Thursday, 24 April 2025
Hard News Team

‘เอกนัฏ’ นำทีม!! ร่วมหารือ ‘สหประชาชาติ’ ใช้กฎหมายเข้มข้น!! ยกระดับอุตสาหกรรม

เมื่อวันที่ (18 เม.ย. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมหารือจากคณะทำงานจากสหประชาชาติ(UN) ซึ่งนำโดยมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติในประเทศไทย พาหัวหน้าคณะสหประชาชาติส่วนต่าง ๆ เข้าหารือ เช่น UNIDO สหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

ในการหารือครั้งนี้ได้มีการหยิบยกหลากหลายประเด็นขึ้นมาหารือ เช่น ปัญหากากอุตสาหกรรม และการลักลอบทำธุรกิจสีเทา ที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น และสะสางระบบให้โปร่งใส รวมถึง การยกร่าง พรบ.กากอุตสาหกรรมฯ ฉบับแรกของประเทศไทยที่เรากำลังเสนอ ซึ่งจะเป็นคำตอบระยะยาวสำหรับการยกระดับอุตสาหกรรมไทย

ชาวเน็ตโยง!! ‘มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลฯ - World Expo’ จัดได้เงียบมาก!! ทั้งที่ใช้งบประมาณมหาศาล แต่ผลงาน กลับว่างเปล่า

(20 เม.ย. 68) อดีตบรรณาธิการนิตยสารสาละวินโพสต์ วันดี สันติวุฒิเมธี ได้ออกมาโพสต์ข้อความสุดเศร้าลงในเฟซบุ๊ก หลังเจ้าตัวมาออกบูธร่วมกับอีก 200 ผู้ประกอบการ ที่มาออกบูธขายของในงาน ‘มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ’ ภายใต้โครงการนโยบาย ‘หนึ่งครอบครัว หนึ่งพลังสร้างสรรค์’ ในวันที่ 18-22 เม.ย. แต่แล้วกลับไร้การโปรโมต แถมไม่มีพิธีกร อีกทั้งคนยังเงียบ เมื่อมาเปิดถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ นับว่าทำเอาผู้ประกอบการถึงกับเครียดกันเลยทีเดียว โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความถึงบรรยากาศที่ไม่คึกคัก โดยระบุว่าในช่วงพิธีเปิดงาน มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมมาเป็นประธาน มีช่างภาพ และผู้ร่วมงานจำนวนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นบรรยากาศกลับเงียบสนิท ราวกับป่าช้า ทั้งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าด้านล่างยังคงมีผู้คนเดินสัญจรไปมาอย่างคึกคัก

ผู้ประกอบการกว่า 200 ครอบครัว ต่างตั้งใจเดินทางมาจากทั่วประเทศ โดยไม่ได้มีการสนับสนุนเรื่องที่พักหรือค่าเดินทาง ด้วยความหวังว่าจะได้รับโอกาสทางธุรกิจตามที่เจ้าภาพได้กล่าวไว้ว่าเป้าหมายของงานนี้คือการสร้าง Business Matching

อย่างไรก็ตาม หลังจากวันแรกผ่านไป ผู้ประกอบการต่างเกิดความสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีผู้คนเดินขึ้นมาชมนิทรรศการ พวกเขาตั้งคำถามถึงการประชาสัมพันธ์งานของเจ้าภาพ ว่ามีการดำเนินการมากน้อยเพียงใด และมีสิ่งใดเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนที่เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าด้านล่างขึ้นมาเยี่ยมชมงาน

ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างนำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและมีศักยภาพมาจัดแสดงและจำหน่าย โดยหวังว่าจะได้รับการโปรโมทให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่กลับไม่มีกิจกรรมใดๆ จากผู้จัดงานที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้าร่วมงาน พิธีกรหายเงียบ เวทีแสดงว่างเปล่า ไร้ผู้ชม แม้กระทั่งบูธที่นำนักศึกษาต่างชาติมาแสดงยังรู้สึกเศร้าใจที่ไม่มีใครให้ความสนใจ

