Thursday, 22 May 2025
NewsFeed

‘เดอะ ซัน’ ปูด ‘ชีกจัสซิม’ ควัก 6,000 ล้านปอนด์ ปิดดีลเทกโอเวอร์ ‘แมนยูฯ’ กลางเดือน ต.ค.นี้

(23 ส.ค. 66) สื่อรายงาน ‘ชีกจัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี’ นักธุรกิจใหญ่แห่งกาตาร์ จ่อเข้าปิดดีลเทคโอเวอร์สโมสร ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ภายในช่วงกลางเดือน ต.ค. ด้วยมูลค่า 6,000 ล้านปอนด์

สำหรับตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ รวมถึงการขายสโมสรมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งก็มีกลุ่มทุนต่างๆ ยื่นข้อเสนอเข้ามาแล้วหลายรอบ ทั้งการซื้อหุ้นส่วนน้อย รวมถึงเทคโอเวอร์สโมสรไปครองเลย

ที่ผ่านมามี 2 กลุ่มทุนที่เป็นตัวเต็งในการเทคโอเวอร์ คือ ‘ชีกจัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี’ นักธุรกิจใหญ่แห่งกาตาร์ และ ‘เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์’ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ซึ่งต่างยื่นข้อเสนอเข้ามาราว 5,000 ล้านปอนด์ (ราว 2.19 แสนล้านบาท) ทว่ายังไม่มีการตอบรับใดๆ จากฝั่งเจ้าของทีมมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามล่าสุด ‘เดอะ ซัน’ สื่ออังกฤษระบุว่า ชีกจัสซิม เป็นฝ่ายเอาชนะ แรตคลิฟฟ์ ในการเข้าซื้อสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยมูลค่า 6,000 ล้านปอนด์ (ราว 2.63 แสนล้านบาท) และกระบวนการจะเสร็จสิ้นในช่วงกลางเดือน ต.ค.

โดยขณะนี้ทางฝั่ง ชีกจัสซิม ซึ่งต้องการเทคโอเวอร์สโมสรมาครอบครองแบบ 100% กำลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบสถานะกับสโมสร และส่อมีการประกาศเรื่องเจ้าของใหม่ของ ‘ปีศาจแดง’ ในช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้

‘ก้อย รัชวิน’ อุ้มท้องนอนเฝ้า ‘ตูน’ ไม่ห่าง หลังผ่าตัด จนฝ่ายชายลั่น สงสารภรรยา อยากให้กลับไปพักบ้าง

(23 ส.ค.66) เป็นอีกรักที่สวยงาม สำหรับคู่ของ ‘ตูน อาทิวราห์’ หรือ ‘ตูน บอดี้สแลม’ และ ‘ก้อย รัชวิน’ ที่ล่าสุดคนเป็นภรรยาได้ออกมาเขียนแชร์เรื่องราวความรักของทั้งคู่พร้อมอัปเดตอาการ หลังสามีพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากการผ่าตัดหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท ก็ทำให้ก้อยที่มานอนเฝ้าคนรักอดคิดถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้ โดยเธอเล่าว่า

“เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตที่ได้มานอนเฝ้าคนรัก”

“จุดเริ่มต้นของการเป็นแฟนกันก็ที่โรงพยาบาลนี่แหละ ตอนนั้นกำลังศึกษาดูใจกันมา 6 เดือน แต่ยังไม่เป็นแฟนกัน จนพี่ตูนประสบอุบัติเหตุที่กระดูกต้นคอระหว่างเล่นคอนเสิร์ต แล้วก้อยไปนอนเฝ้าแบบนี้เลย พอเค้าลืมตามาเห็นก้อย นางก็เลยขอเป็นแฟนจ้าาา ฮิ้วววววว (เล่าไปก็เขินเหมือนกันนะ) จากวันนั้นจนวันนี้ก็เกือบ 13 ปีแล้ว และเราก็เลยนับวันที่ 1 กันยาของทุกปี เป็นวันครบรอบของเรา (ซึ่งใกล้จะถึงแว้ว) หลังจากนั้นพอแต่งงานได้เดือนเดียว ไปฮันนีมูนกัน พี่ตูนก็เข้าโรงพยาบาลอีก คราวนี้มีเรื่องเส้นประสาทเข้ามาบวกกับเรื่องหมอนรองกระดูกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพี่ตูนไม่ได้ตัดสินใจผ่า แต่ใช้วิธีกายภาพเอา ซึ่งอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่หาย 100%...”

