Sunday, 28 April 2024
สงครามรัสเซียยูเครน

รบจริง - เจ็บจริง – ตายจริง!! ‘ยูเครน’ เปิดรับสมัครนักรบต่างชาติ ใครอยากลองรบสนามจริงเชิญทางนี้

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนเปิดแคมเปญใหม่ รับสมัครอาสาสมัครนักรบจากทั่วโลกมาสู้รบกับกองทหารรัสเซียในยูเครน หน่วยกล้าท้าตายคนใดสนใจ สามารถลงชื่อสมัครได้ที่สถานทูตยูเครนทั่วโลกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แผนเกณฑ์นักรบต่างชาติของเซเลนสกี้ จะได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพยูเครน ในกองรบพิเศษที่ชื่อว่า “International Brigade of the Territorial Defense of Ukraine” ซึ่งผู้นำยูเครนย้ำว่า นี่ไม่ใช่การรบเพื่อป้องกันดินแดนยูเครนเท่านั้น แต่จะเป็นแผ่นดินยุโรปทั้งผืนจากการรุกรานของรัสเซีย

และทันทีที่มีประกาศแคมเปญนี้ ที่หน้า Facebook ของสถานทูตยูเครนทั้งโลก รวมถึงประเทศไทย ก็ได้ลงประกาศรับสมัครนักรบ ไปลงสนามจริงที่ยูเครนด้วยกัน

นอกจากการรับสมัครนักรบต่างชาติเพิ่มแล้ว ยังมียอดบริจาคจากต่างประเทศหลั่งไหลไปที่ยูเครนเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เอาไปใช้จ่ายบำรุงกองทัพ และจัดหาอาวุธมายันทัพรัสเซีย รวมทั้งชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่าง สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน ก็ได้จัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่ไปส่งให้ยูเครนถึงบ้าน

‘นักวิชาการ’ เปิดข้อมูล 'ใครยืนข้างใคร' ในสงครามยูเครน ชี้ ประเทศไม่คว่ำบาตรรัสเซียเป็นคนกลุ่มใหญ่ของโลก

3 มี.ค. 65 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ใครยืนอยู่ข้างใคร ณ เวลานี้?" โดยระบุว่า... 

ประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซียมี ๒ กลุ่ม กลุ่มแรกคือชาตินักล่าอาณานิคม ซึ่งมักเรียกตนเองว่าเป็นผู้นำโลก (World Leaders) หลักๆ ก็คือพวกอียู ผมได้อธิบายแล้วว่าพวกนี้ เป็นพวกชนกลุ่มน้อย เมื่อรวมประชากรแล้ว มีอยู่ประมาณ ๙๐๐ กว่าล้านคนเท่านั้น https://www.youtube.com/watch?v=Du2qqfzFwIw

กลุ่มที่ ๒ คือประเทศบริวารของกลุ่มแรก มีทั้งประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นหรือแพ้สงครามอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นต้น

ส่วนชาติที่ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย มีมากกว่าครับ คือ
ก.กลุ่มประเทศ BRICS ได้แก่ อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้ แค่นี้ก็คิดเป็น ๔๑% ของประชากรโลกทั้งหมดแล้ว
ข.กลุ่มประเทศ OSC ได้แก่คาซักสถาน,เบลารุส, ทาจิกิสถาน, อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน
ค.กลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ได้แก่คิวบา, เวเนซุเอลา, นิคารากัว, แม็กซิโก, อาร์เจนตินา, กัวเตมาลา, โคลัมเบีย, ชิลี, เปรู
ง.กลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นสิงคโปร์
จ.กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ได้แก่ซีเรีย, อิรัก,อิหร่าน, อียิปต์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย
ฉ.กลุ่มประเทศบอลข่าน คือ เซอร์เบีย, บอสเนีย, เฮอเซโกวินา
ช.ประเทศในกลุ่มอียู ได้แก่ ฮังการี
ซ.ประเทศเอเชียที่มีเอกราชอื่นๆ เช่น เกาหลีเหนือ

‘เสธ.นิด’ ฟันธง สงครามรัสเซียยูเครน จบในอีก 3 วีค ชี้ถึงเวลาที่ ‘ปูติน’ ต้องปิดเกม ก่อนกำลังทหารล้า

