Sunday, 28 April 2024
Hard News Team

‘อัครเดช’ จี้ ‘เศรษฐา’ เร่งแก้ปัญหา กากสารเคมีอุตสาหกรรม ชี้!! บังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน ต้องรีบจัดการ หวั่นก่อปัญหาระยะยาว

(28 เม.ย. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เมื่อวานนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่นายกรัฐมนตรีจะได้ไปเห็นสภาพปัญหาจริงที่เกิดขึ้นว่า เรื่องกากสารเคมีอุตสาหกรรมเป็นปัญหาใหญ่และกระทบกับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ทราบอยู่แล้วว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะที่จังหวัดระยอง และหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี ก็อาจจะเกิดปัญหาเช่นนี้ซ้ำขึ้นได้อีกในอนาคต ดังนั้นตอนนี้เป็นโอกาสดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้กำชับหน่วยงานรัฐได้เร่งสำรวจโรงงานประเภทนี้ทั้งหมดทั่วประเทศ และเข้าไปบริหารจัดการ

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหาในระยะยาว ที่จะต้องมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จริงจัง เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาเรื่องการกำกับดูแลผู้ประกอบ กรณีการที่ประกอบกิจการรับกำจัดกากของเสียจากอุตสาหกรรมไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานของภาครัฐ ต้องดำเนินการจริงจัง ต้องไม่ปล่อยให้เกิดความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย การรับสินบน การทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้นนายกรัฐมนตรีต้องเร่งไปดำเนินการจัดการ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เป็นปัญหาในระยะยาวได้” นายอัครเดช กล่าว

ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม ยังได้เรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีอีกว่า ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญสำหรับกรณีที่จังหวัดระยอง นายกรัฐมนตรีต้องเร่งให้การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากควันพิษ หรือผลกระทบจากสารพิษ เพราะปัจจุบันเข้าใจว่าการแก้ปัญหาในพื้นที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งสะท้อนได้จากการที่ประชาชนยังมีการออกมาร้องเรียนถึงความล่าช้าจากการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม และจังหวัดระยอง ฉะนั้นตอนนี้นายกรัฐมนตรีต้องลงมากวดขันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนเร่งด่วน และที่สำคัญต้องไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ในพื้นที่อื่นอีก เพราะถือว่าที่จังหวัดระยองเป็นบทเรียนที่สำคัญที่ผู้ประกอบการกำจัดกากสารเคมีอุตสาหกรรมแล้วทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ จะด้วยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ดี

“ดังนั้นต้องมีมาตรการการรองรับกรณีแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมถึงต้องเร่งดำเนินการกับกากสารเคมีที่เหลืออยู่ ตลอดจนต้องดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนี้อย่างจริงจัง ว่าเกิดเพราะอะไร มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่” นายอัครเดช กล่าว

เปิดโปร์ไฟล์ 5 รมต.ใหม่ รัฐบาลเศรษฐา ดีกรีไม่ธรรมดา ผ่านงานใหญ่ มาอย่างโชกโชน

(28 เม.ย. 67) หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1/1 มีรัฐมนตรีใหม่ป้ายแดงเข้ามาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ 5 คน จากพรรคเพื่อไทย 4 คน ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และจากพรรคพลังประชารัฐ 1 คน คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์

แต่ละคนมีโปรไฟล์น่าสนใจ ดังนี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2492 อายุ 75 ปี ปริญญาตรี พาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท บริหารธุรกิจ Indiana University of Pennsylvania สหรัฐอเมริกา

เคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ กรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย นายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานกรรมการ และกรรมการ กลุ่มบริษัท บางจาก 3 แห่ง ที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

15 ก.ย.2566 นายกฯ แต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

11 ม.ค.2567 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีวาระ 3 ปี

6 ก.พ.2567 นั่ง ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 18

24 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ยื่นลาออกจากประธานบอร์ด ตลท. และทุกตำแหน่งในกลุ่มบริษัท บางจาก

