Monday, 19 May 2025
NewsFeed

‘ดีเจบุ๊คโกะ’ แปลงโฉมแต่งเป็นสายฝอ ผมยาวถึงกลางหลัง โซเชียลถล่มหัวใจให้รัวๆ บอกเลยรูปนี้!! สวยเต็ม 10 ไม่หัก

(16 ส.ค.66) นับว่าเป็นดีเจที่โด่งดังมีแฟนคลับอยู่มากมายสำหรับ ‘ดีเจบุ๊คโกะ’ ที่มีฉายาว่าเป็นเจ้าหญิงของวงการวิทยุ ที่ตอนนี้นอกจากจะเป็นดีเจแล้วเจ้าตัวยังรับบทเป็นพิธีกรมืออาชีพ และยังเป็น Youtuber อีกด้วย 

สำหรับ ‘ดีเจบุ๊คโกะ’ เราจะเห็นว่าเจ้าตัวนั้นสวยขึ้นทุกวันเลย ล่าสุดเจ้าตัวได้ลงภาพใน Instagram ส่วนตัวแต่งตัวเป็นผู้หญิงสายฝอผมยาวตรง รูปนี้บอกเลยว่าสวยเต็ม 10 ไม่หัก แฟนคลับต่างเข้ามากดหัวใจแล้วก็ Comment กันรัว ๆ บอกว่าแม่สวยมากสวยเต็ม 10 สวยจริงสุด ๆ

ต่างชาติสัมผัส 'รถไฟจีน-ลาว' พาเข้างานแสดงสินค้าในคุนหมิง เปรียบเหมือนสะพานเชื่อมจีน-ลาว และโลกไว้ด้วยกัน

(ซินหัว) (15 ส.ค. 66) ที่คุนหมิง นายมูฮัมหมัด ฟาซเซิล แรบบี ชาวบังกลาเทศที่เดินทางจากลาวเข้าสู่จีนเมื่อไม่นานนี้ และเตรียมเดินทางสู่นครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เพื่อร่วมงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 และงานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกคุนหมิงแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 27 เปิดเผยว่าทางรถไฟจีน-ลาว เปรียบเหมือนสะพานเชื่อมการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนและลาว รวมถึงจีนและโลก

ทางรถไฟจีน-ลาว ได้เปิดบริการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. เป็นต้นมา ซึ่งเกื้อหนุนการเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ของลาวสู่นครคุนหมิงของอวิ๋นหนาน เมืองเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าจีน-เอเชียใต้ ครั้งที่ 7 และงานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกคุนหมิงแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค. นี้

ข้อมูลจากสถานีผ่านแดนตำบลโม๋ฮันบนพรมแดนจีน-ลาว ระบุว่าสถานีฯ ได้ตรวจสอบรับรองรถไฟจีน-ลาว ที่ขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนทั้งหมด 246 เที่ยว รวมถึงผู้โดยสารขาเข้า-ขาออกจาก 53 ประเทศและภูมิภาค จำนวน 52,888 คน เมื่อนับถึงวันที่ 15 ส.ค.

สำหรับผู้โดยสารที่สื่อสารต่างภาษาสามารถใช้บริการเครื่องแปลภาษาอัจฉริยะที่สถานีฯ ซึ่งสามารถแปลภาษาต่างๆ แบบเรียลไทม์มากกว่า 70 ภาษา รวมถึงรองรับภาษาต่างๆ ของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยในจีน แปลสลับระหว่างภาษาถิ่นกับภาษาจีนกลาง ภายใต้การผสานเทคโนโลยีวิเคราะห์ความหมายเชิงอัจฉริยะ โดยเครื่องแปลภาษานี้อำนวยความสะดวกแก่การสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้โดยสารอย่างมาก