ชาวเน็ตเริ่มตั้งคำถาม วิจารณ์ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ของ ‘รัฐบาลแพทองธาร’ 

จัดอะไรก็ ‘แป้ก’ 

ไม่เหมือนยุครัฐบาล ‘ลุงตู่’

รมว.ดีอี ที่ชื่อ ‘ชัยวุฒิ’ โชว์ผลงานอย่างยิ่งใหญ่ ให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ ถึงฝีมือของคนไทย 

สร้างความยิ่งใหญ่ ในงาน ‘World Expo’ 

นี่สิ!! คนจริง ของจริง

แต่คนจัดงาน ของรัฐบาลชุดนี้ ที่ตั้งใจจะปั้น ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ กลับทำ ‘งานกร่อย’

มีหลากหลายความคิดเห็นของชาวโซเชียล อาทิเช่น …

“พอๆ กับข่าวงาน Soft Power ที่พารากอน?
งบเยอะ แต่ออกแนวตลาดนัดสินค้าโอท็อป สุดท้ายก็กร่อย”

“เราไม่ทราบรายละเอียดแต่หัวเรือใหญ่เปลี่ยนจากกระทรวงดีอีในยุคประยุทธซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่แพทองธารเปลี่ยนหัวเรือใหญ่จาก ก.ท ดี อี เป็น ก.ท สาธารณสุข ผลที่ได้คืองานที่ต่ำกว่ามาตรฐาน อาจเป็นเพราะเอากระทรวงหมอมาทำงานผิดประเภท หรืออาจเป็นเพราะบริหารงบประมาณไม่เต็มประสิทธิภาพ เราก็ไม่อาจทราบได้”

“ไปมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแม่งานได้อย่างไร นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีหลายสมัยทุกรัฐบาล เขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่หมดไฟในการทำงานแล้ว ที่ได้เป็นรัฐมนตรีทุกสมัยไม่ใช่เพราะความรู้ความสามารถแต่เป็นเด็กในคาถาของนายใหญ่เท่านั่นเอง”

“แค่งานนิทรรศการ ยังห่วยเลย ไหนคุยนักหนาว่า ทำงานเป็น”

“ตรวจสอบเถอะ ใช้เงินทำอะไรไปบ้าง”

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง จากหลากหลายคำติชม หากอยากจะอ่านเพิ่มเติม เชิญได้ที่ 

https://www.facebook.com/thestatestimes/posts/pfbid02N2mYxtxW4pu5gDa3cGKaG1iSr5T36XpKQZQ9rz3euskZtZCQuU6usbBACK23njzyl

หรือท่านใด อยากจะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม กับ THE STATES TIMES เชิญพูดคุยกันได้ ที่คอมเมนต์ด้านล่าง

สุสานคนเป็น รับชมพร้อมกันที่ SF cinema

รสสุคนธ์และชีพต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยเงื่อนไขบางอย่าง เงื่อนไขที่เริ่มมาจากความรักแบบผิดๆ นำมาซึ่งการแก้แค้นอันน่าสยดสยอง รับชมพร้อมกันวันที่ 24 เม.ย.นี้ ที่ SF cinema 

‘เจือ ราชสีห์’ ร่วมกับ ‘แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1’ เร่ง!! ออกเเเบบ โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมห้าแยกน้ำกระจาย หลัง ครม.สัญจรอนุมัติงบ 15 ล้าน

(20 เม.ย. 68) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายอนุวัฒน์ จันทร์คง หัวหน้าหมวดทางหลวงสิงหนคร(รับผิดชอบ ต.พะวง อ.เมืองสงขลา)  นายสมเกียรติ จันทร์ดวง ปลัดอำเภอเมืองสงขลา และนายบุญสิทธิ์ จรรีบรัด ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณห้าแยกน้ำกระจาย ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมานานหลายปี

โครงการนี้เป็นผลสืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีสัญจรเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 15 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบระบายน้ำบนทางหลวงหมายเลข 407 ตอนควนหิน - เขารูปช้าง ระหว่าง กม. 21+300 ถึง กม. 21+800 รวมระยะทาง 500 เมตร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขัง เพิ่มความปลอดภัยในการสัญจร และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

นายเจือเปิดเผยว่า “ขณะนี้โครงการอยู่ในขั้นตอนการออกแบบและวางแผน โดยกรมทางหลวงได้จัดทำแบบระบบระบายน้ำใหม่ที่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณห้าแยกน้ำกระจายอย่างยั่งยืน” และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

หนีห่าว!! อ้าว!! นึกว่าทักทาย ที่แท้!! ‘เหยียดผิว’ ‘ฝรั่ง’ รุ่นใหม่ ใช้ด้อยค่า ‘เอเชีย’ ในโลกออนไลน์

(20 เม.ย. 68) นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจ ฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Nitipat Bhandhumachinda ว่า …

เมื่อวานนั่งถกกับลูกสาว ว่า"หนีห่าว"เป็นการเหยียดตรงไหน

เพราะผมเองก็มองว่า ตนเองเวลาไปต่างประเทศเช่นไปเยอรมัน ก็พูดคำว่า "Good Morning" กับฝรั่งมังค่าเสมอ ไม่เคยพูดว่า "Guten Morgen" ก็ไม่เห็นมีใครเขาว่าอะไร

ลูกสาวก็อธิบายให้ผมเข้าใจว่า การใช้คำว่า"หนีห่าว" ในปัจจุบันนั้น ชาวต่างชาติหลายๆคนจะใช้ ในนัยยะที่ซ่อนความเหยียดผิว ซึ่งคนรุ่นเดียวกับลูกสาวผมจะเจอบ่อยๆในสังคมออนไลน์

มันจะไม่ใช่การทักทายธรรมดา แต่เป็นการจงใจเหยียดแบบเหมารวมที่มีรากฐานมาจากแนวความคิดแบบ Sinophobia ที่ไม่ชอบคนจีน หรือวัฒนธรรมและค่านิยมแบบคนจีน แล้วก็ลามไปสู่คนเอเชียโดยรวม ที่ฝรั่งอาจมองว่าหน้าตาก็คล้ายๆกัน

ซึ่งสำหรับผมก็เป็นความรู้ใหม่ เพราะคนสมัยนี้เขาจะไม่เหมือนสมัยผมเด็กๆที่อยากจะเหยียดก็เหยียดกันตรงๆ เช่นผมเดินอยู่บนถนนในนิวยอร์คช่วงปี พศ. ๒๕๒๔ มีฝรั่งตะโกนมาทางผมว่า "Chink" แล้วเอานิ้มจิ้มตาตัวเองพร้อมกับหัวเราะขำขัน ก็ต้องกลับบ้านมาถามคำแปล แล้วก็เลยรู้ว่าโดนเหยียด

มาสมัยนี้การเหยียดกันตรงๆมันทำไม่ได้แล้ว แต่ก็อาจมีบางคนที่ยังมีจิตสำนึกที่อยากจะเหยียดใครต่อใครเพื่อลดปมด้อยของตน ก็อาจหาแนวทางอื่นมาเหยียดกันแบบซ่อนเร้นเช่นนี้เป็นต้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการพูดคำว่า"หนีห่าว"กับคนไทย หรือคนเอเชียไหนๆที่ไม่ใช่คนจีน สำหรับผมแล้วก็ต้องมองบริบทโดยรวม เพราะหลายๆครั้งชาวต่างชาตินั้นๆ อาจพูดทักทายเป็นปรกติโดยไม่ได้คิดจะดูถูกอะไรใดๆ ก็เป็นไปได้ด้วยเช่นกัน

