Saturday, 20 April 2024
Hard News Team

นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'Fuangrabil Narisroj'

เมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 67) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'Fuangrabil Narisroj' ว่า…

"ขอเล่าในฐานะที่อยู่คณะกก.Film Board ซึ่งดูแลหนังต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในไทย

"คือมีกฎอันนึง เราจะให้เขาเลี่ยง ไม่ให้ถ่ายติดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ เพราะไม่ต้องการให้เกิดประเด็นที่อาจทำให้กระทบสถาบันในทางตรงหรือทางอ้อมในภายหลังได้ ซึ่งคิดว่าหนังไทยก็คงหลักการคล้ายกัน

"ดูหนังเอาสาระดีกว่าครับ!"

‘ผลโพล’ ชี้!! ‘อาเซียน’ เลือกข้าง ‘จีน’ มากกว่า ‘อเมริกา’ ยกเว้นแค่ ‘ผิน-เหงียน’ ที่ยังกังขาข้อพิพาททะเลจีนใต้

เมื่อไม่นานมานี้ ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ในชาติอาเซียนเล็งคบหาจีนมากกว่าอเมริกา ถ้าหากถึงเวลาที่จะต้องเลือกข้างกันแล้ว โดยมีเพียงบางประเทศอย่างฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ที่รู้สึกถูกปักกิ่งคุกคามเกี่ยวกับการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ ซึ่งยังปักใจกับอเมริกามากกว่า ขณะเดียวกัน ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในทั่วโลก โดยผู้ตอบแบบสำรวจเกินครึ่งบอกว่าห่วงเรื่องการว่างงานและเศรษฐกิจถดถอย

นี่เป็นครั้งแรกที่ปักกิ่งได้คะแนนมากกว่าวอชิงตันนับจากที่เริ่มทำการสำรวจความคิดเห็นประจำปีในประเด็นนี้ในปี 2020 โดยในปีนี้จำนวนคนที่เลือกอเมริกาเหลือแค่ 49.5% ลดลงจาก 61.1% เมื่อปีที่แล้ว

การสำรวจความคิดเห็นนี้จัดทำโดยศูนย์อาเซียนศึกษา (ASEAN Studies Centre) แห่งสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา-ยูซอฟ อิสฮัค (ISEAS-Yusof Ishak Institute) กลุ่มคลังสมองของสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 3 มกราคมถึง 23 กุมภาพันธ์ โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจ 1,994 คน ซึ่งมาจากทั้งภาควิชาการ ธุรกิจ รัฐบาล ประชาสังคม และสื่อมวลชน ในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และประเทศที่มีผู้เข้าร่วมการสำรวจมากที่สุดคือสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

ผลสำรวจพบว่า จีนได้คะแนนกว่า 50% ในฐานะหุ้นส่วนที่มีความเกี่ยวข้องสอดคล้องทางยุทธศาสตร์มากที่สุดสำหรับอาเซียน ขณะที่ญี่ปุ่นยังคงเป็นมหาอำนาจที่ไว้วางใจได้มากที่สุด

ทั้งนี้ จีนและอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกันติดต่อกัน 4 ปีซ้อนแล้ว โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการค้าถึง 911,700 ล้านดอลลาร์แล้ว

กระนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบครึ่งหนึ่งยังคงแสดงความไม่ไว้ใจจีน โดย 45.5% บอกว่า กลัวว่าปักกิ่งจะใช้อำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารคุกคามผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศของตน

พฤติกรรมก้าวร้าวของจีนในทะเลจีนใต้เป็นประเด็นที่น่ากังวลมากที่สุดสำหรับคนฟิลิปปินส์ (90.2%) และคนเวียดนาม (72.5%) ซึ่งเป็น 2 ประเทศแนวหน้าที่มีกรณีพิพาทด้านดินแดนกับปักกิ่งในน่านน้ำดังกล่าว