‘เศรษฐา’ โต้ ‘ชูวิทย์’ บิดเบือนปมซื้อที่ดิน เล็งฟ้องถึงที่สุด ย้ำ!! ‘แสนสิริ’ ยึดมั่นในธรรมาภิบาลจนนำพาบริษัทเติบโต

‘เศรษฐา’ โพสต์เฟซบุ๊กโต้ ‘ชูวิทย์’ ยันซื้อที่ดินตามราคาตลาดปกติ ยกผลงาน ‘แสนสิริ’ เติบโตมีทรัพย์สิน 130,000 ล้าน กำไรปีที่ผ่านมา 4,000 ล้าน การันตีบริหารมีธรรมาภิบาล ยืนยันพร้อมให้ตรวจสอบ แต่การบิดเบือนปลุกปั่นโดยมีเป้าหมายบางประการ ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด

(16 ส.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin’ ว่า…

“ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินแปลง สุขุมวิท 55 ที่ปัจจุบันคือโครงการ คุณ บาย ยู (KHUN by YOO) และทางบริษัทแสนสิริได้ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงแล้วนั้น

ผม นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตเคยบริหารแสนสิริมากว่า 30 ปี บริษัทฯ ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง โดยที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจนเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศ เติบโตมาจนมีทรัพย์สินรวมเกือบ 130,000 ล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 4,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ จากทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น และสังคมทั่วไป น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าบริษัทแสนสิริได้ถูกบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล”

“การตรวจสอบจากทุกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และพร้อมให้ตรวจสอบ แต่การตรวจสอบจะต้องสร้างสรรค์ และทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และไม่บิดเบือน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหารบริษัทฯ ที่ดินแปลงสารสินซื้อมาตามราคาตลาดที่เหมาะสม ส่วนที่ดินแปลงทองหล่อซื้อมาในราคา ตารางวาละ 1,100,000 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดตามปกติในขณะนั้น

การกระทำใดๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน การที่ฝ่ายกฎหมายของบ้านเมืองเข้ามาตรวจสอบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องและพึงกระทำ แต่การที่บุคคลหนึ่งปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง” นายเศรษฐาระบุ

‘ตูน Three Man Down’ เกิดอุบัติเหตุ โดนรถชนท้าย พ่อค้าขายลอตเตอรี่ไม่รอช้า!! รีบปั่นมาชาร์จอย่างไว

(16 ส.ค. 66) ลุ้นกันเย็นนี้ อาจเป็นทุกขลาภ สำหรับนักดนตรีหนุ่ม ‘ตูน’ มือกีตาร์วงดัง Three Man Down (ทรีแมนดาวน์) ที่ออกมาเล่าเรื่องราวอุบัติเหตุที่เจอแต่มีติดตลกตอนท้าย ทำแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์รัว ๆ หวังได้โชคตามไปด้วย

โดย ‘ตูน’ ลงภาพรถยนต์ตัวเองที่เกิดอุบัติเหตุโดนรถคันอื่นชนท้าย พร้อมแคปชันติดขำ “รถผมโดนเสยตูดปุ้ป พี่แกรีบปั่นมาแต่ไกลเลย555” ซึ่งในภาพเป็นพ่อค้าขายลอตเตอรี่ที่ปั่นมาขายทันทีนั่นเอง

ทำเอาเอฟซีแสดงความคิดเห็นกันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น นักขายแบบร้อยเปอร์เซนต์, ก็จังหวะนี้เลขทะเบียนต้องเข้าแล้วไหม55555, พลิกวิกฤตเป็นโอกาส, เคลมไวยิ่งกว่าประกัน5555555, รู้งานสุด ๆ, ขอตามเลข 212, การตลาดแบบเชิงรุก , ไวกว่าประกัน ฯลฯ

ตร. จับมือ นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เปิดโครงการ “ห้องปฏิบัติการกฎหมาย” (Special Law Lab//YLPE : Young Lawyers-Police Engagement) สานต่อ สร้างนักกฎหมายรุ่นใหม่ ร่วมกันแลกเปลี่ยน เรียนรู้งานตำรวจตั้งแต่ต้นทาง สร้างแนวร่วมป้องกันภัยทางออนไลน์และการสืบสวนยุคใหม่

