Sunday, 25 May 2025
NewsFeed

'พงศ์พรหม' เผยภาพประทับใจใน 'กรมสมเด็จพระเทพฯ'  ทรงร่วมงานต่อยอด 'ร.๙-ร.๑๐' ท่ามกลางฝูงชนโดยไม่ถือพระองค์

(4 ก.ย. 66) นายพงศ์พรหม ยามะรัต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Pongprom Yamarat' ระบุว่า...

เช้านี้มีนัดคุยงานที่ EmQuartier พึ่งเห็นว่ามีงาน 'เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลียภัทรพัฒน์' ที่ 'สมเด็จพระเทพ' เสด็จมาดูงานพอดี

ที่ประทับใจมาก วันนี้ท่านมาขบวนใหญ่กว่าปกติครับ เหตุเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ในโครงการของท่าน ผมเห็นนักวิชาการเดินมาด้วยเยอะ และแน่นอน ก็ต้องมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาด้วย แต่…

ก็ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เดินไปมาในงานตามปกติ

เห็นลูกเล็กของนักท่องเที่ยววิ่งเข้ากลางงาน

พี่ทหารที่ผู้ใหญ่หน่อย ก็มาเล่นด้วยอย่างเป็นกันเอง พี่ Rider เดินผ่าน

ก็ไม่มีการชี้นิ้ว ให้หลบออกจากทางเสด็จแต่อย่างใด

ตอนพระเทพเสด็จ คนก็ไปยืนรอบ ๆ ผมก็ยืนห่างท่านราว ๆ 5 เมตรเอง นักท่องเที่ยวที่ไม่ทราบ เดินดูงานอยู่ก็ยังให้อยู่ในงานได้

พระเทพท่านน่ารักสม่ำเสมอจริง ๆ
เหมือนที่คนชอบเจอท่านระยะประชิด
เดิน ๆ อยู่สยาม มองหันมา เฮ้ย!! พระเทพอยู่ข้าง ๆ 5555

ขอแถมนิดนึงครับ
โครงการเหล่านี้ของพระเทพท่านเป็นโครงการ 'ต่อยอด' จากในหลวง ร.9 อีกที
เหมือนที่ ร.10 ท่านก็กำลังเร่งทำ

คือ พัฒนาสินค้า ด้วยการพัฒนาชุมชนรายได้น้อย หรือเกษตรกรให้ยั่งยืน

ท่านเหล่านี้ ยืนสู้กับนักการเมืองท้องถิ่น และทุนผูกขาดแบบหลังชนฝามาหลายสิบปี แบบไม่พูดอะไร ไม่ด่าใคร

แต่ช่วยประชาชน ด้วยการลงมือทำ

ยิ่งเห็น ก็ยิ่งรัก
รักเพราะเห็น รักเพราะเข้าใจ

‘สุทิน’ พบ ‘สุกำพล’ ขอคำแนะนำคุมกลาโหม เผย!! กองทัพพร้อมปรับลดกำลังพล แต่ต้องไม่กระทบต่อศักยภาพ

(4 ก.ย. 66) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าพบ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านสุวรรณทัต จังหวัดปทุมธานี เพื่อพูดคุยขอคำแนะนำในการทำงานร่วมกับกองทัพ โดยนายสุทินได้นำพวงมาลัยดอกมะลิมามอบให้ พล.อ.อ.สุกำพล ก่อนเข้าไปภายในบ้าน

ระหว่างการหารือ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่พลเรือนแท้ ๆ มาคุมกระทรวงกลาโหม นายสุทินได้ตอบว่า มาทำงานตรงนี้เลือกไม่ได้ จึงอยากจะขอคำแนะนำ เพราะพลเรือนแม้จะศึกษามามาก แต่ก็ไม่สู้คนที่ทำมาก่อน โดยเฉพาะความเป็นรัฐมนตรี จึงต้องมาขอคำแนะนำ ซึ่งพล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่มาขอคำแนะนำ เพราะบางคนอยากทำก็ทำเลย ทำไปแล้วผิดก็ไปเลย

ภายหลังการพูดคุย นายสุทินกล่าวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มาหาอดีตรัฐมนตรีได้ทั้งความรู้และสิ่งที่สำคัญคือกำลังใจ ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพลได้ให้ความเชื่อมั่นและคำแนะนำ เรื่องการลำดับความสำคัญในการบริหาร การวางตัวต่อกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์มาก

ส่วนกำหนดการเข้ากระทรวงกลาโหม นายสุทินกล่าวว่ายังไม่ได้กำหนด ต้องไปหารือกับที่ประชุมของพรรคเพื่อไทยก่อน และอาจจะต้องรอความชัดเจนหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา คาดว่าจะเป็นช่วงหลังวันที่ 11 ก.ย.

