Thursday, 28 March 2024
Hard News Team

AIT ชี้!! ทุกการวิจัยทั้งหมด ต้องดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์-ถูกต้อง ห้าม 'ปลอมแปลง-บิดเบือน' เมื่อเงยหน้าจะได้ไม่อายฟ้า ก้มหน้าจะได้ไม่อายดิน

(27 มี.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'LVanicha Liz' ได้โพสต์เนื้อหาในหัวข้อ 'AIT #เงยหน้าไม่อายฟ้าก้มหน้าไม่อายดิน' ระบุว่า...

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ได้ส่งอีเมลเตือนความจำไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายภายในสถาบันเรื่อง 'การผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตในการวิจัย' มีใจความโดยย่อว่า AIT มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดในการ #กำกับดูแลกิจกรรมการวิจัยทั้งหมด...

การวิจัยทั้งหมดจะต้องดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์ ถูกต้อง และเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณสูงสุด นี่เป็นสิ่งสำคัญในการรับประกันการมีคุณภาพสูงของงานวิจัย และรักษาไว้ซึ่งความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในนักวิจัย ตัวสถาบันเอง และประชาคมวิจัยโดยรวม...

โดยเราจะต้องทำให้แน่ใจได้ว่างานของเราได้ดำเนินไปด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ประกอบด้วย...

การตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบทั้งหมดถูกนำเสนออย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา #โดยไม่มีการปลอมแปลงหรือบิดเบือน (#WithoutFabricationOrManipulation)

หากพบเห็นหรือสงสัยว่ามีการทุจริตทางวิชาการ ให้รายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวน...

ฯลฯ

ในฐานะประชาคมวิจัย เราต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความเคารพต่อการมีส่วนร่วมทางปัญญาของบุคคลทุกคน

ป่านนี้มหาวิทยาลัยไทยบางแห่งจัดการงานวิจัยปลอมแปลงไปถึงไหนแล้ว มีการผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตในการวิจัย รวมทั้งส่งเสริมความรับผิดชอบกันหรือยัง

AIT #เงยหน้าไม่อายฟ้าก้มหน้าไม่อายดิน

กุมตัว 'ไอ้เด่น' มือขวา 'ไอ้ยักษ์' ลิงเกเรจ่าฝูงแห่งเมืองลพบุรี เตรียมดัดนิสัยลดความห้าว ก่อนส่งกลับสวนลิงลพบุรีอีกครั้ง

(27 มี.ค.67) เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์ที่ 1 พร้อมทีมงาน รวม 10 คน ลงพื้นที่จับลิงลพบุรี ที่เกเร ก้าวร้าว ดุร้าย แย่งของกินประชาชนต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 

วันนี้ได้ใช้กรงดักจับลิงเกเร เอาข้าวโพดมาล่อเหมือนเดิม บริเวณตึกหน้าสำนักงานเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ถนนราชดำเนิน ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี โดยจุดนี้เป็นจุดที่มีลิงเกเร กระโดดแย่งของชาวบ้านติดต่อกันหลายครั้ง สร้างความเดือดร้อน และได้รับบาดเจ็บ ในรอบเดือนเดียวกันที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าจุดนี้ถือเป็นจุดสำคัญมีลิงอันธพาลหลายตัว ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านร้านค้า ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียง กับที่ได้มีการวางกรงดักจับลิง ไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งจับลิงไปได้จำนวน 9 ตัว

ซึ่งลิงตัวที่ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กรงดักได้ที่บริเวณหน้าหลังโรงจอดรถภายในสหกรณ์การเกษตรที่ชาวบ้านในบริเวณนั้น ตั้งฉายา ‘ไอ้เด่น’ ลูกสมุนจ่าฝูงอย่าง ‘ไอ้ยักษ์’ ที่เป็นหัวหน้าฝูงในย่านนี้ มีลักษณะดุร้าย เกเร มีลูกสมุนหลายตัวได้ถูกจับกุมตัวไปได้แล้วตั้งแต่วันแรก และในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับตัวไอ้เด่นได้แล้วด้วยการใช้กรงดัก ซึ่งไอ้เด่นถือเป็นลูกสมุนมือขวาที่เกเรมากซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับลิงได้ประมาณ 5-6 ตัว หลังถูกจับไอ้เด่นยังพยายามส่งเสียงร้องเรียกพวก ลักษณะคล้ายจะให้เข้ามาช่วยตัวเองออกจากกรง เสมือนให้มาชิงตัวของมันและเพื่อนลิงด้วยกันที่ถูกจับอยู่ในกรง

เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะดำเนินการจับลิงเกเรตัวใหญ่ไปตลอดทั้งวัน ซึ่งไม่ได้กำหนดยอดว่ากี่ตัว ก่อนจะนำลิงกลับไปพักฟื้นตัว ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า เพื่อดัดนิสัยลดความเกเรลงและเพื่อรอความพร้อมของสวนลิงของทางเทศบาลเมืองลพบุรีแล้วจะส่งกลับมาที่สวนลิงลพบุรีอีกครั้ง

คุณลุงบุญธรรม รัตนโสม ผู้ประกอบการร้านค้า เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่มาจับกลุ่มลิงเกเรและสามารถจับหัวโจกและลูกสมุนไปหลายตัวก็จะทำให้ช่วงนี้อาจจะเงียบสักหน่อยของฝูงลิง เนื่องจากมันกลัวเจ้าหน้าที่ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ไปแล้วสักวันสองวันมันก็คงจะกลับมารบกวนชาวบ้านอีกอย่างแน่นอน 

สภาฯ ฉลุย 400 เสียงผ่านร่าง ‘กฎหมายสมรสเท่าเทียม’ ฟากโซเชียลเฮ ติด #สมรสเท่าเทียม ลุ้นต่อในชั้น สว. 

(27 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แพ่งและพาณิชย์ หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ภายหลังใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ได้มีมติโหวตเห็นชอบ 400 ไม่เห็นด้วย 10 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 3

ทั้งนี้ในการพิจารณากฎหมาย มีกรรมาธิการอภิปรายสงวนความเห็น โดยเฉพาะเสียงข้างน้อย จากพรรคก้าวไกล และภาคประชาชนที่มีความเห็นเพิ่มมาตราเกี่ยวกับกรณีบุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดามารดา หรือบุพการีลำดับแรก รวมถึงการอุปการะเลี้ยงดูให้เติบโต อำนาจปกครองบุตร

นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร กรรมาธิการเสียงข้างมาก ชี้แจงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และเรื่องบุพการีลำดับแรก ยังไม่มีผลศึกษาผลกระทบอย่างเป็นทางการมารองรับ จึงกังวลว่ายังไม่ได้รับฟังความคิด เห็นจากทุกภาคส่วนตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และกระทบต่อกระบวนการตรากฎหมายฉบับนี้อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญทำให้กฎหมายตกไปทั้งฉบับ

อีกทั้ง ‘บุพการีลำดับแรก’ เป็นคำใหม่ยังไม่มีในระบบกฎหมายไทย ยังไม่มีนิยามถ้อยคำในกฎหมายไทย อาจเกิดปัญหาในการตีความว่าเป็นใคร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกฎหมายทั้งประเทศ ที่เกี่ยวกับบิดามารดาหากเพิ่มเติมถ้อยคำลงไปก็จะต้องกระทบกับกฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมดในประเทศไทย เชื่อว่าน่าจะมีอยู่มากกว่าหลาย 100 ฉบับ ซึ่งเป็นผลกระทบที่รุนแรงพอสมควร

พร้อมแนะแนวทางออกว่าสามารถแก้ไขได้ โดยไปติดตามแก้ไขในกฎหมายที่จำเป็นแก้ไขเพื่อรองรับสิทธิ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกฎหมายการรับบุตรบุญธรรม กฎหมายการแก้ไขกฎหมายการคุ้มครองเด็ก ที่อาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์

สำหรับสาระสำคัญกฎหมายฉบับนี้ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมมี 68 มาตรา เช่น กำหนดให้บุคคล 2 คน ไม่ว่าเพศใดหมั้นหรือสมรสกันได้ ให้การหมั้นจะทำได้เมื่อบุคคลทั้งสองฝ่ายมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว, เพิ่มเหตุเรียกค่าทดแทนเหตุฟ้องหย่าให้ครอบคลุมเมื่อฝ่ายหนึ่งไปมีสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับนี้เมื่อมีผลบังคับใช้ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 47 ฉบับ

ขณะที่โซเชียลเคลื่อนไหวพากันติด #สมรสเท่าเทียม จนติดอันดับ 1 ในแอปพลิเคชัน X โดยพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพคะแนนโหวตในสภา #สมรสเท่าเทียม ผ่านแล้ว!! ที่ประชุมสภาฯ โหวตผ่านวาระ 3 ด้วยคะแนนท่วมท้น เห็นด้วย 399 (+1) ไม่เห็นด้วย 10 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 3

นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุส่วนหนึ่งว่า ขอยืนหยัดจุดยืนทางการเมืองของผมและพรรคประชาชาติ ผมและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ขอชี้แจงให้ผู้ที่ให้การสนับสนุนพวกเรา และพรรคประชาชาติว่า ‘จุดยืนทางเมือง’ ของพวกเราคือ ไม่เห็นด้วย ตั้งแต่วาระที่ 1 คือ ไม่รับหลักการของร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ…

เพราะเราเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ กระทบกับวิถีชีวิตของคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะกฎหมายฉบับนี้ขัดกับหลักการของศาสนาอิสลาม และขัดแย้งกับคำสอนของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ) ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน อันเป็นธรรมนูญชีวิตของพวกเรา

ดังนั้นวันนี้ผม และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ ก็ยังคงนั่งอยู่ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่พวกเรามีมติของพวกเราว่า “พวกเราจะไม่ขอเป็นองค์ประชุมของกฎหมายฉบับนี้ทุกมาตรา และจะไม่ลงมติในวาระที่ 2 ทุกมาตรา แต่พวกเราจะลงมติในวาระที่ 3 คือ ไม่เห็นด้วย”

'สลากออมสิน' แจกหนัก 111 ล้าน แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 งวด 16 พ.ค.นี้ ชี้!! ฝากแค่ 100 บาท ก็มีสิทธิ์ลุ้น เปิดฝาก 1 เม.ย. - 15 พ.ค. นี้

(27 มี.ค. 67) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารจัดแคมเปญส่งเสริมการออมครั้งใหญ่ มอบโชค 111 ล้านบาท แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดวันที่ 16 พ.ค. 2567 เพียงรางวัลเดียวเท่านั้น

สำหรับผู้ที่ฝากสลากออมสินทั้งแบบใบสลาก และสลากดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 15 พ.ค.2567 โดยสามารถฝากได้ตั้งแต่ 100 บาท ก็มีสิทธิ์ลุ้น และไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอพ MyMo โดยกำหนดออกรางวัลที่ 1 มูลค่า 111 ล้านบาท ในวันที่ 16 พ.ค. 2567

ทั้งนี้ สลากออมสินพิเศษ 1 ปี เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.35 บาท พร้อมกับเงินต้น และมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกเดือน ทั้งรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 10 ล้านบาท รวมถึงรางวัลอื่นๆ และรางวัลเลขท้าย รวม 12 ครั้ง กำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน

นอกจากนี้ สำหรับแฟนพันธุ์แท้กระปุกออมสินไม่ควรพลาด ‘กระปุกออมสินวาระครบ 111 ปี’ ที่ธนาคารสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ โดยนำงานหัตถกรรมตีลายแผ่นแร่ซึ่งเป็นลวดลายดอกมะลิมาตกแต่งลงบนกระปุกออมสิน ถ่ายทอดผลงานอันทรงคุณค่าด้วยอัตลักษณ์ที่มีความอ่อนช้อยงดงามตามศิลปะล้านนา

ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมของชุมชนบ้านป่าสักขวาง จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพที่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชาติ

อีกทั้งยังเกิดคุณค่าร่วมที่สร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คน ชุมชน สังคม และธุรกิจได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการดำเนินภารกิจธนาคารออมสินภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อสังคม

สามารถเป็นเจ้าของกระปุกออมสินในวาระ 111 ปีได้ โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th และ LINE OFFICIAL : GSB Society ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 มี.ค.2567 และเปิดให้ฝากเงิน ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป พร้อมรับกระปุกในวันที่ 1 – 4 เม.ย. 2567 ณ สาขาธนาคารออมสินที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ (1 กระปุก ต่อ 1 ท่าน) ของมีจำนวนจำกัด

และสำหรับเด็กที่เกิดในวันที่ 1 เม.ย. 2567 ธนาคารได้มีการมอบเงินทุนประเดิมให้เด็กรายละ 500 บาท โดยบิดาหรือมารดาของเด็กที่มีสัญชาติไทย สามารถนำสูติบัตรฉบับจริงของเด็ก พร้อมบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบิดาหรือมารดา มาแสดงตัวตนที่สาขาธนาคารออมสิน ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567

นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ยังแจกโชคต่อเนื่อง อีก 111 รางวัล สำหรับผู้ที่สมัครและใช้จ่ายผ่าน ‘บัตรเดบิตออมสิน’ มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin รุ่น Standard Range สี Coral Pink จำนวน 3 รางวัล และทองคำแท่ง หนัก 2 สลึง จำนวน 108 รางวัล