วันนี้ (16 ส.ค.66) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. พร้อมด้วย รศ.ดร.ปกป้อง ศรีสนิท คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.ณภัทร สรอัฑฒ์ รองคณบดีฯ (ฝ่ายบริหาร) และนิสิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1-4 ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 24 คน เข้าร่วมพิธี เปิดโครงการ “ห้องปฏิบัติการกฎหมาย” (Special Law Lab//YLPE : Young Lawyers-Police Engagement) ณ ห้องสารสิน อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยโครงการห้องปฏิบัติการกฎหมาย (Special Law Lab) ที่จัดขึ้นในห้วงวันที่ 16 – 25 ส.ค.66 นั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ จัดโครงการฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงในพื้นที่จริง ตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการยุติธรรม การตรวจค้น การจับกุม การสอบสวนปากคำ ฯลฯ ได้รับทราบ เรียนรู้ ทำความเข้าใจข้อกฎหมายนำไปสู่การปฏิบัติ โดยลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปราม จราจร พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ลุมพินี พญาไท พระโขนง และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตลอดจนศึกษา ดูงาน ศูนย์ควบคุม สั่งการฯ CCOC กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สำนักงานนิติเวชวิทยา , สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.), ยุทธวิธีและการยิงปืนขั้นพื้นฐาน การรับแจ้งเหตุและการควบคุม สั่งการ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวเปิดพิธีฯ และบรรยายพิเศษ โดยกล่าวว่า แต่เดิม โครงการห้องปฏิบัติการกฎหมาย (Special Law LAB) ที่ได้รับความร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง นิสิตที่เข้าร่วมโครงการให้ความสนใจเรียนรู้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี จึงได้มีการขยายผล สานต่อความร่วมมือกับ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  จึงถือเป็นอีกหนึ่งผลสำเร็จ ในความร่วมมือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติภาคภูมิใจ และจะได้ขยายผลต่อยอดไปยังมหาวิทยาลัยอื่น ในจังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ (ห้วงเดือน ส.ค.- ก.ย.) และจังหวัดต่างๆ ต่อไป

‘มดดำ’ รู้จัก ‘ครูกายแก้ว’ มานาน 20 ปี ตั้งแต่สมัยยังไม่เป็นดารา เคยถ่ายรายการเรื่องนี้ แต่ทำได้แค่ครึ่งเทป เหตุไม่มีข้อมูลมากพอ

(16 ส.ค. 66) ยังคงเป็นประเด็นดรามาที่พูดถึง ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับเรื่องราวของ ‘ครูกายแก้ว’ ที่ประชาชนหลายคนเสียงแตก มีทั้งคนที่นับถือบูชา และคนที่เห็นต่าง มีการพูดและถกเถียงกันในโลกโซเชียลมากมาย ขณะที่พิธีกรดัง ‘มดดำ คชาภา ตันเจริญ’ ตัวแม่สายมู ได้เผยถึงเรื่องนี้ ในรายการข่าวใส่ไข่ โดยเปิดเผยว่า…

"วันนั้นมดดำไปถ่ายรายการ ไม่ได้ไปบวงสรวงนะ ไปถ่ายรายการ ก็ไปกันหมด มีแจ็ค มีอะไร ก็ไปกันหมด เชื่อไหม รายการของคชาภาพาไปมู เคยทำแล้วแต่ทำไม่จบ ทำได้แค่ครึ่งเทป จนครูกายแก้วมาวันนี้ เราทำตั้งแต่เราอยู่เชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าอยู่ดี ๆ ก็มาดัง แล้วเขาบอกว่าเหรียญที่แพง ๆ ตอนนี้เท่าไหร่นะ (2,500 ใช่ไหมครับ?) เดี๋ยวคชาภาแจกฟรี อยู่ที่บ้านฉัน 250 เหรียญ” 

