Saturday, 11 May 2024
สงครามรัสเซียยูเครน

กลุ่มแฮกเกอร์ Anonymous ประกาศโจมตีรัสเซีย ปล่อยข้อมูลส่วนตัว 'ทหาร 1.2 แสนนาย' ที่รุกรานยูเครน

กลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งใช้ชื่อ “แอนโนนิมัส” (Anonymous) ออกมาโวผลงานเจาะเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของทางการรัสเซีย และนำข้อมูลส่วนตัวของทหาร 120,000 นายออกมาเผยแพร่ โดยอ้างว่าทำไปเพื่อแก้แค้นปฏิบัติการรุกรานยูเครน

“ทหารรัสเซียทุกนายที่ร่วมบุกยูเครนควรถูกนำตัวขึ้นศาลอาชญากรรมสงคราม” Anonymous ประกาศผ่านทวิตเตอร์

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเปิดเผยมีทั้งวันเดือนปีเกิด ที่อยู่ เลขที่หนังสือเดินทาง และกรมกองที่ทหารเหล่านี้สังกัดอยู่

อาชญากรไซเบอร์กลุ่มนี้ระบุด้วยว่า คงต้องใช้เวลา “อีกสักพัก” กว่าสังคมจะยอมอภัยให้แก่ความโหดร้ายที่รัสเซียกระทำต่อยูเครนตามใบสั่งของวลาดิมีร์ ปูติน

แม้ Anonymous จะประกาศเรื่องการแฮกข้อมูลทหารรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 เม.ษ.) แต่ปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค. และถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว Pravda ของยูเครนตั้งแต่ช่วงวันแรกๆ ที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานทางทหาร

'นิวยอร์กไทม์ส' เผย คลิปทหารยูเครนโหด จ่อยิงเชลยศึกรัสเซียที่บาดเจ็บ

วิดีโอหนึ่งที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งได้รับการตรวจสอบแล้วจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐฯ เป็นภาพที่ทหารที่สู้รบภายใต้ธงของยูเครน กำลังจ่อยิงสังหารบุคคลรายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นเชลยศึกทหารรัสเซีย บริเวณด้านนอกหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันตกของกรุงเคียฟ ทั้งที่เชลยศึกดังกล่าวอยู่ในสภาพบาดเจ็บหนัก พฤติกรรมที่เข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม และมันเกิดขึ้นใกล้กับเมืองบูชา ดินแดนที่ทางยูเครนอ้างว่ากำลังพลรัสเซีย ลงมือสังหารหมู่พลเรือน

รายงานของนิวยอร์กไทม์สในวันพุธ (6 เม.ย.) ระบุว่า ในคลิปดังกล่าวซึ่งโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันจันทร์ (4 เม.ย.) เป็นภาพทหารรัสเซียเอาเสื้อแจ็กเกตคลุมศีรษะ ดูเหมือนได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ยังคงหายใจอยู่ "เขายังมีชีวิต ถ่ายภาพพวกนักปล้นเหล่านี้เอาไว้ ดูสิ เขายังมีชีวิตอยู่ เขากำลังหายใจลำบาก" เสียงในคลิประบุ

จากนั้นทหารนายหนึ่งจ่อยิงชายคนดังกล่าว 2 นัด และหลังจากชายรายนี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ทหารก็ลั่นไกอีกเป็นนัดที่ 3 จนกระทั่งชายที่ได้รับบาดเจ็บแน่นิ่งไป

นอกจากนี้ ยังพบเห็นทหารรายอื่นๆ อีก 3 นายที่เชื่อว่าเป็นกำลังพลของรัสเซีย นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณใกล้เคียง หนึ่งในนั้นมีบาดแผลบริเวณศีรษะ และถูกมัดมือไพล่หลัง

นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ความเป็นไปได้ที่พวกผู้ก่อเหตุนั้นจะเป็นทหารยูเครน โดยสังเกตได้จากอาร์มธงและปลอกแขนสีน้ำเงินของพวกเขา พร้อมกันนั้น ยังได้ยินพวกเขาพูดว่า "ชัยชนะแด่ยูเครน" หลายต่อหลายครั้ง

ส่วนบรรดาทหารที่เสียชีวิตนั้นสวมชุดพรางและปลอกแขนสีขาว ซึ่งสวมใส่โดยทหารรัสเซีย และพวกเขานอนเสียชีวิตอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร จากยานเกราะต่อสู้ BMD-2 คันหนึ่งของหน่วยพลร่มรัสเซีย ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส

