Saturday, 24 May 2025
NewsFeed

‘BLACKPINK’ ถูกเสนอชื่อเข้าชิง 6 หมวดหมู่ ในงาน VMA สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมทั่วโลกของวงการ K-POP

(3 ก.ย. 66) ตามรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ก.ย. (เวลาท้องถิ่น) บนเว็บไซต์ VMA 4 สาว BLACKPINK (แบล็คพิงค์) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงใน 6 หมวดหมู่ ได้แก่ ‘Best Editing,’ ‘Best Art Direction,’ ‘Best Choreography,’ ‘Best K-pop,’ ‘Group of the Year,’ และ ‘Show of the Summer.’

เมื่อปีที่แล้ว BLACKPINK (แบล็คพิงค์) สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการแสดงในรายการประกาศรางวัลนี้ด้วยเพลงฮิตของพวกเขา ‘Pink Venom’ ซึ่งกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปกลุ่มแรกที่สร้างความสง่างามบนเวที VMA

การเสนอชื่อเข้าชิง VMA ในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมทั่วโลกของ K-pop โดยแสดงให้เห็นการปรากฏตัวอย่างแข็งแกร่งของศิลปินเกาหลีบนเวทีโลก

ไม่เพียงเท่านั้น หนุ่ม ๆ TOMORROW X TOGETHER (TXT) จากค่าย BigHit Entertainment ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงใน 4 หมวดหมู่ด้วยเพลงฮิตของพวกเขา ได้แก่ ‘Sugar Rush Ride’, ‘Group of the Year,’ ‘Song of Summer,’ ‘Push Performance of the Year,’ และ ‘Best K-pop.’

แม้จะมีข้อพิพาทด้านสัญญาอย่างต่อเนื่อง แต่เกิร์ลกรุ๊ป FIFTY FIFTY ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงใน 3 ประเภทด้วยเพลงฮิตระดับโลกของพวกเขาอย่าง ‘Cupid’ ในหมวด ‘Group of the Year,’ ‘Song of Summer’ และ ‘Best K-pop’

จองกุก สมาชิกวง BTS ซึ่งก่อนหน้านี้ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ต Billboard Hot 100 ด้วยเพลงเดบิวต์เดี่ยวของเขา ‘Seven’ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในหมวด ‘Song of Summer’

นี่เป็นปีที่สองติดต่อกันที่ จองกุก ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในหมวดหมู่นี้ หลังจากที่เขาได้รับการเสนอชื่อเมื่อปีที่แล้วจากการร่วมงานกับ Charlie Puth ในเพลง ‘Left and Right’ ทำให้เขาเป็นศิลปินเดี่ยวชาวเกาหลีคนแรกที่ประสบความสำเร็จนี้

นอกจากนี้ วงอย่าง SEVENTEEN และ NewJeans ยังได้เข้าชิงรายชื่อผู้เข้าชิง ‘Group of the Year’ ในขณะที่ aespa, SEVENTEEN และ Stray Kids มีชื่อเข้าชิงในหมวด ‘Best K-pop’

นอกจากนี้ Stray Kids และ TOMORROW X TOGETHER ยังรวมอยู่ในรายชื่อนักแสดง ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะแสดงสดในพิธีมอบรางวัล

‘ไต้หวัน’ อพยพประชาชนนับพัน หนีไต้ฝุ่น ‘ไห่ขุย’ พร้อมสั่งยกเลิกเที่ยวบิน ก่อนพายุจะขึ้นฝั่งวันนี้

(3 ก.ย.b66) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไต้หวันเตรียมที่จะรับมือกับพายุไต้ฝุ่นไห่ขุยที่คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะที่มีภูเขาจำนวนมากและมีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง ในช่วงบ่ายของวันนี้ (3 ก.ย.) ส่งผลให้บรรดาเที่ยวบินภายในประเทศถูกยกเลิกและได้อพยพประชาชนจำนวน 2,868 คน ทางตอนใต้และตะวันออกของเกาะไปยังที่ปลอดภัยแล้ว โดยคาดว่าพายุไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวจะส่งผลให้มีฝนตกหนักและลมแรงในบริเวณตอนใต้และทิศตะวันออกของไต้หวัน

ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันได้กล่าวในการประชุมของเจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติว่า พายุไต้ฝุ่นไห่ขุยจะเป็นไต้ฝุ่นลูกแรกในรอบ 4 ปี ที่พัดขึ้นฝั่งบนเกาะไต้หวันและเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่เทือกเขาทางตอนกลางของเกาะ แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีไช่ได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านหรือขึ้นไปบนภูเขา รวมถึงเลี่ยงการเดินทางไปยังชายฝั่ง ออกเดินเรือทำประมง หรือเล่นกีฬาทางน้ำ

นอกจากนั้นแล้ว ยังได้คำสั่งยกเลิกการเรียนการสอนและประกาศหยุดงานให้กับคนงานในเขตและเมืองต่างๆ ในบริเวณภาคตะวันออกและใต้ของเกาะไต้หวัน ขณะที่ UNI Air และ Mandarin Airlines ซึ่งเป็นสายการบินภายในประเทศหลักของไต้หวันได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดของวันนี้ เช่นเดียวกับบริการเรือข้ามฟากไปยังเกาะที่ตั้งอยู่รอบไต้หวันก็ถูกยกเลิกเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินระหว่างประเทศได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นไห่ขุยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกยกเลิกเพียง 37 เที่ยวบินเท่านั้นในวันนี้ ด้านกองทัพของไต้หวันได้สั่งระดมกำลังทหารและอุปกรณ์เพื่อเตรียมรับมือกับน้ำท่วมและการอพยพประชาชนเช่นกัน

พายุไต้ฝุ่นไห่ขุยมีความรุนแรงน้อยกว่าพายุไต้ฝุ่นเซาลาที่เพิ่งพัดถล่มเกาะฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีนอยู่มาก คาดว่าไต้ฝุ่นไห่ขุยจะเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 หรือ 2 เท่านั้นเมื่อพัดขึ้นฝั่งที่เกาะไต้หวันโดยไต้ฝุ่นไห่ขุยมีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ 137 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและมีลมกระโชกแรงสูงสุด 173 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หลังเคลื่อนตัวผ่านทางตอนใต้ของไต้หวันแล้ว มีการพยากรณ์ว่าพายุไต้ฝุ่นไห่ขุยจะเคลื่อนตัวข้ามช่องแคบไต้หวันและมุ่งหน้าไปทางประเทศจีนอีกด้วย

‘นิกกิ้ ณฉัตร’ ไม่สบายจนต้องแอดมิท นอนดูอาการที่ รพ. ด้าน ‘ก้อย’ ส่งกำลังใจ ชาวเน็ตชมมิตรภาพยังสวยงามเสมอ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 66 ทำเอาแฟนคลับและเพื่อนในวงการบันเทิง แห่ส่งกำลังใจให้นักแสดงหนุ่ม ‘นิกกี้ ณฉัตร’ หายป่วยไวๆ หลังจากที่เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ภาพตัวเองขณะไม่สบาย นอนอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมแคปชันว่า…

“มา MRI Scan ผลออกมาเเล้ว คุณหมอบอก ไม่เจอ ผมเลยถาม ไม่เจอเนื้องอก? หมอบอก ไม่เจอ สมองงง นั้นนน!!”

ซึ่งงานนี้ทางด้านนักแสดงสาว ‘ก้อย อรัชพร’ อดีตแฟนสาวก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “หาสักที หายไวๆ ค่ะ” ซึ่งหนุ่มนิกกี้ ก็ตอบกลับว่า “หายป่วย?” งานนี้ทำเอาแฟนคลับแห่ชมมิตรภาพ และความน่ารักของทั้งคู่กันอย่างล้มหลาม

เปิดประวัติ-ผลงานเด่น!!

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้มากความสามารถและประสบการณ์จากรัฐบาลบิ๊กตู่ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของผลงาน ชนะคดี ‘ค่าโง่ทางด่วน 6,200 ล้านบาท’ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบอร์ดบริหารแผนฟื้นฟู ‘การบินไทย’ ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง

และวันนี้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็ได้รับการยอมรับขึ้นแท่น สู่ว่าที่ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ใน ‘ครม.เศรษฐา ​1’

'ชัยธวัช' รับ 'ก้าวไกล' พร้อมดำเนินการสอบทางวินัยต่อไป หลังทราบอดีตผู้สมัคร สส.กก. ละเมิดฯ โฆษกหญิงพรรคหนึ่ง

จากกรณี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา โฆษกหญิงจากพรรคการเมืองหนึ่ง เผยแพร่รูปภาพถ้อยแถลงขอโทษ ของ นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ พรรคก้าวไกล ก่อนจะลบทิ้งในภายหลัง ซึ่งระบุไว้ว่า...

"เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 ผมได้ละเลยความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง และได้ละเมิดหลักการเรื่องความยินยอม (consent) จนทำลายความเชื่อใจและหวังดีของเธอ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ไม่ควรค่าแก่การให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นการกระทำอันร้ายแรงต่อจิตใจของเธอนั้น"

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ระบุว่า "ทีมผู้บริหารพรรคก้าวไกล เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว เมื่อไม่กี่วันก่อน ทางคณะกรรมการวินัยของพรรคจะรีบดำเนินการสอบทางวินัยต่อไป"

‘บก.ปอศ.’ บุกจับหนุ่มแสบ หลอกตุ๋นเหยื่อลงทุนหุ้น IPO  เสียหายกว่า 3.4 ลบ. เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

(3 ก.ย. 66) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.หญิง ปวีณวรรณ สินธุชัย สว.กก.๓ บก.ปอศ., ร.ต.อ.หญิง ศณิศา นนธ์พละ, ร.ต.อ.สุรพันธุ์ ตาขันทะ, ร.ต.อ.ศศิวิมล คำนาค รอง สว.กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ขวัญใจ ยิ่งเจริญ รอง สว.ฝอ.ฯ ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ชัยวิทย์ ศรจิตต์, ร.ต.ต.มีสิทธิ์ ม่วงไหมทอง รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล) โดยไม่ได้รับอนุญาต และฉ้อโกง”

โดยนายวรพจน์ ชักชวนให้กลุ่มผู้เสียหายบุคคลร่วมการลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือหุ้น IPO ซึ่งแอบอ้างถึงโควตาที่ได้รับจัดสรรก่อน (Pre IPO) ของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง โดยกระทำการผ่านตัว นายวรพจน์ เอง (ลักษณะเป็นการรับบริหารจัดการการลงทุนของบุคคลเป็นการเฉพาะ)

อ้างถึงผลกำไรที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน ซึ่งในการรับบริหารจัดการดังกล่าว ผู้ต้องหาจะได้รับค่าตอบแทนในอัตราร้อยละ 10 ของผลกำไรที่ได้ อีกทั้งยังอ้างถึงการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและเชื่อถือได้ และได้ร่วมลงทุนซื้อหุ้น IPO ผ่านผู้ต้องหา รวมมูลค่าความเสียหาย 3,497,442 บาท

ซึ่งชุดสืบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้ดำเนินตรวจสอบติดตามความเคลื่อนไหวผู้ต้องหารายดังกล่าว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในบริเวณหน้าชุมชนซอยสีคาม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

'อ.เทพมนตรี' ดึงสติ!! คนรักเจ้ามิใช่แค่เปล่งเสียงคำว่า "ทรงพระเจริญ" แต่จง 'รัก-สรรเสริญ' อย่างเข้าใจใน 'ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา-กาลเวลา'

(3 ก.ย. 66) อาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก 'Thepmontri Limpaphayorm' ว่า...

อยากบอกคนรักเจ้า ราชาธิปไตยที่มีพระราชภาระ

คนรักเจ้ามิใช่แค่เปล่งเสียงคำว่าทรงพระเจริญ แต่ต้องรักเจ้าบนพื้นฐานความเข้าใจทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมาของราชวงศ์ ทั้งขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณี ทั้งรัฐธรรมนูญ เลือดขัตติยะ และพระราชสถานะ กาลเวลาปัจจุบันสมัย

ใครที่รักเจ้าแค่เปล่งเสียงทรงพระเจริญแล้วมาอ้างสิทธิ์จะไม่เอาอย่างนั้น จะเอาอย่างนี้ พอเจ้าทำอะไรไม่พอใจก็ใช้สิทธิ์ อภิสิทธิ์ที่ได้เปล่งเสียงทรงพระเจริญมาด่าทอ ทำตัวสิ้นศรัทธา เขาไม่ได้เรียกว่า รักเจ้า