เพื่อมารับตำแหน่งเสนาบดีเกรดเอ ในเก้าอี้ รองนายกฯและรมว.คลัง
ภารกิจหลักเพื่อช่วยรัฐบาลเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ประกาศเงินจะเข้ากระเป๋าประชาชนในไตรมาส 4

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ชื่อเล่น อ๊อฟ เกิด 22 ก.พ.2526 อายุ 41 ปี
จบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัลเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท บริหารธุรกิจ ม.แมสซาชูเซตส์ บอสตัน ปริญญาโท และปริญญาเอก เศรษฐศาสตร์ ม.อิลลินอย ชิคาโก

รับราชการที่สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ลาออกมาทำงานการเมืองในพรรคเพื่อไทย เป็นทีมงานให้กับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค เป็นรองเลขาธิการพรรค ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 และขยับขึ้นดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในปี 2566

หนึ่งในบุคคลที่มีส่วนผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และร่วมเป็นกรรมการนโยบายโครงการดังกล่าว จากเลขานุการรมว.คลัง ปรับครม.หนนี้เลยได้ขยับสู่รมช.คลัง

นายพิชิต ชื่นบาน รมต.สำนักนายกฯ อายุ 65 ปี ชาวปราจีนบุรี จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) ม.รามคำแหง ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ สาขากฎหมายมหาชน เนติบัณฑิตไทย ปริญญาเอก บริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

เป็นทนายความและที่ปรึกษากฎหมายให้เอกชนชื่อดังหลายบริษัท เป็นหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดี ให้ครอบครัวชินวัตร ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยถูกรัฐประหาร ปี 2549 ทีมทนายความต่อสู้คดีให้ 4 อดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เคยเป็นประธานที่ปรึกษากฎหมายให้พรรคไทยรักษาชาติ ตอนจัดตั้งรัฐบาลเศรษฐา 1 มีชื่อติดโผ รมต.สำนักนายกฯ มาแล้ว แต่ถูกจับตาเรื่องคุณสมบัติ ปมถุงขนม 2 ล้าน เจ้าตัวไม่อยากให้การตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ เลยยอมถอย ก่อนได้นั่งที่ปรึกษานายกฯ ปรับครม.เศรษฐา 1/1 จึงได้ขึ้นนั่งรัฐมนตรีครั้งแรก

น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกฯ ชื่อเล่น ‘น้ำ’ เกิดวันที่ 1 ก.ย. 2530 อายุ 37 ปี
ลูกสาวคนโตของ นิสิต สินธุไพร อดีตสส.ร้อยเอ็ด และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จบ ปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต ม.อัสสัมชัญ ปริญญาโท 2 ใบ รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และธุรกิจระหว่างประเทศ เกียรตินิยมอันดับ 2 มหาวิทยาลัยเรดดิ้ง ประเทศอังกฤษ

เคยเป็นนักวิชาการพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ลงสมัครสส.ครั้งแรกในปี 2562 ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงเป็นอันดับที่ 1 ของร้อยเอ็ด ปี 2562 เป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ถึงการเลือกตั้ง 2566 ชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในยุค แพทองธาร ชินวัตร นั่งหัวหน้าพรรค และเป็นวิปรัฐบาล ประเดิมเก้าอี้รัฐมนตรีครั้งแรกกับตำแหน่ง รมต.สำนักนายกฯ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์อายุ 40 ปี เกิดเมื่อ 7 ส.ค. 2527 ที่อ.พนมสารคาม ฉะเชิงเทรา ลูกชายของ อิทธิ ศิริลัทธยากร อดีตรมช.คมนาคม
จบปริญญาตรี ด้าน Communication Arts จาก ม.กรุงเทพ ปริญญาโท Marketing Management จาก MIDDLESEX UNIVERSITY ประเทศอังกฤษ 