กรณีน้องทรายนั้น ผมไม่ได้เคยร่วมกิจกรรม หรือร่วมงานอะไรใดๆด้วย จึงไม่สามารถให้ความเห็นอะไรใดๆได้มากนัก แต่เท่าที่มองจากภายนอกนั้น น้องเขาก็มีจิตสำนึกที่รักธรรมชาติ และมีความชัดเจนเชิงอุดมคติ

แต่ผมเองก็ให้ความเป็นธรรมกับองค์กรและบุคลากรทุกๆคนของกรมอุทยานฯ ที่ต่างก็มุ่งมั่นทำงาน ทำหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ แต่อาจไม่สามารถประสานการทำงานกับน้องทรายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะด้วยเหตุผลอะไรใดๆก็ตาม

ส่วนเรื่องการเหยียดนั้น สมัยปัจจุบันที่ทำงานกับลูกค้าซึ่งทุกคนเป็นชาวต่างชาตินั้น หากมีใครถามว่าเคยโดนเหยียดอะไรบ้างไหม
ก็ตอบได้ตรงๆว่าไม่เคยเลย

เพราะเวลาผมทำอะไรผิดพลาด ลูกค้าเขาไม่ต้องหานัยยะมาเหยียดอะไรใดๆให้เสียเวลา
ด่าผมตรงๆเลย ง่ายกว่าเยอะนะครับ

ผบ.ทร. ชื่นชมให้กำลังใจ สโมสรฟุตบอลราชนาวี แชมป์ไทยลีก 3 เตรียมเลื่อนชั้นไทยลีก 2

(20 เม.ย. 68) สโมสรฟุตบอลราชนาวี โดย พล.ร.อ ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ ประธานสโมสร, พล.ร.ท สุรศักดิ์ วรปัญญา ที่ปรึกษาสโมสรฯ, พล.ร.ต ณฐพัฒน์ ซื่อมงคล ผู้จัดการทีม, พล.ร.ต อโศก ศรีสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป เข้าพบ ผบ.ทร.เพื่อสรุปผลการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก ฤดูกาล 2024-2025 
ซึ่งสโมสรฟุตบอลราชนาวี ได้ตำแหน่งชนะเลิศ ได้สิทธิเข้าแข่งขันในรอบชิงแชมป์ระดับประเทศ เพื่อคัดเลือกสโมสรที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในฟุตบอลไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า ในการนี้ ผบ.ทร.ได้กรุณาแสดงความยินดี และให้กำลังใจ กับทีมงานผู้บริหารสโมสรฟุตบอลราชนาวี ให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับ กองทัพเรือ ต่อไป

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

เชียงใหม่-เปิดประวัติศาสตร์บันทึกสถิติโลกสำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ฟ้อนเล็บมากที่สุดในโลก 

(20 เม.ย. 68) “สุดาวรรณ” รวมใจชาวเชียงใหม่ร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ “ฟ้อนเล็บอัตลักษณ์แบบคุ้มเจ้าหลวงพระราชชายาเจ้าดารารัศมีลงใน "กินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดส์" เนื่องในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่จะก้าวสู่ 730 ปี สำเร็จ 7,218 คน ทุบสถิติเดิมที่เคยบันทึกไว้ 5,255 คน ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 729 ปี แห่งการสถาปนาเมืองเชียงใหม่ ปูทางสร้างการรับรู้และผลักดันเมืองเชียงใหม่ก้าวสู่เมืองมรดกโลก 

วันที่ 19 เมษายน 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดการบันทึกการฟ้อนเล็บอัตลักษณ์แบบคุ้มเจ้าหลวงพระราชชายาเจ้าดารารัศมีลงใน "กินเนสส์บุ๊ก" หรือ "กินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดส์" (Guinness Book of World Records)"Guinness world record The largest Thai dance" โดยมีนางเทียบจุฑา ขาวขำ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ผู้แทน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาดามหยก กชพร เวโรจน์ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และ ประธานคณะทำงาน บันทึก World Records งานสมโภช 729 ปีเมืองเชียงใหม่  นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน เข้าร่วมจำนวนมาก