นอกจากนี้คนประเภทที่ว่าจัดอยู่พวกที่มิได้ศึกษาหาความรู้จริง แม้แต่รัฐธรรมนูญและพระราชอำนาจในรัฐธรรมนูญที่เจ้ามีอยู่อย่างจำกัด ก็ยังไม่พยายามทำความเข้าใจ หรือได้อ่านหรือเปล่าไม่ทราบ

นี่แหละคนรักเจ้าที่อ้างสิทธิ์ อภิสิทธิ์กัน แท้ที่จริงเขาไม่ได้รักเจ้าแต่รักตัวเอง โดยอ้างว่าเจ้าต้องมีความเป็นธรรม ต้องยุติธรรม ต้องเป็นแบบอย่าง

ถ้าเขาได้ศึกษาอย่างถ่องแท้แแล้ว เขาจะเข้าใจ ดูตัวอย่างในหลวงรัชกาลที่ 7 กับคณะราษฎร

เมื่อคณะราษฎรก่นด่าพระองค์ท่านชนิดป่าวประกาศไปทั่วขยายผลลงด่าในหนังสือพิมพ์ พระองค์ท่านก็มีวิริยะอุตสาหะที่จะอุเบกขา คนในคณะราษฎรก็ไม่เข้าใจว่าพระองค์ท่านทำไมทรงวางพระราชหฤทัยเช่นนั้น นั่นก็เป็นเพราะทรงมีพระราชภาระอันยิ่งใหญ่กว่าใครๆ การได้รับพระราชมรดกให้ดำรงสถานะเป็นพระมหากษัตริย์เหนือผู้คนทั้งผอง มันหนักหน่วงเสียยิ่งกว่า

คนทั่วไปจึงไปคิดแต่เพียงว่าพระองค์ท่านทรงร่ำรวยแต่เปล่าเลยนั่นน่ะเป็นพระราชภาระ ลดลงไม่ได้ สูงกว่าไม่ได้

เมื่อมีสายพระโลหิตเป็นเลือดขัตติยะ จำต้องคำนึงถึงบ้านเมืองประเทศชาติ และความรักที่มีต่อพสกนิกรเสียยิ่งกว่าใครๆ

พระมหากษัตริย์ที่รับพระราชมรดกต้องรักษาพระราชวงศ์ ต้องรักษาซึ่งปฐมบรมราชโองการที่ตกทอดกันมาตั้งแต่รัชกาลต้น

การทำให้ราชวงศ์และพระนครล่มสลายเป็นตราบาปที่ไม่มีสิ่งใดมาลบล้างออกไปได้ เช่นเดียวกันกับกรณีกรมขุนอนุรักษ์มนตรี หรือพระเจ้าเอกทัศ ที่คนไทยยังจดจำว่าเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์อยุธยา ที่ทำให้ราชวงศ์ล่ม อยุธยาแตกพ่าย

จนพวกเราจำกันจนถึงทุกวันนี้และตราบนานเท่านาน…

ดังนั้นการรักเจ้า มิใช่เพียงแค่เปล่งเสียงทรงพระเจริญเท่านั้น เพราะพวกล้มเจ้าหรือคิดร้ายต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ก็เปล่งเสียงทรงพระเจริญเช่นกัน บางคนอาจเปล่งเสียงทรงพระเจริญอยู่บ่อยด้วยซ้ำ

คนรักเจ้าที่แท้จริงต้องทำความเข้าใจ ต้องรู้จักวางใจตนเอง เมื่อรักเจ้าจริงๆ ก็ต้องรักด้วยหัวใจ ต้องเข้าใจพระราชหฤทัยของเจ้าที่มีพระราชภาระอันหนักหน่วงดังที่ว่ามา

เปิดมุมน่าคิด ธุรกิจที่สำเร็จส่วนใหญ่ มักจะมีโชคช่วย แต่หากไม่ทำงานหนัก โชคเหล่านั้นก็จะไม่มาหา

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @ckfastwork หรือ ‘CK Cheong’ CEO แห่งบริษัท Fastwork.co ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับธุรกิจจะสามารถสําเร็จได้ ต้องพึ่งโชคอย่างเดียวหรือเปล่า โดยระบุว่า…