หนังสือพิมพ์ของสหรัฐฯ ฉบับนี้รายงานว่าวิดีโอนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านดมีตริฟกา ห่างจากเมืองบูชาราว 11 กิโลเมตร

ที่เมืองบูชา คือจุดที่เจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่าพบร่างไร้วิญญาณของพลเรือนหลายร้อยศพ หลังกองกำลังรัสเซียถอนตัวจากพื้นที่ดังกล่าว ภาพศพนอนกระจัดกระจายอยู่บนท้องถนนของเมืองบูชา สร้างความตกตะลึงแก่ประชาคมนานาชาติ และโหมกระพือเสียงเรียกร้องให้สืบสวนความเป็นไปได้ของการก่ออาชญากรรมสงคราม

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ให้จับตาข่าวใหญ่! รัสเซียล้อมจับนายทหารต่างชาติในยูเครน

รัสเซียกำลังทุ่มเทความพยายามในการปิดล้อมโรงงานเหล็กชานเมืองมาริอูโปล ที่รัสเซียเชื่อว่า มีนายทหารต่างชาติบัญชาการอยู่ ในขณะที่นาโตพยายามติดต่อให้รัสเซียเปิดทางออกให้กองกำลังกลุ่มนี้ ทั้งจากกลาโหมอเมริกันและผู้นำฝรั่งเศส แต่ไม่มีการตอบรับจากรัสเซีย หากถูกปิดล้อมนาน หมดอาหาร น้ำ กระสุน จับเป็นได้เมื่อไร คงเป็นข่าวใหญ่

12 เม.ย. 65 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ว่า สถานการณ์สู้รบในยูเครน มีคำถามมากมายว่า ทำไมมหาอำนาจอย่างรัสเซียถึงใช้เวลานานนักในการจัดการยูเครน รัสเซียกำลังสู้รบกับใคร กองทัพผี ทหารต่างชาติที่แปลงร่างเป็นทหารอาสาสมัคร ควบคุมการปฏิบัติการโดยตำรวจโลก รัสเซียถูกรุมกินโต๊ะจากนาโต ลำพังยูเครนจบไปนานแล้ว แต่ยิ่งยืดเยื้อ ยูเครนจะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากซากกองเศษอิฐ

การข่าว การดักฟังการติดต่อสื่อสารรัสเซียสามารถทำได้อย่างดีจากดาวเทียมจารกรรม ไม่ใช่มีแต่ฝ่ายนาโต ฝ่ายรัสเซียคงสามารถระบุสถานที่ซ่อนตัวของกองกำลังต่างชาติได้หมดว่าอยู่ที่ไหนบ้าง

มีรายงานจากทางฝั่งรัสเซียออกมาว่า การปฏิบัติการของทหารรัสเซียเมื่อ 8 เมษายน ได้สังหารนายทหารใหญ่ระดับรองผู้บัญชาการใหญ่ของฝ่ายขวาจัด ชื่อ Bobanuch ใช้ชื่อรหัสว่า Hummer เสียชีวิต ระหว่างการลาดตระเวนใกล้เมือง Kharkov ซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่า สังหารคนรัสเซียไปจำนวนมาก

ปูตินสั่งลุยในยูเครนจนกว่าจะชนะ หลังเจรจาเจอทางตัน เชื่อ 'ระเบียบโลกสหรัฐฯ' กำลังพังทลาย

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยในวันอังคาร (12 เม.ย.) การเจรจาสันติภาพกับยูเครนเจอทางตัน และใช้การออกมาพูดต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ประกาศเดินหน้าโจมตีต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และเย้ยหยันตะวันตกว่ากำลังล้มเหลวในการบีบบังคับให้มอสโกคุกเข่ายอมจำนน ผ่านมาตรการคว่ำบาตรอันหนักหน่วง เชื่อกฎระเบียบโลกขั้วเดี่ยวที่ครอบงำโดยสหรัฐฯ กำลังล่มสลาย พร้อมแซะอเมริกาพร้อมสู้กับรัสเซียจนกว่าจะสิ้นชาวยูเครนคนสุดท้าย

ในการปราศรัยเกี่ยวกับสงครามต่อหน้าสาธารณะเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่กองกำลังรัสเซียล่าถอยจากทางตอนเหนือของยูเครน หลังหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูทางเข้ากรุงเคียฟเป็นเวลานาน ปูติน สัญญาว่าจะบรรลุทุกเป้าหมายขั้นสูงในยูเครน

