Thursday, 2 May 2024
Southern

ชุมพร ศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.00-16.30 น. นายสุริยา น้ำเงิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชุมพร  เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมประชาสัมพันธ์โครงการ โครงการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะที่ 1 พื้นที่ในระบบหาดตั้งแต่พื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ถึงตำบลพุมเรียง อำเภอไชยำ จังหวัดสุราษฎร์ มีพี่น้องในพื้นทีเข้าร่วมจำนวน 60 คน ณ ศาลาประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ว่าการอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร 


นายสุริยา น้ำเงิน  กล่าว่า ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง   เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยมีแนวชายฝั่งทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน  เป็นระยะทางยาวกว่า 3,148 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 23 จังหวัด เป็นชายฝั่งทะเลอ่าวไทย   จำนวน 17 จังหวัด ความยาว 2,055 กิโลเมตร และชายฝั่งทะเลอันดามัน จำนวน 6 จังหวัด ความยาว 1,093 กิโลเมตร โดยปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่หลากหลาย เช่น  เป็นชุมชนที่อยู่อาศัย พื้นที่นันทนาการและการท่องเที่ยว การทำประมง และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ  เป็นต้น ดังนั้น ชายฝั่งทะเลจึงมีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม  อย่างไรก็ดี พื้นที่ชายฝั่งทะเลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้แนวชายฝั่งมีการ เปลี่ยนแปลงทั้งการตกตะกอนทับถมและการกัดเซาะชายฝั่ง โดยในพื้นที่ศึกษาเองก็พบว่า มีแนวชายฝั่งที่ประสบปัญหาคลื่นกัดเซาะที่ดินชายฝั่งในหลายบริเวณ โดยตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา มีหน่วยงานราชการทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลาง ตลอดจนเจ้าของที่ดินเอง  ได้ดำเนินการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย ซึ่งหากรูปแบบการ ป้องกันที่เลือกใช้ไม่เหมาะสม หรือก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรมแล้ว ก็จะทำให้การดำเนินงานไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง การประชุมประชำสัมพันธ์โครงการ ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ระยะที่ 1 พื้นที่ในระบบหาดตั้งแต่พื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร  ถึงตำบลพุมเรียง อำเภอไชยำ จังหวัดสุราษฎร์

"อย่างไรก็ดี ทราบว่ากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีการกำหนดแนวทางการ จัดการชายฝั่งโดยใช้ระบบกลุ่มหาด โดยการแบ่งพื้นที่ชายฝั่งออกเป็นหน่วยย่อย ๆ หรือเป็น  “กลุ่มหาด” โดยใช้หัวแหลม หัวเขา หรือปากแม่น้ำ มาเป็นตัวแบ่งขอบเขตของกลุ่มหาด  เพื่อให้สามารถดำเนินการวางแผนการบริหารจัดการชายฝั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จากรายงานของผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ระบุว่า การดำเนินงานโครงการ ได้นำเอาแนวคิดการจัดการชายฝั่งด้วย “ระบบกลุ่มหาด” มาประยุกต์ใช้ในการศึกษา เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ ส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกันระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ที่ รับผิดชอบในด้านการจัดการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง อีกทั้ง  ยังให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดย กำหนดให้มีการประชาสัมพันธ์และประชุมรับฟังความคิดเห็น จำนวน 3 ครั้ง และการประชุม  เชิงวิชาการเฉพาะด้านวิศวกรรมการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง จำนวน 1 ครั้ง โดยในครั้งนี้จะเป็นการประชุมประชาสัมพันธ์โครงการ ครั้งที่ 1 เพื่อประชาสัมพันธ์และขี้แจงโครงการ และนำเสนอ “ร่างแผนหลักแนวทางและมาตรการการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยใช้ระบบกลุ่มหาด” ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านที่ร่วมอยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ มีศักยภาพ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เพื่อที่หน่วยงานจะได้นำแนวคิดที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นไปบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิด ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา และเกิดความยั่งยืนต่อไป ผมขอขอบคุณ กรมโยธาธิการและผังเมืองที่ได้จัดให้มีการประชุมในวันนี้ และ  ขอขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ภาคเอกชน  สื่อมวลชน และผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่เสียสละเวลามาร่วมประชุม " นายสุริยา น้ำเงิน  กล่าวเพิ่มเติม

ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี  (รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร) 
 

พังงา - เริ่มแล้ว...งาน “เมืองแห่งความสุขและงานกาชาดจังหวัดพังงา” ประจำปี 2564

เมื่อคืนวันที่ 1 เมษายน 2564  ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่า อ.เมืองพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวเปิดงาน “เมืองแห่งความสุขและงานกาชาดจังหวัดพังงา” ประจำปี 2564 เพื่อหารายได้ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ยากไร้ รวมทั้งกิจกรรมสาธารณกุศลอื่น ๆ โดยมี นายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการต่าง ๆ และภาคเอกชน ร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้

นางวิภาดา ทิพญพงศ์ธาดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา กล่าวว่า งาน “เมืองแห่งความสุขและงานกาชาดจังหวัดพังงา” จัดในระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทางจังหวัดพังงาจึงจำเป็นต้องลดความแออัดของผู้คนที่มาเที่ยวชมงานลง ดังนั้นในปีนี้จึงมีการตรวจวัดตามมาตรการก่อนเข้างาน ไม่มีการออกร้านมัจฉากาชาดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเบียดเสียดกันขึ้น แต่ยังคงมีกิจกรรมต่าง ๆ ทุกคืนตลอดงาน เช่น การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ การประกวดร้องเพลงของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าบาติก การจำหน่ายสลากการกุศล การเปิดรับบริจาคเงินเพื่อใช้ในกิจการของเหล่ากาชาด การแข่งขันกีฬา การประกวดผลผลิตทางการเกษต

นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน การจำหน่ายสินค้าโอทอปของดีเมืองพังงา สินค้าพื้นเมืองพื้นบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเบ็ดเตล็ด ส่วนเวทีกลางจะมีการแสดงของศิลปินนักร้องชื่อดังทุกค่ำคืน ทั้งนี้ก็เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปใช้ในกิจการสาธารณกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เดือดร้อนจากภัยต่าง ๆ เช่นช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ มอบทุนเด็กนักเรียนยากจน เป็นต้น  สำหรับผู้ที่บริจาคเงินสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้เป็น 2 เท่าของยอดที่บริจาคผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร ส่วนสลากการกุศลจำหน่ายในราคาใบละ 100 บาท ลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะ Mitsubishi รุ่น Triton สร้อยคอทองคำ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย รวม 300 รางวัล


ภาพ/ข่าว  อโนทัย  งานดี  

ยะลา - เช็งเม้งเบตงคึกคัก ประชาชนเดินทางกลับมาไหว้บรรพบุรุษเนืองแน่น มั่นใจเบตงไร้โควิด-19

ยะลา - เทศกาลเช็งเม้งสุสานบ้านจะเราะปะไต กม.4 ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นไปอย่างคึกคัก หลังประชาชนเดินทางกลับมาไหว้บรรพบุรุษเนืองแน่น มั่นใจในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลาไร้การระบาดไวรัสโควิด-19 อีกทั้งยังได้หนีความแออัดและหมอกควันPM 0.5 ในกรุงเทพฯ กลับมาสัมผัสธรรมชาติไร้หมอกควันพิษ PM.0.5

วันนี้ (3 เม.ย.) บรรยากาศในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง ที่สุสานบ้านจะเราะปะไต บ้าน กม.4 อ.เบตง จ.ยะลา เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และที่เดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัด ได้เดินทางกลับบ้านมาร่วมไหว้บรรพบุรุษในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง พร้อมกับครอบครัว บุตรหลาน และญาติพี่น้อง จำนวนมากเดินทางกลับมาไหว้บรรพบุรุษเนืองแน่น  มั่นใจในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลาไร้การระบาดไวรัสโควิด-19 อีกทั้งยังได้หนีความแออัดและหมอกควันPM 0.5 ในกรุงเทพฯ กลับมาสัมผัสธรรมชาติไร้หมอกควันพิษ

โดยแต่ละคนก็จะนำอาหารคาวหวาน ขนม ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาด้วย พร้อมกับทำความสะอาดที่บริเวณหลุมฝังศพญาติพี่น้องของตนเอง ก่อนจะตั้งเครื่องเซ่นไหว้ กราบไหว้บรรพบุรุษ และเผากระดาษเงิน กระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษ สิ่งของเครื่องใช้ ส่งไปให้เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ

ซึ่งจะมีผู้คนไปไหว้หลุมศพบรรพบุรุษ ไปจนถึงวันศุกร์ ที่  4  เมษายน 2564 ซึ่งบรรยากาศปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดน้อยลง และในพื้นที่ไม่มีการระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนามีความมั่นใจ

ทั้งนี้ วันเช็งเม้ง ถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน เนื่องจากเป็นประเพณีไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่จากไป อีกทั้ง ยังเป็นการสร้างตระหนักรู้แก่ ลูกหลานรุ่นหลังให้เห็นประวัติและคุณงามความดีของบรรพบุรุษที่ทำให้ลูกหลานมีชีวิตที่ดีเช่นทุกวันนี้

วันเช็งเม้ง ในปี 2564 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน  วันเช็งเม้ง หรือ เทศกาลเช็งเม้ง เป็นการทำพิธีเซ่นไหว้และปัดกวาดหลุมศพบรรพบุรุษ โดยถือว่าเป็นประเพณีที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมการฌาปนกิจ เนื่องจากตามบันทึกทางประวัติศาสตร์เคยกล่าวไว้ว่า "สร้างหลุมศพไม่ต้องสร้างเนินสุสาน" ดังนั้น จึงไม่เคยมีบันทึกถึงการทำความสะอาดเนินสุสานมาก่อน   แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเริ่มมีความนิยมสร้างหลุมศพโดยสร้างเนินสุสานด้วยในภายหลัง จึงทำให้ประเพณีการเซ่นไหว้ที่สุสานเกิดขึ้น จนกลายเป็นประเพณีที่ละเว้นไม่ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ และในวันเช็งเม้ง 2564 ตรงกับวันที่ 4 เมษายน ทุกปี


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ

กระบี่ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดประติมากรรมวงเวียน (KRABI LUCKY WINDMILL) และ งาน KRABI’S TOUCHDOWN IN THE ANDAMAN

วันที่ 2 เมษายน 2564 เวลา 18.30 น. ที่ประติมากรรมวงเวียน (KRABI LUCKY WINDMILL) บริเวณทางเข้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดประติมากรรมวงเวียน (KRABI LUCKY WINDMILL) และการจัดงาน KRABI’S TOUCHDOWN IN THE ANDAMAN โดยมีนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีฯ และนางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน KRABI’S TOUCHDOWN IN THE ANDAMAN มีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบจ.กระบี่ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดกระบี่ ตัวแทนจากองค์กรภาคเอกชน สมาคมแม่บ้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ สภาประชาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก  

นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ได้ก่อสร้างประติมากรรมวงเวียน (KRABI LUCKY WINDMILL) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามันแห่งใหม่  ลักษณะอาคารมีความสูง 14.42 เมตร เป็นทรงแปดเหลี่ยม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7.00 เมตร  ตำแหน่งที่ตั้งเป็นจุดสังเกตอย่างชัดเจน และเป็นเครื่องมือของการท่องเที่ยว  ในระบบโซเชียลในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ด้านนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว นางสาวศศิธร กิตติธรกุล พูดถึงการจัดงาน KRABI’S TOUCHDOWN IN THE ANDAMAN ในนามประธานสภาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว จากสภาวะวิกฤตการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ทำให้ภาคการท่องเที่ยวประสบกับปัญหา ด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการ ก่อให้เกิดการว่างงานในกลุ่มพนักงาน ลูกจ้าง ที่ปฏิบัติงานในด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น การมีส่วนร่วมที่จัดกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดรายได้  เกิดการสร้างงานภายใต้ข้อจำกัด ที่จะทำอย่างไรให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่  เป็นที่ยอมรับว่ามีความพร้อม  ในระบบการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)  ประกอบกับศักยภาพของสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน  ยังคงโดดเด่นเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวโลกเสมอ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมจังหวัดกระบี่   ที่ทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกด้าน เพื่อฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจอันเกิดจากผลกระทบของโควิด-19 จะเห็นได้จากวันนี้ เรามีสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวทะเลอันดามันแห่งใหม่ “ประติมากรรมวงเวียน  KRABI LUCKY WINDMILL ที่นำศาสตร์ของความเชื่อ ความโชคดี มาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบได้อย่างลงตัวและงดงาม ต่อไปเราคงจะได้เห็น KRABI LUCKY WINDMILL เป็นจุดเช็คอินที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์  ศรีปล้อง รายงาน