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Vachara Riddhagni ถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่า สงครามรัสเซียยูเครน 2022 นั้น คือสงครามตัวแทน Proxy War ยุคข้อมูลข่าวสาร หรือยุคดิจิตอล เมื่อสหรัฐฯ ใช้ยูเครนเป็นกลไก “ดูดซับอำนาจการรบของรัสเซียในทุกมิติสงครามให้ลดลง เช่นสงครามร้อน สงครามเศรษฐกิจการเงิน สงครามจิตวิทยามวลชน สงครามข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น” 

แต่ผมคิดว่าสหรัฐฯ เข้าใจผิดเพราะประธานาธิบดีปูตินได้ทำกรณีศึกษาและหาหนทางปฏิบัติ Appreciation ของ “ทุกตัวละครอย่างดีเยี่ยม เช่น ไบเดน บอริส จอห์นสันหรือ มาครอง คิดอย่างไร มีแผนร่วมอย่างไร” 

โดยการสร้างสมมติฐานเชิงวิเคราะห์ลักษณะ If -Then หรือ “ถ้าเป็นอย่างนี้จะเป็นยังไงแล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง” 

สถานการณ์การรบยังคงเป็นการปิดล้อมเมือง ตัดเส้นทางคมนาคม ตัดเส้นทางขนอาวุธส่งให้กองทัพยูเครน ฝ่ายกองทัพยูเครนก็เหลือพื้นที่ดำเนินกลยุทธ์น้อยลงไปทุกที่ “ในที่สุดจะอ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ และจะยอมแพ้ในที่สุด 

ส่วนอาวุธที่ยึดได้มานั้น ในที่สุดจะตกเป็นบำเหน็จสงครามให้กองทัพ DPR และ LPR ในอนาคตโดยรัสเซียไม่ต้องสนับสนุน

ดังนั้นช่วงนี้เป็นช่วงที่วิกฤติของพลเมืองในหลายๆ เมืองรวมทั้งในกรุงเคียฟที่ฝ่ายทหารยูเครนไม่ยอมให้ “ประชาชนอพยพออกไป เพราะต้องการใช้ประชาชนเป็นตัวประกันในเรื่องการส่งเสบียงอาหารน้ำและเวชภัณฑ์รวมทั้งยาต่างๆ” 

ข่าวนี้เป็นข่าวจากฝ่ายรัสเซียเราจึงฟังหูไว้หูแต่ “ความจริงจะปรากฏเองในอนาคต” แต่มันเป็น “หนทางปฏิบัตการหนึ่งที่ทำให้กองทัพรัสเซียปฏิบัติลำบาก็มากขึ้น” 

ผมพยากรณ์ว่า “สงครามรัสเซียยูเครน 2022 จะยุติลงใน 3 สัปดาห์หรือบวก/ลบข้างหน้านี้เพราะ

1.) สงครามถึงจุดที่กองทัพรัสเซียต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยกำลังรบในขณะนี้ มิฉะนั้นทหารจะเริ่มล้าลงหากจะเปลี่ยนกำลังใหม่นั้นจะเสียเวลาอีกในการสับเปลี่ยนกำลังและเป็นการทำให้ฝ่ายยูเครนได้ปรับกำลังรบเช่นกันและจะได้มีกำลังทหารรับจ้างเพิ่มขึ้น (ประเทศตะวันตกระดมทุนจ้างทหารรับจ้างให้)

ช่วงนี้มีการยุทธ์ที่ เมืองท่า มาริอูลโปลซึ่งกองทัพรัสเซียคงจะยึดได้ในวันี้พรุ่งนี้ “การขนส่งทางทะเลด้วยเรือสินค้าชาตินาโต้ซึ่งรัสเซียทำลายไม่ได้ หากทำลายก็จะเป็นกับดักรัสเซียให้เผชิญหน้ากับนาโต้โดยตรงซึ่งกลายเป็นความชอบธรรมในการสงครามของนาโต้สนับสนุนฝ่ายกองทัพยูเครน แต่ถ้าท่าเรือที่เมือง มาริอูลโปถูกยึดได้ การขนส่งทางทะเลก็จะยุติลง”

2.) ฤดูกาลกำลังจะเปลี่ยนเป็น “ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มฤดูกาลเพาะปลูก” ฤดูกาลที่ผู้คนต้องการความผาสุก