ท่านมีอิทธิฤทธิ์อะไร? “คือเขาเป็นนกการเวก แต่กลายเป็นที่ฮือฮา ในติ๊กต็อกบอกผีป่าจะเข้าเมือง เขาว่าอย่างนั้น ผีป่าจะวิ่งมาสิงเมือง และมีครูบอกกระแสครูกายแก้ว เหรียญขึ้นไป 2-3 พันบาท มันจะเป็นมงคลยังไง คือตัวเองเคยรู้จัก ครูกายแก้ว เมื่อสมัย 20 ปีที่แล้ว คือรู้จักที่ห้วยขวาง อ.สุชาติ เป็นคนสร้างพระพิฆเนศ ที่ห้วยขวาง เป็นคนสร้างพระตรีมูรติ แต่ปรากฏว่าลูก ๆ เขา 2 คน ได้ครูกายแก้วมาคนละองค์ แต่องค์จริง ๆ เขาบอกว่าพระธุดงค์ให้มา เป็นตำนานที่เขาเล่า ตัวเองเพิ่งไปทำรายการคชาภามา เขาบอกว่าองค์ขนาดนี้ องค์เล็ก ๆ เขาบอกว่าแล้วเราก็ไปเติมอีกเติมหางกันเอาเอง บางคนก็บอกมาจากนครวัด นครธม” หลังจากนั้นก็อ่านข่าวครูกายแก้วต่อ

และเล่าต่อว่า “เอาตรง ๆ นะ ฉันไปถ่ายรายการ คือฉันรู้จักมานาน ถ้าแอ๊บบอกไม่รู้จักไม่ได้ รู้จักมา 20 ปีแล้ว มีมานานแล้ว ตั้งแต่ฉันยังไม่เป็นดารา เมื่อก่อนคนไปไหว้ตรงตั้งฮั่วเส็ง ตรงจรัญสนิทวงศ์ เมื่อก่อนอยู่ตรงนั้น มีมานานแล้ว เป็นความเชื่อของครูกายแก้ว ซึ่งเขาเป็นรูปปั้นจริง ๆ เมื่อก่อนองค์เล็กกว่านี้อีก อยู่ที่ห้วยขวาง 20-30 ปีแล้วนะ แต่ห้วยขวางเขาไว้ข้างใน คือข้างในเยอะไปหมดเลย”

“คือเอาจริง ๆ เขาก็ไม่ได้บอกว่าการตั้งตรงนี้ถูกหรือผิด ถ้ามองให้เป็นอาร์ต แต่ สว.ไพศาล ก็ถามแล้วคนไม่ตกใจเหรอ ฉันว่านะใครหาว่าฉันเชื่อพญานาคและงมงาย อันนี้ไม่หนักกว่าเหรอ ถามว่าเคยไหว้ เคยรู้จักไหม รู้จักมา 20 ปีแล้ว เคยทำรายการคชาภา แต่ทำได้ครึ่งเทป ทำไม่เสร็จจนต้องไปถ่ายใหม่”

ทำไมถึงทำไม่เสร็จ? “มันไม่มีคอนเทนต์ มันมีเรื่องแค่นั้นแล้วจบ สมมติเราทำปู่อือลือ เรายังมีคนนี้คนนั้น ที่มาที่ไป ถูกต้องไหม แต่อันนี้เทปที่ถ่าย ถ่ายไว้ครึ่งเทป เพิ่งมาถ่ายได้เต็มเทป ตอนที่เป็นกระแส" 

‘ตั๊กแตน ชลดา’ ถูกหามส่งโรงพยาบาล ต้องแคนเซิลงานกะทันหัน พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี หลังโหมงานหนัก-ตากฝน