นายสุทินกล่าวอีกว่า การเดินสายพบผู้นำเหล่าทัพก่อนหน้านี้เป็นไปด้วยดี ทั้งการพูดคุยแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผย ได้เห็นสัญญาณจากกองทัพเองว่า กองทัพเปิดใจกว้างที่จะรับพลเรือน ซึ่งถ้าเราเข้าใจเขาและมีความชัดเจนถึงแนวปฏิบัติต่าง ๆ และเขาเชื่อว่าเราทำเพื่อชาติจริง ๆ กองทัพก็จะไม่มีปัญหา

นายสุทินกล่าวว่า การทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนเองไม่ได้รู้สึกลำบากใจ แต่ก็ไม่ได้ประมาท หมายความว่าจะเข้าไปบริหารแบบไม่เตรียมตัวใด ๆ จะวางใจมากเกินไป คิดว่าเราชำนาญรู้ดีแล้วไม่ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องการรัฐประหารเหมือนที่พรรคเพื่อไทยเคยโดนมาแล้ว เรื่องอย่างนั้นไม่ได้เป็นประเด็นที่ต้องมาคิด

นายสุทินเปิดเผยอีกว่า เรื่องการปรับการเกณฑ์ทหารให้เป็นระบบสมัครใจและงบประมาณกองทัพเกี่ยวกับเรือดำน้ำนั้น ได้มีการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพไปแล้ววานนี้ (3 ก.ย.) แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ซึ่งเรื่องการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจทางกองทัพคิดมานานและก็ทำมาอย่างเป็นขั้นตอน เพียงแต่ว่าถ้าจะทำให้รวดเร็วให้ทันกับที่สังคมต้องการ รัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนกองทัพ อย่างไรก็ดี การเกณฑ์ทหารระบบสมัครใจสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่เดือนนี้ เมื่อได้พลทหารระบบสมัครใจเต็มจำนวน เดือนเมษายนก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการเกณฑ์ทหารอีก

ส่วนการปรับลดกำลังพล ทางกองทัพเองมีแผนในการดำเนินการอยู่ และมีเป้าหมายว่าปี 2570 ขนาดกองทัพจะเปลี่ยนไป ตนในฐานะรัฐมนตรีก็ต้องให้การสนับสนุนกองทัพไปสู่เป้าหมายนั้น ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงที่สังคมต้องยอมรับ คือประเทศต้องมีทหาร และกองทัพมีการประเมินจำนวนกำลังพลที่เหมาะสมไว้ ซึ่งยอดกำลังพลตอนนี้มากไป ทางกองทัพก็ยินดีจะปรับลด เพียงแต่จะต้องไม่กระทบกับศักยภาพของกองทัพ

นายสุทินกล่าวอีกว่า สำหรับการจะส่งเสริมให้คนมาสมัครเป็นพลทหารจำนวนมากๆ นั้น ต้องสร้างแรงจูงใจ ซึ่งในความคิดของตนจะต้องทำ 2 อย่าง คือ 1.ปรับสวัสดิการให้ทหาร 2.ปรับทัศนคติเชิงลบของสังคมต่อทหารเกณฑ์ เช่น ผู้ปกครองของพลทหารมักมีภาพจำต่อการฝึกของกองทัพว่ามีความโหดร้ายทารุณ ส่งผลให้พลทหารบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้จะมีกรณีตัวอย่างไม่มาก แต่เรื่องเหล่านี้มักจะเป็นข่าว หรือเงินเดือนที่พลทหารได้รับจริงถูกหักออก ไม่เป็นไปตามที่เสนอไว้ ดังนั้น จึงต้องมีการปรับความเชื่อ และทำให้ระบบโปร่งใสยิ่งขึ้น

นายสุทินกล่าวได้กล่าวถึงเรื่องการพิจารณาเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำที่สั่งซื้อจากจีนว่า มีทางออกที่ดีอยู่ เพียงแต่ต้องรอความชัดเจนหลังแถลงการนโยบาย คำว่าดีก็คือ กองทัพต้องพอใจ และประชาชนและสังคมรับได้ มีเหตุผลอธิบายได้ และต้องพูดคุยกับกองทัพให้ละเอียด ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน โดยต้องคุยกับ ผบ.ทร.และคณะ ต้องฟังคนที่เขาจะใช้ด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะยกเลิกเพื่อเปลี่ยนไปใช้ของชาติอื่นหรือจะเดินหน้า

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากมีโอกาสจะไปพูดคุยกับ 2 ป. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) หรือไม่ นายสุทินตอบว่า หากมีโอกาสก็อยากเข้าพบ เพราะไม่ได้ถือตนว่าเป็นฝ่ายใด

ทั้งนี้ ในลำดับถัดไป นายสุทินมีกำหนดการเข้าพบ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และอดีต รมว.กลาโหม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ สว. และ อดีต รอง ผบ.ทบ. ส่วนสายวิชาการ จะมีการหารือกับ นายสุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการรัฐศาสตร์อาวุโส และ นายปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคง

‘เซเลนสกี’ สั่งเด้ง ‘บิ๊กกลาโหม’ หลังถูกแฉปมคอร์รัปชัน ชี้!! ถึงเวลาต้องปรับโฉม ‘กลาโหม-กองทัพ’ ใหม่ทั้งระบบ

(4 ก.ย. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเผยเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า เขาได้ปลดนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พ้นจากตำแหน่งแล้ว โดยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในกระทรวงกลาโหมยูเครนครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เริ่มทำสงครามกับประเทศรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในวิดีโอเมื่อช่วงค่ำว่า “ผมได้ตัดสินใจที่จะปลดนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งท่ามกลางการทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบมานานกว่า 550 วัน ผมเชื่อว่ากระทรวงกลาโหมต้องการแนวทางใหม่ๆ และการมีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นๆ กับทั้งกองทัพและสังคมโดยรวม”

นายเรซนิคอฟ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยูเครนมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 และมีส่วนช่วยให้ยูเครนได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากชาติตะวันตก มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยทำสงครามกับรัสเซีย อาทิ รถถังจากประเทศเยอรมนี จรวดหลายลำกล้อง HIMARS และเตรียมที่จะได้รับเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ที่ผลิตในสหรัฐฯ อีกด้วย

อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมของเขากลับถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชัน และถูกสื่อท้องถิ่นของยูเครนกดดันอย่างหนักมาตั้งแต่เดือนมกราคม หลังมีข้อกล่าวหาว่าทางกระทรวงทำการจัดซื้อเสบียงในราคาสูงเกินจริง ถึงแม้ว่านายเรซนิคอฟจะไม่เกี่ยวพันกับเรื่องดังกล่าวโดยตรง แต่นักวิจารณ์หลายคนให้ความเห็นว่าเขาควรแสดงความรับผิดชอบ และเมื่อเดือนที่ผ่านมา สื่อของยูเครนกล่าวหาว่า กระทรวงกลาโหมมีการคอร์รัปชันในเรื่องการจัดซื้อเสื้อกันหนาวให้กับกองทัพ ซึ่งตัวเขาออกมาแก้ต่างว่าเป็นเรื่องใส่ร้ายป้ายสี

ทั้งนี้ เซเลนสกีระบุอีกว่า เขาจะขอให้รัฐสภาแต่งตั้งนายรุสเท็ม อูเมรอฟ ประธานกองทุนแปรรูปรัฐวิสาหกิจสำคัญของยูเครน ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมคนใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีต้องส่งชื่อของนายอูเมรอฟให้กับรัฐสภา เพื่อพิจารณาก่อนมีการแต่งตั้ง

นายอูเมรอฟ ได้รับเสียงชื่นชมในประเทศยูเครน จากผลงานของเขาในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งควบคุมดูแลในเรื่องการแปรรูปกิจการของรัฐฯ ไปยังภาคเอกชน (privatisation) และพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน ก่อนหน้าที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่งประธานกองทุนแปรรูปรัฐวิสาหกิจของยูเครน

‘ใหม่ ดาวิกา’ คิดเปลี่ยนใจอยากมีลูก หลังอุ้ม ‘น้องพีร์เจ’ งานนี้ ‘เต๋อ ฉันทวิชช์’ จะว่ายังไง แต่กองเชียร์ลุ้นหนักมาก

(4 ก.ย. 66) เรียกได้ว่าฟีดแบคคอมเมนต์เป็นไปในทิศทางเดียวกันเลยทีเดียว หลังจากที่ได้เห็นแคปชันในทำนองสองจิตสองใจของซุปตาร์สาว ‘ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่’ เกี่ยวกับการมีทายาท

โดยล่าสุด สาวใหม่ ก็ได้เปิดโพสต์อวดโมเมนต์น่ารักน่าเอ็นดู คู่กับหนุ่มน้อย ‘พีร์เจ’ ลูกชายสุดที่รักของ ‘ดีเจพุฒ พุฒิชัย’ และ ‘จุ๋ย วรัทยา’ ลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุแคปชันว่า…

“คนนี้หล่อที่สุดแล้วคร้าบ ดีใจมากใส่เสื้อของน้าใหม่ได้แล้วด้วย!! ตอนแรก 50/50 ว่าจะมีลูกดีไหม แต่เจอลูกพี่สาวลูกเพื่อนแต่ละคนน่ารักขนาดนี้หรือว่ายังไงดีเรา?”

