Wednesday, 22 May 2024
NewsFeed

‘โตเกียว’ พบ 18 คนป่วย ‘อาหารเป็นพิษ’ หลังกินซูชิปลา เฉลย!! เจอ ‘ปรสิต Kudoa’ แทรกซึมอยู่ อึ้ง!! เพราะเป็นครั้งแรก

(12 เม.ย.67) สำนักข่าวญี่ปุ่น รายงาน หน่วยงานบริหารมหานครโตเกียวเผยเกิดเหตุการณ์อาหารเป็นพิษครั้งใหญ่ขึ้นที่บ้านพักคนชราในเขตเนริมะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปลายเดือนมีนาคม ส่งผลให้ผู้สูงอายุ 17 คน (อายุ 63 ถึง 98 ปี) และพนักงาน 1 คนมีอาการอาเจียนและท้องเสีย

อย่างไรก็ตาม หลังจากการสอบสวนพบว่าทั้ง 18 คน มีอาการแสดงหลังจากรับประทานซูชินิกิริปลาลิ้นหมาเป็นอาหารกลางวัน และทางสาธารณสุขพบปรสิต ‘Kudoa’ ในนิกิริซูชิ นับเป็นครั้งแรกที่โตเกียวประสบภาวะอาหารเป็นพิษจากปรสิตดังกล่าว

ทั้งนี้ โชคดีที่ 18 ราย มีอาการไม่รุนแรง และกำลังพักฟื้น ศูนย์สาธารณสุขให้คำแนะนำแก่สถานที่เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ และต้นกำเนิดของปลาลิ้นหมาที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ระหว่างการสอบสวน

ตามข้อมูลของเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ปรสิต Kudoa อาจจะสูญเสียความสามารถในการก่อโรคหากนำไปแช่แข็งที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 ชั่วโมงขึ้นไป หรือให้ความร้อนจนถึงอุณหภูมิแกนกลางที่ 75 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาทีหรือมากกว่านั้น

ทั้งนี้ ปรสิต Kudao เป็นสกุล Myxozoa และเป็นสกุลเดียวที่ได้รับการยอมรับในวงศ์ Monotypic Kudoidae มีประมาณ 100 สายพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นปรสิตในเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อของปลาทะเลและปลาปากแม่น้ำ โดยมีขนาดประมาณ 0.01 มม. หากบังเอิญทานปลาที่มีปรสิตจำนวนมากอาจก่อให้เกิดอาการ เช่น อาเจียนและท้องร่วงจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง

‘เด็กไทยบางส่วน’ ยึดค่านิยมตาม ‘เด็กฝรั่ง’ อยากใช้ชีวิตเอง ไม่ต้องดูแลพ่อแม่ แต่กลับ ‘ประพฤติตน’ ตรงกันข้าม

(12 เม.ย. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Vee Chirasreshtha’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

“อยากเป็นอย่าง ‘ฝรั่ง’ อยากมีค่านิยมแบบ ‘เลี้ยงตัวเอง’ ไม่ต้องเลี้ยงพ่อแม่แบบฝรั่ง แต่ไม่ทำอย่างเด็กฝรั่ง ไม่ไปหาเงินเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ไม่ไปทำงานพาร์ตไทม์ เสียภาษีหนัก ๆ แบบวัยรุ่นฝรั่งเขาทำกัน ‘ตลกดี’ วัยรุ่นฝรั่งอายุ 16 เขาไปทำงานหาเงิน จ่ายค่าเทอม ค่าน้ำมันรถ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ทำได้อย่างเขาหรือเปล่า?”

ภายหลังจากโพสต์ข้อความไปแล้ว ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น 

-เลือกเอาเฉพาะที่ถูกใจ หลัก ๆ คืออันไหนที่กูสบายนะแหล่ะเอาหมด

-ไม่ต้องฝรั่งเลย คนไทยที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือ เกิดที่นั้น ก็ทำงานหาเงินเองทั้งนั้น

-20 แล้วยังขอตังค์อยู่เลย

-ก็รับงานทำลายชาติ หาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ ออกจากบ้านและระบบการศึกษาตั้งแต่อายุ 14 แล้วไง เงินดี ภาษีไม่ต้องเสีย เป็นไอดอลให้คนทำตาม แต่คนทำตามไม่ได้อะไรนะ

- เอาไรมาก ภาษีกู = Vat7% อยู่เลย เป็นต้น

ศบภ.ทรภ.1 ตรวจความพร้อม 5 จุดบริการ ปชช. ช่วงสงกรานต์

วันที่ 12 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น. พลเรือตรีกรัณย์ กลิ่นบัวแก้ว รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1/รองผู้อำนวยการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 (รอง ผบ.ทรภ.1/รอง ผอ.ศบภ.ทรภ.1)
เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1/ผู้อำนวยการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมของจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ ใน ศบภ.ทรภ.1 และหน่วยราชการในพื้นที่ และให้แนวทางในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในห้วงเทศกาลสงกรานต์พร้อมทั้งมอบกระเช้าบำรุงขวัญเพื่อเป็นกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติงาน โดยมีการตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชน จำนวน 5 จุด ได้แก่ จุดบริการประชาชน หน้าประตูใหญ่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จุดบริการประชาชน หน้าค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า กองพลนาวิกโยธิน

