Sunday, 8 June 2025
SPECIAL

ขอนแก่น - มข.ตั้งรพ.สนาม แห่งแรกของจังหวัด รองรับผู้ป่วยโควิด-19 สนับสนุนประเทศ ก้าวข้ามภาวะวิกฤต

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564  รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี  รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์  ผศ.ดร.อาวุธ ยิ้มแต้  รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม  รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความปลอดภัย  อาจารย์ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ  พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และบุคลากร ให้การต้อนรับ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นพ.สมชายโชติ​ ปิยวัชร์เวลา นายแพทยสาธารณ​สุขจังหวัด​ขอนแก่น​ พร้อมด้วยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้ามาตรวจความพร้อมหอพักที่ 26 มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 แห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น

ดร.สมศักดิ์  จังตระกุล  กล่าวว่า  “หอพักที่ 26 ที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 ของจังหวัดขอนแก่น  ถือว่าเป็นโรงพยาบาลสนามที่มีความพร้อมในทุกประการ ซึ่งในหลักคิดของการจัดการผู้ป่วยโควิด-19  คือการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลผู้ป่วย บริหารทรัพยากรพื้นที่ โดยสำนึกว่าทรัพยากรต่างๆนั้นเกิดมามาจากภาษีอากรของประชาชน จึงต้องบริหารจัดการให้ดีที่สุดเพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด  วันนี้โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะเป็นความภาคภูมิใจของความร่วมมือในทุกภาคส่วน ในการดูแล ช่วยแบ่งเบาลดภาระโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณาจารย์ บุคลากร น้องๆ นิสิต นักศึกษา จะเข้าใจของการที่เราต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ในสังคมที่มีการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ของโรคโควิด-19  ที่สำคัญคือเราจะช่วยกันบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุน ในการบริหารจัดการโรคให้ลุล่วง และบรรลุวัตถุประสงค์ของทางราชการ”

ด้านรศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล  ให้ความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า  “มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีทรัพยากรที่มีความพร้อมที่จะสนับสนุนภาวะวิกฤตของประเทศ และจังหวัดขอนแก่น ประกอบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศให้นำทรัพยากรมาสนับสนุนประเทศ  มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้ร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น  ได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม โดยนำหอพักที่ 26 ที่ปรับปรุงใหม่แล้วเสร็จพอดียังไม่มีการจัดนักศึกษาเข้าพัก เป็นโรงพยาบาลสนามมีมาตรฐาน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงให้มีความปลอดภัย มีการกำหนดพื้นที่  มีการวางระบบกำจัดของเสียต่าง ๆ เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง  ขอให้นักศึกษา และบุคลากรมีความมั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบในด้านความเสี่ยง  ไม่ว่าจะเป็นหอพัก  หรือบุคลากร นักศึกษาที่อยู่พื้นที่อื่นๆ  ด้วยมาตรฐานดังกล่าว โรงพยาบาลสนามที่เปิดมาแล้วทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีโรงพยาบาลสนาม 3 แห่งแรก ประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ  สหรัฐอเมริกา หรือในประเทศไทยที่มีการเปิดที่จังหวัดสมุทรสาครมาแล้ว  ด้วยมาตรฐานเหล่านี้ ไม่พบว่ามีรายงานว่ามีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลสนามแห่งใดเลย  จึงมั่นใจว่าโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะไม่มีบุคลากร นักศึกษาได้รับผลกระทบ หรือติดโรค ขอให้มีความมั่นใจ เราจะได้ทุ่มเททรัพยากรไปสนับสนุนไปแก้ปัญหาของจังหวัดได้อย่างเต็มที่”

ส่วน รศ.นพ.สมศักดิ์  เทียมเก่า  รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม 1 (หอ26) กล่าวให้ความมั่นใจว่า  “สืบเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกเดือนเมษายน 2564  มีการกระจายตัวไปเป็นอย่างมาก  จำนวนผู้ป่วยในแต่ละโรงพยาบาลมีจำนวนมาก เป็นปัญหาที่หนึ่งของโรคโควิด นอกจากจะมีจำนวนผู้ป่วยโควิดมากขึ้นแล้ว  กลุ่มผู้ป่วยโรคปกติก็ยังมีอยู่  ฉะนั้น หน้าที่ของโรงพยาบาลหลัก เช่น โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์  และโรงพยาบาลชุมชน ต้องรับรักษาผู้ป่วยทุกกลุ่ม  ประกอบกับผู้ป่วยโรคโควิดจำเป็นต้องนอนรับการรักษาในโรงพยาบาลนานอย่างน้อย 14 วัน หรือมากกว่านั้น เพื่อไม่ให้มีโอกาสแพร่เชื้อ  จำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนสะสมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้ใช้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลักต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก  ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ทำให้ต้องลดการให้บริการ หรือผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ารับบริการได้  ซึ่งผู้ป่วยโรคโควิดจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่  กลุ่มที่มีอาการหนัก  ที่ต้องอยู่ในห้องความดันลบ  กลุ่มที่สอง มีอาการรุนแรงปานกลาง ต้องให้ออกซิเจน กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มซึ่งไม่มีอาการใดๆ เลย หรือมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอเล็กน้อย  ฉะนั้นโรงพยาบาลสนามจึงมีความสำคัญในการผ่องถ่ายคนไข้จากโรงพยาบาลหลักออกมาสู่โรงพยาบาลสนาม  โดยกลุ่มผู้ป่วยที่เข้าอยู่ในโรงพยาบาลสนาม จะผ่านการดูแลรักษา วินิจฉัย  การดูแลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนกระทั่งมีอาการดีขึ้น มีอาการปลอดภัย  จึงจะย้ายคนไข้ออกจากโรงพยาบาลหลักเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม  เพื่อให้โรงพยาบาลหลักสามารถรับรักษาผู้ป่วยทั้งโรคโควิด และโรคอื่น ๆ ได้”