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า การที่มะนิลาอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้เป็นบางส่วนไม่ควรถูกมองว่า เป็นการยั่วยุจีน ในทางกลับกัน ฟิลิปปินส์ต้องการทำให้สิ่งต่าง ๆ อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ และเดินหน้าเจรจาต่อไม่ว่าในระดับใด อย่างไรก็ดี ในช่วงหลัง ๆ นี้ ฟิลิปปินส์มีนโยบายหันไปร่วมมือด้านความมั่นคงมากขึ้นอย่างชัดเจนทั้งกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาค อย่างเช่น ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

สำหรับเวียดนามก็อ้างสิทธิเหนือเกาะหลาย ๆ แห่งในทะเลจีนใต้ ทับซ้อนกับจีนเช่นเดียวกัน โดยที่ปักกิ่งคัดค้านการเรียกร้องเหล่านั้น ทั้งนี้ เวียดนามแสดงท่าทีพยายามมุ่งผูกมิตรกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน แม้ยังไม่ได้ไปถึงระดับของฟิลิปปินส์

ไม่น่าแปลกใจที่ผลสำรวจคราวนี้แสดงให้เห็นว่า อเมริกายังคงได้รับความสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ในฟิลิปปินส์ (83.3%) และเวียดนาม (79%) ซึ่งแสดงความโน้มเอียงที่ต้องการผูกพันธมิตรกับวอชิงตันมากกว่าปักกิ่ง

เคนด์ดริก ชาน แห่ง แอลเอสอี ไอเดียส์ (LSE IDEAS) กลุ่มคลังสมองด้านนโยบายการต่างประเทศของ LSE (ลอนดอน สกูล ออฟ อิโคโนมิกส์ แอนด์ โพลิทิคัล ไซนส์) แสดงความเห็นว่า ถึงแม้จีนได้รับการสนับสนุนมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อมองจากความเข้าใจความรับรู้ของสาธารณชนซึ่งให้ความนิยมชมชื่นเพิ่มขึ้น แต่ควรต้องสังเกตว่า ข้อพิพาทด้านดินแดนที่รุนแรงที่สุดของจีนก็อยู่ในภูมิภาคนี้เช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นแล้ว ผู้ตอบแบบสำรวจเกือบครึ่งยังคิดว่าอาเซียนควรเพิ่มความยืดหยุ่นและความเป็นเอกภาพของตน เพื่อเป็นเครื่องปกป้องการถูกบีบคั้นจาก 2 ชาติมหาอำนาจคือ จีนและอเมริกา

ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐศาสตร์มหภาคในทั่วโลก ยังคงเป็นข้อกังวลในภูมิภาคนี้ โดยคนส่วนใหญ่ (57.7%) กังวลกับการว่างงานและเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในจีนอาจมีส่วนกระตุ้นความกังวลเหล่านี้

ข้อกังวลอื่น ๆ ยังรวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงของกลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งแม้เหตุการณ์เหล่านี้ถึงแม้เกิดขึ้นในภูมิภาคอื่นที่ไกลออกไปจากอาเซียน แต่ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักซึ่งอาจมีผลโดยตรงต่อราคาพลังงานและอาหารได้

ชอย ชิง กว็อก ผู้อำนวยการและซีอีโอของ ISEAS ระบุว่า ผลสำรวจปีนี้สะท้อนอย่างชัดเจนว่า ภูมิภาคนี้มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นในเรื่องปัญหาทางเศรษฐกิจ และในความเสี่ยงที่ว่าการเป็นปฏิปักษ์กันในทางภูมิศาสตร์รัฐศาสตร์ที่ไร้การบันยะบันยังอาจส่งผลลบต่อผลประโยชน์ของภูมิภาคในระยะสั้นจนถึงระยะกลาง

“ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า อาเซียนยังคงมีความหวังว่าชาติมหาอำนาจสามารถร่วมมือกันได้ในประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน และยินดีต้อนรับมหาอำนาจชาติอื่น ๆ เข้ามามีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับอาเซียน”

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ โดย ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิฯ จัดพิธีสรงน้ำหลวงพ่อเงิน วัดคุณพุ่ม