จุดบริการประชาชน ปั๊มนำ้มัน ปตท. กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จุดบริการประชาชน ชายหาดบางเสร่ (ทัพเรือภาคที่ 1) และจุดบริการประชาชน หมวดทางหลวงสัตหีบ (กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ฐานทัพเรือสัตหีบ) ผลการปฏิบัติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘ปทส.’ เผย ความคืบหน้าคดี ‘กากแคดเมียม’ ยัน!! ขณะนี้พบ 1.25 หมื่นตันแล้ว จาก 1.3 หมื่นตัน

(12 เม.ย.67) ที่กองปราบปราม ถ. พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีกากแคดเมียมว่า

สำหรับกากแคดเมียมที่ตรวจพบแล้วกว่า 1.2 หมื่นตันนั้นขณะนี้ บก.ปทส. อยู่ระหว่างการขออนุญาตสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง เมื่อได้รับอนุญาต จะดำเนินการตรวจสอบการขนย้ายตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เกี่ยวกับการชั่งน้ำหนัก

ส่วนเหตุผลที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด นั้น เพราะ บริษัท เจ แอนด์ บีฯ ได้รับอนุญาตให้เป็นที่ปลายทางที่ลงของกากแคดเมียม ดังนั้น การดำเนินการเรื่องครอบครองวัตถุอันตรายฯ จึงต้องดูเจตนาก่อน เพราะต้องประกอบด้วย 4 พ.ร.บ. ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ.สาธารณสุข, พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เท่ากับว่าตอนนี้จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้แค่ ผิด พ.ร.บ.โรงงาน เท่านั้น

นอกจากนี้ ในการขนกากแคดเมียมดังกล่าว เชื่อว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐให้ความร่วมมือ ซึ่งเชื่อได้ว่าทำกันเป็นขบวนการ โดยตอนนี้ต้องรอให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับอุตสาหกรรมจังหวัดก่อน แต่ก่อนหน้านี้ทีมสอบสวนได้มีการลงพื้นที่จังหวัดตาก เพื่อข้อมูลเอกสารต่าง ๆ แล้ว แต่ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ประสงค์ที่จะตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเอง โดยผ่านการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งหากคณะกรรมการชุดนี้ได้รวบรวมเอกสารแล้ว ทางตำรวจก็จะขอนำมาดำเนินการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่คนไหนบกพร่อง และจะประสาน บก.ปปป. ดำเนินคดีต่อไป

ส่วนกากแคดเมียมที่เหลือ ที่ยังตรวจไม่พบนั้น หากอิงจากข้อมูลการขนส่งที่ระบุว่า มีทั้งหมด 1.3 หมื่นตัน แต่ขณะนี้พบแล้วกว่า 1.25 หมื่นตัน ซึ่งถือว่าใกล้เคียงมากแล้ว ซึ่งอาจจะครบแล้วเพราะการที่เข้าไปตรวจดู ก็เป็นการประมาณการณ์จากถุงที่บรรจุ ไม่ได้ชั่งจริง ดังนั้น จึงต้องรอให้มีการตรวจสอบตาชั่ง ตรวจสอบการขนให้ชัดเจน 

'พล.ต.ท.สำราญฯ' ลงพื้นที่ชายแดนใต้ แถลงผลการจับกุมยาเสพติด 4 เครือข่าย และตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการ กำชับมาตรการดูแลประชาชน ในช่วงเทศกาลรายอ และเทศกาลสงกรานต์

วันนี้ (12 เม.ย.67) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./ผบ.ศปก.ตร.สน. และ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9/รอง ผบ.ศปก.ตร.สน.(1) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จำนวน 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 10 คน ตรวจยึดยาเสพติด ไอช์ จำนวน 681 กก., ยาบ้า จำนวน 930,000 เม็ด, อาวุธปืน 2 กระบอก และตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมูลค่าประมาณ 3,900,000 บาท พร้อมทั้งได้ประชุมกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพล ให้มีความพร้อมอำนวยความสะดวกด้านจราจร สามารถดูแลประชาชนในห้วงเทศกาลรายอ และเทศกาลสงกรานต์

ต่อมาช่วงบ่าย พล.ต.ท.สำราญ ฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยฐาน มว.ฉก.นปพ.นธ.21 อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และฐาน มว.ฉก.นปพ.ปน.32 อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เพื่อรับฟังปัญหาของหน่วยและร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ไข ตลอดจนการวางมาตรการการปฏิบัติในการป้องกันหน่วย การป้องกันการโจมตี รวมถึงการปฎิบัติการเชิงรุกและรับ เพื่อให้เกิดผลการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งได้มอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกำลังพลประจำฐานปฏิบัติการ โดยเชื่อมั่นว่ากำลังพลในพื้นที่มีพร้อมที่จะดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่ในห้วงเทศกาลดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

