแล้งด้านการเกษตร นอกเขตชลประทาน 11 จว. ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งกำหนดมาตรการรองรับ ทั้งการเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยง การเติมน้ำ การจัดสรรน้ำฤดูแล้ง การวางแผนเพาะปลูกพืช การเตรียมน้ำสำรองในพื้นที่ลุ่มต่ำ การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ รวมทั้งการติดตามประเมินผล

พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำแสดงความห่วงใยถึงประชาชนที่ยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกำชับ สทนช.บูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ยังคงต้องติดตามสถานการณ์สภาพอากาศที่อาจพัฒนาก่อตัวเป็นพายุซ้ำเติมพื้นที่น้ำท่วมเดิม พร้อมทั้งให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขังเข้าแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลำน้ำสายหลักตามแผนและสถานการณ์ ทั้งนี้ให้นำจุลินทรีย์มาใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำในพื้นที่ท่วมขังนานและเกิดการเน่าเสียหวั่นกระทบสร้างปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ขอให้ทบทวนปรับปรุงและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกัน และให้ตรวจสอบระบบเตือนภัยให้สามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เคยเกิดปัญหา เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น

 

ตร.แปดริ้ว รวบแล้ว!! ‘มือปืนโหดยิงสาว 16 เสียชีวิต’ อ้างระบายเครียด หลังทะเลาะกับแฟนทางมือถือ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่บริเวณหน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก. พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงศ์ รอง ผกก. ป.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายวงศ์วรัณ หรือ เอิร์ท วิเขตกิจ อายุ24ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/31 หมู่3 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ประภาศร ฉวีวรรณ  หรือ อิ้ง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/63 ถ.มหาจักรพรรดิ์ ซ.3 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ถึงแก่ความตายโดยเจตนา พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ของกลาง อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ซีแซด รุ่นรามี่ ขนาด 9 มม. จยย.ยามาฮ่า N-MAX สีดำแดง ทะเบียน 1กฒ-9418 พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดที่ หน้าร้านซ่อมรถ จยย. หน้าพิสิษฐ์แมนชั่น หมู่6 ต.โสธร 

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์คนร้าย ขับขี่รถจยย. ยามาฮ่า N-MAX สีดำแดง ไม่ทราบทะเบียน ขึ้นไปจอดบนสะพานต่างระดับ บริเวณตรงข้ามธนาคาร ธอส. หน้าหอพักพิศิษฐ์แมนชั่น ถ.สิริโสธร ต.หน้าเมือง ใช้อาวุธปืนขนาด 9มม. ยิงสาดลงมาด้านล่าง ใส่กลุ่มคนที่นั่งคุยกันอยู่บริเวณหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 6นัด ก่อนหลบหนีไป โดยกระสุนปืน 1นัดถูก น.ส.ประภาศร ฉวีวรรณ หรือ อิ้ง อายุ 16 ปี กระสุนถูกบริเวณลำตัว สีข้างด้านซ้าย เพื่อนนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฏร์ ฉะเชิงเทรา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

สมุทรปราการ - ‘ตู่ นันทิดา' อบจ.สมุทรปราการ มอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ

ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลาประชาคม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นประธานมอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) ให้กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชน 150,000 ชุด และ พิธีมอบเสื้อสนับสนุนกิจการ อสม.จังหวัดสมุทรปราการ

โดย น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ. เป็นตัวแทนนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่ใช้เงินส่วนตัว เพื่อนำเสื้อและหมวกเพื่อสนับสนุน อสม.ของจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 8,000 ชุด โดยมี ดร.พิริยะ โตสกุลวงศ์ นายสมลักษณ์ ควรสงวน รองนายก อบจ.สมุทรปราการ นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม ดร.รัชชานนท์ ทองอร่าม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมพิธี

 

เชียงใหม่ - สร้างสีสันวัฒนธรรมม หกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปางและแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่วาง วัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  จัดกิจกรรม“งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีท้องถิ่นวิถีล้านนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีนายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ,ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน แขกผู้มีเกียรติร่วมงาน ณ วัดจำลอง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

นายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง กล่าวว่า งานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” ประจำปี 2564 คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชน ที่เข้าร่วมในการจัดงาน ร่วมแสดงตนเป็นชาวพุทธศาสนิกชน  ผู้มีความเลื่อมใส  ในองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่ทุกท่านได้มาร่วมกระทำกิจกรรมงานบุญออกหว่าในวันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวพุทธ ควรจะต้องยึดถือและปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นโอกาสที่ดียิ่ง ที่จะได้แสดงตนให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หากชาวพุทธทุกคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันแล้ว ก็ถือได้ว่า เป็นการแสดงตน เพื่อเป็นชาวพุทธมามกะที่ดี จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับผลบุญอานิสงส์ในการกระทำของตนเอง ส่งผลให้มีความเจริญผาสุข ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมและประเทศชาติ อย่างเจริญมั่นคงสืบไป

