“ธนกร” ยัน พ.ร.ฏ. อภัยโทษ เป็นตามหลักเกณฑ์ ด้าน “นายกฯ” ย้ำ กฏหมายต้องถูกต้อง-โปร่งใส-เรียกความเชื่อมั่นและปชช. พร้อมโต้ "สมหมาย" อย่าจ้องตีรัฐบาล แนะ วิจารณ์ให้สมคุณวุฒิ-วัยวุฒิ แนะ ทำตัวให้คนรุ่นหลังสรรเสริญ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการตามกฎหมาย ว่าด้วยการอภัยโทษ ว่า ไม่พบความผิดพลาดหรือความบกพร่องในกระบวนการตรา พระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พ.ศ. 2564 ที่เป็นการให้ประโยชน์แก่ผู้ต้องโทษเป็นการทั่วไป และขั้นตอนการเลื่อนชั้นนักโทษเด็ดขาดเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามกฎหมายกำหนด คณะกรรมการฯ ได้มีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงแนวทางในการจัดชั้น เลื่อนชั้นให้ชัดเจนมากขึ้น และให้นำพฤติการณ์ความร้ายแรงหรือความเสียหายต่อสังคมที่บุคคลนั้นได้ก่อขึ้น มาประมวลร่วมกับผลการพัฒนาพฤตินิสัย รวมทั้ง คณะกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดให้มีระยะเวลาปลอดภัย (ระยะเวลาขั้นต่ำ) ในการรับโทษของผู้ต้องขังที่จะต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 8 ปี แล้วแต่ระยะเวลาใดถึงก่อน มาเป็นเกณฑ์ก่อนได้รับประโยชน์จากการบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ และลดสัดส่วนในการเสนอขอพระราชทานอภัยโทษ รวมทั้งกำหนดให้คดีทุจริตร้ายแรงได้รับประโยชน์น้อยลงกว่าเดิม
นายธนกร กล่าวว่า นายกฯขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในการทำงานของฝ่ายยุติธรรม ซึ่งเป็นการทำงานที่ต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน เป็นธรรม โปร่งใส เป็นการทำงานเพื่อความตอบโจทย์ด้านความเชื่อมั่นของคนทั้งประเทศ และรัฐบาลดำเนินตามกระบวนการทำงานที่มีขั้นมีตอน ครอบคลุม ตรวจสอบได้ ยืนข้างความถูกต้องมาโดยตลอดจึงขอให้เชื่อในความตรงไปตรงมาของรัฐบาล
นอกจากนี้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายสมหมาย ภาษี อดีตรมว.คลัง ระบุว่ารัฐบาลไร้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเสนอให้ยุบสภาฯ ว่า ไม่อยากเชื่อว่าเป็นความคิดของอดีตขุนคลังของประเทศ เพราะไม่ต่างอะไรกับพวกที่ชอบเสนอความเห็นแบบเอามัน ไม่คำนึงถึงหลักการความเป็นจริง อย่าเอาความน้อยใจ ความโกรธ หรืออคติ มาเป็นตัวตั้งในการกระแนะกระแหนโจมตีรัฐบาล และควรจะกลับไปทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาในอดีตของท่านเป็นอย่างไร สิ่งที่เคยคิดว่าดี เมื่อครั้งที่อยู่ในตำแหน่งได้ทำอะไรไปบ้างหรือไม่ และสำเร็จอย่างที่คิดจริงหรือไม่ เพราะนายสมหมายถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคนหนึ่ง ควรวิพากษ์วิจารณ์หรือเสนอแนะให้สมกับคุณวุฒิและวัยวุฒิของท่านด้วย
นายธนกร กล่าวว่า สิ่งที่นายสมหมาย เขียนพรรณนาหรือเสนอแนะนั้นไม่ได้มีอะไรใหม่ หากตั้งสติให้ดีจะพบว่าเป็นเรื่องปกติของเศรษฐกิจโลก เมื่อมีสงครามและโรคระบาดเกิดขึ้น ซึ่งกระทบต่อประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย หรือราคาสินค้าสูงขึ้น หน่วยงานทางเศรษฐกิจหรือแม้แต่เด็กมหาวิทยาลัยที่นายสมหมายพูดถึงเขาก็คิดออกเหมือนกัน แต่สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่หรือวางแผนไว้นั้นนายสมหมายคงไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ใน ครม. จึงกลายเป็นการวิจารณ์แบบเหวี่ยงแหไปเรื่อย นายสมหมายจึงน่าจะหยุดคิดทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาทำถูกต้องแล้วหรือไม่ เพราะผ่านประสบการณ์มาก็มาก หรือทางที่ดี ควรพักผ่อนอยู่กับบ้าน ไม่ควรออกมาทำอะไรให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานเขามองว่าไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จะได้หลงเหลือคุณค่าให้คนรุ่นหลังได้ยกย่องสรรเสริญบ้าง