(16 ส.ค. 66) ทำแฟนเพลงใจหายมาก หลังนักร้องสาวเสียงดีอย่าง ‘ตั๊กแตน ชลดา’ ที่พึ่งฝ่าฟันมรสุมเรื่องราวดรามามาด้วยดี จนล่าสุด ‘สาวตั๊กแตน’ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแอดมิทด่วน พร้อมกับยกเลิกงานแบบกะทันหัน โดย 'สาวตั๊กแตน' โพสต์รูปและข้อความเอาไว้ว่า 

“หลายวันที่ผ่านมา แตนวิ่งงานทุกวันเลยค่ะ แล้วแตนตากฝนตอนปลูกต้นไม้ที่บ้านสวนด้วย พอกลับมาก็เริ่มมีไข้อ่อน ๆ แต่ก็ยังวิ่งงานได้ต่อ พอมาเมื่อวานทานยาแล้วแต่อาการไข้ไม่ลดลง แตนมีการอ่อนเพลีย ตัวร้อนมากอย่างเห็นได้ชัด เมื่อวานแตนเลยต้องมาพบคุณหมอ ปรากฏว่าไข้ขึ้น 39 คุณหมอจึงเจาะเลือดตรวจ พบว่าแตนเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ บี ที่กำลังป่วยกันเยอะอยู่ในช่วงนี้ค่ะ ตอนนี้แตนแอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาล แตนกราบขออภัยแฟนเพลง แฟนคลับ ที่ตั้งใจจะไปให้กำลังใจแตนในวันนี้ด้วยนะคะ ตอนนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ แต่ทางคุณหมอยังขอให้อยู่ดูอาการก่อนค่ะ แตนขอกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจด้วยนะคะ” ท่ามกลางความเป็นห่วงและกำลังใจของแฟนเพลง

ดับฝัน ‘พิธา’ ฮึดสู้ ระทึก…มีลุง มีเรา…เดินหน้า ‘เศรษฐา’ อาการหนัก…‘ชัยเกษม’ มีลุ้น

กำลังจะปั่นต้นฉบับ ก็ได้รับทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ทำให้สถานการณ์ไทม์ไลน์การเลือกนายกรัฐมนตรีชัดเจนขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญชี้เปรี้ยงมาแล้วว่าไม่รับเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นไว้ กรณีข้อบังคับการประชุมรัฐสภากับการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์… เมื่อศาลไม่รับพิจารณาทุกอย่างก็ตกไป ผลพวงสำคัญก็คือ โอกาสการเสนอชื่อนายพิธาได้ถูกปิดฉากลงในชั้นนี้ แต่คำถามสำคัญคือถ้าพิธาจะไปยื่นเองเพราะมีส่วนได้เสีย จะเกิดอะไรขึ้น…

วางเรื่องนี้ไว้ก่อน…

คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแถลงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ว่าน่าจะได้โหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 18 หรือ 21 ส.ค. และพรรคเพื่อไทยยืนยันเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ขณะที่ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคมั่นใจว่า… ม้วนเดียวจบ

ม้วนเดียวจบหรือม้วนเดียวจอดก็ไม่รู้… รู้แต่ว่าแต่สายข่าวของ ‘เล็ก เลียบด่วน’ 5 สายลงมติ 3 ต่อ 2 สายว่า… เศรษฐาจะสอบไม่ผ่านคะแนน 375 เสียง… เหตุผลก็เรื่องเดิมๆ ที่รู้ๆ กันคือ กรณีการซื้อขายที่ดิน กรณีการเสียภาษีของบริษัทแสนสิริ ที่คุณเศรษฐาเคยบริหารนั่นแหละ… อ๋อ เรื่องสะพานข้ามคลอง ตั้งด่านเก็บค่าตั๋วอะไรนั่นด้วย… รวมทั้งกรณีแนวคิดการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เคยพูดเอาไว้ด้วย… 