ทำธุรกิจส่วนตัว ปี 2554 จึงลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.สมัยแรก ต่อมาเลือกตั้งปี 2562 ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ลง สส.บัญชีรายชื่อ ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง มิ.ย.2564 ได้รับเลือกเป็น กก.บห.พรรคพลังประชารัฐและโฆษกพรรค

ปี 2567 ถูกพรรคขับพร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แล้วย้ายไปสังกัดพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เป็นรองหัวหน้าพรรค ที่สุดย้ายกลับพลังประชารัฐพร้อมร.อ.ธรรมนัส อีกครั้ง
ปรับครม.ครั้งนี้ ไผ่ ลิกค์ ติดปัญหาคุณสมบัติ ผู้กอง จึงดัน อรรถกร นั่งเก้าอี้รมช.เกษตรฯ แทน

เปิดข้อมูล ฟาดใส่ คนให้ร้าย ทำลายประเทศชาติ จากคลิป ‘กระxรี่อยู่ไหน’ ชี้ชัด!! ทหารสหรัฐฯ ตั้งใจมา ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เพลิดเพลินกับซอฟต์พาวเวอร์

(28 เม.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง’ ได้โพสต์ข้อความ ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อชี้แจง กรณีมีผู้ที่เล่นสนุกด้วยความคึกคะนอง ไม่สนใจความเสียหายของประเทศไทย ทำคลิป  ‘กระxรี่อยู่ไหน’ ดูหมิ่นประเทศไทย โดยได้ให้ข้อมูลอีกมุม ระบุว่า ...

คนที่เล่นมุก " กระxรี่อยู่ไหน, Soft power พัทยา " หนูขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ เผื่อจะคิดอะไรได้บ้าง

บนเรือรบสหรัฐมีทหารและเจ้าหน้าที่รวมกว่า 6,000 คน เป็นผู้หญิง 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 คน และ มีผู้หญิงไทย ที่ได้กรีนการ์ดเป็นทหารประจำการบนเรือด้วยค่ะ

เรือรบลำนี้ไม่ได้เทียบท่ามากว่า 4 เดือน ทำให้บางครอบครัวของทหาร บินมาไทยเพื่อหวังได้เจอหน้าทหาร ที่เป็นลูกหรือสามีตามแต่ละครอบครัว

ทหารส่วนใหญ่จึงตั้งใจมาพักผ่อน ท่องเที่ยวและเพลิดเพลินกับซอฟต์พาวเวอร์ทางวัฒนธรรมจริงๆ ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวที่เขารัก

ดังนั้น การจะเล่นมุกเพื่อความสนุกปากหรือความสะใจ ตีขลุมว่ามา6พันคนแล้วจะมาเที่ยวผู้หญิงอย่างเดียวมันเป็นการไม่ให้เกียรติทั้งคนของเขาและผู้หญิงไทยเองด้วยค่ะ

ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่มีทหารไปเที่ยวผู้หญิง แต่การชี้นำไปแต่เรื่องเหยียดเพศ เหยียดอาชีพ แบบนี้หนูว่ามันไม่ได้เป็นผลดีกับประเทศชาติเลย

ถ้าไม่รักประเทศ ขอให้คิดถึง ผู้หญิงไทยที่ทำงานบนเรือด้วยค่ะ พวกเธอจะรู้สึกอย่างไรที่พยายามทำชื่อเสียงให้ประเทศ แต่คนในชาติบางคนพยายามเหยียบย่ำเธอให้จมดิน ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณภาพ Defense Info TH

'ไดโดมอน' ปิ้งย่างสุดฮิตยุค 80 ปิดสาขารองสุดท้ายที่ 'เซ็นทรัลอุบลฯ' เหลือสาขาเดียวที่ 'รังสิต' จากเคยบูมกว่า 60 สาขาเมื่อ 23 ปีที่แล้ว

