Sunday, 25 May 2025
NewsFeed

‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน  ผู้สนับสนุนฯ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 58-60

(5 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมเพิ่มพูน โรงแรมเบญจพร แกรนด์วิว สงขลาในพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทานผู้สนับสนุนการดำเนินงานและกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2560-2564 จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี โดยเป็นผู้เชิญเข็มพระราชทานวางบนพานหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ผู้เข้ารับแต่ละรายเข้ารับพระราชทานฯ

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทานผู้สนับสนุนการดำเนินงานและกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในช่วงปี 2558 - 2560

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทานผู้สนับสนุนการดำเนินงานและกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2560-2564 อีก 8 คน 

'บิ๊กลภ' ผู้การสมุทรปราการ จับมือ กต.ตร.จัดประชุม กต.ตร.สัญจร ​กระชับสัมพันธไมตรี ส่งเสริมพัฒนาข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 2

พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ (กต.ตร.) จังหวัดสมุทรปราการ จัดประชุม กต.ตร.สัญจร ครั้งที่ 2 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายในร้านตลาดนัดเรือบิน ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธไมตรีระหว่างคณะ กต.ตร.แต่ละ สภ.และเพื่อเป็นการส่งเสริมพัฒนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ

ภายในงานประกอบด้วย นายสุดใจ จิรยาภากร ประธานที่ปรึกษา กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ นายกิตติ ยงค์สงวนชัย นายเลิศศักดิ์ เลิศอริยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อริยะอีควิปเม้นท์ จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.บางพลี นายทรงพล ทองวิจิตร เจ้าของร้านอาหาร ลา คาแนล คาเฟ่ ตลอดจนคณะกรรมการ (กต.ตร.) ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ทั้ง 15 สถานี คณะแม่บ้านตำรวจ ตลอดจนนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และผู้กำกับการแต่ละ สภ. ร่วมในงานครั้งนี้ อีกทั้ง ยังได้รับการต้อนรับและเอื้อเฟื้อสถานที่จัดงาน โดยนายบัลลังก์ แตงอ่อน ประธานกรรมการบริหารตลาดนัดเรือบิน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่จัดงาน

ด้าน พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า การประชุม กต.ตร.สัญจร ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการพบปะสังสรรค์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยเฉพาะทำความเข้าใจแนวทางการทำงานในยุคของการเปลี่ยนแปลง พร้อมยกระดับบริการประชาชน สร้างความปลอดภัยและลดปัญหาอาชญากรรม สนับสนุน และส่งเสริมการทำงานของข้าราชการตำรวจในสังกัดให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งข้าราชการตำรวจนั้นมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชนชาวสมุทรปราการ อีกทั้ง หน่วยงาน กต.ตร.เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุน ส่งเสริมการทำงานของข้าราชการตำรวจให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดต่อไป

จากนั้น พล.ต.ต.ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับทางคณะกรรมการ (กต.ตร.) สภ.บางพลี เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคณะ กต.ตร. ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น อีกทั้ง ภายในงานทาง กต.ตร.สภ.บางพลี ยังได้ออกมาร่วมร้องเพลงร่วมสร้างสีสันภายในงานได้ดีอีกด้วย โดยมี ร.ต.ต.หญิงพวงผกา สุขศรี ข้าราชการบำนาญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายนรา ฟองเมือง โฆษก กต.ตร.สภ.สำโรงเหนือ มาร่วมเป็นพิธีกรภายในงานครั้งนี้ 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บินตรงกัมพูชา ประสานงานกวาดล้างแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ต้นเหตุฆ่ายกครัวบางแก้ว

วันที่ (4 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. และคณะ ได้เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อประสานงานกับทางการกัมพูชา ในการประสานความร่วมมือเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเหตุสลดฆ่ายกครัวในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ภ.จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 ที่ผ่านมา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายยังประเทศไทย

โดยในเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ นายเชิดเกียรติ อรรถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา และหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงให้เดินทางมาทำงานกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยได้มีการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยคนไทยที่ถูกหลอกลวงกลับไปได้เป็นจำนวนมาก ในการนี้ นายเชิดเกียรติ ได้แสดงความมั่นใจ และพร้อมตอบรับความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง และจะให้การสนับสนุนในการประสานงานช่วยเหลือคนไทยอย่างเต็มที่

ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของไทย ซึ่งกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในการหลอกลวงคนไทยผ่านแอพเงินกู้ ซึ่ง พล.ต.อ.ซอ เทต พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจไทยในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ อย่างที่ได้เคยประสานงานร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งนี้จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สืบสวนของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวจีนในขบวนการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์นี้ให้ครบถ้วนทั้งหมด ซึ่งในคดีดังกล่าวได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 22 ราย ดำเนินการจับกุมและอายัดตัวแล้ว 11 ราย ยังหลบหนีอีก 11 ราย โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 9 รายที่หลบหนีอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะอาศัยความร่วมมือกับทางการกัมพูชาในการจับกุมตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาประสานงานกับทางการกัมพูชา เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีฆ่ายกครัวของ สภ.บางแก้ว โดยวันนี้ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งท่านพร้อมให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงมาทำงานคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา นอกจากนี้ยังได้เข้าพบหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ซึ่งได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตำรวจไทย ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดทั้งชาวไทยและชาวจีน เพื่อร่วมมือกันปราบปรามปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป

มูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย และน้องชาย เข้าเยี่ยมครอบครัวส.ต.ท.สละชีพเพื่อชาติ มอบธงชาติ-เงินบำรุงขวัญ

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 เวลา 14.00 น. ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ, พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. ในนามมูลนิธิพระราหู ร่วมกับ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี, พ.ต.อ.พัฒนชัย ปาละสุวรรณ ผกก.สภ.หนองจิก จว.ปัตตานี ได้เดินทางเข้าพบ ครอบครัว ส.ต.ท. บุญกีนี ดือเระ ผบ.หมู (ป.) สภ.ยะรัง จว.ปัตตานี ผู้ปฏิบัติหน้าที่ สละชีพเพื่อชาติ ณ.บ้านเลขที่ 105 ม.3 ต.นาหว้า อ.จะนะ จว.สงขลา

เพื่อร่วมมอบธงชาติ เงินบำรุงขวัญ และพูดคุยให้กำลังใจ แก่ครอบครัว ส.ต.ท.บุญกีนี ดือเระ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และยิงถล่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุเกิดหน้าเทศบาลตำบลยะรัง จว.ปัตตานีเมื่อวันที่ 28 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา

‘INTERLINK’ เปิดบ้านนำนักลงทุนทัวร์กิจการ-สอบถามเชิงลึก มั่นใจ!! รัฐบาลชุดใหม่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ หนุนภาคธุรกิจเติบโต

(5 ก.ย. 66) ‘INTERLINK’ โดยคุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่ม บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชัน (ILINK) เปิดบ้านต้อนรับนักลงทุนกว่า 35 ท่าน พร้อมแถลงผลประกอบการผ่านงาน Opportunity Day จากนั้นได้พากลุ่มนักลงทุนเยี่ยมชมกิจการ และสอบถามผลประกอบการในเชิงลึก

โดยในงานนี้ คุณสมบัติยังกล่าวอีกด้วยว่า กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มีความมั่นใจว่า ในภาคธุรกิจจะสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่น เติบโตทั้งรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และมีคุณภาพ ตามนโยบายของคณะกรรมการบริษัท

คุณสมบัติได้ตอบคำถามที่นักลงทุนถามว่า เหตุใดตนถึงมั่นใจว่าภาคธุรกิจจะสามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน? ว่า…

“ผมมั่นใจว่า ภายหลังเมื่อสามารถตั้งรัฐบาลเสร็จ โดยการบริหารงานภายใต้การนำของ ‘นายกเศรษฐา’ ครั้งนี้ ปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คือ

