Monday, 19 May 2025
SPECIAL

สระบุรี - ติดตามสถานการณ์ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสถานการณ์โควิด-19 พร้อมเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

วันนี้ 28 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระพุทธบาท ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สระบุรี ประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประจำเดือน ตุลาคม 2564 มอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่ผ่านมาในรอบเดือนตุลาคม 2564

สถานการณ์อุทกภัยจากการรายงานเหตุด่วนของอำเภอ มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 13 อำเภอ 55 ตำบล 274 หมู่บ้าน 15 ชุมชน 8,127 ครั้วเรือน ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย จำนวน 12 อำเภอ 52 ตำบล 301 หมู่บ้าน 15 ชุมชน และประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 11 อำเภอ 48 ตำบล 290 หมู่บ้าน 13 ชุมชน  ที่ผ่านมาได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น นายแพทย์สาะรณสุขจังหวัดสระบุรี รายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าร้อยต่อวัน และขณะนี้วัคซีนเพียงพอที่จะให้บริการกับประชาชนว่า ผู้ที่จะฉีดวัคซีนสามารถรับบริการได้ทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศตามสถานที่บริการฉีด ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จะรับวัคซีนได้เฉพาะ ไฟเซอร์ เท่านั้น ซึ่งเด็กต่ำกว่า 12 ปี ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานศึกษา สามารถรับบริการได้ทุกคน

นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้บริหารเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในกรณีของ อบจ.สระบุรี ที่สั่งจองชิโนฟาร์ม จำนวน 3 หมื่นคน จังหวัดฯได้รับจัดสรรมาจำนวนประมาณ 1 หมื่นคน โดยจะทำการฉีดให้ประชาชนในวันที่ 29 ต.ค. 31 ต.ค. และ 1 พ.ย. 64 ณ อบจ.สระบุรี

ชลบุรี - ฐานทัพเรือสัตหีบ ทำพิธีปลดทหารกองประจำการ ผลัดที่ 3/62 หลังครบกำหนดรับใช้ประเทศชาติ

วันนี้ (28 ต.ค.64) ที่สโมสรสัญญาบัตร ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือโท นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นประธานในพิธีปลดทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/62 และมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ทหารกองประจำการที่จะครบกำหนดปลดเป็นทหารกองหนุน เพื่อให้ได้ซาบซึ้งถึงคุณงามความดี ในการที่ได้เสียสละมาเป็นทหารรับใช้ประเทศชาติ และเพื่อเป็นการอำลาผู้บังคับบัญชาของตนเองก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา

 

เชียงใหม่ – เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ชวนขนหัวลุก! ในวันฮาโลวีน พร้อมรับส่วนลด 50% สองวันสุดท้าย 30-31 ตุลาคมนี้

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมสร้างสีสันในวันฮาโลวีน ชวนกันมาขนหัวลุกกับ เหล่า Monster reptile และผีสาวแสนสวย พร้อมรับส่วนลด 50% สองวันสุดท้าย วันที่ 30-31 ตุลาคมนี้

นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวเชิญชวนน้องๆ หนูๆ มาร่วมสนุกกับกิจกรรมสร้างสีสันในวันฮาโลวีน ชวนกันมาขนหัวลุกกับเหล่า Monster reptile สัตว์ประหลาดเลื้อยคลาน หน้าตาประหลาด แต่แฝงไว้ด้วยความน่ารัก  พร้อมการแสดงจากผีสาวแสนสวย ที่จะมาสร้างบรรยากาศความสยองขวัญในสไตล์ซาฟารี ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกและเรียนรู้ในสถานที่เปิดโล่ง รับอากาศบริสุทธิ์  ที่มั่นใจได้กับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้มาตรฐาน SHA 

สำหรับการสร้างสีสันในวันฮาโลวีน จะจัดขึ้นในวันที่ 30-31 ตุลาคม นี้ เวลา 17.30-20.30 น.  พบกับ Monster reptile สัตว์ประหลาดเลื้อยคลาน อาทิ เตกู  อีกัวน่าหลากสี งูคอร์นเสนค เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และพบกับการแสดงแดนซิ่งโชว์จากเหล่าผีสาวแสนสวย ในรอบเวลา 18.15 น. และ 19.40 น. ซึ่งผู้ที่สนใจจะต้องจองเข้าชมผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นที่ www.chiangmainightsafari.com (จำกัด รอบละ 250 คน)  และโปรดสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเข้าใช้บริการ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 แถลงข่าว! ‘จับผู้ใหญ่บ้าน ฆ่า 2 ศพ’ ในพื้นที่ จ.ตรัง

