Tuesday, 7 May 2024
กรุงเทพมหานคร

‘อรรถวิชช์’ เสนอใช้งบปีสุดท้าย ฟื้น ‘โฉนดชุมชน’ เสริมทางเลือกให้ ‘โครงการบ้านมั่นคง’ ริมคลอง

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...วันนี้ผมกับพี่ สมนึก จันทร์เฉิด พรรคกล้า หลักสี่ มีโอกาส เข้ารับฟังปัญหาประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ โดยพบว่าบางชุมชน ไม่พร้อมเข้าโครงการ ‘บ้านมั่นคง’ เพราะรับภาระค่าสร้างบ้านสร้างใหม่ ที่ต้องผ่อนราว 4 แสนบาท ยาว 20 ปี ไม่ไหว

ทางชาวบ้านยินดีรื้อถอนส่วนที่รุกล้ำคลองสาธารณะ โดยพร้อมจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ เก็บเงินกันเองเพื่อซ่อมแซมบ้าน และพัฒนาพื้นที่ส่วนกลาง ถังส้วม บ่อบำบัด ต่างๆ แต่ขอไม่รื้อปลูกใหม่ทั้งหลังได้หรือไม่ ซึ่งจะทำให้เงินผ่อนถูกลงถึง 1ใน 4 ของโครงการบ้านมั่นคงในปัจจุบัน

ทั้งสายคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว มีหลายประเภท ส่วนที่ยังอยู่ในวัยทำงาน ก็สามารถรื้อบ้านทั้งหลัง สร้างใหม่ได้ ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง แต่ส่วนที่พ้นวัยทำงานประจำแล้ว ให้ผ่อนแบบบ้านใหม่ทั้งหลัง เค้าไม่ไหว แต่เค้าพร้อมจะปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน และพัฒนาพื้นที่ส่วนกลาง บ่อส้วม บ่อบำบัด จ่ายค่าเช่าแก่กรมธนารักษ์ แบบนี้เค้ารับไหว ซึ่งมันก็คือโครงการ ‘โฉนดชุมชน’ ที่ ปชป.เคยหาเสียงไว้ และเคยทำจริงแล้ว 1 โครงการในเขตกทม.ยุคนายกอภิสิทธิ์

'ผู้ว่าฯ กทม.' หนุน!! รับความหลากหลายทางเพศวิถี ไม่บังคับแต่งชุดเครื่องแบบ ขรก.ตามเพศกำเนิด

Pride Month 2022 สามย่านมิตรทาวน์ เนรมิตรพื้นที่สีรุ้ง เข้าใจ เท่าเทียม ยอมรับความหลากหลายทางเพศวิถี

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดงาน Pride Month 2022 ที่สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งได้ประกาศความเป็น Iconic LGBTQ+ Landmark ภายใต้แคมเปญ Samyan Mitr Pride 100% Love เพราะความรักมีหลากหลาย เนรมิตพื้นที่สีรุ้ง สร้างแรงบันดาลใจของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศไทย เชิญชวนให้มาเช็คอินแบบ Pride Life พร้อมตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์คสนับสนุนความเท่าเทียมและความภูมิใจในตัวเอง จัดเต็มกับ Pride Walkway เพิ่มดีกรีสีสันแห่งสายรุ้งแบบเต็มพิกัดกับทางม้าลายสีรุ้ง ทางเดินสีรุ้ง รวมถึงการประดับไฟสีรุ้ง บริเวณทางเข้าหน้าศูนย์การค้า และอุโมงค์สามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย. 2565 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับสัญลักษณ์ รุ้ง 6 สี เริ่มมาจาก กิลเบิร์ต เบเคอร์ นักเคลื่อนไหว และศิลปินผู้ออกแบบธงสีรุ้ง มาจากแนวคิดที่ว่ากลุ่มหลากหลายทางเพศ ควรมีธงเป็นของตัวเอง และที่เลือกใช้สีรุ้งเพราะต้องการสะท้อนความหลากหลายได้ดีที่สุด ธงรุ้ง 6 สี ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มิถุนายน 1978 โดยมีนิยามความหมายของแต่ละสี ดังนี้ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์แห่งความหวัง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า หมายถึง ศิลปะ สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณ

