Sunday, 25 May 2025
NewsFeed

‘บึงโขงหลง’ ทัวร์ท้องถิ่นวิถีชาวบ้าน ตอบโจทย์ ‘สายกรีน-สายมู’ พาล่องเรือชมธรรมชาติ พร้อมเยือนถ้ำนาคา กราบ ‘พ่อปู่อือลือ’ 

ผืนน้ำกว้างใหญ่ขนาด 13,800 ไร่ ที่ปรากฏเกาะเล็กๆ 3 เกาะ นี่คือเอกลักษณ์ของ ‘บึงโขงหลง’ จังหวัดบึงกาฬ พื้นที่ที่สำคัญทั้งในแง่มุมธรรมชาติทรัพยากร รวมไปถึงความเชื่อและแรงศรัทธา ที่นำพาคนจากทั่วประเทศให้เข้ามาเยี่ยมเยือนตลอดปี

ตลอดริมบึงโขงหลง เราจะพบป้ายทางเข้าท่าเรือที่ตั้งติดๆ กัน บางป้ายโฆษณาแผนการท่องเที่ยวไว้ให้พร้อม ทั้งเรื่องการรับทำพิธีบวงสรวง บายศรี หรือบริการเรือนำเที่ยวครบวงจร

“พื้นที่บึงโขงหลงถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของชาวบ้านที่นี่ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและการประมงด้วย” อาร์ท สุรัก แหลมจันทึก ประชาสัมพันธ์สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวบึงโขงหลง และเจ้าของเพจที่นี่บึงโขงหลง คลุกคลีกับชาวบ้านในพื้นที่และรู้จักเรื่องราวต่างๆ ของบึงโขงหลงเป็นอย่างดี จะนำพาเราท่องเที่ยวในมุมมองที่ลึกมากกว่าเดิม

“ปกติจะมีนักท่องเที่ยวมานั่งเรือข้ามไปเกาะดอนโพธิ์เพื่อไปไหว้ปู่อือลือตลอดครับ ยิ่งวันหยุดคนก็ยิ่งเยอะครับ” คำบอกเล่าของ สิงโต ด.ช.ถนอมชัย เมฆคูณ หลานชายเจ้าของท่าเรือแม่กำนัน ซึ่งจะเป็นลูกทัวร์ไปเที่ยวพร้อมกับเราในวันนี้ด้วย

เริ่มต้นทริปด้วยการนั่งเรือชมธรรมชาติบึงโขงหลง สายตาที่ทอดยาวออกไปพบความเขียวชอุ่มตลอดริมบึง บนผิวน้ำปรากฏกลุ่มบัวแดงชูดอกชมพู เห็นความสดใสยามเช้าแสนสดชื่น มีนกอีโก้งตัวใหญ่ เดินบ้าง วิ่งบ้าง บนพืชน้ำที่แผ่คลุมผิวน้ำเอาไว้ เป็นธรรมชาติที่งดงามจนไม่แปลกใจเลยที่บึงโขงหลงแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกอันดับที่ 1,098 และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ

นอกจากธรรมชาติที่พบเจอตลอดทางที่เรือแล่นไป เราจะเห็นวิถีของชาวบ้านที่ออกเรือกู้มอง ใส่กุ้ง เป็นวิถียามเช้าที่หาเลี้ยงปากท้องของชาวบ้านมานานและยังคงดำเนินไปอย่างดี ไร้ปัญหาทรัพยากรเสื่อมโทรม เพราะชาวบ้านรักและดูแลบึงโขงหลงแห่งนี้อย่างดีเสมอมา

หลังจากวนรอบเกาะพบธรรมชาติที่ชวนทึ่งก็จบทริปล่องเรือที่เกาะดอนโพธิ์ เกาะแห่งตำนานเจ้าปู่อือลือที่ชาวบ้านศรัทธาและมีผู้คนจากทั่วไทยหลั่งใหลเข้ามาตลอดไม่เว้นวัน

