Wednesday, 8 May 2024
กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพฯ โชว์วัฒนธรรม ชวนช็อปตลาดนัดศิลปะ 25-29 ม.ค. ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมฯ

เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.66) เวลา 15.30 น. ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครได้แถลงข่าวถึงการจัดงานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ และเป็นการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ภายใต้แนวคิด ‘รวมพลคนอาร์ตอาร์ต’ โดยนำ ‘หนุมาน’ ตัวละครเอกในวรรคดีไทยมาเป็นสัญลักษณ์ 

ภายในงานจะมีการแสดงนาฎศิลป์ ละครใบ้ การแสดงดนตรีจากกองการสังคีต กรุงเทพมหานคร กิจกรรม Workshop จากศิลปินร่วมสมัยในสาขาต่าง ๆ อาทิ การวาดโปสการ์ดสีน้ำ การทำ Paper Cut Rubber Stamp รวมถึงการจัดตลาดนัดศิลปะ Art & Craft Mini Market และการจำหน่ายงานศิลปะ งานฝีมือ จากเครือข่ายศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของกรุงเทพมหานคร

‘ฝนหลวง’ โครงการจากน้ำพระทัย ‘ในหลวง ร.9’ ช่วยคนไทยรอดตายจากฝุ่น PM 2.5

ไม่เฉพาะ 'คนกรุง' ที่รอดตายจากฝุ่น PM 2.5
หากแต่ 'รอดกันทั้งประเทศ'!
เพราะจู่ๆ 'ฝน' ก็ตกลงมาสยบเจ้า PM 2.5 จนพอหายใจ-หายคอกันได้บ้าง
ตกมาแล้ว ๒-๓ วันติด ไม่เฉพาะใน กทม. หากแต่ 'ตกทั่วฟ้า' ทั้ง เหนือ-อีสาน-ตะวันออก-กลาง

และจะตกเป็น 'พระพิรุณปราบฝุ่น' ไปจนกว่า PM 2.5 จะสิ้นฤทธิ์
ผมรู้ได้ไง ใจเย็นๆ...เดี๋ยวบอก!
อ่านนี่ก่อน เมื่อวาน (๕ ก.พ.๖๖) "ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร" ของชัชชาติ ออกข่าว ว่า

"เวลา ๑๕.๐๐ น. ฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง เขตบางซื่อ  บางพลัด พญาไท ดุสิต
เคลื่อนตัวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เเนวโน้มคงที่ ปริมาณฝนสูงสุดเขตราชเทวี 2.0 มม."
แหม…

กทม.ออกข่าวประหยัดข้อมูลจริงนะ น่าจะบอกให้ชัดซักหน่อย ว่า "ฝนมาไง-เป็นไง"?
ตกตามธรรมชาติ หรือผู้ว่าฯ ชัชชาติบันดาล?
ไม่เหมือนตอนหาเสียงเลย

"ทั้งทีม" รู้ทุกเรื่อง พูดเป็นต่อยหอยทุกเรื่อง แต่ตอนทำงานกลับ "อมสาก" ทุกเรื่อง
คนเป็นผู้ว่าฯ เหมือนกัน.....
หมื่นรู้ แสนสัญญา ปานพระวิศณุกรรมอวตารลงเป็นชัชชาติ ปัญหา กทม.ถ้าแก้ไม่ได้ ใครก็ไม่ควรมาเป็นผู้ว่าฯ
ควร "ลาออกไปซะ"!