“หลักการของโรงพยาบาลสนามก็คือ  มีบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าเป็นแพทย์เฉพาะทาง แพทย์ทั่วไป พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เภสัชกร  หรือเรียกว่ายกโรงพยาบาล พร้อมทั้งมาตรฐานของโรงพยาบาลเพื่อควบคุมภาวะปลอดเชื้อต่าง ๆ หรือการกำจัดขยะ หรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ  ยกมาไว้ที่โรงพยาบาลสนามทั้งหมด ฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าโรงพยาบาลสนามจะมีความปลอดภัยทั้งกับผู้ป่วยเองซึ่งได้รับการรักษามาเป็นอย่างดีแล้ว และคนที่อยู่รอบข้างของโรงพยาบาลสนาม  เนื่องจากเป็นสถานที่ปิด มีการจัดทางเดินเข้าออกของรถ ผู้ป่วย ผู้มาให้บริการ เป็นทางอย่างชัดเจน จะไม่มีการเดินสวนกัน ระหว่างคนไข้ กับคนมาให้บริการ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ  มีการกำจัดเชื้อไม่ว่าจะเป็นน้ำทิ้ง หรือขยะต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของการกำจัดขยะที่มีเชื้อโรคตามมาตรฐาน โดยความร่วมมือของสถานพยาบาล และเทศบาลเมืองขอนแก่น  โรงพยาบาลสนามมีความจำเป็นจริง ๆ ในสภาวการณ์ขณะนี้  และมีความปลอดภัยกับทุกคน และปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด โดยจะมีบุคลากร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตลอดเวลา เพื่อควบคุมมาตรฐานต่าง ๆ ความปลอดภัยต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วย บุคลากร และชุมชนที่อยู่รอบโรงพยาบาลสนามด้วย”

รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี กล่าวถึงความห่วงใยต่อนักศึกษาและบุคลากรว่า  “การใช้หอพักที่ 26 เป็นโรงพยาบาลสนามนั้น  มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมาตรการเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อนักศึกษาที่พักอาศัยในหอพักที่ 3 หอพักที่ 4 บุคลากร ผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ โดยได้มีการดำเนินการกั้นพื้นที่ หอพักที่ 3-4 แยกออกจาก หอพักที่ 26 โดยใช้แผงเหล็กกั้น 2 และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอดเวลา  มีการแยกช่องทางในการนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลสนามกับทางเดินของนักศึกษาที่อยู่หอพักออกจากกัน โดยเปิดช่องทางด้านหลังหอพักที่ 26 เป็นการเฉพาะสำหรับผู้ป่วย  ทั้งนี้  หอพัก 3-4 ห่างจากหอพักที่ 26 เกิน 15 เมตร ซึ่งปลอดภัยกับนักศึกษาอย่างแน่นอน”

ความร่วมมือสนับสนุนด้านการสาธารณสุขใช้หอพักที่ 26  เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 เนื่องจาก เป็นหอพักที่แยกจากหอพักอื่น ๆ อย่างชัดเจน ตรงตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด  โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี  มีการควบคุมการเข้า-ออก  มีระบบการสื่อสารที่ดีโดยติดตั้งระบบไวไฟ (WiFi) อำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย   เพื่อให้ประชาชนได้ก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด-19  เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการป้องกัน และดูแลรักษาความปลอดภัย ไม่ให้เกิดผลกระทบ และความเสี่ยงต่อนิสิตนักศึกษา บุคลากร และประชาชนรอบข้าง รวมทั้งสิ่งแวดล้อม

กาฬสินธุ์ – ชาวนาสุดช้ำ โควิด-19 ชีวิตลำบาก ราคาข้าวนาปรังตกต่ำวอนรัฐช่วย

ชาวนาในอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์สุดช้ำ ระบุทุกวันนี้ใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เนื่องจากระมัดระวัง การได้รับเชื้อโควิด-19 หนำซ้ำนำข้าวเปลือกนาปรังไปขาย หวังนำเงินได้ไปใช้หนี้ ธกส. จ่ายค่าปุ๋ย และทำบุญช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลับได้ราคาต่ำ ประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซาก วอนรัฐบาลช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรัง ของชาวนาในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานลำปาว เขต ต.นาเชือก และ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเริ่มเก็บเกี่ยวกันแล้ว  รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิตของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีการคุมเข้มความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ เนื่องจากพบว่ามีการแพร่ระบาดในวงกว้างในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์

นายปี วรรณศรี อายุ 69 ปี ชาวนาบ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ของตนและชาวนาปีนี้ มีความหวังที่จะนำรายได้จากการขายข้าว มาใช้หนี้ ธกส. ชำระค่าปุ๋ยเคมี ทำบุญในเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กลับต้องรู้สึกท้อแท้ แทบสิ้นหวัง เนื่องจากราคารับซื้อข้าวยังตกต่ำ ซึ่งเป็นการตกต่ำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ขายข้าวนาปีเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยแหล่งรับซื้อให้ราคาเพียง ก.ก.ละ 7.40.-7.50 บาทเท่านั้น ทำให้ชาวนาประสบปัญหาขายข้าวขาดทุนซ้ำซาก