บางคนนำของบวงสรวงมาไหว้ ทั้งผลไม้หลากสี บายศรียิ่งใหญ่อลังการ รวมไปถึงคณะรำบวงสรวง ซึ่งทำให้เกาะดอนโพธิ์แห่งนี้ทั้งครึกครื้นและมีสีสัน ชวนให้หลงเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก “หลายคนมาบวงสรวงขอให้ธุรกิจสำเร็จ บางคนก็มาบวงสรวงเพราะขอแล้วสำเร็จก็มีครับ” สิงโตเล่าเพิ่ม

“เกาะในบึงโขงหลงทั้ง 3 เกาะ คือดอนโพธิ์ ดอนแก้ว และดอนสวรรค์ เป็นส่วนหนึ่งของตำนานเจ้าปู่อือลือที่เชื่อกันว่าเมื่ออดีตที่เจ้าปู่อือลือเป็นเจ้าเมืองเมืองรัตพานคร มีเรื่องทำให้เกิดการสู้รบกับพญานาคราช พญานาคราชถล่มเมืองรัตพานครจนกลายเป็นบึงโขงหลง ซึ่งเมื่อก่อนพื้นที่นี้เรียกว่าบึงของหลง หมายถึงสมบัติต่างๆ ของเมืองรัตพานครกระจัดกระจายในบึงนี้จนหลง หาไม่เจอ แต่เพี้ยนคำมาเรื่อยๆ กลายเป็นบึงโขงหลงในปัจจุบัน”

“ส่วนเจ้าปู่อือลือถูกพญานาคราชสาปให้เฝ้าบึงโขงหลงแห่งนี้ไว้ ความเชื่อและตำนานนี้จึงเกี่ยวโยงสัมพันธ์กับบึงโขงหลง ทำให้แรงศรัทธาของชาวบ้านค่อนข้างเข้มแข็งและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือน” อาร์ทประชาสัมพันธ์เรื่องราวบึงโขงหลงอย่างน่าสนใจ

‘Apple’ ประกาศเปลี่ยนที่ชาร์จ จาก Lightning เป็น USB-C เริ่มต้นที่ ‘ไอโฟน 15’ ที่คาดว่าจะเปิดตัว เที่ยงคืน 13 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 ค่ายแอปเปิล (Apple) ได้ออกมายืนยันการจัดงานอีเวนต์เปิดตัวไลน์อัปผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันที่ 12 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่ สตีฟ จ็อบส์ เธียร์เตอร์ ในสำนักงานแอปเปิลพาร์ค ซึ่งตรงกับเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 13 ก.ย. (คืนวันที่ 12) ตามเวลาไทย ด้วยการส่งการ์ดเชิญไปยังสื่อทั่วโลกให้เดินทางไปร่วมงานเปิดตัว

ไฮไลต์ของงานอยู่ที่การเปิดตัวไอโฟน 15 ซีรีส์ (iPhone15) ซึ่งมีกระแสข่าวลือทางสื่อออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมี 4 รุ่นย่อยด้วยกัน iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ซึ่งเป็นตัวท็อป โดยครั้งนี้คาดหมายกันว่ารุ่นนี้อาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น iPhone 15 Ultra

สรุปข่าวลือทั้งหมดก่อนการเปิดตัวสเปก iPhone 15 จอ 6.1 นิ้ว iPhone 15 Plus จอ 6.7 นิ้ว ทั้งสองรุ่นใช้ชิป A16 Bionic สำหรับ iPhone 15 Pro จอ 6.1 นิ้ว iPhone 15 Pro Max จอ 6.7 นิ้ว ทั้งสองรุ่นใช้ชิป A17 Bionic อัปเกรดกล้องหลักทั้งหมด 48 ล้านพิกเซล แบตใช้งานยาวนานขึ้นและรองรับ Dynamic Island ทุกรุ่น

รวมทั้งการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แทนที่พอร์ต Lightning แต่ความเร็วในการโอนข้อมูลจะต่างกันโดยรุ่น Pro จะมีความเร็วเทียบเท่า USB 3.2 ส่วน iPhone 15 และ iPhone 15 plus จะเทียบเท่า USB 2.0

‘หมิง ชิ กัว’ นักวิเคราะห์จาก TF Interna tional Securities ระบุว่า iPhone 15 Pro Max อาจเป็นรุ่นเดียวที่มีกล้อง Periscope ที่มีเลนเทเลสำหรับซูมแบบออปติคอลได้ไกล 6 เท่า ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่ารุ่นเดิม 100-200 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่คาดว่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดถึง 35-40% ของ iPhone 15 ซีรีส์