แล้วเป็นไง กลายเป็น "ผู้ว่าฯ เวรกรรม" ของคนกรุง ร่วมปี ซักเรื่อง...เคยมีที่แก้ได้บ้างมั้ยล่ะ?
"แก้ได้ทุกเรื่อง" มีเรื่องเดียวคือ "แก้ตัว"!
ฝุ่น PM 2.5 มืดคลุมเมือง.......
จนน้ำหู-น้ำตาไหลปนน้ำมูก ไอจามกันค็อกแค็กทั้งกรุง

หน่วยปั้นข่าวยังทะลึ่งออกมาอุ้มไข่ บอกไม่ใช่ฝุ่น แต่เป็น "หมอกหน้าหนาว"!
มันน่า "เจริญพวง" ซะจริงๆ!
ผู้ว่าฯ "สัญญาแลกเกี๊ยะ" ๒๑๔ ข้อ นั่นก็ไม่รู้ไปตามเก็บเกี๊ยะอยู่ที่ไหน?
เห็นแต่ "ทหาร" ออกมาฉีดน้ำล้างถนน-ไล่ฝุ่น
จะไล่ได้-ไม่ได้ ไม่เป็นปัญหา อย่างน้อย ก็ทำให้ชาวบ้านมองเห็น "ที่พึ่ง-ที่หวัง"

ว่ายามมีปัญหา "ทุกปัญหา" ต้องเห็น "ทหาร" ออกมายืนเคียงข้าง คอยปกป้อง-ดูแล ประชาชน
ดีกว่า ไอ้คนที่มีหน้าที่ทำ แต่ไม่ทำอะไรเลย แถมหัวก็ไม่เห็นอีกตะหาก
ใครไม่รู้ "เฉาฉุ่ย" ไว้ตอนเลือกทีมงาน ว่า...
"ดูในแต่ละมิติ อย่างรองผู้ว่าฯ เราก็รู้ว่า มีสำนักอะไรดูแลบ้าง ขอให้มีความหลากหลาย ทั้งประสบการณ์ มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

แต่ละคน จะมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายกันไป
สำคัญที่สุดคือ ซื่อสัตย์ โปร่งใส สุจริตที่เราไว้วางใจได้ นอกจากนี้ มีทีมที่ปรึกษาทางเทคนิคอีกกว่า ๓๐-๔๐ คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิชาการที่เราปรึกษามา ๒ ปีกว่า
ตอนที่เราปรึกษา....

เราเป็นการเมืองการเลือกตั้ง หลายๆ ท่าน เปิดตัวไม่ได้ พอเราเป็นข้าราชการ กทม.แล้ว เราสามารถเปิดตัวท่านได้"
แล้วไหนล่ะ ผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลาย อยากเห็นจัง
เก่งฉิบ....

แค่ ๗-๘ เดือน บรรดาผู้เชี่ยวชาญของชัชชาติทำให้ กทม.วินาศสันตะโรได้ถึงขนาดนี้?
แล้วตอนนี้ "หึ่ง" ไปหมด
ไอ้ "ซื่อสัตย์ โปร่งใส สุจริตที่เราไว้วางใจได้" ของชัชชาตินั่นน่ะ
"คุณชูวิทย์" ชำระตำนาน "ส่วยตำรวจ" เสร็จเมื่อไหร่
ผมจะนิมนต์มาแฉตำนาน "ส่วย กทม." ตอนนี้บ้าง!!!

ถ้าชัชชาติอยากรู้....
ไปถาม "ประธานที่ปรึกษา" ของท่านดูซิ ว่ารู้เรื่องบ้างมั้ย...ที่ลงไปเก็บส่วยกันถึงในแต่ละเขตนั่นน่ะ?
จริงๆ แล้ว เรื่องฝุ่น PM 2.5 คนกรุงพอเข้าใจได้ว่า มันเป็น "ฝุ่นประจำฤดูกาล"
ต้นปีที จะเป็น "ฤดูเผา" ทั้งเกษตรกรบ้านเราและประเทศเพื่อนบ้าน ฝุ่น PM 2.5 ก็จะปลิวมาทุกปี

ก็บ่นๆ กันไป พอแค่ได้ระบาย
ที่จะไปเค้นคอให้ "ผู้ว่าฯ สัญญาแลกเกี๊ยะ" แสดงอภินิหารแปลงกายเป็นพระพายไปไล่ฝุ่นนั้น
ไม่มีใครเขา "ยึดขยะ" เป็นสรณะถึงขนาดนั้นหรอก!
ที่ผมต้องพูดถึงคณะบริหาร กทม.วันนี้ ไม่ใช่เพราะผิดหวังในตัวพวกท่าน