จะว่าไปแม้จะกระบวนท่าลีลาเยอะจนถูกเหน็บแนมว่าเป็น ‘เพื่อไทยการแสดง’ ก็ตาม แต่มองอีกมุมก็น่าเห็นใจพรรคเพื่อไทยอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะอ้าปากพูดอะไร ขยับตัวอธิบายเรื่องอะไรก็ถูกกองทัพด้อมส้มของจริง และด้อมส้มใส่เสื้อแดงดักคอดักทางถล่มซ้ายถล่มขวาแทบโงหัวไม่ขึ้น…

ขนาด ‘สหายใหญ่’ ภูมิธรรม เวชยชัย แม่ทัพใหญ่ที่มีทั้งสายบุ๋นสายบู๊อยู่ในตัวก็งัดวิชาออกมารับมือแทบไม่ทัน… นอกจากสารภาพว่าการจัดตั้งรัฐบาลสูตรสลายขั้วหนนี้ พรรคเพื่อไทยยอมเสียต้นทุนทางการเมืองมากมายมหาศาล เพื่ออนาคตที่ดีของบ้านเมืองจะเกิดสมัครสมานสามัคคีเลิกแบ่งสีแบ่งฝ่าย…

อยากจะเรียน ‘บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม’ ว่าเดินหน้าทำไปเถอะ ขอให้มีศรัทธาที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสมานฉันท์จริงๆ อย่ามีวาระซ่อนเร้นทำให้เป็นรูปธรรม  อย่าเอาเรื่องนายห้างดูไบมาเกี่ยวข้อง รับรองคนเชียร์อื้อ!!

วันนี้… รู้สึก ‘เล็ก เลียบด่วน’ ออกความเห็นมากไปนิด… กลับมาที่ทิศทางข่าวจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งก็ยังสรุปว่า โอกาสของเสี่ยนิด เศรษฐา มีน้อย… โอกาสที่จะตกเป็นของชัยเกษม นิติสิริ มีสูงหากสุขภาพสู้ไหว หาไม่แล้วเกมมันจะไหลไปที่พรรคอันดับ 3 เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีระกูล นาทีนี้พร้อมแล้วที่จะรับส้มหล่น…

อย่างไรก็ตาม… เชื่อกันว่าระดับเพื่อไทยคงไม่ปล่อยให้โอกาสทองผ่านเลยไปอย่างแน่นอน… หน้าฉากก็ทำวับๆ แวมๆ โหวตก่อนแบ่ง หรือแบ่งก่อนโหวต แต่นาทีนี้ก็คงส่งสัญญาณทางลึกกันแล้วว่าพรรคไหนได้กี่เก้าอี้ กระทรวงไหนที่เพื่อไทยขอสงวนสิทธิ์ ส่วนหลักการที่ปล่อยออกมาว่าไม่ให้พรรคการเมืองในรัฐบาลชุดนี้อยู่ที่กระทรวงเดิมนั้น ล่าสุดทราบว่าไม่ติดยึดแแล้ว… ทำให้พรรคภูมิใจไทยที่ยังตั้งมั่นที่จะคุมกระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวและการกีฬา คลายเครียดขึ้นมาบ้าง… ส่วนกระทรวงคมนาคมนั้นดูเหมือนจะทำใจแล้วว่า พรรคเพื่อไทยไม่ยอมปล่อยแน่…

อ๋อ สำหรับกระทรวงพลังงานที่โผเดิมจะยกให้พรรครวมไทยสร้างชาติกำกับดูแลนั้น… ล่าสุดทราบว่าพรรคเพื่อไทยโยกมาเป็นของตัวเอง แต่คนแดนไกลไม่ขัดข้องที่จะให้เจ้าสัวพลังงาน… ส่งคนมานั่งว่าการ… 

มีลุง… มีเรา… มีเจ้าสัว… มีเจ้ามือ…

ทราบแล้วเปลี่ยน!!