ขณะเดียวกัน มีข่าวด้วยว่านอกจากเลนเทเลแล้ว การออกแบบจะเปลี่ยนวัสดุกรอบเป็นไทเทเนียม จากสเตนเลส โดยก่อนหน้านี้ การผลิต iPhone 15 ซีรีส์มีปัญหาการขาดแคลนเซ็นเซอร์ภาพ CMOS แม้จะแก้ไขด้วยการแบ่งการผลิตให้ซัพพลายเออร์ไปแล้ว แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ประมาณ 10-15%

สำหรับความท้าทายในการผลิตกรอบไทเทเนียมคือการประมวลผลได้ยากและการออกแบบมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากแต่ได้รับการแก้ไขแล้วเช่นกัน จะทำให้มีน้ำหนักเบาลงและมีความแข็งแกร่ง โดย iPhone 15 Pro มีน้ำหนัก 191 กรัม เบากว่า iPhone 14 Pro ที่มีน้ำหนัก 203 กรัม iPhone 15 Pro Max หนัก 221 กรัม เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Pro Max หนัก 240 กรัม

เว็บไซต์ iclarified.com ได้เผยแพร่เครื่องดัมมี่หรือเครื่องจำลองโดยระบุว่าจากการเปิดเผยของ Sonny Dickson ที่ทำการทวีตใน X ไปก่อนหน้า โดยเขาได้แชร์รูปภาพที่ดูคล้ายจะเป็น iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะมีสีฟ้าอ่อน, ดำ, เขียว, ชมพู และสีเหลือง ขณะที่เว็บดังกล่าวได้ระบุว่า iPhone 15 Pro จะมี 4 สีคือ สีน้ำเงิน, ดำ, เทาและสีเงิน

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คาดจะมีการเปิดตัวในวันดังกล่าวประกอบด้วย Apple Watch ซีรีส์ 9 Apple Watch Ultra รุ่นที่ 2 iPad รุ่นที่ 9 AirPods Pro พอร์ต USB-C แต่รอดูวันเปิดตัวว่าจะเป็นไปตามนี้หรือไม่ ทีมข่าวไซเบอร์เน็ตจะร่วมเดินทางไปเกาะติดการเปิดตัว iPhone 15 ซีรีส์อย่างใกล้ชิดและนำมารายงานอย่างละเอียดต่อไป

เปิดไทม์ไลน์ คณะรัฐมนตรี ‘เศรษฐา 1’ ทำงานเดือนแรก (ก.ย.)

คนไทยทั้งประเทศ เพิ่งได้ทราบชื่อและเห็นหน้าตา คณะรัฐมนตรี ‘เศรษฐา 1’ ทั้ง 34 คนไปแล้ว โดยในวันที่ 5 ก.ย. 66 จะเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และเตรียมประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกวันที่ 12 ก.ย.นี้
 

‘โปรพราว’ ผงาดแชมป์ ‘พอร์ตแลนด์ คลาสสิก 2023’ ในวัย 19 ปี จารึกชื่อก้านเหล็กสาวไทยรายที่ 7 คว้าถ้วยแอลพีจีเอมาครอง

การแข่งขันกอล์ฟ ระดับแอลพีจีเอทัวร์ รายการ ‘พอร์ตแลนด์ คลาสสิก’ ที่โคลัมเบีย เอดจ์วอเตอร์ คันทรี คลับ เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในวันสุดท้าย

ปรากฎว่า ‘โปรพราว’ ชเนตตี วรรณแสน ก้านเหล็กสาวดาวรุ่งจากไทยที่เพิ่งเริ่มเทิร์นโปรในปีนี้เป็นปีแรก ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กวาดเพิ่ม 9 อันเดอร์พาร์ รวมสกอร์ 4 วัน 26 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ไปครอง ทิ้งอันดับ 2 อย่าง หลิน ซีหยู จากจีน 4 สโตรก รับเงินรางวัลไปนอนกอด 225,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.9 ล้านบาท

จากการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ทำให้ ชเนตตี วรรณแสน ในวัย 19 ปี สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 3 ของแอลพีจีเอทัวร์ ที่ผ่านรอบควอลิฟาย และสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งยังทำให้เธอกลายเป็นโปรกอล์ฟอายุน้อยสุดอันดับ 2 ที่ได้แชมป์ในปี 2023 ต่อจาก อเล็กซา ปาโน โปรกอล์ฟอเมริกัน

ขณะเดียวกัน ‘โปรพราว’ กลายเป็นก้านเหล็กหญิงจากไทยคนที่ 7 ที่สามารถคว้าแชมป์กอล์ฟระดับแอลพีจีเอมาครอง ต่อจาก เอรียา จุฑานุกาล, โมรียา จุฑานุกาล, ธิฎาภา สุวรรณปุระ, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, ปภังกร ธวัชธนกิจ และอาฒยา ฐิติกุล

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟสาวจากไทยคนอื่น ๆ ในรายการนี้ เอรียา จุฑานุกาล จบ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 7 ร่วม เช่นเดียวกับ อาฒยา ฐิติกุล รับเงินรางวัล 38,536 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท, ปวริศา ยกทวน จบ 14 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 18 ร่วม รับเงิน 18,333 เหรียญสหรัฐฯ

ด้าน ธิฎาภา สุวรรณปุระ จบ 13 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 21 ร่วม รับเงิน 15,840 เหรียญสหรัฐฯ, พรอนงค์ เพชรล้ำ จบ 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 34 ร่วม รับเงิน 9,075 เหรียญสหรัฐฯ, โมรียา จุฑานุกาล จบ 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 45 ร่วม รับเงิน 6,183 เหรียญสหรัฐฯ และ ปภังกร ธวัชธนกิจ จบ 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 49 ร่วม รับเงิน 5,319 เหรียญสหรัฐฯ

‘อ.ธรณ์’ ฝากรัฐบาลใหม่ใส่ใจท้องทะเลไทย 7 เรื่อง หวังทำผลงานเกรด A ให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีโลก

(4 ก.ย. 66) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ฝากถึงรัฐบาลใหม่ ในประเด็นการทำงานกับทะเลไทย โดยมีเนื้อหาต่อไปนี้

รัฐบาลใหม่เข้าทำงาน จึงขอเสนอ 7 ประเด็นใหญ่ในทะเลไทยให้เพื่อนธรณ์ลองคิดตาม

หนึ่ง คือปะการังฟอกขาวที่อาจแรงในต้นปีหน้า ต้องเร่งเตรียมพร้อมสำรวจติดตามและออกมาตรการให้ทันท่วงที รวมถึงมีทางเลือกหากจำเป็นต้องปิดท่องเที่ยวในแนวปะการังบางแห่งที่ฟอกขาวรุนแรง

สอง คือปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี (น้ำเขียว) ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลกระทบต่อพี่น้องชายฝั่งทะเล เราต้องหายกระดับการเก็บข้อมูลเพื่อการเตือนภัย รวมถึงหาแนวทางในการแก้ต้นเหตุที่เกิดจากมนุษย์

สาม คือการส่งเสริมสนับสนุนระบบนิเวศทางทะเลเพื่อดูดซับ/กักเก็บคาร์บอน เป็นประเด็นใหม่และละเอียดอ่อน ต้องทำความเข้าใจให้ดีและมีมาตรฐานที่ยอมรับได้ รวมถึงกระจายการมีส่วนร่วมไปหาชุมชนให้มากที่สุด

สี่ คือการใช้เทคโนโลยีและแนวทางใหม่ ๆ ในการสำรวจติดตาม ลาดตระเวนปกป้องธรรมชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ เช่น Smart Patrol ทั้งในทะเลและบนบก

ห้า คือความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะสัตว์ทะเลหายาก เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกฎกติกาของโลกในการส่งออกสินค้าประมง อีกทั้งยังเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ เช่น โลมา/สะพานทะเลสาบสงขลา

หก คือการสนับสนุนอันดามันมรดกโลก ติดค้างมาเกือบ 20 ปี ตอนนี้ต้นเรื่องเข้าไปที่ยูเนสโกแล้ว รอแค่เขามาเช็ค เราเตรียมพร้อมแค่ไหน