3.) เมื่อเข้าฤดูร้อนนั้นทำให้การปฏิสังขรณ์อาคารบ้านเรือนที่พังเพราะภัยสงครามกระทำได้ง่ายขึ้นเพราะการขนส่งสะดวกขึ้น คนงานใช้เวลากลางแจ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.) ฝ่ายประธานาธิบดีปูตินต้อง “มุ่งเน้น (Focus)ทำสงครามเศรษฐกิจการเงิน สงครามจิตวิทยามวลชนและสงครามข้อมูลข่าวสาร” 

5.) จะเป็นเวลาที่ชาว DPR และ LPR จะจัดการบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น เชิง การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจการเงินและระเบียบสังคมใหม่


ที่มา : https://www.facebook.com/1010126969/posts/10224777539958410/

‘เซเลนสกี’ เรียกร้องทั่วโลกลงถนนร่วมชุมนุม หวังเป็นแรงกดดัน ‘รัสเซีย’ หยุดรุกรานยูเครน

เมื่อวันพุธ (23 มี.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เรียกร้องประชาชนทั่วโลก รวมตัวกันบนท้องถนนสายต่างๆ เพื่อหยุดรัสเซียจากการรุกรานประเทศของเขา

เซเลนสกี กล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอเป็นภาษาอังกฤษ ว่า "ให้ทุกคนมาพร้อมกับสัญลักษณ์ยูเครน เพื่อสนับสนุนยูเครน เพื่อสนับสนุนเสรีภาพ เพื่อค้ำจุนชีวิต ด้วยการไปที่จัตุรัสต่างๆ ของพวกคุณ ไปบนท้องถนนสายต่างๆของพวกคุณ ทำให้พวกเขาเห็นพวกคุณและได้ยินเสียงพวกคุณ"

ในการปราศรัยที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก หนึ่งวันก่อนหน้าครบรอบ 1 เดือน ปฏิบัติการรุกรานของรัสเซีย เซเลนสกี เรียกร้องประชาชนทั่วทุกมุมโลก "ลุกขึ้นต่อต้านสงคราม เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมเป็นต้นไป และส่งเสียงต่อต้านสงครามนองเลือดของรัสเซีย"

"แสดงให้เห็นจุดยืนของคุณ ออกมาจากที่ทำงานของคุณ บ้านของคุณ โรงเรียนของคุณและมหาวิทยาลัยของคุณ มากันในนามของสันติภาพ" เซเลนสกีกล่าว "โลกต้องหยุดสงครามนี้"

พลเรือนหลายร้อยคนเสียชีวิตและอีกหลายร้อยคนได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกันก็มีประชาชนชาวยูเครนอีกมากกว่า 3 ล้านคนที่ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเพื่อนบ้านแห่งนี้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้าหมายขจัดเส้นทางมุ่งหน้าสู่การฝักใฝ่ตะวันตกของยูเครน

แด่มิตรสหายเท่านั้น!! ‘รัสเซีย’ อาจเปิดชำระ ‘ค่าน้ำมัน-ก๊าซ’ ด้วยบิตคอยน์ เชื่อ!! ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าเงินรูเบิล

มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย เผยว่า ทางการรัสเซียกำลังพิจารณาให้ประเทศที่เป็นมิตร สามารถชำระค่าก๊าซและน้ำมันเป็นบิตคอยน์ได้ เพื่อเป็นทางเลือก ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากนานาชาติ

พาเวล ซาวัลนี สมาชิกรัฐสภาและประธานคณะกรรมาธิการด้านพลังงานของสภาดูมา ของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียกำลังพิจารณาให้ “ประเทศที่เป็นมิตร” กับรัสเซีย สามารถชำระค่าน้ำมันและก๊าซด้วยบิทคอยน์ได้

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลัง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศว่าจะให้ประเทศ “ไม่เป็นมิตร” ชำระค่าก๊าซเป็นเงินสกุลรูเบิล ซึ่งสำนักข่าว RT ของรัสเซียรายงานว่า มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเงินสกุลรูเบิล ซึ่งอ่อนค่าไปมากกว่า 20% ในปีนี้

รัสเซีย คือ ผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก และส่งออกน้ำมันดิบมากเป็นอันดับสองของโลก ขณะที่มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ส่งผลกระทบต่อค่าเงินรูเบิล และส่งผลให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น