ขณะที่ทางด้าน ‘แม่จุ๋ย วรัทยา’ ก็ได้เผยทั้งคลิปและภาพที่น้าใหม่ เกี่ยวก้อย ‘น้าเต๋อ ฉันทวิชช์’ มาเล่นและมาช่วยเลี้ยงลูกชายลงอินสตาแกรม บอกเลยว่างานนี้ออร่าความเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่ของคู่รักคู่หวานอย่าง ‘ใหม่-เต๋อ’ พุ่งแบบสุด

แถมทางด้านเพื่อนพ้องคนบันเทิงและแฟนๆ ที่เห็นโพสต์ของ สาวใหม่ ต่างก็พร้อมใจกันคอมเมนต์เชียร์นางเอกสาวให้มีเบบี๋กันอย่างล้นหลามสุดๆ

‘ปู ไปรยา’ ขอบคุณ ‘อิงฟ้า’ ที่ให้กำลังใจและมองเห็นคุณค่า ลั่น!! ผู้หญิงที่ไม่แข่งขันกัน-คอยชื่นชม นับเป็นพลังงานที่ดีมาก

(4 ก.ย. 66) ‘ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก’ บุกเซอร์ไพร์ส ‘อิงฟ้า วราหะ’ ในรายการ ‘HELLO ENGFA อิงฟ้ามาหานะเธอ’ งานนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับกรี๊ดลั่น และเขินอายสุดๆ เพราะแอบปลื้ม ‘ปู ไปรยา’ มานานแล้ว โดยในรายการว่าที่เจ้าสาวสุดเซ็กซี่ ‘ปู ไปรยา’ ได้เผยถึงวินาทีถูกขอแต่งงานว่า

"ปูผ่านมาทุกช่วงทุกเวลากับชีวิตแล้ว เป็นคนที่เมื่อก่อนจะอินกับความรักมาก และผิดหวังกับความรักมาตลอด ชอบเลือกอะไรที่ยากตอนเด็กๆ อะไรที่ง่ายจะไม่เลือก คนที่เข้ากับเราง่ายๆ ก็ไม่เลือก คนที่เลือกจะต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เมื่อก่อนชอบวิ่งตามคน แต่ตอนนี้เวลาเราเลือกคนที่แต่งงานสำคัญที่สุด คือเลือกคนที่เขาเลือกเรา คนที่ทุกวันเขาตื่นมา เขามองว่าเราคือสิ่งที่ดีที่สุด และเราดูออกว่าเขาชื่นชมเราให้เกียรติ แล้วเป็นเหมือนเพื่อนเป็นตัวของตัวเองได้ ที่ผ่านมาปูรู้สึกว่าคบใครแล้ว ต้องเป็น ปู ไปรยา ตลอดเวลา เหมือนต้องสวย มันไม่ใช่มนุษย์มันไม่จริง แต่พอเราอายุเยอะขึ้นคิดว่าสุดท้ายสิ่งภายนอกมันไม่ได้อยู่ตลอดแต่ข้างในคือสิ่งที่อยู่ตลอด แล้วคนที่เห็นเราผ่านรูปลักษณ์ภายนอกและเห็นเราจริงๆและรักตรงนั้น นั่นแหละคือคนที่เราควรแต่งงานด้วย บอกตรงๆนะปูก็ไม่คิดว่าจะเจอ แต่พอเราเลิกหาจะโผล่มาเอง บางทีพอเราไม่คาดคิด ไม่บังคับ และปล่อยให้มันเกิดขึ้นเอง จักรวาลมันจัดสรรเอง

วินาทีที่ถูกขอแต่งงานเขาไม่ได้เซอร์ไพร์สอะไรเลย การขอครั้งแรก คือเขานั่งดื่มกาแฟตอนเช้าแล้วบอกว่าชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะแต่งงานกับใคร แต่เวลาฉันอยู่กับเธอ ฉันมีความสุขที่สุด เธอว่ายังไงอยากแต่งงานกับฉันไหม ปูก็แบบโอเค แล้วเขาก็เลยไปออกแบบแหวนเองใช้เวลา 4 เดือน ก็เดินมาหาปูแล้วก็คุกเข่า บอกว่าทุกวันที่ตื่นมาแล้วเห็นหน้าปู ได้มีชีวิตที่ทำให้ปูมีความสุข แค่นี้เขาก็รู้สึกว่าเกิดมาแล้วคุ้ม"

จากนั้น ‘ปู ไปรยา’ ได้มอบของขวัญให้ ‘อิงฟ้า’ กลางรายการทำเอา ‘อิงฟ้า’ ถึงกับตื้นตันน้ำตาไหล และ ‘ปู ไปรยา’ ได้เผยความในใจทั้งน้ำตาว่า

"อยู่วงการมาหลายปีแล้ว คนมักจะมองว่าทุกอย่างคือการแข่งขัน แต่สุดท้ายแล้วมันมีคนที่ก็เจอเรื่องเหมือนเราแหละ ถ้าอิงฟ้าไม่มีใครคุยด้วย FaceTime หาปูได้นะ ขอบคุณจากใจที่มาให้กำลังใจปู เห็นคุณค่าของปู ผู้หญิงที่ไม่แข่งขันกัน ชื่นชมกันมันเป็นพลังงานที่ดีมาก เวลาที่อิงฟ้าพูดว่าชอบปู ปูก็คิดในใจว่าแม้แต่ในวันที่เราไม่ชอบตัวเอง แต่ยังมีอิงฟ้าที่แบบชื่นชมและชอบ มันเป็นกำลังใจที่ดีมากจริงๆ"

