Monday, 19 May 2025
NewsFeed

ตำรวจไซเบอร์จับเครือข่ายหลอกทำงานเสริมออนไลน์ อ้างแค่กดไลก์เฟซบุ๊ก แต่เหยื่อโดนไปจุก ๆ กว่า 4 แสน

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2565 ผู้เสียหายพบโฆษณาบนเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่ารับสมัครทำงานเสริมออนไลน์ เพียงใช้เวลา 5-10 นาที สามารถได้เงิน 500 - 1,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ติดต่อพูดคุยกับมิจฉาชีพ จากนั้นได้พูดคุยกับแอดมินผ่านแอปไลน์ โดยช่วงแรก ผู้เสียหายเริ่มงานด้วยการกดไลก์ในเฟซบุ๊กแล้วได้ผลตอบแทนจริง

ต่อมา แอดมินได้ให้ผู้เสียหายทำงานถัดไปคือ การกดสั่งซื้อสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้าออนไลน์ ผ่านทางแพลตฟอร์ม SHOPEE โดยได้ส่งลิงก์เว็บไซต์ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นให้ลงทะเบียน แล้วเริ่มทำงานโดยการให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปสำรองในระบบเพื่อสั่งซื้อสินค้า ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้น เมื่อทำงานเสร็จแล้วผู้เสียหายจะได้รับเงินทุนพร้อมค่าคอมมิชชั่นคืน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อว่าได้เงินจริง อีกทั้ง มิจฉาชีพอ้างว่าผู้เสียหายได้เลื่อนระดับ จึงถูกดึงเข้ากลุ่ม VIP แล้วโดนหลอกให้โอนเงินเพิ่มขึ้น โดยมีสมาชิกหน้าม้าในกลุ่มคอยสนทนาสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 9 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 430,974 บาท 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง

ต่อมา เมื่อช่วงค่ำของ วันที่ 15 ส.ค. 2566 พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้นำกำลังชุดสืบสวนร่วมกันลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการที่ได้เปิดบัญชีธนาคารไว้สำหรับรับโอนเงินจากเหยื่อในคดีดังกล่าว จนสามารถเข้าจับกุมตัว นายเอกชัย อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” โดยควบคุมตัวได้บริเวณ หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน .กก.4 บก.สอท.1 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1
และ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 สั่งการให้ พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าร่วมประชุมหารือศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในจังหวัดเมียวดี ร่วมกับ 4 ประเทศภาคี เพื่อร่วมจัดแผนปฏิบัติการพร้อมรับมือองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

วันนี้ (16 ส.ค. 66) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) พร้อมคณะได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมศูนย์ประสานงานไตรภาคีเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งราชอาณาจักรไทย กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมแชงกรีล่า จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วมประชุม รวมทั้งผู้แทนจากกระทรวงป้องกันความสงบ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจนี้ เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจากทั้ง 3 ประเทศ คือ ไทย จีน และเมียนมา ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลอกลวงคนไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศในภูมิภาค ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายหลักหลายพันล้านบาท จึงได้มีแผนการในการร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งในครั้งนี้ได้มีผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญและเสนอความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นประเทศที่ 4 ซึ่งจะทำให้การปราบปรามอาชญากรรมซึ่งกำลังกระจายตัวไปทั่วภูมิภาคนี้ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานที่ตั้งศูนย์ประสานงาน ซึ่งคาดว่าจะตั้งศูนย์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ของไทย รวมทั้งมีการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประสานงานของแต่ละประเทศเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังมีแผนที่จะขยายความร่วมมือเพิ่มไปยังอีก 2 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา และเวียดนาม รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ตำรวจสากลและ UN ร่วมสังเกตการณ์ และหลังจากนี้จะผลักดันให้มีการปฏิบัติการร่วมกันในการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยบูรณาการร่วมกันของเจ้าหน้าที่จากประเทศภาคีทั้งหมด และโดยทางการจีนจะมีการสนับสนุนในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ รวมถึงงบประมาณและเทคโนโลยีในการปฏิบัติการต่างๆ ในการนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งค์คอลเซนเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งการประสานงานระหว่างประเทศในการเข้าช่วยเหลือเหยื่อจากการถูกหลอกลวงไปทำงานคอลเซนเตอร์ร่วมกับประเทศต่างๆ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย จีน และเมียนมา ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งสำคัญซึ่งเดินทางเข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในการปราบปรามและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การหลอกคนไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในครั้งนี้ ทางการลาวได้เห็นความสำคัญและเข้าประสานความร่วมมือเป็นประเทศที่ 4 จะทำให้การดำเนินการประสานงานของทุกประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากการประชุมในครั้งนี้แล้ว จะทำให้การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเป็นโครงร่างที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งแผนปฏิบัติงานร่วมกันของทุกประเทศ จากนี้จะเร่งขับเคลื่อนให้การจัดตั้งศูนย์ประสานงานให้เกิดขึ้นได้โดยเร็ว และมีการบูรณาการร่วมกันของประเทศภาคีเข้าปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อตอบสนองต่อการเกิดขึ้นของอาชญากรรมให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