“จนมาครั้งนี้ ก้อยคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้ว พี่ตูนจึงตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัด เพื่อรักษามันให้กลับมาใช้งานได้อย่างดีที่สุด แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ง่ายเลย เราใช้เวลาปรึกษากับคุณหมออยู่เป็นเดือน ๆ พี่ตูนต้องบินไปบินมาเพื่อมาพบคุณหมอที่โรงพยาบาล จนได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด และก้อยก็เชื่อว่าทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เพราะได้เจอคุณหมอที่เก่งมาก ๆ พี่ตูนจะต้องกลับมาแข็งแรง มีพลัง ซึ่งผ่านมา 3 วัน หลังจากผ่าตัด อาการพี่ตูนก็ฟื้นตัวเร็วขึ้นมาก ๆ เย้…และการนอนเฝ้าพี่ตูนครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง เพราะมีเจ้าตัวเล็กในท้อง 5 เดือนมานอนเป็นเพื่อนด้วย หลังจากที่ก้อยนอนเฝ้าพี่ตูนมา 2 คืน วันนี้คุณพ่อบอกว่า “กลับไปนอนกอดลูกเถอะ พ่อพอช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว พ่อสงสารหนูไม่ได้นอน…” แม่แค่อยากบอกพ่อว่า แม่เต็มใจและยินดีที่สุด ขอแค่พ่อหายดี ยิ้มได้ กลับมาแข็งแรงเพื่อลูกน้อยของเราและคนที่รอฟังเพลงของพ่อ ๆ…แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว”

ทศวรรษแห่งความมั่งคั่ง!! ไทยถือครอง ‘ทองคำ’ เพิ่ม 60.20%

ประเทศไทยซื้อทองคำเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มมากที่สุดในเอเชียในรอบ 10 ปี โดยเพิ่มจาก 152.41 ต้นในปี 2556 มาอยู่ที่ 244.16 ตันในสิ้นปี 2565 โดยทุนสำรองที่เป็นทองคำเพิ่มขึ้นถึง 60.20% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

‘เป้ย’ ประกาศปิดอู่ ให้สามีทำหมันเรียบร้อย ลั่น!! เศรษฐกิจแบบนี้ มีแค่ 2 คนก็พอแล้ว

(23 ส.ค.66) แต่งงานสร้างครอบครัวมาด้วยกันกว่า 11 ปีแล้ว สำหรับคู่ของคุณแม่คนสวย ‘เป้ย ปานวาด’ และสามี ‘ป๊อบ นิธิ’ จนตอนนี้มีพยานรักด้วยกัน 2 คน พี่โปรด และน้องปาลิน ทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็นอีกครอบครัวที่สมบูรณ์จนหลายคนอิจฉา

เรื่องความหวาน ความสวีทสามี ‘เป้ย’ บอกว่า ก่อนแต่งเป็นอย่างไร หลังแต่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น กอดรัดฟัดเหวี่ยง แกล้งหยอกล้อมุ้งมิ้งกันเป็นประจำ ไม่มีมุมหวานกินข้าวใต้แสงเทียน ทั้งคู่ชอบทานปิ้ง ๆ ย่าง ๆ ว่างก็ไปดูหนัง ซึ่งไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ค่อนข้างตรงกัน

ส่วนเรื่องลูกคนที่ 3 เป้ยตอบชัดเจนแล้วว่าปิดอู่ ไม่มีลูกอีกแล้ว เพราะตอนนี้สามีก็ทำหมันเรียบร้อย เป้ยมองว่า 2 คนกำลังดี สำหรับเศรษฐกิจแบบนี้ เวลาไปไหนมาไหนก็ไม่เหนื่อยจนเกินไป ก่อนแต่งงานเป้ยบอกว่าคิดจะมีลูกคนเดียวด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ขอมีชายคนหญิงคนก็พอแล้ว

พระเอกสุดฮอต ‘เข้ม หัสวีร์’ จัดแฟนมีตติ้งริมทะเลพัทยา ปลื้มใจ!! แฟนคลับมอบ ‘ปีกเงิน’ เป็นของขวัญวันเกิด

เรียกว่าเป็นปีแรกที่พระเอกสุดฮอตแห่งช่อง 7HD ‘เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล’ จัดแฟนมีต ชวนเหล่าแฟนคลับไปสนุกใกล้ชิดกันที่ต่างจังหวัด ประเดิมปักหมุดที่ริมทะเลพัทยา ในชื่อ ‘KEM HUSSAWEE FAN PARTY 2023’ ซึ่งงานนี้มีครอบครัว รวมถึงเพื่อนซี้ ยูโร ยศวรรธน์ และ เบน-สันติราษฎร์ กุลนพเกียรติ มาร่วมเป็นแขกเซอร์ไพรส์พิเศษอีกด้วย

โดยหนุ่มเข้มเผยว่า “สำหรับมีตติ้งในครั้งนี้ จริง ๆ เราตั้งใจไว้ว่าอยากให้ทุกคนได้มาพักผ่อนกันครับ ซึ่งแฟน ๆ ที่ติดตามเข้ม มางานเข้มตลอด 5-6 ปี ที่ผ่านมา เข้มอยากให้ได้มาเจอกัน อยากให้ทุกคนได้สนุก ได้ปล่อยจอยเต็มที่ เลยจัดเป็นกิจกรรม 2 วัน 1 คืน มีคอนเสิร์ตริมทะเล เข้มเตรียมวงมาเล่น รวมถึงมีเซอร์ไพรส์จากครอบครัวของผม ยูโร และ พี่เบน มาร่วมแจมกันด้วย บรรยากาศคืออบอุ่นมากครับ แฟน ๆ ได้ร่วมพูดคุยกัน ได้ทานอาหารร่วมกัน มีกิจกรรมถ่ายรูปร่วมกัน และยังได้ไปทำบุญด้วยกันที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานด้วยครับ”