บ่ายวันนี้ 28 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุม กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9,พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 ,พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9,พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง  ,พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.9 ,พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จ.สงขลา,ได้ร่วมกัยแถลงข่าวการจับกุมตัวนายชำนิ ชำนาญกิจ อายุ 45 ปี (ผู้ใหญ่บ้าน)อายุ 45 ปี หมู่ 2 บ้านเลขที่ 31/1 ต.แก้วแสน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช โดยมีหมายจับของศาลจังหวัดตรัง จ.264/64 ลงวันที่ 27 ต.ค.64 ในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่ปั้มน้ำมัน ปตท.สาขาทุ่งสง ถนนเพชรเกษม ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 27 ต.ค.64 ที่ผ่านมา โดยการนำของ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 ,กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2564 เวลาประมาณ 17.03 น. ได้มีคนร้ายใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแมคไฮแลนเดอร์ แบบตอนครึ่ง สีเทาดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน กธ 5263 (ป้ายรถยนต์คันอื่น) ขับประกบแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนด์เงิน  ทะเบียน ขก -720 สุราษฎร์ธานี เป็นเหตุให้นายวีระยุทธ  ขุนอินทร์ (คนขับ)  และ น.ส.วราภรณ์  เพียรดี ภรรยา(นั่งเบาะหลัง)  เสียชีวิตภายในรถยนต์ และ ด.ช.วสิษฐ์พล  ขุนอินทร์ บุตรชาย(นั่งหน้ารถ)ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดถนนเพชรเกษม 403  สายตรัง - ทุ่งสง  ม.2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จว.ตรัง หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป     

เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม M16 ก่อเหตุบนถนนหลวง ในเวลากลางวันอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย อีกทั้งยังมีเด็กซึ่งนั่งมาในรถถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย  และคดีเป็นที่สนใจของประชาชนและผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร.และ ภ.9 โดย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้มาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ร่วมกับ ผบช.ภ.9 ,ผบก.ภ.จว.ตรัง,ผบก.สส.ภ.9  และชุดสืบสวนที่รับผิดชอบในการสืบสวนคดีนี้ ให้สืบสวนคลี่คลายคดีนี้ให้จงได้ 

ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.ฯและชุดสืบสวนได้ร่วมกันตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณสถานที่เกิดเหตุ และเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคดีนี้ จนกระทั่งทราบว่า คนร้ายใช้รถยนต์กรบะ ยี่ห้ออีซูซู รุ่นดีแมคไฮแลนเดอร์ แบบตอนครึ่ง สีเทาดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน กธ-5263 นครศรีธรรมราช  (สวมป้ายรถยนต์เก๋งคันอื่น) เป็นรถคนร้ายคันที่ใช้ยิงผู้ตาย

และพบว่ามีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนด์เงิน ทะเบียน กบ-1409 ตรัง  เป็นรถที่ขับนำทางรถกระบะมือปืน มาจาก ต.แก้วแสน อ.นาบอน จว.นครศรีฯ  เมื่อ 7 ก.ย.64 เพื่อมาเข้าที่พักรถที่ ม.10 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จว.ตรัง และนำทางพารถกระบะมือปืนออกจากที่พัก กลับ อ.นาบอน จว.นครศรีฯ เมื่อ 10 ก.ย.64  ต่อมา 27 ก.ย. 64  ทราบว่า สภ.นาบอน จว.นครศรีฯ รับแจ้งเหตุมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบตอนครึ่งถูกเผา บนถนนในสวนยางพารา  ม.1 ต.แก้วแสน อ.นาบอนฯ จากการตรวจสอบแล้วเป็นรถคันเดียวกันกับรถยนต์กระบะของคนร้าย ที่ใช้ยิงผู้ตายในคดีนี้ เนื่องจากมีลักษณะเหมือนกัน มีตำหนิของรถตรงกันทุกประการ จึงตรวจยึดมาเป็นของกลางในคดีนี้ และได้สืบสวนเกี่ยวกับเจ้าของรถทราบว่า เจ้าของรถเป็นคนเกาะลันตา จว.กระบี่ ได้นำไปจำนำในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ แล้วรถหลุดจำนำ มีการขายต่อไปอีกรวม 7 ทอด โดยจากการสืบสวนสอบทราบว่าผู้ครอบครองรถมือปืนทอดสุดท้ายคือ นายชำนิฯผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม  ซึ่งทราบว่า จนท.ตร.มาตรวจสอบกล้องวงจรปิดแถวบ้านจึงนำรถไปเผาทำลายหลักฐานดังกล่าว 