นายปี กล่าวอีกว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ แทนที่ตนและชาวนารวมทั้งประชาชนทั่วไปจะดีใจ ได้ทำบุญและท่องเที่ยวสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทยอย่างมีความสุข กลับต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและเต็มไปด้วยความลำบาก เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่าเคร่งครัด ซึ่งก็พอที่จะปรับตัวได้ เพื่อตนและคนในครอบครัว รวมทั้งทุกคนในชุมชนจะมีความปลอดภัย ไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ที่ทำใจไม่ได้คือราคารับซื้อข้าวเปลือกนาปรังที่ยังตกต่ำ ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนดังกล่าว

นายปี กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นทุนการผลิตของชาวนาในปัจจุบันยังสูงมาก ทั้งค่ารถไถ ค่าแรง ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ยเคมี ค่าน้ำมันสูบน้ำ ถึงขั้นตอนเก็บเกี่ยวก็ยังมีค่ารถเกี่ยว ค่าขนส่ง รวมแล้วต้นทุนการผลิตข้าวสูงกว่าไร่ละกว่า 2,000 บาท ขณะที่ผลผลิตข้าวได้ไม่เกินไร่ละ 3,500 ก.ก. ขายข้าวเปลือก ก.ก.ละ 7.40-7.50 บาท ได้เงินประมาณ 2,500-2,600 บาทเท่านั้น ก็แทบจะไม่เหลืออะไร จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือชาวนา โดยปรับราคารับซื้อข้าวเปลือกให้สูงขึ้น หรือให้ดีที่สุดคือมีโครงการประกันราคาข้าวเปลือก รวมทั้งช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวด้วย เพราะขณะนี้ชาวนาเดือดร้อนมาก

นนทบุรี - สวนกระบองเพชร ดร.ฉลวย ขันจำนงค์ ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี มีแนวคิดที่น่าสนใจ กระบองเพชรมีมากกว่า 1,000 พันชนิด

ที่ "สวนกระบองเพชร ดร.ฉลวย ขันจำนงค์ ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี มีแนวคิดที่น่าสนใจ กระบองเพชรมีมากกว่า1,000 พันชนิด ตั้งแต่ราคาถูก 20 บาท ไปยันต้นละหลายพัน

คนที่เลี้ยงกระบองเพชรสามารถสร้างรายได้ไม่ยาก โดยมีความเสี่ยงน้อย แนะนำว่า ให้เลี้ยงไว้หลากหลายสายพันธุ์ เพราะ ในช่วงที่บางสายพันธุ์ราคาตก ก็เก็บไว้รอ ในขณะที่ตัวไหนราคาดี ก็ปล่อยขายไปก่อน จนวัฏจักรวนครบรอบ ตัวที่ราคาตกกลายเป็นราคาดีขึ้นมา ส่วนลงทุนเบื้องต้น ก็ลองซื้อเมล็ดพันธุ์มาเพาะ ราคาไม่แพงพอโตก็คัดต้นแปลก ๆ มาขายให้นักสะสม ในแฟนเพจกลุ่มผู้รักกระบองเพชร

แนวคิดที่น่าสนใจ กระบองเพชรมีความสวยงาม โดยเฉพาะยามออกดอกจะสร้างสีสันให้กับบ้านได้อย่างดี การเลี้ยงปลูกกระบองเพชรมีการพัฒนาสร้างพันธุ์ใหม่ขึ้นได้เองอีกหลายชนิด มากกว่า 1,000 สายพันธุ์ ซึ่งบางพันธุ์จำหน่ายได้ราคาสูงกว่า 5,000 บาท ทำให้มีรายได้เข้ามาเสริมเดือนละกว่า 1 หมื่นบาทโดยการเพาะขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อเพาะเมล็ด พบว่า การขยายพันธุ์บางครั้งจะทำให้ได้กระบองเพชรชนิดใหม่ ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ ทำให้เกิดความท้าทายเพิ่มขึ้น จึงออกไปหาสายพันธุ์ใหม่มาเพิ่มเติม และเพาะเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น กระบองเพชรที่เลี้ยงไว้ไม่กี่ต้นขยายเติบโตขึ้นเป็นสวนใหญ่  สามารถสร้างรายได้เสริมได้จำนวนหนึ่ง มีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ปัจจุบันมีรายได้เสริมจากการจำหน่ายกระบองเพชร สำหรับการเลี้ยงดูกระบองเพชรนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะกระบองเพชรเป็นพืชที่ต้องการน้ำต่ำ แต่ขาดแสงแดดไม่ได้ ใช้เวลาในการเลี้ยงดูตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปจึงสามารถจำหน่ายได้

 

ตราด - นักท่องเที่ยวยังแน่นเกาะช้าง - เกาะกูด แห่ดำน้ำดูปะการังหมู่เกาะทะเลตราด

วันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวยังแน่นตามเกาะแก่งต่าง ๆ ของจังหวัดตราด โดยเฉพาะเกาะช้าง / เกาะกูด และเกาะหมาก ที่เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังตามเกาะแก่งต่าง ๆ มีนักท่องเที่ยวแห่ลงเล่นน้ำคลายร้อน ดำน้ำตื้นดูความสวยงามของปะการังใต้ท้องทะเลตราดกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เลือกเดินทางมาจังหวัดตราด เพื่อชื่นชมความสวยงามของหมู่เกาะทะเลตราด และหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ ดำน้ำตื้นดูปะการังตามแหล่งต่าง ๆ โดยพบว่านักท่องเที่ยวแห่มาดำน้ำตื้นดูปะการังกันนับพันคนเลยทีเดียว แม้ว่าส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยวจะทยอยเดินทางกลับตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็ตาม

จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) แพร่ระบาดทำให้เศรษฐกิจซบเซาลงเป็นอย่างมากรวมถึงเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดตราด ทั้งเกาะช้าง เกาะกูด ที่มีนักท่องเที่ยวมาน้อยลง แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดตราดกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจภายในจังหวัดดีขึ้น แม้จะเป็นช่วงโควิด-19 แต่จังหวัดตราดก็ปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยอากาศที่ร้อนนักท่องเที่ยวจึงนิยมเช่าเรือออกไปเล่นน้ำ ดำน้ำตื้นดูปะการัง เพื่อคลายร้อน เป็นช่วงเทศกาลที่สร้างรายได้ดี ทั้งผู้ประกอบการรีสอร์ท โรงแรม-ที่พัก ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและร้านอาหารต่าง ๆ บนเกาะ

เกาะที่เป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่มีความสวยงาม คือ เกาะยักษ์ใหญ่ เกาะยักษ์เล็ก เกาะมะปริง เกาะแรด เกาะรัง และหน้าหาดอุทยานฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ กช.5 (เกาะรัง) เป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าอุทยานจัดพื้นที่ไว้ให้นั่งท่องเที่ยวได้พักผ่อน  และมีสะพานทุ่นทอดตัวยาวไปในทะเล เรือจะจอดที่ปลายสะพาน และนักท่องเที่ยว เดินสะพานมานั่งเล่นพักผ่อน หรือดำน้ำดูปลา บริเวณหน้าหาดทราย โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานดูแลคอยอำนวยความสะดวกอยู่ตลอดเวลา ค่าบริการเข้าเกาะ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ปีนี้แม้ว่าจะเป็นช่วงโควิด 19 ระลอก 3 แต่นักท่องเที่ยวทะลักเดินทางมาเที่ยวเกาะช้าง และเกาะกูด จังหวัดตราดกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว


ภาพ/ข่าว  ณัฐวุฒิ สวัสดิ์วารี 

ขอนแก่น - ตรวจสอบกรณีสาวนักศึกษาติดเชื้อโควิดที่ กทม. แต่ไม่ยอมกักตัว กลับขึ้นรถโดยสารปรับอากาศมาตรวจเชื้อที่ขอนแก่น ก่อนผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่าง ๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด เป็นนักศึกษาสาว ชาวจังหวัดขอนแก่น ที่โพสต์ข้อความและไทม์ไลน์ เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ของตนเองผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว โดยข้อความระบุว่า “ไทม์ไลน์เราตั้งแต่วันที่ 1 - 5 คือสุ่มเสี่ยงมาก จนวันที่ 6 - 7 เรามีเริ่มมีอาการปวดหัวมาก+ตัวร้อน  วันที่ 8 อาการดีขึ้น วันที่ 9 กลับมาปวดหัวหนักอีกรอบ  วันที่ 10 - ปัจจุบัน ไม่มีอาการปวดหัวแล้ว หายปวดหัว  หลังจากคืนวันที่ 9 เพราะเข้านอนเร็ว+กินยา+กินน้ำเยอะ ๆ แต่อาการที่ตามมาหลังจากนี้คือ ได้กลิ่นอ่อน ๆ อ่อนมาก ๆ ถ้าไม่เอาเข้าใกล้จมูกแทบจะไม่ได้กลิ่น ส่วนรสอาหารแรก ๆ ยังรับรสอยู่ พอวันนี้ (วันที่12) ตื่นมาลิ้นรับรสยาสีฟันน้อยมาก ได้กลิ่นน้อยกว่าเดิมมาก ๆ วันนี้เลยกำลังเดินทางไปตรวจที่ จ.ขอนแก่น เพราะทางบ้านให้ไป หากพบเชื้อจริงก็จะรักษาตัวที่ ขอนแก่นเลย ในส่วนของไทม์ไลน์จะมาลงให้หลังจาก รู้ผลตรวจแล้วนะทุกคน ขอโทษที่ทำให้คนรอบข้างได้รับผลกระทบหรือเดือด ร้อนจากการกระทำของเราด้วยจริง ๆ นะ ขอโทษแบบ ขอโทษจากใจเลย” หลังจากนั้นเจ้าตัวได้มาโพสต์ข้อความ ยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อโควิดพร้อมกับแจงรายละเอียดไทม์ไลน์ตนเอง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ต้องขอบคุณน้องนักศึกษาที่แจ้งไทม์ไลน์เอาไว้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ทราบและดำเนินการสอบสวนเชิงรุกทันที เบื้องต้นนั้นได้ทราบว่า ตัวนักศึกษารายดังกล่าวนั้นมีมาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันโรค โดยสวมใส่แมสตลอดเวลา ก่อนจะเข้ารับการตรวจ ซึ่งคล้าย ๆ กับผู้ติดเชื้อที่สมุทรสาคร ซึ่งก็มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะในระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทางสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเข้าไปตรวจสอบในเชิงลึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ อย่างเข้มงวด หากมีความผิดในประการใดก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย และขอให้ทุกคนที่พบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วยขอให้งดเดินทางและเข้ารับการตรวจที่สถานให้บริการด้านสาธารณสุขใกล้ตัวทันทีและขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดด้วย

เชียงใหม่ - เฮ!!ผู้มีความเสี่ยงสูงของสวนสัตว์เชียงใหม่ ปลอดโควิด19 จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดภายในพื้นที่ต่อเนื่องเข้มงวดทุกวัน