‘ปชป.’ โต้ ‘ก้าวไกล’ หลังเปรย มีการทุจริตเลือกตั้งซ่อมระยอง  ท้างัดหลักฐานมาพิสูจน์ต่อ กกต. ยัน!! ไม่ใช่ประชาธิปัตย์แน่นอน

(4 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล ระบุว่าการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 3 ระยอง เริ่มมีบางพรรคการเมืองทุจริตด้วยการเก็บบัตรประชาชน ว่า ไม่ทราบว่าเป็นพรรคใด เพราะจากการที่ตนลงพื้นที่กับ นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัคร สส.ของพรรค พร้อมด้วยนายบัญญัติ บรรทัด สส.บัญชีรายชื่อ, นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ดี โปร่งใส ไม่มีทุจริตคอร์รัปชัน พรรคฯ ยึดมั่นในการหาเสียงชูนโยบายพรรคการเมือง เดินเคาะประตูบ้าน

เพราะฉะนั้น การกล่าวหาลอยๆ ว่ามีการเก็บบัตรประชาชนหรือการเลือกตั้งจะไม่โปร่งใส ก็ขอให้พรรคก้าวไกลระบุมาว่าเป็นใคร หากมั่นใจว่ามีหลักฐานพอ ขอให้ไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดระยอง (กกต.จังหวัด) อย่าพูดเพื่อหวังผลคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งเช่นนี้

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคประชาธิปัตย์ การพูดลักษณะนี้มีความตั้งใจพุ่งเป้ามายังพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชัยชนะกล่าวว่า ต้องไปถามพรรคก้าวไกลว่าคิดอย่างไร การแข่งขันครั้งนี้แข่งกัน 3 พรรคการเมืองเราจะไปมองว่าพรรคที่ 3 ไม่ได้อยู่ในสนามแข่งขันไม่ได้ ทั้งนี้ หากพรรคก้าวไกลมีหลักฐานหรือคลิปวีดีโอก็ให้มาเปิดแล้วนำไปยื่นต่อ กกต.เลย ทางเรายินดีให้ตรวจสอบ และยืนยันว่าไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์แน่นอน
 

เนย - ปภาดา กลิ่นสุมาลย์ ราชินีนักบู๊ดีกรีไทยซูเปอร์โมเดล 2015 อัปโฉมใหม่สุดปัง!!

ซุ่มเงียบหลังจากคลอดลูกสาวคนแรก (น้องพีโอนี่) เนย - ปภาดา กลิ่นสุมาลย์ ราชินีนักบู๊ดีกรีไทยซูเปอร์โมเดล 2015 เชื่อคำโบราณ  ‘มือก็ไกว (เปล) ดาบก็แกว่ง (สู้)’ นอกจากให้นมลูกด้วยตัวเอง ยังเร่งฟิตหุ่นให้กลับมาเฟิร์มเหมือนเดิมภายในเดือนเดียว ล่าสุดซุ่มเงียบไปอัปหน้าใหม่ หน้าผากใหม่ จมูกใหม่ ปรับโหงวเฮ้งรับทรัพย์ปัง ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เพื่อเตรียมตัวกลับคืนวงการแบบเต็มตัว ก่อนมีผลงานใหม่เร็วๆ นี้

'พีระพันธุ์' เตรียมเสนอปรับราคา 'น้ำมัน-ไฟฟ้า' ลดค่าใช้จ่าย ปชช. พร้อมเปิดทางนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี ในราคาที่เป็นธรรม-เหมาะสม

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการลดราคาพลังงานตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะเมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีประกาศนโยบายดังกล่าวอย่างชัดเจนว่า ความจริงแล้วนโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายหลักที่สำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยอยู่แล้วและตนได้แจ้งต่อที่ประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการประชุมทำนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะทำให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนไม่ใช่เฉพาะแค่ราคาพลังงานแต่รวมไปถึงค่าครองชีพอื่น ๆ ด้วย เพราะพลังงานเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค การปรับลดราคาพลังงานให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมและเป็นธรรมจึงเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจึงได้กำหนดนโยบายดังกล่าวไว้ในนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้วเช่นกัน และมั่นใจว่า เมื่อนโยบายตรงกันทั้งในส่วนของนโยบายรัฐบาลและนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ตนรับผิดชอบอยู่ด้วยก็จะทำให้นโยบายนี้เกิดเป็นรูปธรรมได้มากขึ้นและเร็วขึ้น