1.) ความรู้สึกหรือความเชื่อว่า เศรษฐกิจภายหลังจากนี้จะดีกว่ารัฐบาลที่แล้วอย่างแน่นอน

2.) งบประมาณภาครัฐ โดยเฉพาะงบลงทุนและงบก่อสร้างปรับปรุง ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20% จะถูกเร่งรัดให้เกิดการก่อสร้างและปรับปรุง อันจะส่งผลต่อการสั่งซื้อสายสัญญาณของบริษัทไปติดตั้งเพิ่มเติม

3.) คู่แข่งโรงงานผลิตสาย Sola Cable, สายโทรศัพท์ และสาย Control รายใหญ่ของประเทศไทยเกิดปัญหาเรื่องของตลาดทุน ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามเวลา ส่งผลให้ลูกค้าต้องเปลี่ยนมาสั่งซื้อจากบริษัทอย่างมากมาย

4.) เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนมีความต้องการกับชีวิตที่ดีขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงไปใช้เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกได้มากขึ้น ทำให้กระแสสัญญาณของสาย FTTR (Fiber To The Room) ถูกบังคับให้ต้องเตรียมการติดตั้งในคอนโดมิเนียม หรือบ้านพักที่สร้างใหม่

ซึ่งผลิตภัณฑ์ LINK มาตรฐานอเมริกา ของบริษัท มี Outlet รุ่นใหม่ที่มีขนาดเท่ากับหน้ากากไฟฟ้า สามารถติดตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงามในห้อง และใช้งานได้อย่างทรงประสิทธิภาพ คาดว่า หลังจากนี้จะเกิดกระแสการรับอย่างมาก

5.) เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนต้องการความปลอดภัยและใช้ชีวิตด้วยความสะดวกสบาย โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์สายสัญญาณในหมด Security and Control มารองรับการก่อสร้างอาคาร Intelligent และที่พักอาศัยของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาของสายคอนโทรลที่โรงงานในประเทศไทย จำเป็นต้องหยุดการผลิต

“สุดท้ายต้องขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง และเป็นบรรยากาศการพบปะระหว่างประธานบริษัทฯ กับนักลงทุนที่คุยกันอย่างเป็นกันเองในทุกเรื่อง และยืนยันว่า นอกจากนักลงทุนจะทราบข้อมูลเชิงลึกแล้ว บริษัทฯ ยังได้รับคำแนะนำดีๆ จากนักลงทุนอีกด้วย” คุณสมบัติ กล่าว

‘THEOS-2’ ดาวเทียมดวงแรกของไทย เตรียมขึ้นสู่อวกาศ ต.ค.นี้ ตอกย้ำความก้าวหน้าในเทคโนโลยี รองรับอุตสาหกรรมอวกาศ

(5 ก.ย. 66) ‘ดาวเทียม THEOS-2’ สร้างและทดสอบระบบเสร็จเรียบร้อย ขณะนี้ ถูกขนส่งจากบริษัท Airbus Defence and Space เมืองตูลูส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ถึงท่าอวกาศยานยุโรป เฟรนช์เกียนาในทวีปอเมริกาใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ จะทำการตรวจสอบทุกขั้นตอนและประกอบดาวเทียมเข้ากับส่วนหัวของจรวด Rocket Fairing พร้อมขึ้นสู่อวกาศช่วงเดือนตุลาคม 2566

‘THEOS-2’ เป็นดาวเทียมสำรวจโลกที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสานต่อภารกิจของไทยโชต หรือ ‘ดาวเทียม THEOS-1’ (ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551) ที่กำลังจะหมดอายุการใช้งาน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อการพัฒนาประเทศ

THEOS-2 มีน้ำหนัก 425 กิโลกรัม สามารถบันทึกภาพรายละเอียดสูง 50 เซนติเมตร เป็นดาวเทียมปฏิบัติการ เพื่อใช้งานติดตามสถานการณ์เชิงพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศใน 4 ส่วนหลัก ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีอวกาศ, การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, การพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศ และการพัฒนาบริการด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ

