Monday, 20 May 2024
World

หลาย ๆ ประเทศทางฝั่งตะวันตก ยังคงประสบปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างหนัก แต่ยังดีที่ทางรัฐบาลต่างในประเทศต่าง ๆ เริ่มกวดเข้มมาตรการแบบถึงลูกถึงคน (แต่มักไม่มีข่าวเปิดเผย)

ทั้งนี้ก็เพื่อหวังที่จะคุมการแพร่ระบาด ฃให้ได้มากที่สุด และรอความหวังอย่างวัคซีนให้เข้ามายังประเทศของตนให้ไวที่สุด เพราะตอนนี้หลายๆ ประเทศที่แท้จะร่ำรวย ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ เหตุเพราะไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตวัคซีนได้เอง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณทาม CEO ร้านผัดไท ในเนเธอร์แลนด์ เจ้าของเฟซบุ๊ก Tham Prawattree ได้โพสต์แชร์ให้เห็นถึงภาพตัวเขาที่ต้องอยู่ในประเทศนี้ ว่า..

#Goodnews #ข่าวดีๆ กันบ้าง

#สถานการณ์โรคระบาด

#อัพเดทข่าวสาร บ้านเมืองของประเทศที่ผมอยู่ หรือ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตอนนี้ถือได้ว่ากำลังผจญกับเชื้อโควิด-19 อย่างสาหัสสากัน แต่เราก็ไม่หวั่นครับ มีสติ เพราะยังมีเงิน เงินหมด สติกระเจิง

ครับ!! นี่ขนาดเราเป็นประเทศที่บินแค่ 45 นาที ก็ถึงสหราชอาณาจักรละ เรายังมีวัคซีนอันน้อยนิด และก็ถือว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยนะครับ ยังได้นิดเดียว ที่อังกฤษโน่นฉีดกันไป 15 ล้านเข็มละ (แหมผลิตได้เองเนาะ)

ประเทศเนเธอร์แลนด์ นี่จัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และเก็บทุกแบบทุกอนู #ภาษีเงินได้อัตราสูงสุดที่ผมก็เสีย 49.5% ส่วน VAT เหรอครับ อิอิ 9% และ 21% เทียบกับสิงค์โปร์ที่เคยอยู่มา ทำให้ต้องถามตัวเองว่า #มาทามมัยยยยยย

ไม่ต้องไปถามไทยแลนด์ ดินแดนเก็บภาษีไม่ครบ และช่วยกันเลี่ยง คือเลี่ยงได้เป็นเลี่ยง และชอบมาอ้างว่า #เงินภาษีของประชาชน

#อะมาดู

ตอนนี้เราเพิ่งฉีดวัคซีนได้แค่ 783,606 คน เรามี ประชาการ 17.9 ล้าน โดยประมาณ อันนี้ถือว่าช้านิดนึง แต่รัฐก็ทำเต็มที่ละ ทำไงได้ไปซื้อเค้า ไม่ได้ทำเอง

แต่ตัวเลขอื่นๆ ก็ดูดีขึ้นครับ เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อมีอัตราลดลงที่ดี คือติดน้อยลง #ยอดสะสมก็ลดลง #จำนวนคนเสียชีวิตก็ลดลง

และตัวเลข R Zero หรือ R 0 หรือ #Reproduction number ก็ต่ำกว่าหนึ่ง ซึ่งถือว่าดี อันนี้เทียบว่าคนหนึ่งคนสามารถแพร่เชื้อไปได้แค่ไหน เท่าไหร่ ซึ่งดี น่าใจชื้น

#ที่มันลด ก็เพราะมาตรการห้ามฝรั่งออกมามั่วสุม สุมหัวและเมาส์มอยกัน หรือ #เคอฟิวส์

พอเค้าห้ามออกมา ก็ออกมา #ประท้วง ทำลายข้าวของ เรียกร้องหาอิสระเสรีภาพ ผิดที่ ผิดเวลา ไม่รู้จักดู เค้าให้ประท้วงแค่นี้ จะเอาแบบนี้ จริงเค้าประท้วงสองหัวข้อคือเรื่องรัฐบาลและมาตรการ