พระเอกหนุ่มกล่าวอีกว่า “ผมอยากขอบคุณทุกคนนะครับ ที่มาสนุกด้วยกัน และได้มาร่วมทำบุญในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของผม ปีนี้เป็นปีที่ผมมีความสุขมาก ๆ เป็นการร้องไห้ที่มีความสุขมากจริง ๆ ทุกคนเป็นเด็กผม ทุกคนมาด้วยความรัก หลาย ๆ คนไม่เคยเป็นแฟนคลับใครมาก่อน เพิ่งจะมาเป็นกับผม สิ่งที่ผมอยากให้เกิดหลังจากนี้ คือ ให้ทุกคนมีความสุขในทุก ๆ วัน สุขภาพแข็งแรง เพื่อมาเจอผมในปีต่อ ๆ ไป ขอบคุณมาก ๆ ครับ”

นอกจากความรักที่แฟนคลับมอบให้แล้ว ยังมีเซอร์ไพรส์มอบปีกเงิน ช่อดอกไม้ และเค้กให้อีกด้วย ยิ่งทำให้ เข้ม รู้สึกอิ่มเอมใจ พร้อมตั้งใจทำงาน สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ส่งมอบความสุขให้ผู้ชมเหมือนเช่นที่ผ่านมา

‘ตร.’ เตือนประชาชนระวังแก๊งหลอกลงทุนออนไลน์ ตุ๋นหมดตัว แฉกลโกง ใช้รูปผู้บริหาร-โลโก้บริษัทใหญ่มาล่อเหยื่อให้ติดกับ

(23 ส.ค. 66) สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. / หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน เนื่องจากในช่วงนี้มีคนร้ายแอบอ้างชื่อหรือใช้โลโก้ของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ต่างๆ แล้วหลอกให้ลงทุน เป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมกันแถลงข่าวให้ประชาชนทราบ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กล่าวว่า สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 31 กรกฎาคม 2566 รับแจ้ง 300,000 กว่าเคส ความเสียหายกว่า 41,000 ล้านบาท สถิติการรับแจ้งความหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในห้วงเวลาเดียวกัน รับแจ้ง 24,000 กว่าเคส คิดเป็น 8.14 % ของสถิติการรับแจ้งทั้งหมด ความเสียหายกว่า 12,000 ล้านบาท คิดเป็น 35 % ของความเสียหายทั้งหมด สำหรับสถิติการหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ในห้วงสัปดาห์ที่แล้วอยู่อันดับ 6 สัปดาห์นี้พุ่งมาอยู่อันดับ 4 โดยรับแจ้ง 274 เคส ความเสียหาย 188 กว่าล้านบาท

จึงได้เชิญ นางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ประเทศไทย บ.อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด มหาชน มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. กล่าวว่า การหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นมากในช่วงเดือน พฤษภาคม - กรกฎาคม 2566 คนร้ายใช้วิธีการหลอกผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ 5 อันดับ ดังนี้

1.) Facebook 145 เคส 107,593,333.39 บาท
2.) Website 34 เคส 8,604,561.4 บาท
3.) Line 7 เคส  815,7381.30 บาท
4.) Twitter 1 เคส 7,000 บาท
5.) TikTok 1 เคส 60,6000 บาท

โดยนำรูปผู้บริหารและใช้โลโก้บริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น CP AMATA คาราบาวแดง และเครื่องหมายและมีโลโก้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ ช่วงแรกหลอกให้ลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ได้ผลตอบแทน 30-70% เมื่อเหยื่อหลงเชื่อทักไปสอบถาม จะเป็นการสนทนาทาง Messenger (ส่วนใหญ่เป็นระบบอัตโนมัติ) จากนั้นจะแนะนำอาจารย์ หรือโค้ด หรือโบรกเกอร์ เพื่อให้คุยทาง Line หรือเข้ากลุ่ม Open Chat พูดคุยกับสมาชิก แล้วให้เริ่มลงทุน โดยมีหน้าม้าอ้างว่าลงทุนตามที่ได้มีการแนะนำสามารถสร้างกำไรได้ โพสต์ภาพสลิปรับโอนเงินผลตอบแทนให้เหยื่อหลงเชื่อ