(28 เม.ย. 67) เฟซบุ๊กเพจ ‘Daidomon’ ประกาศปิดสาขาเซ็นทรัลอุบล โดยจะให้บริการถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เป็นวันสุดท้าย ระบุข้อความว่า “ขออภัยในความไม่สะดวก Daidomon Korean Grill สาขาเซ็นทรัลอุบล ขอแจ้งปิดบริการ โดยให้บริการถึงวันที่ 30 เม.ย. 67 เป็นวันสุดท้าย ขอขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนทางร้านมาด้วยดีเสมอ โดยท่านสามารถใช้บริการสาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต : ชั้น B โซนโรบินสัน ได้ตามปกติ”

สำหรับ ‘ไดโดมอน’ เป็นร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2526 นับเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแห่งแรกๆ ในไทย เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหนึ่ง ก่อนที่ บริษัท ฮอทพอท จำกัด (มหาชน) จะเข้าซื้อกิจการ บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 เพื่อเติมพอร์ตร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่าง จากเดิมที่เน้นสุกี้-ชาบูเพียงอย่างเดียว

ไม่นานหลังจากนั้น บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) ของตระกูล “เตชะอุบล” ก็ทำการเข้าซื้อกิจการฮอทพอทในปี 2561 จึงมีการเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น บริษัท เจซีเค ฮอสพิทัลลิตี้ จำกัด (มหาชน) โดยมีเป้าหมายในการบุกสมรภูมิร้านอาหารที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดเพียงบุฟเฟ่ต์ สุกี้ หรือปิ้งย่างอีกต่อไป หลังจากนั้นเราจึงได้เห็นความหลากหลายของพอร์ตธุรกิจในกลุ่มเจซีเคที่มีตั้งแต่อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน ไปจนถึงอาหารอิตาเลียน

อย่างไรก็ตาม หากดูผลประกอบการของกลุ่มเจซีเคที่ผ่านมาพบว่า ยังเผชิญกับภาวะขาดทุนทุกปี หากนับย้อนตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2565 พบว่า ขาดทุนสะสมกว่า 1.3 พันล้านบาท โดยมีรายละเอียดรายได้ 4 ปีหลัง ดังนี้

ปี 2562: รายได้ 1,397 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 158 ล้านบาท
ปี 2563: รายได้ 701 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 142 ล้านบาท
ปี 2564: รายได้ 440 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 257 ล้านบาท
ปี 2565: รายได้ 547 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 214 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจหลักของกลุ่มเจซีเค มี ฮอทพอท เป็น Core Business ครองสัดส่วนรายได้เกิน 50% ของโครงสร้างรายได้ทุกปี ทว่า ปัจจุบันร้านฮอทพอทมีเพียง 4 แห่งทั่วประเทศ โดยมีสาขาในกรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น จับตาดูสถานการณ์กันต่อไปว่า เจซีเคจะมีแผนปรับเกมเช่นไร ในช่วงเวลาที่ตลาดร้านอาหารแข่งขันกันดุเดือดเช่นนี้

‘ธนกร’ ฟาดใส่ ‘ธนาธร-ช่อ’ หยุดชี้นำชวนสมัคร สว. ผ่านเว็บ ย้ำ!! ถ้าอยากได้ สว.‘อิสระ-เป็นปชต.’ ก็ไม่ควร ออกมาเคลื่อนไหว

(28 เม.ย. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ออกประกาศเตือนไปถึงกลุ่มบุคคลและตัวแทนองค์กร ที่จัดแคมเปญให้มีการจูงใจ หรือชี้ชวน รวบรวมบุคคลจากหลากหลายอาชีพรวม 20 กลุ่ม ให้เป็นผู้เสนอตัวสมัครเข้ารับการเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ โดยมีผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการเลือกเป็นส.ว. จำนวนมากได้กรอกข้อมูลส่วนตัว จุดยืนวิสัยทัศน์ ลงในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้จัดแคมเปญรวบรวมข้อมูลนั้น อาจเข้าข่ายเป็นการจัดตั้งบุคคลให้มาเป็นผู้สมัครรับเลือกส.ว. อาจเข้าข่ายมีความผิดกฎหมาย