พอโดนจับ ปรับ ลงโทษ แบบไม่ไว้หน้า แบบ fully law enforcement ที่นี้ละหายไปเลย ไม่เห็นจะเก่งเหมือนที่เมืองไทย ที่นี่ปรับ จับ ริบ ยึด ตี ฟาด (ตำรวจนี่แหละฟาดประชาชนจริงๆ ถ้าทำผิด เห็นละผมยังแขยง)

อดทน อดทน เดี๋ยวก็จบ

อิจฉา #ควีนอาลิซเบท ของอังกฤษ ที่ได้รับวัคซีนไปเรียบร้อยละ (ตั้งนานละด้วย)


ที่มา:

คุณทาม CEO แห่งร้านผัดไท เนเธอร์แลนด์

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3853876497968900&id=100000397626019

เป็นอีกความก้าวหน้าแห่งโลกวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ เมื่อ NASA เตรียมหาวิธีการค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาว ผ่านการวิเคราะห์ ‘มลพิษ’ ของดวงดาวนั้น ๆ โดยเพจ Environman ได้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...

NASA ใช้มลพิษที่อยู่นอกโลกในการตามสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่สามารถสร้างอารยธรรมได้

มลพิษในที่นี้ของ NASA คือ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) มันเป็นก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งไม่ได้เกิดตามธรรมชาติ หรือหากเกิดโดยธรรมชาติ ก็เกิดในระดับน้อยมากจากสิ่งมีชีวิต ฟ้าผ่า และภูเขาไฟ

บนโลกเรา ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ 76% ล้วนมาจากแหล่งอุตสาหกรรม แต่จากการที่ NASA พบก๊าซนี้ในระดับสูง นั่นอาจหมายความว่า มันมีโอกาสที่บนดาวดวงนั้น จะมีสิ่งมีชีวิตที่มีเทคโนโลยีสูงพอที่จะใช้พลังงานจากฟอสซิลบนดาวดวงนั้น

แล้ว NASA พบก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์นี้บนดาวดวงอื่นได้อย่างไร?

คำตอบคือ จากแสงที่สะท้อนกลับออกมา แต่ละอะตอม แต่ละโมเลกุล แต่ละธาตุในจักรวาลนี้ต่างสะท้อนแสงออกมาในคลื่นความยาวที่ต่างกัน โลกก็สะท้อนแสงออกไปนอกอวกาศเช่นกัน แสงที่สะท้อนออกไปจะเป็นแสงที่เกิดจากธาตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก

หรือเข้าใจ ก็เหมือนกับสิ่งของต่าง ๆ รอบตัวเราที่มีสีแตกต่างกัน เพราะมันสะท้อนแสงสีออกมาต่างกัน ธาตุแต่ละธาตุก็มีสีที่แตกต่างกันไป

แต่การมองแสงที่สะท้อนออกมาจากดาวที่อยู่ห่างไกลในระดับหลายปีแสง ก็เหมือนกับคุณอยู่บนสถานีอวกาศแล้วตามหาว่าผู้ชายคนไหนในเชียงใหม่กำลังใส่รองเท้าไนกี้รุ่น Air Force 1 React อยู่

และนั่นแหละคือความยาก!!

การตามหามลพิษบนต่างดาว น่าจะทำให้มนุษย์มีตัวเลือกมากขึ้นในการตามหาสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา เพื่อตอบคำถามที่ค้างคามานานแสนนานว่า...

‘มนุษย์’ อยู่ตามลำพังในจักรวาลจริงหรือ?


ที่มา:

https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3438874839574272/

https://www.nasa.gov/press.../goddard/2021/technosignature

สำนักข่าวซินหัวรายงาน หรรษ วรรธน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกลางของอินเดีย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่อยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะต่างๆ อย่างน้อย 18 - 19 ตัว

“มีการวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในขั้นตอนต่างๆ ราว 18-19 ตัว” วรรธนกล่าว โดยบรรดาวัคซีนตัวใหม่อยู่ในขั้นตอนการทดลองก่อนทดสอบในมนุษย์ การทดลองทางคลินิก และการทดลองขั้นสูง

อินเดียอนุมัติการใช้งานฉุกเฉินแก่วัคซีน 2 ตัว ได้แก่ วัคซีนโควาซิน (Covaxin) ที่พัฒนาโดยภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) และวัคซีนโควิชีลด์ (Covishield) จากออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford University-AstraZeneca) ที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII)

วรรธน เน้นย้ำว่า การฉีดวัคซีนให้บุคลากรด้านการดูแลสุขภาพและบุคลากรแนวหน้านั้นเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้รับวัคซีนแล้ว 8,285,295 คน ตามจุดรับวัคซีน 173,729 แห่งทั่วประเทศ เมื่อนับถึงเช้าวันจันทร์ (15 ก.พ.)

สำหรับระยะถัดไปของโครงการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ รัฐบาลอินเดียจะฉีดให้ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไปในเดือนมีนาคม โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดวัคซีนจะหารือวิธีชำระเงินค่าวัคซีนสำหรับประชาชนกลุ่มดังกล่าว

อินเดียเปิดตัวโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 16 ม.ค. โดยระยะแรกจะฉีดให้บุคลากรด้านการดูแลสุขภาพและบุคลากรแนวหน้าราว 30 ล้านคน ตามด้วยผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้มีอายุต่ำกว่า 50 ปีที่มีโรคร่วม ซึ่งมีจำนวนราว 270 ล้านคน

ทั้งนี้ เมื่อเช้าวันจันทร์ (15 ก.พ.) กระทรวงฯ รายงานว่าอินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 10,916,589 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 155,732 ราย


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/553103

กลายเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ เบอร์ 1 ของ Clubhouse อย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว สำหรับ อีลอน มัสก์ เจ้าพ่อ SpaceX ตั้งแต่เขาได้เข้าไปให้สัมภาษณ์ในห้อง Good Time Club บนแอพ Clubhouse เมื่อปลายเดือนมกราคม 2021

ล่าสุด อีลอน มัสค์ ก็ยังสนุกต่อเนื่อง ถึงกับโพสต์ทวิตเตอร์ชวนประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มาร่วมวงสนทนาใน Clubhouse ด้วยกัน

โดย อีลอน ได้แท็กถึง @KremlinRussia_E ซึ่งเป็นแอคเคาท์อย่างเป็นทางการของฝ่ายทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียบน Twitter ชวนกันแบบตรงๆ ว่า “ท่านประธานาธิบดี สนใจมาร่วมวงสนทนากับผมบน Clubhouse ไหมครับ”

แถมยังทวิตย้ำเป็นภาษารัสเซียตามมาด้วยว่า “การได้มีโอกาสสนทนากับท่านจะเป็นเกียรติมากๆ เลย”

และยิ่งกลายเป็นที่ฮือฮาไปอีก เมื่อโฆษกประจำทำเนียบ เครมลิน ดมิตี้ เพสคอฟ ถึงกับออกมาแถลงข่าวว่า การได้ร่วมสนทนากับคนระดับเจ้าพ่อ SpaceX เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก แต่ทางรัฐบาลรัสเซียต้องพิจารณาดูก่อนว่า ปูตินจะร่วมสนทนาผ่านแอพโซเชียลมีเดียอย่าง Clubhouse ได้หรือไม่

เพราะอย่างที่รู้กัน ปูตินไม่เล่นโซเชียลมีเดีย และไม่ได้เปิดบัญชีส่วนตัวในแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่ไหน เนื่องจากปูตินเชื่อว่าเครือข่ายโซเชียลมีเดีย เป็นโปรเจ็กต์ที่สนับสนุนโดย CIA ของสหรัฐอเมริกา ใช้เพื่อสอดส่อง ตามรอย เก็บข้อมูลส่วนตัวบุคคลเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นการที่ปูตินจะใช้โซเชียลมีเดีย ก็ต้องใช้ผ่านแอคเคาท์กลางที่จะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และก็ต้องรู้ถึงจึงประสงค์ว่าการชวนสนทนาของอีลอน มัสค์ ต้องการจะคุยเรื่องอะไรบ้าง

แต่ทั้งนี้ทางเครมลิน ก็ไม่ได้บอกปัดคำเชิญของ อีลอน มัสก์ เสียทีเดียว และยังเห็นว่าเป็นไอเดียที่ดี

Clubhouse เป็นแอพโซเชียลมีเดีย พัฒนาโดย Alpha Exploration Co. ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2020 บนแพลตฟอร์ม iOS ของ Apple เท่านั้น

โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มสนทนาทางเสียง เหมือนห้องสนทนา แต่การเข้าร่วมจะต้องผ่านการเชิญจากสมาชิกเก่า หรือลงทะเบียนรอคิวบนเว็บไซต์ของทางแอปพลิเคชัน

และกลายเป็นช่องทางโซเชียลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีสมาชิกแล้วกว่า 600,000 บัญชี และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกหลายเท่า หากในอนาคตจะเปิดให้ผู้ที่ใช้ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้พรีเซนเตอร์ระดับแม่เหล็ก อย่างอีลอน มัสก์ มาเชียร์ด้วยตัวเอง จึงทำให้กระแสของ Clubhouse ฮิตติดลมบน แม้แต่ในประเทศไทยก็มีการขยายตัวของกลุ่มผู้ใช้งานอย่างรวดเร็วเช่นกัน

แต่ทางรัฐบาลจีนออกคำสั่งแบน Clubhouse ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา เนื่องจากพบว่ามีห้องสนทนาที่พูดถึงประเด็นที่อ่อนไหวในจีน โดยเฉพาะ ประเด็นการเมืองที่เกิดขึ้นในฮ่องกง


ที่มา:

https://www.cnbc.com/2021/02/15/russia-elon-musks-offer-of-clubhouse-chat-with-putin-is-interesting.html

https://www.theguardian.com/technology/2021/feb/15/clubhouse-app-invite-what-is-it-how-to-get-audio-chat-elon-musk

https://en.wikipedia.org/wiki/Clubhouse (app)

เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ในประเทศปากีสถาน ถนนสู่ยอดเขา ‘Passu Cones Trails’ ส่งนักท่องเที่ยวสู่การเดินเขาผจญภัยที่แท้จริง

คอลัมน์ ริมทางถนนคาราโครัมไฮเวย์

สายขาแรง รักการผจญมาทางนี้ เพราะครั้งนี้จะพาไปชมเส้นทางเดินสู่เขา Passu Cones Trek ที่เขตโกจาล ประเทศปากีสถานค่ะ ที่นี่ไม่มีการแพร่ระบาดของ Covid 19 การท่องเที่ยวเลยคึกคักเป็นพิเศษ

เมื่อวานคุณพ่อสามีไปเปิดงาน สร้างถนนและเส้นทางเดินเขา Passu Cones Trek คุณพ่อเป็นผู้มีอิทธิพลของพาสสุ ท่านจะถูกเชิญไปร่วมเปิดงานของหมู่บ้านตลอด และคุณพ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องทำพิธีแบบโบราณของคนวาคี(ชาวเมืองพื้นถิ่น) และได้รับการเคารพนับถืออย่างมาก

การเปิดถนนสู่ยอดเขา Passu Topupadan “Passu Cones Trails′′ ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหมู่บ้าน Passu 

ซึ่งในการเปิดเส้นทางสายผจญภัยครั้งนี้ มีบุคคลระดับสููงมาร่วมมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ช่วยผู้บัญชาการ Gujal Muhammad Zulqarnain Khan GBRSPK Amjad Wali หัวหน้า PDO  Pakhtunkhwa Development Organization และเจ้าหน้าที่ของ PHSU Youth and Sports Organization

รวมไปถึงผู้นำหมู่บ้าน รวมทั้งสมาชิกของคณะกรรมการอนุรักษ์ PHSU ที่ได้ร่วมไม้ร่วมมือเพื่อทำเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ เส้นทาง Passu Cones Trails ที่มุ่งพัฒนานักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง Passu Cones และการเดินเขาผจญภัยที่แท้จริง

จะบอกเลยตอนนี้โซนโกจาล แต่ละหมู่บ้านพร้อมที่จะเปิดเส้นทางเดินเขาและนำเสนอความสวยงามของหมู่บ้านของตัวเอง แค่เฉพาะในเขตโกจาลยังแข่งขันกันเองแล้ว เพราะที่นี่ไม่มีการแพร่ระบาดของ Covid ค่ะ และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้กระทรวงท่องเที่ยวของปากีสถาน ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในโซนนี้ มั่นใจเลยว่า เกิดแน่นอน และเป็นกำไรของนักท่องเที่ยวเต็มๆ