คำกล่าวที่เป็นสัญญาณชัดเจนที่สุดจนถึงตอนนี้ว่าสงครามจะลากยาวต่อไป ปูตินระบุว่า เคียฟกัดเซาะการเจรจาสันติภาพ ด้วยการจัดฉากในสิ่งที่เขาเรียกว่าการกล่าวหาอันเป็นเท็จ ว่ารัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม และจากข้อเรียกร้องขอคำรับประกันด้านความมั่นคงครอบคลุมทั่วทั้งยูเครน

"เป็นอีกครั้งที่เรากลับสู่สถานการณ์ทางตันสำหรับเรา" ปูตินกล่าวระหว่างแถลงสรุป ขณะเดินทางเยือนฐานปล่อยวอสโตชินี คอสโมโดรม (Vostochny Cosmodrome) ทางตะวันออกของมอสโก ราว 5,550 กิโลเมตร

เมื่อถูกคนงานของหน่วยงานอวกาศรัสเซีย ถามว่าปฏิบัติการในยูเครนจะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ปูตินตอบว่า "แน่นอน ผมไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย"

ปูตินกล่าวต่อว่า "รัสเซียจะเดินหน้าอย่างเป็นจังหวะและสุขุมเยือกเย็นในปฏิบัติการ แต่บทสรุปทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดก็คือกฎระเบียบโลกขั้วเดี่ยว ซึ่งสหรัฐฯ ได้สร้างมาหลังจากสงครามเย็น กำลังแตกสลาย"

ประธานาธิบดีปูตินเน้นย้ำว่ารัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้รบ เพราะว่าจำเป็นต้องปกป้องพลเรือนพูดภาษารัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครน และป้องกันไม่ให้เพื่อนบ้านอดีตสหภาพโซเวียต กลายเป็นสปริงบอร์ดต่อต้านรัสเซียของบรรดาศัตรูทั้งหลายของมอสโก

ตะวันตกประณามสงครามนี้ว่าเป็นการยึดครองดินแดนในรูปแบบจักรวรรดิอันโหดเหี้ยม โดยมีประเทศอธิปไตยหนึ่งเป็นเป้าหมาย ส่วนยูเครนระบุว่าพวกเขากำลังสู้รบเพื่อความอยู่รอด หลังจาก ปูติน ผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และประกาศรับรองเอกราช 2 แคว้นกบฏทางภาคตะวันออกของยูเครน ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

'ไบเดน' โทษ 'ปูติน' ทำให้ปชช.อเมริกันกระเป๋าฉีก น้ำมัน-อาหาร-ของใช้ ราคาแพง เงินเฟ้อสูงในรอบ 40 ปี

ประชาชนชาวอเมริกาต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น สำหรับซื้อเบนซิน อาหารและข้าวของจำเป็นอื่นๆ ในเดือนที่แล้ว ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันอังคาร (12 เม.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวโทษต้นตอไปที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.5% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.1981 เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน แม้อีกด้านหนึ่งพวกเขากำลังหาทางลงโทษรัสเซียเพิ่มเติม ต่อกรณีที่เปิดปฏิบัติการทหารรุกรานยูเครน

อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นฉุดรั้งคะแนนนิยมของไบเดนให้ลดต่ำลง และประธานาธิบดีรายนี้พยายามกล่าวโทษไปที่ประธานาธิบดีวลาดิมร์ ปูติน และการรุกรานที่ก่อความปั่นป่วนแก่ตลาดพลังงานโลก

"ราคาที่เพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 70% มาจากการขึ้นราคาเบนซินของปูติน" ไบเดนกล่าวอ้างระหว่างปราศรัยในไอโอวา แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่ามันคิดเป็นสัดส่วนราวๆ เกือบครึ่งหนึ่งเท่านั้น

ราคาต่างๆ เริ่มเพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 และในขณะที่รายงานล่าสุดเผยให้เห็นว่าแม้ราคาจะแตะระดับสูงสุดในหลายรายการ แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่ามันอาจกำลังเข้าสู่ระดับคงที่

ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. เป็นไปตามที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้แต่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานหลัก ซึ่งไม่รับรวมภาคอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% น้อยกว่าที่คาดหมายไว้

เซเลนสกี โวยผู้นำฝรั่งเศส-เยอรมนี เหตุ ปฏิเสธตราหน้ารัสเซีย 'ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์'