‘บิ๊กตู่’ เผยความในใจ ไม่ได้เข้ามาเพื่อทุจริต แต่เข้ามาทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองด้วยความตั้งใจ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์รัฐประหาร ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 พร้อมยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาในการทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ตนและคณะทำงานทุกท่านนั้นไม่ได้เข้ามาเพื่อทำการทุจริต แต่เข้ามาทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองด้วยความตั้งใจ จากใจจริง โดยระบุว่า…

“วันแรกวันที่ 22 บ้านผมเนี่ย ร้องไห้ทั้งบ้าน เอาล่ะ พูดไปเดี๋ยวก็ไม่ดี ถ้าไม่อยากให้ผมเป็นอย่าง งี้เลย แต่ผมบอกไม่ได้ ต้องทํา แล้วผมก็ไม่ได้บอกใคร พี่ ๆ ผมบอกทีหลังทั้งนั้นแหละ แต่มันไม่ได้ไง วันหน้าเกษียณก็โดนด่าอีก ปล่อยให้เป็นอย่างงี้ได้ไง? เพราะฉะนั้น อย่ารอเวลา เวลาของเรามันใกล้จะหมดแล้ว คําว่าหมดก็คือหมดจากเวทีโลก ถ้าเรายังปล่อยให้เป็นอยู่แบบเดิม มันจะกลับมาอีกไม่ได้เลย เราจะเป็นประเทศที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง วันนี้ไม่ถึงขั้นนั้น เราเริ่มเดินหน้าได้แล้ว ด้วยความร่วมมือของทุกท่านในปัจจุบัน ใครก็ตามที่ยังเฉื่อยแฉะ ยังรอเวลา ผมว่าผมไม่ปล่อยให้ท่านรออยู่แล้วนะ”

“การทุจริตผิดกฎหมาย อะไรที่ร่ำลือกันมาว่าวันนี้ก็มีอยู่ 50% ส่ง คสช. สลึงพวกผมยังไม่ได้เลย ผมไม่มีต้นทุน ไม่มีต้นทุนในการทํางาน ไม่ได้เสียเงินสักสลึงเข้ามาทํางาน เพราะฉะนั้นผมไม่ต้องการที่จะเอากําไรกลับไป…ไม่มี เพราะฉะนั้นผมยืนยันว่าพวกเราเข้ามาด้วยความตั้งใจ ทุกคนเข้ามาด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิ ความรู้ความสามารถ เกียรติยศของแต่ละท่าน ผมเข้ามาด้วยชีวิต นะ ผมแตกต่าง…ผมอาจจะมีคุณวุฒิหรือมีความรู้ความสามารถไม่เท่าบรรดาพี่ ๆ แต่ผมก็เอาชีวิตเข้ามา ถ้าผมทํา 22 พฤษภาคม ทําจัดระเบียบไม่ได้ ผมก็กลายเป็นกบฏ แล้วผมได้อะไรขึ้นมา นั่นแหละคือสิ่งที่อยากให้ทุกคนรู้จิตใจผม เพราะผมปล่อยไปไม่ได้ เพราะผมสงสารลูกหลานผมในวันข้างหน้า เขาจะอยู่กันยังไง แล้วประเทศไทยมันจะเข้มแข็งกับเขาได้ยังไง…”

‘บีม พลังใบ’ ย่องไม่เงียบกลางดึก เปิดน้องชายอัปไซส์บึ้ม

(16 ส.ค.66) หลายคนเชื่อว่า ‘ลีลาสำคัญกว่าขนาด’ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปฏิเสธยากว่าผู้ชายที่มีขนาดน้องชายใหญ่ยาวนั้นมีแต้มต่อมากกว่า 

