Thursday, 3 July 2025
Hard News Team

5 วิธีโปรโมทเที่ยวไทยให้ปังแบบ 'รัสเซล โครว์' ไม่ต้องอวยจนเอียน แต่เนียนจนใครก็อยากไป

นายเถกิง สมทรัพย์ อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'เถกิง สมทรัพย์' เผย 5 ข้อคิดการโปรโมทท่องเที่ยวไทย หลังเลนส์ดาราฮอลลีวูดอย่าง 'รัสเซล โครว์' ไว้อย่างน่าสนใจและควรทำตาม ว่า... 

แกกลับไปแล้ว...>> อะไรที่ควรคาดหวัง

1.) รัสเซล โครว์ นำเสนอเมืองไทยแบบนักท่องเที่ยว ไม่นำเสนอแบบ “นายแบบรับจ้างโปรโมท” ที่ถ่ายทำสวยงามแบบเฟก ๆ

2.) จุดที่นำเสนอผ่านทวิตเตอร์ เป็นแบบ “ธรรมชาตินักเที่ยว” ทั่วไป ไม่เน้นถ่ายทำสวย ๆ หรือบรรยายอะไรหรูหรา

3.) ไม่เน้นจุดท่องเที่ยว ไฮเอนด์ ตามแบบฉบับดาราดัง ๆ คนอื่น จึงทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

4.) มุมมองเมืองไทยผ่านสายตาของรัสเซลคือ เมืองไทยทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่เมืองไทยแบบในโฆษณาท่องเที่ยวเนี้ยบ ๆ

5.) คนรับทราบความเคลื่อนไหวของรัสเซลผ่านทวิตเตอร์ จะได้ความรู้สึกว่า “มาเมืองไทยได้ง่าย ๆ สบาย ๆ เป็นมิตรไม่ต้องกังวลเรื่องควอรันทีนแบบอึดอัดเข้มงวด”

‘นัท นิสามณี’ แต่งเลียนแบบพระพุทธเจ้า โลกโซเชียลวิจารณ์หนัก จวกไม่เหมาะสม

ดราม่าร้อน! นัท นิสามณี สะบัดแปรง แต่งหน้าแต่งตัวเป็นพระพุทธเจ้า ในวันฮาโลวีน โลกโซเชียลรุมจวกไม่เหมาะสม เสี่ยงนรก เล่นกับความเชื่อของชาวพุทธ

กลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียล สำหรับ ‘นัท นิสามณี’ บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ‘สะบัดแปรง’ หลังเจ้าตัวได้แต่งหน้าแปลงโฉมเลียนแบบพระพุทธเจ้า ต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวีน 31 ตุลาคม พร้อมเขียนแคปชั่นภาพว่า ‘#สะบัดแปรงHalloween...Look5 Buddha’

โดย นัท นิสามณี ได้เผยด้วยว่า ‘นัทไม่ได้กล้าทำอะไรทั้งนั้น มองในแนวคอนเซ็ปต์ของงานนี้ นัททำทุกศาสนาที่นัทหาข้อมูลได้ แต่งไปเล่าไป มองแบบเปิดใจดู ความศรัทธา ศักดิ์สิทธิ์ แก่นคำสอนไม่ได้เปลี่ยนเลยจากการมีคนทาแต่งตัวเป็นพระ ทำขนมพระเครื่อง หรือเอาปลักขิดมาเป็นพร็อพแต่งบ้าน ยึดที่หลักคำสอนไหมว่า อะไรคือหนทางพ้นทุกข์ หากมองให้เกิดปัญญา ปัญญาก็จะเกิด หากมองให้เกิดปัญหา ปัญหาก็จะเกิด’

“แรมโบ้” ยุ ปชช. ต้าน “ม็อบ 3 นิ้ว” เคลื่อนไหว ชี้ทำลายบรรยากาศดี ช่วงเปิดประเทศ ซัด พวกหนักแผ่นดิน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎร นำโดยรุ้ง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เมื่อวันที่31 ต.ค.ที่แยกราชประสงค์ว่า ตนเชิญชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่ม 3 นิ้ว ออกมาประณามการชุมนุม เนื่องจากทำให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว รวมถึงจะทำให้ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ภาคธุรกิจ มีรายได้  แต่มีกลุ่มม็อบ 3 นิ้วออกมาชุมนุม ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วย และทำให้ประชาชนเสียโอกาสทำมาหากิน 

นายเสกสกล กล่าวว่า การที่แกนนำออกมาเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมืองและยกเลิกมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเพราะหากมีการกระทำความผิดก็ต้องได้รับโทษ หากไม่ลงโทษถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากกล้าที่จะทำความผิดต้องกล้าที่จะถูกลงโทษ ขณะเดียวกันประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศก็คงไม่ยอมให้มีการยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 