สงขลา - นิพนธ์ เร่ง ศอ.บต. เสนอขอรับงบประมาณ แก้ปัญหาเด็กเล็กพื้นที่ชายแดนใต้มีโภชนาการต่ำ พร้อมติดตามความคืบหน้าการเสนอแนวทางแก้ไขจากทุกภาคส่วน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนมติ กพต.ประเด็นการแก้ไขปัญหาสุขภาวะ และโภชนาการต่ำของเด็กเล็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมสยามออเรียนทัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. ตัวแทนสำนักงบประมาณ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษา หน่วยงานด้านสาธารณสุข หน่วยงานด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น และท้องที่ เข้าร่วมประชุมหารือฯ

โดยประเด็นการแก้ไขปัญหาสุขภาวะและภาวะโภชนาการของเด็กๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักประสานงานการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จากการประชุมหารือแนวทางการดำเนินการดังกล่าวที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการจัดทำข้อมูลเด็กและกลุ่มอายุ 0-5 ปีและแนวทางการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาวะเชื่อมโยงกับการจัดสวัสดิการภาครัฐในเด็กแรกเกิดรวมถึงการดูแลที่เกี่ยวเนื่องในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสถานศึกษาและสถานรับเลี้ยงเด็กเอกชน โดยให้รายงานผลการปฏิบัติและแนวทางการจัดทำข้อเสนอในการประชุมครั้งถัดไป

ในการนี้ นายนิพนธ์ รมช.มท. ได้กล่าวสรุปถึงแนวทางในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในส่วนของการขอรับการสนับสนุนงบประมาณว่า "ต้องให้ ศอ.บต. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงบประมาณในวงเงิน ประมาณ 165 ล้านบาท โดยเป็นปีงบประมาณ 2565 ซึ่งก็ขอให้ทำเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมของคณะกรรมการ กพต.  พร้อมทั้งยื่นต่อคณะรัฐมนตรีในการยื่นขอแปรญัตติ ส่วนหากเป็นไปได้ถ้า covid-19 บรรเทาเบาบางลง ถ้าจะขอใช้งบกลางของท่านนายก ก็ต้องมาดูในเรื่องของความจำเป็น ซึ่งต้องขอให้สำนักงบประมาณดูในส่วนนี้ด้วย เพราะขณะนี้งบประมาณปี 64  ได้เริ่มปีงบประมาณไปแล้ว 6 เดือน และ 6 เดือนที่เหลือในปี 64  ถ้าจะเร่งรัดในการแก้ปัญหานี้เลย ก็ให้ใช้งบประมาณที่เหลือในปี 64 ต้องดูว่าจะใช้ได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งคาดว่าจะยังคงมีงบประมาณอยู่ 70 ล้านบาท แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องใช้งบประมาณในปี 65 เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ คือเดือนตุลาคมปี 64 แต่ถ้าปีงบประมาณ 65 ไม่ได้ ก็ขอให้ตั้งเป็นงบประมาณของปี 66 เอาไว้ โดยให้อยู่ในแผนขอสนับสนุนงบประมาณ"


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์  (หาดใหญ่ จ.สงขลา)

 

นราธิวาส - วัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรก 5,000 โดส เป็นบุคลากรทางการแพทย์และและกลุ่มเสี่ยง

วันที่ 5 เม.ย. 2564  ที่อาคารอเนกประสงค์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์  เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรก โรงพยาบาล 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จำนวน 5,000 โดส หลังจากได้รับการจัดสรรวัคซีน “ซิโนแวค” ล็อตแรก จำนวน 5,000 โดส จากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนจัดการวัคซีนของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยมีกลุ่มป้าหมายมาลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต คัดกรอง ซักประวัติ ประเมินความเสี่ยง ลงนามในใบยินยอมรับวัคซีน รอฉีดวัคซีน ฉีดวัคซีน พักสังเกตอาการ 30 นาที สแกนไลน์แอป “หมอพร้อม” และตรวจสอบ ก่อนกลับรับเอกสารการปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีน

โดยเข็มแรกฉีดให้แก่ นพ.สุเทพ หะยีสาและ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลนราธิวาสฯ เป็นผู้รับวัคซีนกลุ่มแรกของจังหวัดนราธิวาส  เพื่อสร้างความมั่นใจ และติดตามขั้นตอนการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงเช้าวันนี้การฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายแพทย์นสุเทพ หะยีสาและ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรก ที่โรงพยาบาลนราธิวาสเปิดให้ฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” เป็นความยินดีของเจ้าหน้าที่ที่มารับวัคซีนในส่วนตัวเมื่อวานได้ทำการตรวจสอบแล้วผลเป็น Negative วันนี้เลยมารับวัคซีนที่ผ่านมาจากสถานการณ์ในจังหวัดนราธิวาสเกิดปัญหาด้วยคนไข้ติดโควิด ในเรือนจำเป็นปริมาณมาก ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ได้รับการคอนแทคกับผู้ป่วยรายรายโรงพยาบาลได้เปิดการรับวัคซีนสร้างภูมิต้านทานให้เจ้าหน้าที่ก็หวังว่าบุคคลทั่วไปประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่ ไม่มีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อที่จะได้ดูแลผู้ป่วยต่อไป

วัคซีน “ซิโนแวค” ล็อตแรกนำเข้าเพื่อฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงที่จะสัมผัสเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อเพื่อการควบคุมการระบาดเป็นลำดับแรก จังหวัดนราธิวาส ได้รับการจัดสรรวัคซีนระยะที่ 1 วันที่ 5-9 เมษายน 2564 จำนวน 5,000 โดส สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 2,500 ราย จำนวน 125กล่อง กล่องละ 40 โดส แบ่งเป็นอำเภอเมืองนราธิวาส 23กล่อง 920 โดส 460 ราย อำเภอสุไหงโกลก 32 กล่อง 128 โดส   สำหรับกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้เสี่ยงต่อการสัมผัส ประชาชนที่มีโรคประจำตัว และประชาชนทั่วไป โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส พิจารณากระจายวัคซีนตามความเสี่ยงของพื้นที่ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงกำหนด


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก  (ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน)

กระบี่ - "มนัญญา" รมช. เกษตรและสหกรณ์ ลงมือปลูกกัญชา แห่งแรกของ จ. กระบี่ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

เวลา  9:30 น วันที่ 5 เมษายน 2564 ที่โรงเรือนวิสาหกิจชุมชนคนกระบี่เพื่อปลูกสมุนไพร  เขตเทศบาลเมืองกระบี่ นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มาเป็นประธานในการปลูกกัญชาแห่งแรกของจังหวัดกระบี่ที่ได้รับอนุญาตปลูก จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาพื้นที่ปลูก 48 ตารางเมตร มีเป้าหมายปลูก 2 รอบ ๆ ละ 50 ต้นภายในโรงเรือนปิด มีรั้วล้อมรอบ พร้อมมีระบบการดูแลความปลอดภัยที่จะทำให้มั่นใจว่ากัญชาที่ปลูกขึ้นได้รับการตรวจสอบ เฝ้าระวังไม่ให้เกิดการสูญหาย

ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางผึ้งร่วมกับวิสาหกิจชุมชนคนกระบี่ เพื่อปลูกสมุนไพร ร่วมปลูกต้นกล้ากัญชาอายุ 1 เดือนเศษจำนวน 50 ต้นในโรงเรือน มีเป้าหมายเพื่อผลิตวัตถุดิบกัญชาส่งให้กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกในการนำไปผลิตยาที่มีส่วนผสมของกัญชาแจกจ่ายให้สถานบริการภาครัฐ

นางมนัญญา ฯ  กล่าวว่าการขับเคลื่อนเรื่องกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดแต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ยกระดับให้เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ได้ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะผลักดันการวิจัยพันธุ์กัญชาที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถนำต่อยอดในการให้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกัญชา

ขณะที่เกษตรกรชาวจังหวัดกระบี่ในส่วนของวิสาหกิจชุมชนมีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก มี 30 แห่งที่จะแจ้งจดทะเบียนเพิ่มเติมการปลูกกัญชาต่อหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการ


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ (จ.กระบี่ รายงาน)  

สงขลา - รอง เลขาธิการ ศอ.บต. เผยถึงความคืบหน้าของ”เมืองต้นแบบที่ 4” ความเหมือนและความต่างจาก “eeC” และ “sec “อย่างไร

นายบดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)  เปิดเผยถึงความคืบหน้าของ “เมืองต้นแบบที่ 4 “ ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ว่า เมืองต้นแบบที่ 4 เป็นแนวทางการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอนาคต ว่าในแนวคิดการพัฒนาพื้นที่ในโครงการ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ ถือเป็นหน้าที่ของภาครัฐ คือการสร้างโอกาสในพื้นที่ สิ่งสำคัญคือเรื่องการสร้างงาน เพื่อให้เยาวชน และคนรุ่นที่จะเรียนจบการศึกษา และผู้ที่จบมาแล้วแต่ยังว่างงาน สามารถมีงานทำ มีอาชีพที่มั่นคง ซึ่งจะส่งผลให้คนในท้องถิ่น ไม่ละทิ้งบ้านเกิด และเป็นกำลังหลักในการเป็นเสาหลักของครอบครัว และการพัฒนาท้องถิ่น และชุมชน

สำหรับโครงการ “เมืองต้นแบบที่ 4 “ที่ อ.จะนะ มีเอกชนให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนเพราะมีการถือครองที่ดินก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเอกชนก็ยื่นโครงการเข้ามาให้รัฐบาล แม้ว่ารัฐบาลจะเห็นชอบ แต่ก็ยังต้องมีขั้นตอนมากมาย กว่าที่จะสำเร็จลุล่วง  เช่นการขออนุญาตเรื่องเปลี่ยนผังเมือง เพื่อประกอบกิจกรรมอุตสาหกรรม   หน่วยงานของรัฐจะดำเนินการเองไม่ได้ ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ และรอบด้าน แม้แต่ในเรื่องการสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ ถึงโครงการดังกล่าว ก็ต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อไป

แต่...อย่างไรก็ตามในส่วนของโครงการ”เมืองต้นแบบ ที่ 4 “ ที่ อ.จะนะ การพัฒนาอุตสาหกรรมที่จะนะ  เป็นกรอบที่ชัดเจนจากรัฐบาล และจากเอกชนว่า จะไม่มีอุตสาหกรรมหนัก เช่น  ปิโตรเคมี และ อุตสาหกรรมเหล็ก แต่จะพัฒนาเป็นพื้นที่ ที่เป็นเมืองแห่งอนาคต เป็นเมืองน่าอยู่ มีความทันสมัย เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา อีเลคโทรนิกส์ที่ทันสมัย ซึ่ง ศอ.บต. ได้มีการ ประสานงานกับ เอกชนผู้มาลงทุน รวมถึงสถาบันการศึกษา ในการเตรียมความพร้อมของบุคลากร ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับฝีมือ แรงงาน  และ ทักษะ ของคนในพื้นที่ ให้สอดคล้องกับ อุตสาหกรรม จะเกิดขึ้นในพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกมีการพัฒนาที่ชื่อว่า” eec”ส่วนภาคใต้แบ่งเป็น 2 ส่วน เช่น เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ “sec”  แต่ “sec” เป็นโครงการของการพัฒนาภาคใต้ตอนบน 4 จังหวัด ที่ไม่เกี่ยวกับ การพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ หรือ “sbec”  ซึ่งในพื้นที่นี้ จะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่ครอบคลุม 4 อำเภอ ของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ได้แก่ อ.สุไหงโก-ลก อ.หนองจิก อ.เบตง และ อ.จะนะ

แนวคิดของ “sbec” นั้น  มีความเหมือนและต่างกับ “eec”  เพราะ “eec” มีการพัฒนาอุตสาหกรรมที่หลากหลาย แต่ “ sbec “ เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมทันสมัย  ที่ต้องมีการสร้างที่ อ.จะนะ เพราะจะต้องมีการสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ เป็นท่าเรือฝั่งอ่าวไทย ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และการส่งออกของประเทศ ซึ่งขณะนี้ “พณ”ท่าน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบ โครงการนี้ ขับเคลื่อนโครงการต่อไป ในกรอบของ กฎหมาย โดย ศอ.บต. จะเป็น ส่วนในการ สนับสนุนทุกภาคส่วนที่เข้ามา ขับเคลื่อน โครงการนี้ ให้สามารถ เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม รอง เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวท้ายสุด


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์  (หาดใหญ่ จ.สงขลา)

 

กระบี่ - รพ.คลองท่อม เร่งฉีดวัคซีนเข็มแรก ให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน กลุ่มเสี่ยง 100 คน

เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่  สอบถามประวัติ ตรวจสุภาพ ผู้ที่ เข้าฉีด วัคซีน เข็มแรก ประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์ อสม.ผู้นำชุมชน ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า ประชาชนกลุ่มเสี่ยง จำนวน100 คน หลังจากได้รับวัคซีน จำนวน 200โดส ฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย เข็มแรก ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 เมษายน นี้ จากนั้น 3 สัปดาห์ ทำการฉีดเข็มที่ 2 

ขณะที่ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดกระบี่ ประกาศผลตรวจหาเชื้อจากกลุ่มเสี่ยง จำนวน  145 รายของ จ.กระบี่ ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรม  จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 1-2 เมษายน ที่ผ่านมา  แยกเป็นกลุ่มผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดกระบี่ เป็นกลุ่มผู้เสี่ยงสูง จำนวน  12 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ กลุ่มเสี่ยงต่ำ นักเรียน สถานศึกษาต่าง ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม  133 ราย ตรวจหาเชื้อแล้ว จำนวน  27 ราย ผลไม่พบเชื้อ 26 ราย  รอผลตรวจ 1 ราย ที่เหลือกักตัวเองสังเกตอาการ 14 วัน

ด้าน พ.ต.อ.​จเร​ คณาวิทยา​ผกก.สภ.คลองท่อม​ ซึ่งเป็นผู้รับวัคซีนเข็มแรกคนแรกของอำเภอคลองท่อม​ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากนั่งพักสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาทีว่า​ สำหรับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด และได้พูดชักชวนให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชน​ เข้ารับวัคซีนเพื่อป้องกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของcovid19ในครั้งถัดไป


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ  จ.กระบี่ รายงาน

พังงา - เฮ...ผู้ว่าตั้งเป้าฉีดวัคซีน 65-70% ในเดือนมิถุนายน พร้อมเปิดรับการท่องเที่ยว 1 ตุลาคมนี้

วันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพังงา นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงา โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้กำชับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นย้ำให้ทุกอำเภอเข้มงวดดูแลทุกสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะแหล่งที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก อสม.ยังคงเข้า SCAN ตรวจสอบถึงหน้าบ้าน และให้ผู้ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาในจังหวัดพังงาจะต้องรายงานตัวกับพื้นที่ ในส่วนของวัคซีนล็อตแรกจำนวน 10,000 โดส จะฉีดเข็มแรกให้กลุ่มเป้าหมายเสร็จในวันที่9 เมษายน และมีข่าวดีว่าจังหวัดพังงาได้รับการจัดสรรวัคซีนล็อตที่2 ฉีดให้กับประชาชนร้อยละ65-70 ภายในเดือนมิถุนายนนี้ และพร้อมเปิดจังหวัดรับการท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากการที่มีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มจะแพร่ระบาดไปอีกหลายจังหวัด จำเป็นที่สุดที่ทุก ๆ คนจะต้องปฏิบัติตนตามมาตรการ DMHTT ภาครัฐจะดูแลพื้นที่ควบคู่กันไป ที่สำคัญการป้องกันตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในขณะนี้อย่าได้ละเลยหรือประมาท สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยและมีติดตัวไว้เสมอ การจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องเป็นไปตามที่ ศบค.กำหนดเท่านั้น สำหรับวัคซีนในล็อตที่ 2 รัฐบาลได้ทำการจัดสรรให้จังหวัดพังงาครอบคลุมประชาชน 130,000-140,000 คน เพื่อทำการฉีดให้ประชาชนจังหวัดพังงากว่าครึ่งจังหวัดจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่มากที่สุด สำหรับสถานที่ฉีดได้มอบหมายให้หน่วยงานสาธารณสุขและทางอำเภอทุกแห่งพิจารณาจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งจะต้องอยู่ไม่ไกลจากสถานพยาบาล เพราะหากพบว่ามีคนไหนที่มีอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรงจะถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที ส่วนพื้นที่อำเภอไหนที่เป็นเกาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดเตรียมเรือเร็วในการเดินทางทางน้ำต่อไป โดยภายหลังจากการที่ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว คาดว่าจะเปิดจังหวัดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1ตุลาคม 2564 นี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็ได้รับวัคซีนแล้วประกอบกับจังหวัดพังงาเองมีภูมิคุ้มกันหมู่อีกด้วย จะทำให้เกิดการเดินหน้าของเศรษฐกิจการค้าขายในทุกระดับได้


ภาพ/ข่าว  อโนทัย  งานดี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top