‘หนิง ปณิตา’ ยอมรับ!! ทุกวันนี้ยังอยู่บ้านหลังเดียวกับสามี ‘จิน’ โชคดีลูกสาวเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เตรียมขึ้นศาลอีกครั้ง 4 ต.ค.นี้

(16 ส.ค.66) ‘หนิง ปณิตา’ นักแสดงและผู้จัดละครดัง ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของคดีฟ้องร้องมือที่สามที่เข้ามาพัวพันจนสร้างปัญหาในครอบครัว ว่า จะขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม แต่ว่าโดยรายละเอียดยังไม่ได้ไปตามอะไรมากมาย และยังไม่ได้มีการติดต่อกลับมาจากทางใด ๆ ทั้งสิ้น ถามว่ายังเดินหน้าฟ้องไหม คือเราทำทุกอย่างตามที่ตั้งใจเอาไว้เหมือนเดิม

เรื่องกระทบจิตใจคือเราไม่ได้เป็นจุดที่เอามาทำให้รู้สึกว่ามันจะแย่ลง พอเวลามันเดินผ่านไปข้างหน้า มันก็จะเดินไปข้างหน้าได้ดีขึ้น ความโชคดีของหนิงคือ ณิริน เขาเป็นเด็กที่พยายามจะเข้าใจและปรับตัว ปรับปรุง ให้กำลังใจ วันนี้เรามองลูกเป็นหลักใหญ่ที่สุด พอมันมีตรงนี้มันก็เป็นกำลังใจ ที่ทำให้เรื่องอื่นเราพยายามมองข้ามไปหงุดหงิดก็มองข้ามไป

ถามว่าท้อไหมเหนื่อยไหม เหนื่อย รู้สึกเซ็ง รู้สึกเบื่อ แต่มันก็ไม่เอาเก็บมาเป็นอารมณ์ พอเวลาเราเห็นรอยยิ้มของลูกเรา เราเห็นความพยายามเข้าใจในหลาย ๆ เรื่องของลูกเราที่จะพยายามปรับตัวกับเรา มันทำให้เป็นเรื่องเบา และมันก็ทำให้เรามีแรงฮึดมีพลังที่จะทำเรื่องดี ๆ ออกมาทำงาน มาเจอผู้คน ใช้ชีวิตให้มันเป็นปกติ มีรอยยิ้ม กลับมาหาเงินทำงาน

หนิง ยอมรับว่า ครั้งแรกที่อธิบายเรื่องนี้ให้ลูกฟังนั้นยากมาก ไม่ได้ยากแค่ครั้งแรก มันอยู่ที่ว่าเราจะต้องประเมินให้ได้ว่าตอนนี้การพูดของเรากับวัยของเด็กมันควรจะพูดแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้หนิงเรียนรู้ก็คือ ต้องไม่คาดหวังกับสิ่งที่เราพูดไป และคิดว่าเขาจะเข้าใจ จะให้เขาเข้าใจทุกอย่างแบบที่เราเข้าใจมันไม่ง่าย

ดังนั้น เราเป็นแม่ เราก็ต้องมีความอดทนและใจเย็น ซึ่งณิรินเขาพยายามที่จะเข้าใจ และไม่ทำอะไรให้เราไม่สบายใจ สิ่งที่ทำให้เราอึ้งและทำให้เราเย็นลงได้ทุกเรื่องคือเวลาที่เขารู้ว่าเราจะมีภาวะอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกเหนื่อย เราท้อ เขาจะเดินเข้ามากอด มองหน้าแล้วบอกว่า แม่สู้ ๆ นะ หนูอยู่ตรงนี้ หนูส่งพลัง หนูกอด ๆ หนูเป็นกำลังใจให้แม่ ด้วยความสดใสของเขา

ถามว่า เคยร้องไห้ให้ลูกเห็นไหม ยังไม่เคยถึงขั้นน้ำตาไหลพราก ระยะหลังเราสองคนก็จะมีการคุยกับคุณหมอด้วยกัน มันจะมีมุมที่เขาแสดงออกมาให้เราเห็น เรามีมุมที่บางทีเราไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้แต่ประเมินแล้วว่ามุมนี้ให้ลูกรับรู้ได้ ก็ให้ลูกเห็นในมุมของความอ่อนแอของเราบ้าง

หนิง เผยว่าได้มีการไปพบจิตแพทย์ โดยไปทั้งตัวเอง ลูกสาว และคนครอบครัวทั้งหมด จริง ๆ ก่อนหน้านี้จะมีการไปคุยกับหมอเป็นระยะตั้งแต่น้องเกิดมา เพราะว่าเราอยากที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจเด็ก แต่ว่าช่วงหลังมานี้ มันจะไม่ใช่แค่หนิงและน้องอย่างเดียว มันมีคุณอา คุณยาย และคนที่อยู่รอบ ๆ ข้างหนิงที่เป็นคนสนิทของหนิงที่มีผลกับความรู้สึกของณิริน เราก็จะไปกันเป็นกลุ่ม แล้วเราก็จะมีการบ้านว่าต้องทำแบบนี้ช่วยกัน

มองว่ามันเป็นการฮีลใจกันทั้งครอบครัว หนิง ยังเผยอีกว่า ทุกวันนี้ลูกสาวยังได้เจอกับคุณพ่ออยู่เรื่อย ๆ เพราะเรายังอยู่บ้านหลังเดียวกัน ลูกกับพ่อยังมีปฏิสัมพันธ์ปกติ