นอกจากนี้ชุดตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังตรวจสอบพบว่าหลังจากที่รถกระบะมือปืนที่พักรถที่ อ.ห้วยยอด จว.ตรัง แล้ว นำรถออกมาดูลาดเลาในวันที่ 8 ก.ย.64 และวันที่ 9 ก.ย.64 นำออกจากที่พัก อ.ห้วยยอด ไปก่อเหตุยังสถานที่เกิดเหตุ ที่ อ.รัษฎา ซึ่งห่างออกไปเพียง 10 กม. มีการไปวนผ่านบ้านของผู้ตายหลายรอบแล้วไปจอดรถดักรอผู้ตายบริเวณ จุดกลับรถแยกทางเข้า รร.บ้านหนองม่วง ซึ่งอยู่ก่อนถึงบ้านผู้ตายราว 1 กม. โดยผู้ตายเดินทางมาจากทำธุระที่ อ.ทุ่งสง จว.นครศรีฯ กับภรรยาและบุตรชาย แล้วมากลับรถที่บริเวณดังกล่าว ได้ถูกคนร้ายซึ่งดักรออยุ่แล้วประมาณ 33 นาที ได้ขับรถติดตามรถของผู้ตายและประกบยิงรถของผู้ตายทางด้านขวา ด้วยอาวุธปืน M16 จนรถเสียหลักตกข้างทาง ก่อนถึงบ้านของผู้ตายเล็กน้อย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบุตรชายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปทางแยกควนเมา อ.รัษฎา แล้วเลี้ยวซ้ายไปทาง ต.วังหิน อ.บางขัน จว.นครศรี แล้วหลบหนีต่อไปอีก 30 นาที จึงขับรถกลับเข้าที่พักที่ อ.ห้วยยอด  ต่อมาวันที่ 10 ก.ย.64 ก่อนเที่ยงวัน จึงมีรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส มานำรถยนต์กรบะมือปืน พากลับไปยัง อ.นาบอน จว.นครศรีฯ          

 

ลูกสาวสนิทกับพ่ออย่างเหมาะสม จะทำให้เด็กผู้หญิงมั่นใจมากขึ้น มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนและชีวิต!!

ผลวิจัยล่าสุดจาก University of Illinios พบว่า ลูกสาวที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อ มักเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความมั่นใจ, พึ่งพาตัวเองได้, เห็นคุณค่าของตัวเอง, มีความมั่นคงทางอารมณ์, รู้จักรักษาสิทธิ์ของตัวเอง (Assertive), รู้สึก relax กว่าในการมีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม รู้ว่าควรวางตัวอย่างไรจึงจะเหมาะสม และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนและชีวิตด้วย 

พ่อจึงเป็น Role Model และ "รักแรก" ของลูกสาว ลูกสาวอาจขอคำปรึกษาพ่อในเรื่องที่ใหญ่ๆ มากกว่า เช่น การเลือกมหาวิทยาลัย การตั้งเป้าหมาย การบริหารเงิน การตัดสินใจครั้งสำคัญๆ หรือทัศนคติในการใช้ชีวิต เป็นต้น

คำชื่นชมของพ่อ มักมีน้ำหนักและมีค่าต่อใจลูกเพราะโดยมาก แม่มักจะชื่นชมลูกบ่อยๆ และมักใช้ประโยคยาวๆ แต่โดยธรรมชาติของผู้ชายมักชมสั้นๆ และไม่ชมพร่ำเพรื่อ ทำให้เวลาชมแล้วลูกจะรู้สึก proud มากแสดงว่าเรื่องนี้มันคงสำคัญจริงๆ