“ถูกส่วนหนึ่งครับ…ธุรกิจที่สําเร็จมักจะมีโชค แต่ถ้าคุณไม่ทำงานหนักก็จะไม่มีโชค เนื่องจากโชคมันเกิดขึ้นสําหรับคนที่พร้อมทุกวัน หากนอนดู Netflix ทั้งวันก็คงไม่มีโชคมาหรอกครับ…คนที่โชคดีคือคนที่ออกไปตามหามันทุกวัน ทํางานเหนื่อยมากๆ ทุกวัน 4-8 ปี ทุกวันทําเหมือนเดิม สักวันหนึ่งใน 5-6 ปีนั้นก็จะมีโชคดีเข้ามา”

“แต่ถ้าคุณไม่ตื่นมาตามหามันทุกวัน หรืออาจตามหาบ้าง ไม่ตามหาบ้าง ชิลบ้าง พักผ่อนบ้าง โชคก็ไม่มาหรอกครับ…โชคไม่ลอยมาจากท้องฟ้า เรายังต้องไปตามหามัน โชคมันมีกับทุกคน และเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่เรายังคงต้องออกไปตามหามันอยู่”

“โชคก็เหมือนกับ ‘โปเกมอน’ เรายังต้องตามหา เพราะมันไม่เดินเข้ามาหาเรา ดังนั้น 'โชค' คือสําหรับคนที่พร้อมในการตามหาทุกวัน แต่ก็ถูกครับ…ธุรกิจที่สําเร็จได้ก็ต้องมีโชค”

‘โครงการจ้างวานข้า’ โอกาสสร้างงาน-รายได้ของ ‘คนไร้บ้าน’ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างชีวิตใหม่ด้วยอาชีพที่สุจริต

(3 ก.ย. 66) ถ้าใครติดตามมูลนิธิกระจกเงาจะเห็นโครงการ ‘จ้างวานข้า’ ที่พยายามสร้างแนวร่วมเติมเต็มการแก้ปัญหาคนไร้บ้าน คนจนเมือง ที่นอกเหนือจากการนำอาหารมาแจกหรือมอบความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่เน้นสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนเหล่านี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสำหรับตัวเองและครอบครัว สร้างคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่สามารถรับผิดชอบดูแลตัวเองด้วยการมีอาชีพ

โครงการจ้างวานข้าเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไร้บ้านดีขึ้น ไปไกลถึงปรับเปลี่ยนจากคนไร้บ้านเป็นคนมีบ้านมีที่อยู่ที่มั่นคงขึ้น เริ่มต้นหลังจากโควิด ที่ส่งผลให้จำนวนคนไร้บ้านเพิ่มขึ้น  มีปัญหาคนที่ออกมาเป็นคนไร้บ้านหน้าใหม่ ด้วยแนวความคิดว่า การสร้างงานเป็นเครื่องมือที่ดี

เบญจมาศ พางาม เจ้าหน้าโครงการจ้างวานข้า มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงที่มาและทิศทางในการผลักดันแก้ปัญหาคนไร้บ้านให้เกิดความยั่งยืนว่า มูลนิธิอยากแก้ปัญหานี้จึงเปิดพื้นที่ให้คนไร้บ้านและคนจนเมือง รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวอยู่ห้องเช่าราคาถูก ซึ่งพร้อมหลุดออกมาใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะแบบคนไร้บ้าน เพราะอยู่ด้วยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท ไม่มีรายได้พอ โดยโครงการ ‘จ้างวานข้า’ จะทำให้พวกเขามีรายได้ เริ่มแรกปี 63 หาสมาชิกเข้าโครงการจากจุดแจกอาหารฟรีสภาสังคมสงเคราะห์ ใครกำลังหางานให้มาสมัครลงทะเบียนกับมูลนิธิฯ จากแรกเริ่มมี 20 คน เราทำงานต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกอยู่ที่ 150 คน สัดส่วนร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุ ที่เหลือเป็นคนไร้บ้านอายุ 40-50 ปี