‘ผู้ประกอบการหัวหิน’ หวั่น!! น้ำประปาไม่พอใช้ช่วงสงกรานต์ ด้าน ‘นายกฯ หัวหิน’ ปรับแผนบริหารน้ำประคองหยุดยาว

สถานการณ์การผลิตน้ำประปาในเขตเทศบาลเมืองหัวหินยังคงน่าเป็นห่วง เพราะความต้องการใช้น้ำมีปริมาณมากกว่าช่วงปกติ รวมทั้งสถานประกอบการต่าง ๆ ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงต้องว่างแผนบริหารจัดการน้ำแบบวันต่อวันขณะนี้

เมื่อไม่นานมานี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำที่โรงผลิตน้ำประปาหัวนา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำประปา 1 ใน 4 โรงของเทศบาลเมืองหัวหิน โดยพบว่าหลังจากงานนี้มีการผันน้ำจากโรงผลิตน้ำประปาเขาแล้ง ระบายน้ำลงสู่อ่างเก็บน้ำโรงผลิตน้ำประปาหัวนา ประมาณ 6 ชั่วโมง ทำให้มีปริมาณน้ำในอ่างมากเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในเขตเทศบาลเมืองหัวหินลดลงบางส่วนเท่านั้น แต่หลังจากหยุดการผันน้ำเข้ามาที่โรงผลิตน้ำประปาหัวนา ตั้งแต่เย็นวันที่ 10 เม.ย.ถึงเที่ยงวันที่ 11 เม.ย. โรงผลิตน้ำประปาหัวนาเดินหน้าผลิตน้ำอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพบว่าโรงผลิตน้ำประปาหัวนา ซึ่งมีน้ำจากเขื่อนปราณบุรี ที่มาลงในอ่าง 2 ท่อ และเสริมอีก 1 ท่อนั้น ยังคงไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำที่มีความต้องการมากในแต่ละวันในช่วงนี้ ขณะที่ระดับน้ำก็เริ่มลดลงไปอีก แม้ในภาพรวมการผลิตน้ำประปาจาก 4 โรงจะได้เฉลี่ยวันละ 7 หมื่นกว่าคิว หรือเดือนละ 2 ล้านกว่าคิว แต่ขณะนี้มีปริมาณการใช้น้ำที่มากขึ้น

ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่าอาจต้องใช้ระบบการผันน้ำจากโรงผลิตน้ำประปา ลงมาอ่างน้ำที่หัวนา เพื่อเติมในช่วงกลางคืน เนื่องจากน้ำที่ส่งผ่านท่อจากเขื่อนเพชรบุรีที่ผ่านมาลงโรงผลิตน้ำของกองการประปาหัวหิน ก็มีปริมาณน้ำที่มาลดลงจากที่คาดว่าจะได้ 500 คิวต่อชั่วโมง แต่ตอนนี้ลดลงเหลือเพียง 180 คิวต่อหนึ่งชั่วโมง เพื่อรองรับความต้องการน้ำของทั้งโรงแรม, รีสอร์ต, คอนโดฯ ห้างขนาดใหญ่ ร้านอาหารมีความต้องการใช้น้ำในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และต้องเตรียมพร้อมที่จะสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน

ขณะเดียวกัน เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่สวนสาธารณะโผนกิ่งเพชร ตอนนี้ได้มีการปรับการใช้น้ำเล่นสงกรานต์ในอุโมงค์น้ำเป็นรูปแบบของการใช้หัวสเปรย์ น้ำที่พ่นออกมาเป็นละอองน้ำเท่านั้น และบางส่วนใช้โฟมเข้ามาเสริม รวมทั้งงานประเพณีสงกรานต์คอกระเช้าที่ภาคเอกชนจัดขึ้นในช่วงเทศกาลวันแรก ก็ต้องงดการเปิดอุโมงค์น้ำออกไป และรวมถึงการใช้ระบบสเปรย์น้ำที่พ่นออกมาเป็นละอองน้ำก็ต้องจัดการให้ดีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทราบว่าทางผู้ประกอบการโรงแรม, รีสอร์ต, คอนโดฯ, ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งประชาชนต่างมีความเข้าใจและร่วมที่จะช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่หัวหินไปให้ได้

ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาอีกด้าน ทางเทศบาลเมืองหัวหิน ก็ได้จัดรถน้ำออกแจกจ่ายน้ำประปาให้บ้านเรือนประชาชนที่น้ำไหลน้อยและไม่ไหลในบางจุด ตามที่มีประชาชนแจ้งเข้ามาที่เทศบาลเมืองหัวหิน และจัดส่งรถน้ำให้บริการตามคิว ซึ่งชาวบ้าน และร้านค้าบอกตรงกันว่าปีนี้ช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ำประปาที่ไหลเข้ามาตามบ้านเรือนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งบางครั้งต้องสั่งซื้อน้ำเข้ามาเพื่อสำรองน้ำเอาไว้ในช่วงที่ปริมาณน้ำไปเพียงพอต่อความต้องการ และเตรียมภาชนะไว้ใส่น้ำเอาไว้ให้เพียงพอ

ขณะเดียวกัน ผู้ที่ให้บริการรถน้ำที่โรงผลิตน้ำประปาหัวนา ยังคงมีการนำรถมารอรับน้ำทั้งขนาด 1 พันลิตร 2 พันลิตร ไปจนถึงรถใหญ่ ขนาด 1 หมื่นลิตร ที่มาจอดรอเข้าคิวรับน้ำตลอดทั้งวันจนถึงกลางคืน ซึ่งมีหัวจ่ายน้ำ 2 หัว หากมีรถน้ำของเทศบาลเมืองหัวหินเข้ามาจะสามารถรับน้ำได้ 1 หัวทันที ซึ่งผู้ให้บริการรับจ้างขนน้ำบอกว่าช่วงนี้โรงแรม รีสอร์ต คอนโดฯ ห้างสรพสินค้ามีความต้องการน้ำไว้สำรองเป็นจำนวนมาก รถน้ำแต่ละคันวันละไม่ต่ำกว่า 5 เที่ยว

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนายนรเศรษฐ สองทอง ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 14 อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ข้อมูลว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนปราณบุรียังคงจัดส่งน้ำได้เพียงพอไปจนถึงช่วงพฤษภาคม-กรกฎาคม ซึ่งหากยังคงมีน้ำใช้การในระดับ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะยังคงเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค ทั้งนี้ในส่วนของน้ำที่ส่งมาตามท่อให้เทศบาลเมืองหัวหินใช้เฉลี่ยวันละประมาณ 3 หมื่นลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปีนี้ทางกรมฝนหลวง ก็ได้เริ่มปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหลังวันหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะใช้กองบินที่ 5 เป็นจุดขึ้นลงของเครื่องบินฝนหลวง ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศด้วยในการปฏิบัติการฝนหลวง 

‘นายกฯ หัวหิน’ บูรณาการน้ำ ‘เขาแล้ง-หัวนา-ไร่นุ่น’ ดันประปาทั่วถึง ประชาชนมีน้ำใช้ช่วงสงกรานต์

ไม่นานมานี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้เป็นประธานประชุมชี้แจงสถานการณ์น้ำประปาเทศบาลเมืองหัวหิน ที่ห้องดำเนินเกษม สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน มีคณะผู้บริหารเทศบาล ปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ที่มีประชาชนเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว และนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก อีกทั้งจะมีกิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่ไทยด้วย ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณการใช้น้ำมากกว่าปกติ

ภายหลังประชุม นายนพพร ได้กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำของหัวหินนั้น ตนได้เตรียมวางแผนไว้ประมาณ 7 - 8 ปีที่แล้ว ได้เห็นผลในการดำเนินการดังกล่าว เช่น หัวหินในอดีตนั้นมีแค่การประปาของเทศบาลอย่างเดียว แต่ปัจจุบันนี้มีการประปาส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วยดำเนินการด้วย เรื่องของการเพิ่มน้ำดิบจากบ่อแขม มาที่เทศบาลเมืองหัวหินนั้น ก็ดำเนินการเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ปัจจุบันนี้หน่วยงานรับน้ำ หมายถึงเทศบาลเมืองชะอำและเทศบาลเมืองหัวหิน ถือว่าเป็นหน่วยงานที่รับน้ำ หน่วยงานที่ส่งน้ำคือ เขื่อนเพชรของชลประทาน 