นายอรรถพร ศรีเหรัญผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สั่งการสวนสัตว์เชียงใหม่ ทำความสะอาด พื้นที่อย่างเนื่อง หลังจาก พบนักศึกษาฝึกงาน 1คน ติดโควิด19 ที่ผ่านมา สวนสัตว์เชียงใหม่ งดให้บริการเที่ยวชมเป็นเวลา 14 วันตั้งแต่ 11-24 เม.ยนี้ 

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เผยว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้มอบหมาย ให้ทุกฝ่ายทำความสะอาดพื้นที่และฉีดพ่นเป็นซิลเวอร์นาโน(Nano9)ทุกๆวันโดยจัดเจ้าหน้าที่สลับเวรกันมาปฎิบัติงานทำความสะอาดและฉีดพ่นนาโน9 ในพื้นที่ เช่นถนน อาคารสถานที่ ส่วนจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ อควาเรียม  รถบริการนำชม รถกอล์ฟไฟฟ้า ห้องทำงาน สำนักงาน ห้องน้ำภายในสวนสัตว์ และสถานที่รองรับประชาชนอย่างเข็มงวดในช่วงงดบริการเที่ยวชม

ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้ทีมสัตวแพทย์ตรวจ ติดตามสัตว์กลุ่มเสี่ยงจำนวน 125 ตัวประกอบไปด้วยตระกูลลิง  ตระกูลเสือ  ตระกูลชะมดอีเห็น พบว่ามีสุขภาพแข็งแรง ระบบทางเดินหายใจปกติ และไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ จากการตรวจสุขภาพสัตว์ในวันนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และพนักงานเจ้าหน้าที่ ในอนาคตต่อไป

ล่าสุดผลการตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน6คน มีผลเป็นลบทั้งหมด ไม่ติดโควิด19แต่ต้องกักตัว14วันและทำการตรวจซ้ำตามมาตราการที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดต่อไป


ภาพ/ข่าว  นภาพร  เชียงใหม่

ขอนแก่น - เปิดหอพัก 26 ม.ขอนแก่น ตั้ง รพ.สนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มเข้าพักเวลา 16.00 น.วันนี้

นพ.สมชายโชติ​ ปิยวัชร์เวลา​ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากมติกรรมการโรคติดต่อจังหวีดขอนแก่น ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดขอนแก่น และได้มีการจัดระบบการดูแลกรณีมีผู้ป่วยจำนวนมาก ในระบบการส่งต่อคนไข้ที่ไม่มีอาการไปกักตัวดูแลในโรงพยาบาลเครือข่ายตามแผน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปที่ต่าง ๆ โดยพิจารณาจากจำนวนเตียงที่สามารถรับได้ทั้งหมดแล้ว และถ้าหากมีจำนวนผู้ป่วยมากจำเป็นต้องจัดให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้ร่วมประชุมการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ร่วมกับตัวแทนของโรงพยาบาลศรีนครินทร์​ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้เลือกสถานที่ที่มีความเหมาะสม คือ หอพัก 26​ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น รองรับได้ 258 เตียง และหอประชุมพุทธมณฑลอีสาน ตำบลศิลา รองรับได้  240 เตียง ​การจัดอัตรากำลังให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้ดำเนินการในการจัดทีม รวมทั้งการสนับสนุนระบบต่าง ๆ กำหนดเปิดโรงพยาบาลสนามในวันนี้ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้รูปแบบการจัดการได้มีการนำเสนอส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้มีประสิทธิภาพต่อไป

ล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid19 รายใหม่เมื่อวานนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 31 ราย ทำให้จังหวัดขอนแก่นมีจํานวนผู้ติดเชื้อสะสมจากการระบาดในระลอกใหม่นับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 – 14 เม.ย. 54 รวม 126 ราย รักษาหายแล้ว 14 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล 112 ราย

พังงา - ตื่นตา...พบฝูงปูไก่และกองทัพปูเสฉวนขนาดยักษ์ที่เกาะพระทอง

ที่เดอะมอแกน อีโก วิลเลจ เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา รีสอร์ทเล็ก ๆ แนวอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวง ตัดขาดจากความเร่งรีบในการใช้ชีวิตประจำวัน มาสัมผัสกับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เรียบง่าย สบายทั้งกายและใจ เพื่อเติมพลังให้กับชีวิต ในช่วงค่ำทางรีสอร์ตจะพานักท่องเที่ยวที่มาพักไปชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่ทางรีสอร์ทและชุมชนร่วมกันอนุรักษ์เอาไว้ นั่นก็คือฝูงปูไก่ ที่บางคนคิดว่ามีแต่ที่เกาะตาชัยและหมู่เกาะสิมิลันเท่านั้น ปกติตอนกลางวันมันจะซ่อนตัวอยู่ในรูและจะออกมาหากินยามค่ำคืน เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ มันก็จะรีบคลานหนีไปซ่อนตัวทันที พบว่าปูไก่ที่นี่แต่ละตัวมีขนาดใหญ่สมบูรณ์ทั้งนั้น ขณะที่ยังมีสัตว์ริมทะเลอีกชนิดหนึ่งที่มีมากที่นี่คือปูเสฉวน มีเป็นกองทัพทั้งแบบตัวขนาดยักษ์และตัวเล็กที่ออกมาหากินกันเป็นฝูง และระหว่างหากินแต่ละตัวก็มีการแลกเปลี่ยนบ้านที่อาศัยกัน ตามความเจริญเติบโตของร่างกายมันอีกด้วย ซึ่งได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

