Monday, 29 April 2024
นักท่องเที่ยว

ประจวบคีรีขันธ์ - เปิดเมืองหัวหินวันแรก! ไม่คึกคัก โรงแรมไร้เงานักท่องเที่ยวต่างชาติ

วันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่นำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามนโยบาลรัฐบาลเป็นวันแรกไม่คึกคักเท่าที่ควร ถนนเพชรเกษมในเขตเทศบาลทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้การจราจรคล่องตัว บริเวณชายหาดหัวหินตลอดแนวตั้งแต่หน้าศาลเจ้าแม่ทับทิมไปจนถึงหมู่บ้านเขาตะเกียบ ระยะทางราว 8 กม. มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย นั่งเตียงผ้าใบร้านค้า ขี่ม้าชายหาดและลงเล่นทะเลประปราย

นายอภิศักดิ์ แดงช่วง อายุ 43 ปี ผู้ประกอบร้านอาหารชายหาดหัวหิน กล่าวว่าบรรยากาศวันแรกเปิดเมืองก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาบ้างแต่ยังไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่ใช้บริการชาวต่างชาติยังไม่มา คงต้องเป็นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ น่าจะมีเพิ่มมากขึ้น สำหรับการเปิดเมืองในครั้งนี้ก็คิดว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่เคยเงียบเหงามานาน คนน่าจะกลับมาเที่ยวกันมากขึ้นทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งทางร้านก็มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างเคร่งครัด

ดร.รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมหัวหิน แกรนด์โฮเต็ล แอนด์พลาซ่า เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เปิดเผยว่าบรรยากาศเปิดเมืองหัวหินวันแรกไม่คึกคัก ขณะที่ยอดจองห้องพักของโรงแรมในเดือน พ.ย.นี้ส่วนใหญ่เป็นคนไทยมีไม่ถึง 10% ไม่มีชาวต่างชาติเลย อาจจะเป็นเพราะมาตรการที่ยังไม่แน่ชัดในการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย คาดว่าคงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง แต่ในส่วนของโรงแรมเองทั้งพนักงาน สถานที่ ก็เป็นไปตามมาตรฐานที่สาธารณสุขกำหนดไว้

 

'โฆษกรัฐบาลเผย' เปิดประเทศ 7 วันน่าพอใจ ประชาชนเชื่อมั่น คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี “นายก” กำชับควบคุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากเปิดประเทศแล้ว 7 วัน รัฐบาลประเมินว่าสถานการณ์เป็นที่น่าพอใจ โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 20,000 คน ในจำนวนนี้ตรวจพบเชื้อโควิดเพียง 15 คน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ประชาชนและนักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นต่อการเปิดประเทศและแนวทางอื่นของรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ที่มีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้น ททท.คาดว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเฉลี่ยเดือนละ 300,000 คน ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ประเทศและกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศมีมากขึ้นและราคาสินค้าก็จะปรับตัวดีขึ้นอย่างเหมาะสม 

นายธนกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความเป็นห่วงคือปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าว โดยได้กำชับฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงแรงงานให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 7 วันที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานต่าวด้าวลักลอบเข้าเมืองได้กว่า 2,800 คน

กระบี่ - นทท.ทะยอย กลับจากเกาะพีพี หลังหมดเทศกาลปีใหม่ พบอ่าวมาหยา นทท.ยังแห่เที่ยวแน่น

ที่ท่าเรือท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พากันทยอยเดินทางออกจากเกาะพีพี ด้วยเรือโดยสารประจำทาง เพื่อกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกหลังจากพาครอบครัวมาพักผ่อนในพื้นที่เกาะพีพี ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้เรือโดยสารเต็มความจุทุกเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.กระบี่และ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขากระบี่ คอยดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยประจำท่าเรือ

ขณะอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง หลังจากที่เปิดมาตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 3 ม.ค.พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่จองคิวเข้าเที่ยวผ่านแอปพลิเคชันคิวคิว ของกรมอุทยานแห่งชาติฯยังคงเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเต็มทุกเที่ยว เจ้าหน้าที่อุทยานฯต้องดูแลความเรียบร้อยและห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ปะการังที่กำลังฟื้นฟูเกิดความเสียหายและไปรบกวนฝูงปลาฉลามครีบดำ นับ 100 ตัว ที่ใช้อ่าวมาหยาเป็นที่หากินและผสมพันธุ์

 

'เด็กเพื่อไทย' ซัด!! 'ประยุทธ์' อย่าสับสนเรื่องการท่องเที่ยว แนะ!! เร่งส่งเสริมเพิ่มนักท่องเที่ยวช่วยเหลือผู้ประกอบการ

นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย เขตอำเภอพาน และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคเพื่อไทย โดยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องการท่องเที่ยว แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับตอบสับสนและยังเข้าใจผิดคิดไปเองว่าบริหารการท่องเที่ยวได้ดี ทั้งที่ล้มเหลว ภูมิใจกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ยังต่ำมาก โดยการท่องเที่ยวของประเทศไทยน่าจะต้องฟื้นมากกว่านี้ เห็นได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศสิงคโปร์และประเทศในยุโรปที่นักท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างชัดเจน โรงแรมถูกจองเต็มกันหมด ในขณะที่โรงแรมในประเทศไทยยังมีห้องว่างมาก ขนาดนายกสมาคมการท่องเที่ยวยังบ่นและเรียกร้องให้รัฐบาลต้องทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวหนักกว่านี้

ทั้งนี้ หากมองย้อนหลังจะพบว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ดำเนินนโยบายท่องเที่ยวแบบสับสน ช่วงต้นปี 63 ขณะที่ท่องเที่ยวยังไม่แย่ รัฐบาลเสนอให้แจกเงินนักท่องเที่ยวต่างประเทศในโครงการ 'ชิมช้อปใช้ อินเตอร์' เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ถูกประชาชนและสื่อมวลชนตำหนิกันมาก จนต้องล้มเลิกไป พอมาปี 2565 หลังจากวิกฤตการณ์โควิด การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวดีนักนักท่องเที่ยวยังน้อย แต่รัฐบาลกลับมีแนวคิดย้อนแย้งที่จะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศคนละ 300 บาท และก็ถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากประชาชนและจากสื่อมวลชน จึงต้องเลื่อนมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่ยกเลิก 

นายกฯ สั่งเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย คาด!! เป็นโอกาสฟื้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจีน 

โดยจากรายงานของ Global Times ระบุว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมามากที่สุด ภายหลังรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายให้ประชาชนในประเทศเดินทางออกนอกประเทศได้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างมากในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19

5 ประเทศสุดอันตรายต่อกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQ+ ฟาก 'แคนาดา' ยืนหนึ่ง สวรรค์ของกลุ่มหลากเพศ

การวัดว่าประเทศไหนเป็นมิตร หรือไม่เป็นมิตรกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศนั้น มีการใช้หลาย ๆ ปัจจัยมาเป็นเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายคู่ชีวิต หรือกฎหมายอื่น ๆ สำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ความเป็นมิตรของผู้คนในประเทศนั้นต่อ LGBTQ+ รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับกิจกรรมหรืออีเวนต์ Pride ต่าง ๆ ในประเทศนั้น

สำหรับประเทศที่เป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นอันดับหนึ่ง ก็คือ 'แคนาดา' เป็นสิ่งที่แทบไม่ต้องคิดเลย ด้วยภาพลักษณ์ต่าง ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอนุญาตให้คนเพศเดียวกันแต่งงานได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 รวมไปถึงผู้นำที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ รวมไปถึงงานอีเวนต์ Pride ที่มีกว่า 25 งาน ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทำไมแคนาดาถึงเป็นประเทศในฝันของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ

แต่ในมุมที่สวยงาม ก็ยังมีมุมที่โหดร้ายดำรงอยู่เช่นเดียวกัน แม้ว่าปัจจุบันจะมีการยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น เพราะว่าถือเป็นสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่ไม่ได้เห็นพ้องเช่นนั้น ยังมีกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมไปถึงการไม่ยอมรับ 