นี่จะเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญ และจะเกี่ยวข้องตรง ๆ กับการท่องเที่ยวที่รัฐบาลตั้งเป้าจะยกระดับเพื่อหารายได้เข้าประเทศ

เจ็ด คือโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่าง ๆ ที่เราคิดจะลงทุน ผลกระทบจะมีมากไหม ? คุ้มค่าหรือเปล่า ? เป็นเรื่องที่ต้องมีข้อมูลเพียงพอและใช้เหตุผลในการตัดสินใจ

ยังมีอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ขอเน้นย้ำไว้แค่ 7 เรื่องใหญ่ไว้ก่อน

2 ผลงานที่ชี้วัดในระยะ 3-6 เดือนคือบทบาทของไทยในการประชุมโลกร้อน COP28 ธันวาคมปีนี้ และการรับมือเอลนีโญที่มาแล้วและจะแรงขึ้นไปจนถึงสิ้นปี/ปีหน้า

ผมไม่ทราบว่าเขาตัดเกรดกระทรวงกันตรงไหน ? แต่ถ้าวัดจากประเด็นที่ทั่วโลกพูดกันในตอนนี้ นี่คือกระทรวงเกรด A แน่นอน

จึงอยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่เข้ามารับงานดูแลทรัพยากร/สิ่งแวดล้อมของประเทศชาติ เพื่อทำผลงานเกรด A ครับ

‘กองทุนดีอี’ ติดตามโครงการ Ai ลงรหัสโรค พบเพิ่มประสิทธิภาพเวชระเบียนได้ถูกต้อง – สมบูรณ์

กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ติดตามผลการดำเนินงานในโครงการการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยลงรหัสโรคทางการแพทย์ ของ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนฯ ในปีประกาศ พ.ศ. 2564 ตามมาตรา 26(1)

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 กองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำโดยคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลโครงการ ผู้แทนจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโครงการ และเจ้าหน้ากลุ่มติดตามและประเมินผล ได้ลงพื้นที่ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน โครงการการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการช่วยลงรหัสโรคทางการแพทย์ ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

โครงการมีวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาโปรแกรมต้นแบบสนับสนุนการใส่รหัสโรคด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความถูกต้องของการใส่รหัสโรคให้แก่ภาควิชาศัลยศาสตร์ และสามารถนำโปรแกรมต้นแบบไปพัฒนาต่อเพื่อใช้ในระดับโรงพยาบาลและสาธารณสุขของประเทศต่อไป

โดยมีผลการดำเนินโครงการในการพัฒนาต้นแบบสนับสนุนการใส่รหัสโรคด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำงานร่วมกับนักลงรหัสโรคได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จากการทดลองใช้งานระบบทดสอบกับเวชระเบียนจากภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สามารถแนะนำการให้รหัสโรค (ICD-10) และรหัสหัตถการ (ICD-9) ในกระบวนการทำงานของนักวิชาการเวชสถิติผู้ให้รหัส (Coder) แพทย์ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานต่อจำนวนเวชระเบียนได้อย่างมาก รวมถึงการแนะนำรหัสที่มีความครบถ้วนและสมบูรณ์ตามข้อกำหนดของ สปสช.

โครงการภายใต้การพัฒนา นำโดยคณะแพทย์ จากภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ นักพัฒนาระบบ จากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศฯ มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และคณะที่ปรึกษาจาก สปสช.
 

‘ชาวเน็ต’ จวก!! ‘เพลงถ้าไม่รักจะปล้ำ’ เนื้อหาคุกคามทางเพศ ด้าน ‘นาย คอมเมเดี้ยน’ ไม่สะท้าน ถามกลับ “ดรามา จริงดิ?”