สำหรับปูไก่ หรือปูขน หรือปูภูเขา เป็นปูหายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ออกหากินในเวลากลางคืน ลักษณะของปูจะแตกต่างกับปูทะเลอื่น ๆ รอบ ๆ กระดองไม่มีรอยหยัก ตาเป่ง ปากมีขน ขาเป็นขาแบบเดิน มีเสียงร้องจิ๊บ จิ๊บ คล้ายเสียงลูกไก่ ซึ่งเป็นเสียงจากใช้ก้ามคู่หน้าสีกัน เกิดเสียง "เจี๊ยบ ๆ" คล้ายลูกไก่ร้อง จึงเป็นที่มาของชื่อ "ปูไก่"

คุณปาจรีย์ ศรีฟ้า ผู้บริหารรีสอร์ต เปิดเผยว่า รีสอร์ทแห่งนี้เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อม ลดใช้พลังงานโดยใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และให้ความสำคัญกับชุมชน ผู้ที่เข้าพักจะมีส่วนร่วมช่วยเหลือชุมชน โดยทางรีสอร์ทจะแบ่งรายได้ร้อยละ 2 ของทุกการจองเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็ก ๆ บนเกาะพระทอง แถมยังมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือโลกใบนี้ด้วยการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  อโนทัย  งานดี

ปราจีนบุรี – ชาวบ้านนับร้อยออกหาเห็ดโลละ 100 ไม่พอขาย

วันที่ 14 เมย.64 ที่บ้านวังทอง ม.22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ชาวบ้านบ้านนายาว ต.ท่ากระดานนอ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา นับ 100 คน พากันออกหาเห็ดขมตั้งแต่เวลา 06.00 น.ห่อข้าวไปกินกลางป่ายูคาลิปตัสหาเก็บเห็ดยูคา หรือเห็ดขม ที่ขึ้นอยู่ในป่ายูคาลิปตัสนับ 1,000 ไร่ หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายครั้ง เห็ดขมได้ความชื้นจึงออกดอก ชาวบ้านได้ออกหาเก็บเก็ดขมมาประกอบอาหารในครัวเรือนและส่งขายพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัด

โดยซื้อขายกันในราคา กก.ละ 100 บาท พ่อค้าแม่ค้ารับซื้อทุกวันจะมีชาวบ้านไปหาเห็ดกันทั้งวัน เห็ดขมจะมีดอกสีเปลือกมังคุด ยาว 4 ซม.ดอกใหญ่เท่า 3 นิ้ว รสชาติเห็ดขมจะมีรสชาติขมนิด ๆ นำมาปรุงอาหารจะทำความสะอาดรสชาติขมนิด ๆ นำมาปรุงอาหารจะล้างน้ำทำความสะอาดแล้วแกงแกงเปรอะแกงป่า ผัดน้ำมันหอย แต่ละคนจะนำกะละมังซักผ้า ตระกร้า ถุงปุ๋ยมาใส่เห็ดขมที่มามาหาในป่ายูคาลิปตัส แต่ละคนจะได้เห็ดคนละไม่ต่ำกว่า 2 ตะกร้า 20-30 กก.เห็ดขมจะขึ้นโดยธรรมชาติหลังจากที่ได้ฝนชุกและจะมากในเดือน เมย.- สค.ของทุกปี

นส.อนัญญา ดุลไทยสงค์ ชาวบ้านบ้านวังใหม่ม.17 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อเดือนเมย.ที่ผ่านมาเห็ดขมออกจึงพากันมาหาเก็บเห็ดเพื่อประกอบอาหารและขายให้กับพ่อค้า หลายคนมีรายได้ในการขายเห็ดแต่ละวัน 1,500 -2000 บาท สร้างรายได้ให้กับครัวเรือนในช่วงนี้


ภาพ/ข่าว  ทองสุข สิงห์พิมพ์

อยุธยา - ผู้ว่าฯ ตรวจเยี่ยมเตรียมความพร้อมเปิดหอพักราชภัฎฯ เป็นศูนย์พักฟื้น และหอประชุม มทร.สุวรรณภูมิ ใช้เป็น รพ.สนาม หลังพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 14 เมษายน เวลา 13.30 น. ที่หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์  นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด พันเอก(พิเศษ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.กอ.รมน.จว นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมศูนย์พักฟื้น Hospitel เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19

โดยเตรียมสถานที่พักฟื้นที่หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา รองรับได้จำนวน 30 ห้อง/60 เตียง เป็นหออภิบาลพักฟื้น  โดยได้ดำเนินการปรับปรุงระบบรองรับและจะเปิดใช้ในวันที่ 16 เมษายน นี้ นอกจากนี้ยังได้เตรียมโรงพยาบาลสนาม ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลงสุวรรณภูมิ (หันตรา) จำนวน 100 เตียง ซึ่งอยู่ในระหว่างปรับปรุงสถานที่และจัดระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ทั้งนี้สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดเตรียมอบรมบุคคลากรที่จะดูแลผู้ป่วยโควิด-19  ผู้ว่าราชการจังหวัดฯยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน ชุมชนรอบบริเวณสถานที่เป็นโรงพยาบาลสนามและหออภิบาล ให้เห็นใจกัน อย่ารังเกียจกัน อยากให้เป็นกำลังใจให้กันและกันผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น กลุ่มสถานบันเทิง กลุ่มผู้บริหารโรงงานและกลุ่มพนักงาน ที่นำมาติดกับสมาชิกในครอบครัว และเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ทางสาธารณสุขจะประเมินผู้ป่วยว่า ผู้ป่วยรายใดต้องเข้ารักษาในห้องความดันลบ  ผู้ป่วยรายใดที่มีอาการไม่หนักสามารถเข้าหอพักฟื้นได้  จะทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้ง 16 อำเภอสามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากพบกว่าพื้นที่ใดมีผู้ป่วยติดเชื้อ ทางจังหวัดร่วมกับสาธารณสุขจะลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้รุกรามเป็นวงกว้าง  รวมถึงสั่งการให้ทุกหน่วยงาน พร้อมขอความร่วมมือภาคประชาชนดำเนินกิจการ กิจกรรมต่าง ๆ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ใช้แอพฯ ไทยชนะทุกครั้ง