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ร่วมกับวัดคุณพุ่ม จัดพิธีสรงน้ำหลวงพ่อเงิน  ในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 โดยมี ร.ต.ท.ดร.มนัส โนนุช ประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ท่านพระมหาปฏิทาน ลกขสุวณณโสภโณ เจ้าอาวาสวัดคุณพุ่มเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายภูวนาท สุวรรณพรม นายอำเภอบึงนาราง  นายธรรมนูญ เทศอินทร์ กำนันตำบลบางลาย และนายสุรพล เนตรแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางลาย ร่วมในพิธี ท่ามกลางประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียงมาร่วมงานอย่างมากมาย 

โดยพิธีประกอบด้วย การสวดเจริญพุทธมนต์ ของพระสงฆ์ 9 รูป มีรำถวายหลวงพ่อเงินจากนักเรียนโรงเรียนบึงนาราง เสร็จแล้วนายอำเภอบึงนาราง , นายกอบต.บางลาย , กำนันบางลาย , นายสรรเสริญ จันทรมณี , นายไกรเดช บุนนาค นายจรัส พิบูลย์ปุญญโชติ , ดร.สุรวดี สุวรรณเกต นำประชาชน สรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำรูปหล่อหลวงพ่อเงิน และสรวงน้ำพระสงฆ์ 9 รูป จากนั้น ได้ร่วมกันมอบเสื้อสงกรานต์ ให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน เป็นอันเสร็จงานเทศกาลสงกรานต์  2567 ของวัดคุณพุ่ม วัดแห่งความกตัญญู จังหวัดพิจิตร 

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ที่ รพ.พระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี ก่อนบินตรวจสภาพการจราจรขาเข้า ภาพรวมไม่มีปัญหา

วันนี้ (17 เมษายน 2567) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี , พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.และ พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. เดินทางไปที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี เพื่อเยี่ยมและมอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาในเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.10 น. บริเวณถนนหมายเลข 21 กม.23+4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และได้เยี่ยม ด.ต.ชัยยุทธ์ สุจริต ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองลพบุรี ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ซึ่งได้รับบาดเจ็บประสบอุบัติเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.40 น. ขณะอำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ได้พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเมื่อผู้ขับขี่จักรยานยนต์ต้องสงสัยดังกล่าวพบ ด.ต.ชัยยุทธ์ฯ ได้ขับรถหลบหนี ซึ่ง ด.ต.ชัยยุทธ์ฯ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตาม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์อีกคันเลี้ยวตัดหน้า ทำให้ชนกับรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.ชัยยุทธ์ฯ ที่ขับขี่มา จึงเป็นเหตุให้ ด.ต.ชัยยุทธ์ ฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส 

จากนั้น พล.ต.ท.กรไชยฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสภาพการจราจรบริเวณ จ.สระบุรี ถนนพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1 ช่วง ต.หินกอง อ.หนองแค - สะพานต่างระดับสระบุรี พบว่ามีปริมาณรถมาก สภาพการจราจรปกติ / ถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ช่วงแก่งคอย - โรงปูนซีเมนต์ มีปริมาณรถมาก แต่สภาพการจราจรยังเคลื่อนตัวปกติ , ช่วงเนินโค้งซิกแซก ตำรวจทางหลวงได้เปิดช่องทางพิเศษ สภาพการจราจรถมากเคลื่อนตัวได้ , ช่วง อ.มวกเหล็ก ปริมาณรถมาก รถชะลอตัว แต่ยังเคลื่อนตัวได้ / ถนนสายเอเชีย ทางหลวงหมายเลข 32 บริเวณต่างระดับสิงห์บุรี ปริมาณรถมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี / ถนนมอเตอร์เวย์ ลำลูกกา - บางปะอิน ทางหลวงหมายเลข 9 สภาพการจราจรปกติ

ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวงได้มีการเปิดช่องทางพิเศษบริเวณ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา กม.74 ซึ่งเป็นจุดก่อสร้างสะพานกลับรถ เพื่อระบายรถที่จะเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ส่วนสายอีสาน เปิดช่องทางพิเศษ 3 ช่องทาง คือ M6 ทางเชื่อมถนนมิตรภาพ กม.67 เข้า กม.68 , บริเวณฟาร์มโชคชัย และเนินกลางดง เข้า กม.31 ออกที่ อ.ทับกวาง คาดว่าจะสามารถระบายรถได้ภายในเที่ยงคืนของวันนี้ ส่วนสายเหนือ จ.นครสวรรค์ พบว่ารถมีปริมาณมากแต่ยังเคลื่อนตัวได้ ยังไม่มีการเปิดช่องทางพิเศษ เพราะการจราจรยังใช้การได้ดี ส่วนสายตะวันตก และสายใต้ การจราจรปกติ

18 เมษายน พ.ศ. 2498 รำลึก ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ผู้ค้นพบ ‘ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป’ หรือ ‘แรงโน้มถ่วง’

‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา และเขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก ‘การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี’

หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ในปี พ.ศ. 2458 เขาก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยธรรมดานักสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ในปีต่อ ๆ มา ชื่อเสียงของเขาได้ขยายออกไปมากกว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ โดยในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ ให้เป็นเครื่องหมายการค้า

ตัวไอน์สไตน์เอง มีความระลึกถึงผลกระทบทางสังคม ซึ่งมีผลมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้ ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ

อย่างไรก็ตาม ไอน์สไตน์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ด้วยโรคหัวใจ

สำหรับผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิสิกส์มีมากมาย อาทิเช่น…

- ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ซึ่งนำกลศาสตร์มาประยุกต์รวมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
- ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นไปตาม equivalence principle
- วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาล
- ขยายแนวความคิดยุคหลังนิวตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวพุธได้อย่างลึกซึ้ง
- ทำนายการหักเหของแสง อันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง
- อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว
- ริเริ่มทฤษฎีการแกว่งตัวอย่างกระจาย ซึ่งอธิบายการเคลื่อนที่ของบราวน์ของโมเลกุล
- ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนาจากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง
- ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมในของแข็ง
- ริเริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ

ทั้งนี้ ไอน์สไตน์ ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น ปี พ.ศ. 2542 นิตยสารไทมส์ ยกย่องให้เขาเป็น ‘บุรุษแห่งศตวรรษ’ และความสำเร็จทางปัญญาและความคิดริเริ่มของเขาส่งผลให้ ไอน์สไตน์ กลายเป็นคำพ้องที่มีความหมายตรงกับคำว่า ‘จีเนียส’ (อัจฉริยะ)

สรุปผลโครงการ 'รักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขง' อัตราการรอดชีวิต 100% ฟาก 'รพ.จุฬาฯ' พร้อมส่งเด็กวัย 1 ปี 1 เดือน กลับหลวงพระบางพรุ่งนี้

(17 เม.ย. 67) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจ ศูนย์กู้ชีพ ฝ่ายเวชศาสตร์ฉุกเฉิน พร้อมด้วยทีมแพทย์ พยาบาล ประกอบด้วย รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการ รพ.จุฬาฯ และ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ น.พ.จุล นำชัยศิริ ศัลยแพทย์ทรวงอก หน่วยศัลยศาสตร์ทรวงอกและหัวใจ น.พ.พีระพัฒน์ มกรพงศ์ ศัลยแพทย์ทรวงอก เลขาธิการมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก ผศ.น.พ.วิทวัส ลออคุณ หัวหน้าหน่วยกุมารโรคหัวใจ ฝ่ายกุมารเวชศาสตร์ พญ.กัญญลักษณ์ วิเทศนสนธิ กุมารแพทย์โรคหัวใจ และ มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก นพ.ธนดล โรจนศานติกุล หัวหน้าศูนย์กู้ชีพ ฝ่ายเวชศาสตร์ฉุกเฉิน