“ผมเชื่อว่าการรับน้ำจากคลองส่งน้ำมีปัญหาในช่วงหน้าแล้ง ทำให้น้ำจากบ่อแขมที่เรารับน้ำมาโดยตลอด มีปริมาณน้อยลง เนื่องจากคนมาใช้น้ำในคลองมากขึ้น เทศบาลฯ ก็ประสานงบประมาณจากสองรัฐบาลที่ผ่านมา เป็นเงิน 1,045 ล้านบาท เพื่อให้หัวหินรับน้ำจากท่อขนาด 1,000 ขณะนี้ท่อเส้นนี้มาถึงหัวหินแล้ว ทำให้หัวหินมีการรับน้ำดิบจากท่อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเพิ่งเชื่อมท่อเมื่อต้นเดือนเมษายนนี้เอง ส่วนอีกทางหนึ่ง ก็มาจากเขื่อนปราณบุรี ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานชลประทาน 14 ตอนนี้มีท่อน้ำใหม่มาอีกหนึ่งเส้น เท่ากับว่าในระยะเวลา 7 - 8 ปีนี้ เทศบาลฯ นำน้ำดิบมาเพิ่มจาก 3 ส่วนด้วยกัน เพื่อให้ช่วยกันผลิตประปาให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้ใช้” 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์นี้ นายนพพร มองว่า ปัญหาเรื่องของการผลิตที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากเป็นหน้าร้อน, คนมาเที่ยวหัวหินเยอะ และเป็นช่วงวันหยุดยาว ซึ่งโรงผลิตน้ำที่หัวนายังผลิตน้ำประปาตามปกติ แต่เมื่อผลิตออกไปตามเส้นทางของท่อ จะผ่านตามบ้านคน สถานประกอบการ อาคารชุด โรงแรม ซึ่งมีถังอยู่ใต้ดิน เพราะฉะนั้นน้ำที่อยู่ปลายทางก็ไปไม่ถึง เพราะข้างล่างน้ำยังไม่เต็ม นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาว่า ทำไมถึงมีน้ำที่โรงผลิต แต่ทำไมที่บ้าน ที่โรงแรมน้ำจึงไม่ไหล

ดังนั้นการดำเนินการปิดน้ำที่เขาแล้ง เพื่อผันน้ำลงไปพื้นที่โรงผลิตน้ำหัวนาและไร่นุ่น ระยะเวลาจุดละประมาณ 3 ชั่วโมงนั้น จะให้มีน้ำดิบเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% โดยน้ำดิบช่วงนั้นที่ลงมา จะทำให้ผลิตน้ำประปาได้เพิ่มขึ้นสำหรับสองวันเต็ม ๆ พร้อมปล่อยต่อได้ 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งนี่เป็นวิธีในการนำน้ำดิบมาเพิ่มให้หัวหิน เพราะต้องยอมรับว่าน้ำดิบที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถ้าปล่อยตามธรรมชาติ ยังไงก็จะมีผลกระทบเหมือนช่วงหลายวันที่ผ่านมา 

ฉะนั้นแนวคิดนี้จึงเหมือน ‘โครงการแกล้งน้ำ’ ที่เรานำน้ำดิบที่เขาแล้งปล่อยลงมาสู่ข้างล่างที่หัวนา ประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้บริเวณเขาแล้งเดือดร้อนช่วงหนึ่ง แต่พอพ้นจากช่วงนั้นไปแล้ว ก็จะได้รับน้ำปกติ และทำให้น้ำที่หัวนาเพิ่มมากขึ้น จนสามารถโยกน้ำที่หัวนา มาช่วยน้ำที่ดำเนินเกษม ซึ่งจะเป็นการช่วยทำให้น้ำในเมืองมีเพิ่มมากขึ้นตาม

จากแนวทางดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านที่ใช้น้ำจากเขาแล้งนั้น ตั้งแต่หัวนาซอย 102 หมู่บ้านสมอโพรงฝั่งทิศเหนือ หมู่บ้านบ่อฝ้ายทั้งหมด และถนนดำเนินเกษม ตั้งแต่แยกประมง แยกไฟแดงวังไกลกังวล จนถึงสนามบิน จะได้รับผลกระทบประมาณ 6 ชั่วโมง แต่หลังจากพ้นจาก 6 ชั่วโมงไปแล้ว ภาพรวมของน้ำประปาของหัวหินนั้นจะดีขึ้นเกือบทั้งเมือง เป็นการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำประปาในช่วงสงกรานต์นี้

ส่วนสถานการณ์การใช้น้ำและเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ อาจจะได้รับผลกระทบ แต่ไม่มาก ถ้ามีการบริหารจัดการแบบที่แจ้ง รวมทั้งเล่นน้ำสงกรานต์แบบพอเพียง แต่มั่นใจว่าทุกคนได้เล่นแน่นอน ทว่าตอนนี้ทางเทศบาลฯ ก็อยากจะขอใช้คำว่า ‘แบบพอเพียง’ จากเดิมที่เคยจัดสวนน้ำค่อนข้างจะใหญ่ ก็อาจะลดขนาดเล็กลง เรื่องของสวนน้ำ ก็อาจจะใช้ปาร์ตี้โฟมเข้ามาช่วยเสริม เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติตรงนี้ไปได้

“อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนได้สำรองน้ำไว้ใช้ล่วงหน้า เพื่อบรรเทาปัญหาในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้เทศบาลเมืองหัวหินได้บูรณาการรถบรรทุกน้ำจากหน่วยงานต่างๆ ส่งน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยสามารถแจ้งคำร้องได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหัวหิน โทร. 032-511666 หรือแจ้งโดยตรงที่นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน โทร. 092-789-3694 นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน โทร.066-146-5269 นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน โทร. 081-813-5529 และสามารถแจ้งผ่านสมาชิกสภาเทศบาลในเขตพื้นที่ได้รับผลกระทบ และต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้” นายนพพร กล่าว