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (13 เม.ย.) ตำหนิประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และผู้นำเยอรมนี ที่ปฏิเสธเรียกเหตุเข่นฆ่าชีวิตผู้คนในยูเครน เป็นการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ตามอย่าง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ให้คำนิยามดังกล่าวหนึ่งวันก่อนหน้านี้ คำพูดที่เรียกเสียงประณามจากรัสเซียว่าเป็นสิ่งที่ "ไม่อาจยอมรับได้"

"สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเจ็บปวดมากสำหรับเรา ดังนั้น ผมจะทำอย่างดีที่สุดในการพูดคุยกับเราในประเด็นนี้อย่างแน่นอน" เซเลนสกี กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับบรรดาผู้นำโปแลนด์ และรัฐต่างๆ ในแถบบอลติก ที่เดินทางมาเยือนกรุงเคียฟ

ในวันพุธ (13 เม.ย.) พวกผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีปฏิเสธเดินตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กล่าวหารัสเซียกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครน พร้อมเตือนว่าสงครามน้ำลายที่ลุกลามบานปลายจะไม่ช่วยหยุดสงคราม

เมื่อวันอังคาร (12 เม.ย.) ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวหากองกำลังของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน โดยบอกว่า "มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าปูตินพยายามจะลบล้างแม้แต่แนวคิดเรื่องความเป็นคนยูเครน มีการค้นพบหลักฐานเพิ่มขึ้นจากสิ่งเลวร้ายที่กองทัพรัสเซียได้กระทำลงไป และเราจะให้นักกฎหมายในองค์กรระหว่างประเทศเป็นผู้ตัดสินว่ามันเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่ แต่สำหรับตัวผมแล้ว มันดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น"

เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้คำจำกัดความนี้นิยามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

'มะกัน' ขู่ รัฐบาลจีน ระวังเจอ 'กรรมสนอง' ปมไม่ช่วยหยุดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทั้งที่สามารถทำได้

จีนควรช่วยหยุด "สงครามอันชั่วร้าย" ของรัสเซียในยูเครน ไม่อย่างนั้นอาจเผชิญการสูญเสียสถานะในเวทีโลก เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในวันพุธ (13 เม.ย.) ส่งเสียงเตือนว่าใครก็ตามที่บ่อนทำลายมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโกตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน จะต้องเจอผลสนองทางเศรษฐกิจ

เยลเลน กล่าวที่สถาบันวิจัยสภาแอตแลนติกในวอชิงตัน ว่า เธอหวังอย่างแรงกล้า จีนจะใช้ "ความสัมพันธ์พิเศษ" ระหว่างพวกเขากับรัสเซีย โน้มน้าวมอสโกให้หาทางยุติความขัดแย้ง และบอกว่าประเทศต่างๆ ที่เหยียบเรือสองแคมในสงครามนี้เป็นพวกสายตาสั้น

"ทัศนคติของโลกที่มีต่อจีน และความตั้งใจของโลกในการเปิดรับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในอนาคต อาจได้รับผลกระทบจากท่าทีของจีนที่มีต่อเสียงเรียกร้องของเรา ที่ขอให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับรัสเซีย" เธอกล่าว

ความเห็นของเธอสะท้อนจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เรียกร้องให้จีนประณามการรุกรานของรัสเซีย และเลือกยืนเคียงข้างประชาธิปไตยตะวันตก ซึ่งปักกิ่งกำลังเพลิดเพลินกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ให้ผลตอบแทนงดงาม

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดน ได้เตือน นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียในวันจันทร์ (11 เม.ย.) ว่าการซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มเติมจะไม่เป็นประโยชน์กับอินเดีย

อย่างไรก็ตาม หลิว เผิงหยู (Liu Pengyu) โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สวนกลับข้อเรียกร้องของ เยลเลน โดยบอกว่าจีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการผูกโยงความสัมพันธ์จีน-รัสเซียกับวิกฤตยูเครน พร้อมระบุว่า ปักกิ่งมุ่งมั่นสนับสนุนการเจรจาสันติภาพ

"จีนคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวทุกรูปแบบ และการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดนของสหรัฐฯ และจะปกป้องอย่างเด็ดเดี่ยวต่อสิทธิความชอบธรรม ผลประโยชน์ของบุคคลและบริษัทต่างๆ ของจีน" เขากล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านอีเมล

รัสเซียยิงถล่มโรงงานผลิตขีปนาวุธในยูเครน หลังจากที่เรือรบลาดตระเวน ‘มอสควา’ (Moskva) ซึ่งเป็นเรือธงของกองเรือทะเลดำถูกโจมตีจนอับปางลงเมื่อวันพฤหัสบดี (14 เม.ย.) 