เพราะรู้ ก็แค่ "กอเอี๊ยะ" ปิดฝีที่ตูด หวังจะให้ดูดหัวออกมานั้น มันสรรพคุณเกินจริง
ที่ต้องพูด สืบเนื่องจากข่าวที่ กทม.สื่อสารถึงชาวบ้านประเด็นฝนตกช่วงฝุ่น PM 2.5 กำลังจะฆ่าคนกรุงนั่นแหละ

กทม.ของชัชชาติ ออกข่าวเพียงว่า....
"๑๕.๐๐ น. ฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง เขตบางซื่อ บางพลัด พญาไท ดุสิต...." แบบนั้นน่ะ

นั่นมันเหมือนการแถลงข่าวของบางประเทศเพื่อนบ้านเมื่อ ๕๐ กว่าปีที่แล้ว "ฝนตกเมื่อไหร่จะบอก"
คนเขาอยากรู้ "ฝนตกช่วงนี้ได้อย่างไร" ตะหาก
จะมาตวัก-ตะบวยบอกทำไมแค่ฝนตก?
ที่ กทม.ออกข่าวแบบนี้ ผิดวิสัยการให้ข้อมูลข่าวสารตามหลัก "การประชาสัมพันธ์" โดยสุจริต ถึงประชาชน ในสถานการณ์ PM 2.5 กำลังคลุมเมือง

มองเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากมองได้ในทางเจตนาเดียวคือ กทม.ต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจเอาว่า
"เป็นฝนตกลงมาเองตามธรรมชาติ"!
ซึ่งมันไม่ใช่ และ กทม.ก็รู้อยู่แก่ใจ ว่ามันไม่ใช่ฝนจากฟ้าบันดาลลงมาดับฝุ่นเอง
แต่ก็ กทม.ก็ไม่ยอมบอก "เหตุฝนตก" ให้ประชาชนทราบ
อิจฉา...ซ่อนเร้นเจตนา หรือ กทม.กลัวจะเสียหน้า!?

สู้ปล่อยให้ "ครุมเครือในข้อมูล" อย่างนี้ดีกว่า ยังพอเอา ไปเคลมกับคน ๑.๓ ล้านได้บ้าง
ผมขอบอกให้ทุกคนทราบว่า ฝนที่ตกลงมาดับฝุ่น PM 2.5 ทั้งในกรุงและต่างจังหวัดขณะนี้ คือ
"ฝนหลวง" ครับ....
ไม่ใช่ฝนตกตามธรรมชาติ หรือฝนร้อยห่าชัชชาติบันดาลตกใน กทม.อย่างที่พยายามปกปิดข้อมูลกัน
"ฝนหลวง" คืออะไร?

คือ โครงการที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริส่วนพระองค์
ใน "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" รัชกาล ที่ ๙
จุดประสงค์ เพื่อสร้าง "ฝนเทียม" สำหรับบรรเทาความแห้งแล้งให้แก่เกษตรกร เมื่อคราวเสด็จฯ เยี่ยมพสกนิกร ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ในภาคอีสาน

จึงพระราชทานโครงการพระราชดำริฝนหลวงให้ "ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล" ไปดำเนินการ
จึงได้เกิดเป็น "โครงการค้นคว้าทดลอง" ปฏิบัติการ "ฝนเทียม" หรือ "ฝนหลวง" ขึ้น ตราบทุกวันนี้

ที่ฝนตกบรรเทาฝุ่น PM 2.5 ทั้ง เหนือ-อีสาน-ตะวันออก-กลาง และ กทม. ก็จากการบินขึ้นไปปฏิบัติการทำ "ฝนหลวง"
ของ "กรมฝนหลวงและการเกษตร" นั่นเอง!