ในช่วงแรกเมื่อเหยื่อโอนเงินเพื่อลงทุน คนร้ายจะโอนเงินทุนพร้อมกำไรคืนให้เหยื่อ จากนั้นจะชวนเข้ากลุ่ม VIP มีสมาชิก 5-6 คน เพื่อร่วมกันลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น โดยมีผู้แนะนำการลงทุน 1 คน ที่เหลือก็จะเป็นหน้าม้า ร่วมกันหลอกเหยื่อให้โอนเงินลงทุน หากเหยื่ออยากยกเลิกการลงทุน หน้าม้าจะอ้างว่าหากยกเลิกหรือถอนการลงทุน จะทำให้คนอื่นไม่สามารถถอนเงินได้ และผลประโยชน์ที่ลงทุนไปพร้อมผลตอบแทนที่ปรากฏในหน้าเว็บไซต์ (ปลอม) ก็จะไม่ได้รับคืน จึงต้องลงทุนเพิ่ม สุดท้ายเสียเงินไปจำนวนมาก

โดยมีจุดสังเกต ดังนี้
1.) มี Blue Badge หรือเครื่องหมายบัญชีทางการ สีน้ำเงินหรือสีเขียวหลังชื่อเพจ ที่ส่วนใหญ่บริษัทที่มีตัวตนจริงจะยืนยันข้อมูลไว้กับทาง facebook

2.) การโอนเงินลงทุนใดๆ ที่ใช้เงินน้อย รายได้ดี มีผลตอบแทนสูง ไม่มีอยู่จริง หากผลตอบแทนสูงมากขนาดนี้ คนร้ายคงลงทุนด้วยตนเอง

3.) ในการลงทุน คนร้ายให้เหยื่อกดลิงก์เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันปลอม ที่คนร้ายสร้างขึ้นมาให้เหมือนของจริง (เหมือนเฉพาะรูปภาพ แต่ URL จะต่างจากของจริง) และเมื่อเหยื่อโอนเงินลงทุน ในระบบจะขึ้นยอดเงินแสดงให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นยอดเงินจริง ซึ่งความจริงแล้วเป็นเพียงตัวเลขในอากาศที่คนร้ายนำมาหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อเท่านั้น

วิธีการในการป้องกัน คือ

1.) ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์โฆษณาแปลกปลอม หรือกดเพิ่มเพื่อนไลน์ในรูปแบบสแกน QR Code หรือเพิ่มเพื่อนไลน์ทาง ID Line จากคนที่ไม่น่าเชื่อถือ

2.) หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple Store เท่านั้น อย่าเชื่อคำแนะนำของคนร้ายให้กดเข้าบราวเซอร์อื่น

3.) ควรลงทุนในบริษัทหรือผู้ให้บริการในตลาดทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. โดยตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  https://www.set.or.th

4.) ทำการ copy URL จากเว็บไซต์ลงทุนที่คนร้ายให้มาในใส่ในเว็บไซต์ https://whois.domaintools.com จะเห็นอายุ (Dates) ของเว็บไซต์ว่าเปิดมานานเท่าไรแล้ว  หากเพิ่งเปิดมาร 2-3 เดือน ก็ไม่น่าเชื่อถือ

ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคนิควิศวกรรมและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการที่มีเพจปลอมยังระบาดต่อเนื่อง สร้างผลกระทบให้กับประชาชน ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง อมตะ มีความไม่สบายใจ และไม่เคยนิ่งนอนใจ อมตะได้มีการติดตามและดำเนินการทางกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด จนสามารถมีความคืบหน้าในการจับกุมมาอย่างต่อเนื่อง และทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะให้สังเกตเพจของกลุ่มมิจฉาชีพจะมีการตั้งขึ้นมาใหม่ มีอายุไม่นาน ในขณะที่เว็บไซต์ และเพจของกลุ่มอมตะ มีการจดทะเบียนและก่อตั้ง ในปี 2012 ซึ่งมีอายุการดำเนินงานมากกว่า 10 ปี เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของอมตะ และขอให้สังเกตจากเครื่องหมาย Blue Badge หรือเครื่องหมายถูกสีฟ้า ที่แสดงบัญชีทางการว่าเป็น Page หลักของอมตะ

ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เน้นย้ำการเชิญชวนเพื่อลงทุนใด ๆ จะต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์อย่างเคร่งครัด และผ่านตัวแทนโบรกเกอร์ หรือที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่มีการเสนอ หรือเชิญชวนให้ประชาชน มาลงทุนผ่าน Facebook หรือติดต่อผ่านระบบ Line ที่ใช้วิธีการจูงใจให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่สูงผิดปกติจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะใช้ชื่อเพจว่าอะไรก็ตาม

ดังนั้น ขอให้ประชาชนมีการตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน หากมีข้อสงสัย ให้สอบถามมายังเจ้าหน้าที่ของบริษัท ที่จะสามารถตอบข้อเท็จจริงและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการลงทุนที่ต้องเสียเงินและทรัพย์สิน
ทั้งนี้ ประชาชน และนักลงทุน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 061-035-0007 และ 02-792-0000

นางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับปัญหาของภัยหลอกลงทุนซึ่งมีหลากหลายรูปแบบและแพร่ระบาดเป็นวงกว้างมากขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ สร้างความเสียหายแก่ประชาชน ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินการในหลายมิติ ทั้งการแจ้งเตือนผู้ลงทุนผ่านช่องทางเว็บไซต์ ก.ล.ต. ในหัวข้อ ‘Investor Alert’ การดำเนินคดีตามกฎหมายกรณีแอบอ้างชื่อหรือโลโก้ของ ก.ล.ต. การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ รวมถึงช่องทางของเครือข่ายหน่วยงานในตลาดทุนเพื่อกระจายข่าวสารแจ้งเตือนภัยหลอกลงทุนให้ขยายวงกว้างออกไปยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ไม่ได้รับรองหรือรับประกันผลิตภัณฑ์ ผลการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจ หรือผลตอบแทนในการลงทุน ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถเช็กรายชื่อผลิตภัณฑ์ บุคคล หรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ที่ แอปพลิเคชัน SEC Check First หรือ

หรือ สอบถามหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ โทร 1207

นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า  ปัจจุบันมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นสื่อกลางทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก ครอบคลุมลักษณะและประเภทธุรกิจที่หลากหลาย มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น  สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)  หน่วยงานภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้ออกพระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดต่อสาธารณะชน โดยกำหนดให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นธุรกิจบริการที่ต้องแจ้งให้ทราบ รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลและการควบคุมดูแลเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลแพลตฟอร์ม ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลจัดทำแนวปฏิบัติที่ดี หรือมีกลไกในการกำกับดูแลตนเองที่เหมาะสมสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยพระราชกฤษฎีกานี้ได้เริ่มบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้มีเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ปลอม โดยคนร้ายโฆษณาผ่านเพจ facebook ปลอม เมื่อเหยื่อเข้าไปค้นหาหน่วยรับแจ้งความออนไลน์ เพจกลุ่มนี้จะซื้อโฆษณาจาก facebook ทำให้เพจขึ้นมาในในระบบค้นหาจากเว็บ Search Engines ต่างๆ ทั้ง Google Bing safari เป็นต้น เมื่อเหยื่อหลงเชื่อกดเข้าเว็บไซต์หรือเพจ facebook ก็จะคุยกับระบบ AI  และให้เพิ่มเพื่อนไลน์คนร้าย จากนั้นส่งต่อให้คนร้ายที่อ้างตัวเป็นทนายความเพื่อหลอกถามข้อมูล แล้วจะอ้างว่า ได้ทำการตรวจสอบเส้นเงินแล้ว พบว่าเงินออกนอกประเทศไปแล้ว และคนร้ายใช้บัญชีม้า ทำให้ตามเงินกลับมาไม่ได้ แต่ว่าเงินยังฟอกไม่สำเร็จ และรู้ว่าเงินเข้าสู่แพลตฟอร์มไหน จากนั้นส่งต่อให้คนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นทีม IT สามารถโจมตีแพลตฟอร์มนี้ เพื่อนำเงินคืนมาให้ได้ จากนั้นส่งต่อให้หัวหน้าของคนร้ายที่เป็นเจ้าหน้าที่  IT อ้างว่า ขณะนี้เงินของเหยื่อได้เข้าสู่แพลตฟอร์ม เว็บพนันออนไลน์ แต่จะช่วยโจมตีเว็บไซต์ดังกล่าวให้ โดยให้เหยื่อสมัครและเล่นในเว็บไซต์พนัน โดยอ้างว่า ไม่ได้พามาเล่นการพนันแต่เป็นการพามากู้เงินคืนจากเว็บไซต์ โดยจะทำการโจมตีให้เหยื่อ แต่มีข้อแม้ต้องใช้เงินตัวเองยิ่งเติมเยอะยิ่งได้คืนมาก และเร็ว ทำได้แต่บางช่วงเวลาของวันเท่านั้น ไม่งั้นเซิร์ฟเวอร์จะตรวจพบ และ ขอหักเงิน 10% เพื่อเป็นค่าทนาย จากรายได้ที่ได้จากการโจมตี เหยื่อหลงเชื่อเพราะคิดว่าจะได้เงินคืน สุดท้ายเสียเงินเพิ่ม

โดยมีข้อแนะนำ ดังนี้

1.) ไม่มีหน่วยงานราชการหน่วยงานใดให้ประชาชนโอนเงิน เพื่อเล่นเว็บพนันออนไลน์หรือโอนเงินให้ทำอะไรก็ตาม 
เพื่อให้ได้เงินคืน

2.) หากต้องการแจ้งความออนไลน์ให้แจ้งความผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com หรือแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่ได้ทั่วประเทศ

3.) หากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามหรือขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1441 หรือ 191

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าปัจจุบันคนร้ายยังคงใช้วิธีการหลอกโดยอาศัยกลโกงเดิมๆ แต่ได้พัฒนาวิธีการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ ดังนั้น เพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com