และการออกมาชุมนุมในขณะนี้ และจะเคลื่อนไหวมายังทำเนียบรัฐบาลเป็นการทำลายประเทศ ทำลายประชาชนที่กำลังจะได้รับโอกาสจากการเปิดประเทศ โดยไม่นึกถึงคนทั้งประเทศเอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ขอเรียกร้องให้หยุดการเคลื่อนไหว และให้ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ 3 นิ้วที่คิดว่าจะได้ประโยชน์จากการสนับสนุนเป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง ควรหยุดพฤติกรรมนี้ และหันมาช่วยกันทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองรุ่งเรืองบ้าง

‘พระมหาไพรวัลย์’ โพสต์เหน็บแรง ไม่เคยทำเดรัจฉานวิชา - ปลุกเสกผ้ายันต์

เป็นประเด็นดราม่าเดือดต่อเนื่อง หลัง “พระมหาไพรวัลย์” ไลฟ์สดประกาศเตรียมสึก โดยระบุถึงเหตุผลสืบเนื่องมาจาก อาณาจักรรุกเข้ามาควบคุมศาสนจักรมากเกินไป หลัง พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส

'จุรินทร์' ประกาศ ไทยยื่นสัตยาบัน RCEP แล้ว ตั้งเป้าต้นมกราคม 65 มีผลบังคับใช้ ลุยการค้า-การส่งออก ตลาดใหญ่ของโลก 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แถลงข่าวเรื่อง RCEP หลังจากที่สมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 15 ประเทศได้ร่วมลงนาม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการให้สัตยาบัน RCEP( Regional Comprehensive Economic Partnership) โดยกติกาข้อตกลง RCEP ซึ่งมีสมาชิกปัจจุบัน  15 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน 10 ประเทศ กับอีก 5 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งได้มีการเจรจาและเป็นที่ยุตติเมื่อปี 2562 ขณะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมกันเสร็จสิ้นแล้วในเวลานั้น แต่ว่ายังไม่มีผลบังคับใช้ เพราะเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คือ อย่างน้อยในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศต้องมีไม่น้อยกว่า 6 ประเทศให้สัตยาบัน และประเทศนอกสมาชิกอาเซียนที่มี 5 ประเทศอย่างน้อย 3 ประเทศร่วมให้สัตยาบัน รวม 3 + 6 ก็เป็น 9 ประเทศ ขณะนี้ในกลุ่มประเทศอาเซียนมีแนวโน้มว่าจะให้สัตยาบันครบ 6 ประเทศแล้ว ประกอบด้วย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชาและเวียดนาม รวมทั้งประเทศ ไทย ได้ยื่นให้สัตยาบันแล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยยื่นต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนที่ประเทศอินโดนิเซีย ส่วนประเทศนอกสมาชิกอาเซียน มีจีนกับญี่ปุ่นยื่นไปแล้ว ถ้ามีอีกหนึ่งประเทศ ก็ถือว่าครบตามเงื่อนไข ซึ่งคาดว่าต้นปีหรือเดือนมกราคม 65  ข้อตกลง RCEP จะบังคับใช้ในประเทศสมาชิก 15 ประเทศต่อไป ซึ่งจะมีผลให้ RCEP กลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันถึง 2,300 ล้านคน คิดเป็น 30% ของประชากรโลก และทำให้กลุ่มประเทศ RCEP มีจีดีพี 33.6% ของจีดีพีโลก หรือ 1 ใน 3 ของจีดีพีโลก มูลค่าการค้าประมาณ 30% ของมูลค่าการค้าโลก ถ้ามีผลบังคับใช้ก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศสมาชิกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทย 

" ยกตัวอย่าง เช่น ประเด็นที่1 การส่งออกภาษีเป็นศูนย์อย่างน้อย 39,366 รายการ โดยลดเหลือศูนย์ จำนวน 29,891 รายการทันทีที่บังคับใช้ ประเด็นที่2 ตลาด RCEP จะเป็นการเพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าไทยหลายรายการ เช่น ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นต้น ประเด็นที่3 ไทยจะได้รับการอำนวยความสะดวกทางการค้าโดยเฉพาะในการส่งออก  เมื่อสินค้าไปสู่ด่านถ้าเป็นสินค้าเน่าเสีย ผู้ค้าจะต้องปล่อยสินค้าภายในเวลา 6 ชั่วโมง จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกผลไม้ ผักและสินค้าเน่าเสียหลายรายการของไทย