งานที่มูลนิธิฯ ให้ทำมีหลายรูปแบบ เป็นกลุ่มคนไร้บ้านที่ทำงานร่วมกับสำนักงานเขต 16 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปรับงานทำความสะอาดเมือง เช็ดล้างสะพานลอย ตัดแต่งกิ่งไม้ ไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่สาธารณะ งานคัดแยกขยะ ร่วมกับพนักงานรักษาความสะอาด พนักงานกวาดถนน กทม.ส่งมอบความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุง บางคนมีศักยภาพ เคยเป็นช่างไม้ ช่างไฟฟ้า ช่างคอมพิวเตอร์ หรือเคยทำงานเป็นแม่บ้านสามารถพัฒนาฝีมือต่อได้  เรานำเข้ามาทำงานในมูลนิธิฯ เพื่อให้ได้ใช้ทักษะนั้น

ส่วนอีกรูปแบบจะเป็นการทำความสะอาดในบ้าน กลุ่มจ้างวานข้ารับเคลียร์ของในบ้าน ในตึกแถวที่เจ้าของบ้านไม่ต้องการแล้ว ของที่ไม่ใช้มูลนิธินำไปส่งต่อหรือเป็นขยะเชื้อเพลิง ไม่ได้ทิ้งกองขยะข้างทาง ทั้งยังเกิดการต่อยอดเป็นโครงการ ‘ชรารีไซเคิล’ กลุ่มคนไร้บ้านสูงวัยจะทำการคัดแยกขยะพลาสติก อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด เพื่อนำมาสู่กระบวนการรีไซเคิล งานคัดแยกขยะเหมาะกับผู้สูงอายุ ไม่ต้องใช้แรงเยอะเท่ากับงานจ้างวานข้า ไม่ต้องทำงานในพื้นที่สาธารณะ แต่ก็สามารถหารายได้ มีเงินสะสม เลี้ยงดูตัวเอง

“คนไร้บ้าน ผู้สูงอายุจะได้รับรายได้ ค่าจ้างเป็นวัน ถ้าทำงานในพื้นที่สาธารณะ ตั้งแต่เวลา  8.00-12.00 น. คนละ 400 บาท ถ้าทำงานกับทางมูลนิธิฯ ตั้งแต่เวลา  9.00-16.00 น. คนละ 500 บาท ส่วนแม่บ้านทำความสะอาดมีเงื่อนไขต้องจ้างงาน 3 ชั่วโมงขึ้นไป ชั่วโมงละ 250 บาทต่อคน เราส่งเสริมให้พวกเขามีงานทำอย่างต่อเนื่อง อยากให้มีรายได้ดูแลตัวเอง และหลายคนต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวด้วย” เบญจมาศ กล่าว

จากแพลตฟอร์ม ‘จ้างวานข้า’ มีภาคเอกชนที่เห็นประโยชน์ของโครงการสร้างงาน สร้างโอกาส เกิดความร่วมมือระหว่าง Q-CHANG (คิวช่าง) กับมูลนิธิกระจกเงา ด้วยการว่าจ้างกลุ่มช่างที่เป็นคนไร้บ้านที่พอมีทักษะอาชีพช่าง หรือว่า ‘ช้าการช่าง’ ในโครงการจ้างวานข้าของมูลนิธิฯ มาทาสีศูนย์ฝึกอบรม Q-CHANG ACADEMY รวมถึงเปิดโอกาสให้ช่างของทางมูลนิธิเข้ามาอบรมในศูนย์ฯ ฟรี เพื่อ Reskill ให้แก่กลุ่มช่างสูงอายุ คนไร้บ้าน คนยากจน และนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดอาชีพช่างเพื่อชีวิตทุกวันช่างง่าย” ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของช่างให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังได้นำกลุ่มช่างสูงอายุ คนไร้บ้าน กลับคืนสู่ตลาดแรงงานเพื่อสร้างรายได้ เป็นตัวอย่างการคอลแลบที่ดี จนคว้ารางวัลความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Excellence Awards หรือ CE Awards) ประจำปี 2566 จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สาขา Creative Business Awards ประเภท Cross-Sector Collaboration Awards