สำหรับประเทศที่อันตรายที่สุดสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ 5 อันดับมีดังนี้

เริ่มต้นที่ประเทศ 'ไนจีเรีย' ที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของแอฟริกา เป็นประเทศที่อันตรายเป็นอันดับหนึ่ง เพราะว่าหากใครเป็น LGBT ในประเทศนี้มีบทลงโทษโดยการจำคุกถึง 14 ปี เพราะเป็นประเทศที่ใช้กฎหมายชารีอะห์ที่ไม่สนับสนุนสิทธิในการมีความหลากหลายทางเพศ แม้แต่การอภิปรายหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของความหลากหลายทางเพศ ก็เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย การแต่งงานของเพศเดียวกันก็เป็นความผิด โดยมีการร่างเป็น พรบ. ขึ้นในปี ค.ศ. 2013 รวมไปถึงยังมีการใช้ความรุนแรงกับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย

ตามมาด้วย 'กาตาร์' ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันได้เป็นอันดับที่ 11 ของโลก สำหรับกาตาร์ก็มีการใช้กฎหมายชารีอะห์เช่นเดียวกัน นอกจากการเป็น LGBTQ+ ในประเทศนี้จะมีโทษจำคุกแล้ว ยังถูกลงโทษด้วยการใช้ความรุนแรงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกตราเป็นกฎหมายที่ใช้กับคนรักเพศเดียวกัน เคยมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศกาตาร์ แต่ถูกสงสัยว่าเป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เมื่อถูกตรวจสอบก็ถูกส่งกลับทันทีโดยรัฐบาล

สำหรับอีกหนึ่งประเทศที่ถือว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างหัวโบราณ ความหลากหลายทางเพศจึงไม่เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกัน ก็คือ 'เยเมน' บทลงโทษของเกย์ไม่ว่าจะเป็นชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง ก็จะมีตั้งแต่จำคุก ไปจนถึงใช้ความรุนแรง หรือการประหารชีวิตโดยการปาหิน คนรักเพศเดียวกันในประเทศนี้จะถูกปฏิเสธทั้งในแค่ของหน้าที่การงาน และการปฏิบัติจากสังคมด้วย

'ตำรวจท่องเที่ยว' เตือน 'แท็กซี่' ไม่รับ ผดส. มีความผิด หากพบเจอ 'ถ่ายรูปรถ-ทะเบียนรถ' แจ้ง 1155 ได้ทันที

เมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 65) ที่ บช.ทท.พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แจ้งผ่านสื่อมวลชนว่า กรณีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยร้องเรียนผ่านสายด่วนช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 1155 เข้ามาถึงพฤติกรรมแท็กซี่ที่ปฏิเสธการรับและบริการผู้โดยสารในบริเวณแหล่งและสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาฝนตกหนัก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างยิ่งนั้น 

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้พิจารณาพฤติกรรมดังกล่าวของแท็กซี่แล้วเห็นว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของคนไทย และบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของหลายๆ ประเทศ ซึ่งแน่นอนรวมทั้งประเทศไทยเราด้วย 

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจึงขอถือโอกาสนี้ ขอแสดงความห่วงใยและฝากเตือนไปยังผู้ให้บริการรถรับจ้างสาธารณะทุกประเภทว่า ขอความกรุณาอย่าแสดงพฤติกรรมอันไม่มีความเป็นมืออาชีพกับนักท่องเที่ยวเลย เพราะจะส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติอย่างมาก 

ขอเรียนว่า จนถึงปัจจุบันนี้ การท่องเที่ยวของไทยเรามาได้ดีแล้ว หลายสถาบันระหว่างประเทศที่ทำสำรวจความเห็นนักท่องเที่ยวก็มักบอกเสมอว่า ประเทศไทยเป็นที่หมายต้นๆ ของโลกด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น การกระทำที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพเพียงคิดง่ายๆ ไม่คำนึงถึงภาพรวมของประเทศ จะส่งผลให้ภาพรวมของประเทศเสียหายเป็นอย่างมาก