ทั้งนี้ นโยบายด้าน LGBTQ+ ในกทม. หรือกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย 214 ข้อ โดยได้รับการยอมรับผ่านความเข้าใจจาก กทม. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ประชาชนได้รับการบริการอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ด้วยความเข้าใจในความอ่อนไหวทางเพศ (gender sensitivity) และความเท่าเทียมทางเพศ การยอมรับความหลากหลายทางเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศในสังคมไทยยังคงมีเงื่อนไข ในฐานะหน่วยงานรัฐของประชาชนและนายจ้างของข้าราชการ กทม. การยอมรับและเข้าใจถึงความหลากหลายเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับภาครัฐไทยให้ทัดเทียมกับภาคเอกชนหรือเครือข่ายต่าง ๆ นอกจากเรื่องความหลากหลายทางเพศวิถีแล้วยังมีเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่หน่วยงาน กทม. ต้องให้ความสำคัญ สามารถริเริ่มได้โดย

‘ชัชชาติ’ เผยกทม. พบเสพกัญชาดับ 1 ราย ยังนอนร.พ.อีก 3 มีเด็กอายุ 16 ด้วย

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยข้อมูลสำนักการแพทย์ พบผู้ป่วยใช้กัญชามากเกินขนาดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 4 ราย และ หนึ่งในนั้นเสียชีวิต 1 ราย เล็งประกาศให้โรงเรียนในสังกัดปลอดกัญชา ขอพิจารณากฎหมายทำได้หรือไม่

เมื่อวันที่ (14 มิ.ย.2565)  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยข้อมูลในการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร กรณีพบข้อมูลผู้ป่วยใช้กัญชามากจนเกินไปภายหลังปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดเมื่อวันที่ (9 มิ.ย.2565) ที่ผ่านมา ว่า   สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานข้อมูลผู้ป่วย Overdose  กัญชาที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ พบ 4 ราย มี 1 รายเสียชีวิต ประกอบด้วย

1. รพ.ตากสิน ผู้ป่วย 2 ราย เพศชายอายุ 17 ปี และ 25 ปี อาการใจสั่น คาดว่าเกิดจากผลข้างเคียงของการเสพกัญชา

2. เจริญกรุงประชารักษ์ 1 ราย เพศชาย อายุ 51 ปี แน่นหน้าอกหลังเสพกัญชา มาด้วย heart failure และมี cardiac arrest ผู้ป่วยเสียชีวิต

3. รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโรอุทิศ 1 ราย เพศชายอายุ 16 ปี 6 เดือน เสพกัญชามาก  Overdose  ขณะนี้ On ET  tube อยู่ icu

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม กรุงเทพฯ ครองอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับกลุ่ม “Digital Nomads” ปี 2022

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม กรุงเทพฯ ครองอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับกลุ่ม “Digital Nomads” ปี 2022 กำชับทุกฝ่ายต่อยอดโอกาสพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ (24 มิ.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่เว็บไซต์ Instant Offices ผู้ให้บริการปรึกษาและจัดหาพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่น (Flexible Workspace) ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในโลกจากสหราชอาณาจักร ได้จัดให้กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกที่เหมาะสำหรับดิจิทัลโนแมด (Best Digital Nomad Cities Globally 2022) ทั้งยังถือเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ชื่นชมทุกฝ่ายร่วมมือกันพัฒนากรุงเทพฯ สู่เมืองที่เหมาะแก่การทำงานและพักผ่อนระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสดิจิทัลโนแมด (Digital Nomad) หรือกลุ่มคนผู้ใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกับการทำงานนอกออฟฟิศ ซึ่งใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือหลักในการหารายได้กำลังเป็นที่นิยม โดยเว็บไซต์ Instant Offices ภายใต้บริษัท The Instant Group บริษัทด้านการหาผลลัพธ์การทำงานที่ยืดหยุ่นจากสหราชอาณาจักร จัดกรุงเทพมหานครเป็นอันดับที่ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับกลุ่ม “Digital Nomads” ประจำปี 2022 (Best Digital Nomad Cities Globally 2022) และถือเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย จากการจัดอันดับ 80 เมืองทั่วโลก ผ่านการพิจารณาปัจจัยด้านต่าง ๆ เช่น ความสามารถในการจับจ่าย สภาพภูมิอากาศ ความเร็วของระบบอินเตอร์เน็ต ทิวทัศน์ และการขนส่ง เป็นต้น โดยกรุงเทพฯ นำเสนออาหารท้องถิ่นที่ยอดเยี่ยมหลากหลาย ตลาดอาหารริมทาง (Street Food) ที่มีชีวิตชีวา พร้อมด้วยจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi กว่า 15,000 แห่ง และที่พักบางแห่งถือว่ามีราคาถูกที่สุดจากทุกเมืองที่ทำการสำรวจ