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานวานนี้ (15) ว่า โรงงานขีปนาวุธวิซาร์ (Vizar) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติกรุงเคียฟ ถูกยิงถล่มในช่วงกลางดึกจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่รัสเซียออกมาอ้างว่าใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงจากกลางทะเลโจมตีโรงงานดังกล่าว

รัฐวิสากิจอาวุธของยูเครนระบุว่า โรงงานแห่งนี้เป็นสถานที่ผลิตขีปนาวุธร่อนเนปจูน (Neptune) ซึ่งเป็นอาวุธที่เคียฟและวอชิงตันอ้างว่าใช้ยิงโจมตีเรือมอสควาของรัสเซีย

เจ้าหน้าที่เพนตากอนให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า เรือมอสควาถูกยิงด้วยขีปนาวุธเนปจูน 2 ลูก ซึ่งขัดแย้งกับฝ่ายรัสเซียที่อ้างว่ากระสุนบนเรือเกิดระเบิดเอง และเรือได้อับปางลงระหว่างที่ถูกลากเข้าฝั่งท่ามกลางพายุ

เรือมอสความีบทบาทสำคัญไม่น้อยในปฏิบัติการรุกรานยูเครนที่กินเวลาเข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 แล้ว ส่วนชะตากรรมของลูกเรือทั้ง 500 คนก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เจ้าหน้าที่เพนตากอนระบุว่าลูกเรือที่รอดชีวิตบางส่วนได้รับการช่วยเหลือจากเรือรัสเซียลำอื่นๆ แต่ทางการยูเครนชี้ว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายในตอนนั้นทำให้ปฏิบัติการช่วยชีวิตเป็นไปไม่ได้เลย
 

ทำไมเกเรแบบนี้!! 'พลโทนันทเดช' วิเคราะห์!! ทำไมสหรัฐฯ มักเอี่ยวหลากสมรภูมิ เพราะสงครามนำพาความอยู่รอดมาสู่ประเทศตน

พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ทำไมสหรัฐฯ ถึงเกเรแบบนี้!! 

สหรัฐฯ มีเหตุผลด้านผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ เพื่อความอยู่รอดของประเทศตนเอง บ่อยครั้งจึงได้เห็นความ 'เกเรเกตุง' ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด เพราะ....

1. สหรัฐฯ มีระบบเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาสงคราม 

2. ยุทธศาสตร์หลักของสหรัฐฯ (Grand Strategy)
คือ การรบนอกประเทศ (Forward Defense Strategy)

ดังนั้นสงครามที่สหรัฐฯ เข้าไปเกี่ยวข้อง จึงต้องทำให้เกิดขึ้นนอกประเทศสหรัฐฯ เสมอ ลองย้อนไปดูประวัติ การทำสงครามของสหรัฐฯ ที่ผ่านมาเกือบ 30 ครั้งได้ จะพบว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายทำกำไรจากสงครามได้เสมอ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เพราะโครงสร้างประเทศไม่เคยเสียหายเลย 

3. สหรัฐฯ มักจะไม่เข้าร่วมสงครามด้วยตนเองก่อน แต่จะรอให้ ประเทศอื่นๆ รบกันไปก่อน หลังจากที่มั่นใจว่ามีความพร้อมจริงๆ (การข่าวที่ชัดเจน ยุทธวิธี  อาวุธยุทโธปกรณ์ งบประมาณฯ ) แล้ว สหรัฐฯ ถึงจะเข้าไปร่วม ซึ่งมักจะเป็นช่วงหลังๆ ของสงครามเสมอ 

4. สหรัฐฯ เป็นประเทศเกิดใหม่ เป็นพหุสังคม ที่ไม่มีรากเหง้าวัฒนธรรมที่แน่ชัด หรือเป็นหนึ่งเดียว กล่าวง่ายๆ คือ ไม่เคยมีประวัติศาสตร์แม้แต่เรื่อง 'การใช้ ดาบต่อสู้เพื่อความเป็นเอกราช'

ดังนั้น แนวคิดเรื่องเสรีภาพและความ เสมอภาค 
จึงถูกนำมาอ้างเพื่อทดแทน ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ แย่กว่าทางยุโรปเสียอีก