สำหรับลูกค้าที่สมัครบัตรเดบิตใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 ก.ย. 2567 มีสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลทันที โดยสมัครบัตรเดบิตออมสิน อินสแตนท์ ได้รับ 1 สิทธิ์/บัตร บัตรเดบิตแบบมีความคุ้มครองทุกประเภท รับ 5 สิทธิ์/บัตร

ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตออมสินทุกประเภทที่มียอดการใช้จ่ายตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป จะได้รับ 1 สิทธิ์/รายการ ยิ่งสะสมมากยิ่งมีสิทธิ์มาก โดยจะทำการจับรางวัลในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า และร่วมฉลองในโอกาส 111 ปี ธนาคารออมสิน

‘คริสปี้ครีม’ เตรียมขายโดนัทใน 'แมคโดนัลด์' ที่สหรัฐฯ พร้อมตั้งเป้าขยายร่วมทุกสาขาทั่วถิ่นมะกันภายในปี 69

(27 มี.ค.67) บริษัทแมคโดนัลด์ เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของสหรัฐ แถลงเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) ว่า บริษัทมีแผนวางจำหน่ายโดนัทแบรนด์ ‘คริสปี้ครีม’ ในร้านแมคโดนัลด์ครบทุกสาขาทั่วสหรัฐภายในสิ้นปี 2569 โดยจะเริ่มจำหน่ายในบางสาขาตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งจะใช้เวลาขยับขยายประมาณ 2 ปีครึ่ง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงความเป็นพันธมิตรด้านฟาสต์ฟู้ดระหว่าง 2 เชนร้านอาหารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ และการจับมือกับแมคโดนัลด์ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับคริสปี้ครีมในการขยายฐานลูกค้าด้วย

ข้อมูลนับถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 คริสปี้ครีมจำหน่ายโดนัทให้กับร้านค้า third-party 6,800 แห่งในสหรัฐ ขณะที่แมคโดนัลด์มีสาขาราว 13,500 แห่งในสหรัฐและมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 900 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2570

“เราคิดว่าเราสามารถให้บริการร้านอาหารราว 6,000 สาขาด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่เรามีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านโดนัทที่มีกําลังการผลิตล้นเหลือ” นายจอช ชาร์ลสเวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คริสปี้ครีมกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี

นอกจากนี้ คริสปี้ครีมยังอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิต เพื่อให้สามารถจัดส่งโดนัทสดใหม่ให้กับร้านแมคโดนัลด์ราว 7,500 สาขา ที่คริสปี้ครีมยังไม่สามารถเข้าถึงได้ในปัจจุบัน

ซีอีโอคริสปี้ครีม ระบุว่า ถึงแม้แมคโดนัลด์เป็นเหตุผลหลักที่บริษัทต้องขยายเครือข่ายจัดจำหน่ายอย่างรวดเร็ว แต่คริสปี้ครีมจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าถึงร้านขายของชำและร้านสะดวกซื้อที่ต้องการซัพพลายเออร์ระดับประเทศมากกว่า

ส่วนในระยะยาว คริสปี้ครีมคาดว่าจะสามารถขยายจุดจำหน่ายโดนัทของตนได้มากกว่า 100,000 แห่งทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากแนวโน้มก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 75,000 แห่ง ขณะที่ในปัจจุบัน เครือข่ายคริสปี้ครีมมีจำนวนมากกว่า 14,100 แห่งใน 39 ประเทศ

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของคริสปี้ครีม (DNUT) ในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กของสหรัฐ ร่วงไปแล้วราว 20% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงเหลือ 2,110 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 76,688 ล้านบาท 

‘อัครเดช-รทสช.’ วอน ‘ตร.’ แก้ระเบียบให้ตำรวจชั้นผู้น้อย เบิกค่าเช่าบ้านในภูมิลำเนาตนได้ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ

(27 มี.ค.67) ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเขตอำเภอบ้านโป่ง โดยเรื่องแรกตนได้รับการร้องเรียนจากตำรวจชั้นผู้น้อยในเขตจังหวัดราชบุรีว่า ค่าเช่าบ้านตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สามารถเบิกจ่ายให้กับตำรวจชั้นผู้น้อยที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด และเลือกมาลงที่โรงพักที่ตามภูมิลำเนาได้

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ตรงนี้เป็นความเดือดร้อนของตำรวจชั้นผู้น้อย ที่มีรายได้ไม่ค่อยเพียงพอต่อการดำรงชีพอยู่แล้ว ดังนั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือรัฐควรจะดูแลผู้ปฏิบัติหน้าที่