หลายงานวิจัยพบว่า ความใหญ่ยาวของน้องชายส่งผลต่อความสุขบนเตียง ยิ่งน้องชายใหญ่ยาวมากเท่าไร ยิ่งสร้างความพึงพอใจให้แก่คู่นอนได้มากขึ้นเท่านั้น ทว่าเรื่องของขนาดสำหรับคนไทยเราไม่นิยมเปิดเผย ส่วนหนึ่งอาจเป็นด้วยสาเหตุที่ค่าเฉลี่ยน้องชายของชายไทยเล็กกว่าหลายชาติในเอเชีย และตกอยู่ในอันดับท้ายตาราง (เทียบกับขนาดน้องชายผู้ชายโซนยุโรปและแอฟริกา)

แต่สำหรับนักแสดงหนุ่มมาดกวน ‘บีม - ศรัณยู ประชากริช’ เจ้าของฉายา ‘บีม พลังใบ’ เรื่องขนาดไม่จำเป็นต้องเขิน แถมเจ้าตัวยังปวารณาตัวเป็นกูรูชวนคุยเรื่องทางเพศและเรื่องบนเตียงให้ทุกคนได้เปิดโลก 18+ แบบเปิดเผย

ล่าสุด หนุ่มบีม ย่องไม่เงียบเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ศูนย์สุขภาพเพศชาย Men’s Health by Masterpiece Hospital ที่เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 24.00 น. และด้วยความที่คลินิกเปิดให้บริการนอกเวลาจนถึงเที่ยงคืน จึงสามารถมาได้ทุกวันทุกเวลา เช่น หลังเลิกงาน หรือเลือกมาช่วงดึกๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่น หรือแม้กระทั่งผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบความพลุกพล่าน ทำให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการจริงๆ 

และในครั้งนี้เจ้าตัวถือโอกาสทำหัตถการเสริมขนาดน้องชายด้วย Filler เพราะมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ถือเป็นดาราชายคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่กล้ายืดอกบอกทุกคนว่าอัปขนาดน้องชาย แถมทำเสร็จยังคุยฟุ้งว่า ไม่เจ็บ สบาย แถมยังโล่ง สามารถเดินและทำกิจกรรมทุกอย่างได้ตามปกติ 

ส่วนกิจกรรมบนเตียง เจ้าตัวตอบ...ขอเวลากลับไปทำการบ้านกับภรรยาก่อน ค่อยกลับมาเฉลย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยออนไลน์ แก็งคอลเซ็นเตอร์ทำตัวเป็นปลิง หลอกดูดเลือดนักข่าว สูญเงิน 1.2 ล้าน

สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.  และ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. / หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ  พล.ต.ท.ธัชชัย  ปิตะนีละบุตร  ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน เนื่องจากในช่วงนี้ มีคดีแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้นักข่าวติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน สุดท้ายนักข่าวสูญเงินไป 1.2 ล้าน  จึงได้ร่วมกันแถลงข่าวให้ประชาชนทราบ  เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.ชูศักดิ์  ขนาดนิด  ผบก.ตอท.  กล่าวว่า  กรณีนี้ได้มีคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หาเหยื่อแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน หลอกให้อัพเดทข้อมูลการชำระภาษีที่ดิน  จากนั้นคนร้ายได้ให้เหยื่อเพิ่มเพื่อนไลน์  และให้กดลิงก์เข้าเว็บไซต์กรมที่ดินปลอม  ต่อมาให้กดดาวน์โหลดที่ข้อความโฆษณา(Banner) ตรากรมที่ดิน  เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อ คนร้ายได้ให้เหยื่อดำเนินการตามขั้นตอน  โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลของเหยื่อ และให้เหยื่อยืนยันตัวตน โดยให้เหยื่อกรอกข้อมูลรหัสส่วนตัวที่ตั้งขึ้นสำหรับเข้าแอปพลิเคชัน เป็นตัวเลข จำนวน 6 ตัว จำนวน 2 ครั้ง เพราะจะใช้รหัสนี้ทุกครั้งในการเข้าแอปพลิเคชัน (ทำให้เหยื่อหลงไปตั้งรหัสซ้ำกับแอปพลิเคชันธนาคารจริงหรือตั้งรหัสแอปพลิเคชันธนาคารตรงกับ วันเดือนปีเกิด หรือเลขโทรศัพท์ หรือบัตรประชาชน) แล้วให้กดยินยอมที่หน้าจอ 3 จุด จากนั้นหน้าจอโทรศัพท์ของเหยื่อปรากฏการทำงานเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยคนร้ายได้ชวนเหยื่อคุยและบอกให้รอจนครบ 100% ระหว่างชวนคุยนั้น คนร้ายจะนำรหัสที่ได้ หรือหมายเลขโทรศัพท์ หรือวันเดือนปีเกิดกดเข้าแอปธนาคาร หรือหลอกให้เหยื่อกดเข้าแอปธนาคารด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อจะได้เห็นเลขรหัส จากนั้นคนร้ายได้หลอกให้เหยื่อสแกนใบหน้าโดยอ้างว่ายืนยันข้อมูลบุคคลและอัพเดทข้อมูลในกรมที่ดิน แต่ความจริงเป็นการปรับยอดการโอนในแอปให้สูงขึ้นหรือโอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง แล้วคนร้ายก็จะโอนเงินออกจากบัญชีของเหยื่อออกไป  รวมทั้งได้ทำรายการถอนเงินสดจากบัตรเครดิตมาใส่ในบัญชีธนาคาร แล้วถอนเงินออกไปจนหมด