กรุงเทพธนาคม เตรียมทดสอบเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ คาด!! พร้อมเปิดให้บริการภายในเดือน มี.ค.66

กรุงเทพ​ธนาคมเตรียมทดสอบเดินเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษมแบบงดรับผู้โดยสาร 21 ก.พ. ก่อนเปิด​ให้บริการในเดือน มี.ค.นี้ หลังหยุดเดินเรือก่อนหน้านี้ 

(18 ก.พ.66) รายงานข่าวจากบริษัท​ กรุงเทพ​ธนาคม​ จำกัด ผู้บริหาร​จัดการ​สา​ธา​รณูป​โภค​และ​บริการ​สาธารณะ​ของ​กรุงเทพ​มหานคร ระบุว่า ในวันที่ 21 ก.พ. ทางบริษัท​ฯ จะเริ่มดำเนินการนำเรือไฟฟ้าแล่นทดสอบในคลองผดุงกรุงเกษม แบบงดรับผู้โดยสาร ในโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษมระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อเตรียมพร้อมเปิด​ให้บริการในเดือน มี.ค. 2566 

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการพัฒนาการเดินทางทางเรือเพื่อการท่องเที่ยวในคลองบางลำพูในอนาคต โดยความคืบหน้าจะประกาศ​แจ้งให้ทราบรายละเอียด​ต่อไป และขออภัยในความไม่สะดวก

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ม.ค.66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งได้หยุดเดินเรือไปเมื่อเดือน ก.ย. 2565 ว่า ที่ผ่านมามีผู้โดยสารน้อยมาก แต่ค่าจ้างเดินเรือยังมีอยู่ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2.4 ล้านบาทต่อเดือน มีผู้ใช้บริการเพียง 14,000 คนต่อเดือน ค่าบริการต่อคนค่อนข้างสูงมาก ประมาณ 171 บาทต่อคน จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม หรือเอาเงินที่จ่ายไปทำอย่างอื่นที่คุ้มค่ากว่านี้ อาจเป็นรูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้คนใช้บริการมากขึ้น เช่น Shuttle Bus หรือทำเรื่องท่องเที่ยว เรื่องดังกล่าวเรียกเสียงวิจารณ์จากโลกโซเชียลฯ เพราะเห็นว่าการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมของอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนก่อนทำไว้ดีอยู่แล้วกลับยกเลิก

ขณะเดียวกัน ยังหยิบยกกรณีที่กรุงเทพมหานครเพิ่มงบโครงการสัมมนาพาคนไปเที่ยวในหลายสำนักงานเขต มีถึง 72 โครงการ ใน 26 เขต รวมวงเงินสูงกว่า 111 ล้านบาท ที่มีผู้ร้องเรียนต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก่อนหน้านี้ ภายหลังนายชัชชาติอ้างว่าจะทำต่อ แต่ต้องประเมินสถานการณ์ เพราะค่าใช้จ่ายต่อหัวแพงมาก จึงต้องประเมินทางเลือกอื่นที่ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลง 

‘ชูวิทย์’ เตือน ‘ภท.’ คิดดีๆ หาเสียงกรุงเทพฯ ไม่ง่าย

“ถ้าคิดจะหาเสียงในกรุงเทพฯ คิดให้ดีๆ นะ จะเสียตังค์เปล่า ผมไม่รู้ว่าคุณรวยแค่ไหนนะ แต่ถ้าคุณคิดจะลงกรุงเทพฯ และหาเสียงแบบนี้ ผมจะถล่มคุณเอง นี่เป็นคำเตือนจากผมนะ หาเสียงในกรุงเทพฯ ไม่ง่ายหรอกนะ อย่าคิดว่ามาโปรยแล้วจะได้นะครับ”

อย่ารังแกกันเลย!! ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รทสช.’ โอด ป้ายหาเสียงถูกกรีด-ทำลาย ลั่น!! ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ขอให้แข่งกันที่นโยบาย