ลูกสาวมักเอาพ่อเป็นแบบอย่างในการเลือกคู่ครอง ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาวดี พ่อให้เกียรติแม่ ยอมรับลูก ลูกสาวก็มักจะเลือกผู้ชายที่รัก, ยอมรับและให้เกียรติเธอเหมือนพ่อ 

ผลวิจัยยังพบว่า ลูกสาววัยรุ่นที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อ มักจะมีความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์น้อยกว่าลูกสาวที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อ

ตร. เตือน! ‘ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์’ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หลอกให้ตกใจ สูญเงินในพริบตา!!

วันที่ 28 ต.ค. 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ที่ผ่านมาพบว่าได้มีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างตนเองเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์จากธนาคาร หรือแสดงตนเป็นข้าราชการระดับสูง หรือ นายตำรวจระดับสูง โทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างว่า บัญชีธนาคารถูกอายัด หรือบัญชีธนาคารของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น พัวพันกับการจำหน่ายยาเสพติด การค้าของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ ฯลฯ จากนั้นจะให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยโอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จะถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและความผิดอื่นที่มีอัตราโทษจำคุก ทำให้ผู้เสียหายตกใจหลงเชื่อและพยายามแสดงความบริสุทธิ์ โดยโอนเงินให้กับคนร้าย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย

ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว โดยได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 8 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 5 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งกรณีดังกล่าวมีความเสียหายมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องให้เจ้าของบัญชีธนาคารโอนเงินมาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นบัญชีธนาคารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่อาจใช้อำนาจตามกฎหมายทำการตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารหรืออายัดเงินในบัญชีธนาคารดังกล่าว

 

กระทรวง อว.ไฟเขียวปลดล็อก ไม่กำหนดระยะเวลาจบการศึกษาทุกปริญญา เรียนไม่จบแต่ผลการเรียนถึงเกณฑ์ไม่ต้องถูกรีไทร์ ตอบโจทย์การเรียนยุคใหม่ หนึ่งในโปรเจกต์ “12 เดือน 12 ดี อว.”

ศาสตราจารย์ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา (กมอ.) มีมติยกเลิกการกำหนดเวลาเรียนปริญญาในระดับอุดมศึกษาทุกระดับ เพื่อตอบโจทย์การเรียนของนักศึกษา และนับเป็นหนึ่งในโครงการ 12 เดือน 12 ดี กระทรวง อว.ว่า 

ยกเลิกการกำหนดเวลาเรียนปริญญาในระดับอุดมศึกษาทุกระดับ เป็นไปตามนโยบายของ นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับการกำหนดระยะเวลาสำเร็จการศึกษาแบบเดิม ระดับปริญญาตรี 4 ปี ไม่เกิน 8 ปี ปริญญาโท 2 ปี ไม่เกิน 5 ปี ปริญญาเอก 3 ปี ไม่เกิน 6 ปี ด้วยเหตุผลคือรีบเรียนรีบจบ 

แต่ทุกวันนี้โลกเปลี่ยน เทคโนโลยี สังคม ที่เราจะพัฒนาคน ก็เปลี่ยนไป เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Liftlong Learning ซึ่งการกำหนดระยะเวลา ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาคน เพราะระหว่างเรียน เด็กอาจไปทำงาน หรือหาประสบการณ์ต่างๆ ข้างนอกห้องเรียน ตามความจริงการเรียนปัจจุบัน ต้องออกไปทำงาน ทำภาคเอกชน เดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ตัวเองและกลับมาเรียนหนังสือก็จะได้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น เพราะฉะนั้นเราไม่ควรจำกัดการศึกษาด้วยเวลา

รองปลัดกระทรวง อว. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีต้องชี้แจงว่ายังมีการรีไทร์อยู่ หากเรียนไปแล้วแต่ผลการเรียนไม่ถึงเงื่อนไข แต่หากเรียนได้ผลการเรียนดี แต่ถึงระยะเวลาที่กำหนดก็สามารถเรียนต่อได้ 

ยุทธการ "พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้" จับกุม 3 เครือข่าย ผู้ต้องหา 12 คน ของกลางยาบ้า 263,010 เม็ด ยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ทรัพย์สิน มูลค่าประมาณ 8,422,000 บาท

วันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 (หน.กม) /รับผิดชอบ ศอ.ปส.(ยาเสพติด) ร่วมกัน แถลงผลการจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดรายสำคัญ ร่วมกับ พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.สุรินทร์, พล.ต.วีระยุทธ  รักศิลป์ ผบ.กกล.สุรนารี/ผอ.กอ.รมน.ภาค2 สย.2 , พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญภายใต้ "ยุทธการ พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้" ประกอบด้วย

1) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 08.30 น. ชุด ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และฝ่ายปกครอง ร่วมกันจับกุมตัว นายธนายุทธ หรือนา ขอสงวนนามสกุล และน.ส.ชุตินันท์ หรือเปิ้ล   ขอสงวนนามสกุล พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 71 เม็ด จึงได้ขยายผล ทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ด จากนั้น วันที่ 23 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 07.00 น. ได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน นายกิตติพงษ์ หรือโอ๊ต  ขอสงวนนามสกุล (คนขับรถ) และ นางสาวปิยธิดา หรือฟีฟ่า ขอสงวนนามสกุล (นั่งข้างคนขับ) ซึ่งขับรถยนต์ (กระบะแค็ป) ยี่ห้ออีซุซุ รุ่นดีแม็ค สีขาว หมายเลขทะเบียน ผษ 1293 อุบลราชธานี มาส่งยาบ้า 4,000 เม็ด และค้นรถ พบยาบ้า 208,000 เม็ด รวมยาบ้า 212,000 เม็ด รวมของกลางทั้งหมด ยาบ้า 212,071 เม็ด ผู้ต้องหา 4 คน ตรวจยึดทรัพย์สิน รถยนต์ 5 คันและเงินสด มูลค่าประมาณ 1,900,000 บาท เหตุเกิด บนถนนทางหลวง 24 บ้านตาคง ตำบลตาคง อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 

2) เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ชุด ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์ สนธิกำลังร่วมกับ ชปข.กก.ตชด.21, ชปข.ร้อย ตชด.217, ชุดสืบสวน สภ.รัตนบุรี, เจ้าหน้าที่ชุด ขกท.ศปก.ทบ. (มว.ขกส.2 ขกท.กกล.สุรนารี) เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.สังกัด ปปส.ก.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิด ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ จำนวน 4 ราย ผู้ต้องหา 4 คน คือ นายสหกล ขอสงวนนามสกุล จับตามหมายจับศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ 38/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานร่วมกันสมคบฯ และฟอกเงิน สถานที่จับกุม บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 13 (บ้านโพธิ์ทอง) ตำบลนาตาล อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี น.ส.ทัศนีย์ ขอสงวนนามสกุล ตามหมายจับศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ 41/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานร่วมกันสมคบฯ และฟอกเงิน ณ บ้านเลขที่ 151 หมู่ที่ 13 ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี น.ส.นิตยา ขอสงวนนามสกุล จับตามหมายจับศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ 40/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันสมคบฯ และฟอกเงิน ณ บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 14 ตำบลม่วงใหญ่ อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี และนายธวัชชัย ขอสงวนนามสกุล จับตามหมายจับศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ 39/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันสมคบฯ และฟอกเงิน ภายในห้องหมายเลข 6 หอพักไม่ทราบซื่อ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สิน บ้านพักอาศัย จำนวน 3 หลัง รถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 6 คันรถแทรคเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ 1 คัน เครื่องอัดฟาง 1 เครื่อง รถจักรยานยนตร์ 4 คัน วัตถุคล้ายทองรูปพรรณ 3 รายการ สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ดินจำนวน 4 ไร่ มูลค่าประมาณ 500,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ประมาณ 6,350,000 บาท 

3) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม2564 เวลาประมาณ 08.30 น. ชุด ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังประกอบด้วย ชปข.กก.ตชด.21, ชุด ชปข.ร้อย ตชด.217 ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิด ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 4 คน ได้แก่ นายประครอง ขอสงวนนามสกุล น.ส.รัชนีกร ชอสงวนนามสกุล นายนครินทร์ ขอสงวนนามสกุล และนายธีรศักดิ์ ขอสงวยนามสกุล พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 20,934 เม็ด เหตุเกิด บนถนนทางหลวงสายรัตนบุรี - โพธิ์ศรีสุวรรณ พื้นที่ สภ.ดอนแรด อ.รัตนบุรี จว.สุรินทร์ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ประมาณ 172,000 บาท การจับกุมฯ ครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้านการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังทั้งระบบ โดยเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ความสำคัญกับกระบวนการ มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ปราบปราม แหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งพื้นที่แนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน

 

ลำปาง - ด้วยความห่วงใย! ‘นายก อบจ.ลำปาง’ มอบน้ำดื่ม - แมส - เจลแอลกอฮอล์ แก่ผู้รับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายลัพธวิทย์ จรรยาวิจิตร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง นายภูมิสิทธิ์ อัครธรรมศิลป์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง อำเภอเมืองลำปาง เขต 5 และนางฉันทพัฒน์ โนปิง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง อำเภอเมืองลำปาง เขต 6 นำน้ำดื่ม หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์มอบแก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านฟ่อน ซึ่งได้จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เชิงรุกแก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 400 คน ณ วัดบ้านฟ่อน ตำบลชมพู อำเภอเมืองลำปาง  โดยมีสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเขลางค์นคร จำนวน 11 ท่านร่วมลงพื้นที่และพบปะประชาชน

นายกตวงรัตน์ กล่าวว่า "มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีน ถึงแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ก็ยังต้องระมัดระวังตัว  รักษามาตรการป้องกันเช่นเดิม สวมแมส รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือ ป้องกันทั้งคนที่เรารักและตัวเราเองให้ปลอดจากโควิด-19" 

นราธิวาส - สุไหงโก-ลก ออกกฎเหล็ก! ไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในฐานะ ผอ.ศบค.อ.สุไหงโก-ลก มีมติออกมาตรการให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาอย่างน้อย 1 เข็ม จากแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม หรือ ไลน์หมอพร้อมมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ยกเว้นกรณีเร่งด่วนด้านการแพทย์ หรือ มีเหตุจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากตรวจสอบพบว่ายังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อย่างเด็ดขาด โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 64 เป็นต้นไป

จากการตระเวนตรวจสอบที่จุดตรวจจุดสกัด 3 แห่ง ที่มุ่งหน้าจาก อ.ตากใบ สู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดตรวจจุดสกัดบ้านน้ำตก และเส้นทางที่มุ่งหน้าจาก อ.แว้ง สู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดตรวจจุดสกัดบ้านบือเร็ง รวมทั้งเส้นทางที่มุ่งหน้าจาก อ.สุไหงปาดี สู่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ จุดตรวจจุดสกัดบุณยลาภนฤมิตร มีเจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการ อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ไทยอาสาป้องกันชาติ หรือ ทสปช. แยกย้ายกันตรวจสอบประชาชนที่ขับยานพาหนะทุกชนิดผ่านจุดตรวจ ด้วยการขอตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากแอปพลิเคชั้นหมอพร้อม หรือ ไลน์หมดพร้อม มายื่นยันต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ว่าผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาแล้ว และมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่เคยผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตเทศบาลโดยเด็ดขาด แต่หากต้องการเข้ามีกิจธุระจำเป็น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้รอที่จุดตรวจจุดสกัด เพื่อประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลก นำวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาบริการฉีดให้ถึงที่ แต่ทุกคนให้การปฏิเสธขอกลับภูมิลำเนา เพื่อไปฉีดวัคซีนตามโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแต่ละแห่ง ซึ่งมีบริการออกหน่วยฉีดให้กับประชาชนทุกวัน