นายธนกร กล่าวว่า หากกกต.มีเหตุสงสัยว่าการเลือกไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกและสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ได้ทันที หากพบว่าผู้สมัครรับเลือกเป็นส.ว.ยินยอมให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ใดช่วยเหลือเพื่อให้ได้รับเลือกต้องถูกระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับ ตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นด้วย ซึ่งท้ายที่สุด จะทำให้การเลือกส.ว.มีปัญหาในหลายอำเภอ หลายจังหวัด โดยมองว่า จะมีการร้องเรียนกันไปมาวุ่นวายทั้งประเทศและส่งผลทำให้ได้ส.ว.ชุดใหม่ ล่าช้าออกไป

“ขอฝากไปถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช และแกนนำที่ออกมาเปิดแคมเปญเชิญชวนให้คนมาสมัครเป็นส.ว.กันเยอะๆ และยังมีการให้กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์นั้น กกต.ออกโรงเตือนแล้วขอให้ระมัดระวัง อย่าทำผิดกฎหมายเสียเอง ถ้าอยากเห็นส.ว.ชุดใหม่ มีที่มาโดยสุจริต ถูกต้องและโปร่งใส เลือกกันเองใน 20 วิชาชีพ ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงหรืออยู่เบื้องหลัง ตามเจตนารมย์ประชาธิปไตยจริงๆ ก็ไม่ควรออกมาเคลื่อนไหว สุดท้ายเกรงว่าจะได้ส.ว.จัดตั้งในร่างทรงฝ่ายการเมืองบางกลุ่มมากกว่า” นายธนกร กล่าว

ดนตรีในสวน ‘เฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.10’ วันนี้ที่ ‘สวนรถไฟ’ จัดอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ปชช. ได้สัมผัสกับ บทเพลงพระราชนิพนธ์

(28 เม.ย. 67) ทุกวันที่ 28 ของทุกเดือน ตลอดปี พ.ศ.2567 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กำหนดให้จัดกิจกรรมดนตรีในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยความร่วมมือของกรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร รวมถึงเหล่าศิลปิน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมรับฟังบทเพลงอันไพเราะและทรงคุณค่า

เช่น เพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และบทเพลงทั่วไป ในบรรยากาศสวนสวยใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดปีมหามงคล และเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ

โดยในวันที่ 28 เม.ย.2567 กิจกรรมดนตรีในสวน มีกำหนดจัดขึ้น ณ สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ ประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป นอกจากบทเพลงจากวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์แล้ว ยังมีกลุ่มศิลปินนำโดย คุณโฉมฉาย อรุณฉาน และศิลปินรุ่นใหม่ จากการประกวดในรายการเพลงเอกร่วมขับร้องบทเพลงอันไพเราะ เช่น ธัช กิตติธัช แชมป์รายการเพลงเอกซีซัน 1 แบ๊งค์ เฉลิมรัฐ จุลโลบล แชมป์รายการเพลงเอกซีซัน 2 เซม ภานุรุจ พงพิทักษ์กุล แชมป์รายการเพลงเอกซีซัน 3 และ โอ๋ ชุติมา แก้วเนียม ผู้ร่วมประกวดรายการเพลงเอกซีซัน 2

ในปีมหามงคลนี้ ทางคณะกรรมการฯ ก็ขอเชิญชวนประชาชนคนไทย ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยเข้าร่วมกิจกรรมที่รัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ พร้อมใจจัดขึ้นตลอดทั้งปีนี้

สำหรับการจัดกิจกรรมดนตรี นับเป็น Soft Power สาขาหนึ่ง จาก 11 สาขา ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และเป็นสื่อกลางที่สร้างความสามัคคีกลมเกลียวของคนในชาติ ช่วยส่งเสริมความรัก ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุขภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

‘กรมอุตุ’ โต้ข่าวปลอม เมืองไทยร้อน ถึงเดือนกันยาฯ แจง!! กลางเดือนพฤษภาฯ จะเริ่มมีฝนตก มาคลายร้อน 