รวมทั้ง ยกระดับการให้บริการด้านภูมิสารสนเทศ 6 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ด้านการจัดทำแผนที่, ด้านการจัดการเกษตรและอาหาร, ด้านการจัดการน้ำแบบองค์รวม, ด้านการจัดการภัยพิบัติ, ด้านการจัดการเมืองและเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ รวมถึงด้านทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ

#พร้อมขึ้นสู่อวกาศ #GISTDA #จิสด้า #THEOS2 #ดาวเทียมสำรวจโลก #AirbusDefenceandSpace #เทคโนโลยีอวกาศ #เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ #การพัฒนาดาวเทียม #อวกาศ #อุตสาหกรรมอวกาศ #RocketFairing

‘บิ๊กเด่น’ เผยแต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่ กลาง ก.ย.นี้ คาด!! ทำได้ตามกรอบเวลา ไม่ต้องตั้ง รักษาการผบ.ตร.

(5 ก.ย.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) คาดว่าน่าจะรอให้คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และแถลงนโยบายก่อน ซึ่งน่าจะอยู่ประมาณกลางเดือนอาจจะมีการนัดหมายการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการประชุมกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจจะต้องรอให้มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ก่อน จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางนายกรัฐมนตรี ขอรอให้ใกล้ ๆ เวลาอีกสักนิด

ส่วนกรณีที่ได้ให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ทั้ง 4 คน จัดทำผลการปฏิบัติงานที่เห็นว่ามีความสำคัญ และเกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วเป็นการส่งผลงาน เพราะตามกฎหมายพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ บอกว่าให้ทางนายกรัฐมนตรีใช้ดุลยพินิจในการคัดเลือกพิจารณาจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือจเรตำรวจแห่งชาติซึ่งเทียบเท่ารองผบ.ตร. โดยจะต้องคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบการโดยเฉพาะประสบการณ์ด้านการสืบสวนและป้องกันปราบปรามซึ่งจะต้องพิจารณาในหลากหลายมิติ

ส่วนกรอบระยะเวลาจะทันตามกำหนดหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถามต่อว่าจะถึงขั้นต้องแต่งตั้งรักษาการผบ.ตร. ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่ต้อง เพราะคาดว่าคงทำทันแน่นอน หลังมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนและแถลงนโยบายแล้ว ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจประจำปี 2566 จะต้องรอการพิจารณาร่วมกันกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่

สมุทรปราการ-ส่งความสุข!! “ดร.ยงยุทธ” อดีต สส.สมุทรปราการ ร่วมลงพื้นที่มอบบ้านโครงการให้ผู้สูงอายุในเขตพื้นที่

วันอังคารที่ 5 กันยายน 2566 ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดสมุทรปราการ และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วยนางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาลตำบลแพรกษา คณะกรรมการชุมชน และผู้แทน พมจ.สป.

ร่วมลงพื้นที่เพื่อส่งมอบบ้านให้แก่ผู้สูงอายุที่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมตามโครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย ประจำปีงบประมาณ 2566 

ภายใต้งบประมาณจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ จำนวนทั้งสิ้น 160,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย ดังนี้
1. นางสมจิตร แสงดารา บ้านเลขที่ 210 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 2-4)
2. นางสุคนธ์ เสือกลับ บ้านเลขที่ 159 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 2-4)
3. นายวันรัตน์ รอดบุญ บ้านเลขที่474 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 2-4)
4. นางสำราญ แสงทิม บ้านเลขที่ 390 ม.3 (ชุมชนวัดแพรกษา 6-8)

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

นราธิวาส- ผบ.ฉก.นราธิวาส เข้าเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ นางแยนะ สะแลแม ประธานกลุ่มเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.ตากใบ 