กทม. เคาะ 2 มาตรการกระตุ้นศก. ลดค่าเช่าแผงตลาด - ลดดอกเบี้ยโรงจำนำ

เปิดชื่อ 12 ตลาด กทม. ‘ชัชชาติ’ สั่งลดค่าเช่าแผง 12 ตลาด กทม. ช่วยผู้ค้า ลง 50% นาน 3 เดือน ตั้งแต่ (ก.ค.-ก.ย.65) พร้อมลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำลดภาระคนกรุง

วันนี้ (24 มิ.ย.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เผยว่า กทม.มีแผนช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจให้ประชาชน 2 เรื่อง คือ 1. ลดค่าเช่าแผงการค้าใน 12 ตลาด ที่อยู่ในความรับผิดชอบ ร้อยละ 50 เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน (ก.ค.-ก.ย.65) ประกอบด้วย ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดมีนบุรี ตลาดธนบุรี และตลาดชุมชนอีก 9 แห่ง ได้แก่ ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาดเทวราช ตลาดบางกะปิ ตลาดหนองจอก ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก ตลาดรัชดาภิเษก ตลาดสิงหา ตลาดบางแคภิรมย์ และตลาดราษฎร์บูรณะ
 

กรุงเทพฯ กลางแปลง ฉายหนังเรื่องอะไร ฉายที่ไหน มาดูกัน!!

ในเดือนกรกฎาคม 2565 กรุงเทพมหานครเตรียมจัดเทศกาล “กรุงเทพฯ กลางแปลง” โดยจะมีการฉายหนังทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรับกับเทศกาล Film Festival ซึ่งจะจัดในสถานที่ รวม 10 สถานที่ ตลอด 4 สุดสัปดาห์ รวมฉายหนังทั้งหมด 25 เรื่อง โดยจะมีทั้งภาพยนตร์ที่เก่ามาก ตั้งแต่ปี 2502 จนถึงปัจจุบัน

สำหรับสถานที่ฉายหนังตลอดเดือน ก.ค. 65 มีดังต่อไปนี้

🎥สัปดาห์แรก (7-9 ก.ค. 65) มีรายละเอียดดังนี้ 

วันที่ 7 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง (2540) ณ ลานคนเมือง เขตพระนคร และเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (2552) ณ True Digital Park เขตพระโขนง

วันที่ 8 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง เวลาในขวดแก้ว (2534) ณ ลานคนเมือง เขตพระนคร และเรื่อง 36 (2555) ณ True Digital Park เขตพระโขนง

วันที่ 9 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง แพรดำ (2504) ณ ลานคนเมือง เขตพระนคร และเรื่อง แม่นาคพระโขนง (2502) ณ True Digital Park เขตพระโขนง

🎥สัปดาห์ที่สอง (14-16 ก.ค. 65) มีรายละเอียดดังนี้ 

วันที่ 14 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง RRR (2565) ณ ศูนย์เยาวชนคลองเตย เขตคลองเตย และเรื่อง 4Kings (2564) ณ สวนรถไฟ เขตจตุจักร

วันที่ 15 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์ (2544) ณ ศูนย์เยาวชนคลองเตย เขตคลองเตย และเรื่อง Portrait of a Lady on Fire (2562) ณ สวนรถไฟ เขตจตุจักร

วันที่ 16 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง บุญชูน่ารัก (2531) ณ ศูนย์เยาวชนคลองเตย เขตคลองเตย และเรื่อง One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ (2564) ณ สวนรถไฟ เขตจตุจักร

🎥สัปดาห์ที่สาม (21-23 ก.ค. 65) มีรายละเอียดดังนี้ 

วันที่ 21 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง หมานคร (2547) ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย และเรื่อง Fast and Furious (2552) ณ ตลาดบางแคภิรมย์ เขตบางแค