ซาวัลนี เสริมว่า ทางการรัสเซียกำลังมองหาทางเลือกหลายๆ ทาง เพื่อรับการชำระค่าส่งออกพลังงาน เขายังกล่าวอีกว่า จีนและตุรกี เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่เป็นมิตร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตร รัสเซียได้เสนอจีนมานานแล้วว่าให้เปลี่ยนการจ่ายเงินเป็นสกุลเงินของชาติตน เช่น หยวนและรูเบิล ส่วนตุรกีนั้น จะเป็นการชำระเงินด้วยเงินสกุลลีรา และรูเบิล นอกจากนี้ ก็สามารถจ่ายด้วยบิทคอยน์ได้ด้วยเช่นกัน

ด้าน เดวิด บรอดสต๊อค นักวิจัยจากสถาบันศึกษาพลังงานในสิงคโปร์ กล่าวกับ BBC ว่า รัสเซียรู้สึกได้ถึงอย่างรวดเร็วจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพยุงเศรษฐกิจ และบิทคอยน์คือสินทรัพย์ที่มีการเติบโตสูง ทำให้รัสเซียอาจได้ประโยชน์จากการรับการชำระเงินเป็นบิทคอยน์ แม้จะมีความเสี่ยงก็ตาม

ความเสี่ยงที่ว่าคือ มูลค่าของบิตคอยน์นั้นแกว่งมากถึง 30% ในปีนี้ ถ้าเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ต่อเงินยูโร ซึ่งแกว่งไม่เกิน 5%

'ผู้นำยูเครน' อ้าง!! รัสเซียกำลังเสียหายหนัก นายพลดับ 7 ทหารตายเกลื่อน 16,000 นาย

ผู้นำยูเครน’ เผย ทางการรัสเซียเริ่มคิดถึงการเจรจายุติการสู้รบ หลังทหารรัสเซียเสียชีวิตราว 16,000 นาย ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ยืนยันทหารยูเครนประสบความสำเร็จ ในการต้านทานการรุกรานของทหารรัสเซีย โดยระยะเวลา 1 เดือน ของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทหารรัสเซียเสียชีวิตไปแล้วราว 16,000 นาย ทำให้ทางการรัสเซียหันมาคิดถึงการเจรจายุติการสู้รบ โดยยูเครนย้ำว่าการเจรจาที่จะมีขึ้นจะต้องมีประเด็นอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนร่วมอยู่ด้วย รวมทั้งทั้งเงื่อนไขต่างๆ จะต้องเป็นธรรม ไม่อย่างนั้นชาวยูเครนจะไม่ยอมรับ

ทั้งนี้ การประกาศแสดงความมั่นใจของผู้นำยูเครนขึ้น หลังการบุกกรุงเคียฟของทหารรัสเซียหยุดชะงักมานานหลายสัปดาห์ ไม่ได้รุกคืบหน้า และทหารยูเครนสามารถผลักดันทหารรัสเซียและทัพรถถังรัสเซีย ให้ออกห่างจากกรุงเคียฟไปได้ประมาณ 35 กิโลเมตรจากกรุงเคียฟ จากเดิมที่ทัพรัสเซียอยู่ห่างเคียฟประมาณ 20 กิโลเมตร รวมทั้งสามารถยึดคืนเมืองเล็กๆ หลายเมืองรอบๆ กรุงเคียฟ คืนจากรัสเซียด้วย

ไต้หวัน ชี้! ผลพวงโลกคว่ำบาตรรัสเซีย ดัน ‘หยวน’ ผงาดแทนที่ ‘ดอลลาร์’

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน ชี้ สงครามในยูเครน และการที่รัสเซียถูกกีดกันออกจากระบบการเงินโลกได้สร้างโอกาสทองให้สกุลเงิน ‘หยวน’ ของจีนก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมข้ามแดนแข่งกับดอลลาร์สหรัฐ

รัสเซีย ประกาศชัดเจนว่าหวังพึ่งจีนเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และเตรียมนำเงินทุนสำรองสกุลหยวนออกมาใช้ หลังจากที่ถูกชาติตะวันตกปิดกั้นไม่ให้สามารถเข้าถึงเงินทุนสำรองสกุลดอลลาร์สหรัฐ และยูโรได้