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นสักขีพยานในการบันทึกการฟ้อนเล็บ อัตลักษณ์แบบคุ้มเจ้าหลวงพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ลงใน "กินเนสส์บุ๊ก" หรือ "กินเนสส์เวิลด์ เรคคอร์ดส์" "Guinness world record The largest Thai dance" ในวันนี้ แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่น ประชาชนมีความเข้มแข็ง มีความรักความสามัคคี มีความสุข และร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน รักษา และต่อยอด ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นไว้ได้อย่างดียิ่ง

จึงมีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และเนื่องในโอกาสที่จังหวัดเชียงใหม่จะก้าวสู่  730 ปี จึงขอถือโอกาสนี้สร้างการรับรู้ให้เด็ก เยาวชน ประชาชนมีจิตสำนึกแสดงกตเวทิตาต่อบูรพกษัตริย์ล้านนา เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และผลักดันให้เมืองเชียงใหม่ก้าวสู่เมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก 

“กระทรวงวัฒนธรรมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดงาน พิธีสมโภชเชียงใหม่๗๒๙ ปี "นครเชียงใหม่เมืองแห่งความสุขด้วยวิถีวัฒนธรรมอย่าง ยั่งยืน" ถือเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้มีความโด่นเด่นด้านศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ประเพณีที่มีเอกลักษณ์ล้านนา สืบสานเสน่ห์ความเป็นล้านนาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จัก จังหวัดเชียงใหม่ในนามเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณีที่งดงามของประเทศไทย เป็นไปตามที่รัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม 

ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปสู่ระดับนานาชาติ นำเศรษฐกิจวัฒนธรรม ผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ยกระดับการ ท่องเที่ยว และเทศกาสสู่เวทีโลก โดยมีเป้าหมาย "ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 25 ประเทศ ที่มีอิทธิพลด้าน Soft Power ในมิติวัฒนธรรม เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกมาเที่ยวในมิติด้านศาสนา ศิลปะและ วัฒนธรรม

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่สุคิริน เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลร่มไทร กำชับปฏิบัติหน้าที่ด้วยสติ มุ่งบูรณาการดูแลประชาชนทุกมิติ

(20 เม.ย. 68) พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา เดินทางลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลร่มไทร อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างใกล้ชิด

ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้พบปะกับกำลังพล และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49, หัวหน้าส่วนราชการ, หัวหน้าชุดคุ้มครองตำบล รวมถึงสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

พลโท ไพศาล ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมเน้นย้ำว่า สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีความพยายามจากผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างความปั่นป่วน และบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติงานด้วยสติ มีความรอบคอบ และไม่ประมาทอยู่เสมอ

แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวชื่นชมในความเสียสละของกำลังพลที่ยังคงยืนหยัดทำหน้าที่อย่างเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็ง พร้อมทั้งย้ำถึงหัวใจสำคัญในการดูแลพื้นที่ คือ “การบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน” ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และภาคประชาชน เพื่อรวมพลังสร้างความสงบสุขให้กับบ้านเกิดของตนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ท่านแม่ทัพยังได้ร่วมพักแรมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะ เพื่อหาแนวทางรับมือสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ และในช่วงเช้าวันถัดมา ยังได้ร่วมเดินเท้าลาดตระเวนตรวจสภาพภูมิประเทศรอบฐานปฏิบัติการ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ

ขณะเดียวกัน หนึ่งในสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนฯ ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการดูแลพี่น้องประชาชนในบ้านเกิดของตนเอง แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่ยังคงมีกำลังใจดีจากครอบครัวและคนรอบข้าง พร้อมขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อพาความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่อย่างยั่งยืน

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top