Thursday, 28 March 2024
Hard News Team

‘จุลพันธ์’ แง้ม!! 10 เมษา ‘ดิจิทัล วอลเล็ต’ ชัดเจน ยัน!! ประชาชนได้ใช้เงิน 1 หมื่น ไม่เกินสิ้นปี 67

(25 มี.ค.67) ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงข่าวรายละเอียดความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า คณะอนุกรรมการในการเสาะหาความจริงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ได้ดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว ได้เตรียมนัดหมายประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ โดยมีไทม์ไลน์ชัดเจนขึ้นทุกวัน 

ในภาพใกล้ ๆ นี้ 27 มีนาคม จะนัดหมายคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำเนียบ เพื่อที่คณะอนุกรรมการในการเสาะหาความจริง จะมารายงานเรื่องความคืบหน้า และสิ่งที่หน่วยงานต่าง ๆ ตอบคำถามมาแล้ว ได้มีการส่งคำถามไปไม่ต่ำกว่า 100 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นภาควิชาการ ประชาชน หอการค้า สภาอุตฯ ส่งคำตอบกลับมาเกือบครบถ้วน แต่ยังเปิดให้ตอบถึง 29 มีนาคมนี้ โดยจะนำความคืบหน้า รายงานที่ประชุม ข้อเสนอแนะ ป.ป.ช. เข้าที่ประชุม รับทราบ และมอบหมาย นำเสนอ โดย ก.คลัง เรื่องปัญหาที่เกิดต่าง ๆ หากลไกเดินหน้า ให้ คกก.ได้รับทราบหลังจากนั้น มอบหมายให้ส่วนงานดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึง คกก.ขับเคลื่อน มาประชุม และสรุปส่ง คกก.ชุดใหญ่

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 10 เมษายน คณะกรรมการชุดใหญ่ สรุปรายละเอียดโครงการทั้งหมด เงื่อนไขทั้งหมด ส่งคณะรัฐมนตรีพิจารณา เห็นชอบ เดินหน้าต่อไป โดยขณะนี้กรอบการทำงาน พิจารณารอบคอบแล้ว ทั้งกรอบกฎหมาย ตัวเงิน และเทคนิค ระบบต่าง ๆ คร่าว ๆ 

ทั้งนี้ ไตรมาส 3 ปีนี้ จะมีการลงทะเบียน ร้านค้า ประชาชน ระบบค่อนข้างพร้อมแล้วในช่วงนั้น ขณะที่ไตรมาส 4 ก่อนสิ้นปี จะมีการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้ถึงมือประชาชนทุกคน อยู่ในกรอบที่กำหนดไว้

นายจุลพันธ์ย้ำว่า ในวันที่ 10 นี้ จะชัดเจนทุกอย่าง ยืนยันเดินหน้า ถึงมือประชาชนภายในปีนี้ สำหรับเงื่อนไขนั้น คิดว่าไม่ได้เปลี่ยน กรอบเดิม 50 ล้านคน แต่มีรายละเอียดเล็กน้อย ที่ต้องรอมติของที่ประชุมก่อน

‘ธรรมนัส’ บอกไม่รู้ สส.ก้าวไกล ดอดพบ ‘บิ๊กป้อม’ เคลียร์ปมหากจะขอเข้าพรรค ต้องให้ กก.บห.ตัดสินใจ

(25 มี.ค. 67) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าว สส.พรรคก้าวไกล เข้าพบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่บ้านมีนบุรีว่า ถ้าพูดตามตรง ตนเองไม่ทราบในเรื่องนี้

ถามว่าหากมีเหตุในอนาคตที่ทำให้ สส. ของพรรคก้าวไกลต้องไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ เราจะรับใครเข้าพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค จะต้องมีการประชุมร่วมกัน เราจะไม่ทำอะไรที่เคยเป็นบทเรียนในอดีตที่ทำให้เกิดความหมางใจกัน เราเคยเป็นผู้ถูกกระทำ เราอย่าเอาสิ่งที่เคยถูกกระทำนั้นมาทำเอง ฉะนั้น จะต้องมีการคุยกัน