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ค่ายรถเมืองจีนเลือก ‘ไทย’ เป็นฐานผลิตใหญ่ ประเดิมลงทุนเฟสแรก 8.8 พันล้าน เดินหน้าดันไทยสู่ฮับ EV

(16 ส.ค. 66) สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งเน้นให้ไทยเดินตามนโยบาย 30@30 คือการตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ.2030 หรือ พ.ศ. 2573 เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub) ซึ่งขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตรถ EV หลายสัญชาติ ได้ตัดสินใจเข้ามาสร้างโรงงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

“คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ได้รายงานผลสำเร็จของการเดินทางเข้าพบกับนาย Zhu Huarong ประธานกรรมการและคณะผู้บริหาร บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด (Changan Automobile) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน เมื่อเดือน มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยได้นำเสนอภาพการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย มาตรการสนับสนุน รวมทั้งให้ความมั่นใจเรื่องความต่อเนื่องของนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ทำให้รัฐบาลจีนเห็นชอบให้บริษัทดังกล่าวยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้ว โดยมีการลงทุนในเฟสแรกมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาทั้งประเภท BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) กำลังการผลิตในระยะแรก 1 แสนคันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังกลุ่มอาเซียน รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แอฟริกาใต้ และตลาดอื่นๆ โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทยช่วงปลายปีนี้” สำนักนายกรัฐมนตรี เผย

สำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นอกจากจะมาตั้งฐานผลิตที่ประเทศไทยแล้ว บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิลยังมีแผนจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญ ซึ่งจะเป็นการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้ให้กับคนไทยอีกด้วย ซึ่งบริษัท ฉางอัน เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะ และเป็น 1 ใน 4 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน

“การที่ บริษัท ฉางอัน ตัดสินใจเลือกไทยเป็นฐานการผลิต สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทย รวมถึงศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ ที่สนับสนุนการแข่งขันอันเป็นผลงานเชิงประจักษ์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเชื่อว่าจะผลักดันให้ไทยก้าวสู่เป้าหมายการเป็นฮับ EV ได้ไม่ยาก ทั้งยังช่วยส่งเสริมลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้ พลิกโฉมประเทศไทยตามกลยุทธ์ 3 แกนขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสำหรับอนาคต” สำนักนายกรัฐมนตรี เผย

‘หนิง ปณิตา’ ยอมรับ!! ทุกวันนี้ยังอยู่บ้านหลังเดียวกับสามี ‘จิน’ โชคดีลูกสาวเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เตรียมขึ้นศาลอีกครั้ง 4 ต.ค.นี้

(16 ส.ค.66) ‘หนิง ปณิตา’ นักแสดงและผู้จัดละครดัง ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของคดีฟ้องร้องมือที่สามที่เข้ามาพัวพันจนสร้างปัญหาในครอบครัว ว่า จะขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม แต่ว่าโดยรายละเอียดยังไม่ได้ไปตามอะไรมากมาย และยังไม่ได้มีการติดต่อกลับมาจากทางใด ๆ ทั้งสิ้น ถามว่ายังเดินหน้าฟ้องไหม คือเราทำทุกอย่างตามที่ตั้งใจเอาไว้เหมือนเดิม

เรื่องกระทบจิตใจคือเราไม่ได้เป็นจุดที่เอามาทำให้รู้สึกว่ามันจะแย่ลง พอเวลามันเดินผ่านไปข้างหน้า มันก็จะเดินไปข้างหน้าได้ดีขึ้น ความโชคดีของหนิงคือ ณิริน เขาเป็นเด็กที่พยายามจะเข้าใจและปรับตัว ปรับปรุง ให้กำลังใจ วันนี้เรามองลูกเป็นหลักใหญ่ที่สุด พอมันมีตรงนี้มันก็เป็นกำลังใจ ที่ทำให้เรื่องอื่นเราพยายามมองข้ามไปหงุดหงิดก็มองข้ามไป

