Monday, 9 June 2025
Hard News Team

‘หมอหม่อง’ ชวนรัก ‘ชาติ’ แบบมีสติไม่สุดโต่ง สะกิดสังคมใช้พลังให้ถูกจุด ชี้ปัญหาแท้จริงคือทุนผูกขาด

(7 มิ.ย. 68) ‘หมอหม่อง’ นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงกระแสรักชาติในตอนนี้

ที่จะพูดต่อไปนี้ เสี่ยงโดนด่ามากเลย เพราะคนจะเข้าใจผิด

ในกระแส รักชาติ ตอนนี้ ผมรักประเทศไทย ภูมิใจหลายๆ อย่างความเป็นไทย (แบบที่ไม่ perfect แบบนี้) เชียร์ทีมวอลเลย์บอลไทย ฯลฯ และพยายามทำให้ประเทศดีขึ้นในมุมเล็กๆของผม

แต่เอาจริงๆ เรื่องชาตินิยม นี่ ถ้าอ่านหนังสือ Sapiens ของ Yuval Noah ผมเห็นด้วยกับที่เขาอธิบายว่า ทำไม

Homo sapiens มันทำอะไร หลายอย่างที่ ลิงอื่นทำไม่ได้ นั่นคือ การสร้าง ความจริงสมมติ หรือ Imaginary truth

ชาติ มันคือ นิทาน ความจริงสมมติ ที่สังคมกำหนดขึ้นเพื่อ สร้างความร่วมมือของกลุ่ม ของเผ่า
เพื่อความอยู่รอด และ ช่วยปกป้อง ผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน มันไม่ใช่ความจริงที่แท้

หากเรากลัวเสียดินแดน เพราะกลัวคนอื่นมาแย่งทรัพยากร มาตักตวงผลประโยชน์ไปจากเรา

ผมว่าเรามารบกับทุนผูกขาด รบกับโครงสร้างสังคมที่เหลื่อมล้ำ ผลประโยชน์เส้นสายกันดีกว่านะครับ

กัมพูชาโต้ชัด ปัดละเมิดอธิปไตยไทย ย้ำแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี

(7 มิ.ย. 68) นายชุม สอนทรีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ากองกำลังชายแดนกัมพูชาได้ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย โดยยืนยันว่ากองกำลังของตนปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตแดนของกัมพูชาเอง

โฆษกกระทรวงฯ ชี้แจงว่า เหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลาประมาณ 05.30 น. นั้น เกิดขึ้นเมื่อกองกำลังไทยเปิดฉากยิงใส่ฐานทัพของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชโมโรโกต อำเภอโจมคสัน จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กัมพูชาควบคุมมาโดยตลอด ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาระบุว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายไทยถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และฝ่าฝืนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน

กัมพูชาย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และตั้งใจที่จะเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา โดยยืนยันว่าพร้อมที่จะแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธีและตามกฎหมายระหว่างประเทศ

สำหรับการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นหน้าสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นั้น เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นายฮุน ซาโรอุน ได้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตทุกคนปลอดภัยดีและยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ การประท้วงดำเนินไปอย่างสงบและเป็นระเบียบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด 

ฝรั่งหัวทองเมินช่วยไทย ตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง ต่างจากเพื่อนเอเชีย ยื่นมือพยุงเศรษฐกิจไทย

(7 มิ.ย. 68) ย้อนกลับไปในวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 หรือ “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ประเทศไทยต้องเผชิญภาวะเงินทุนไหลออก ค่าเงินบาทพังทลาย ธนาคารล้มหลายแห่ง รัฐบาลไทยในขณะนั้นต้องกู้เงินกว่า 17.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ

เงินช่วยเหลือนั้นส่วนใหญ่มาจาก IMF (4 พันล้านดอลลาร์), ญี่ปุ่น (4 พันล้าน), จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน รวมถึงธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชีย โดยเป็นเงินที่ไทยมีสิทธิเข้าถึงในฐานะประเทศสมาชิก แต่สิ่งที่หลายคนยังจำฝังใจคือ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ไม่ได้ช่วยเหลือไทยเลยแม้แต่สลึงเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาบริษัทการเงินจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะกองทุนเฮดจ์ฟันด์และบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง GE Capital กลับรีบเข้ามาซื้อกิจการไทยในราคาต่ำเหมือน "แร้งลง" ช่วงวิกฤต บางรายทำกำไรมหาศาลจากการเข้าซื้อหนี้เสียและหุ้นในตลาดทุนไทย ขณะที่ประชาชนและธุรกิจไทยจำนวนมากล้มละลาย