จุดสังเกต
1. ของปลอม
1.1 ไลน์เป็นชื่อบัญชีส่วนบุคคล และจะไม่ขอเพิ่มเพื่อนโดยเจ้าหน้าที่
1.2 นามสกุลของโดเมนของเว็บไซต์ มักลงท้ายด้วย .cc และไม่ได้ให้โหลดผ่าน Google Play (ให้กด 3 จุดด้านล่างขวา และบอกให้กดโหลด “ช่องทางอื่น” หรือ “chrome”)
1.3 ไม่สามารถกดเมนูปุ่มใดๆได้ ยกเว้นปุ่มเมนูที่คนร้ายบอก
2. ของจริง
2.1 ไลน์เป็นชื่อ Smart Lands ซึ่งเป็นบัญชีทางการ (Official) ไม่สามารถโทรคุยกับคนทั่วไปได้
2.2 แอปพลิเคชันของจริงจะโหลดได้จาก Google Play หรือ App store เท่านั้น
2.3 สามารถกดเมนูเพื่อเข้าไปยังหน้าจอต่างๆได้ตามปกติ

วิธีป้องกัน
1. หาช่องทางตัดสาย แล้ว “เช็ค ก่อน เชื่อ” คือโทรหาเบอร์ call center หน่วยงานที่คนร้ายแอบอ้างก่อนว่า “จริงหรือไม่” กรมที่ดินเบอร์ สายด่วนกรมที่ดิน หมายเลข 02-141-5555 หรือ กรมพัฒนาธุรกิจ เบอร์  1570, 02 528 7600 หรือ หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เบอร์ 1129 และ การไฟฟ้านครหลวง เบอร์ 1130 ซึ่งเป็น ซึ่งเป็น 3 แอป ยอดนิยมในการหลอก เพื่อสอบถามว่ามีจริงหรือไม่  หรือโทรมาที่ 1441 ก่อนดำเนินการใดๆ  
2. ไม่กดลิงก์ใน SMS หรือไลน์แปลกปลอม ที่เราไม่รู้จักตัวจริงหรือไลน์ทางการของหน่วยงานนั้นมาก่อน และที่สำคัญ อย่าติดตั้งแอปพลิเคชัน ใดๆ ตามคำแนะนำเป็นอันขาด หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ      ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play หรือ Apple Store  โดยเข้าไปค้นหา “ชื่อ” ด้วยตนเอง ห้ามบันทึกลิงก์(Copy) จากคนที่เราไม่รู้จักให้มาแล้วนำไปวางในช่องเว็บเบราว์เซอร์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชัน

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า สำหรับคดีคุณประวีณมัย บ่ายคล้อย นักข่าวช่อง 3 ที่โดนคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์แล้วโอนเงินออกไปนั้น ถือได้ว่าคุณประวีณมัยฯ รู้ตัวว่าถูกหลอกและสามารถโทรศัพท์ไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินของธนาคาร(สายด่วนธนาคาร)  เพื่อระงับบัญชีม้าไว้ได้อย่างรวดเร็ว (ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566) จากนั้นได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ภาษีเจริญ ภายในเวลา 72 ชม.  และพนักงานสอบสวนได้มีหนังสือภายในเวลาไม่เกิน 7 วัน สั่งให้ธนาคารอายัดเงินไว้  ทำให้สามารถอายัดบัญชีได้ทันบางส่วน จากนั้นได้มีการส่งเรื่องมาจาก บก.สอท.1 เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนต่อ ซึ่งขณะนี้ บก.สอท.1 ได้ดำเนินการอายัดบัญชีม้าทั้ง 6 แถว รวม 24 บัญชี ไว้ และได้เรียกเจ้าของบัญชีทุกบัญชีให้มาชี้แจง เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายอาญาต่อไป
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน   จึงขอแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าปัจจุบันยังมีคนร้ายแก็งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างกรมที่ดิน ตั้งแต่เดือน มี.ค.2566 ถึงปัจจุบัน มีกว่า 800 เคส โดยเฉพาะเดือน ก.ค.2566 ที่ผ่านมา มีการหลอกหลวงโดยวิธีการดังกล่าวมากถึง 190 เคส เพื่อให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์เพื่อโอนเงินออกไป และยังมีภัยออนไลน์ที่คนร้ายได้พัฒนาวิธีการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก และเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่  สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com    Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์  หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com

‘บก.ผู้จัดการ’ สวนกลับ ‘ชูวิทย์’ ไม่มีสิทธิ์เรียกคนอื่น “ลูกกระจ๊อก”

จากกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉ!! ‘เพื่อชาติ ครั้งสำคัญ’ โดยมีเป้าหมายโจมตี นายเศรษฐา ทวีสิน และบริษัทแสนสิริ พร้อมกับฉวยโอกาสแคนนอน แซะ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.66 นั้น…

มีช่วงหนึ่งระหว่างการเตรียม ‘พร็อบ’ ประกอบฉาก แล้วเรียกหา ‘นักข่าวผู้จัดการ’ เป็นระยะ เมื่อนักข่าวผู้จัดการแสดงตน ก็กล่าววาจาดูแคลนว่าเป็นแค่ “ไอ้ลูกกะจ๊อก” พร้อมถามหา ‘สนธิ’ ทำไมไม่มาเอง ส่งลูกกระจ๊อก มาทำไม รวมถึงไล่คุกคามนักข่าวท่านดังกล่าวออกจากเวที ว่า “ไสหัวไป”

ส่วนนักข่าวท่านดังกล่าวก็ได้มีการโต้ตอบ พร้อมมาอธิบายยืนยันการมาทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่จะซักถามหาความจริง จนเกิดการปะทะคารมกลางเวทีแฉอย่างที่เป็นคลิปในคอมเมนต์

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการแต่งกายใน 'ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก' ชุดต้องเป๊ะ!! 'หนวดเครา-ผมเผ้า' ต้องเนี้ยบ ฝ่าฝืนถูกปรับเหยียบหมื่น

(16 ส.ค. 66) เพจ 'ทันโลกกับ Trader KP' ได้เผยเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการแต่งกายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) ที่นักลงทุนยังต้องบอกว่า ‘สุดเนี้ยบ!’ ไว้ว่า...

ใครจะรู้ว่าภาพลักษณ์ที่เราเห็นกันในหนังว่าตลาดหุ้นมีแต่คนเนี้ยบและสุภาพเรียบร้อย จะเป็นกฎระเบียบที่เข้มงวดและอาจมีค่าปรับสูงถึง 9,000 บาทหากเราไม่สวมสูท ผูกไทด์เข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก

ตามคำกล่าวที่อยู่ในหลักจรรยาบรรณของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กล่าวว่า “เสื้อผ้าทุกชิ้นจะต้องรีดให้ไม่มีรอยยับให้เห็น”

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) หรือที่นักลงทุนรู้จักกันในนาม NYSE เป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา อาคารของตลาดหลักทรัพย์ตั้งอยู่มุมถนนวอลล์สตรีท (Wall Street) จึงมักเรียกกันว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

👨🏻‍💼 การแต่งกายของผู้ชาย
สำหรับนักลงทุนและพนักงานผู้ชายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะต้องดำเนินการตามกฎการแต่งกายต่อไปนี้...