‘ถนนข้าวสาร’ เตรียม 7 ทางออก รองรับนทท.งานฮาโลวีน มั่นใจ!! สถานที่ปลอดภัย ไม่ซ้ำรอยอิแทวอนแน่นอน

(31 ต.ค. 65) ที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวถึงมาตรการความปลอดภัยในการจัดงานฮาโลวีน ที่ถนนข้าวสารวันที่ 31 ต.ค.นี้ ว่า เนื่องจากถนนข้าวสารมีการจัดงานเทศกาลฮาโลวีนในทุก ๆ ปีอยู่แล้วก่อนการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของพื้นที่จึงมีความพร้อม โดยได้มีการประสานงานกับเขตพระนคร ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ อปพร. ทั้งเรื่องรถพยาบาล จุดคัดกรองสำหรับตรวจอาวุธและความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งจะมีตัวสแกนทั้งหัวถนนและท้ายถนน

และจากเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นในงานเทศกาลฮาโลวีน ที่อิแทวอน เกาหลีใต้ ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น ทำให้ตนกลับมาทบทวนเรื่องเส้นทางการออกจากพื้นที่ในโซนของถนนข้าวสารมีกี่จุด ตรงไหนบ้าง ซึ่งจากเดิมจะให้ออกแค่เพียง 2 ทาง คือ หัว-ท้ายของถนน เมื่อสำรวจแล้วพบว่า จะมีทางออกจากพื้นที่ถนนข้าวสารได้เพิ่มอีกรวมเป็นทั้งหมด 7 เส้นทาง ซึ่งในวันนี้ (31 ต.ค.) ก่อนเริ่มงานจะมีการนำป้ายประชาสัมพันธ์ทางออกมาติด ซึ่งป้ายประชาสัมพันธ์นั้นมี 3 ภาษา คือ ไทย-อังกฤษ-จีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นและสามารถออกจากพื้นที่ได้หากเกิดเหตุไม่คาดคิด

นายสง่า กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของถนนข้าวสารกับถนนเส้นที่เกิดอุบัติเหตุในย่านอิแทวอนนั้น เท่าที่ทราบมีลักษณะต่างกันเพราะพื้นที่ที่เกิดเหตุมีลักษณะลาดชันตามภูมิประเทศซึ่งเป็นภูเขา และความกว้างของถนนประมาณ 4-6 เมตร เท่านั้น ต่างจากสภาพของถนนข้าวสารซึ่งเป็นถนนลักษณะราบและไม่มีฟุตปาธ อีกทั้งยังมีความกว้างของถนนกว่า 14 เมตร ยาว 400 เมตร

ส่วนเรื่องความปลอดภัยในสถานบันเทิง ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมผู้ประกอบการให้ตรวจตราร้านของตนเองอยู่เสมอตามนโยบายของราชการที่กำชับมาเรื่องความปลอดภัยในสถานบันเทิง รวมทั้งซักซ้อมหากเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งเจ้าหน้าที่เขตพระนครได้ออกตรวจสถานบันเทิงในข้าวสารอยู่เป็นประจำ จึงไม่น่ากังวลและขอให้มั่นใจในความปลอดภัย

สำหรับประมาณการณ์นักท่องเที่ยวที่จะมาในงานฮาโลวีนปีนี้ นายสง่า ระบุว่า คาดว่าจะมีประมาณ 20,000 คน ซึ่งไม่น่าเป็นห่วงนัก เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ถนนข้าวสารยังเคยรองรับนักท่องเที่ยวมาแล้วกว่า 50,000 คน


ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1631633/ 

ส.ส.เพื่อไทย ขยี้ปม ‘นักท่องเที่ยว’ รอคิวแน่นสุวรรณภูมิ ซัด!! รัฐบาลหวังการท่องเที่ยวฟื้น แต่กลับไม่เตรียมพร้อม