เฉิน หมิงทง (Chen Ming-tong) ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติไต้หวัน กล่าวต่อรัฐสภาวันนี้ (28 มี.ค.) ว่า จีนพยายามมานานที่จะลดความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐลง และสงครามยูเครนก็ยิ่งเปิดโอกาสให้เงินหยวนก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก

“ไม่ว่าจะในแง่การค้า (trade) หรือระบบการออกเงินตรา (currency issuance system) นี่คือโอกาสที่จีนจะต้องรีบคว้าเอาไว้” เฉิน กล่าว

ไต้หวัน ซึ่งถูกจีนอ้างว่าเป็นดินแดนในอธิปไตย ได้ยกระดับการเฝ้าระวังด้านความมั่นคงนับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุ ด้วยเกรงว่าจีนอาจจะฉวยโอกาสรุกรานเหมือนอย่างที่รัสเซียทำกับยูเครน

เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ยังเฝ้าจับตาด้วยว่า สงครามในต่างแดนครั้งนี้จะให้ “บทเรียน” อะไรกับจีนและไต้หวันบ้าง

เดียวดายปลายปากเหว!! ในใจ ‘เซเลนสกี้’ ความหวั่นใจสงครามกับรัสเซีย เมื่อยูเครนอาจถูกแบ่ง ‘เหนือ-ใต้’ แบบเกาหลี

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนยอมรับว่า การทำสงครามกับรัสเซียเป็นเรื่องที่เกินกำลังของกองทัพยูเครนมาก และยากที่จะเอาชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จ แม้จะสามารถยันกองทัพรัสเซียที่พยายามจะพิชิตกรุงเคียฟได้ แต่ก็จะไม่สามารถที่จะผลักดันทหารรัสเซียออกไปจากยูเครนได้

เช่นเดียวกับกองทัพรัสเซีย ที่เริ่มเข้าใจแล้วว่าการที่จะยกทัพมาบุกยึดยูเครนทั้งประเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ แล้วในยุคสมัยนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูง ว่ารัสเซียอาจต้องปรับลดเป้าหมายลง แต่ยังคงวัตถุประสงค์เดิมที่ตั้งไว้ 

ประเด็นดังกล่าวตรงกับความเห็นของหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของยูเครน ว่ารัสเซียอาจใช้ ‘เกาหลีโมเดล’ แบ่งประเทศเป็น 2 ส่วน แล้วทางรัสเซียจะยึดครองไปส่วนหนึ่ง เหลืออีกฝั่งเป็นเขตปกครองของรัฐบาลยูเครนปัจจุบันไป 

เรื่องนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถยุติการสู้รบในครั้งนี้ได้ ในจังหวะที่รัสเซียพิชิตยูเครนทั้งประเทศไม่ไหว ยูเครนก็ไม่มีกำลังพอจะขับไล่กองทัพรัสเซียได้ และการเรียกให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาผสมโรง ถล่มรัสเซียในยูเครนก็ยิ่งทำให้ประเทศบอบช้ำ แถมอาจลุกลามกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิด

นอกจากนี้ หากยูเครนจะใช้กลยุทธ์สงครามแบบกองโจร ก็ยิ่งทำให้สงครามยืดเยื้อแบบสงครามในอัฟกานิสถาน และสุดท้ายยูเครนก็อาจจะไม่ได้แตกแค่ 2 ประเทศ เพราะในยูเครนก็มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอีกจำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะลุกฮือขึ้นมาประกาศแยกตนเป็นรัฐอิสระ สุดท้ายยูเครนอาจแตกเป็นประเทศเล็ก ประเทศน้อยอย่างที่เกิดขึ้นในยูโกสลาเวีย

เพราะโดยนัยแล้ว ดูเหมือนเป้าหมายหลักของสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ใช่การสนับสนุนยูเครน แต่เป็นการโค่นล้ม ‘วลาดิมีร์ ปูติน’ ผู้นำรัสเซีย โหมแรงให้สงครามรุกลามใหญ่โต ซึ่งไม่เป็นผลดีกับยูเครนเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ จึงเหมือนยืนอยู่เดียวดายปลายปากเหว และต้องคิดให้หนักว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป เพราะเชื่อได้ว่า คงไม่มีผู้นำคนไหนอยากทำหินแตก หรืออยากแยกแผ่นดินในยุคสมัยของตนเองอย่างแน่นอน