แต่การอ้างเรื่อง เสรีภาพนั้น ก็สุ่มเสี่ยงต่อความคิดเรื่อง การแยกตัวของมลรัฐต่างๆ ดังนั้น การให้ทุกฝ่ายสามารถได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน จึงมีการสร้างภาพ ในประเด็นหลัก สำหรับใช้จูงใจ ประชาชนให้ลืมเรื่อง วัฒนธรรมไป เพื่อให้เกิดพลังของความสามัคคีขึ้น 

สงครามจึงเป็นจุดขายของกรณีนี้!! จนกล่าวได้ว่า สหรัฐฯ นั้นล้างหัวสมองกระทั่งประชาชนของตัวเองด้วย การประชาสัมพันธ์เช่นกัน 

กรณีนี้ สหรัฐฯ จึงพยายามสร้างความภูมิใจในความเป็นชาติ ซึ่งก็สามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้รวดเร็ว ผ่านการทำศึกสงคราม สร้างความรู้สึกของความเป็นเจ้าของปกป้องประเทศว่า ผ่านสงครามที่ไหนมาบ้าง? และยังทำให้เกิดความภูมิใจ ต่อประเทศในฐานะ "พี่ใหญ่" ของโลกอีกด้วย (ดูเรื่องประกอบจากหนังสือ "ผ่านฟ้าลีลาศ") 

ด้วยเหตุผลนี้ สหรัฐฯ ซึ่งมองเห็นแต่ผลประโยชนของตนมาก่อนอื่น จึงแผ่อิทธิพลไปในหลายพื้นที่ไม่มีวันหยุด 

ความซวยก็มักจะตกอยู่กับชาติที่สหรัฐฯจะหาประโยชน์ เช่น กรณี ยูเครน ในปัจจุบัน (กำลังจะทำให้ยุโรปซวยตามไปด้วย) ไต้หวัน (ไต้หวันซวย) เกาหลีเหนือ (เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่นซวย) 

สหรัฐฯ พัฒนา Ghost Drone อาวุธลับเพื่อยูเครนรับมือรัสเซีย โจมตีเป้าหมาย-ทำลายตัวเองทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว 

ไม่นานมานี้ เพนตากอนเผย สหรัฐฯ ออกแบบอาวุธใหม่อากาศยานไร้คนขับแบบโจมตี 'Ghost drone' เพื่อยูเครนโดยเฉพาะ ใช้โจมตีเป้าหมายครั้งเดียวทิ้ง ขณะที่ปฏิบัติการในยูเครนย่างเข้าเดือนที่ 3 รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะจัดประชุมกลาโหมว่าด้วยยูเครนในวันที่ 26 เมษายนนี้ที่เยอรมนี

จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 21 เม.ย. 65 เปิดเผยถึงอาวุธใหม่ของสหรัฐฯ อย่างอากาศยานไร้คนขับ ที่มีชื่อว่า 'โกสต์ โดรน' (Ghost Drone) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธชุดใหม่ ที่สหรัฐฯ จะส่งไปให้แก่ยูเครน ใช้โจมตีเป้าหมายและถูกทำลายทิ้งหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว 

เคอร์บี ระบุว่า หลังจากหารือกับทางยูเครนแล้ว สหรัฐฯ เชื่อว่า 'โกสต์ โดรน' จะเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบคล้ายคลึงกับรัฐแคนซัสของสหรัฐฯ

ก่อนหน้าการแถลงข่าว เคอร์บี ระบุว่า 'โกสต์ โดรน' ถูกพัฒนาขึ้นอย่างเร่งด่วนโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อยูเครนโดยเฉพาะ แต่ในการแถลงข่าวหลังจากนั้นในวันเดียว เขาแก้ว่า สหรัฐฯ ได้เริ่มพัฒนาอากาศยานไร้คนขับตัวนี้ ตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะเปิดปฏิบัติการในยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ขณะนี้ มีทหารยูเครนจำนวนหนึ่งอยู่ในสหรัฐฯ กำลังได้รับการฝึกควบคุมอากาศยานโจมตีไร้คนขับของสหรัฐฯ อีกชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า 'สวิตช์เบลด' (Switchblade) ซึ่งเป็นอาวุธแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเช่นกัน โดยจะบินเข้าชนเป้าหมายและจะระเบิดเมื่อกระทบเป้าหมาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top