(4 พ.ย. 65) จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากวันที่ 30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ปรากฏภาพข่าวจากสื่อต่างประเทศและโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากรอเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางที่ด่านขาเข้าของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น

จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีการให้บริการจากสายการบิน จำนวน 76 เที่ยวบิน เฉลี่ยมีผู้ใช้บริหารชั่วโมงละ 3,000-4,000 คน คิดเป็น 40,000 - 50,000 คน/วัน ส่วนตัวมีความเห็นดังนี้

1.) ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยวไทย ที่จำนวนนักท่องเที่ยวและจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น
2.) รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ไม่มีการเตรียมแผนรองรับตั้งแต่แรก ทั้งที่รัฐบาลเองคาดหวังจะฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น การดำเนินการเป็นไปด้วยความล่าช้าในแต่ละขั้นตอน คนแน่นล้นแออัด จนนักท่องเที่ยวต้องโวยวายจนออกสื่อ จนสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวไทย

สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทย ถือว่าเป็นห้องรับแขกห้องแรกของประเทศที่ไว้คอยต้อนรับและสร้างความประทับใจแรกในการมาเยือน เคยติดอันดับที่ 5 ในปี พ.ศ. 2558 ในฐานะสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ในหมวดสนามบินที่ให้บริการผู้โดยสาร 40-50 ล้านคนต่อปี จากการจัดอันดับและมอบรางวัลของ สกายแทร็กซ์ (Skytrax) หากไม่รีบแก้ไข อันดับสนามบินที่ดีของสุวรรณภูมิอาจจะร่วงกว่านี้ไปอีกแน่นอน

อบจ.จัดใหญ่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแน่นทุกคืน งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย

งานประเพณีงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟจ.สุโขทัย สู่คืนที่ 6 จุดเด่นที่ได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมากคือการแสดงแสง เสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศภายในงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ยังคงมีประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ หลั่งไหลเข้าเที่ยวชมภายในงาน เพื่อซึมซับบรรยากาศย้อนยุคกว่า 700 ปี สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีอย่างต่อเนื่อง ภายในงานนอกจากมีกิจกรรมการประกวดพนมหมาก-พนมดอกไม้, กระทงเล็ก-กระทงใหญ่, โคมชัก-โคมแขวน, การแสดงหมู่บ้านวิถีไทย, ลานเทศน์-ลานธรรม, การแสดงโขน-ดนตรีไทย, การจำหน่ายสินค้าโอทอป เนื่องจากงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย เป็นงานใหญ่ระดับโลก จึงทำให้มีการแสดงต่างๆมากมาย และอีกหนึ่งการแสดงถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจังหวัดสุโขทัย คือการแสดงแสง เสียง (Light&Sound) เรื่อง"ความรุ่งเรืองของนครสุโขทัย" บริเวณวัดมหาธาตุ ที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญเพราะจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมการแสดงแน่นขนัดทุกรอบ 

จุดเด่นของงานการเเสดงเเสงเสียง Light&Sound 2022 สุโขทัย โดยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัยจัดให้เข้าชมฟรีเพื่อนักท่องเที่ยวและการกระตุ้นเศรษฐกิจให้พื้นที่ มีผู้เข้าชมเต็มทุกรอบทุกคืน และการเเสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง สนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัยเช่นเดียวกัน กิจกรรมตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมจนถึงสู่คืนที่ 6 ของงานมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวงานหลายแสนคนจากสำนักงานสถิติจังหวัดสุโขทัย หลั่งไหลมาชมความงดงามเก็บภาพประทับใจ เลือกซื้อและชิมอาหารสินค้าในตลาดแลกเบี้ย จำนวนมาก ณ บริเวณสระยายเพิ้ง ยังมีตลาดถุงเงิน ณ วัดตระพังทอง ตลาดปสาน ณ บริเวณด้านหลังวัดชนะสงคราม ตลาดบ้าน บ้าน ณ บริเวณด้านหลังวัดชนะสงคราม  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top