(28 เม.ย. 67) ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ ได้เผยแพร่และแจ้งเตือน วิกฤตโลกอากาศสุดขั้วไทยร้อนต่อถึงเดือนกันยายน นั้น กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงว่า

ฤดูร้อนของประเทศไทย โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ของทุกปี รวมระยะเวลาราว 2 เดือนครึ่ง โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่โลกเคลื่อนที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์จะทำมุมตั้งฉากกับเขตโซนร้อนพอดี (เนื่องจากประเทศเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมาก)

โดยเฉพาะเดือนเมษายน บริเวณประเทศไทย ดวงอาทิตย์จะอยู่เกือบตรงศีรษะในเวลาเที่ยงวัน ทำให้ได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์เต็มที่ ในช่วงฤดูร้อน ทิศทางลมมีความแปรปรวน บางวันลมมีกำลังอ่อน ประกอบกับมักมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมอยู่เป็นประจำ จึงทำให้อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิบางวันสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

แต่พอเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมที่มีความชื้นพัดปกคลุมประเทศไทย ลมนี้ยังช่วยระบายอากาศร้อน และทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นโดยทั่วไป ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิของอากาศคลายความร้อนลงได้

ดังนั้นเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงปลายของฤดูฝน โดยปกติจะมีฝนตกชุกเกือบทุกภาคของประเทศไทย อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศจะไม่สูงนัก เนื่องจากมีฝนตก ความชื้นสูง มรสุมมีกำลังแรง สถานการณ์ความร้อนจะคลื่คลายลง จึงไม่เกิดวิกฤตโลกอากาศสุดขั้วไทยร้อนถึงกันยายน

หากมีสภาพอากาศที่คาดว่าจะมึความรุนแรงและมีผลกระทบ กรมอุตุนิยมวิทยา จะออกประกาศให้ทราบทันที และขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศเป็นระยะๆ

‘บีทีเอส’ เร่งเยียวยา ผู้โดยสาร 3 รายที่ติดลิฟต์ ‘สถานีแบริ่ง’ พร้อมรับผิด ขอปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อให้ ‘สะดวก-ปลอดภัย’ 

(28 เม.ย. 67) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้เปิดเผย ถึงกรณีผู้โดยสารติดลิฟต์ของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แบริ่ง (E14) ในช่วงเวลา 17.21 น. ของเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.)ว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้โดยสารจำนวน 3 ราย ติดอยู่ภายในลิฟต์ ทางเจ้าหน้าที่ของสถานีจึงได้ดำเนินการประสานงานไปยังฝ่ายซ่อมบำรุงเพื่อเร่งแก้ไขในทันที

ทั้งนี้ได้เตรียมการปฐมพยาบาล และช่วยเหลือผู้โดยสาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้เร่งดำเนินการแก้ไขลิฟต์ และช่วยเหลือผู้โดยสารทั้ง 3 ราย ออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่พบว่าผู้โดยสารมีอาการอ่อนเพลีย จึงได้ดำเนินการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ณ ห้องปฐมพยาบาลของสถานีแบริ่ง เมื่อผู้โดยสารมีอาการดีขึ้นจึงได้เดินทางต่อไป

บริษัทฯ กราบขออภัยผู้โดยสาร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางครั้งนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินการเยียวยาผู้โดยสารทั้ง 3 ราย และจะปรับปรุงระบบการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความสะดวก และปลอดภัยกับผู้โดยสารมากที่สุด

ทั้งนี้หากผู้โดยสารพบเห็น หรือประสบเหตุลิฟต์ขัดข้องสามารถแจ้ง ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส
โทรศัพท์ 02 – 617- 6000 Line official : @btsskytrain

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนสายใต้สะดือ ต้องระวัง 4 ภัยมิจฉาชีพ ที่พุ่งเป้ามาที่คุณ