ทำเอาโซเชียลวิจารณ์สนั่น กับเพลง ‘ถ้าไม่รักจะปล้ำ’ ของตลกดัง ‘นาย คอมเมเดี้ยน’ และ ‘วงวันดรีม’ ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมและไม่สร้างสรรค์ แถมยังส่อไปในทางคุกคามทางเพศ อย่างท่อนที่ว่า ‘ถ้าน้องไม่รักระวังโดนปล้ำ’ โดยชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งใน ยูทูบ ติ๊กต็อก และทวิตเตอร์ (X) อาทิ นี่มันยุคไหนแล้ว ทำไมยังมีคนทำเพลง ทำคอนเทนต์แบบนี้อีก ทั้งที่เขารณรงค์เรื่องนี้กันอยู่, ลองนึกว่าคุณมีลูกสาว แล้วเด็กวัยรุ่นแถวบ้านมาชอบลูกคุณ แต่ลูกคุณไม่เล่นด้วย แล้วเขาเลยส่งเพลงนี้มาให้อ่ะ คุณคิดว่าเขาสื่อถึงอะไร, เนื้อเพลงนี้กลั่นออกมาจากสมองแล้วจริงดิ? เป็นต้น

แต่งานนี้ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังไม่สะทกสะท้าน เพราะได้แคปข้อความท้วงติงต่าง ๆ มาลงต่อ และใส่ข้อความว่า “คืออะไรครับเนี่ย” ก่อนจะใส่แคปชั่น “ไปกันใหญ่แล้วเด้อ” พร้อมใส่แฮชแท็กชื่อเพลงละชื่อวงตามปกติ ก็เลยโดนทัวร์ลงยับอีกรอบ ว่าเตือนขนาดนี้แล้วยังคิดไม่ได้อีกเหรอ จนล่าสุดโพสต์ดังกล่าว…ได้หายไปจากติ๊กต็อกของเจ้าตัวแล้ว

โดยเพลงนี้ได้ปล่อยออกมาเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่กลับมีเป็นประเด็นอีกรอบ เพราะว่ามีการทำชาเลนจ์ในติ๊กต็อก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็มาคนเข้าไปท้วงอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข แถมยังแคปคอมเมนต์ที่บอกว่า “ในขณะที่ในประเทศ มีคดีแนวนี้เยอะเป็นว่าเล่น แต่คุณกลับเอามาทำเพลง รอเลยครับเพลงเป็นกระแส น่าจะมีข่าวแน่ๆ” มาลงพร้อมใส่ข้อความว่า “ดรามา…จริงดิ…เพลงนี้อะนะ”

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีชาวเน็ตบางส่วน ที่เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แถมมองว่าเป็นสื่อเพื่อความบันเทิงอย่าคิดเยอะ ถ้าฟังแล้วไปก่อคดีก็อยู่ที่ตัวบุคคลแล้วแหละ ซึ่งเจ้าตัวก็เข้าไปตอบกลับคอมเมนต์นั้นๆ ด้วยอีโมจิ 3 ตัว ได้แก่ หัวใจสีแดง รูปพนมมือไหว้ และหน้าหัวเราะ “❤️🙏🏻😂”

‘แม่จูน’ วอนชาวเน็ตหยุดด่า ‘เปิ้ล นาคร’ ปมถูกยกเลิกเงินสนับสนุน ลั่น!! สามีตั้งใจเป็นกระบอกเสียงให้นักกีฬาทุกคน ไม่ใช่แค่ลูกตัวเอง

(4 ก.ย. 66) กลายเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ หลังนักแสดงชื่อดัง ‘เปิ้ล นาคร’ ออกมาแจ้งเรื่องเงินอัดฉีดนักกีฬาเจ็ตสกีประเทศไทย ว่านักกีฬาทุกคนร่วมถึงลูกชายของตนเอง ‘น้องออก้า นครา’ จะไม่ได้เงินสนับสนุนในการแข่งขันกีฬาเจ็ตสกีแล้ว ทำให้โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปกลายเป็นประเด็นดรามาจี้ถามผู้เกี่ยวข้อง

ก่อนจะมีการเปิดกฎระเบียบข้อบังคับการให้เงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า แห่งประเทศไทย ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้เงินอัดฉีด เพราะการแข่งขันไม่เข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากต้องมีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 6 ประเทศ แต่ในการแข่งขันของ น้องออก้า ที่คว้าเหรียญทองมาได้ มีแค่ 2 ประเทศ คือ ไทย กับทีมสโมสรในประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนเรือทั้งหมด 6 ลำ แถมยังไม่ใช่นักกีฬาตัวแทนทีมชาติไทยอีกด้วย