วันที่ 22 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง อนธการ (2558) ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย และเรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547) ณ ตลาดบางแคภิรมย์ เขตบางแค

วันที่ 23 ก.ค. 65 ฉายเรื่อง Wheel of Fortune and Fantasy (2564) ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย และเรื่อง เพื่อนสนิท (2548) ณ ตลาดบางแคภิรมย์ เขตบางแค

นทท.ซาอุฯ ปลื้ม!! ตำรวจท่องเที่ยวไทย ช่วยตามหาของหาย สัญญามาไทยอีกแน่นอน

วานนี้ (16 ก.ค. 65) เวลา 16.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในฐานะ โฆษกกองบัญชาการฯ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมีความประสงค์แจ้งให้สื่อมวลชนและสาธารณะทราบว่าในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 01.40 น. Mrs.Algarz Rehub Saleh A  นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียพร้อมเพื่อน ได้ทำกระเป๋าสัมภาระซึ่งมีของสำคัญหายระหว่างการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังโรงแรมที่พัก และได้เดินทางกลับมาขอความช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาต่อมา 

ต่อมาเพียงเวลาไม่นาน ภายใต้การกำกับของ พ.ต.อ.มิลินทร์ เพียรช่าง ผู้กำกับการตำรวจท่องเที่ยว ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยวได้ตรวจสอบจนพบรถแท็กซี่ที่นักท่องเที่ยวใช้บริการ และได้ประสานแจ้งคนขับจนสามารถนำกระเป๋าดังกล่าวกลับคืนมาอย่างปลอดภัยส่งผลให้นักท่องเที่ยวซาอุฯ ดังกล่าวได้เขียนชื่นชมประเทศไทยและตำรวจท่องเที่ยวว่า

"เจ้าหน้าที่ (ตำรวจท่องเที่ยว) ใจดีและทำงานแบบมืออาชีพมากๆ พวกเขาช่วยเราหาของที่เราทำหายเองและมีการบริหารจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม ที่จริงเราหมดหวังที่จะได้ของคืนไปแล้ว แต่ตำรวจท่องเที่ยวก็ทุ่มเทอย่างสุดกำลังจนได้ของคืนมาจนได้"

"ไม่มีคำพูดใดที่สามารถอธิบายความรู้สึกขอบคุณของเราอย่างจริงใจได้ เรารักกรุงเทพฯ และกรุงเทพช่างเป็นเมืองที่โชคดีมากที่มีตำรวจท่องเที่ยวแบบนี้ เราจะกลับมาเที่ยวอีกแน่นอนเพราะการทำงานของตำรวจท่องเที่ยว พวกเขายอดเยี่ยมที่สุด"

กลุ่มนักวิชาการ เข้าพบรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ทวงคืนบึงรับน้ำคู้บอน – บางชัน ทำแก้มลิงให้คนกรุงเทพ หวังช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมฝั่งตะวันออก

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศาลาว่าการ กทม. นายพงศ์พรหม ยามะรัต พร้อมด้วย สมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม (Sconte) นำโดย นายฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที นายกสมาคม ดร. วีระพันธุ์ ชินวัตร อุปนายกสมาคม และ นางปองขวัญ ลาซูส อุปนายกสมาคม และตัวแทนจากเพจ ‘บึงรับน้ำคู้บอนเพื่อคนกรุงเทพ’ ได้แก่ นางสาวชวลักษณ์ เวียงวิเศษ , นางสาวพีรญา สว่างวงศ์ และนางอรชร ทานากะ เข้าพบ รศ. ดร. วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะสั้น กลาง และยาว รวมทั้งเหตุผลความจำเป็นที่กรุงเทพฯ จะต้องมี โครงการบึงรับน้ำคลองคู้บอนและบางชัน ในฝั่งตะวันออก เพื่อให้มีพื้นที่พักน้ำหรือหน่วงน้ำไว้ในยามที่ปริมาณน้ำฝนเอ่อล้น ก่อนที่จะระบายสู่ระบบคูคลองหรืออุโมงค์ระบายน้ำในเวลาที่เหมาะสมต่อไป