‘หมอริท เรืองฤทธิ์’ อวดภาพขณะทำวิจัยเรียนต่อปริญญาเอก แต่ชาวเน็ตโฟกัสผิดจุด แห่แซว!! เห็นแล้วอยากไปช่วยรีดเสื้อ

(23 ส.ค.66) สำหรับ ‘หมอริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช’ ที่ตอนนี้ได้ผันตัวเองไปเปิดคลินิกด้านความงาม  6 สาขา เข้าสู่หลักล้านไปเเล้ว เเละตอนนี้ ‘หมอริท’ กำลังซุ่มเรียนต่อในระดับปริญญาเอกอีกด้วย

โดยล่าสุด ‘หมอริท’ โพสต์ภาพตัวเองที่อยู่ในห้องแล็บ พร้อมแคปชันระบุว่า “จนได้…เปิดตัวด้วย animal study Officially, I’m now a Ph.D. candidate.” บอกเลยว่าเก่งรอบด้านจริง ๆ

ทั้งนี้ ก็ยังไม่วายโดนชาวเน็ตแซวชุดที่หมอริทได้สวมใส่ รวมถึงคนที่เข้ามาให้กำลังใจอย่างมากมาย อาทิ “เตารีดในมือสั่นมากกกกก”, “อยากไปช่วยรีดเสื้อ”, “ซักแล้วเข้าเครื่องอบผ้า สะบัดนิดหน่อยก็เรียบแล้วครับ (ถ้าขี้เกียจรีดผ้า)”, “เก่งเกินนนน”, “สู้ ๆ นะคะ พี่หมอริท เป็นกำลังใจให้ค่ะ” เป็นต้น

‘แพ็ค กัง-ฮยุน’ เด็กอัจฉริยะ IQ204 แห่งเกาหลีใต้ ผู้ถูกคาดหวังสูงจากสังคม จนเข้ากับสังคมไม่ได้

(23 ส.ค. 66) ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับประเทศเกาหลีใต้ ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นประเทศพัฒนาแล้วแถวหน้าของโลกได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนาศักยภาพเยาวชนได้อย่างมีคุณภาพ ที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างชาติ 

แต่สิ่งที่ตามมา คือความกดดันในสังคมและครอบครัว ที่คาดหวังต่อพัฒนาการของเด็กคนหนึ่ง ที่อาจทำลายพรสวรรค์ที่เขามีโดยไม่รู้ตัวก็ได้

อย่างกรณีของ ‘เด็กชายแพ็ค กัง-ฮยุน’ เด็กอัจฉริยะวัย 10 ขวบ ที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในความฉลาดอย่างน่าทึ่ง ทั้งด้านคณิตศาสตร์และดนตรี จนสื่อเกาหลีเคยตั้งฉายาให้เขาเป็น ‘โมซาร์ทน้อยแห่งเกาหลี’ มาแล้ว

แต่มาวันนี้ ชื่อ ‘แพ็ค กัง-ฮยุน’ กลับมาอยู่ในหน้าสื่อเกาหลีใต้อีกครั้ง ในฐานะเหยื่อที่ถูกรุมรังแกโดยเพื่อนร่วมชั้น และรุ่นพี่ในโรงเรียน จนมีอาการซึมเศร้า น้ำหนักลด ทำให้พ่อของเขาตัดสินใจพาลูกชายลาออกจากโรงเรียน 

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงเรียน ‘Seoul Science High School’ โรงเรียนเฉพาะทางอันดับ 1 ของนักเรียนที่มีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของประเทศ หรือแท้จริงแล้ว แพ็ค กัง-ฮยุน เป็นเพียงเด็กธรรมดา ที่ต้องการเพียงชั้นเรียนทั่วไปเท่านั้นเอง

เมื่อย้อนกลับไปช่วง 6 ปีก่อน แพ็ค กัง-ฮยุน ถือเป็นเซเลปเด็กชื่อดังไปทั่วประเทศในฐานะ เด็กชายสมองเพชรที่มีระดับ IQ สูงถึง 204 จากการประเมินของ ‘Mensa's IQ test’ มีความฉลาดเป็นเลิศอย่างมากในด้านดนตรี และคณิตศาสตร์ 

และในปี 2017 นี้เอง ที่แพ็ค กัง-ฮยุนได้ไปออกรายการ Einstein สารคดีด้านการศึกษาของช่อง SBS และได้แสดงความสามารถในการเล่นเปียโน และประพันธ์เป็นเพลงบรรเลงได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และยังสามารถเขียนโน้ตเพลงตามที่ได้ยิน จากการบรรเลงของนักเปียโนมืออาชีพได้อย่างถูกต้อง ซึ่งความสามารถด้านดนตรีของเด็กชายแพ็ค กัง-ฮยุน ได้รับการประเมิน และตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี ยืนยันว่าเป็นของจริง 