ร่วมแถลงความสำเร็จของทีมแพทย์กับภารกิจ ความร่วมมือในโครงการ ‘รักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขง’ ความร่วมมือระหว่างสภากาชาดไทย, รพ.จุฬา, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, มูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก, มูลนิธิเกื้อฝันเด็ก และ สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว และ รพ.มะโหสด พร้อมเตรียมส่งตัวน้องบอย (นามสมมติ) เด็กน้อยวัย 1 ปี 1 เดือน ที่ผ่าตัดสำเร็จกลับเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ในวันที่ 18 เมษายนนี้

ด้าน รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า ความเป็นมาของโครงการ ‘รักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขง’ เริ่มหารือกันครั้งแรกกับฝ่ายลาว เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เนื่องในโอกาสที่ ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักบริหารวิชาการสุขภาพโลก (School of Global Health) และผู้ช่วยเลขาธิการเอกอัครราชทูตฯ เพื่อต่อยอด โครงการจัดการอบรมเฉพาะด้านการดูแลผู้ป่วยเด็กในระยะวิกฤต (Pediatric Intensive Care) มีโอกาสหารือกับ นพ.ไคสี ลาดซะวง รองผู้อำนวยการ รพ.มะโหสด (ดูแลผู้ป่วยเด็กและฉุกเฉิน) และทราบว่า รพ.มะโหสด เป็นศูนย์โรคหัวใจเฉพาะทางแห่งเดียวของ สปป.ลาว ซึ่งยังต้องการบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรคหัวใจเด็ก โดยเฉพาะการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจเด็ก

รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวต่อว่า ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงติดต่อมาที่ น.พ.พีระพัฒน์ มกรพงศ์ กรรมการและเลขานุการของมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็ก พร้อมทั้งหารือกับตน และมูลนิธิเกื้อฝันเด็ก นำมาสู่การริเริ่มโครงการรักษ์หัวใจเด็ก (น้อย) ข้ามโขงด้วยการสนับสนุน อย่างเต็มกำลังจากทุกหน่วยงาน

“คณะทำงานได้เริ่มประชุมหารือตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2566 เพื่อขับเคลื่อนโครงการนี้ ทีมแพทย์ออกหน่วยตรวจคัดกรองผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดของ สปป. ลาว เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 จากการคัดกรองผู้ป่วยเด็กจำนวน 92 ราย พบว่า ในจำนวนนี้ มีเด็ก 37 ราย ที่มีความจำเป็นต้องนำไปผ่าตัดรักษาที่ประเทศไทย และมีเด็ก 3 ราย มีความจำเป็นต้องนำตัวไปผ่าตัดที่ รพ.จุฬาฯ และหนึ่งในนั้นคือ น้องบอยเด็กชายวัย 10 เดือน (อายุในขณะนั้น) ปัจจุบันอายุ 1 ปี 1 เดือน

ทีมแพทย์พบว่าเด็กมีอาการเส้นเลือดหัวใจสลับห้องกัน มีรูรั้วที่ผนังห้องหัวใจ มีอาการตัวเขียวจากภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งขณะนั้นน้องบอยมีน้ำหนักเพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น ทีมแพทย์จึงลงความเห็นว่าจำเป็นต้องนำตัวมาผ่าตัดที่ รพ.จุฬาฯ อย่างเร่งด่วน หลังการผ่าตัดผ่านไปจนถึงขณะนี้เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว เด็กมีอาการคงที่ ร่างกายแข็งแรงจากเดิมเป็นอย่างมาก

ทีมแพทย์จึงเห็นสมควรว่า เด็กมีความพร้อมที่จะเดินทางกลับไปที่เมืองหลวงพระบางแล้ว ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.67) ทางทีมแพทย์จะส่งตัวเด็กกลับไปที่หลวงพระบาง โดยการสนับสนุนเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส” รศ.นพ.ฉันชาย กล่าว