Inauguration of the road to the Phasu Topupadan Peak “Passu Cones Trails′′ located in the famous tourist place Phasu Topupadan Phasu village. Assistant Commissioner Sub Division Gujal Muhammad Zulqarnain Khan GBRSPK Amjad Wali, Heads of PDO and officials of PHSU Youth and Sports Organization. Village leaders including the members of the PHSU Conservation Committee did it collectively. The Passu Cones Trail is a km long track aimed at improving tourists to tourist destinations as well as promoting tourists access to Passu Cones and adventure sports


กุลไลล่า

ไกด์สาวชาวไทย​ สะใภ้​ปากี​สถาน จากหัวหิน​พบรักหนุ่มปากีเชื้อสายวาคี อาศัยอยู่เมืองพาสสุ​ ดินแดนเหนือสุดของประเทศปากีสถาน ปัจจุบันเปิดร้านอาหารริมถนนคาราโครัมไฮเวย์​ ถนนที่ได้รับการขนานนามว่าสูงที่สุดในโลก​ หรือเส้นทางสายแพรไหมในอดีต​

คอยต้อนรับแขกที่ผ่านทางมา​ แวะกินอาหารไทย​และชิมชา​ เบเกอรี่ชื่อดัง​ ทางเหนือของปากีสถานได้​ พร้อมให้บริการท่องเที่ยวปากีสถาน​หลังโควิด​-19 ผ่านไป

นายกรัฐมนตรีมุฮ์ยิดดิน ยัซซิน ของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียจะได้รับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ล็อตแรก ซึ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ และจะเริ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้หลังจากนั้น 5 วันหรือวันที่ 26 กุมภาพันธ์

ทั้งนี้ ตัวเขาจะเป็นคนแรกของประเทศที่เข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย

สำหรับการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางนี้ มีเป้าหมายในการทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในชุมชนเพื่อที่จะได้สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้และทำให้การระบาดของโควิดสิ้นสุดลง มาเลเซียพบผู้ติดโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้สามารถควบคุมการระบาดได้ดีในช่วงปีที่แล้ว

รัฐบาลรายงานพบผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 260,000 ราย ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ และพบผู้เสียชีวิต 975 ราย มาเลเซียตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของประชากรที่มีอยู่ทั้งหมด 32 ล้านคนภายใน 1 ปี

และขณะนี้มีข้อตกลงซื้อวัคซีนได้มากเกินความต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายแล้ว นอกจากข้อตกลงซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคแล้ว มาเลเซียยังมีข้อตกลงกับแอสตราเซเนกาของอังกฤษ สถาบันวิจัยกามาเลยา ของรัสเซีย บริษัทซิโนแวค ไบโอเทค และแคนซิโน ไบโอลิจิกส์ ของจีน


ที่มา: https://www.naewna.com/inter/553239

นิตยสาร CEO World จัดอันดับประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมจนทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2021 ได้ให้ประเทศไทย #Thailand อยู่ในอันดับที่ 5 และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองแค่อินเดียเท่านั้น

โดยใช้หลักเกณฑ์การวัดจาก สถาปัตยกรรม, มรดกทางศิลปะ, แฟชั่น, อาหาร, ดนตรี, วรรณกรรม, ประวัติศาสตร์, สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และ ความสามารถในการเข้าถึงทางวัฒนธรรม

พร้อมระบุว่า... #ประเทศไทย : เมื่อเราพูดถึงประเทศที่ร่ำรวยด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ชื่อแรกที่ปรากฏในใจของเราคือ “ประเทศไทย” แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นที่ตั้งของชายหาดที่สวยงาม มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน แต่ก็ยังมีความโดดเด่นในด้านมรดกทางวัฒนธรรมที่สวยงาม

เพราะมีสถานที่มากมายทั่วประเทศไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ของวิถีชีวิตในหมู่บ้าน อิทธิพลของประเพณีท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่สวยงามยังหลงเหลืออยู่ ตั้งแต่สุโขทัย อยุธยา จนถึงบ้านเชียง นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปยังสถานที่เหล่านี้เพื่อชื่นชมประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของวัฒนธรรมไทย


Cr: ภาพจากเพจ Asian SEA Story

https://ceoworld.biz/2021/01/31/best-countries-for-cultural-heritage-influence-2021/

ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ใจป้ำ เจียดเงินราว 31 ล้านบาท จ่ายแรงงานต่างถิ่นประมาณ 1.7 หมื่นคน ที่เลี่ยงเดินทางกลับบ้านเกิด ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน

ทางการท้องถิ่นกรุงปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า ปักกิ่งมอบเงินอุดหนุนราว 6.8 ล้านหยวน (ประมาณ 31 ล้านบาท) แก่แรงงานก่อสร้างต่างถิ่นประมาณ 17,000 คน ซึ่งตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเดินทางกลับบ้านเกิดและพักอาศัยอยู่ในเมือง ระหว่างวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

ทั้งนี้ แรงงานต่างถิ่น จะได้รับเงินอุดหนุน 400 หยวน (ประมาณ 1.800 บาท) ต่อคน จากคณะกรรมการเคหะและการพัฒนาเมือง - ชนบทเทศบาลนครปักกิ่ง

นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ยังจัดกิจกรรมหลากหลายสำหรับกลุ่มแรงงาน อาทิ การแข่งขันกีฬา พร้อมกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อันเข้มงวดในบริเวณสถานที่ก่อสร้าง ตลอดจนกระชับงานรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย


ที่มา : https://www.xinhuathai.com/china/178050_20210216?fbclid=IwAR3dzWgfOzIG0mNHPOx1DQhDbJtMt7p6xOYiMSW5Mthkwl8GPXV80DXYeIc

เว็บไซต์มิเรอร์ เผยรายงานว่า หญิงสาวรัสเซียนาม Christina Ozturk ในวัย 23 ปี ซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับ มหาเศรษฐีเจ้าของโรงแรม ในเมืองบาทูมิ ประเทศจอร์เจีย ได้มีลูกด้วยกันมากถึง 11 คน

แต่ก่อนหน้านี้ พวกเขายังเผยเรื่องสุดเซอร์ไพรซ์มากกว่านั้น เมื่อได้พูดพึงตัวเลขเล่นๆ ผ่านโซเชียลมีเดียว่าอยากมีลูกด้วยกันอย่างน้อย 105 คน แต่ก็ยอมรับในเวลาต่อมาว่า ตัวเลขดังกล่าวแค่พูดสุ่มๆ ขึ้นมา ส่วนตัวเลขจริงๆ จะเป็นไปได้มากขนาดนั้นไหมพวกเขาก็ยังไม่ทราบเช่นกัน แต่ยังไม่คิดจะปิดอู่อยู่แค่ 11 คนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม Christina เผยว่า ตอนนี้เธอมีลูก ๆ ที่เกิดจากการตั้งครรภ์แล้วถึง 10 คน และแผนที่จะมีลูกคนต่อ ๆ ไปอาจจะใช้วิธีจ้างแม่อุ้มบุญมาช่วยเติมเต็มความต้องการในการมีลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ขอเป็นฝ่ายตั้งครรภ์เองหลังจากนี้ โดยให้ทุกอย่างเป็นไปตามเวลา และเธอก็ไม่ทราบเช่นกันว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีลูกๆ มาเติมสีสันในบ้านรวมทั้งสิ้นกี่คนกันแน่ เพราะในตอนนี้เธอกับสามียังไม่พร้อมที่จะพูดถึงตัวเลขสุดท้าย

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะทำเด็กหลอดแก้วโดยใช้พันธุกรรมของพวกเขา ซึ่งทางคลินิกก็จะเป็นฝ่ายติดต่อแม่อุ้มบุญมาให้เลือก โดยคู่รักจะเลือกแต่แม่อุ้มบุญที่ยังสาว เคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง และไม่มีสารเสพติดในตัว จากนั้นผู้ที่ได้รับเลือกก็จะต้องผ่านขั้นตอนการให้คำปรึกษา และเซ็นเอกสารยินยอมทางกฎหมายอีกด้วย

ทั้งนี้ Christina ยอมรับว่า การเลี้ยงดูครอบครัวขนาดใหญ่เป็นเรื่องยากกว่าที่คิด ซึ่งส่วนใหญ่หลายคนคิดว่าเธอคงจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาเป็นกองทัพเพื่อช่วยเลี้ยงดูลูก ๆ แต่จริง ๆ แล้วเธอได้ทุ่มเทเวลาทั้งวันไปกับการเลี้ยงดูและอยู่กับลูก ๆ ไม่ได้นั่งสบายเป็นคุณนายแต่อย่างใด