อีกทั้งยังมีความสามารถด้านคณิตศาสตร์เกินวัยมาก สามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ในระดับชั้นมัธยมต้นได้แล้ว แม้เจ้าตัวจะอยู่ในวัยประถม 1 โดยมีการทดสอบแข่งทำข้อสอบคณิตศาสตร์กับเด็กมัธยมชั้น Year 9 ซึ่งแพ็ค กัง-ฮยุน ก็สามารถทำข้อสอบเสร็จครบ และถูกต้องภายใน 20 นาทีเท่านั้น ทั้งๆ ที่เด็กมัธยมทั้งช้้นที่มาแข่งด้วย ยังไม่มีใครทำเสร็จสักคน 

ทำให้ชื่อ ‘แพ็ค กัง-ฮยุน’ กลายเป็นที่จดจำของชาวเกาหลีใต้ทั่วประเทศ ในฐานะ ‘โมซาร์ทตัวน้อย’ และ ‘เด็กอัจฉริยะสมองเพชร’ และต่างจับตามองว่า เด็กชายแพ็ค กัง-ฮยุน จะโตขึ้นมาอย่างไรในอนาคตข้างหน้า

เมื่อหลายปีผ่านไป แพ็ค กัง-ฮยุน ก็ได้รับเข้าเรียนต่อในสถาบัน Seoul Science High School ที่ได้ชื่อว่าแหล่งรวมเด็กอัจฉริยะจากทั่วประเทศ มีหลักสูตรที่เข้มข้น จัดเต็มกว่าโรงเรียนทั่วไปมาก เพราะเด็กที่ได้เข้ามาเรียนล้วนมีพรสววรค์ที่ไม่ธรรมดา  

แต่ทว่า วันนี้ชื่อโรงเรียนนี้กลายเป็นข่าวฉาวบนหน้าสื่อเกาหลีใต้เสียแล้ว จากกรณีที่ แพ็ค กัง-ฮยุน ถูกเพื่อนร่วมชั้นบูลลี่ รังแก จนเรียนต่อไม่ได้

หลังจากที่พ่อของ กัง-ฮยุน พาลูกชายลาออกจากโรงเรียน ได้ออกมาสัมภาษณ์ผ่านสื่อถึงเหตุผลที่ลูกชายไม่สามารถเรียนต่อที่นี่ได้ เพราะเขาถูกเพื่อนในชั้น และรุ่นพี่ในโรงเรียน บูลลี่ ถากถาง โดนหมางเมิน ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน ไม่ยอมคุยด้วย ไม่ยอมแบ่งงานกลุ่มให้ทำ และยังพบข้อความดูถูก ถากถางอย่างรุนแรงที่พูดถึงแพ็ค กัง-ฮยุน จำนวนมากในสื่อออนไลน์ของโรงเรียน

พ่อของเขายังเล่าอีกว่า เมื่อเจอการบูลลี่จากสังคมในโรงเรียนอย่างต่อเนื่องทำให้แพ็ค กัง-ฮยุน มีอาการเครียดอย่างมาก ไม่มีความสุขในโรงเรียน ซึมเศร้า ไม่หัวเราะร่าเริงเหมือนแต่ก่อน และยังส่งผลต่อร่างกายด้วย น้ำหนักจากเดิม 27 กิโลกรัม ตอนนี้ลดลงเหลือแค่ 22 กิโลกรัมเท่านั้น

พ่อของแพ็ค กัง-ฮยุน เคยพยายามต่อรองกับทางโรงเรียน เรื่องปัญหาในการทำงานกลุ่มกับเพื่อนในชั้น อยากให้ทางโรงเรียนแก้ไข แต่ทางโรงเรียนปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมปรับเปลี่ยนหลักสูตร กฎเกณฑ์ให้เด็กนักเรียนเพียงคนเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุให้พ่อของกัง-ฮยุน ตัดสินใจพาลูกชายลาออก 

แต่ทว่า หลังจากที่พ่อของกัง-ฮยุน ให้สัมภาษณ์ออกสื่อเพียงวันเดียว พ่อของเขาก็ได้รับอีเมลจากผู้ปกครองนักเรียนคนอื่นเป็นจำนวนมาก ข่มขู่ให้พ่อของกัง-ฮยุน หยุดพูดออกสื่อว่า แพ็ค กัง-ฮยุนถูกรังแก มิฉะนั้น จะออกมาแฉถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมแพ็ค กัง-ฮยุน ถึงเรียนต่อที่ Seoul Science High School ไม่ได้

แต่สื่อเกาหลีใต้ก็ไม่วายขุดต่อ โดยแอบไปสอบถามผู้ปกครองของนักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียน บางคนกล่าวว่า ที่แพ็ค กัง-ฮยุน ต้องออก เพราะเขาเรียนตามเพื่อนไม่ทัน และแก้โจทย์เลขได้เพียงข้อเดียวเท่านั้นจากการสอบกลางภาค

ผู้ปกครองจำนวนหนึ่งสงสัยว่า ทางโรงเรียนอาจให้แพ็ค กัง-ฮยุน เข้าเรียนด้วยช่องทางพิเศษ ที่ต่างจากเด็กนักเรียนคนอื่น ที่ต้องผ่านการสอบเข้าด้วยความยากลำบาก และบางคนยังบอกว่าไม่ต้องการให้พ่อของแพ็ค กัง-ฮยุน กล่าวหาให้โรงเรียนที่มีเกียรติแห่งนี้เสื่อมเสียชื่อเสียง 

สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าการตั้งคำถามเรื่องความเป็นอัจฉริยะของแพ็ค กัง-ฮยุน ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก็คือ หลายคนลืมไปว่า แพ็ค กัง-ฮยุน เป็นเพียงเด็กวัย 10 ขวบ ที่ควรมีพื้นที่ให้เขาสามารถเรียนรู้ และ ‘ลองผิด ลองถูก’ ได้อย่างเด็กวัยอื่นๆ 

แต่สิ่งที่ แพ็ค กัง-ฮยุน ต้องแบกรับตั้งแต่วัยเด็ก คือ ‘ชื่อเสียง’ ในการเป็นเซเลปเด็กอัจฉริยะ ที่ถูกกดดันจากครอบครัว และความคาดหวังของสังคม ถูกจับตามองในทุกเรื่องที่เขาทำ และแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ‘ผิดหวัง’ เมื่อความสามารถไปไม่ถึงระดับที่ถูกคาดหวัง ที่ตั้งบาร์ไว้สูงเสียด้วย 

แพ็ค กัง-ฮยุน เคยเล่าถึงการเรียนในโรงเรียนว่า เขารู้สึกผิดหวังในตัวเอง ที่สุดท้ายเขาเป็นได้แค่เครื่องจักรในการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ 

ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา แพ็ค กัง-ฮยุน ถูกตีกรอบ ถูกกดดัน และถูกคาดหวัง มีพื้นที่ให้เขาเพียงแค่การ ‘ลองถูก’ เท่านั้น และสังคมรอบข้างมักตอบสนอง ‘การลองผิด’ ของเขาอย่างโหดร้ายเสมอ 

แพ็ค กัง-ฮยุน จึงเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับผู้ปกครอง ที่ไม่ว่าคุณจะมีลูกหลานเป็นเด็กอัจฉริยะหรือไม่ก็ตาม เพราะเด็กทุกคนล้วนมีพรสวรรค์อย่างใด อย่างหนึ่งในตัวเสมอ การเน้นแต่ผลักดัน ส่งเสริมศักยภาพด้านวิชาการของเด็กเพียงอย่างเดียว โดยละเลยการให้พื้นที่ในพัฒนาการด้านอื่นๆ ของเด็กอย่างสมวัย อาจทำให้ พรสวรรค์ของเขากลายเป็นทุกขลาภ และไปทำลายอัจฉริยภาพเหล่านั้นลงอย่างน่าเสียดายได้

‘ลิซ่า BLACKPINK’ สวมชุดแบรนด์ไทยขึ้นคอนเสิร์ต เฉิดฉายที่ซานฟรานฯ อวดโฉมความปังไม่แพ้ชาติใดในโลก

(23 ส.ค.66) เรียกว่าดีไซเนอร์ไทยก็ปังไม่แพ้ชาติใด เพราะล่าสุดแบรนด์ KANAPOT ของ ‘คณาพจน์ อุ่นศร’ ดีไซเนอร์มากความสามารถชาวไทย กลายเป็นไวรัลดัง

หลังดีไซน์ชุดสีขาวสุดแซ่บ ที่ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ สมาชิกชาวไทยเกิร์ลกรุ๊ปวง ‘BLACKPINK’ สวมขึ้นโชว์โซโล่ในเพลง MONEY บนเวทีคอนเสิร์ต BORN PINK WORLD TOUR ที่ Oracle Park นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ในค่ำคืนที่ผ่านมา (22 ส.ค.66)

โดยความพิเศษอยู่ที่ผสมผสานดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความแหลมของเลื่อม และขนนกให้ได้ลุคที่ลงตัว และสะท้อนความเป็นลิซ่าได้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ท่ามกลางเสียงชื่นชมล้นหลาม

‘เบิร์ด ธงไชย’ ได้รับเลือกเป็น ‘ศิลปินแห่งชาติ’ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2565

(23 ส.ค.66) นับเป็นเรื่องยินดีอย่างยิ่ง หลังกรมส่งเสริมวัฒนธรรม แถลงข่าวประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2565 ผ่านเพจ ‘กรมส่งเสริมวัฒนธรรม’ ซึ่งมีบุคคลที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ จำนวน 12 คน

โดยหนึ่งในนั้นมีรายชื่อซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ‘เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์’ ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง)

ทั้งนี้ ‘เบิร์ด ธงไชย’ ได้ออกมาเผยความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กว่า “พี่เบิร์ดขอขอบคุณ สำหรับการได้รับเกียรติยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๕ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) รางวัลนี้ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นได้เพราะแฟนเพลง ที่สนับสนุนผลงานของพี่เบิร์ดมาตลอดด้วยครับ พี่เบิร์ดขอบคุณมาก ๆ ครับ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top