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า แนวทางการดำเนินการในเรื่องราคาพลังงานนั้นมีเรื่องหลัก ๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการคือ ราคาน้ำมัน และ ราคาไฟฟ้า ซึ่งมีองค์ประกอบของราคาหลายอย่าง เช่น เรื่องภาษี เรื่องค่าการตลาด เรื่องภาระการเงินและเงินกู้ และอีกหลายเรื่องที่มาประกอบกัน บางองค์ประกอบเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ต้นทุนของก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า หรือต้นทุนของราคาน้ำมันดิบ เป็นต้น แต่สิ่งที่สามารถพิจารณาดำเนินการได้คือ โครงสร้างและองค์ประกอบที่มารวมกันจนเป็นราคาขายของพลังงานเหล่านี้ จะต้องมาดูว่าส่วนไหนที่สามารถตัดทิ้ง หรือปรับลดลงได้ก็จะทำทั้งหมด และเมื่อค่าใช้จ่ายลดลง ราคาของพลังงานต่าง ๆ ก็จะสามารถปรับลดลงได้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน

ในขณะเดียวกันยังมองถึงเรื่องของราคาน้ำมันราคาถูกพิเศษสำหรับประชาชนบางกลุ่ม เช่น ปัจจุบันกลุ่มชาวประมง สามารถซื้อน้ำมันที่เรียกว่า น้ำมันเขียวในราคาพิเศษ จึงเห็นว่า น่าจะดำเนินการเช่นเดียวกันนี้กับกลุ่มอื่น ๆ ด้วย เช่น กลุ่มเกษตรกร เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวต่อว่า นโยบายหลักสำคัญอีกประการหนึ่ง ตนเห็นว่า ควรจะให้โอกาสเสรีในการหาน้ำมันสำเร็จรูป ที่ไม่ใช่การนำน้ำมันดิบเข้ามากลั่นจนทำให้มีต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่ควบคุมลำบาก แต่หากเป็นการนำน้ำมันสำเร็จรูปที่ ไม่ต้องมีค่าการกลั่น หรือค่าใช้จ่ายอื่น เพราะราคาทุกอย่างคำนวณจบแล้ว และถ้าหากใครสามารถนำพลังงานราคาถูกเข้ามาได้ ก็ควรเปิดโอกาสให้ทำได้ โดยภาครัฐควรจะเป็นผู้กำกับดูแลให้การจัดหาพลังงานเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว ไม่ใช่วางกฎกติกาจนทำไม่ได้

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าจะทำงานด้านกฎหมาย แต่ก็มีความสนใจเรื่องของพลังงานของไทย และศึกษาหาข้อมูลเรื่องพลังงานมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันของประเทศไทยมีประวัติน่าสนใจและได้รับรู้เรื่องราวของพลังงานมาจากบิดาคือ พลโท ณรงค์ สาลีรัฐวิภาค อดีตปลัดกระทรวงเศรษฐการ (ปัจจุบันคือกระทรวงพาณิชย์) และเจ้ากรมการพลังงานทหาร ที่ได้รับมอบหมายจาก จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม และจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัตชต์ ให้ไปสำรวจและขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย

กระทั่งค้นพบแหล่งน้ำมันที่ อ.ฝาง จ. เชียงใหม่ สามารถขุดเจาะน้ำมันขึ้นมาและสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของไทยขึ้นมากลั่นน้ำมันดิบนั้น จนประสบความสำเร็จโดย นอกจากจะจัดหาน้ำมันให้กับหน่วยงานของรัฐแล้ว ยังสามารถขายน้ำมันราคาถูกให้กับประชาชนด้วย นำมาสู่การก่อตั้งปั๊มน้ำมันสามทหาร  ซึ่งปัจจุบันองค์การเชื้อเพลิงของกรมการพลังงานทหารและปั๊มน้ำมันสามทหารได้ถูกแปรเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และเป็น บริษัท ปตท.จำกัด ในปัจจุบัน

“ที่มาของพลังงานในประเทศไทยมี 2 เรื่อง คือเรื่องความมั่นคงของประเทศ และ การหาน้ำมันราคาถูกให้ประชาชนใช้ ผมจึงคิดว่าภารกิจหน้าที่ของรัฐบาลและของกระทรวงพลังงานวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของการทำธุรกิจน้ำมันแต่เป็นเรื่องการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและการหาพลังงานให้ประชาชนในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม ส่วนเรื่องการทำธุรกิจของบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของกระทรวง แต่กระทรวงพลังงานมีหน้าที่กำกับดูแล ให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมถูกต้องแล้วเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป ได้เข้าถึงการหาพลังงาน หาน้ำมัน หาเชื้อเพลิงมาใช้ได้อย่างเสรี จะต้องไม่ปิดกั้นต้องให้โอกาสเพื่อให้ราคาถูกลงให้ได้ เป็นการลดต้นทุน เพราะพลังงานเป็นต้นทุนต่าง ๆ ในชีวิต ถ้าสามารถลดต้นทุนตรงนี้ลงได้ ค่าครองชีพก็จะลดลงตาม ฉะนั้นผมจึงคิดว่านี่คือภารกิจของกระทรวงพลังงาน ไม่ใช่การทำธุรกิจ” นายพีระพันธุ์กล่าว