“ผมจึงขอให้ประธานสภาฯ ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทบทวน กฎระเบียบดังกล่าว เพื่อให้ตำรวจชั้นผู้น้อยสามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้” นายอัครเดช กล่าว

สำหรับ ปัญหาเรื่องที่สอง ขอให้กรมทางหลวงได้ทำโครงการต่อเนื่อง จากที่ตนได้เคยเสนอทำโครงการถนน 4 ช่องจราจรสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง รมว.คมนาคมสมัยนั้น ได้รับปากดำเนินการให้ ซึ่งปัจจุบันโครงการถนน 4 เลน จากตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่งมาที่หนองปลาหมอกำลังก่อสร้างอยู่ เป็นสิ่งที่ประชาชนในอำเภอบ้านโป่งดีใจเป็นอย่างมากเพราะรอคอยถนนเส้นนี้มาเป็นหลายสิบปี

“ผมจึงขอให้ทางกรมทางหลวงได้ทำโครงการต่อเนื่องจากหนองปลาหมอ ผ่านตำบลเขาขลุงไปออกที่ท่าม่วงจะได้เป็นถนน 4 เลนตลอดสาย เพื่อลดอุบัติเหตุให้กับประชาชนชาวอำเภอบ้านโป่งด้วย” นายอัครเดช กล่าวย้ำ

'นักร้องปินส์' นำเพลงไทยไปแปลงเนื้ออังกฤษ ดังจนติดชาร์ต Spotify แต่ไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค. 67) เพิ่งเสร็จศึกสุขุมวิท 11 แก๊งกะเทยไทย - ฟิลิปปินส์ซัดกันนัว ล่าสุดก็มาเปิดศึกกันอีกครั้งเมื่อพบว่า ดาว TikTok ชาวฟิลิปปินส์ นำเพลงฮิตของไทยไปเปลี่ยนเนื้อเป็นภาษาอังกฤษแถมอัปลง Spotify ให้คนสตรีมมิ่งจนติดชาร์ต แต่งานนี้เหมาเงินเรียบแบบไม่ให้เครดิตคนทำงานฝั่งไทย แถมไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย ทำเอานักร้องเจ้าของเพลงเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย

เรียกได้ว่าเพลง ‘พี่ชอบหนูที่สุดเลย’ ( I Like You The Most ) ของศิลปิน PONCHET ft. VARINZ ที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง แม้แต่ เตนล์ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล จากวง NCT ก็นำไปร้องจนแฟนเพลงเค-ป็อปทั่วโลกให้ความสนใจ

งานนี้หนุ่มดาว TikTok ของฟิลิปปินส์ที่ชื่อว่า SHAD ก็ได้อาศัยกระแสมาชุบมือเปิบ นำเพลงไปเปลี่ยนเนื้อเป็นภาษาอังกฤษ แต่เท่านั้นไม่พอยังอัปลงสตรีมมิ่งดัง ๆ มากมายทั้ง Spotify, iTunes รวมถึง Melon สตรีมมิ่งเพลงของเกาหลีใต้

ซึ่งเพลงได้รับความสนใจจนถึงขั้นติดท็อปชาร์ต Spotify Viral Songs และ Spotify PH Viral Songs ซึ่งงานนี้ไม่มีการให้เครดิตทางฝั่งศิลปินไทย และกวาดรายได้รวมถึงค่าลิขสิทธิ์เข้ากระเป๋าตนเองคนเดียวเต็ม ๆ

ทำเอาชาวไทยไม่อยู่เฉย พากันเหมารถทัวร์ไปเปิดศึกช่วยกันรุมรีพอร์ตแถมยังพากันไปถล่มคอมเมนต์มากมายใส่ดาว TikTok รายนี้ และแนะนำไม่ให้คนสนับสนุนหรือดาวน์โหลดเพลงด้วย ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าของเพลงฝั่งไทยทราบเรื่องแล้ว และเตรียมดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับเหตุการณ์ชุบมือเปิบครั้งนี้ด้วย

'รศ.ดร.สุวินัย' เลคเชอร์!! พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่? แนะ!! ไม่ต้องถก แค่เข้าใจคำสอนที่เป็นหัวใจแห่งพุทธธรรมก็พอ

(27 มี.ค.67) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เห็นเมื่อสองวันก่อน อยู่ดี ๆ พิภพ ธงชัย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนเสื้อเหลือง) ก็โพสต์ขึ้นมาลอย ๆ ว่า "พระพุทธเจ้าไม่มีจริง!"