เรื่อง : อรุณรัตน์

อ้างอิง : Sky News

วางยาพิษ ‘เสี่ยหมี’ - นักสันติภาพยูเครน ระหว่างร่วมการเจรจาสันติภาพ 2 ประเทศ

วอลล์ สตรีท รายงานข่าวด่วนว่า โรมัน อับราโมวิช อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอล เชลซี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจของรัสเซีย ได้ถูกลักลอบวางยาพิษ พร้อมกับนักเจรจาเพื่อสันติภาพชาวยูเครน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการประชุมที่กรุงเคียฟ มีผู้ถูกวางยาพิษทั้งสิ้น 3 คนด้วยกัน หนึ่งในนั้นรายงานข่าวยืนยันว่าเป็น โรมัน อับราโมวิช

โรมัน พร้อมด้วยผู้ประกอบการชาวรัสเซียอีกคนหนึ่งได้มีส่วนร่วมในการเจรจาร่วมกับตัวแทนของยูเครน  ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 3 มีนาคมได้เกิดขึ้นที่ยูเครน และการประชุมดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณ 22:00 น.

กลาโหมรัสเซีย โว บุกยูเครน 1 เดือนเป็นไปตามแผน ทำลายกองทัพเคียฟยับ เดินหน้าปลดแอก ‘ดอนบาสส์’

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่า การปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของตนกำลังดำเนินไปตามแผนการที่วางไว้ โดยสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญๆ ทั้งหมดของขั้นตอนแรกแห่งการปฏิบัติการได้อย่างสมบูรณ์ในภาพรวมแล้ว ทั้งนี้ ตามการแถลงข่าวครั้งใหญ่ของกระทรวงเมื่อวันศุกร์ (25 มี.ค.) ที่ผ่านมา

ตามการแถลงของกระทรวง กองทัพยูเครนประสบความสูญเสียอย่างร้ายแรง กล่าวคือ กำลังทางอากาศและกำลังป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนถูกทำลายแทบหมดสิ้น ขณะที่กองทัพเรือยูเครนไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปแล้ว เวลาเดียวกัน ดินแดนดอนบาสส์เกือบทั้งหมดได้รับการปลดแอกแล้ว

ผลการประเมินการปฏิบัติการ

“ในภาพรวม เป้าหมายสำคัญๆ ในขั้นตอนแรกของการปฏิบัติการครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว” รองเสนาธิการใหญ่ (General Staff deputy head) ของรัสเซีย พล.ท.เซียร์เก รุดสกอย (Colonel General Sergey Rudskoy) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวครั้งนี้

เขาอธิบายต่อไปว่า จากการที่ศักยภาพทางการทหารของยูเครนถูกลดทอนลงไปอย่างสำคัญแล้วเช่นนี้ จะทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะรวมศูนย์ความพยายามหลักไปที่เป้าหมายสำคัญที่สุด อันได้แก่ การปลดแอกดินแดนดอนบาสส์ ขณะที่ตัวการปฏิบัติการเองจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อบรรลุ “เป้าหมายต่างๆ ที่วางเอาไว้โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด อย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งหมด”

พล.ท.รุดสกอย บอกว่า เวลานี้กองทหารรัสเซียได้เข้าล้อมเมืองใหญ่สำคัญๆ ของยูเครนเอาไว้จำนวนหนึ่ง ได้แก่ เคียฟ คาร์คอฟ เชอร์นิกอฟ ซูมี และนิโกลาเยฟ ส่วนเขตเคอร์ซอน และเกือบทั้งหมดของเขตซาโปโรชเย ต่างตกอยู่ใต้การควบคุมของฝ่ายรัสเซียอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“สาธารณชน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญบางคน ตั้งคำถามขึ้นมาว่าเราทำอะไรรอบๆ พวกเมืองใหญ่ของยูเครนที่ถูกล้อมหล่านี้ […] ตั้งแต่เริ่มต้นแล้วเราก็ไม่ได้มีแผนการบุกโจมตีเข้าไปในเมืองเหล่านี้ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการทำลาย และลดความสูญเสียในหมู่บุคลากรและในหมู่พลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด” รุดสกอย กล่าว แต่ชี้ด้วยว่า ทางเลือกดังกล่าวไม่ใช่ว่าจะถูกบอกปัดไม่นำมาใช้กันเลย