‘ราชบุรี’ จัดเต็ม!! ต้มยำกุ้ง 4 พันตัว ปรุงในกระทะยักษ์ 3 เมตร แจกให้ชิมฟรี ในงาน ‘หอการค้าแฟร์ 2023’ ตั้งแต่ 3-11 ก.ย.นี้

(5 ก.ย. 66) ที่บริเวณเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ริมแม่น้ำแม่กลอง เทศบาลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ได้มีการจัดงาน ‘หอการค้าแฟร์ 2023’ จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 3 – 11 กันยายน 2566

โดยหอการค้าจังหวัดราชบุรี ร่วมกับ ภาครัฐ และเอกชน กลุ่ม YEC (Young Enterpreneur chamber of commerce) นักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจ โดยนำร้านค้าทั้งในชุมชน และกลุ่มภาคธุรกิจต่างๆ ร้านค้าชื่อดังทั้งสื่อโซลเชียล facebook สื่อ Tiktok และ ร้าน ที่มีชื่อออกผ่านรายการทีวี นำของฝาก ของที่ระลึก สินค้าเครื่องอุปโภค บริโภค ของกินขึ้นชื่อ มาออกร้าน ที่มีมากกว่า 300 ร้านค้า ตลอด 9 วัน 9 คืน เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดราชบุรี ตลอดจนกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดให้กลับมาคึกคัก

โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน เป็นคืนที่ 2 ของการจัดงาน นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี และนายโกมล ตันติวรนุกูล กรรมการหอการค้าไทย ประธานที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดราชบุรี ร่วมกันเปิดงาน ‘หอการค้าแฟร์ 2023 จังหวัดราชบุรี’ อย่างเป็นทางการ

พร้อมทั้ง ร่วมกันปรุงต้มยำกุ้งกระทะยักษ์ ซึ่งใช้วัตถุดิบจากทั้ง 10 อำเภอในจังหวัดราชบุรี อาทิ กุ้งก้ามกราม จาก อ.บางแพ, ผักชี มาจาก อ.ปากท่อ, พริก มาจาก อ.เมืองราชบุรี, เห็ดฟาง มาจาก อ.บ้านโป่ง, ข้าวสารจาก อ. บ้านโป่ง, ต้นข่า มาจาก อ.ปากท่อ, ใบมะกรูด มาจาก อ.บ้านคา, มะนาว จาก อ.ดำเนินสะดวก, พริก มาจาก อ.จอมบึง, ตะไคร้ มาจาก อ.วัดเพลง และ เห็ดหอม มาจาก อ.สวนผึ้ง นำมาปรุงรสในกระทะยักษ์ เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร หนัก 3 ตัน พร้อมใช้น้ำจำนวน 600 ลิตร กุ้งสดจำนวน 100 กิโล ประมาณ 4,000 ตัว

โดยร่วมกันใช้ตะหลิวขนาดใหญ่ คนให้เข้ากัน ซึ่งต่างคนต่างก็วาดลีลาในการปรุงต้มยำกุ้งกันอย่างเต็มที่ โดยมี ‘น้องโอลีฟ’ เจ้าของวลีเด็ด “โตเกียวเนยกรอบไหมคะ” แม่ค้าเซ็กซี่โนบราขายโตเกียวเนยกรอบคนดังมาร่วมปรุงรสต้มยำกุ้ง เพื่อสร้างสีสันทำเอาเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับ และหนุ่มๆ ที่มายืนเชียร์

สำหรับการทำต้มยำกุ้งใช้เวลาประมาณ 15 นาที ต้มยำกุ้งกระทะยักษ์สุก ได้รสชาติ พร้อมเสิร์ฟ โดยให้เจ้าหน้าที่ได้ตัดข้าวใส่ถ้วยแจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยว และชาวราชบุรีที่มาเดินเที่ยวงานได้ชิมฟรี สำหรับต้มยำกุ้งกระทะยักษ์ครั้งนี้ หากคิดเป็นตัวเลขมีมูลค่าประมาณ 50,000 บาท นับเป็นการส่งเสริมกิจกรรมในงานหอการค้าแฟร์ให้เป็นที่น่าสนใจ

พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักของดี โดยเฉพาะ ‘กุ้งก้ามกรามบางแพ’ เป็นสินค้า GI ของจังหวัด โดยปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพแล้วกว่าหนึ่งพันราย สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยกว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี และการส่งออกมากที่สุดของประเทศไทย