อีกหนึ่งจุดที่ถูกวิจารณ์หนักคือ การเก็งกำไรโจมตีค่าเงินบาทของกลุ่มทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ “จอร์จ โซรอส” ที่ถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการถล่มค่าเงินบาท สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง และจุดชนวนให้เกิดวิกฤตในเอเชียเป็นลูกโซ่

กระทรวงการต่างประเทศย้ำใช้กลไก JBC แก้ปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ

(7 มิ.ย. 68) กระทรวงการต่างประเทศแถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยย้ำการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในการประชุมวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ควบคู่กับกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าที่ประชุมได้หารือการเตรียมการในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายหลักในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เช่น การประชุม JBC, GBC และ RBC ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแลสถานการณ์ชายแดนให้มีความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยมีความพร้อมในการประชุม JBC ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ณ ประเทศกัมพูชา และหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน 

‘เยอร์มัค’ ลั่นรัสเซียไม่มีวันชนะ ยูเครนยังเข้มแข็งแม้สงคราม 3 ปี เร่ง ‘สหรัฐ-อียู’ คว่ำบาตรรัสเซียเต็มกำลัง

(7 มิ.ย. 68) อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครน ยืนยันว่ารัสเซียไม่มีทางชนะในสงครามครั้งนี้ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 3 ปี แต่ยูเครนยังคงยืนหยัดและต่อสู้ได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นและประสานงานร่วมกันเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย

เยอร์มัค เน้นย้ำว่าการคว่ำบาตรต่อรัสเซียควรครอบคลุมภาคพลังงาน น้ำมัน และภาคการธนาคาร ซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีปูตินต้องเผชิญกับ “ราคาที่แท้จริง” และถูกบีบให้เข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างจริงจัง นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงแผนการขอความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากสหรัฐ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและการป้องกันประเทศของยูเครน

ในด้านปฏิบัติการทางทหาร เยอร์มัคชี้แจงว่ากองกำลังยูเครนโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เช่น ฐานทัพอากาศที่รัสเซียใช้ในการโจมตีพลเรือน ขณะที่รัสเซียยังคงโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยยูเครนพยายามหลีกเลี่ยงความสูญเสียในหมู่ประชาชน

เยอร์มัคยังได้พบปะหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐในวอชิงตันเกี่ยวกับสถานการณ์ในแนวรบ ความคืบหน้าการเจรจาที่อิสตันบูล และความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร พร้อมย้ำความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสหรัฐและยุโรปเพื่อสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่

กองทัพไทยประชุมเข้ม ปมปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำหลักสันติภาพ แต่พร้อมตอบโต้เมื่อจำเป็น

(7 มิ.ย. 68) กองบัญชาการกองทัพไทยจัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพและ ผบ.ตร. เข้าร่วม ย้ำความพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติและความปลอดภัยของประชาชนบริเวณชายแดน

กองทัพบกได้รายงานเหตุปะทะบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยระบุว่า ทหารไทยถูกเปิดฉากยิงขณะลาดตระเวนในฝั่งไทย จึงตอบโต้ตามกรอบกฎหมายและกฎการใช้กำลัง พร้อมดำเนินการชี้แจงผ่านช่องทางทางการแล้วครบถ้วน แม้ไทยพยายามประสานผ่านกลไก JBC แต่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และฝ่ายกัมพูชายังเพิ่มกำลังในพื้นที่

ผบ.ทบ. จึงสั่งยกระดับความพร้อมทั้งกำลังพล อาวุธ และแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านเหล่าทัพอื่น ๆ และตำรวจแห่งชาติ ยืนยันสนับสนุนภารกิจของกองทัพบกอย่างเต็มที่ ทั้งด้านยุทธการ การข่าว และการสนับสนุนข้อมูลต่อหน่วยงานภาครัฐ พร้อมเตรียมชี้แจงผู้ช่วยทูตทหารใน-ต่างประเทศ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มมาตรการคัดกรองชายแดน สืบสวนเชิงลึก และป้องกันภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการสกัดข่าวปลอมและการแทรกซึมของต่างด้าว เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับกองทัพในทุกมิติอย่างใกล้ชิดทั้งแนวหน้าและแนวหลัง

ทั้งนี้ กองทัพไทยขอให้ประชาชนมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วย พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมใจ ใช้วิจารณญาณรับข่าวสารอย่างมีสติ และเป็นพลังสำคัญในการรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และสามัคคีของชาติอย่างยั่งยืน

