(31 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘JapanSalaryman’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...
น้องโคตะคุง นักเรียนชั้นป.6 ต้องเดินข้ามทางม้าลายแถวบ้านทุกเย็น เพื่อไปเรียนพิเศษ
แต่ปัญหาคือ…
รถแทบทุกคัน “ไม่เคยหยุด” ให้เขาข้ามเลย
ไม่ว่าจะยกมือ โบกมือ หรือมองตากับคนขับก็แล้ว
ก็ยังไม่มีใครเบรกให้เลยสักคัน วิ่งผ่านหน้าตาเฉย
จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจว่า “จะไม่ปล่อยผ่านอีกต่อไป”
เขายืนเฝ้าทางม้าลายวันละหลายชั่วโมง
และนับอย่างจริงจังเลยว่า “มีรถกี่คันที่ไม่หยุดให้ข้าม”
เป็นการเก็บข้อมูล
น้องทำตารางนับอย่างละเอียด ตั้งแต่ 7:30 เช้า ถึง 19:00 แบ่งช่วงเวลาเป็น 30 นาที ทำต่อเนื่อง 12 วันเต็ม ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน
ผลที่ได้ออกมาว่า…
ช่วงที่รถไม่หยุดมากที่สุด คือเวลา 8:00–8:30 น. (ซึ่งตรงกับ 'ชั่วโมงเร่งด่วน' ของคนทำงาน) ช่วงนั้น เฉลี่ยแล้ว รถ 5 คันกว่า ๆ ถึงจะมีคันนึงหยุด
แต่น้องโคตะไม่ได้แค่นับจำนวนนะครับ เขายังวิเคราะห์ต่ออีกว่า คนขับแบบไหนที่หยุดให้…หรือไม่หยุดเลย?
1.คนที่ "ชอบหยุดให้ข้าม" คือ… คุณลุงหน้าตาใจดี, รถบรรทุกใหญ่ ๆ, หรือพี่ชายที่ดูโหดแต่กลับใจดี
2.คนที่ "มักไม่หยุดเลย" คือ… รถคันเตี้ย ๆ และคนขับที่เป็นคุณป้าหรือคุณยาย
ความรู้จากแม่ของโคตะช่วยเติมเต็มงานนี้อีกชั้น แม่เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าโดนจับข้อหาไม่หยุดให้คนข้าม จะต้องโดนปรับ 9,000 เยนต่อคัน! น้องเลยลอง “คำนวณค่าปรับทั้งหมด” จากข้อมูลที่ตัวเองนับมา ผลคือ… ถ้าตำรวจจับได้ครบ จะเก็บค่าปรับได้ถึง 5,742,000 เยน!! (9,000 เยน × 638 คันที่ไม่หยุด)
พอปิดเทอมจบ หลังจากสรุปข้อมูลทั้งหมด โคตะคุงส่งรายงานให้คุณครู พร้อมทั้ง.. ส่งรายงานนี้ให้กับสถานีตำรวจในพื้นที่ด้วย! ตำรวจอ่านแล้วประทับใจมาก จนตัดสินใจ “ใช้ข้อมูลของโคตะ” มาทำเป็น “ใบปลิวรณรงค์เรื่องความปลอดภัยหน้าทางม้าลาย” ในใบปลิวก็จะมี
– สถิติช่วงเวลาที่รถไม่หยุด
– ลักษณะของคนขับที่มีแนวโน้มจะหยุด / ไม่หยุด
– กราฟแสดงผลตามช่วงเวลาอย่างละเอียด
น้องโคตะพูดถึงผลของโครงงานนี้ว่า…
“ผมไม่ได้คาดหวังว่าทุกคันจะหยุด แต่อยากให้มีสักคัน ที่อ่านแล้วเริ่มหยุดให้คนข้าม
แค่นั้นผมก็ดีใจแล้วครับ”
ผมว่าเป็นโครงงานที่เรียบง่าย แต่จริงจังมาก เพราะอาจทำให้ทั้งเมืองต้องหันกลับมาสนใจเรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้ามได้เลยนะ ถ้าเป็นผมขับรถแล้วทำผิด แล้วมารู้ทีหลังว่าเด็ก ป.6 ยังใส่ใจกับเรื่องนี้ ก็คงรู้สึกอายเหมือนกันครับ