เมื่อถามว่า มีการติดต่อจากกลุ่ม สส.ของพรรคก้าวไกล มาที่เครือข่ายของ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองไม่มีเครือข่าย มีแต่เครือข่ายภาคเกษตรฯ

ซักว่าที่ สส.ของพรรคก้าวไกลมีคนใดพอที่จะมีคุณสมบัติมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเห็นการทำงานของฝ่ายค้านก็เข้มข้น เพราะเราเป็น สส. เป็นถึงรัฐมนตรี เราก็เห็นการทำงานของเขาในการตรวจสอบการทำงานของเราอย่างเข้มข้น

เมื่อถามถึงในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกลบางคน ที่มีทัศนคติที่ดีต่อพรรคพลังประชารัฐ จะมีการปิดประตูรับหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า จะต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของพรรคก่อน จะตัดสินใจเองไม่ได้

‘ก้าวไกล’ เตรียมผุดทายาท ‘ก้าวใหม่’ หากโดนยุบพรรค ขณะที่บรรยากาศภายในลุยวางแนวทางของการทำงานแล้ว

(24 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถึงการเตรียมการตั้งชื่อพรรคใหม่ หากกรณีถูกยุบพรรคเกิดขึ้นจริงว่า ก่อนหน้านี้แกนนำพรรคมองไว้หลายชื่อ แต่ชื่อที่โดดเด่นขึ้นมามีอยู่ 2 ชื่อ ได้แก่ ‘อนาคตไกล’ และ ‘ก้าวใหม่’ แต่ล่าสุดชื่อ ‘อนาคตไกล’ มีผู้นำไปจดแจ้งตั้งเป็นพรรคการเมืองกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเป็นทางการไปแล้ว

โดย พรรคอนาคตไกล ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับ พรรคก้าวไกล ดังนั้น ณ ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่สุดที่ ‘ก้าวใหม่’ จะถูกนำไปตั้งเป็นพรรคทายาทของพรรคก้าวไกล

ขณะที่บรรยากาศในพรรคก้าวไกล ระดับแกนนำมีการพูดคุยกันว่าการยุบพรรคก้าวไกลค่อนข้างแน่นอนแล้ว ขอให้ไปทำงานร่วมกับพรรคใหม่ที่รองรับไว้ และให้กำลังใจกรรมการบริหารพรรค ขอให้ช่วยทำงานต่อไปเพื่อน้อง สส.

‘ชาวเน็ต’ ถล่ม!! ช่องยูทูบล้านซับหลอกใช้แรงงาน นศ.ฝึกงาน ‘ทำงาน 7 วัน - เลิกงานตี 3 - ไม่จ่ายค่าแรง’ ล่าสุดแถลงชี้แจงแล้ว

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่องยูทูบ ‘บ้านกูเอง’ ที่มีผู้ติดตาม 1 ล้านกว่าคน โดยทางช่องมักจะลงคอนเทนต์วิพากษ์วิจารณ์สังคมได้อย่างดุเดือด ส่งผลให้มีผู้ติดตามขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ

โดยล่าสุด ช่องดังกล่าวได้โพสต์วิดีโอ ‘แฉ! YouTuber หลายล้านซับหลอกใช้แรงงานนักศึกษาฟรี 30+ ชีวิต /ทำงาน 7 วัน เลิกงานตี 3 /ใช้ทำงานนอกช่อง’