ภาพ/ข่าว  สุจินดา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

ชลบุรี - หาดพัทยาคึกรับวันหยุดยาว 'นายกสนธยา' ส่งรถ ปชส.เข้มมาตรการป้องกันโควิด-19

ชายหาดพัทยาคึกคักวันหยุดยาวสงกรานต์ 64 นายกเมืองเมืองพัทยาส่งรถประชาสัมพันธ์เข้มมาตรการป้องกันโควิดระลอก 3

วันที่ 14 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย 2564 ที่บริเวณริมชายหาดเมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออก

พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนต่างนำครอบครัวและบุตรหลานมาพักผ่อนทำกิจกรรมทางทะเลเพื่อผ่อนคลายกันอย่างสนุกสนาน ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการค้าขายริมชายหาดพัทยาพลอยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ด้วย

มีรายงานด้วยว่า เมืองพัทยา โดยนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักปลัดเมืองพัทยา และเต้าหน้าที่แระชาสัมพันธ์ สำนักส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ส่งเจ้าหน้าที่นำรถเครื่องเสียงออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ออกมาใช้พื้นที่สาธารณะได้ระวังและป้องกันตัวเองและครอบครัวให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดในระลอกที่ 3 อย่างเคร่งครัดด้วย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี

วันที่ 15 เมษายน วันขึ้นปีใหม่ไทย หรือ “วันเถลิงศก” ถือเป็นวันเริ่มจุลศักราชใหม่ หรือวันปีใหม่ไทยที่นับตามแบบสมัยโบราณ

วันเถลิงศก แปลว่า วันขึ้นศก เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การที่เลื่อนวันขึ้นศกใหม่มาเป็นวันที่ 3 ถัดจากวันมหาสงกรานต์ก็เพื่อให้หมดปัญหาว่า การย่างขึ้นสู่จุดเดิมสำหรับต้นปีนั้นเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาเพราะอาจมีปัญหาติดพันเกี่ยวกับชั่วโมง นาที วินาที ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่จะเปลี่ยนศก ถ้าเลื่อนวันเถลิงศกหรือวันขึ้นจุลศักราชใหม่มาเป็นวันที่ 3 ก็หมายความว่าอย่างน้อยดวงอาทิตย์ได้ก้าวเข้าสู่ราศีใหม่ไม่น้อยกว่า 1 องศาแล้ว อาจจะย่างเข้าองศาที่ 2 หรือที่ 3 ก็ได้

ส่วนใหญ่คนไทยจะนิยมไปเที่ยวกับครอบครัว หรือฉลองปีใหม่กันที่บ้านด้วยการทำกับข้าว กินข้าวมื้อใหญ่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา และมีเคล็ดว่าทุกคนต้องสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ หรือมีของใช้ส่วนตัวชิ้นใหม่ๆ อย่างน้อย 1 ชิ้น เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่นั่นเอง

กาฬสินธุ์ – ปลูกแล้วกัญชาต้นแรก ถูกกฎหมาย ขอขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ผลักดันสร้างโอกาสและรายได้ให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 ที่วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่  อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานปลูกกัญชาถูกกฎหมายต้นแรก ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ มีนายพงศกร กรโสภา ผอ.รพ.สต.บ้านหนองแวงใต้, นางทศพร กรโสภา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.หนองแวงใต้, น.ส.สุภาพร คำยุธา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ พร้อมด้วยนายนิมิตร รอดภัย นายสถาพร ฉายประดิษฐ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ และนายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ และหัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคอีสานตอนบน ร่วมเป็นสักขีพยาน

การปลูกกัญชาต้นแรกนี้ วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจาก องค์การอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ส่งเมล็ดกัญชาให้กลุ่มทำการเพาะปลูก ที่ผ่านมาได้มีการอนุบาลเมล็ดพันธุ์จนเติบโตและมีความแข็งแรง จนสามารถนำไปปลูกภายในโรงเรือนตามมาตรการคุมเข้มของทาง อย. โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ และ รพ.สต.บ้านหนองแวงใต้ กำกับดูแล

นายนิมิตร รอดภัย ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ ตำแหน่งนักวิชาการของวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่าการปลูกกัญชาให้มีคุณภาพตรงตามคุณภาพมาตรฐานของ อย. นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นการปลูกภายในโรงเรือนระบบปิด การปลูกจึงต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ว่าจะเป็นการนำเมล็ดที่ได้รับมาจากทาง อย. มาเพาะจนมั่นใจว่าสามารถนำลงดินปลูก

“ในการปลูกนั้นเป็นลักษณะโรงเรือน เพื่อป้องกันศัตรูพืช มีการกางมุ้งและรดน้ำตามระยะเวลา ที่คาดว่าต้นกัญชาจะเติบโตได้นั้นจะมีระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานก็ยังมีการจัดเวรยามดูแล ผ่านระบบน้ำ และกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันบุคคลภายนอกด้วย”

นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การปลูกกัญชาเท่าที่ดูจากวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ มองดูแล้วไม่ง่าย การเพาะปลูกต้องมีความเชี่ยวชาญ เพราะสิ่งสำคัญเมื่อต้นโตแล้วก็ยังต้องมาดูว่าเป็นต้นตัวผู้หรือตัวเมีย จะมีช่อดอกหรือไม่ ซึ่งหากเกษตรกรสนใจก็ต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และควรจะไปปรึกษาหาความรู้จากทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทางจังหวัดก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ และให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกัน

ด้าน น.ส.สุภาพร คำยุธา ประธานวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า การได้ปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย ต้องขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ผลักดันให้สามารถปลูกกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่เป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชน เพราะกัญชาถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีมูลค่าในตัวและทางวิสาหกิจชุมชนฯ ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายในทุกขั้นตอน และในอนาคตในส่วนของ ลำต้น ใบ และราก เมื่อต้นกัญชาพร้อมที่จะตัดจำหน่าย ในส่วนผู้ที่สนใจจะนำไปแปรรูปต่อนั้น ก็สามารถติดต่อมาได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่


ภาพ/ข่าว ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

หนองคาย - “ตม.จว.หนองคาย ใช้รถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ(BMW) สกัดจับขณะขนต่างด้าว ขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมือง”

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 พร้อมชุดสืบสวนฯร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้ 

ตม.จว.หนองคาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมตัวนายถาวร อายุ 48 ปี สัญชาติไทย และ MR.MAI อายุ 33 ปี สัญชาติ เวียดนาม ในข้อหา “ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุม” พร้อมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนามอีก 9 คน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะอิซูซุ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 2 เครื่องเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่ง พงส.สภ.เวียงคุก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.หนองคาย สืบทราบว่า จะมีขบวนการขนคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามจาก สปป.ลาว เข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดน จ.หนองคาย เพื่อส่งไปยังพื้นที่จังหวัดชั้นในโดยใช้รถยนต์กระบะอิซูซุ ในการดำเนินการ จึงสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบจับกุมตามที่ได้สืบทราบมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ไปรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ซึ่งลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง และจะพาไปส่งให้นายหน้าที่รออยู่ที่สถานีขนส่งอุดรธานี จึงนำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ(BMW) ออกตรวจสอบ จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะลักษณะตรงกับข้อมูลจากการสืบสวน โดยรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย มุ่งหน้าไปตามถนนสาธารณะ บ.นาพิพาน ม.4 ซึ่งเป็นเส้นทางรอง เข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเปิดไฟวับวาบพร้อมแสดงตัวให้สัญญานหยุดรถผู้ขับขี่รถยนต์กระบะจึงหยุดรถให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบนายถาวร อายุ 48 ปี เป็นผู้ขับขี่โดยมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม รวม 9 คนโดยสารมาด้วย เมื่อตรวจสอบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 9 คน ไม่พบตราประทับการอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร พร้อมรับว่าพวกตนหลบหนีเข้าเมืองจริง โดยติดต่อชายสัญชาติเวียดนามที่อยู่ สปป.ลาว เพื่อให้ส่งพวกตนเข้ามายังฝั่งไทยด้วยเรือเล็ก

โดย MR.MAI ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อนายถาวร ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ให้ไปรับที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อไปส่งยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานี แห่งที่ 1 สอบถามนายถาวร รับว่า ตนได้รับการติดต่อว่าจ้างจาก MR.MAI โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 3,000 บาท เพื่อให้พาไปส่งยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานีจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการขยายผลโดยให้นายถาวรฯ พาไปหา MR.MAI ซึ่งรอรับบุคคลต่างด้าวทั้ง 9 คน ที่บริเวณอาคารที่ตั้งบริษัทเชิดชัยทัวร์ เมื่อจอดรถ ขณะ MR.MAI กำลังเดินเข้ามาพบนายถาวรฯ เพื่อจะรับเอาคนต่างด้าวไปขึ้นรถประจำทาง และจ่ายเงินค่าจ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

มุกดาหาร - “ตม.จว.มุกดาหาร ฟาดแก๊งขนแรงงานเถื่อน ลูบคม ตม.”

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 ,พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 พร้อมชุดสืบสวนฯร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้ 

ชุดสืบสวนปราบปราม ร่วมกับ สภ.คำชะอี ได้จับกุม นายยงยุทธ อายุ 23 ปี สัญชาติ ไทย พร้อมพวกรวม 2 คน ข้อหา “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือ ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม” และ นางดวงพะไท สัญชาติ ลาว พร้อมพวกรวม 16 คน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง รถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ถูกจับ ส่ง พงส.สภ.คำชะอี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า จะมีขบวนการลักลอบนำคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ จะมารับคนต่างด้าวตามจุดนัดหมาย เพื่อมุงหน้าเข้ากรุงเทพฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันวางแผนและติดตามจนพบรถตู้คันดังกล่าว และสกัดจับรถตู้คนดังกล่าวได้ เมื่อเข้าตรวจสอบพบนายยงยุทธเป็นผู้ขับขี่ โดยมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติ ลาว โดยสารมาด้วย 16 คน นายยงยุทธรับว่าได้รับการว่าจ้างจากชายไม่ทราบชื่อให้ขับรถตู้จาก อ.นาแก จ.นครพนม มารับบุคคลต่างด้าว สัญชาติ ลาว ที่อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยผู้ว่าจ้างได้ทำการติดต่อแจ้งเส้นทางและขั้นตอนรวมถึงจุดรับและตกลงจ่ายค่าจ้างให้นายยงยุทธฯ เป็นเงิน 15,000 บาท เมื่อถึงจุดหมายที่ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมสู่ตัวการผู้ว่าจ้างต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top