บ้านเลขที่ 22 หมู่ 1 ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ เข้าเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ พร้อมทั้งติดตามอาการ สอบความเป็นอยู่ ตลอดจนสอบถามความต้องการที่จะให้ หน่วยงานรัฐเข้าให้การช่วยเหลือ นางแยนะ ประธานกลุ่มเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งแกนนำผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ตากใบ โดยปัจจุบัน นางแยนะอายุ 64 ปี ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองแตก มีอาการอัมพาตซีกขวา  ก่อนหน้านี้ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาส ต่อมาอาการดีขึ้น สามารถขยับมือข้างขวาได้เล็กน้อย และมีกำลังใจดีเยี่ยม บรรยากาศเป็นด้วยความอบอุ่น เป็นสัมพันธภาพที่ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับพี่น้องประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ ตลอดจนได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนแผ่นรองซับสำหรับผู้ป่วยติดเตียง  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต

พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ย้ำทหารพร้อมเป็นที่พึ่งให้ประชาชนในทุกโอกาส เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน นางแยนะ สะแลแม  ถือว่าเป็นผู้หญิงแกร่งแห่งอำเภอตากใบ คนหนึ่ง ที่คอยให้ความช่วยเหลือ ดูแลกลุ่มสตรี และเด็ก ตลอดจนพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ตากใบ ตลอดจน 19 ปี เต็มที่ผ่านมา ขอให้ นางแยนะ สะแลแม หายจากอาการป่วยในเร็ววัน มีสุขภาพที่แข็งแรงยิ่งๆ ขึ้นไป มีรอยยิ้ม และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ประสบกับปัญหา ไม่ท้อแท้สิ้นหวัง ให้กลับมามีสติและเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีความหวังด้วยความมั่นคงต่อไป
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

‘จั๊ก ชวิน’ เผยป่วย ‘วัณโรค’ คนบันเทิง-แฟนคลับแห่ส่งกำลังใจ แพทย์คาด อาจติดเชื้อจากเพื่อนที่เจ้าตัวช่วยดูแลมาเป็น 10 ปี

(5 ก.ย. 66) โพสต์ล่าสุดทำแฟนๆ ตกใจ นักร้องหนุ่ม ‘จั๊ก ชวิน จิตรสมบูรณ์’ ขณะแอดมิทอยู่ในโรงพยาบาล พร้อมทั้งใช้เครื่องช่วยหายใจ และเผยภาพเอกซเรย์ปอดทั้งสองข้าง โดยหนุ่มจั๊ก โพสต์เล่าเรื่องราวติดเชื้อวัณโรคจากเพื่อนสนิทที่ดูแลและเพิ่งเสียชีวิตไปว่า…

“บางทีมันก็มีเหตุผลให้เราเจริญมรณานุสติมาตลอดหลายปีนี้ เพื่อนสนิทของเราคนหนึ่งที่เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยโรควัณโรคเมื่อต้นปีนี้ เป็นคนที่เราดูแลกันมาตลอด 10 กว่าปี เราคลุกคลีกันมานาน จนคุณหมอบอกว่าคุณได้รับเชื้อจากเพื่อนแน่นอน แต่ว่าเชื้อนั้นอาจใช้เวลาเพาะเป็นปี หรือ 10 ถึง 20 ปีก็ได้ สรุปคือวัณโรครับประทานปอด ยังดีที่รู้เร็ว ก็รักษากันไป น่าจะได้นอนอยู่โรงพยาบาลหลายวัน แคนเซิลงานไปแล้วบางส่วน ส่วนเพื่อนๆ พี่น้องที่จะมาเยี่ยม กรุณาใส่หน้ากาก N95 เท่านั้นนะครับ #จั๊กชวิน #ระนะจั๊ก_รักนะจ๊ะ”

ทำเอาคนบันเทิงและแฟนคลับต่างตกใจและเข้ามาส่งกำลังใจให้จำนวนมาก อาทิ

“แข็งแรงๆ นะคับจั๊ก”
“ขอให้หายดีในเร็ววันนะคะ”
“ปลอดภัยนะคะ เป็นห่วงมากเลย”
“กลับมาแข็งแรงไวๆ นะคะพี่จั๊ก” เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top