งานนี้ทำชาวเน็ตเสียงแตก ส่งผลให้ เปิ้ล นาคร โดนกระแสตีกลับอย่างหนัก ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาโพสต์คลิปชี้แจงประเด็นดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุแคปชั่นด้วยว่า “อย่าเพิ่งด่ากันนะ…ป๊าตั้งใจทำเพื่ออนาคตของลูกหลานนักกีฬาไทยทุกประเภทที่ตั้งใจทำเพื่อชาติสืบต่อไป…..จากใจจริงครับผม…เปิ้ลนาคร..(แก้นิดนึง..กฎไกด์ไม่ได้หมายถึงเรือเร็วแห่งประเทศไทยนะคับ)”

ล่าสุดในอิสตาแกรมส่วนตัว ‘แม่จูน กษมา’ ขอออกมาช่วยซัพพอร์ตสามีกับลูกชายอีกแรง ด้วยการแคปโพสต์ของนักกีฬาเจ็ตสกีคนอื่นๆ ที่การแข่งเข้าเกณฑ์ แต่ต้องถูกยกเลิกเงินอัดฉีดเหมือนกัน ระบุข้อความว่า “นักเจ็ตสกีคนอื่นเขาโดนกันทั่วหน้าค่ะ ก่อนใครจะด่า หยุดคิดสักนิด ว่านั่นด่าคนไทยด้วยกัน ด้อยค่าลูกหลานกันไปอีก เขาทำเพื่อประเทศ ที่พี่เปิ้ลเขาออกมาเป็นกระบอกเสียง ก็ทำให้รุ่นลูกรุ่นหลานเด้อ ให้กับนักกีฬาด้วยกัน

คนอื่นเขาออกมาพูดมันไม่ดัง พูดแล้วก็เงียบ นักกีฬาเขาท้อกันหมดแล้ว ไม่ใช่แต่กีฬาเจ็ตสกีอย่างเดียว กีฬาประเภทอื่นด้วยโดนกันทั่วหน้า..!!! ที่พี่ๆ ด่ากันเต็มเพจอะ หยุดด่าค่ะ ยิ่งด่าคนที่เขาเห็นค่า เขาก็ยิ่งสงสาร เพราะตอนนี้สปอนเซอร์เข้าให้น้องออก้าเพิ่มมาอีก 2 ตัวแล้ว ขอบคุณนะคะ โดนด่าแล้วได้ดี มันเป็นอย่างงี้นี่เอง #4ออ4แสบแสบปวดกระบาล #3ออ3แสบแสบปวดกระบาล #ดรามา #เจ็ตสกี”

‘สมาคมแท็กซี่ไทย’ แนะ 5 ข้อ ‘ผู้หญิงไม่ควรทำบนแท็กซี่’ ด้าน ‘ชาวเน็ต’ จวกเละ ชี้!! สิ่งที่ควรปรับคือจิตสำนึกของคนขับ

(4 ก.ย. 66) กลายมาเป็นกระแสในโซเชียลและถูกชาวเน็ตรุมจวกหนักมาก สำหรับภาพอินโฟฯ ของเพจ ‘สมาคมแท็กซี่ไทย’ ที่โพสต์ไปเมื่อวันที่ 28 ส.ค. โดยมีเนื้อหาประชาสัมพันธ์แนะนำ 5 ข้อห้ามสำหรับผู้หญิง สิ่งที่ไม่ควรทำในการใช้บริการบนรถแท็กซี่ โดยทางเพจระบุข้อห้าม ‘5 ไม่’ เพื่อความปลอดภัย ดังนี้

1. ไม่นั่งหน้า
2. ไม่นั่งหลับ
3. ไม่นุ่งสั้น
4. ไม่ชวนคุย
5. ไม่บอกว่าไม่รู้เส้นทาง
หากพบเห็นคนขับไม่น่าไว้ใจ สายด่วน 1584

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะข้อ 3 ไม่นุ่งสั้น โดยการนุ่งสั้นมันเป็นสิทธิส่วนบุคคล สิ่งสำคัญที่ต้องแก้ไขคือ จิตสำนึกคนขับแท็กซี่ที่ต้องมีการอบรมวินัย รู้จักควบคุมตนเอง ทำหน้าที่บริการรับ-ส่งให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย

‘บัณฑิตสาว’ ซึ้งใจ หลังมือกราฟิกโซเชียลโชว์ความเทพ สานฝันให้เป็นจริง เนรมิตรูปรับปริญญาคู่กับคุณพ่อที่จากไป

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Siriwan Chumhattha’ ได้โพสต์ภาพลงในกลุ่ม แต่งภาพ ‘lightroom cc’ พร้อมระบุข้อความว่า “อยากให้พ่อมายืนให้ไหว้แบบในรูปค่ะ” และกลายเป็นไวรัลเมื่อชาวเน็ตเข้ามาช่วยตัดต่อรูปเพียบ

ล่าสุดวันที่ 4 ก.ย. 66 น.ส.สิริวรรณ ชุ่มหัตถา หรือ ‘อีม’ อายุ 26 ปี เปิดเผยว่า ตนเรียนจบมาแล้วหลายปี และตนได้เป็นสมาชิกกลุ่ม แต่งภาพ lightroom cc มานานแล้ว และคิดว่าอยากให้สมาชิกในกลุ่มช่วยตัดต่อรูปให้ แต่ก็ไม่กล้าโพสต์เพราะกลัวว่าโพสต์ไปแล้วจะไม่มีคนทำให้จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 66 ตนได้ตัดสินใจโพสต์ลงในกลุ่มดังกล่าว และคอยติดตามโพสต์ทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีใครช่วยตัดต่อให้

นอกจากนี้ ยังมีแจ้งเตือนกลุ่มแจ้งว่ายังเหลืออีกประมาณ 3,000 คิว จนตนนั้นลืมไปแล้ว ต่อมาได้มีแจ้งเตือนเข้ามาในเฟซบุ๊ก ตนจึงเข้าไปดูก็พบว่ามีคนเข้ามาช่วยตัดต่อรูปให้จำนวนมาก ตนจึงขออนุญาตนำรูปทุกรูปไปลงบนเฟซบุ๊กตนและไม่คิดว่าจะกลายเป็นไวรัลขนาดนี้

น.ส.สิริวรรณ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่ตนได้มีรูปคู่กับพ่อแล้ว เพราะในวันที่ตนประสบความสำเร็จพ่อไม่ได้อยู่ตรงนั้น ทำได้เพียงแค่ถือรูปพ่อ และตอนแรกที่เห็นภาพตนก็ร้องไห้ พร้อมคิดว่าหากมีพ่ออยู่ตรงนั้นก็คงจะดี ทั้งนี้ในตอนแรกตนอยากได้เป็นรูปครอบครัว แต่ด้วยความเกรงใจ และไม่มีใครทำให้ จึงขอแค่รูปคู่กับพ่อเท่านั้น

เพราะคุณพ่อเสียไปตั้งแต่ตนเอง 8 ขวบ จึงไม่มีรูปคู่กับคุณพ่อเลย แต่ตอนนี้ตนมีรูปกับพ่อแล้ว มีทั้งรูปคู่ รูปอุ้ม ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ทั้งนี้เมื่อก่อนตอนที่เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยขนาดนี้ ตนได้นำรูปครอบครัวไปสัก เพื่อที่จะได้ระลึกถึงคุณพ่อ และอยากให้รูปนี้อยู่กับตัวตลอด

น.ส.สิริวรรณ กล่าวว่า รูปที่ตนชอบมากที่สุดคือผลงานของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Alen Maretouch ที่ตัดต่อออกมาได้สมจริงมาก ลักษณะรอยยิ้มเหมือนพ่อตนมาก ๆ ชื่นชมเลย พี่เขาเก่งมาก ๆ ทั้งนี้ตนได้ทักไปขอบคุณแล้ว รวมถึงขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ช่วยสานฝันตน ใจจริงอยากได้รูปเฉย ๆ แต่กลายเป็นว่าตอนนี้รูปทีได้มาทุกรูปล้วนมีความหมายกับตนทุกรูป

หลังจากนี้ตนจะนำรูปไปใส่กรอบเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาให้กำลังใจจำนวนมาก อาทิ เก่งมาก พ่อต้องภูมิใจในตนอยู่แล้ว ที่ประสบความสำเร็จ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top