นอกจากนี้ รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า นอกจากนั้น ในโครงการ ‘รักษ์หัวใจเด็ก(น้อย) ข้ามโขง’ คณะแพทย์ของ รพ.จุฬาฯ และทีมงาน Global Health ได้หารือกับคณะแพทย์ของ รพ.มะโหสด เรื่องแนวทางความร่วมมือและการสนับสนุนเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ของ สปป.ลาว ให้สามารถผ่าตัดหัวใจเด็กได้ภายใน 5 ปี ในเบื้องต้น คณะแพทย์ของ รพ.จุฬาฯ เห็นว่า ควรสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของหอผู้ป่วยวิกฤตเด็ก และพิจารณาเรื่องการให้ทุนแก่บุคลากรเพื่อเพิ่มพูนทักษะสำหรับการดูแลผู้ป่วยเด็กและทุนการศึกษาสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไปอย่างเต็มกำลังจากทุกหน่วยงานข้างต้น

“สรุปผลการดำเนินโครงการ ‘รักษ์หัวใจเด็ก(น้อย) ข้ามโขง’ ผู้ป่วยที่รอคิวผ่าตัดจำนวน 37 ราย (มีผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างรอผ่า 2 ราย ) ผ่าตัดที่ รพ.จุฬาฯ 2 ราย ทั้ง 2 คน อาการปลอดภัยดี และผ่าตัดที่ รพ.เกษมราฎร์ ประชาชื่น 27 ราย ทุกคนที่ผ่าตัดอาการปลอดภัยดี เท่ากับว่าเด็กที่เข้าโครงการและได้รับการผ่าตัด มีอัตรการรอดชีวิต 100% ยังเหลือเด็กที่รอผ่าตัดอีก 11 ราย” รศ.นพ.ฉันชาย กล่าว

ส่องสถิติ 10 ปี ‘เทศกาลสงกรานต์’ สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศเท่าไหร่? ✨🇹🇭

สงกรานต์ปี 2567 ถือเป็นปีที่คึกคักที่สุดหลังจากโควิด-19 คลายลง โดยในปี 2567 นี้ เม็ดเงินสะพัดมากถึง 2 แสนล้านบาท นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ต่างพากันปักหมุดเยือนประเทศไทย และร่วมเล่นน้ำสงกรานต์อย่างล้นหลาม ทำให้บรรยากาศสงกรานต์ในปีนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

'มาเลเซีย' เตรียมลดการอุดหนุนราคาน้ำมันเบนซินในปีนี้ หลังขาดดุลงบประมาณ 5% ของ GDP และทำมูลค่าริงกิตดิ่ง

(17 เม.ย.67) ภายหลังราคาพลังงานพุ่งแรงหลังความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเสี่ยงลุกลามเป็นสงคราม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้าง ราฟิซี รามลี รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจมาเลเซียว่า มาเลเซียเตรียม ‘ลดการอุดหนุน’ ราคาน้ำมันเบนซินในปีนี้ เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ

โดย ราฟิซี รามลี กล่าวว่า รัฐบาลต้องบริหารผลกระทบจากนโยบายอุดหนุนราคาพลังงาน พร้อมกับพิจารณาความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อด้วย

สำหรับสาเหตุที่รัฐบาลหันมาลดการอุ้มราคาน้ำมัน เป็นเพราะการขาดดุลงบประมาณของประเทศพุ่งแตะ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2566 จนกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน และส่งผลให้มูลค่าสกุลเงินริงกิตของมาเลเซียใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินในเอเชียเมื่อปี 2541

รัฐบาลตั้งเป้าหมายในปีนี้ว่า จะลดภาวะขาดดุลงบประมาณจาก 5% ของจีดีพีลงเหลือ 4.3% ของจีดีพี โดยเริ่มจากลดการอุดหนุนน้ำมันเบนซิน RON95 ซึ่งเป็นประเภทเบนซินราคาถูกที่สุด และชาวมาเลเซียใช้มากที่สุดด้วย โดยในปีที่แล้วรัฐบาลใช้งบประมาณไปกับการอุดหนุนเหล่านี้มากถึง 81,000 ล้านริงกิต หรือราว 622,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ มาเลเซียยังเผชิญยอดส่งออกที่หดตัวลงเป็นเดือนที่สองในเดือนมี.ค. และเมื่อปลายปีที่แล้ว ยอดส่งออกประเทศก็ลดลงติดต่อกัน 10 เดือน ซึ่งสะท้อนภาวะส่งออกอ่อนแอนับตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2551