โฆษกรัฐบาลเผย บรรยากาศเปิดประเทศส่งสัญญาณบวก   นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้าไทย นักเรียนเริ่มเข้าเรียนวันแรกในบางพื้นที่แล้ว นายกฯ สั่งคุมเข้ม ทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า จากการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศต่าง ๆ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีนักท่องเที่ยวจากสายการบินต่างประเทศต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าไทย โดยเที่ยวบินแรกที่เดินทางเข้าไทย คือเที่ยวบิน ที่ NH 805 เดินทางจากสนามบินโตเกียวนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผู้โดยสาร 43 คน เป็นคนไทย 32 คน และชาวต่างชาติอีก 11 คน โดย ทั้งหมดถูกตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นซึ่งเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปฏิบัติงานด้วยความรัดกุมสวมชุด PPE อำนวยความสะดวก ตรวจสอบเอกสารและคัดกรองผู้โดยสารตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด  

โดยวันนี้จะมีทั้งหมด 61 เที่ยวบินที่เป็นเที่ยวบินโดยสารส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินจากยุโรปเป็นหลัก ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 2,300 คนและคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศอีกบางส่วนรวมมีคนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 3,000 คน รวมวันที่ 1-5 พ.ย.นี้ มีสายการบินต่างชาติทั่วโลกที่จะทำการบินเข้า และออกประเทศไทย มีทั้งหมด 27 สายการบิน มีผู้โดยสารรวม 15,230 คน

ขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการ รายงานบรรยากาศการเปิดเรียนวันแรก ในหลายพื้นที่ ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานมาโรงเรียนหลังจากเริ่มทำการเปิดทำการเรียนการสอนในวันแรกท่ามกลางการรักษามาตรการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 โดยเน้นการให้ความมั่นใจว่าโรงเรียนทุกแห่งที่ได้เปิดการเรียนการสอน มีความพร้อมทั้งในเรื่องการเรียนการสอน รวมถึงเรื่องความปลอดภัยซึ่งให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

'นายก ฯ' เสริมแกร่ง Soft Powerไทย   ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขัน e-Sport เติมสิทธิประโยชน์ให้กองถ่ายต่างประเทศที่เข้าถ่ายทำในประเทศไทย สร้างรายได้แล้วกว่า 3.4 พันล้านบาท

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  มุ่งส่งเสริมการใช้ “Soft power” ส่งออกวัฒนธรรมไทยผ่านการออกแบบ ศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ กีฬา ซอฟแวร์ และดนตรี เพื่อส่งเสริมความเป็นไทย สินค้าแบรนด์ไทย ท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้ให้กับประเทศและสร้างความสามารถในการแข่งขันในอนาคต  โดยตัวอย่างหนึ่งของความสำเร็จ คือโครงการนำร่องการแข่งขันกีฬาเจ็ตสกี ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ขับเคลื่อนจนยกระดับเป็นการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีอันดับที่ 1 ของโลก WPG#1 World Series เป็นลิขสิทธ์แบรนด์ไทย เติบโตครอบคลุมทั้งทวีปยุโรป และทวีปอเมริกา

โดยในปี 2019 ได้มีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความสวยงามของประเทศไทย สู่เครือข่ายแฟนกีฬานับพันล้านคน 54 ชาติ 20 ภาษา มีนักกีฬาและทีมนานาชาติเข้าร่วมจำนวนกว่า 3,000 คน และสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้กว่า 700 ล้านบาท ส่วนแผนกลยุทธ์สำหรับการเดินหน้าต่อคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท  เพราะจะมีการต่อยอดด้วยการสร้างทัวร์นาเมนต์อื่นๆในประเทศ การขับเคลื่อนกีฬาและธุรกิจ และการขยายอุตสาหกรรมกีฬาแบรนด์ไทย

ล่าสุด นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันผลักดันและสนับสนุนอุตสาหกรรม e-sports ของไทยอย่างเต็มที่ ตั้งเป้าให้เป็นสถานที่แข่งขันในระดับโลก ซึ่งขณะนี้กีฬา e-sport ถือเป็นกีฬาอาชีพอย่างเป็นทางการแล้ว และเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ของประเทศไทยด้วย โดยนอกจากการจัดแข่งกีฬาอีสปอร์ตแล้ว การสนับสนุนต้องให้ครอบคลุมการส่งเสริมพัฒนาสมาคมกีฬาและนักกีฬาe-sport  และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมด้วย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยถึงมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ โดยรัฐบาลกำหนดให้หากมีการถ่ายทำและใช้จ่ายในประเทศไทย 50 ล้านบาทขึ้นไป จะได้สิทธิประโยชน์เงินคืน 15 % บวกสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเลือกรวมได้ไม่เกินอีก 5%  ได้แก่ 1) การจ้างบุคคลากรหลักของไทย (Key Personnel) เป็นคณะทำงานในการถ่ายทำภาพยนต์ (+3%) 2) ส่งเสริมการท่องเที่ยววัฒนธรรมหรือภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย (+2%) 3) ถ่ายทำภาพยนตร์ในจังหวัดเมืองรอง (+3%) 4)  ถ่ายทำในประเทศไทยก่อน 31 ธ.ค. 65 และใช้จ่ายในประเทศไทย 100 ล้านบาทขึ้นไป (+5% )  