‘นายกฯ หัวหิน’ ปรับกลยุทธ์ปัญหาน้ำหัวหินขาดแคลน ระดมรถบรรทุกน้ำกระจายแจก ประคองช่วงสงกรานต์

ไม่นานมานี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารเทศบาลฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ขาดแคลนน้ำประปาขณะนี้ว่า เนื่องจากในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ มีประชาชนเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว รวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่เพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ ประกอบกับปัญหาน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาที่มาจากเขื่อนปราณบุรี ซึ่งขณะนี้เหลือน้ำอยู่เพียง 26.51% และเขื่อนเพชรที่ส่งน้ำมาให้หัวหินผลิตน้ำประปาปริมาณน้อย แต่สภาพความต้องการใช้น้ำในเขตเทศบาลฯ ในช่วงหน้าร้อนนี้ มีผู้ใช้น้ำทั้งจากโรงแรม, รีสอร์ท, คอนโดฯ บ้านพัก และประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณการใช้น้ำมากกว่าปกติ บางส่วนไม่เพียงพอ บางพื้นที่น้ำไหลน้อย และบางพื้นที่ปลายทางน้ำไม่ไหล ซึ่งขณะนี้สั่งให้กองการประปาเทศบาลเมืองหัวหิน บูรณาการน้ำระหว่างโรงผลิตน้ำเขาแล้ง กับโรงผลิตน้ำหัวนา และโรงผลิตน้ำไร่นุ่น

โดยทางเทศบาลฯ ได้บูรณาการรถบรรทุกน้ำจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยแจ้งคำร้องได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลหัวหิน โทร. 0-3251-1666 ซึ่งหลังจากผันน้ำเข้าสู่โรงผลิตน้ำประปาหัวนาเสร็จสิ้นลงแล้ว โรงผลิตน้ำประปาเขาแล้ง ก็จะดำเนินการผลิตน้ำประปาส่งเข้าระบบแจกจ่ายได้ตามปกติต่อไป พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวต่างๆ ในเขตเทศบาลฯ และภาคประชาชน ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดในช่วงนี้ และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์หัวหิน

“ก่อนหน้านี้ เราเจอปัญหาการหยุดจ่ายน้ำประปาที่โรงผลิตน้ำเขาแล้ง เพื่อผันน้ำให้กับโรงผลิตน้ำหัวนาและไร่นุ่น ซึ่งจะส่งผลกระทบให้น้ำประปาไหลอ่อนและไม่ไหลในบางพื้นที่ในเขตเทศบาลฯ ได้แก่ ชุมชนทางรถไฟฝั่งตะวันตก, ชุมชนหนองแกฝั่งทางรถไฟตะวันตกถนนชมสินธุ์ฝั่งทิศใต้, ชุมชนสนามกอล์ฟ, ชุมชนสมอโพรงฝั่งทิศเหนือตั้งแต่ชลประทานซอย 1 ถึงหมู่บ้านเคียงนทีหรือแพไม้, ฝั่งตะวันออกถนนคันคลองและฝั่งตะวันตกตั้งแต่หัวหินซอย 2-ซอยชลประทาน 24 รวมถึงถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออก ตั้งแต่หัวหินซอย 1-หัวหินซอย 35 ถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันตกตั้งแต่หัวหินซอย 2-หัวหินซอย 40/1 และชุมชนบ่อฝ้ายทั้งหมด” นายนพพร กล่าว

โจทย์ใหญ่ ‘นายกฯ หัวหิน’ หลังน้ำดิบผลิตประปาเริ่มขาดช่วง เร่งบริหารจัดการด่วน หวัง ‘หัวหิน’ ไม่ขาดน้ำช่วงสงกรานต์นี้

หลังจากสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงนี้ ได้ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และที่เหนื่อยหน่อย คือ เทศบาลเมืองหัวหิน ที่ดูจะต้องเร่งบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอเพื่อรองรับช่วงสงกรานต์และหลังจากนี้ ภายหลังพบน้ำประปาในเขตเทศบาล เริ่มไหลอ่อน และบางจุดไม่ไหล

แน่นอนว่า สิ่งที่ทางเทศบาลเมืองหัวหิน เร่งทำในตอนนี้เพื่อบรรเทาปัญหา คือ การให้รถรับจ้างบรรทุกน้ำขนาดตั้งแต่ 2,000 ลิตรไปจนถึง 7,000 ลิตร รอเข้าคิวรับน้ำที่โรงผลิตน้ำประปาหัวนา เทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปส่งตามสถานประกอบการต่าง ๆ รวมทั้งรับน้ำไปส่งตามบ้านเรือนประชาชน เพราะขณะนี้บ้านเรือนบางส่วนที่อยู่ปลายสายท่อ มีปริมาณน้ำไหลน้อยลง ทำให้ต้องกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้