ทั้งนี้ ภายในคลิปจะปรากฏอดีตนักศึกษาฝึกงานที่เคยฝึกกับยูทูบเบอร์ชื่อดัง มาพูดเปิดใจภายในคลิป ความว่า ต้องทำงานมากถึง 7 วัน แม้จะเป็นวันหยุด ที่สำคัญพนักงานประจำรวมตัวผู้บริหารบริษัทแล้วมี 8 คน โดยแต่ละคนก็มีช่องยูทูบเป็นของตัวเอง ซึ่งมีเพียง 5 คนที่ทำงานเบื้องหลัง (ตัดต่อ) อีก 3 คนออกกล้อง แต่รับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานมากถึง 30 กว่าคน รวมถึงการทำงานที่ล่าช้า เจ้านายไม่ยอมตรวจ

อดีตเด็กฝึกงานกล่าวอีกว่า การสอนงานเป็นไปแบบเด็กฝึกงานสอนกันเอง ค่าตอบแทนไม่มี แต่มีน้ำเปล่าให้แค่นั้น

โดยองค์กรนี้จะถ่ายคลิปเยอะ เนื่องจากแต่ละคนก็มีช่องเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งธรรมชาติของแต่ละช่องก็จะแตกต่างกัน รวม ๆ แล้วใน 1 สัปดาห์ เด็กฝึกงานต้องทำคอนเทนต์ประมาณ 10 เรื่อง

ส่วนเรื่องการเข้างาน ถ้าหากเข้างานสาย 1 นาทีจะถูกเช็กขาด แต่ถ้าอยู่เกินเวลาทำงานหลังสองทุ่มไม่มีอะไรให้เช่นกัน แต่ต้องอยู่ยาวยันตี 3-4 และดูเหมือนการทำงานแบบนี้เหมือนใช้แรงงานมากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย

โดยตำแหน่งงานต่าง ๆ ที่รับสมัครเข้าไปคือ ครีเอทีฟ ตัดต่อ เออี และตำแหน่งอื่น ๆ จนแทบเป็นหนึ่งบริษัทได้เลย โดยเน้นปริมาณการทำงาน เอาไม่เอาค่อยเลือกทีหลัง อีกทั้งในองค์กรก็มีช่องแยกออกไปอีก ทำให้นักศึกษาเข้าไปทำงานช่องอื่นที่เป็นของพนักงานตัวเอง

อย่างไรก็ตาม มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้มากมาย อาทิ

-ใช้แรงงานน่ากลัวมาก ตอนดึกควรจะได้นอนพักผ่อนแต่ต้องมาทำงานอีก
-ฟ้องกรมแรงงานได้นะ ถ้าจะเอาจริงๆ และแน่ๆ ถ้าน้องเขาแฉ

-นักศึกษาฝึกงานน่าจะมีตลอดทุกปี หลอกใช้ฟรีแบบนี้ ลดต้นทุนสุดๆ หัวหมอมาก
-นักศึกษาฝึกสอนไม่ได้เงินเลยอะ มีแต่คนบอกว่าคุณขอมาทำเอง โรงเรียนให้ทำก็ดีแค่ไหนแล้ว เอาตรงปะนี่ทำได้ดีมากเลยนะพานักเรียนไปแข่งตลอด ได้ดีตลอด อยากจะcrazy

-มีเยอะมากครับบริษัทแนวนี้ ที่จะหาช่องทางในการลดค่าจ้างจากการใช้เด็กฝึกงานเป็นพนักงาน รู้สึกแปลก แต่ไม่ได้แปลกใจครับ เพราะว่าอาจารย์เคยเล่าให้ฟัง 555 ถ้าเจอบริษัทที่ดีก็จะพอบริหารและเข้าใจได้เนื่องจากอาจจะเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กเลยต้องการคนเข้าไปช่วยสักจำนวนนึง แต่ถ้ามีลักษณะแบบนี้แล้วเป็นบริษัทใหญ่ด้วย ก็จ้องจะเอาเปรียบแน่นอนครับ

-เข้ามาฟังคลิปนี้ เพื่อเรียนรู้เป็นบทเรียน เราจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่นแบบนี้ แต่ยอมรับเลย ฟังไม่ถึง 5 นาที รู้สึกรังเกียจวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทนี้