วันนี้ (28 เมษายน 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มีเป้าหมายเป็นบรรดาหนุ่มสาวสายใต้สะดือ หรือผู้ที่มีชื่นชอบในพฤติกรรมกามารมณ์ โดยใช้กลวิธีต่าง ๆ ในการหลอกลวงเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน หรือแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากผู้เสียหาย

ซึ่งภัยมิจฉาชีพที่พุ่งเป้ามาที่บรรดาสายใต้สะดือ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

1. “หลอกโอนเงินค่าซื้อ-ขายบริการทางเพศ” มักจะมาในรูปแบบเพจหรือกลุ่มลับนัดซื้อ-ขายบริการทางเพศ เมื่อติดต่อไปก็จะชักชวนให้เลือกคู่นอน โดยมีภาพหญิงสาวให้เลือกหลายคน เมื่อเหยื่อตัดสินใจเลือกแล้ว คนร้ายจะให้ติดต่อเพื่อนัดหมาย โดยจะใช้กลอุบายต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินให้ก่อน เช่น ต้องจองเวลา ต้องจ่ายค่าห้อง ต้องจ่ายค่าเดินทาง หรือถ้าโอนเงินมาก่อนจะได้รับโปรโมชันพิเศษ เป็นต้น

2. “หลอกถ่ายคลิปลามกอนาจาร” มักจะมาในรูปแบบบัญชีหนุ่มหล่อสาวสวย คุยสร้างความสัมพันธ์ จากนั้นจะชักชวนให้วิดีโอคอลขณะสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง หากหลงเชื่อก็จะถูกบันทึกภาพขณะทำกิจกรรมดังกล่าว จากนั้นมิจฉาชีพก็จะส่งคลิปมาข่มขู่เพื่อเอาทรัพย์สิน แลกกับการไม่เผยแพร่คลิปวิดีโอ

3. “หลอกชวนมีเพศสัมพันธ์” มักจะมาในรูปแบบบัญชีหนุ่มหล่อสาวสวย คุยสร้างความสัมพันธ์ จากนั้นจะนัดให้ไปร่วมหลับนอน ซึ่งเมื่อพบตัวจริงอาจไม่ตรงกับรูปในโปรไฟล์ หรือถ้าแย่กว่านั้น อาจตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ เช่น การชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ การข่มขืน หรือการแอบถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

4. “หลอกขายภาพ-คลิปลามก” มักจะมาในรูปแบบบัญชีหนุ่มหล่อสาวสวย เพจคนกลางซื้อขาย หรือกลุ่มลับต่าง ๆ ชักชวนพูดคุย อ้างว่าถ้าจ่ายเงินให้ จะส่งภาพและคลิปลามกของตนเองหรือหนุ่มสาวในสังกัดให้ดู แต่เมื่อจ่ายเงิน กลับได้แค่ภาพทั่วไป ไม่ได้ภาพและคลิปลามก จากนั้นคนร้ายหลอกเรียกเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  อ้างว่าเป็นค่าประกันความเสี่ยงต่าง ๆ จนเหยื่อได้รับความเสียหายจำนวนมาก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในรูปแบบดังกล่าว และขอให้คอยสอดส่องบุตรหลานของท่านและบุคคลในครอบครัว ที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงโดยมิจฉาชีพที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และสำหรับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

‘นิด้าโพล’ เผย ปชช. ไม่เชื่อ ‘พ.ร.บ.กลาโหมฯ’ จะป้องกันรัฐประหารได้ มองเหตุการณ์ยึดอำนาจปี 57 ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ของประเทศไทย 

(28 เม.ย. 67) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง หยุดรัฐประหาร! ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน 2567 โดยเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมจะช่วยป้องกันการรัฐประหาร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 51.83 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 25.73 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 12.52 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 6.72 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 3.20 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

และเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับการทำรัฐประหารในปี 2557 จะเป็นครั้งสุดท้ายของประเทศไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 61.83 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 20.38 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 8.24 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 6.11 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 3.44 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top