เบญจมาศ บอกถึงโมเดล ‘ช้าการช่าง’ เป็นกลุ่มช่างสูงอายุคนไร้บ้านรับงานทาสีอย่างเดียวในเบื้องต้น เป็นพื้นที่รวบรวมแหล่งจ้างงานสำหรับคนสูงวัยให้สามารถมีรายได้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อนาคตต่อไปอาจขยับขยายในงานช่างประเภทอื่นๆ เช่น งานปูน งานซ่อมแซม งานตกแต่ง ก่อกระเบื้อง ปูกระเบื้อง ไปจนถึงช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างล้างแอร์ แต่ไม่ได้รับงานใหญ่ เป็นงานตามบ้าน เพราะกลุ่มผู้เปราะบางผู้สูงอายุมีเงื่อนไขกว่าที่มากกว่าคนทั่วไป ช้า การช่าง มาจากแนวคิด ประกอบด้วย ช้า สื่อถึง ผู้สูงอายุ ถ้างานร้อน งานเร่ง อาจไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าซ่อมแซมทาสีปกติ จ้างแรงงานช้าการช่างได้เลย คนไร้บ้านต้องการการสนับสนุนจากสังคม

“เรายังมีโปรแกรมจากคนไร้บ้านสู่มีบ้าน มูลนิธิฯ จะหาห้องเช่า ช่วยสนับสนุนค่าเช่าเดือนแรก ค่ามัดจำให้ จากนั้นคนไร้บ้านต้องรับผิดชอบดูแลค่าเช่าเอง ปัจจุบันมีคนเปลี่ยนผ่านแล้ว 60 คน   พวกเขาได้มีห้องอยู่ ไม่ต้องนอนข้างถนนเหมือนแต่ก่อน มีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น” เบญจมาศ กล่าว

อนาคตเธอระบุว่า อยากเห็นการเติบโตของทุกโครงการทั้งจ้างวานข้า, ชรารีไซเคิล, ช้าการช่าง ที่ขยายขึ้น สามารถรองรับผู้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น อยากให้คนไทยสนับสนุนเกื้อกูลการจ้างงานคนไร้บ้าน เพื่อให้กลุ่มจ้างวานข้าได้งานทำ ได้พัฒนาตัวเอง และมีรายได้ เพื่อใช้ชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น เราจะสร้างความตระหนักให้สังคมเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ไร้บ้าน นำกลุ่มผู้ไร้บ้านให้กลับเข้ามาอยู่ในการคุ้มครองของมูลนิธิฯ

อดีตชายไร้บ้านเปิดใจผ่านเพจจ้างวานข้า ข้อความว่า “คุณรู้ไหม ผมโชคดีมากนะที่ได้ห้องเช่า ช่วงนี้พายุเข้าพอดี ไม่งั้นต้องไปหลบหาที่นอนแบบชื้นๆ นอนเบียดกับคนอื่น โคตรลำบากเลย” เป็นหนึ่งในคนไร้บ้านที่ได้ห้องเช่า ได้ชีวิตใหม่

สนใจให้การสนับสนุนจ้างวานข้าได้ที่โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา เลขที่บัญชี 202-2-58289-4 ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแจ้งพื้นที่ให้กลุ่มจ้างวานข้า ไปทำความสะอาด ได้ที่ Facebook มูลนิธิกระจกเงา หรือ จ้างวานข้า

‘คุณหญิงแมงมุม’ ฮึดสู้!! ลุกจากเตียง เริ่มทำกายภาพบำบัด โซเชียลแห่ส่งกำลังใจ พร้อมบอก “ดีใจที่ได้เห็นภาพนี้”

(3 ก.ย. 66) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หลายคนส่งกำลังใจให้อยู่ตลอด สำหรับ ‘คุณหญิงแมงมุม’ หรือ ‘ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล’ หลังป่วยหนักมานานหลายปี ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ และต้องอยู่บนเตียงรถเข็นตลอด โดยมีคุณสามี ‘นายพลดอลล่าร์’ คอยดูแลอยู่เคียงข้างอย่างใกล้ชิดไม่ขาดตกบกพร่อง

โดยล่าสุด ‘นายพลดอลล่าร์’ ก็ได้เผยภาพล่าสุดของ ‘คุณหญิงแมงมุม’ ขณะทำกายภาพบำบัด โดยได้ลุกขึ้นจากเตียงแล้ว และยังได้ออกกำลังกายด้วยจักรยานปั่นมือ พร้อมกับระบุแคปชันว่า "No pain, no gain"

ทั้งนี้ หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็ได้มีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้ทั้งคู่ มีคนที่บอกว่า "เห็นลุกได้ พี่ดีใจ" และมีคนเข้ามาชื่นชมคุณหญิงแมงมุมว่าเก่งมากๆ ขอให้สู้ๆ และแข็งแรงขึ้นไวๆ อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top