หลังจากเผยแพร่คลิปวิดีโอออกไปแล้ว กระแสวิพากย์วิจารณ์ค่อยข้างแรง จนล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก The Snack ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นนักศึกษาฝึกงาน โดยระบุว่า 

“เรียนทุกท่าน

บริษัท The Snack ได้รับทราบถึงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับการรับนักศึกษาฝึกงานมาทำงานหนักเกินไป ทางบริษัทขอแสดงความเสียใจต่อความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น และขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

นโยบายการรับนักศึกษาฝึกงาน

บริษัท The Snack มีนโยบายในการรับนักศึกษาฝึกงาน เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจริง โดยทางบริษัทพิจารณาให้นักศึกษาฝึกงาน ได้รับโอกาสและบทบาทความรับผิดชอบที่ท้าทาย สอดคล้องกับทักษะและความรู้ ส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และทักษะอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้มีศักยภาพพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

ข้อตกลงก่อนการฝึกงาน

ก่อนที่จะรับนักศึกษาฝึกงานเข้ามา ทางบริษัทมีการพูดคุย และทำข้อตกลงกับนักศึกษาฝึกงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดของงาน ขอบเขตงาน ระยะเวลาฝึกงาน ข้อกำหนดเรื่องสวัสดิการ เงินตอบแทน และเป้าหมายการฝึกงานของตัวนักศึกษาฝึกงานเองอย่างชัดเจนก่อนเริ่มฝึกงาน

การดูแลนักศึกษาฝึกงาน

ทางบริษัทมีนโยบายในการดูแลนักศึกษาฝึกงานอย่างใกล้ชิด โดยมีพนักงานพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ สนับสนุน ติดตามผลงาน และให้คำปรึกษาอยู่เสมอ

การชี้แจงประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์

จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนักศึกษาฝึกงานถูกใช้งานหนักเกินไป ทางบริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า :

ทางบริษัทไม่ได้บังคับให้นักศึกษาฝึกงานทำงานล่วงเวลา
ทางบริษัทมีกฎระเบียบและนโยบายที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนรับสมัคร เพื่อมุ่งเน้นการผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพและทัศนคติที่ดี ออกสู่โลกการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตระหนักดีว่ายังมีบางจุดที่ต้องปรับปรุง ทางบริษัทจึงได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

ทบทวนนโยบายการรับนักศึกษาฝึกงาน

กำหนดขอบเขตงานของนักศึกษาฝึกงานให้ชัดเจน
เพิ่มจำนวนพนักงานพี่เลี้ยง
จัดกิจกรรมอบรมให้กับพนักงานพี่เลี้ยง

บทสรุป

บริษัท The Snack ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และการเรียนรู้ของนักศึกษาฝึกงานอย่างแท้จริง เราขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเด็นนี้ และขออภัยอย่างจริงใจสำหรับความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบที่ตามมา

หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด เราได้ดำเนินการทบทวน และปรับปรุงนโยบายการรับนักศึกษาฝึกงานโดยมีการปรึกษาจากองค์กรภายนอก เพื่อรับประกันความเป็นธรรม และความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เราจะเพิ่มการฝึกอบรมสำหรับพนักงานพี่เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขารู้วิธีการสนับสนุนและช่วยเหลือนักศึกษาฝึกงานได้อย่างเต็มที่

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การเติบโต และการพัฒนาส่วนบุคคล และเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างดียิ่งขึ้น

ขอบคุณที่มอบโอกาสให้เราแสดงความมุ่งมั่นในการปรับปรุง และเรียนรู้จากสถานการณ์นี้

ขอแสดงความนับถือ

บริษัท The Snack World

24 มีนาคม 2567

'อิตาเลียนไทย' ยอมจ่ายเงินเดือนให้พนักงานแล้ว 6,626 คน  คาดว่าจะจ่ายครบทุกคนภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ 