ที่มา: https://www.tnews.co.th/foreign/541682/คุณแม่ยังสาว-อายุแค่-23-มีลูกแล้ว-11-คน-ยังอยากปั๊มเพิ่มอีก

สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน เตรียมปรับรูปแบบความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียใหม่ โดยจะหารือประเด็นทางการทูตกับสมเด็จพระราชาธิบดี ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ โดยตรง แทนที่จะผ่านทางเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารผู้ทรงอิทธิพล

คำประกาศจาก เจน ซากี โฆษกหญิงทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (16 ก.พ.) ถือเป็นการปรับนโยบายครั้งสำคัญของสหรัฐฯ จากเดิมที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ผ่านทาง เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยและที่ปรึกษาคนสนิท

“เราได้บอกชัดเจนไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะมีการปรับรูปแบบความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียใหม่” ซากี บอกกับสื่อมวลชน

ในขณะที่ส่งสัญญาณหักหน้ามกุฎราชกุมารซาอุฯ สหรัฐฯ ก็เริ่มที่จะผ่อนคลายบรรยากาศอึมครึมในส่วนของความสัมพันธ์กับ “อิสราเอล” โดยโฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่า ไบเดน จะต่อสายตรงเพื่อพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู เร็วๆ นี้

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หรือที่คนมักจะเรียกพระนามโดยย่อว่า MbS นั้น ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 ของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานวัย 85 พรรษา และตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ทรงรับหน้าที่ดูแลกิจการบ้านเมืองเสมือนผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุฯ อยู่แล้ว กระทั่งมาเกิดเหตุฆาตกรรมนักหนังสือพิมพ์ชาวซาอุฯ ‘จามาล คาช็อกกี’ เมื่อปี 2018 ซึ่งทำให้พระเกียรติยศเสื่อมถอยลงมากในสายตานานาชาต

ทำเนียบขาวในยุคของ ไบเดน พยายามกดดันซาอุฯ ให้แก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน รวมถึงปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีและนักโทษการเมืองอื่นๆ ที่ถูกคุมขัง แตกต่างจากรัฐบาล ทรัมป์ ที่แสวงหาความร่วมมือหลายด้านกับริยาดผ่านทางเจ้าชายพระองค์นี้ ซึ่งรวมถึงการคลี่คลายความบาดหมางระหว่างกาตาร์กับเพื่อนบ้านริมอ่าวเปอร์เซีย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไบเดน จะยังเจรจากับเจ้าชายโมฮัมเหม็ดอยู่หรือไม่ โฆษกทำเนียบขาวก็ตอบว่า สหรัฐฯ จะใช้รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ “ระหว่างบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งเทียบเท่ากัน (counterpart to counterpart engagement)”

“ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งเทียบเท่ากับประธานาธิบดีก็คือสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน และดิฉันเชื่อว่าประธานาธิบดีคงจะได้หารือกับพระองค์ในเวลาที่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถให้กรอบเวลาที่ชัดเจนได้”

ซากี ระบุด้วยว่า ซาอุดีอาระเบียมีความจำเป็นในด้านการป้องกันประเทศสูงมาก และสหรัฐฯ ยังพร้อมที่จะทำงานร่วมกับริยาดในด้านนี้ “แม้จะมีอีกหลายประเด็นที่เราแสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยและรู้สึกกังวลก็ตาม”

โฆษกหญิงทำเนียบขาวยืนยันว่า เนทันยาฮู จะเป็นผู้นำคนแรกในตะวันออกกลางที่ได้รับสายจากไบเดน และการพูดคุยจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่าการที่ ไบเดน ทำเฉยเมยไม่รีบติดต่อ เนทันยาฮู หลังสาบานตนรับตำแหน่ง เท่ากับหักหน้าอิสราเอลซึ่งเป็นชาติพันธมิตรเบอร์หนึ่งของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง

“แน่นอนว่าอิสราเอลคือพันธมิตรของเรา อิสราเอลเป็นประเทศที่เรามีความสัมพันธ์ในด้านความมั่งคงทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก และทีมงานของเราพร้อมจะมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างเต็มที่ แม้จะยังไม่ใช่ระดับผู้นำรัฐ แต่ก็จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน”


ที่มา: รอยเตอร์

https://mgronline.com/around/detail/9640000015716


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top