ไม่ต้องมาเถียงกันหรอกว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่?

เราควรมาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนดีกว่าว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร และอะไรคือคำสอนที่เป็นหัวใจของพุทธธรรม?

ถ้าเป็นชาวพุทธจริง ๆ ย่อมทราบดีว่า การเจริญสติเป็นแก่นคำสอนของพระพุทธองค์ และเป็นทางเอกไปสู่การบรรลุพุทธะ

'สติ' ตามความหมายของพุทธธรรมคือ 'สติ' ที่เป็นสภาพธรรมฝ่ายดี เป็นเจตสิกที่เกิดกับจิตที่ดีเท่านั้น ... โดยจะไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย

สติจึงเป็นเจตสิก และเป็นเจตสิกที่เป็นสังขารขันธ์ 

เจตสิกหมายถึงองค์ประกอบของจิต อาการหรือการแสดงออกของจิต

ถ้าแบ่งเจตสิกตามประเภทของ ขันธ์ จะแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ เวทนาขันธ์ (เวทนาเจตสิก), สัญญาขันธ์ (สัญญาเจตสิก) และ สังขารขันธ์ (ซึ่งเป็นเหมือนรหัสพันธุกรรมของจิต)

ดังนั้น ขณะใดที่เป็น 'อกุศล' ขณะนั้นย่อมไม่มี 'สติ' ตามความหมายของพระพุทธองค์

แต่ถ้าขณะใดที่เป็น 'กุศล' ไม่ว่าระดับใด ขณะนั้นย่อมมี 'สติเจตสิก' เกิดร่วมด้วยเสมอ 

เพราะ 'สติ' ทำหน้าที่ระลึก และกั้นกระแสกิเลสที่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้นในขณะที่ 'สติ' เกิด

นอกจากนี้ 'สติ' ยังมี 4 ขั้นในคำสอนเชิงปฏิบัติของพระพุทธองค์ คือ…

(1) สติขั้นทาน (ระลึกที่จะให้)
(2) สติขั้นศีล (ระลึกที่จะไม่ทำบาปทางกาย-วาจา-ใจ)
(3) สติขั้นสมถะ (ระลึกลมหายใจ)
(4) สติขั้นวิปัสสนา (ระลึกลักษณะสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตรงหน้า พร้อมกับ 'รู้' ว่ามันไม่มีตัวตน)

ในวิชาอภิธรรมของพระพุทธองค์... 'สติ' สังกัดอยู่ใน ‘โสภณเจตสิก 25’

โสภณเจตสิก หมายถึง กลุ่มเจตสิกฝ่ายดีงาม เป็นกลุ่มที่ประกอบได้กับ 'โสภณจิต' โดยที่โสภณเจตสิกมีอยู่ 25 ดวง แบ่งเป็น 4 กลุ่มดังนี้...

กลุ่มที่หนึ่ง ‘โสภณสาธารณเจตสิก 19’ 
ได้แก่ สติ, สัทธา, หิริ, โอตตัปปะ, อโลภะ, อโทสะ, ตัตรมัชฌัตตา (อุเบกขา) รวมเป็น 7

ที่เหลือจัดเป็น 6 คู่รวมเป็น 12 คือการบังคับควบคุมเจตสิกและจิตที่ดี ได้แก่...
(1) กายลหุตา จิตลหุตา (ทำกายเบาจิตเบา)
(2) กายมุทุตา จิตมุทุตา (ทำกายอ่อนจิตอ่อน)
(3) กายกัมมัญญัตตา จิตกัมมัญญัตตา (ทำกายจิตควรแก่งาน คือพอประมาณ)
(4) กายอุชุตา จิตตอุชุตา (ทำกายจิตให้ตรง ไม่เอนเอียง)
(5) กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ (ทำกายจิตให้สงบ)
(6) กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา (ทำกายจิตให้คล่องแคล่ว)

กลุ่มที่สอง ‘วิรัตติ 3’
ได้แก่ สัมมาวาจา(เจรจาชอบ) สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ) และ สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)

กลุ่มที่สาม ‘อัปปมัญญา 2’
ได้แก่ กรุณา กับ มุทิตา

กลุ่มที่สี่ ‘ปัญญา 1’
ได้แก่ ปัญญินทรีย์ หรือการกำหนด 'รู้'

จะเห็นได้ว่า ‘ลมปราณกรรมฐาน’ เป็นกรรมฐานที่ทรงพลังมากในการเจริญ 'สติเจตสิก' เพราะลมปราณกรรมฐานมุ่งเจริญ ‘โสภณสาธารณเจตสิก 19’ โดยตรงนั่นเอง