(25 มี.ค. 67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกค้างจ่ายค่าจ้าง ล่าสุดทยอยจ่ายไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท ลูกจ้างได้เงินแล้ว 6,626 คน ด้านนายจ้างเร่งแก้ปัญหา คาดจ่ายค่าจ้างครบ 100% ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานตรวจแรงงาน ได้เชิญผู้แทนบริษัทฯ มาพบที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 เพื่อให้ข้อเท็จจริงและหารือร่วมกันถึงปัญหาการค้างจ่ายค่าจ้าง

ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้แทนบริษัทให้ข้อเท็จจริงว่า บริษัทฯ มีลูกจ้างทั้งหมด 20,188 คน และมีโครงการก่อสร้างกระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย รวม 115 โครงการ กรณีปัญหาที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ยอมรับว่าเกิดจากการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหาโดยการขอสินเชื่อหรือขอกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนภายในบริษัทฯ

โดยในปัจจุบันมีสถาบันทางการเงินเข้ามาสนับสนุนโครงการของบริษัทฯ แล้ว จำนวน 79 โครงการ ทำให้สามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติ

สำหรับ 36 โครงการที่เหลือรวมถึงสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัทฯ อยู่ระหว่างติดต่อประสานกับสถาบันการเงินเข้ามาสนับสนุน ซึ่งผู้แทนบริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างได้ตามปกติประมาณเดือนเมษายน 2567

และจากการที่ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบไซต์ก่อสร้างในเครือบริษัทอิตาเลียนไทย พบว่า ในหลายโครงการหลายจังหวัดเริ่มทยอยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย โดยลูกจ้างได้รับค่าจ้างตามปกติแล้ว เป็นลูกจ้างที่มีทั้งสัญชาติไทยและแรงงานข้ามชาติ จำนวน 6,626 คน ได้แก่ ลูกจ้างในจังหวัดระยอง ปทุมธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา และเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 และพื้นที่ 3 เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

‘แสนชัย’ จัดหนัก!! ‘นักมวยพม่า’ หลังแลบลิ้นยั่วใส่บนเวทีไทยไฟต์ ประเคน ‘หมัด-เท้า-เข่า-ศอก’ พร้อมเตะก้านคอจนน็อกไปยกแรก

(25 มี.ค.67) เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในศึก ไทยไฟต์ ปลวกแดง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในคู่ที่ 9 เป็นการชกของโคตรมวยสารคาม แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม อีกหนึ่งยอดมวยไทย วัย 43 ปี พบกับ มาน เย จอ ซัว นักมวยชาวเมียนมา ตัวตึงแห่งมัณฑะเลย์ วัย 28 ปี โดยชกในน้ำหนัก 68 กิโลกกรัม

ปรากฎว่าการชกจบลงเพียงยกแรก โดยทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น ทั้งคู่ต่างเปิดฉากแลกอาวุธกันอย่างดุเดือด โดยที่ช่วงหนึ่ง มาน เย จอ ซัว ได้แลบลิ้นยั่ว แสนชัย

ทำให้ ยอดมวยสารคาม ประเคนอาวุธแบบจัดหนัก ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ใส่นักมวยเมียนมา ก่อนที่จะได้จังหวะเตะซ้ายก้านคอ เอาชนะน็อกนักมวยเมียนมา ไปได้ในยกที่ 1

‘ตร.ขอนแก่น’ หวังดีช่วยเหลือชาวบ้านน้ำมันหมด แต่ดันเติมผิดประเภท พร้อมยืดอกรับผิด ขอรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการ

(25 มี.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณี ตำรวจ สภ.ขอนแก่น ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่น้ำมันรถยนต์หมด จึงได้นำน้ำมันไปเติมให้กับรถยนต์คันดังกล่าวของประชาชน ซึ่งต่อมามีชาวเน็ตเข้ามาทักท้วงว่า เติมน้ำมันผิดชนิดหรือไม่นั้น