ดร. วีระพันธุ์ ชินวัตร  อุปนายกสมาคม  ได้นำเสนอให้มีการจัดหาพื้นที่รับน้ำให้ได้มากที่สุดในกรุงเทพฯ  เพื่อหน่วงน้ำไว้ก่อนในช่วงเวลาที่ฝนตกหนักและน้ำไม่สามารถระบายผ่านระบบคูคลองและอุโมงค์ยักษ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ทัน  เช่น  การมีพื้นที่เก็บน้ำใต้ถนนในเขตศูนย์กลางชุมชนชานเมือง  การมีพื้นที่แก้มลิงหรือบึงรับน้ำในเขตกรุงเทพฯ ตอนเหนือและตะวันออก เช่น บางเขนและคู้บอน (ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่น้ำจะระบายลงสู่พื้นที่กทม.ชั้นในตอนล่าง) เพื่อช่วยหน่วงน้ำในช่วงฝนตกหนัก ไม่ให้ระบายมาสมทบกับปริมาณน้ำที่สะสมในเขตพื้นที่ชั้นใน ให้ท่วมน้อยลง ก่อนที่จะระบายสู่แม่น้ำเจ้าพระยา  

นอกจากนี้  ดร. วีระพันธุ์  ได้เสนอให้กรุงเทพมหานครจัดหาพื้นที่ช่องทางน้ำหลากหรือ Flood Way หรือที่เรียกว่า ช่องทางผันน้ำ หรือ Flood Diversion โดยสามารถทำร่วมกับโครงการวงแหวนรอบที่ 3 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ เพื่อ ผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนเหนือกทม. ให้น้ำสามารถไหลลงผ่านรอบนอกของกรุงเทพฯ ทั้งในฝั่งตะวันตกและตะวันออกของกรุงเทพฯ  ลงสู่อ่าวไทยโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา  ซึ่งจำเป็นต้องรีบปรับแบบการก่อสร้างให้มีแนวคลองระบายน้ำคู่ขนานไปกับถนนวงแหวนด้วย  หากสามารถทำ Flood Way ได้ตามแนวถนนวงแหวนรอบที่ 3  จะสามารถระบายน้ำได้ไม่ต่ำกว่า 800 - 1,000 ลบ. เมตร/วินาที  ซึ่งจะช่วยระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ก็จะช่วยลดปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ผ่านกทม.ตอนบน ลงสู่ตอนล่างได้อย่างมีนัยะสำคัญ

กรุงเทพฯ เจ๋ง!! ครองอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก เมืองที่ดึงงานประชุมนานาชาติเข้าประเทศสูงสุด

กรุงเทพฯ ยืน 1 ในเอเชียแปซิฟิก ในฐานะเมืองที่มีบุคลากรในสมาคมระหว่างประเทศใช้บทบาทช่วยดึงงานประชุมนานาชาติเข้าสู่ประเทศสูงสุด 

บริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศด้านการจัดประชุม GainingEdge เผยรายงานวิจัยประจำปี “Leveraging Intellectual Capital” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า กรุงเทพมหานครมีบุคลากรเข้าเป็นกรรมการบริหารสมาคมระหว่างประเทศ 194 สมาคม แต่สามารถดึงงานประชุมเข้าประเทศได้มากถึง 123 งาน คิดเป็นอัตราการใช้ประโยชน์ (Harnessing Ratio) 63.4% ทำให้กรุงเทพเป็นอันดับหนึ่งของเอเชียแปซิฟิก

สำหรับ 5 อันดับแรกที่ดึงงานประชุมนานาชาติเข้าประเทศสูงสุด ประกอบด้วย
อันดับ 1 ไทย 63.4%
อันดับ 2 เซี่ยงไฮ้ 51.7%
อันดับ 3 สิงคโปร์ 50.8%
อันดับ 4 ไทเป 45.9%
อันดับ 5 กัวลาลัมเปอร์ 44.3%

GainingEdge จัดอันดับเมืองจุดหมายปลายทางไมซ์ทั่วโลก ด้านการใช้ประโยชน์จากบุคลากรที่เป็นต้นทุนทางปัญญาเพื่อดึงงานประชุมนานาชาติมาจัดในเมืองได้สูงสุด โดยพิจารณาจากจำนวนผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพที่ได้เข้าไปดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของสมาคมวิชาชีพระหว่างประเทศ