ส่วนบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดราชบุรี และ ต่างจังหวัด เดินทางมาเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ร้านค้าต่างๆ หลายร้านสินค้าหมดก่อนตั้งแต่ช่วงค่ำ นอกจากนี้นยังมีร้านค้าที่น่าสนใจหลากหลาย

อาทิ ร้านปังเวอร์ ที่โด่งดังในเรื่องของขนมปังใส้ครีมฮอล และ ขนมปังใส้แน่น , ข้าวเกรียบเห็ดหอม ข้าวเกรียบ โนริสาหร่าย ที่มีลูกค้าต่อคิวซื้อ, กาละแมแม่สุนันท์ กาละแมของดีจาก อ.เขาย้อย เพชรบุรี ที่นำกาละแมรสชาติใหม่มาเปิดตัว รสชาไทย ที่ทานกาละแมแล้วนึกถึงดื่มชานมเย็น และรสกาแฟ ที่ให้รสชาติหอมหวานถึงรสกาแฟ, ร้านทะเลดองซีอิ้ว, ปังแลบลิ้น ขนมปังใส้แน่นนุ่มอร่อยพอดีคำ นอกจากนี้ ยังมีร้านของดีของเด่นอีกกว่า 300 ร้านค้า

นายศักด์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี กล่าวว่า งานหอการค้าแฟร์ 2023 จังหวัดราชบุรี ในปีนี้คึกคักเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายซื้อของและเดินเที่ยวงานกันจำนวนมาก เกินความคาดหมาย อีกทั้งผู้จัดยังได้ยกทัพร้านเด็ดร้านดังทางโซลเชียล และรายการทีวีมาตั้งภายในงาน ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างก็ให้ความสนใจ พากันเดินทางมาเดินเที่ยวกันจำนวนมาก ส่งผลให้ 2 วันเงินสะพัดจากการจับจ่ายซื้อของภายในงานสูงกว่า 5 ล้านบาท

ตนจึงยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดราชบุรี และ ต่างจังหวัดเดินทางมาเที่ยวในงาน โดยงานจะสิ้นสุดในวันที่ 11 กันยายนนี้

BYD แถลงผลตรวจสอบรถยนต์ไฟฟ้าควันพุ่งขณะชาร์จ พบความเสียหายบริเวณชุดสายไฟเชื่อมแบตฯ-น้ำยาแอร์รั่ว

(5 ก.ย. 66) จากกรณีเหตุรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 มีควันบริเวณฝากระโปรงหน้า ขณะจอดชาร์ตแบตเตอรี่อยู่บริเวณจุดจอดชาร์ตหน้าห้างแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี...ล่าสุด บริษัท เร-เว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้อัปเดตการตรวจสอบฉบับที่ 2 โดยข้อสรุปเบื้องต้นจากทีมวิศวกร BYD ระบุว่า…

ขอเรียนแจ้งความคืบหน้ากรณีรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 มีควันเกิดขึ้นบริเวณฝากระโปรงหน้า ขณะกำลังชาร์จไฟ DC อยู่ที่สถานีชาร์จไฟนั้น ในวันนี้ทางทีมวิศวกรบีวายดีและเรเว่ ได้เร่งทำการตรวจสอบทุกระบบ ทุกอุปกรณ์เพื่อหาสาเหตุจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างเต็มที่

ข้อสรุปเบื้องต้นจากทีมวิศวกรมีวายดีและเรเว่ ที่ได้ตรวจเช็คจากสภาพภายนอก บริเวณพื้นที่ใต้ฝากระโปรงรถด้านหน้า พบความเสียหายบริเวณชุดสายไฟที่เชื่อมต่อไปยังแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความร้อน ส่งผลไปยังท่อแอร์ได้รับความเสียหายจนทำให้น้ำยาแอร์รั่วออกมา และเกิดควันจากน้ำยาแอร์ที่ผสานกับความร้อนในบริเวณดังกล่าวแต่ไม่เกิดเปลวไฟแต่อย่างใด

ในส่วนของระบบอื่น ๆ เช่น Control Module ที่ใช้ควบคุมกระแสไฟ ชุดสายไฟและจุดเชื่อมต่อสายไฟที่ควบคุมแบตเตอรี่แรงดันสูง ช่องเสียบชาร์จไฟ และตัวแบตเตอรี่แรงดันสูง ไม่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางทีมวิศวกรของบีวายดีและเรเว่กำลังเร่งตรวจสอบหาข้อพิสูจน์เพิ่มเติมในทุกระบบของรถให้มั่นใจอย่างครบถ้วน

ขั้นตอนต่อจากนี้ ทางบีวายดีและเรเว่เตรียมนำชื้นส่วนอะไหล่ใหม่ เปลี่ยนและทดแทนส่วนที่ได้รับความเสียหาย จนรถสามารถเข้าโหมด ON พร้อมเปิดใช้งานตามปกติ เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือพิเศษตรวจวิเคราะห์การทำงานของรถอย่างละเอียดต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top