ถามว่าท้อไหมเหนื่อยไหม เหนื่อย รู้สึกเซ็ง รู้สึกเบื่อ แต่มันก็ไม่เอาเก็บมาเป็นอารมณ์ พอเวลาเราเห็นรอยยิ้มของลูกเรา เราเห็นความพยายามเข้าใจในหลาย ๆ เรื่องของลูกเราที่จะพยายามปรับตัวกับเรา มันทำให้เป็นเรื่องเบา และมันก็ทำให้เรามีแรงฮึดมีพลังที่จะทำเรื่องดี ๆ ออกมาทำงาน มาเจอผู้คน ใช้ชีวิตให้มันเป็นปกติ มีรอยยิ้ม กลับมาหาเงินทำงาน

หนิง ยอมรับว่า ครั้งแรกที่อธิบายเรื่องนี้ให้ลูกฟังนั้นยากมาก ไม่ได้ยากแค่ครั้งแรก มันอยู่ที่ว่าเราจะต้องประเมินให้ได้ว่าตอนนี้การพูดของเรากับวัยของเด็กมันควรจะพูดแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้หนิงเรียนรู้ก็คือ ต้องไม่คาดหวังกับสิ่งที่เราพูดไป และคิดว่าเขาจะเข้าใจ จะให้เขาเข้าใจทุกอย่างแบบที่เราเข้าใจมันไม่ง่าย

ดังนั้น เราเป็นแม่ เราก็ต้องมีความอดทนและใจเย็น ซึ่งณิรินเขาพยายามที่จะเข้าใจ และไม่ทำอะไรให้เราไม่สบายใจ สิ่งที่ทำให้เราอึ้งและทำให้เราเย็นลงได้ทุกเรื่องคือเวลาที่เขารู้ว่าเราจะมีภาวะอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกเหนื่อย เราท้อ เขาจะเดินเข้ามากอด มองหน้าแล้วบอกว่า แม่สู้ ๆ นะ หนูอยู่ตรงนี้ หนูส่งพลัง หนูกอด ๆ หนูเป็นกำลังใจให้แม่ ด้วยความสดใสของเขา

ถามว่า เคยร้องไห้ให้ลูกเห็นไหม ยังไม่เคยถึงขั้นน้ำตาไหลพราก ระยะหลังเราสองคนก็จะมีการคุยกับคุณหมอด้วยกัน มันจะมีมุมที่เขาแสดงออกมาให้เราเห็น เรามีมุมที่บางทีเราไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้แต่ประเมินแล้วว่ามุมนี้ให้ลูกรับรู้ได้ ก็ให้ลูกเห็นในมุมของความอ่อนแอของเราบ้าง

หนิง เผยว่าได้มีการไปพบจิตแพทย์ โดยไปทั้งตัวเอง ลูกสาว และคนครอบครัวทั้งหมด จริง ๆ ก่อนหน้านี้จะมีการไปคุยกับหมอเป็นระยะตั้งแต่น้องเกิดมา เพราะว่าเราอยากที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจเด็ก แต่ว่าช่วงหลังมานี้ มันจะไม่ใช่แค่หนิงและน้องอย่างเดียว มันมีคุณอา คุณยาย และคนที่อยู่รอบ ๆ ข้างหนิงที่เป็นคนสนิทของหนิงที่มีผลกับความรู้สึกของณิริน เราก็จะไปกันเป็นกลุ่ม แล้วเราก็จะมีการบ้านว่าต้องทำแบบนี้ช่วยกัน

มองว่ามันเป็นการฮีลใจกันทั้งครอบครัว หนิง ยังเผยอีกว่า ทุกวันนี้ลูกสาวยังได้เจอกับคุณพ่ออยู่เรื่อย ๆ เพราะเรายังอยู่บ้านหลังเดียวกัน ลูกกับพ่อยังมีปฏิสัมพันธ์ปกติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top