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิงรวมไทยสร้างชาติ ช้ำ ถูกมือมืดทำลายป้ายแนะนำตัว แจ้งความถึง 2 สน.แต่ไม่มีความคืบหน้า โอดไม่เคยเป็นศัตรูกับใครอย่ารังแกกันเลย วอนแข่งกันด้วยนโยบาย

(8 มี.ค.66) น.ส.อรัญญา มณีแจ่ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ป้ายแนะนำตัวที่นำไปติดตั้งไว้ในหลายจุดของเขตจตุจักรถูกมือมืดทำลายเสียหายหลายจุด บางป้ายก็ถูกพรรคการเมืองคู่แข่งนำป้ายไปติดตั้งทับ ตนเองเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ขอร้องอย่ารังแกเลย ต้องการเข้ามาสู่สนามการเมืองต้องการเข้ามาขายความคิดของคนรุ่นใหม่เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ ซึ่งตนเองไม่มีความขัดแย้งกับใครลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงอย่างเดียว

น.ส.อรัญญายอมรับว่า ตกใจอยู่เหมือนกัน ที่ถูกทำลายป้ายแนะนำตัว ขอฝากถึงพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่าทำแบบนี้ อยากให้เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายขาวความคิดให้ประชาชนเลือกดีกว่า เคยไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร และ สน.บางซื่อ แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือจับมือใครดมได้ ตำรวจก็ไม่ได้แจ้งความคืบหน้าในคดีหรือจับผู้กระทำความผิด ส่วนตัวไม่เคยมีศัตรูกับใคร จึงไม่คิดว่าเขาทำลายป้ายด้วยเหตุผลทางการเมือง เท่าที่คุยกับว่าที่ผู้สมัครคนอื่นเขตอื่นยังไม่เคยมีใครพูดว่าป้ายถูกทำลายเหมือนเขตจตุจักร ส่วนใหญ่พูดว่า เสียงตอบรับพรรครวมไทยสร้างชาติในพื้นที่ดีวันดีคืน

‘อัษฎางค์’ ขุดนโยบายหาเสียงชัชชาติ ก่อนเป็นผู้ว่าฯ กทม. แซะ ตอนหาเสียงโม้ทำได้จริง ส่วนปัจจุบัน ทำแล้วแต่ ‘ได้แค่นี้’

(17 มี.ค.66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ หัวข้อ ‘ตอนหาเสียง ทำได้จริง Vs ตอนทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำเต็มที่แล้ว ได้เท่านี้’ มีเนื้อหาดังนี้…

‘ตอนหาเสียง ทำได้จริง Vs ตอนทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำเต็มที่แล้ว ได้เท่านี้’

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว แนะวิธีลดค่าโดยสาร รถไฟฟ้า โดยได้ระบุข้อความว่า “เรื่องอัตราค่าโดยสารใหม่ของ BTS คงเป็นเรื่องกังวลใจของพวกเราหลาย ๆ คน มีทางไหนไหม ที่จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง? วิธีหนึ่งที่หลาย ๆ ประเทศในโลกใช้กัน คือ เพิ่มรายได้ในส่วนของ Non-Fare รายได้จากกิจการรถไฟฟ้าหรือ กิจการขนส่งทั่ว ๆ ไป เราอาจมีรายได้ในสองรูปแบบคือ

1. Fare Revenue รายได้จากค่าตั๋วโดยสาร

2. Non-Fare Revenue รายได้จากกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าโฆษณา ค่าเช่าพื้นที่ ประโยชน์จากการเชื่อมต่อสถานี

จำนวนผู้โดยสารที่ผ่านระบบมากถึง 700,000 คน-เที่ยวต่อวัน ทำให้พื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้า ในขบวนรถไฟฟ้า ราวจับ รวมถึงรอบตัวรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งเสาโครงสร้างรถไฟฟ้า มีมูลค่าสำหรับการโฆษณาสูงมาก เราคงจะไม่เห็นพื้นที่ไหนที่มีการโฆษณามากเท่ากับพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าแล้ว