👉 เสื้อเชิ้ตคอปกติดกระดุมทุกเม็ด
👉 ผูกไทด์ให้แน่น ไม่หละหลวมเกินไป
👉 กางเกงขายาว ได้แก่ กางเกงสูท หรือ กางเกงลำลอง
👉 แจ็กเก็ตแขนยาว ได้แก่ สูท แจ็กเก็ต เบลเซอร์ หรือแจ็กเกตสำนักงานธรรมดา
👉 เสื้อเชิ้ตกอล์ฟ หรือ เสื้อโปโลมีปกหรือคอเต่า
👉 เล็มหนวด เคราให้ดูเรียบร้อย

👩🏻‍💼 การแต่งกายของผู้หญิง
สำหรับนักลงทุนและพนักงานผู้หญิงในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะต้องดำเนินการตามกฎการแต่งกายต่อไปนี้....

👉 เสื้อเบลาส์ เสื้อเชิ้ต หรือสเวตเตอร์ที่ดูเหมาะสม
👉 สวมใส่กระโปรงหรือเดรสยาว
👉 กางเกงสูทขายาว 
👉 ถุงน่อง (ในบางกรณี)

👨🏼‍🦰 👱🏼‍♀️ กฎแต่งกายร่วมกัน
แม้จะมีกฎระเบียบที่ดูเนี้ยบเป็นอย่างมาก แต่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กยังมีกฎการแต่งกายที่ทุกเพศต้องปฏิบัติร่วมกันก็แก่การสวมรองเท้าที่จะต้องมีส้นและปลอดภัยสำหรับการเดินในตลาดหุ้น

เนื่องจากในอดีตเมื่อถึงเวลาที่ตลาดหุ้นเริ่มวุ่นวาย เทรดเดอร์หลายคนจะเริ่มถอดร้องเท้าทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงานและวิ่งไปมาจนทำให้ดูไม่สุภาพเรียบร้อย

💸 ค่าปรับ
หากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กได้วางไว้จะต้องเสียค่าปรับสูงถึง 250 ดอลลาร์ หรือเกือบ 9,000 บาทในครั้งแรก และหากมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบซ้ำอีกครั้งจะต้องเสียค่าปรับสูงถึง 500 ดอลลาร์ หรือเกือบ 17,500 บาทในครั้งที่สอง พร้อมค่าปรับจะมากขึ้นและอาจถูกแบนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กก็เป็นได้

📌หากใครที่อยากไปเยี่ยมชมตลาดหุ้นนิวยอร์กไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากสมาชิก NYSE จะมีการมอบความรู้แก่ผู้เยี่ยมชมเกี่ยวกับระเบียบการแต่งกายก่อนเข้าชมอย่างเข้มงวด

'มาตาลดา' ปังยันโค้งสุดท้าย กวาดเรตติ้งตอนจบพุ่งถล่มทลาย ยอดดูสดออนไลน์สูงถึง 1.8 ล้านคน ได้ใจแฟนละครไปเต็มๆ

(16 ส.ค.66) จบลงไปแล้วกับละครน้ำดีอีกหนึ่งเรื่อง สำหรับ ‘มาตาลดา’ ที่ออกอากาศทางช่อง 3HD ละครที่ทำให้หัวใจใครหลายพองโต กับหญิงสาวที่ชื่อ ‘มาตา’ หญิงสาวแสนซ่อ แม้ในโลกนี้จะเต็มไปด้วยความโหดร้าย แต่ยังมีเธอที่มองโลกในแง่ดี เต็มไปด้วยพลังของความใจดีของเธอ ที่ได้รับกระแสความนิยมตั้งแต่เปิดตัวจนจบ

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก Maker Family ได้มีการเปิดเผยเรตติ้งตอนจบ ที่ถูกออกอากาศเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่กวาดทั้งเรตติ้ง และหัวใจของแฟนละครไปอย่างถล่มทลายแบบทั่วประเทศ ด้วยการกวาดเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศสูงถึง 5.75 เลยทีเดียว ยอดดูสดออนไลน์ 1.8 ล้านคน และยอดดูย้อนหลังผ่าน 3Plus 118 ล้านวิว

พร้อมกับระบุแคปชันทิ้งท้ายไว้อีกว่า "เราจะไม่บอกลา เพราะเราจะรักกันตลอดไปเนอะชาวมาตา #มาตาลดาตอนจบ รักที่สุดเลยนะ คุณนั่นแหละ คุณคนดูใจดี ขอบคุณนะคะ"