นอกจากนี้แล้ว ณ อาคารรื่นอรุณ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ยังมีมาตรการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดด่านพรมแดน 2 แห่ง คือ ด่านพรมแดน อ.ตากใบ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับด่านพรมแดนเป็งกาลังกูโบ และด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อ.แว้ง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับด่านพรมแดนบูกิตบุหงา ประเทศมาเลเซีย ไปมาหาสู่กันในวันที่ 1 พ.ย. 64 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจส่วนใหญ่ จะมุ่งหน้ามาใช้บริการตามสถานประกอบการต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อาทิ ร้านอาหาร ตลาดสด แผงลอย สถานีขนส่งรถประจำทาง และสถานประกอบการโรงแรมต่าง ๆ ที่อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ได้ขอความร่วมมือจากเจ้าของกิจการและผู้ประกอบการต่างๆข้างต้นทุกแห่ง มาทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK หรือ ANTIGEN TEST KIT หากพบว่ามีผลเป็นบวก แพทย์จะประเมินอาการและให้ยาต้านเชื้อไวรัสมากินที่บ้านเป็นเวลา 5 วัน พร้อมทั้งจะมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง และเมื่อผล RT – PCR ออกมาแล้ว จะประสานให้ไปพบแพทย์อีกครั้งที่คลีนิค ARI ของโรงพยาบาล

ลำปาง - มทบ.32 ร่วมลงนาม MOU แก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จ และแม่นยำ ในพื้นที่ลำปาง

วันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 14.00 น.พลตรีอโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ "การพัฒนาระบบสนับสนุนการทำงานเชิงพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำพื้นที่จังหวัดลำปาง"  โดยมีนายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย รศ.ดร.กิตติศักดิ์ สมุทธารักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และผู้แทน 23 หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดลำปาง ร่วมพิธีฯ ณ ห้องประชุมโอฬารรมย์ ชั้น 1 อาคารโอฬาร โรจน์หิรัญ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง

ปทุมธานี - “บ๊กแจ๊ส” เร่งให้การช่วยเหลือ หลังเกิดเพลิงไหม้โรงงานโฟมนวนคร เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 16:15 น. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ นิติรัฐพัฒนคุณ สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ในนวนคร ที่บริษัทโปลิโฟมไฮเท็คส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 60/94 หมู่ที่19 ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี ภายหลังรับแจ้งเหตุ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประสานงานไปยังสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าโขลง ,รถดับเพลิงเทศบาลเมืองคลองหลวง และบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ข้างเคียงกว่า 20 คัน และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ,นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง ,ว่าที่ร้อยตรีพิชญะ เพียราช ปลัดอำเภอคลองหลวง .พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.เสกสรรค์ บัวเรือง รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง เร่งให้การช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุเป็นภาพมุมสูง บริเวณพื้นที่เกิดเพลิงไหม้นั้น เป็นโรงงานประกอบกิจการค้า และผลิตโฟม ,เม็ดพลาสติก .พลาสติกบรรจุภัณฑ์ และฉนวนกันความร้อน ในเนื้อที่ 3 ไร่ โดยมีพนักงานทำงานอยู่จำนวน กว่า 50 คน

โดยเจ้าหน้าที่พบแสงเพลิง และกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่ ที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลกว่า 10 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องเร่งระดมฉีดน้ำกันจ้าระหวั่น เพื่อเร่งสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามโรงงานข้างเคียง แต่เชื้อเพลิงเป็นโฟมและแกนกระดาษจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และป้องกันไม่ให้เพลิงลุกไหม้ ไปยังโกดังเก็บสินค้าที่อยู่ด้านใต้ โดยรถดับเพลิงต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำ สกัดเพลิงกระทั่งล่าสุดเวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และอยูในวงจำกัด ในเบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่า ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

 

ตำรวจ PCT จับกุม! ‘แก๊ง Romance Scam’ หลอกลงทุนผ่านแอปฯ Thai dairy เสียหายกว่า 20 ล้านบาท!!

วันนี้ (27 ต.ค.64) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ, พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ขนาดนิด รอง ผบ.กต.8 จต./ หัวหน้าชุดวิเคราะห์ PCT ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊ง Roman Scam หลอกลงทุนแอปพลิเคชัน Thai dairy ผู้ต้องหา 2 คน ผู้เสียหายกว่า 50 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 20 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่าผู้เสียหายทั้ง 53 ราย ได้รับข้อความชักชวนร่วมลงทุนทำธุรกิจหารายได้เสริมที่บ้าน โดยเป็นลิงค์เข้าแอปพลิเคชันไลน์ Open chat ซึ่งในนั้นจะมีคนร้ายซึ่งเป็นแอดมินชวนให้ร่วมลงทุนต่าง ๆ เช่น การอ่านโฆษณาของแบรนด์สินค้า เช่น Lazada , Alibaba ฯลฯ ผ่านแอปพลิเคชัน Thai dairy และต้องโอนเงินตามแพ็คเกจที่คนร้ายให้มา จากนั้นภายใน 10 นาที จะให้ผลตอบแทนกลับไป 10-20% แล้วแต่แพ็คเกจ