เนื่องจากเมื่อช่วง 2 วันก่อน ตั้งแต่เวลา 09.30-15.30 น. โรงผลิตน้ำประปาเขาแล้ง ได้หยุดจ่ายน้ำประปา เพื่อผันน้ำให้กับโรงผลิตน้ำหัวนาและไร่นุ่น ส่งผลให้น้ำประปาไหลอ่อน และไม่ไหลในบางพื้นที่ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เช่น ชุมชนทางรถไฟฝั่งตะวันตก ถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออก ตั้งแต่หัวหินซอย 1 ถึงซอย 35 ถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันตก ตั้งแต่หัวหินซอย 2 ถึงซอย 40/1 และชุมชนบ่อฝ้ายทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้เรียกประชุมคณะผู้บริหารและกองการประปาหัวหิน เพื่อแก้ปัญหาน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปา ซึ่งมาจากเขื่อนปราณบุรี ที่ขณะนี้เหลือน้ำเพียงร้อยละ 26.51 รวมทั้งจากเขื่อนเพชรบุรี ที่ส่งน้ำมาผลิตน้ำประปา ประกอบกับช่วงนี้อากาศร้อน ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมีมากขึ้น ทั้งจากที่พักโรงแรม, รีสอร์ต รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ทำให้น้ำที่ส่งมาผลิตน้ำประปาบางส่วนไม่เพียงพอ บางพื้นที่น้ำไหลน้อยหรือไม่ไหล 

ขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ปริมาณการใช้น้ำในเทศบาลเมืองหัวหินมีมากขึ้น ทำให้กองการประปาเทศบาลฯ จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้น้ำช่วงสงกรานต์นี้ 

‘สาทิตย์’ รับ!! สะพัด ‘ชวน’ ชวดลงสมัคร สส. หนาหู ชี้!! หากเป็นจริง กระทบความนิยม ปชป.ภาคใต้แน่

(12 เม.ย. 67) ที่บ้านวงศ์หนองเตย ถ.เทศบาล 5 อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ 7 สมัย และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรัง เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่มีการพูดกันหน้าหูในคนใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันว่า คุณชวน หลีกภัย จะไม่ได้ลงสมัคร สส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ เรื่องนี้นายสาทิตย์ กล่าวว่า ก็หนาหูมาก ซึ่งตนเองก็ไม่สามารถไปตอบคำถามอะไรได้ เพราะเราไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับท่านชวน ถ้าเกิดท่านอยากจะลงแต่ว่าด้วยเหตุผลกลใดที่ไม่ได้ลง ตนมองว่ามีผลกระทบต่อความนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์ใน จ.ตรัง และภาคใต้แน่นอน เพราะต้องตอบให้ได้ว่าท่านทำผิดอะไร ที่กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ตัดรายชื่อนายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นทั้งอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเคยเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ออกจากผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งหน้า

ในส่วนการเมืองท้องถิ่น ที่มีกระแสข่าวว่าตนเองมีความสนใจนั้น จริง ๆ ตนเองสนใจเรื่อง อบจ.ตรัง หลายครั้งที่มีส่วนเข้าไปช่วยหาเสียงตั้งแต่ยุคสมัย นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชายนายชวน หลีกภัย ลงรับสมัคร เพราะตนมองว่า อบจ.เป็นจักรกลใหญ่ ที่เป็นตัวแทนคนตรังในการพัฒนาจังหวัด ครั้งที่แล้วนายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชายตน ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง แต่ด้วยรัฐธรรมนูญ ตนไปช่วยหาเสียงไม่ได้ ก็น่าเสียดาย เลยได้ อบจ.ชุดใหม่มา ตอนนี้เป็นความกังวลมีการพัฒนามา 3 ปีกว่าแล้ว แต่ตรังเรายังไปไม่ถึงไหนเลย และตามที่ อบจ.ตรัง ประกาศนโยบายเอาไว้ตั้งหลายข้อ ก็ยังมีคนถามว่าทำครบหรือยัง นอกเหนือจากถนนหนทางที่ทำกันไปทุกที่ โดยภาพรวมเราเทียบ จ.ตรัง กับจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.กระบี่ โกอินเตอร์ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวติดอันดับโลก ขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าตรัง อบจ.เขามีบทบาทสูงมากในการพัฒนาขึ้นมาได้ขนาดนี้ ส่วน จ.พัทลุง เขาไม่มีทะเลแต่ทุกวันนี้หาตัวตนพบ คน จ.ตรัง ขับรถพาพ่อแม่ลูกเมียไปเที่ยว จ.พัทลุง แล้ว จ.ตรัง เรามีจุดขายอยู่แค่เพียงชายหาดปากเมง ในส่วนแลนด์มาร์คอื่น ๆ ระยะเวลา 3 ปีกว่าตนยังไม่เห็นว่า อบจ.ตรัง จะทำให้ตรังเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศหรือทั่วโลก ส่วนเกาะกระดานนั้นมีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวมาเที่ยวอยู่แล้ว

ถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนตัวผู้บริหาร อบจ.ตรัง ที่มีวิสัยทัศน์ มองไปข้างหน้า ทำให้ตรังเศรษฐกิจเติบโต เพราะศักยภาพเรามีเยอะ มีทั้งทะเล ป่าไม้ ภูเขา มีทั้งประวัติศาสตร์ ของกิน อาหารที่โด่งดัง แต่เหมือนว่าเราไปไม่ถึงไหนสักที มันเป็นเพราะกลไกของ อบจ. ของจังหวัด ไม่ได้จับมือกัน ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตรังนั้นเติบโตหรืออย่างไร ตนคิดว่าที่สนใจคือใครจะมาลง ถ้ามีคนดีมาลงแล้วตนเห็นว่ามีแนวคิดที่ดีทำให้เศรษฐกิจตรังมันก้าวหน้า และเป็นการทลายการเมืองอิทธิพลในตรังตนจะสนับสนุน ซึ่งตนเองยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะลงด้วยตัวเอง ตอนนี้ก็พยายามกับพรรคพวกหลายฝ่ายหลายกลุ่มเฟ้นหาตัว หรือพยายามสดับรับฟังว่าใครที่จะสมัครลงเป็นนายก อบจ.ตรังบ้าง ก็บอกว่าถ้าเจอคนที่ดี ตั้งใจ มีวิสัยทัศน์ ทำให้ตรังเติบโตก้าวหน้าเศรษฐกิจดีขึ้น ชาวตรังอยู่ดีกินดีตนพร้อมที่จะสนับสนุน

ส่วนตัวหลังลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ยังไม่ได้คิดจะวางมือ ก็ยังอยู่ในแวดวงการเมือง ตั้งใจจะทำหน้าที่เป็นนักการเมืองของประชาชนต่อไป แม้จะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังพูดคุยกับ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณกรณ์ จาติกวณิช และอีกหลายคน ต่างก็มีความเห็นร่วมกันว่า การเมืองยุคนี้เป็นการเมืองยุคฮั้วข้ามค่ายข้ามพรรค เป็นไปได้อย่างไรที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม นิยมทหารกับระบอบทักษิณจับมือกันตั้งรัฐบาล ซึ่งลักษณะนี้มันมีความรู้สึกว่ามันเหมือนกับมีดีลลับจริง ๆ แล้วก็ถ้ามีลักษณะแบบนี้ภาพที่เราเห็นก็คือมีความพยายามที่จะทำให้ฝ่ายค้านมีบทบาทน้อยที่สุด อย่างที่คุณทักษิณ เคยทำมาสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 หรือจะเป็นครั้งแรกก็ตาม

เพราะฉะนั้นข่าวเรื่องยุบพรรคก้าวไกล ข่าวเรื่องจะดึงพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นรัฐบาล ก็สะท้อนให้เห็นเจตนาของรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่าคนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลก็คือคุณทักษิณ ที่พยายามทำให้ฝ่ายค้านอ่อนแอ คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน เพราะจะกลายเป็นว่าชนชั้นอภิสิทธิชน ประสานผลประโยชน์กันได้แล้วก็ฮั้วจับมือกัน พรรคประชาธิปัตย์เองถูกชวนไปร่วมรัฐบาลก็ไม่เห็นปฏิเสธอย่างแข็งขัน ฝ่ายค้านเองกรณีคุณทักษิณไม่ติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว ตนก็ไม่เห็นว่าจะทำหน้าที่อย่างแข็งขันในสภา ก็มีแต่ คุณสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา พูดชัดเจนมากเรื่องการปกป้องระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศ เพราะฉะนั้นกลุ่มของเราก็คิดว่าถ้าการเมืองยังฮั้วกันอยู่แบบนี้ ประชาชนก็ยังจะถูกหลอกอยู่ร่ำไป

หากถามว่าคิดอย่างไรกับพรรคก้าวไกลในภาคใต้ ตนมองว่าเลือกตั้ง ปี 66 ที่ผ่านมา พื้นที่ภาคใต้ก้าวไกลมาเป็นที่ 1 ส่วน จ.ตรัง พรรคก้าวไกลคะแนนก็มาเป็นอันดับ 1 สะท้อนความรู้สึกของคนอยู่หลายทางเหมือนกันว่าอาจจะเห็นว่าพรรคการเมืองอื่นไม่สามารถเป็นที่พึ่งหวังได้ ก็มีแต่พรรคก้าวไกลเป็นที่พึ่งหวังมีความตั้งใจที่จะทำหลายเรื่องกระแสก้าวไกลยังดีอยู่ ตนมองว่ากระแสในตอนนี้ก็ยังดีอยู่ และเชื่อในการเลือกตั้งครั้งหน้า ในภาคใต้รวมทั้ง จ.ตรัง พรรคก้าวไกลจะกวาดไปได้หลายที่นั่ง 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top