ผมเชื่อว่าถ้าเราบริหารจัดการให้ดี ดูแลผลประโยชน์ของประชาชนให้ดี เราสามารถนำรายได้ในส่วนของ Non-Fare มาช่วยเสริมรายได้จากค่าโดยสารอีกไม่น้อยกว่า 20%

รายได้จากการโฆษณาและให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีรถไฟฟ้า BTS ในปี 2562-2563 สูงถึง 2,183.89 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้จากค่าโดยสาร

ในอนาคต เมื่อสัมปทานปัจจุบันสิ้นสุดลง ถ้าเรามีการประมูลที่โปร่งใส ยุติธรรมกับทุกฝ่าย มีการนำรายได้อื่นๆ จากรถไฟฟ้ามาช่วยสนับสนุนค่าโดยสาร จะช่วยทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลงได้ครับ”

ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับ สำนักข่าว The Reporters จัดเสวนาออนไลน์หัวข้อ ‘รถไฟฟ้าต้องถูกลง ทุกคนต้องขึ้นได้ ผู้ว่าฯ กทม. ช่วยได้หรือไม่’

โดย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พูดถึงเรื่องราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

“ถ้าไม่เอากำไรแสนล้านบาท ค่าโดยสาร 25-30 บาทเป็นไปได้ กทม. ต้องรีบเจรจา เปิดเผยสัญญาจ้างเดินรถถึง 2585 ให้ชัดเจนว่าต้นทุนที่ต้องจ่ายเอกชนเท่าไร สัญญาเป็นธรรมหรือไม่ รัฐเสียเปรียบไหม ถ้าจ้างเอกชนแพงกลายเป็นว่าต้องไปปรับค่าโดยสารขึ้น

จับตา ‘เพื่อไทย’ ปราศรัยใหญ่ 24 มี.ค.นี้ แย้ม!! ทีเด็ด 10 นโยบายเพื่อคนกรุงเทพฯ

(22 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้ซึ่งประสงค์รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการจัดงาน 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ' ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.66 นี้

โดย นายวิชาญ กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยได้ท้วงติงและไม่เห็นด้วยกับการแบ่งเขต กทม.ว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านข้อกฎหมาย และสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชน เป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น และมีตวามกังวลว่าอาจจะเกิดการล้มบัตรกาเบอร์ในวันเลือกตั้ง แต่เมื่อมีการประกาศแล้ว พรรคเพื่อไทยพร้อมรับทุกกติกา จึงมีการจัดสรรผู้สมัคร ส.ส.กทม.ใหม่ทั้ง 33 เขต ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะบางเขต บางแขวง มีการทับซ้อนกันบ้างในบางพื้นที่ จึงมีการเปลี่ยนป้ายหาเสียง และชี้แจงพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย กรุงเทพฯ มีความพร้อมแล้ว 100% และจะมีการเปิดตัวในเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 24 มี.ค.66 ภายใต้แคมเปญ 'คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ' โดยภายในงานจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ ใหม่ในอนาคต 4 ด้าน เพื่อคนกรุงเทพฯ และประเทศไทย พร้อมเปิดตัวนโยบายใหม่ 10 ด้าน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ มลพิษ การศึกษา สิ่งแวดล้อม การรักษาพยาบาล ฯลฯ ที่สเตเดียมวัน จุฬา ซอย 6 ตั้งแต่เวลา 17.30 - 19.30 น.