โดยในช่วงแรก ๆ ที่ลงทุนน้อย ๆ จะได้กำไรจริง แต่เมื่อลงเป็นจำนวนมากแล้ว ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ซึ่งคนร้ายจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่าง ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายรับซื้อบัญชีมาจากที่ต่าง ๆ กว่า 127 บัญชี หลายธนาคาร และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับคนร้ายที่เป็นคนกดเงินจากบัญชีต่าง ๆ ได้จำนวน 2 ราย และยังขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 1 ราย ซึ่งพบว่ามีการกระทำในลักษณะนี้ในแอปพลิเคชันอื่นด้วย

 

 

ตำรวจ PCT จับผู้ต้องหา Hybrid scam หลอกซื้อขายทองคำ มูลค่าความเสียหาย 25 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ ,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา Hybrid Scam เครือข่ายแก็งค์หลอกลงทุนซื้อขายทองคำ จำนวน 12 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า มีกลุ่มคนร้ายได้หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนซื้อขายทองคำผ่านแอพพลิเคชั่น MetaTrader5 และแพลทฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยคนร้ายได้ใช้โปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติหน้าตาดีมาพูดจาจนผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนผ่านโบรกเกอร์ปลอม โดยใชเงินลงทุนต่ำและได้รับผลกำไรสูงในระยะเวลาอันสั้น มูลค่าความสียหายรวมกว่า 25 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ได้สืบสวนจนสามารถจับกุม น.ส.กมลทิพย์ (สงวนนามสกุล) กับพวกรวม 12 ราย ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” ซึ่งขณะนี้ได้ขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 11 ราย

ตำรวจ PCT รวบม้ากดเงิน!! แก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงสร้างความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

วันที่ 26 ต.ค.64 เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊ง Call center 5 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากถูกคนร้ายโทรศัพท์เข้ามาหาผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูง หรือ นายตำรวจระดับสูง และแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนร่วมกับคดีค้ายาเสพติดและฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของคนร้าย ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป  มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 14 ล้านบาท จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการเทคนิคและสืบสวนที่ 1  PCT สืบสวนสอบสวนจนพบว่าเครือข่ายแก๊ง Call center แบ่งหน้าที่กันเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้

1. คนร้ายระดับสั่งการ จำนวน 2 ราย

2. คนร้ายทำหน้าที่เป็นม้าถอนเงิน จำนวน 2 ราย

3. คนร้ายทำหน้าที่จัดการทางการเงินหรือ โพยก๊วน จำนวน 1 ราย

4. คนร้ายทำหน้าที่จัดหาบัญชีและเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 ราย

5. คนร้ายที่ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย อยู่ระหว่างสืบสวน น่าเชื่อว่าตั้งอยู่ต่างประเทศ

จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ สน.พญาไท ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุรับคำร้องทุกข์ ดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งศาลอาญา ได้อนุมัติหมายจับคนร้ายจำนวน 8 ราย จับกุมได้แล้ว 5 ราย ส่วนที่เหลือจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว จากการตรวจค้นพบ บัตรอิเลกทรอนิกส์ จำนวน 32 ใบ , เครื่องบันทึกข้อมูล Chip Card จำนวน 1 เครื่อง , คอมพิวเตอร์จำนวน 1 เครื่อง โดยผู้ต้องหาแต่ละคนรับว่าตนเองมีหน้าที่ตามคำสั่งของหัวหน้า เช่น ให้ไปถอนเงินจากบัญชี , ให้จัดหาบัญชี , ให้ฝากเงินไปยังบัญชีอื่นๆต่อ โดยผู้ต้องหาจะได้รับส่วนแบ่งจากเงินที่ถอนออกมา 2 – 3 % แล้วแต่หน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดเทคนิคและสืบสวนที่ 1 จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top