“บิ๊กตู่” ปลื้ม ประชาชนตอบรับเก็บตกคนละครึ่งหลังเพิ่งเปิดลงทะเบียนเพิ่ม 1.1 แสนสิทธิ เพียงไม่กี่ชั่วโมง เต็ม 28 ล้านสิทธิแล้ว คลังเตรียมพิจารณาเฟส4 ต้นปี65 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ โฆษกรัฐฯชวนประชาชนเช็ค “เป๋าตัง” เงินเข้าแล้ววันนี้ 1,500

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า หลังจากที่วันนี้ (1 พ.ย.64) กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ประชาชนให้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เพื่อเก็บตกผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จที่ผ่านมาจาก 28 ล้านสิทธิ มีจำนวน ทั้งสิ้น 119,974 สิทธิ นั้น ทราบว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เปิดให้สามารถลงทะเบียนได้ตอนนี้สิทธิเต็มครบจำนวนแล้ว โดยผู้ที่ลงทะเบียนในรอบนี้ จะได้รับโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน ส่วนผู้ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 อยู่แล้ว จะได้รับวงเงินเพิ่มอีก 1,500 บาทต่อคน โดยอัตโนมัติ ในวันนี้ (1 พ.ย.) เช่นเดียวกัน และสามารถใช้จ่ายในโครงการได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ซึ่งขณะนี้มีบริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ GRAB LINEMAN และ TRUE FOOD โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มแล้ว กว่า 65,000 ราย

 

'ราเมศ' ย้ำ! พรรคไม่มีนโยบายแก้ มาตรา 112 ชี้ คิดดีทำดีต่อบ้านเมืองไม่ควรกลัวกฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองกล่าวถึงมาตรา 112 ว่าในส่วนของพรรคชัดเจน พรรคไม่มีนโยบายที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวนั้นไม่ได้ไปสร้างความเสียหายความไม่เป็นธรรมให้กับใคร ต้องมองที่การกระทำของบุคคลมากกว่าตัวบทกฎหมาย หากมีการกระทำที่เป็นความผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดส่วนตัว ไม่ใช่กฎหมายมีปัญหา ความคิดและการกระทำของคนต่างหากที่มีปัญหา เมื่อมีการก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

และชัดเจนมาตรา 112 ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อหลักนิติธรรมหรือรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะขัดใจผู้คิดไม่ดีต่อบ้านเมือง หากมีการยื่นร่างแก้ไขมาตรา 112 ต่อรัฐสภา พรรคพร้อมค้านเต็มที่ พรรคการเมืองใดยื่นแก้ไข ให้กลับไปอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ดี ที่ได้เคยวินิจฉัยอธิบายความสำคัญของ มาตรา 112 

มาตรา 112 ไม่ได้เป็นปัญหาตามที่มีผู้บิดเบือน การเสนอแก้มาตรา 112 ต่อสภาฯ พรรคการเมืองไหนใครอยากทำก็ไม่มีใครห้ามได้ ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เรามีหลักการชัดคือ ยึดมั่นในระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีแนวคิดในการยกเลิก ยื่นเข้าสภาเมื่อใด ก็ต้องสู้กัน เราสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

'เพื่อไทย' ดันแก้ ม.112-116 ในสภาฯ ฟื้นเชื่อมั่นระบบยุติธรรมไทย

1 พ.ย. 64 - จากกรณีคณะราษฎร ม็อบ 31 ตุลา 64 เรียกร้องต่อคณะตุลาการ เพื่อคืนสิทธิประกันตัว ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง พร้อมเรียกร้องต่อรัฐสภาให้ดำเนินการพิจารณาแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น

นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ออกจดหมายเปิดผนึกผ่านเพจพรรคเพื่อไทย ยืนยันเจตนารมณ์ว่า พรรคเพื่อไทย พร้อมนำข้อเสนอแก้กฎหมาย 112 และ 116 เข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภา นับเป็นการย้ำเจตนารมณ์ที่ได้กล่าวเอาไว้ในงาน “พรุ่งนี้เพื่อไทย” ที่ได้เรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิด เพื่อฟื้นฟูหลักนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top