ใครจะด้อยค่าพุทธธรรมยังไง...ก็ตามใจเถิด 

ใครจะไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า...ก็แล้วไปเถิด

ใครจะอวดดีประกาศว่าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง...ก็ทำไปเถิด

เพราะเพชรแท้ ไม่ว่าจะถูกมองยังไง...มันก็ยังเป็นเพชร (แห่งปัญญา) อันเลอค่าอยู่ดี

~ สุวินัย ภรณวลัย
Suvinai Pornavala

‘ยูเครน’ ส่งสัญญาณ เปิดทางทหารอียูสู้รบกับรัสเซียแทน ขู่!! หากปล่อยยูเครนพ่ายแพ้ ‘ปูติน’ จะไม่หยุดแค่นั้น

ความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอาจไปถึงจุดที่บรรดาชาติสมาชิกอียูจำเป็นต้องประจำการทหารในยูเครน เพื่อต้านทานการรุกคืบของรัสเซีย จากความเห็นของดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวการเมืองสหรัฐฯ ‘โพลิติโก’ เมื่อวันจันทร์ (25 มี.ค.) คูเลบา คร่ำครวญต่อกรณีที่ตะวันตกลดความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่เคียฟในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

"กรุณามอบแพทริออตให้เรา" คูเลบากล่าว อ้างถึงระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ซึ่งเขาเน้นย้ำว่ามีความจำเป็นต่อเคียฟ สำหรับเล็งเป้าหมายสกัดฝูงบินขับไล่ของรัสเซีย ที่พึ่งพาระเบิดนำวิถีทางอากาศเป็นหลัก "มอสโกพึ่งพากระสุนอัปเกรดของพวกเขามากยิ่งขึ้น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมทหารยูเครนถึงสูญเสียฐานที่มั่นต่าง ๆ"

เป็นอีกครั้งที่ คูเลบา แสดงความเสียใจที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรีพับลิกันยังคงขัดขวางความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ผลักดันเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะมอบแก่ยูเครน กระนั้นเขาปฏิเสธตอบคำถามกรณีเยอรมนี อีกชาติพันธมิตรลังเลจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกล ‘ทอรัส’ แก่เคียฟ โดยบอกว่าเขา "เหนื่อยหน่ายกับคำถามนี้"

อย่างไรก็ตาม เขาหลีกเลี่ยงวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำแดนน้ำหอมบอกว่าเขาไม่ตัดความเป็นไปได้ของการส่งทหารจากบรรดาชาติสมาชิกนาโตเข้าไปยังยูเครน

"เรายินดีที่ได้เห็นประธานาธิบดีมาครง มีวิวัฒนาการไปในทิศทางนั้น" รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าว แม้ความเห็นของผู้นำฝรั่งเศส นำมาซึ่งระลอกคลื่นเสียงปฏิเสธจากบรรดาผู้นำรัฐสมาชิกนาโตอื่น ๆ ซึ่งเน้นย้ำว่าไม่มีแผนส่งทหารตะวันตกไปยังยูเครน

"เคียฟไม่เคยร้องขอทหารสู้รบจากยุโรปในภาคสนาม แต่พวกผู้นำอียูอาจจำเป็นต้องรับแนวคิดนี้ เมื่อวันนั้นมาถึง" คูเลบากล่าว "ผมทราบดีว่าเหล่าชาติยุโรปไม่คุ้นเคยกับแนวคิดแห่งสงคราม แต่ยุโรปไม่อาจอยู่ในความประมาท ไม่ว่ากับตัวเองหรือกับเด็ก ๆ ของพวกเขา เพราะว่าหากยูเครนพ่ายแพ้ ปูติน (ประธานาธิบดีรัสเซีย) จะไม่หยุดแค่นั้น"

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุว่าคำกล่าวอ้างของเคียฟและบรรดาผู้สนับสนุนต่างชาติที่บอกว่ารัสเซียจะเล็งเป้าเล่นงานรัฐสมาชิกนาโต เป็นเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ผู้นำรายนี้เน้นย้ำว่ามอสโกจะปฏิบัติกับทหารตะวันตกในฐานะ ‘พวกแทรกแซง’ หากพวกเขาเข้าประจำการในยูเครน และจะตอบโต้อย่างสาสม