นางประทุม ปิยะพันธ์โอภาส นายกเทศมนตรีตำบลแม่วาง กล่าวว่าเทศบาลตำบลแม่วาง ร่วมกับวัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 อันประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปางและลำพูน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมจัดกิจกรรมงานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” โดยได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ระหว่างวันที่ 22 - 24  ตุลาคม 2564 โดยมีวัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ทางพระพุทธ ศาสนาให้คงอยู่สืบไป

2. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ยึดถือ ปฏิบัติตามศีลธรรมจารีตประเพณีอันดีงาม 

3. เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยใหญ่

4. เพื่อให้หน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและร่วมกันส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น

ผบช.ภ.6 ลั่น!! ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์เด็ดขาดร่วมทหาร ฝ่ายปกครอง ตม.ชี้!! มีตัวละครหลายกลุ่มโยงค้ามนุษย์  

(28 ต.ค.​ 64)​ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค​ 6 พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางไปยังอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก​ เพื่อตรวจสอบสถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวในอำเภอแม่สอด โดยจุดแรกที่ไปตรวจสอบคือ โรงงานทีเคการ์เม้นท์ เป็นสถานประกอบการเย็บผ้า บ้านแม่ตาว ตำบลแม่ตาว มีแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา​ กว่า 2,000 คน โดยมีนายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด นายอำเภอแม่สอด นายชัยวัฒน์ วิฑิตธรรมวงศ์ ฐานะผู้แทนสถานประกอบการ และประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก นายแพทย์ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด นายเฉลิม กล่อมเกลี้ยง สาธารณสุข​ อ.แม่สอด ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ผู้แทนพัฒนาสังคม และมนุษย์ จ.ตาก สวัสดิการแรงงาน และสังคมจังหวัดตาก รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ​ ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ จากนั้นได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ  

พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า จะทำการคิกออฟ (Kickoff) พร้อมสร้างโมเดลป้องปราม และปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ และแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เพราะวันที่ 1 พ.ย.64 นี้ จะมีการเปิดประเทศ และส่วนที่เกี่ยวข้องกับ​ พรบ.ควบคุมโรคติดต่อด้วย

ส่วนการปฏิบัติต่อจากนี้​ จะดำเนินการใน 4 มิติ คือ​ 1.​การป้องปรามการเชิงรุกโดยบูรณากับทุกหน่วยงานรวมทั้งภาคเอกชนด้วย ในการตรวจสอบ เป็นหูเป็นตา อย่างจริงจัง จริงใจ 2.มีการตั้งทีมสอบสวนร่วมฝ่ายปกครองดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ 3.​สืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีข้อมูลตัวละครหลายกลุ่ม และจะพยายามขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่ยังฝ่าฝืนหรือมีพฤติกรรมอยู่ โดยจะสาวไปให้ถึงต้นตอรายใหญ่ และ​ 4.มีการปลอบขวัญ เยียวยาเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ด้วย

ชลบุรี - รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรม ‘วันพยาบาลแห่งชาติ ปี 2564’

โรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ(รพ.สก.พร.) จัดกิจกรรมวันพยาบาลแห่งชาติ ปี 2564 และมอบรางวัล คนดี ศรีดอกปีบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดี ให้กับบุคลากรในโรงพยาบาล พร้อมให้บริการฉีดวัคซีน โควิด-19

ในวันนี้ 28 ต.ค.64 พล.ร.ต.อานัน นิ่มนวล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ และกล่าวอาเศียรวาทราชสดุดี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 21 ตุลาคม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ได้ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน ในทุกกลุ่มให้มีสุขภาพดีถ้วนหน้า

โดยฝ่ายการพยาบาล นำโดย น.อ.หญิงอุบลรัตน์ เชาว์สุโข รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ฝ่ายการพยาบาลฯ ได้กำหนดจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติฯ เนื่องใน "วันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2564" ประกอบด้วย กิจกรรมมอบรางวัล คนดี ศรีดอกปีบ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ให้กับพยาบาล และพนักงานช่วยเหลือผู้ป่วย ที่มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และแบบอย่างที่ดีให้กับบุคลากรในโรงพยาบาล และจัดกิจกรรมสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID -19 ให้กับประชาชน ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย  ทั้งนี้ มีผู้บริหารทางการพยาบาลและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ เข้าร่วมงานแบบ New normal ณ ห้องประชุมคลองไผ่ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top