(สุรินทร์) พลตรี วีระยุทธ  รักศิลป์ รอง แม่ทัพภาคที่ 2(1) พบปะทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

วันที่ (7 มิ.ย. 68) พลตรี วีระยุทธ  รักศิลป์ รอง แม่ทัพภาคที่ 2(1) ได้เดินทางพบปะทหารใหม่ ผลัดที่ 1/68 ของ หน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 25 และ หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ณ โดมอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 25 โดย พลตรี วีระยุทธ  รักศิลป์ รอง แม่ทัพภาคที่ 2(1) ได้รับฟังการบรรยายสรุป, พบปะทหารใหม่ และได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพลของ หน่วยฝึกทหารใหม่ทั้ง 2 หน่วยฝึก ในการนี้ พลตรี ไชยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมด้วย พันเอก อัครสิทธิ์ ปะกิระตา รอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25(2), พันเอก พรพิเชษฐ์  เกตุพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน, พันโท บรรลือ พูดเพราะ ผู้บังคับหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 25, พันโท ณัฐวุฒิ คัมภิรานนท์ ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23,หัวหน้าฝ่ายกำลังพลมณฑลทหารบกที่ 25 ให้การต้อนรับและปฏิบัติภารกิจร่วม ทั้งนี้ พลตรี วีระยุทธ  รักศิลป์ รอง แม่ทัพภาคที่ 2(1)ได้มอบนโยบายการฝึกให้มีประสิทธิภาพ เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย ตามนโยบายของกองทัพบก การดูแลด้านคุณภาพชีวิตทหารใหม่ สวัสดิการสิทธิต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทหารใหม่ และญาติ พร้อมได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ฝึก และน้องทหารใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจในการฝึกต่อไป

ปุรุศักดิ์  แสนกล้า ข่าว/ภาพ

ตราด กปช.จต. สั่งควบคุมการเปิดปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

(7 มิ.ย. 68) พลเรือโท อภิชาติ  ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ออกหนังสือคำสั่ง ควบคุมการเปิดปิดจุดผ่านแดนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และตราด จากเดิมจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เวลา 06.00 - 22.00 น. เปลี่ยนเป็นเวลา 08.00 - 16.00น. ของทุกวัน

เพื่อควบคุมการสัญจรข้ามแดนของนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการและแรงงานในพื้นที่ โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการทำมาค้าขายและความเป็นอยู่ของประชาชนรวมถึงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของทั้งสองประเทศและให้หน่วยกำหนดมาตรการเพิ่มเติมที่เหมาะสม ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต่อไป/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตราด

ผู้แทน พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2  มอบสิ่งของสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหารชายแดนกัมพูชา

เมื่อวันที่ (7 มิ.ย. 68) ที่กรมทหารพรานที่ 23 อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นางสาวธนชนก สุริยเดชสกุลอ และ นายหมวดตรี รุจิรา สรุจิกำจรวัฒนะ พร้อมด้วยผู้แทนคณะนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 2 (พสบ.ภท.2 รุ่นที่ 2) และสมาคมสื่อสารมวลชนไทยอินโดจีน ได้เดินทางไปยังหน่วยบัญชาการกองกำลังสุรนารี จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อมอบผ้าเต็นท์, เสื้อกันฝน รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่ พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งมอบต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามฐานปฏิบัติการชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของทหารกองกำลังป้องกันชายแดน กองทัพภาคที่ 2 และเพื่อสะท้อนถึงความห่วงใยและกำลังใจจากภาคประชาชนและภาคเอกชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ ณ พื้นที่ชายแดนของประเทศ​

ภาพ/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

“รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก เผยข้อเท็จจริง 11 ข้อ ปมปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา รุกล้ำกว่า 400 ครั้ง” ลั่น! อย่าดันถึงศาลโลก เปิดใจคุยกันแบบลูกผู้ชายดีกว่า

(7 มิ.ย. 68) พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความในใจและเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการรุกล้ำอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชาที่เกิดขึ้นกว่า 400 ครั้ง แม้ฝ่ายไทยจะประท้วงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับได้รับการตอบสนองเพียงเล็กน้อย

พล.ต.ณัฏฐ์ เปิดเผยข้อเท็จจริง 11 ประการที่สรุปใจความได้ดังนี้:

1.ไทย-กัมพูชามีปัญหาเรื่องเส้นเขตแดนมายาวนานเนื่องจากยึดถือหลักฐานแผนที่ที่ต่างกัน
2.แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 เป็นผลผลิตจากสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ ค.ศ.1907 เป็นแผนที่มาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด
3. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่าเพื่อแก้ไขปัญหาการยึดเส้นเขตแดนที่แตกต่างกันตามข้อ 1 และข้อ 2 จึงตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา(JBC) ขึ้นมาเพื่อร่วมกันจัดทำแนวเขตแดนระหว่างกันให้ชัดเจนและเป็นเป็นที่ยอมรับกันทั้งสองฝ่าย โดยผลผลิตสุดท้ายคือ หลักเขตแดน และแผนที่
4. ขณะที่ JBC ทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำงานราบรื่นทั้งสองฝ่ายจึงมีข้อตกลง MOU43 สาระสำคัญข้อ 5 ระบุไม่ให้ทั้งสองฝ่ายดัดแปลงภูมิประเทศตามแนวชายแดนซึ่งอาจมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสันปันน้ำ
5. ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาละเมิด MOU43 มาโดยตลอด ขยายชุมชน สร้างกาสิโน ปลูกพืชไร่ประชิดชายแดน ที่เป็นการทำลายสันปันน้ำ เราประท้วง 400 กว่าครั้งแต่ให้ความร่วมมือแก้ไขน้อยมาก ในขณะที่ฝั่งเราเป็นเขตอุทยานเข้าไปทำอะไรไม่ได้
6. พื้นที่ช่องอานม้า ก่อนเกิดเหตุเผาศาลาตรีมุข(28 ก.พ.68) ทหารกัมพูชาวางกำลังห่างชายแดนไม่น้อยกว่า 500 ม. เราก็วางกำลังห่างระยะใกล้เคียงกัน ย่านกลางนั้นเป็นพื้นที่แห่งสันติภาพไปมาหาสู่ ประสานงาน พูดคุยแก้ปัญหากัน 
7. วันที่ 28 ก.พ.68 กัมพูชาเผาศาลาตรีมุข เคลื่อนกำลังขึ้นมาวางที่ต้นพญาสัตบรรณซึ่งล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาประมาณ 150 ม. รวมถึงขุดคูเลททำลายสันปันน้ำละเมิด MOU43
8. ฝ่ายเราพยายามแก้ปัญหาโดยสันติ อดทนอดกลั้น เจรจาขอให้ถอนกำลังที่รุกล้ำอธิปไตยไทยออกไปหลายครั้งแต่เขมรก็ไม่ยอมถอน สุดท้ายมีการใช้อาวุธเมื่อวันที่ 28 พ.ค.68  
9. ผู้บังคับบัญชาของไทยทุกระดับพยายามแก้ไขปัญหาโดยสันติ เจรจาขอให้ถอนกำลังจากจุดที่รุกล้ำ แต่เขมรอ้างว่ากำลังส่วนนี้วางอยู่เดิมมาตั้งแต่ก่อนมี MOU43 ซึ่งไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอนเพราะถ้ามีกำลังวางอยู่จุดนี้เมื่อปีที่แล้ว(ส.ค.67) ผมจะเดินผ่านจุดนี้เข้าไปที่ศาลาตรีมุขได้อย่างไร
10. เขมรอ้างว่าถูกรุกราน ไทยไม่แก้ปัญหาโดยสันติ จะขยายความขัดแย้งสู่ศาลโลก ทั้งๆที่สองประเทศมีกลไกแก้ไขปัญหาร่วมกันอยู่ โดยอ้างว่าปัญหาจะได้จบ ถามว่ามันจะจบได้อย่างไร? 
11. กัมพูชายังเสริมกำลังทหาร อาวุธยุทโปกรณ์ พยายามจะนำกำลังขยายไปควบคุมพื้นที่อื่นๆตลอดแนวชายแดนทั้งๆที่พื้นที่เหล่านั้นเดิมทั้งสองฝ่ายไม่มีการวางกำลัง เป็นป่าเป็นเขา ถ้าเราเอากำลังไปวางเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยก็เผชิญหน้ากัน ทำเพื่ออะไร?
12. กติกาสองบ้านเรามีอยู่ เรามาเปิดหน้าคุยกันอย่างลูกผู้ชายดีกว่าไหม ถ้าเรื่องถึงโรงถึงศาลลูกหลานเราก็จะเป็นปรปักษ์กันตลอดไป จะเกิดประโยชน์อะไรถ้าคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน

เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top