แล้วนำไปเปรียบเทียบกับจำนวนงานประชุมนานาชาติของสมาคมฯ ที่จัดขึ้นระหว่างปี 2561 จนถึงปี 2564 ในเมืองของผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพที่ดำรงตำแหน่งอยู่ และคำนวณค่าออกมาเป็นสัดส่วนร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ เรียกว่า Harnessing Ratio

นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังอยู่ในอันดับ 6 ของโลก รองจากกรุงปราก 95% ดับลิน 81.9% ลิสบอน 81.8% มอนทรีออล 77.2% และเบอร์ลิน 64.7%

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า จากรายงานของ GainingEdge ได้แนะนำให้เมืองต่าง ๆ ใช้กลยุทธ์การประมูลสิทธิหรือดึงงานโดยเชิญชวนผู้นำองค์ความรู้ หรือผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพที่มีชื่อเสียงให้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนการดึงงาน ซึ่งสอดรับกับแนวทางการดึงงานของทีเส็บที่ริเริ่มโครงการ Thailand Convention Ambassador Programme หรือผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดประชุมนานาชาติของประเทศไทย

'วิโรจน์' ตั้ง 8 ข้อสงสัยผู้บริหารกทม.ชุดเก่า ปมหนี้ BTS ทั้งที่เงินสะสมมีพอ แต่เหตุใดจึงปล่อยให้หนี้พอก

ภายหลังจากที่มีการฟ้องร้องข้อพิพาทรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ BTSC ฟ้องกรุงเทพมหานคร และกรุงเทพธนาคม (KT) ที่ศาลปกครอง ในกรณีที่ BTSC เรียกร้องให้ กทม. จ่ายเงินที่ค้างชำระค่าเดินรถและค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 เป็นเงิน 11,755 ล้านบาท ซึ่งค้างมาตั้งแต่ผู้บริหาร กทม. ชุดที่แล้ว

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม.พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าตนและทีมงานพรรคก้าวไกลก็ได้เข้าไปสังเกตการณ์ในกรณีนี้ด้วย ซึ่งวิโรจน์ ได้ตั้งข้อสังเกตต่อกรณีนี้ 8 ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้...

1. ผู้บริหาร กทม. ชุดก่อน ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร คสช. เคยร้องขอต่อสภา กทม. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร คสช. ให้มีการอนุมัติเงินสะสมของ กทม. มาจ่ายหนี้ค่ารถไฟฟ้า แต่สภา กทม. ในขณะนั้นกลับไม่อนุมัติให้นำเอาเงินสะสมมาจ่ายหนี้ให้แก่ BTSC ทำให้หนี้ค่าจ้างเดินรถ และค่าซ่อมบำรุง สะสมทบต้นทบดอก จนเป็นภาระหนี้สินที่หนักมากขึ้น ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก เพราะ กทม. มีเงินสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงพอต่อการใช้หนี้ ไม่จำเป็นต้องเบี้ยวหนี้ จนดอกเบี้ยทบต้นทบดอก

2. มีสัญญาระหว่างกรุงเทพธนาคม กับ BTSC อยู่ 2 ฉบับ ที่เป็นสาระสำคัญ ที่ กทม. ควรพิจารณาเปิดเผยต่อสาธารณะ ได้แก่ สัญญาจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุง ส่วนต่อขยายที่ 1 ที่ กทส.006/55 ลงวันที่ 3 พ.ค. 2555 และสัญญาจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุง ส่วนต่อขยายที่ 2 ที่ กทส.024/59 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2559 ซึ่งตัวเลขหนี้สินต่าง ๆ ที่ กทม. และกรุงเทพธนาคม ค้างจ่ายให้กับ BTSC ล้วนคำนวณมาจากสัญญา 2 ฉบับนี้

3. สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหลัก ที่มีอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี จะสิ้นสุดลง ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2572 แต่สัญญาจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุง ทั้ง 2 ฉบับข้างต้น ยังคงผูกพัน กทม. และกรุงเทพธนาคม ไปจนถึงปี พ.ศ. 2585 นั่นหมายความว่าสัญญาทั้ง 2 ฉบับนี้ มีผลกระทบอย่างมากต่อการเปิดประมูลสัมปทานใหม่ ดังนั้นการอ่านทานสัญญาทั้ง 2 ฉบับนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top