ตามปากคำของนายทหารอาวุโสผู้นี้ อาวุธต่างๆ ของรัสเซีย “แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ และความไว้วางใจได้ในระดับสูง รวมทั้งมีความสามารถในการนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว”

เขาระบุว่า ระหว่างช่วงเดือนแรกของการปฏิบัติการ ทหารรัสเซียเสียชีวิตไป 1,351 คน ขณะที่บาดเจ็บ 3,825 คน

ความสูญเสียของฝ่ายยูเครน

สำหรับกองทหารยูเครน สูญเสียกำลังคนอย่างชนิดที่ไม่สามารถแก้ไขกอบกู้ได้เป็นจำนวนมากกว่า 14,000 คน ขณะที่จำนวนของการสูญเสียทั้งหมดทั้งที่เป็นพลทหารและนายทหารอยู่ที่ราวๆ 30,000 คน หรือเท่ากับประมาณ 11.5% ของบุคลากรในกองทัพยูเครน

รุดสกอยแจกแจงว่า กำลังทางอากาศและระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนนั้น “ถูกทำลายไปแทบหมดสิ้น” เวลาเดียวกันกองทัพเรือยูเครน “ไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปแล้ว”

สำหรับขบวนกองทหารภาคพื้นดินของยูเครนทั้ง 24 ขบวนล้วนประสบ “ความสูญเสียอย่างสำคัญ” และเนื่องจากว่ายูเครนนั้นไม่มีกำลังพลสำรองที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงบังคับให้ยูเครนต้องชดเชยกำลังที่สูญเสียไปด้วยการระดมพลกะเกณฑ์ทหารใหม่ๆ ตลอดจนการใช้หน่วยรักษาดินแดนที่ไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมอย่างถูกต้องเหมาะสม

ไม่เพียงเท่านั้น ยูเครนยังสูญเสียยานยนต์สู้รบของตนไปในจำนวนที่สำคัญ กล่าวคือ 65.7% ของรถถังและยานหุ้นเกราะทั้งหมด 42.8% ของปืนใหญ่สนามและปืนครกทั้งหมด 30.5% ของระบบยิงจรวดแบบหลายลำกล้องทั้งหมด และ 82% ของระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ เอส-300 และ บุค-เอ็ม 1 ของตน รวมทั้ง 85% ของระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี โตชกา-ยู ทั้งหมดก็ถูกกำจัดไปแล้ว

ยิ่งกว่านั้น สามในสี่ของเครื่องบินทหารของยูเครน และครึ่งหนึ่งของเฮลิคอปเตอร์ของยูเครนได้ถูกทำลายไปเรียบร้อย ส่วนในจำนวนโดรน บายรัคตาร์ ทีบี-2 จำนวน 36 เครื่อง ก็เหลืออยู่เพียงเครื่องเดียวเท่านั้นที่ยังใช้งานได้

กองทหารรัสเซียยังได้ดำเนินการโจมตีสนามบินทหารแห่งหลักๆ ของยูเครน 16 แห่ง ทำลายคลังยุทธสัมภาระและคลังแสงรวม 39 แห่ง คลังเหล่านี้เป็นที่เก็บรวบรวมมากกว่า 70% ของยานยนต์ทหาร อุปกรณ์ต่างๆ และเชื้อเพลิง ตลอดจนเครื่องกระสุนน้ำหนักมากกว่า 1 ล้านตัน อาวุธที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซียยังโจมตีถูกโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางทหารแห่งสำคัญๆ 30 แห่ง

สถานการณ์ในดอนบาสส์

สำหรับสถานการณ์ในดอนบาสส์ รุดสกอยอธิบายว่า ระหว่างช่วงเดือนแรกของการปฏิบัติการ พื้นที่ส่วนสำคัญของสาธารณรัฐประชาชนโดเน็ตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ ได้รับการปลดแอก คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 54% และ 93% ตามลำดับ ส่วนกองทหารบ้านของประชาชนของสาธารณรัฐทั้ง 2 ก็สามารถเข้าควบคุมเหนือชุมชนต่างๆ มากกว่า 276 แห่ง

กองทหารยูเครนในดอนบาสส์สูญเสียกำลังพลไปประมาณหนึ่งในสี่ หรือเท่ากับราวๆ 16,000 คน โดยที่ 7,000 คนในจำนวนนี้ไม่สามารถแก้ไขกอบกู้กลับมาได้อีกแล้ว