‘จุลพันธ์’ ห่วงร่าง กม.ค้างท่อถูกตีตก เหตุตั้ง รบ.ใหม่ล่าช้า เร่ง ‘วันนอร์’ หาทางแก้ ดันร่าง กม.เป็นประโยชน์ได้ไปต่อ

‘สส.เพื่อไทย’ ห่วง ร่าง กม.ค้างท่อ ถูกตีตก หลังเกินเวลาตาม รธน.กำหนด เหตุ ตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า เร่ง ‘วันนอร์’ หาทางแก้ ขณะนี้ ‘สส.ก้าวไกล’ แนะบรรจุกระทู้เรื่องเบี้ยยังชีพฯ โดยไม่ต้องรอ ครม.ใหม่

(16 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ เปิดให้ สส.หารือถึงกระบวนการทำงานของสภาฯ โดยเฉพาะการยืนยันร่างกฎหมายที่ค้างในสภาฯ ชุดที่ 25 ที่อาจจะเกิดปัญหา หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังล่าช้า

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือว่า กระบวนการยืนยันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่ค้างในสภาฯ ชุดที่ 25 โดยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 147 กำหนดกรอบให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ตั้งใหม่ภายหลังการเลือกตั้ง ยืนยันร่างกฎหมาย ภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันเรียกประชุมรัฐสภาครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง คือ 3 กรกฏาคม ดังนั้น จะครบกำหนด คือ 31 สิงหาคม แต่ขณะนี้กระบวนการโหวตนายกฯ ยังไม่แล้วเสร็จ หากต้องรอกระบวนการมี ครม.ใหม่อาจจะเกินกำหนดเวลาดังกล่าว ทั้งที่มีกฎหมายสำคัญหลายฉบับค้างอยู่ อาทิ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ..ศ..., ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม, ร่าง พ.ร.บ.ประมง เป็นต้น

ทั้งนี้ ตนขอให้นายวันมูหะมัดนอร์ พิจารณาใช้กลไกของสภาฯ คือ นัดประชุมตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อทำหนังสือในนามความเห็นชอบจากทุกพรรคการเมือง ที่มีความจำเป็นให้ ครม.รักษาการยืนยันร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ทุกฉบับ โดยไม่ปัดตก ซึ่งตนมองว่าจะเป็นทางออกที่ดีและร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์จะเดินหน้าได้

ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือขอให้สภาฯ เร่งรัดการตั้งกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) 35 คณะ เพื่อให้เป็นช่องทางการทำงานของสภาฯ โดยไม่ต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เนื่องจากมีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่รอเวลาไม่ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของร่างกฎหมายที่รอการยืนยัน พบว่ามีร่างกฎหมายที่ภาคประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อสภาฯ เช่น ร่างกฎหมายชนเผ่า

ทั้งนี้ ตามระเบียบทราบว่าภาคประชาชนไม่ต้องเข้าชื่อเพื่อเสนอใหม่ แต่ผู้เสนอร่างกฎหมายนั้นต้องยืนยันต่อการเสนอต่อสภาฯ จึงขอให้ประธานสภาฯ พิจารณาทำหนังสือส่งถึงประชาชนที่ริเริ่มส่งร่างกฎหมายต่อสภาฯทุกคน เพื่อให้มายืนยันต่อสภาฯ ตามกรอบที่กำหนด

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม มาตรา 1448 และมีเพิ่มอีก 68 มาตรา ต่อสภาฯ ซึ่งผ่านการรับฟังความเห็นของประชาชนจำนวนมาก เพราะไม่ต้องการรอการยืนยันจาก ครม.ชุดใหม่ ดังนั้น ขอให้พิจารณาเร่งรัดการตรวจสอบและบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ โดยเร็ว

ด้านนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือให้สภาฯ พิจารณาบรรจุวาระกระทู้ถามสด โดยไม่ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เนื่องจากขณะนี้มีประเด็นที่เป็นปัญหาของประชาชนที่ต้องการคำชี้แจงจากรัฐบาลชุดรักษาการ เช่นเบี้ยงยังชีพผู้สูงอายุที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ อยากให้เชิญรัฐมนตรีมาชี้แจง ดังนั้นขอให้พิจารณาดำเนินการในการประชุมคราวหน้าโดยทันที

ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ประเด็นที่เป็นปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน ตนเห็นด้วยและจะรับไปพิจารณา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top