รองประธานรัฐสภารัสเซีย ปิออตร์ ตอลสตอย เตือนมาครง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อการสู้รบโดยตรงกับรัสเซียในสนามรบว่า "เราจะสังหารทหารฝรั่งเศสทุกรายที่ย่างเท้าเข้าสู่แผ่นดินยูเครน"

จับตากฎใหม่ของจีน คาด!! สะเทือนวงการชิปโลก หลังแบน ‘Intel’ และ ‘AMD’ หนุนชิปเมดอินไชน่า

ทางการจีนออกแนวทาง โดยมีเป้าหมายลดการพึ่งพาซีพียูจากสหรัฐอเมริกามีผลให้ทั้ง Intel และ AMD ตลอดจนครอบคลุมถึงระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมฐานข้อมูลที่ผลิตโดยบริษัทต่างชาติด้วย

ไม่นานมานี้ รัฐบาลจีนประกาศแนวทางการปฏิบัติงานที่มีจุดประสงค์เพื่อหยุดการใช้ชิปประมวลผลความจำซึ่งผลิตโดยบริษัทอินเทล (Intel) และบริษัท AMD ของสหรัฐฯ ในคอมพิวเตอร์และระบบเซิร์ฟเวอร์ของรัฐ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทมส์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยรัฐบาลจีน เผยว่า หน่วยงานรัฐบาลที่สูงกว่าระดับเมือง จะต้องระบุเงื่อนไขการจัดซื้อชิปประมวลผล รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ 'ปลอดภัยและไว้วางใจได้' ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่นี้ไปด้วย

ทั้งนี้ หากย้อนเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2023 กระทรวงอุตสาหกรรมจีนได้ออกแถลงการณ์พร้อมรายชื่อของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ระบบประมวลผลและระบบฐานข้อมูลส่วนกลาง ที่ถูกระบุว่า 'ปลอดภัยและไว้วางใจได้' เป็นระยะเวลานาน 3 ปีนับตั้งแต่วันที่มีการเผยแพร่ออกมา โดยทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทจีนทั้งหมด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รอยเตอร์ได้ส่งแฟกซ์ไปยังสำนักงานสารสนเทศสภาแห่งรัฐ (State Council Information Office) ซึ่งรับผิดชอบการติดต่อของสื่อกับคณะรัฐมนตรีจีน เพื่อขอความเห็น แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ขณะเดียวกัน ก็จัดทำรายงานข่าวนี้ ไปยัง Intel และ AMD ซึ่งก็ไม่ได้ตอบกลับคำขอความเห็นของผู้สื่อข่าวเช่นกัน

สำหรับพัฒนาการที่ทำให้จีนออกประกาศดังกล่าวขึ้นมานั้น เกิดขึ้นหลังสหรัฐฯ เดินหน้าความพยายามยกระดับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศและลดการพึ่งพาฐานการผลิตในจีนและไต้หวัน ภายใต้กฎหมาย CHIPS and Science Act ปี 2022 ที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผ่านออกมาบังคับใช้

อีกทั้งยัง สกัดกั้นการพัฒนาชิปเอไอของฝั่งจีน ด้วยการห้ามส่งออกชิปไฮเทคไปยังจีน ภายใต้เหตุผลเรื่องความมั่นคงของชาติ

ขณะเดียวกัน ผลพวงแห่งความตึงเครียดในศึกเทคโนโลยีระหว่าง 'สหรัฐฯ' กับ 'จีน' ที่เข้มข้นขึ้น โดยก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งมีรายงานข่าวว่า สหรัฐฯ มีแผนจะขึ้นบัญชีดำบริษัทในเครือข่ายของ 'หัวเว่ย เทคโนโลยีส์' นั้น

ก็ถือเป็นปมสำคัญที่เร่งให้เกิดการตอบโต้จากจีน ด้วยการแบนชิป Intel และ AMD เร็วขึ้นด้วย

สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทชิปอเมริกันอย่างหนัก โดยเฉพาะ Intel เนื่องจากจีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของอินเทลด้วยสัดส่วนถึง 27% ของยอดขายทั้งหมด 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่ AMD มียอดขายในจีน 15% ของยอดขายทั้งหมด 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์  

ขณะเดียวกัน กรุงปักกิ่ง ก็หวังกำจัดระบบปฏิบัติการวินโดว์ส (Windows) ของบริษัทไมโครซอฟท์ รวมทั้งซอฟต์แวร์ที่ผลิตโดยประเทศอื่น ๆ ออกไป เพื่อจะเปิดทางให้กับผลิตภัณฑ์ในประเทศมาเป็นตัวเลือกหลักแทนอีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top