เวลานี้ กองกำลังของสาธารณรัฐประชาชนลูกานสก์ สู้รบอยู่ใกล้ๆ เซเวโรโดเน็ตสก์ และ ลิซิชฮานสก์ ขณะที่กองกำลังของสาธารณรัฐประชาชนโดเน็ตสก์ยังคงดำเนินการปลดแอกเมืองมาริอูโปล และเปิดการรุกในทางด้านตะวันตกของโดเน็ตสก์

นายทหารอาวุโสผู้นี้ระบุว่า มีผู้คนมากกว่า 23,000 คนจาก 37 ประเทศแสดงความพรักพร้อมที่จะเข้าสู้รบเพื่อดอนบาสส์ และมอสโกเสนอแนะให้สาธารณรัฐทั้งสองยอมรับความช่วยเหลือนี้ ทว่าสาธารณรัฐทั้งสองปฏิเสธข้อเสนอนี้

“พวกเขามีกำลังพลและอาวุธพอเพียงแล้ว” รุดสกอย อธิบาย

อย่างไรก็ตาม กองทหารรัสเซียได้ส่งมอบข้าวของทางทหารที่ยึดเอาไว้ได้ให้แก่สาธารณรัฐทั้งสอง ที่ควรต้องพูดถึงเป็นพิเศษก็คือ สาธารณรัฐทั้งสองได้รับมอบรถถังและยานหุ้มเกราะไปแล้ว 113 คัน ระบบขีปนาวุธต่อสู้รถถัง “เจฟลิน” 138 ชุด และเครื่องยิงระเบิดต่อสู้รถถัง NLAW 67 ชุด

ความช่วยเหลือจากฝ่ายตะวันตกที่ให้แก่ทางการเคียฟ

ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นการปฏิบัติการครั้งนี้ พวกรัฐต่างๆ ของตะวันตกได้ลำเลียงขนส่งชุดปืนใหญ่กว่า 100 หน่วย ระบบขีปนาวุธป้องกันทางอากาศแบบคนคนเดียวพกพาไปได้จำนวนเกือบ 900 ชุด  และอาวุธต่อสู้รถถัง 3,800 ชุด

“เราเห็นว่าการที่ฝ่ายตะวันตกลำเลียงขนส่งอาวุธเหล่านี้ไปให้ทางการเคียฟคือความผิดพลาดอย่างมโหฬาร การกระทำเช่นนี้มีแต่ทำให้การสู้รบขัดแย้งคราวนี้ยืดเยื้อออกไป เพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตาย และจะไม่สามารถส่งผลกระทบกระเทือนผลลัพธ์ของการปฏิบัติการ เป้าหมายแท้จริงของการลำเลียงขนส่งเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อสนับสนุนยูเครนเลย แต่เพื่อดึงลากยูเครนให้เข้าไปในการสู้รบขัดแย้งทางการทหารอย่างยืดเยื้อ “จนกระทั่งถึงพลเมืองชาวยูเครนคนสุดท้าย” รุดสกอย กล่าว

รองเสนาธิการใหญ่ของรัสเซียเตือนด้วยว่า มอสโกจะไม่ยอมปล่อยให้มีการลำเลียงขนส่งเครื่องบินและระบบป้องกันภัยทางอากาศไปถึงทางการเคียฟโดยไม่มีการติดตามใส่ใจ และจะ “ดำเนินการตอบโต้อย่างเหมาะสมในทันที” ถ้าหากมีใครพยายามจัดตั้งพื้นที่ห้ามบินขึ้นเหนือยูเครน

สำหรับจำนวนของพวกนักรบรับจ้างชาวต่างประเทศและนักรบชาวต่างประเทศในยูเครนนั้น รุดสกอย บอกว่าตอนแรกมี 6,600 คน แต่เวลานี้เริ่มลดลงมาแล้ว เรื่องนี้ไม่เพียงต้องขอบคุณการโจมตีด้วยความแม่นยำสูงใส่ฐานต่างๆ ของพวกเขาและค่ายฝึกต่างๆ ของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นพราะพวกเขาเองหลบหนีไปยังรัฐเพื่อนบ้านต่างๆ โดยที่ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีนักรบรับจ้างชาวต่างชาติแม้แต่คนเดียวเดินทางไปยังยูเครน ขณะที่มีพวกนักรบ 285 คนหลบหนีไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top