ล่าสุด เพจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกมาโพสต์ยอมรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะรับผิดชอบกับค่าเสียหายทั้งหมด

พร้อมระบุข้อความว่า รายงานเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือรถประชาชนน้ำมันหมด สภ.เมืองขอนแก่น ขอรายงานเหตุการณ์ วันนี้ (24 มี.ค.67) เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.วรทรรศน์ กัสนุกา รอง สว.(ป.)ฯ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรประจำการ (20-1) พร้อมด้วย จ.ส.ต.ฉัตรชัย เมืองทอง ระหว่างออกตรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนคร แจ้งว่าประชาชนรถยนต์น้ำมันหมดขอความช่วยเหลือ โดยได้ไปซื้อน้ำมัน จำนวน 300 บาท ตามที่เจ้าของรถแจ้งมาและนำไปเติมให้เรียบร้อย จากนั้นได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลเฟซบุ๊ก ได้มีคอมเมนต์แจ้งว่าได้เติมน้ำมันผิดประเภท

ต่อมาเวลา 20.00 น. จึงได้ทำการตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมัน พบว่าได้ซื้อน้ำมันผิดจริง (ดีเซล B7) ซึ่งเกิดจากการสื่อสารกันคลาดเคลื่อน โดย สภ.เมืองขอนแก่น จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทุกประการและกราบขออภัยเจ้าของรถที่เกิดเหตุการณ์นี้

“เราดูแลคุณ เพื่อให้คุณไปดูแลประชาชน”

ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

วันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 น. นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่ชินพรหมมา และสักการะพระพุทธรูปในห้องทำงานผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ชั้น 8 อาคารกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน โดยมี ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ร่วมพิธี ณ บริเวณกระทรวงแรงงาน

สำหรับ นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท รัฐประศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่สำคัญ ได้แก่ นักบริหารประกันสังคม รุ่นที่ 14 นักบริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข รุ่นที่ 1 นักบริหารระดับสูง (ส.นบส.) รุ่นที่ 13 การพัฒนาผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ระดับสูงภาครัฐ รุ่นที่ 30 ผู้ตรวจราชการระดับกรม ประจำปี 2565

เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี สาขาศรีราชา ประกันสังคมจังหวัดพังงา ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต ประกันสังคมจังหวัดสุราษฎรธานี ผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้อำนวยการสำนักสิทธิประโยชน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานในปัจจุบัน

ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
 

เฉลย!! 'สุนัข' ในตุรเคีย 'จ้องมอง-แบ่งอาหาร' ในท่อระบายน้ำ เพราะลูกแมวตัวเล็กอาศัยอยู่ โดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

(25 มี.ค.67) คุณประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้โพสต์เรื่องราวน่าประทับใจผ่านเฟซบุ๊ก 'Prapas Cholsaranon' ระบุว่า...

ผู้คนที่มาท่องเที่ยวที่ถนนเฟทิเย่ต์ เมืองอิซมิท ประเทศตุรเคีย เริ่มสงสัยเจ้าแอนนี่สุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่เอาแต่จ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวัน

มันทำอย่างนั้นไปทำไม

ยิ่งมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปเจ้าแอนนี่นั่งเฝ้านั่งมองท่อระบายน้ำมาลงโซเชียลมีเดีย ผู้คนก็ยิ่งช่วยกันตั้งข้อสงสัย

คนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าหรืออาจเป็นเพราะกลิ่นจากท่อระบายน้ำที่ดึงดูดสุนัข

อีกกลุ่มหนึ่งคิดว่าหรือมันมีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้ 

อีกกลุ่มก็ค้านว่ามันอาจเป็นแค่แสงวับ ๆ แวมๆที่สะท้อนลงไปผิวน้ำ

พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นหลายคนพยายามก้มมองลงไปในท่อระบายน้ำ แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด

บางคนก็พยายามเงี่ยหูฟังว่ามันจะมีเสียงอะไรให้ได้ยินบ้าง แต่ก็ไม่มีใครได้ยินอะไร

ในที่สุดก็มีคนไปตามตำรวจดับเพลิงมาช่วยเปิดตะแกรงเหล็กฝาท่อระบายน้ำที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากออกดู 

เปิดแล้วเอาไฟฉายส่องลงไปก็ไม่เห็นอะไร

พอเอาฝาท่อมาปิด เจ้าแอนนี่ก็ยังคงนั่งมองท่อระบายน้ำต่อไป

อีกมุมหนึ่งของถนน โซฟีสาวน้อยใจบุญคนหนึ่งที่ชอบเอาอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัด เธอเห็นรูปของเจ้าแอนนี่ในโซเชียลมีเดีย เธอจำมันได้ว่ามันเป็นสุนัขตัวหนึ่งที่ชอบมากินอาหารที่เธอนำมาให้

คราวนี้เธอจึงเพิ่งสังเกตว่า เจ้าแอนนี่ไม่ได้กินอาหารที่เธอให้จนหมดเหมือนสุนัขตัวอื่น เมื่อเธอให้ชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่งแก่เจ้าแอนนี่ไป เธอจึงได้เห็นว่าเจ้าแอนนี่คาบเอาอาหารเดินหนีออกไปอีกทางหนึ่ง เธอรีบเดินตามเจ้าแอนนี่ไป แน่นอนมันไปที่ท่อระบายน้ำปริศนานั้น

เธอเห็นกับตาว่าเจ้าแอนนี่มันกัดเนื้อที่เธอให้ออกเป็นชิ้น ๆ แล้วทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำนั้น

โซฟีรีบโทรหาตำรวจดับเพลิง เธอคิดว่าในท่อระบายน้ำน่าจะมีสัตว์อะไรบางอย่างอยู่แน่ ๆ 

ตำรวจดับเพลิงกลับมาที่บริเวณท่อระบายน้ำอีกครั้ง แล้วก็เปิดฝาท่อระบายน้ำ คราวนี้พวกเขาใช้อุปกรณ์ก้านยาว ๆ ราวสามสี่เมตรผูกกับสมาร์ตโฟนแล้วก็แหย่ลงไปแล้วบิดเข้าในทางขวางของท่อระบายน้ำที่ตามองเข้าไปไม่ถึง แล้วก็ถ่ายวิดีโอด้วยสมาร์ตโฟนไปตลอดเวลาของการแหย่ไม้ลงไป

ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเจ้าแอนนี่มันจ้องมองเข้าไปในท่อระบายน้ำทุกวันด้วยเหตุผลอะไร เมื่อตำรวจดับเพลิงนำวิดีโอนั้นมาเปิดดู

ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ห้าตัวอาศัยอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ว่าแม่มันอยู่ที่ไหน

ตำรวจรื้อท่อระบายน้ำแล้วนำลูกแมวผอมโซที่หวาดกลัวผู้คนทั้งหมดออกได้

และตอนจบของพฤติกรรมอันน่าสงสัยของเจ้าแอนนี่ครั้งนี้ก็คือ ชาวบ้านและตำรวจต่างช่วยกันแบ่งลูกแมวไปเลี้ยงดู 

‘เจี๊ยบ’ เหน็บ!! ‘ทักษิณ’ หลังย่องไปตัดผมที่สีลม ลั่น!! ไม่คิดจะนิ่งซัก 2-3 เดือน ไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย

(25 มี.ค. 67) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ อดีต สส.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กภาพข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางมาตัดผมที่ร้านตัดผมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณตึกแถวย่านสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (สีลม) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อความระบุว่า…

“ไม่คิดจะหักห้ามใจพักผ่อนนิ่ง ๆ ซัก 2-3 เดือนไว้หน้าหมอที่รับรองให้เลย”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top