ปลื้มปริ่ม!! ‘เจ้าหน้าที่ตำรวจ’ อาสาพา ‘ตายาย’ ข้ามถนน ฟากคุณตาซึ้งใจ เป่าแคนเพื่อขอบคุณ ทำตำรวจถึงกับเต้นตาม

(17 เม.ย.67) ทำเอาชาวเน็ตยิ้มไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว เมื่อผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ superboy_191 ได้โพสต์คลิป พร้อมระบุข้อความว่า “เราต้องรู้จักอดทน อดกลั้น และหักห้ามใจตัวเองให้ได้ ไม่งั้นอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดอย่างในคลิปที่เห็น!!”

ซึ่งในคลิปปรากฏเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพาคุณตาซึ่งเป็นคนตาบอด และคุณยายที่มาด้วยกันข้ามถนน

ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ความพิเศษในสถานการณ์นี้คือ พอข้ามถนนมาอีกฝั่งได้ คุณตาก็เสนอเป่าแคนให้ฟัง เพื่อเป็นการขอบคุณที่ตำรวจพาข้ามถนน และที่ทำเอาชาวเน็ตยิ้มไม่หุบกว่าเดิมคือ คุณตาเป่าแคน คุณยายตบมือเข้าจังหวะ ส่วนคุณตำรวจกำลังยืนเต้นเข้าจังหวะกันอย่างไม่น่าเชื่อ

ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจและมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งท็อปคอมเมนต์ในคลิปได้เมนต์ว่า “ไม่มีใครที่จะปฏิเสธหมอลำได้”

นอกจากนี้ ยังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ดังนี้

“ช่วงสงกรานต์มานี้เราเห็นมุมน่ารัก ๆ ของตำรวจเยอะมาก”
“‘เป็นน้ำใจเล็กน้อยของคุณตา”
“คนไทย = ตามน้ำไปได้เรื่อย ๆ 55555 ชอบบบบ”
“คูมตำหมวดบอกขอจักหน่อยแน ทำงานบ่ได้หยุดกะเขา” (ขอสักหน่อยได้ไหม ทำงานไม่ได้หยุดกับเขา)
“เรียบร้อย อารมณ์คงคิดฮอดบ้านแหละ อ้ายตำรวจ”

‘รพ.ราชพิพัฒน์’ เชิดชูเกียรติ ‘พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้’  บริจาคอวัยวะ ช่วยต่อลมหายใจผู้ป่วยได้ 5 ชีวิต

(17 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กของ ‘โรงพยาบาลราชพิพัฒน์’ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ‘โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม.’ ระบุข้อความว่า…

“โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ขอไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ แด่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลห้องตรวจโรคเฉพาะทาง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ด้วยความเสียสละและความรับผิดชอบ จนได้รับคำชื่นชมจากผู้รับบริการมาโดยตลอด”

นอกจากนี้ยังระบุเพิ่มว่า “การจากลาอย่างไม่มีวันกลับ แต่เจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือผู้คนยังคงอยู่ กุศลจากผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ให้แก่ผู้รับ โดยได้บริจาคหัวใจ, ไต 2 ข้าง, ม้าม และหลอดเลือดดำอุ้งเชิงกราน ต่อลมหายใจอีก 5 ชีวิต ในวันนี้ (15 เมษายน 2567) คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ บุคลากรโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ร่วมไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ ขอกุศลแห่งบุญในครั้งนี้ ส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพ พวกเราระลึกถึงความดีงามและความเสียสละตลอดไป”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top