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีระบบในการจัดสรรผู้สมัคร แม้จะมีการสลับสับเปลี่ยนผู้สมัคร แต่พรรคเพื่อไทยมีฐานเดิม ซึ่งมีผู้สนับสนุนทุกเขต จากการที่เคยส่งผู้สมัคร สก.รวม 50 เขตในช่วงที่ผ่านมา และการที่พรรคเพื่อไทย มี สก.20 เขต ที่ยังคงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เป็นห่วง มั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต น่าจะทำงานได้ดีและประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการเลือกตั้ง

'ศรีสุวรรณ' บุกถาม 'ชัชชาติ' สวนชูวิทย์ตกเป็นของกทม.แล้วหรือไม่ หลังถูกนำไปพัฒนาเป็นอาคารสูงโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่

(24 มี.ค.66) ที่ศาลาว่าการ กทม.1 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามสถานะของที่ดินสวนชูวิทย์ บริเวณสุขุมวิท ซอย 10 หลังเคยมีกรณีพิพาทกันในคดีรื้อทุบบาร์เบียร์ว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามกฎหมายไปแล้วหรือไม่

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 22 พ.ค.2548 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จัดแถลงข่าวครั้งแรกระหว่างการต่อสู้คดีรื้อบารณ์เบียร์ในศาล เพื่อแสดงความตั้งใจว่าไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนดังกล่าว และจะนำที่ดินคืนสาธารณะให้สังคมโดยจัดทำเป็นสวนสาธารณะ และต่อมาวันที่ 24 ธ.ค.2548 ไม่ทันถึงปีนายชูวิทย์ก็จัดแถลงข่าวเปิดตัวสวนชูวิทย์และกล่าวในวันนั้นว่า เจตนาที่จะเสียสละนำที่ดินดังกล่าวสร้างเป็นสวนสาธารณะให้กรุงเทพมหานคร ให้เป็นปอดของคน กทม. ได้ใช้ประโยชน์แทนโครงการสร้างโรงแรม เรียกว่า 'สวนชูวิทย์'

ต่อมาในคดีรื้อบาร์เบียร์นั้น ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อ ม.ค.59 ว่าที่ดินพิพาทบริเวณสุขุมวิทซอย 10 นั้นศาลฎีกาเห็นว่าหลังเกิดเหตุ นายชูวิทย์กับพวก ได้ร่วมกับจำเลยอื่นชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายไปบางส่วนแล้ว และยังมีการนำที่ดินพิพาทไปทำประโยชน์เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้ได้ โดยไม่ได้นำที่ดินไปทำธุรกิจแสวงหาผลกำไรอีก บ่งบอกว่าจำเลยรู้สึกสำนึกผิด นับว่ามีเหตุปรานี เห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสม พิพากษาแก้ว่าจากจำคุก 5 ปี ให้เหลือแค่ 2 ปี ไม่รอลงอาญา

‘ชัชชาติ’ แจง ‘สวนชูวิทย์’ ไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ ยัน!! เอกชนถือครอง - จ่ายภาษีที่ดินตามกฎหมาย

(27 มี.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบสวนของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ถึงความชัดเจนในการยกที่ดินเป็นสาธารณสมบัติว่า ได้รับรายงานจาก นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้า

เบื้องต้นข้อมูลที่เป็นเอกสารจากกรุงเทพมหานครพบว่า โฉนดที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้เป็นที่สาธารณะ กรุงเทพมหานครไม่ได้มีส่วนร่วมเข้าไปปรับปรุงให้เป็นพื้นที่สาธารณะแต่อย่างใด ยังเป็นที่ดินเอกชนอยู่ และมีการจ่ายภาษีที่ดินต่อเนื่องตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาจ่ายภาษีรวม 3,000,000 บาท

‘พ่อเจ-เจตริน’ ซัด ‘ชัชชาติ’ ทำอะไรเพื่อ ปชช.บ้าง? ชี้!! ไม่เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เผย!! ดีใจไม่โง่ถูกหลอก

(3 เม.ย.66) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ภาพนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ถือปืนฉีดน้ำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปี 2557 พร้อมทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า…

“ช่วยบอกที ตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อประชาชนให้เห็นจะ ๆ กันบ้าง?”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top